ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MarkBam] He's Glasses Boy ; #ฟิคแบมแว่น

    ลำดับตอนที่ #6 : CH 05 | มันก็แค่มื้อเที่ยง

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 59





    Chapter 5
    มันก็แค่มื้อเที่ยง
    อ่านชี้แจงกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :)



         
                แบมแบมตื่นจากห้วงภวังค์ก็พบกับแสงที่ลอดส่องจากข้างนอกผ่านผ้าม่านบาง ภาพทุกอย่างเบลอไปเสียหมด เขาจำได้ว่าเมื่อคืนเผลอหลับไปแบบลืมถอดถอดแว่นนี่? แล้วทำไมเช้ามาถอดแว่นแล้ว? มาร์คคงไม่ทะลุจากจอโทรศัพท์มาถอดแว่นให้หรอก บ้ารึไง คิดในไม่ขาดคำก็หวนให้นึกถึงบุคคลที่คุยกันจนหลับ แบมแบมหันขวับไปมองโทรศัพท์ตรงโต๊ะข้างเตียงแต่ก็พบว่าโทรศัพท์ไม่ได้ตั้งอยู่ โทรศัพท์ถูกวางหงายไว้ต่างหากแถมยังถูกชาร์จแบตไว้ หน้าจอก็มืดสนิท คิดว่าน่าจะถูกวางสายไปแล้ว เดี๋ยวนะ เขาคงไม่ละเมอมาถอดแว่นแล้ววางสายชาร์จแบตโทรศัพท์ตัวเองหรอกนะ บ้าน่า แล้วใครล่ะ?

                แบมแบมเก็บความสงสัยไว้แล้วปลดล็อคหน้าจอดูเวลา ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือเวลา 08.25 เขาเรียนพิเศษ 10 โมง แน่นอนว่าไปเรียนพิเศษทัน จึงไม่เร่งรีบ ค่อยๆหย่อนเท้าลงมาจากเตียงก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ลืมจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัวไปด้วย

                ใช้เวลาไม่นานเขาก็อาบน้ำเสร็จ แบมแบมหยิบเอาเสื้อที่เตรียมไว้มาสวมใส่และสวมแว่นตาอย่างใจเย็น ก่อนจะเดินไปส่องหน้ากระจกเพื่อเช็คตัวเอง แต่ทว่าบนหน้ากระจกถูกบางสิ่งบางอย่างติดไว้อยู่ นั่นคือกระดาษแผ่นเล็กสีชมพูเข้ม ไม่รอช้าแบมแบมเอื้อมมือไปหยิบออกจากกระจกมาอ่าน ลายมือที่แสนคุ้นเคยและข้อความในกระดาษที่เลานเอาเขาสันหลังวาบไม่น้อย ความผิดทุกอย่างตั้งแต่อนุบาล 1 ยันปัจจุบันผุดขึ้นมาในหัวอย่างล้นทะลัก 

        'ตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงมาคุยกันหน่อยที่ห้องอาหาร จาก แม่'

         

         ขายาวเรียวลากตัวเองจนมาถึงห้องอาหาร ระหว่างทางลงบันไดที่สูงชันแบมแบมได้เพียงภาวนาในใจให้เรื่องที่แม่จะคุยด้วยเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องร้ายๆเหมือนทุกครั้งที่แม่ทำแบบนี้ ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่แต่เขาก็ยังภาวนาขอให้พระเจ้าเป็นใจให้แม่ไม่ยกความผิดออกมาคุยให้ห้องอาหารเกิดความกดดันเสียเปล่าๆ
       
         สิ่งแรกที่พบในสายตาคือแม่ของแบมแบมในชุดสูทกระโปรงมาดเจ้าของบริษัทขายส่งของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นั่งขาไกว่ข้างจิบกาแฟพร้อมกับเลื่อน I-Pad เช็คข่าวสารทางเศรษฐกิจที่ช่วงนี้ขึ้นๆลงๆเสมอ กลิ่นอายความกดดันชวนให้แบมแบมแทบก้าวขาไม่ออก ปากก็แทบจะไม่กล้าขยับเมื่อยืนอยู่หน้าห้องอาหาร ไม่กล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง ตัวแข็งไปหมด ก่อนหางตาผู้เป็นแม่จะหันมามองลูกชายคนที่ 3 ที่ไม่ยอมเข้ามาในห้องอาหารเสียที จริงๆเธอเห็นนานแล้วแต่แค่ไม่ทัก แต่ลูกชายของเธอยืนนิ่งนานเกินไป ทำให้เธอแอบหงุดหงิดเล็กๆ

         "มานั่งสิ" 'คุณหญิงภูวกุล' ที่ใครๆต่างเกรงขามลดขอบแก้วกาแฟลงจากริมฝีปากก่อนเอ่ยเรียกลูกชายมานั่งทานอาหารที่รายเรียงเต็มโต๊ะยาวกว่า 10 กว่าที่นั่ง

        "..ครับ" แบมแบมเอ่ยเบาๆก่อนจะสั่งการให้ขาตัวเองพาร่างกายที่ไม่ยอมขยับเขยือนเคลื่อนไปนั่งเก้าอี้ประจำที่โต๊ะอาหาร

         แบมแบมเลื่อนเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงเงียบๆ สายตาปรายมองอาหารตรงหน้าแล้วนึกหิวท้องกิ่วขึ้นมาแต่สถานะการณ์กดดันตอนนี้ทำให้แบมแบมแทบไม่กล้าเอื้อมมือไปหยิบช้อนส้อมตักอาหารใส่ปากแม้แต่เม็ดเดียว

          คุณหญิงภูวกุลวางแก้วเซรามิกลงบนที่รองวางแก้วเบาๆให้เกิดเสียงกระทบน้อยที่สุดตามมารยาทก่อนจะเอ่ยเปิดประเด็น

         "เมื่อคืนคุยกับใคร?" คำถามตรงๆโต้งๆตามสไตล์คุณหญิงทำแบมแบมชะงักก่อนจะเอ่ยตอบตามความจริง

         "รุ่นน้องครับ" แบมแบมสบตากับผู้เป็นแม่และตอบอย่างเสียงแข็งยืนยันว่าที่กล่าวไปเป็นความจริง

        "ทำไมต้องคอล?" คุณหญิงภูวกุลสบตากลับ 

         แบมแบมแทบกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างไม่สุด เหมือนอะไรสักอย่างติดที่กลางลำคอ พูดไม่ออก จริงๆแล้วเขายังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องวีดิโอคอลกับมาร์คด้วย ทั้งที่ปฏิเสธก็ได้

        "อ่อ.. ลองคอลดูครับ.. ไม่เคยคอลแบบวีดิโอคอลเลยลองคอลครับ" แบมแบมตอบพลางค่อยๆหยิบช้อนส้อมขึ้นมาก่อนจะค่อยๆตักอาหารตรงมาบนจาน ประโยคที่คุณหญิงภูวกุลกล่าวในต่อมาทำให้แบมแบมถึงกับชะงักลง

       "ต้องทั้งคืนเลย?" คุณหญิงภูวกุลกระดกแก้วกาแฟตรงหน้าเข้าปากนิดหน่อย

       ว่ายังไงดี? จริงๆแล้วเขาไม่จำเป็นต้องคอลทั้งคืนก็ได้นี่? ทำไมต้องยอมคอลทั้งคืนด้วยล่ะ? ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆให้ตายสิ

       "ออ... ผมง่วงครับ... เลยเผลอหลับไป..." เดี๋ยวนะ แม่รู้ได้ยังไงว่าคอลทั้งคืน เรื่องคอลกับมาร์คด้วย

       "แม่... รู้ได้ยังไงครับ? หรือว่า... ที่ผมตื่นมาแล้วแว่นมัน..." แบมแบมค้างในท่าเดิมแต่ใบหน้าหวานค่อยๆเงยขึ้นสบตากับบุคคลตรงหน้าช้าๆพร้อมกับอาการชาที่ใบหน้าเหมือนความลับถูกเปิดเผย

        "ใช่" แบมแบมแทบจะสะอึกออกมาเมื่อคุณหญิงภูวกุลพูดจบ 

       "ตอนแม่ไปเช็คห้องลูก ก็เห็นลูกนอนทั้งที่ยังใส่แว่น..." แบมแบมก้มหน้าฟังอย่างเงียบๆ 

       "แม่เลยเดินไปถอดแว่นให้ แล้วก็เห็นแบมมตั้งโทรศัพท์ค้างไว้ ไปดู ก็เห็นคนในสายนอนมองอยู่" แบมแบมแทบจะสะอึกตัวโยนเข้าไปใหญ่ นี่จนเขาหลับแล้วยังนอนมองอยู่เหรอ? คุณหญิงภูวกุลเริ่มถอดลุคมาดขรึมแล้วอ่อนโยนเมื่ออยู่กับลูกเสมอ คุณหญิงภูวกุลเอื้อมมือมาลูบที่ปลายเล็กผู้เป็นลูกอย่างเบามือ 

         แม้กับทุกคนคุณหญิงภูวกุลและคุณภูวกุลจะคอยวางมาดเงียบขรึมเพื่อให้ลูกน้องเคารพเกรงขาม แต่ภายในครอบครัวแล้วทั้งคู่จะอ่อนโยนกับลูกๆทั้ง 4 ของพวกเขามาก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที และคอยดูแลห่วงใยห่างๆแม้ภายนอกจะดูไม่สนใจมากเท่าที่ควร

        "...มอง.. เหรอครับ?" 
        "อือ แม่ขึ้นไปดูประมาณเกือบ 5 ทุ่มกว่าแล้วยังเห็นนอนตะแคงมองหน้าแบมอยู่เลย" ผู้เป็นแม่ตอบ
      
        "เลิกคุยเรื่องนี้ดีกว่าแม่ เอาเป็นว่าเขาคือรุ่นน้องผมชื่อมาร์คละกันนะแม่ ปะๆ กินข้าวเหอะ รอนานแล้ว เดี๋ยวกับข้าวก็เย็นก่อน ผมจะไปเรียนพิเศษด้วย" แบมแบมเลือกที่จะตัดประเด็นแล้วรีบตักข้าวเข้าปาก ทำเอาคุณหญิงภูวกุลมองอย่างงงๆเล็กน้อย ก่อนจะตักอาหารเข้าปากตาม เธอคงจะรู้ว่าเรื่องบางเรื่องแบมแบมคงไม่อยากเล่าหรือบอก เธอก็พอจะเดาออก และไม่คิดจะจี้ให้แบมแบมบอกด้วย ถึงเวลาลูกของเธอคงจะเล่าออกมาเอง เธอจะไม่ได้หัวโบราณอะไรขนาดนั้นด้วย แม้ในใจจะหวังให้ลึกๆว่าลูกเธอจะได้ลูกสะใภ้บ้างอะไรบ้าง รอพี่ชายมันเอาละกัน พวกพี่ชายแมนระดับนี้แล้วหาลูกสะใภ้ให้ได้แน่นอน เท่ากับว่า

         ' 2 สะใภ้ 2 เขย ' ก็โอเคนะ...

        หารู้ไม่... ที่คุณหญิงภูวกุลคิดมันผิดไปส่วนหนึ่ง

        ฮัลโลว์~ นี่เพิ่งจีบ ยังไม่ได้เป็นแฟน...

        

          "9 โมง 25 เองเหรอ?" แบมแบมพึมพำกับตัวเองเมื่อมอเตอร์ไซด์มาจอดบริเวณที่เรียนพิเศษแต่ไม่ใช่ว่าเขาจอดหน้าที่เรียนเลยนะ เข้าไปจอดในที่จอดรถแล้วจ่ายเงินไว้ เพราะที่เรียนพิเศษของเขาใกล้แถวตลาดกลางคืนพอดี นักเรียนบางคนจึงมักมาเที่ยวหลังเรียนเสร็จ 

        โครกก

         เสียงท้องประท้วงทำให้แบมแบมรู้ว่าตัวเองต้องหาอะไรกินรองท้องก่อนเข้าเรียนไม่งั้นเรียนไม่รู้เรื่องตายเลย ตอนกินข้าวอยู่บ้านก็แทบกินไม่ลง กิน 3 - 4 คำก็เขี่ยข้าวเล่นๆถ่วงเวลาแล้วค่อยออกมา ขาเรียวสับอย่างว่องไวไปเซเว่นที่อยู่ห่างจากที่จอดนิดหน่อยเพื่อซื้อแซนวิสของโปรดกิน 

        เดินอยู่สักพักก็เลือกจะหยิบน้ำเปล่ามาด้วย ติดคอมาจะทำยังไงเล่า? ก่อนจะหยิบแซนวิชไปให้พนักงานเวฟ

        "มีแซนวิชครัวซองค์แฮมชีสด้วยนะครับ" แบมแบมบอกพนักงานเพื่อให้เขาคิดเงินค่าแซนวิชให้ด้วย

      แบมแบมยืนรอจนได้แซนวิชและจ่ายเงินไป เขาเดินออกจากเซเว่นไป


         ตึ๊ง
         ตึ๊ง


          แบมแบมหยิบโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนขึ้นมา พบว่า มันคือเมจเสจเจอร์ของ 'มาร์ค' รุ่นน้องที่เพิ่งถูกแม่ของเขาพูดถึงไป 

          ไม่รู้ทำไมมือถึงเร็วกว่าปกติ ทั้งที่ถือโทรศัพท์แค่มือเดียวกลับพิมพ์รหัสเร็วกว่าปกติและกดเข้าไปในแอปพลิเคชั่นเมจเสจเจอร์ นิ้วมือแตะไปบนชื่อ Mark Tuan 

     Mark Tuan : ส่งรูปภาพ
     Mark Tuan : เห็นด้วยแหละ :)

          
           ภาพที่มาร์คส่งมาคือ 'รูปที่แบมแบมกำลังเดินออกมาจากเซเว่นพร้อมถุงแซนวิชและน้ำเปล่า' ดูจากภาพรวมแล้ว น่าจะวันนี้นะ...

          เดี๋ยวนะ!...

         งั้นก็แสดงว่า....

          มาร์คอยู่แถวหน้าเซเว่นน่ะสิ!

       
        ขวับ!


         ไม่รอให้พูดร่ำทำเพลง แบมแบมที่เพิ่งเดินห่างมาจากเซเว่นไม่มากก็หันหลังกลับไปหามาร์คที่คิดว่าตอนนี้น่าจะอยู่แถวหน้าเซเว่น แต่เมื่อหันไปก็ชนกับแผงอกของใครบางคนที่สูงกว่าเขา 

         เมื่อเงยหน้าขึ้นไปแบมแบมก็แทบหลบสายตาอ่อนโยนนั่นแทบไม่ทัน ภาพที่มาร์คยืนอยู่ข้างหลังแบมแบมแล้วย่อลงมานิดๆทำให้แบมแบมที่เพิ่งหันไปแล้วเงยหน้าขึ้นมาจมูกชนกับจมูกมาร์ค สันจมูกโด่งและแก้มอมชมพูขึ้นสีเหมือนลูกมะเขือเทศ แบมแบมก้มหน้าจนคางชนกับอก ปากอิ่มขมุบขมิบด่าแบบกระซิบให้ตัวเองรู้เรื่องคนเดียว ทำเอามาร์คที่มองด้วยสายตาอ่อนโยนอดเอ็นดูไม่ได้ 

          ถ้าไม่ติดว่ายังไม่ได้เป็นแฟน.. เขาอยากจะจูบไอ้ปากบวมๆแดงๆนั่นให้เจ่อกว่าเดิมเลย!

        "พี่มาทำอะไรที่นี่น่ะ?" 
        "มาซื้ออะไรกินน่ะ"
        "บ้านอยู่แถวนี้?" 
        "ไม่อ่ะ มาเรียนพิเศษ"

         มาร์คถามแบมแบมด้วยคำพูดปกติ เรียบๆ แต่ภายในเกิดความอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย แอบหวังเล็กๆว่าบ้านของรุ่นพี่ตัวเล็กจะอยู่แถวนี้ บ้านมาร์คอยู่แถวนี้... ไปหากันสบายเลยล่ะสิ

       "มาร์คล่ะ? มาทำไรแถวนี้?"

       แบมแบมถามคำถามที่ตัวเองคาใจเหมือนกัน เรียนพิเศษ? น่าใช่มั้งนะ เห็นยืมหนังสือติว ม.6 จากเขาไป อืม ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าใช่เด็กเรียนเลยแฮะ 
        
        "บ้านอยู่แถวนี้อ่ะพี่" 
        "จริงปะ?"
        "จริงสิพี่"

        พูดเฉยๆไม่ได้ มาร์คยืนมือไปยีหัวแบมแบมเหมือนแบมแบมเป็นรุ่นน้องหรือเด็กคนนึงจนผมเผ้าที่หวีมาอย่างดียุ่งเหยิง แบมแบมเอามือมาปัดๆพอให้หัวตัวเองเข้าที่แบบเดิมพร้อมกับยู่หน้าที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าคนมองอย่าง 'มาร์ค' หวั่นใจจะตาย น่ารักแบบนี้ ใครมันจะอยากให้เห็นวะ? นี่ขนาดใส่แว่น ถ้าถอดนี่...

         ใครมองจะกระชากมาชกฆ่าหมกศพรายตัวเลย! #ล้อเล่นครับ

        "เฮ้ย! กี่โมงแล้ว?"
     
        แบมแบมที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมีเรียนพิเศษกระวนกระวายกลัวเข้าห้องสายให้อาจารย์และเพื่อนร่วมกรุ๊ปหันมามองด้วยสายตาจิกๆ ถามเวลากับมาร์คแต่ก็มองนาฬิกาข้อมือตัวเอง

        "ชิบหาย 9 โมงกว่าแล้ว ไปแล้วนะมาร์ค ไว้เจอกัน!"

        แบมแบมที่ลืมกินแซนวิชและน้ำเปล่าที่ตัวเองซื้อเพราะมัวแต่คุยกับไอ้คนบ้าหัวทองๆที่ทำเขาเสียเวลาเรียนพิเศษ
    แต่ก็ช่างมันเนาะ 

        คุยแล้วออกจะมีความสุขเสียขนาดนั้น ไม่อยากแยกเลยแฮะ..

        เดินเข้ามาในคลาสก็พบว่าอาจารย์ที่สอนยังไม่มา เขาทิ้งตัวลงใส่โต๊ะเลกเชอร์แถวกลางริมๆตัวนึงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงสัญญาณแจ้งเตือนเมจเสจเจอร์ สัญชาตญาณอะไรไม่รู้ทำให้เข้ารู้สึกว่า ไอ้ข้อความที่ส่งมาต้องเป็นของมาร์คแน่นอน 

          แล้วก็จริงๆเสียด้วย...

     Mark Tuan : เลิกกี่โมง?

          แหม๊ รู้จักกูวันเดียวบอกมาจีบกูปีนเกลียวเชียวนะมึง แหมะ!

    Bambam KPM : บ่าย 3 
    Mark Tuan : งั้นไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันได้มั้ยอ่ะ?

          อืม.. 

    Bambam KPM : อือ

        ตอบสั้นๆง่ายได้ใจความ นั่นหมายความว่า ตกลง 

        เมื่อติวเตอร์เดินเข้ามาสอน แบมแบมเก็บโทรศัพท์ทุกอย่าง พร้อมกับตั้งใจเรียน แต่เหมือนวันนี้ความรู้แทบไม่เข้าสมองเลย ทุกอย่างเหมือนดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แววตาใต้กรอบแว่นปรายตามองเข็มนาฬิกาที่หน้าห้อง เข็มสั้นทำไมช้าแบบนี้วะ?! เขาเป็นทุกอย่างๆที่ไม่เคยเป็น  เหมือนรอเวลาพักเที่ยงใจจะขาด ทั้งๆที่เขามักจะอยากให้คาบเที่ยงนี้ผ่านไปด้วยซ้ำ ทำไมเขาถึงอยากให้ถึงคาบเที่ยงเร็วๆวะ? แบมแบมนั่งจดๆตามติวเตอร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง..

         "หมดเวลาแล้วครับ พักเที่ยงได้"

        แบมแบมลุกพรวดออกคนแรก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารัวข้อความหาใครบางคนที่นัดเขาไว้ว่าตอนเที่ยงจะไปหากินข้าวเที่ยงด้วยกัน

    Bambam KPM : อยู่ไหน?
    Mark Tuan : ทักมาเองเลยอ่ะ อยากกินขนาดนั้นเลยเหรอพี่?
    Mark Tuan : พี่อยู่ไหนล่ะ? จะไปหา
    Bambam KPM : หน้า The brain
    Mark Tuan : เค อยู่แถวนั้นพอดี
    Mark Tuan : ใกล้ถึง รอแปปนะ

          ...รู้สึกพิมพ์ห้วนๆขึ้นนะ...

       คนตัวเล็กที่ไม่รู้จะทำอะไรระหว่างรอมาร์คมารับไปกินข้าวจึงนั่งที่ม้านั่งบริเวณหน้าที่เรียนพิเศษ เวลาล่วงเลยมาสักพักแล้วก็ยังไม่เห็นไอ้เด็กหัวมาหาเสียที เขาจึงเล่นเกมส์รอ 

        "แฮ่!!"

        แบมแบมไม่ได้สะดุ้งตกใจหรืออะไรทั้งนั้น มิหนำซ้ำหันหน้ากลับไปมองช้าๆด้วยซ้ำ แน่นอนเขาจำเสียงได้ ไอ้คนที่มันนัดมากินข้าว หันไม่สุดก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดรินบริเวณต้นคอจนแบมแบมต้องหดคอหนี ไอ้จั๊กจี้ก็จั๊กจี้นะ แต่มันเขินมากกว่านี่ ทำเขาใจสั่นอีกแล้วนะมาร์ค ต้วน... 

        "โหย~ ตกใจให้หน่อยสิ อุตส่าห์จะจ้ะเอ๋สักหน่อย"
        "โอเคๆ ตกใจให้ก็ได้ โอ้ยๆ ตกใจมากเลย หัวใจจะวายตาย" แบมแบมทำท่าเอื่อยๆเฉื่อยๆ พร้อมกับคำพูดที่บ่งบอกทันทีว่าประชด
        "พี่ไม่ตายหรอก"
        "ทำไม?"
        "เพราะหัวใจพี่ผมดูแลไว้ให้อยู่ไง รักษาอย่างดีเลยแหละ" :)
        "ไอ้บ้า! จะไปกินไหมนะข้าวน่ะ?!" แบมแบมรีบหันตัวออกจากการเกาะกุมของมาร์คตอนที่จะมาจ๊ะเอ๋ ท่าตอนคุยกันอย่างกับแฟนกันไม่มีผิดเพี้ยน มาร์คยืนซ้อนหลัง แบมแบมก็นั่งอยู่เก้าอี้สาธารณะ เวลาพูดอะไรก็ต้องหันคอไปหากัน ใบหน้าห่างกันไม่กี่เซน จะบอกว่าไม่เคยก็ไม่เชิง น่าจะเป็นการเก็บอาการมากกว่า ไอ้หน้าแดงมันก็หน้าแดง จะพูดอะไรก็ต้องควบคุมเสียง อย่างเช่นเมื่อกี้ที่ต้องเสียงดังกลบเกลื่อนอาการเขิน ให้ตายสิ มาร์คต้วนทำให้หัวใจเขาทำงานหนักอีกแล้ว เต้นแรงเป็นบ้า ไอ้บ้าเอ้ย!

        "ไปครับๆ" มาร์คตอบรับแบบอมยิ้มมองคนตรงหน้าที่ทำหน้างุ้ยๆงอนตุ๊บป่องหันหน้าไปไม่ยอมคุย

        เดินไปสักพักก็ตัดสินใจกันว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ปกติมาร์คจะหรูระดับหนึ่งเลยเพราะเจ้าตัวเล่นเกิดมาในกองเงินกองทอง ไม่ต้องทำอะไร เรียนวิถีลูกคุณหนู ทำอะไรพ่อแม่ก็ตามใจ ซึ่งต่างจากแบมแบม ถึงทางบ้านจะฐานะร่ำรวยแต่ไม่ต้องการให้พ่อแม่ลำบากจ่ายค่าเทอม จึงพยายามหาทุนเรียนตามป้ายต่างๆตั้งแต่ประถมจนติดทุนที่โรงเรียนนานาชาติค่าเทอมแพงนี่แหละ 

        ...แต่กับคนนี้ มาร์คจะยอมกินอาหารข้างทาง...

        "ไม่สั่งอ่ะ? รอพ่อตัดริบบิ้นเหรอ?" แบมแบมที่สั่งอาหารไปแล้วถามไอ้คนที่ทำหน้าซีเรียสมองเมนูอย่างครุ่นคิดอะไรสักอย่าง 
        "อ่อ.." มาร์คอ้ำอึ้งเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้า
        "อะไร?"
        "..สั่งไม่เป็น" 
        "ห้ะ!!" แบมแบมทั้งจะขำทั้งจะอึ้ง คนบ้าอะไรสั่งอาหารแค่นี้ไม่เป็น โรงอาหารในโรงเรียนก็มี ไม่เคยกินรึไงวะ? หรือนั่งแดกแต่เสต็กรอคนประเคนให้?

         ออ.. ดูจากหนังหน้าก็รู้ว่าเป็นพวกลูกคุณคนูทำอะไรไม่เป็น มีคนทำให้หมดอย่างกับคนพิการ...

        "เคยกินก๋วยเตี๋ยวในโรงอาหารโรงเรียนบ้างปะ?"
        "ฮื้อ" มาร์คส่ายหัวรัวๆ

        ออไอ้สัส กูว่าแล้ว 

        "สั่งแค่นี้เนี่ยนะทำไม่เป็น เกิดมามึงทำอะไรเป็นมั่งวะ? เอ่อ.. ขอโทษ หลุดไปหน่อยอ่ะ" แบมแบมที่หลุดพูดมึงกูเหมือนที่คิดในใจได้แต่ขอโทษคนหน้างอตรงหน้าที่เหมือนโดนแม่ด่า
        "ก็ไม่เป็นอ่ะ! ผิดอะไร?" มาร์คหน้างอลงไปอีก โยนเมนูลงโต๊ะอย่างหัวเสีย ก็โดนแบมแบมว่าอ่ะ ฮื้อ เสียหน้าหมด ว่าจะพาไปร้านดีๆหน่อย แต่แบมแบมอยากินก๋วยเตี๋ยวนี่นา ไม่เคยสั่งเลย ไปร้านไหนไม่เพื่อนก็ผู้ติดตามที่พ่อส่งมาสั่งให้ แทบไม่ค่อยได้มากินอาหารข้างทางหรอก

        เหมือนกับตอนที่อยู่ร้านเฮียยศ ที่ไม่กินเพราะสั่งไม่เป็นเหมือนกันแหละ...

        "งอนใช่ปะเนี่ย?" แบมแบมชักรู้สึกแปลกๆแล้วที่มาร์คเงียบใส่แบบนี้
        "..."
        "โอเค งอนสินะ ง้อนะ ง้อ ง้อ~ หายโกรธพี่นะ" แบมแบมเอื้อมมือไปตบแก้มของมาร์คเบาๆ มาร์คเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะระบายยิ้มออกมา
        "โอเค ไม่งอนแล้ว" มาร์คกระกบมือของแบมแบมที่แตะแก้มของเขาอยู่ทำให้แบมแบมชะงักก่อนจะเขินหน้าดำหน้าแดง โชคดีไปที่คนในร้านไม่ค่อยมี แถมยังนั่งมุมอับเสียด้วย
        "อยากกินอะไรล่ะ? หรือจะให้แนะนำ?"
        "แนะนำ"
        "พี่ครับ เอาเส้นเล็กน้ำใสครับ"
        "รอแปปนึงนะ"
        
         สักพักอาหารก็มารายเรียงตรงหน้า ล่อตาล่อใจให้แบมแบมและมาร์คอยากเขมือบให้หมดเสีย ไม่รอพิธีเปิด แบมแบมเอาถ้วยตัวเองไปกินอย่างลืมตัวว่ามีคนมองอยู่ มาร์คที่เคยกินแค่อาหารราคาแพงๆ ทำได้แค่พยายามยัดอาหารลงปากเพราะกลัวว่ามันอาจจะไม่อร่อย แต่เมื่ออาหารไปสัมผัสกับลิ้นด้านในมาร์คก็...

        "อร่อย.."
        "ใช่ไหมละ บอกแล้วๆ เจ้านี้อร่อย มากินบ่อยน่ะ"
        "อือ..."

          แบมแบมที่ไม่ค่อยกล้ามองหน้ามาร์คตรงๆได้แค่แอบมองมองตอนมาร์คก้มลงกิน แต่เมื่อเขาเงยหน้าแอบมองก็พบว่าคนตรงหน้ามองหน้าเขาอยู่แล้วจึงรีบก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าต่อจนอาหารเลอะมุมปาก เหมือนเดจาวูจากเมื่อวานเกิดขึ้นซ้ำสอง มาร์คหยุดกินอาหารและวางช้อนลงข้างหนึ่งเพื่อเอามือที่ว่างไปเช็ดบริเวณมุมปากอย่างแผ่วเบา แบมแบมที่อึ้งและยังนั่งนิ่งเหมือนสติหลุด หน้ามันแดงจนทำอะไรไม่ถูก ตัวชาไปหมด ไอ้สายตาอบอุ่นๆที่มองเขานั่นมัน.. ทำเขาอ่อนระทวยอีกแล้วนะ...

         กินเสร็จก็จ่ายเงินและเดินออกมาจากร้านอาหาร แบมแบมรีบสะดุ้งทันทีที่รู้สึกตัวว่านั่งอยู่ในร้านอาหารนานไปแล้ว เขามีเรียนพิเศษ! 

        "มาร์ค! พี่ลืมว่ามีเรียน บายนะ ไว้เจอกัน!"
     
        แบมแบมที่รีบวิ่งหันมาหามาร์คเพื่อนบอกลา มาร์คทำหน้าหงอยๆอยู่วูบหนึ่งก่อนจะฝืนใจยกมือขึ้นลาแบมแบม โถ่ ยังไม่อยากแยกกันเลยแฮะ..

        "เอ้อมาร์ค!" แบมแบมที่เพิ่งนึกอะไรได้รีบหันไปเรียกรั้งคนที่กำลังเดินหันหลังให้กัน

        "ถ้าคิดจะจีบพี่อ่ะ ไปฝึกใช้ชีวิตแบบพื้นๆมาบ้างนะ" แบมแบมพูดจบก็ยิ้มจนตาหยี ก่อนจะวิ่งกลับไปยังที่เรียนพิเศษ

         มาร์คที่เพิ่งดึงสติได้ก็ยิ้มปรายๆก่อนจะตะโกนอะไรบางอย่างที่ทำให้คนฟังยิ้มออกมาแบบลับๆ

        "เอ้อ!!" 

         ในหัวมาร์คนี่คิดจะไปหนีออกจากบ้านไปอยู่หอเพื่อนด้วยซ้ำ ไปลองทำอะไรที่มันเบสิกๆกับเขาดูบ้าง แต่ทำไม่ไดหรอก แม่เล่นโหดขนาดนั้น..

        ตึ๊งดึง

         เสียงการแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นดึงสติมาร์คที่กำลังเดินมโนถึงการวางแผนที่จะใช้ชีวิตแบบธรรมดาสามัญกับเขาบ้าง เขาปลดล็อคโทรศัพท์อ่านไลน์ แต่แล้วข้อความตรงหน้าก็ทำเอามาร์คที่อารมณ์กำลังดีๆหัวเสีย ใจนึงแทบอยากจะขว้างโทรศัพท์ลงด้วยซ้ำเสีย ทำได้แค่เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเงียบๆ ก่อนจะเดินกลับบ้านเพราะหนีคนติดตามมา

        เอาเถอะ ถึงมันจะแค่มื้อเที่ยงแต่ก็เป็นมื้อเที่ยงที่ทำให้มีความสุขที่สุดล่ะนะ :)


    - The End 'Chapter 5 : มันก็แค่มื้อเที่ยง' -

      - Talk with writer -
      
       สวัสดีรีดเดอร์ค่ะ วันนี้จะมาบอกว่าวันที่ผ่านมาการบ้านเยอะมากกกแต่สมองออกตันๆมากกก ตอนนี้ แชป 5 เหมือน Bammark เลยเนาะ ม่ายช่ายย ไรท์แค่อยากให้ทุกคนมาร์คในมุมงุ้งงิ้งกับเขาบ้างเฉยๆ มาร์คเป็นลูกคุณหนูนะคะ เดิมโรงเรียนก็เป็นโรงเรียนนานาชาติไฮโซเนาะ โรงอาหารโรงเรียนก็ไม่ค่อยจะมีหรอกก๋วยเตี๋ยว โกอนเตอร์ไปหาเสต็กเรียบร้อย
         ทอล์กวันนี้จะมาชี้แจง 2 เรื่องนะคะ
    เรื่องแรก ชี้แจงนิสัยหรือข้อมูลส่วนตัวของตัวละครเพื่อไม่ให้รีดเดอร์ที่น่ารักงงกัน
    1.1 แบมแบม - บ้านรวยนะคะ จากตอนนี้จะเห็นได้ว่าทางบ้านทำบริษัทขายส่งของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่แบมแบมไม่อยากให้พ่อแม่ลำบากจึงไปชิงทุนเรียนเอง แน่นอน พ่อแม่ภูมิใจ
    1.2 มาร์ค - อันนี้บ้านรวยระดับว่าเกิดมาก็เดินในดงเงินดงทอง แทบไม่ต้องทำอะไรเอง ติดหรูแต่เด็ก อาหารหรือการกระทำพื้นเพแบบชาวบ้านชาวเมืองก็ไม่ค่อยได้ทำเพระาแม่จะค่อนส่งคนติดตามให้อยู่เสมอยกเว้นที่โรงเรียนซึ่งที่โรงเรียนก็จะมีสปายแบบลับๆที่แม่จ้างไว้ (อันนี้จะเฉลยทีหลังนะคะ) พอเริ่มจีบแบมแบมจึงค่อยลดตัวลงมาใช้ชีวิตแบบชาวบ้านชาวเมืองอย่างเขาบ้าง

    เรื่องที่ 2 ไรท์เปลี่ยนทวิตแล้วนะคะ
        เพราะมันมาจากนิสัยขี้ลืมของไรท์เอง ดันไปเปลี่ยนรหัสแล้วลืม เลยเอาเป็นว่าสร้างแอคใหม่เลย เรื่องนี้อาจจะมี NC ซึ่งจะลงเว็ป NC ไว้ที่ไบโอทวิต อัพเดทอะไรสไตล์คนขี้ชิปไว้ที่ทวิตหมดเล้ย~ 

        New Twitter : @Aumtheabcc

    เดี๋ยวจะไปอีดิททวิตใหม่ในทุกๆตอนนะคะ :)


    ตามนี้เนาะ ขอบคุณทุกคอมเม้น ยอดวิว ยอดเฟบที่หลงเข้ามามากๆนะคะ

          * 1 คอมเม้น = 100 กำลังใจของไรท์เตอร์มือใหม่ลองเขียนฟิคเลยน้ออ *


      300916 :: อีดิทรูปแบบชื่อตอน + ชื่อเฟส + คำผิดนะคะ ♥
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×