ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอคือทาสหัวใจของฉัน [ เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ]

    ลำดับตอนที่ #20 : เปลี่ยนแปลง: Changed +++มีแการแก้ไขเนื้อหา+++

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.93K
      138
      23 ก.ค. 55


     

    คุยกันก่อนอ่านนะคะ

    พิกได้แก้ไขเนื้อหาในตอนที่ 20 นี้ให้เข้ากับเนื้อเรื่องในหนังสือและตอนจบที่วางไว้แล้วนะคะ โดยเนื้อหาที่มีการแก้ไขจะเป็นตัวหนังสือสีเขียวเข้มนะคะ ใครที่อ่านตอนที่ 20 นี้ไปแล้ว ลองเข้าอ่านเฉพาะตอนที่มีการแก้ไขใหม่นะคะ จะได้เข้าใจค่ะ ขอบคุณค่ะ

     

    ***Chapter 20 เปลี่ยนแปลง: Changed***

     

     


     

    ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาทีเดรโกก็มาถึงห้องหนังสือที่เขานัดกับพ่อของเขารวมทั้งสเนปไว้  ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปชายร่างสูงสองคนที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ในห้องก็หันมาทางเขา  สเนปยืนอยู่ถัดจากพ่อเขาที่กำลังเปิดดูเอกสารบางอย่างอยู่ตรงโต๊ะทำงาน  ดวงตาสีดำของเขาดูลึกลับมากกว่าทุกวันที่เดรโกเคยเห็น  สีหน้าเรียบเฉยซึ่งดูยากที่จะอ่านของเขาทำให้เดรโกรู้สึกว่ามันเก็บซ่อนบางอย่างไว้

    แม้ว่าเมื่อก่อนสเนปจะเคยเป็นอาจารย์คนโปรดของเขาที่ฮอกวอตส์ก็ตาม  แต่เวลาช่วงนั้นได้ผ่านไปแล้ว  และการกระทำของเขาก็พอจะทำให้เดรโกไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่นัก  อันที่จริงเด็กหนุ่มไม่ชื่นชอบผู้เสพความตายทุกคนรวมถึงพ่อของเขาด้วย  เขาคิดว่าผู้เสพความตายนั้นก็คือพ่อมดกลุ่มหนึ่งที่กระหายอำนาจพอ ๆ กับที่กระหายเลือด  และคำสาบานว่าจะรับใช้เจ้านายที่ยิ่งใหญ่ของพวกนั้นก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างสำหรับการไขว่คว้ามาซึ่งอำนาจเท่านั้น  ไม่มีใครที่จะภักดีต่อจอมมารอย่างแท้จริงหรอก  หากท่านปราศจากอำนาจดังเช่นเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ได้ทำลายท่านลง  แต่ในตอนนี้จอมมารก็ได้กลับมาเรืองอำนาจเช่นเดิมแล้ว  แถมยังยิ่งใหญ่และโหดเหี้ยมกว่าที่ผ่านมานักจึงมีผู้เสพความตายมากมายยินดีกลับไปรับใช้ท่าน  พวกนั้นกลับไปประจบประแจงและทำสิ่งชั่วร้ายให้ท่านเพื่อแลกมากับอำนาจและความอยู่รอด  เช่นเดียวกับที่สเนปยอมหักหลังดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟินิกซ์เมื่อกลับมารับใช้จอมมาร  แต่ในตอนนี้เดรโกก็ไม่อาจจะว่ากล่าวคนพวกนั้นไปมากกว่านี้ได้เพราะอีกไม่นานเขาก็จะต้องกลายเป็นแบบเดียวกับคนพวกนั้นแล้ว  อีกไม่นานเขาก็จะต้องกลายเป็นสมุนที่กระหายเลือดของจอมมารไม่ต่างจากผู้เสพความตายเหล่านั้น

    ทำไมถึงช้านัก  แกรู้มั๊ยว่าเซเวอร์รัสรอแกนานแค่ไหนแล้วลูเซียส  มัลฟอยพูดออกมา  ดวงตาสีเงินของเขามองลูกชายอย่างเย็นชาราวกับต้องการบอกเด็กหนุ่มว่าเขายังไม่ยกโทษให้เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้

    ขอโทษครับพ่อเดรโกได้ยินเสียงตัวเองพูดออกไป  ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอ่ยปากเถียงพ่อในเมื่อเขาเป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้  ไม่ใช่เด็กหนุ่ม

    เอาล่ะ  ไหน ๆ เดรโกก็มาแล้ว  ผมว่าเราเริ่มกันซะทีดีไหม  ลูเซียสเซเวอร์รัสเอ่ยขึ้น  นายลูเซียสพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะร่ายคาถาปิดประตูอย่างหนาแน่นและหันมายังชายสองคนที่เหลือ  หนึ่งคนในนั้นคือเพื่อนเก่าแก่ของเขา  ส่วนอีกคนคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง

    ที่เซเวอร์รัสมาในวันนี้เพราะว่าเขาได้รับคำสั่งจากจอมมารให้มาถ่ายทอดแผนการของท่านให้พวกเราฟังชายผมบลอนด์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่พอใจเท่าไหร่กับการที่เขาไม่ได้เป็นผู้ได้รับการถ่ายทอดคำสั่งจากนายท่านโดยตรง  

    ไม่ทันที่นายมัลฟอยจะพูดจบสเนปก็ก้าวออกมาข้างหน้าก่อนจะพูดขึ้น

     

    ผมรับคำสั่งโดยตรงจากจอมมารให้มาบอกเล่าแผนการของท่านให้สมุนที่ไว้ใจได้ของท่านฟัง  อันที่จริงจอมมารเจาะจงให้มีผู้เสพความตายเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้แผนการนี้  ท่านไม่ต้องการให้มีคนรู้แผนการนี้มากเกินไปจนมันเกิดการรั่วไหลได้  โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นสมุนรับใช้ที่ใกล้ชิดของท่านสเนปปรายตาไปมองเดรโก  เด็กหนุ่มจ้องเขาตอบด้วยแววตาที่เรียบเฉย

    แต่เมื่อลูเซียสยืนยันว่าเขาจะให้เธอกลับไปรับใช้จอมมารทันทีหลังจากได้รู้แผนการนี้  ฉันก็ไม่ลังเลที่จะให้เธอรับรู้แผนการลับสุดยอดของจอมมารชายผมดำพูดพลางเดินไปรอบ ๆ ห้อง  มือทั้งสองข้างของเขาประสานกันอยู่เหนืออกซึ่งเป็นท่าทางที่เดรโกเคยเห็นเขาทำบ่อย ๆ เวลาเขาสอนนักเรียนเรื่องการปรุงน้ำยาที่มีความยากเป็นพิเศษ

     

    ผมแน่ใจว่าคุณรวมทั้งเดรโกคงรู้อยู่แล้วว่าจอมมารมอบเด็กเกรนเจอร์นั่นมาให้คุณด้วยเหตุผลบางอย่าง  เพราะท่านต้องการเก็บเธอไว้เป็นเหยื่อล่อให้แฮร์รี่  พอตเตอร์มาติดกับของท่านและกำจัดเขาเสียสเนปอธิบายเรียบ ๆ

    แต่ผมคิดว่าคุณคงจะแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมนายท่านถึงต้องใช้เวลานานขนาดนี้ในการเตรียมการเพื่อล่อให้พอตเตอร์มาติดกับลูเซียสถอยหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อเซเวอร์รัสพูดจบ  ราวกับเขาเห็นได้ชัดแล้วว่าว่าการเก็บเฮอร์ไมโอนี่ไว้ที่คฤหาสน์นานเกินไปนั้นส่งผลเสียร้ายแรงอย่างไรกับเขาบ้าง

    เมื่อไม่มีคำตอบใด  ๆ จากผู้ฟัง  สเนปจึงเริ่มพูดอีกครั้ง

    แน่นอนว่าจอมมารต้องการล่อพอตเตอร์ให้มาติดกับรวมทั้งกำจัดเขาอย่างเร็วที่สุดเพราะว่าเขาเป็นหนามยอกอกชิ้นใหญ่ของท่าน  แต่ถึงกระนั้นท่านก็ไม่แน่ใจว่าตัวท่านเองจะสามารถจำกัดเขาได้สเนปพูดออกมาตามตรง  ท่ามกลางสีหน้าที่ดูตกใจของพ่อลูกมัลฟอย  โดยเฉพาะนายลูเซียส

    อันที่จริงคุณไม่เห็นจะต้องแปลกใจขนาดนั้นเลยลูเซียส  คุณก็รู้นี่นาเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างแกนไม้กายสิทธิ์ของจอมมารกับพอตเตอร์ซึ่งมันทำให้ท่านฆ่าเขาไม่ได้  อันที่จริงนายท่านทำพลาดมาหลายครั้งในการฆ่าเด็กหนุ่มคนนี้ชายผมดำกล่าว

    ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นสาระสำคัญตรงไหนเลยกับการที่แกมาเน้นย้ำเรื่องที่นายท่านไม่อาจสู้พอตเตอร์ได้  ซึ่งมันไม่จริงเลยแม้แต่นิดเดียว!” ชายผมบลอนด์พูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด  ราวกับสเนปเพิ่งพูดหยาบคายใส่บรรพบุรุษของเขา  ขณะที่อีกฝ่ายนั้นมีท่าทีเรียบเฉย

    หรือคุณจะปฏิเสธหรือลูเซียสว่าจอมมารทำพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าในการสังการแฮร์รี่  พอตเตอร์  ผมไม่ได้สงสัยในอำนาจของนายท่าน  แต่อำนาจของพ่อมดทุกคนมีขีดจำกัด  ทุกคนลูเซียสรวมทั้งท่านด้วย  และแน่นอนว่าจอมมารรู้เรื่องนี้ดีหรือคุณจะเถียงว่ามันไม่จริงอย่างนั้นหรือสเนปกล่าวขณะที่ลูเซียสเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์

    เรื่องที่จอมมารมีอำนาจมากกว่าพอตเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะสงสัยกันเลย  แต่ถึงกระนั้นท่านก็ฆ่าพอตเตอร์ไม่ได้  เพราะอะไรน่ะหรือ  เพราะว่าท่านด้อยความสามารถกว่าเขานั้นหรือ  ข้อนั้นไม่ใช่อยู่แล้ว  ท่านทรงอำนาจมากกว่าพ่อมดคนใดในโลกแล้วทำไมท่านจึงต้องพ่ายแพ้ให้เด็กชายเลือดผสมคนนี้ล่ะ  จอมมารเองก็พยายามหาเหตุผลมาตลอดว่าเพราะอะไร  ท่านต้องการมองหาจุดอ่อนของท่าน  ข้อผิดพลาดบางประการ  เพื่อที่จะแก้ไขมันรวมทั้งหาวิธีที่จะกำจัดพอตเตอร์  ในที่สุดท่านก็คิดออก  ท่านใช้สมองอันปราดเปรื่องของท่านวิเคราะห์ออกมาว่าทุกอย่างมันน่าจะมาจากไม้กายสิทธิ์ที่มีแกนเหมือนกันของท่านและพอตเตอร์  เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ท่านพยายามจะทำร้ายเขา  ไม้กายสิทธิ์ของท่านก็ไม่อาจทำร้ายไม้ที่มีแกนเดียวกันหรือไม้ที่เปรียบเสมือนพี่น้องกันได้  ดังนั้นท่านจึงคิดว่าท่านควรจะแก้ไขจากสาเหตุนี้  ท่านควรที่จะออกไปค้นหาไม้กายสิทธิ์ที่ทรงอำนาจมากพอที่จะฆ่าพอตเตอร์ได้เขาอธิบายท่ามกลางสีหน้าที่ดูงุนงงของนายลูเซียส  ขณะที่เดรโกนั้นดูราวกับจะไม่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่าไหร่นัก

    แล้วทำไมนายท่านถึงไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์ของคนอื่นแทนล่ะ  เราเองก็จับตัวโอลิแวนเดอร์ได้แล้วนี่นา  ทำไมถึงไม่ให้เขาทำไม้กายสิทธิ์อันใหม่ให้นายท่านชายผมบลอนด์ถามออกมาก่อนที่จะทันได้คิด

    เห็นได้ชัดว่าคุณไม่ได้ตั้งใจฟังทุกประโยคที่ผมพูดเลยสินะ  ลูเซียสสเนปว่า จอมมารต้องการไม้กายสิทธิ์อันใหม่ก็จริง  แต่ท่านไม่ได้ต้องการเพียงแค่ไม้กายสิทธิ์ธรรมดา ๆ เท่านั้น  เพราะท่านรู้ดีว่าตัวท่านเองคู่ควรกับไม้กายสิทธิ์ที่มีอำนาจและทรงคุณค่ามากกว่าไม้สั่ว ๆ ที่โอลิแวนเดอร์จะทำให้ท่าน  จอมมารรู้ว่าท่านสมควรที่จะได้ครอบครองสิ่งที่ดีที่สุด  ในตอนนี้ท่านมีเวทย์มนตร์ที่แม้แต่ดัมเบิลดอร์ซึ่งเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ในยุคที่ผ่านมาไม่แม้แต่จะฝันถึง  และมันจะเป็นเรื่องแปลกอะไรกันที่ท่านจะได้ครอบครองไม้กายสิทธิ์ที่ทรงอำนาจอีกชิ้นหนึ่งด้วย  คำพูดสุดท้ายของสเนปทำให้ลูเซียส  มัลฟอยเงยหน้าขึ้นมองชายผมดำด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ

    เซเวอร์รัส  คุณหมายถึงนายลูเซียสพูดออกมาพลางจ้องมองสหายเก่า  ขณะที่สเนปเองก็จ้องเขาตอบด้วยดวงตาที่ล้ำลึก  อดีตศาสตราจารย์ของฮอกวอตส์ผงกศีรษะเบา ๆ

    ใช่แล้ว  ลูเซียส  ผมกำลังพูดถึงไม้กายสิทธิ์ในตำนาน  ไม้มฤตยูแห่งโชคชะตาที่พ่อมดทั้งหลายต่างตามหามาเป็นเวลาร่วมศตวรรษ  ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เซเวอร์รัสเอ่ยคำพูดสุดท้ายออกมาด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำหากแต่ว่าชัดเจนยิ่งนัก  จนทำให้เดรโกแม้กระทั่งนายลูเซียสขนลุก  เพราะเขาไม่เชื่อ  ไม่ใช่สิ  เขาไม่คิดจริง ๆ ว่าไม้กายสิทธิ์จะมีอยู่จริง  รวมทั้งเขาไม่อยากจะเชื่อด้วยว่านายท่านที่ยิ่งใหญ่ของเขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องไม้มฤตยูแห่งโชคชะตานี้

    แม้ว่าคำพูดของเซเวอร์รัส สเนปจะดูมีมนต์ขลังเพียงใด  แต่มันกลับไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เดรโกขนลุกได้  เพราะนอกจากคำบอกเล่าที่น่าเกรงขามของอดีตอาจารย์ประจำบ้านของเขาแล้ว  เด็กหนุ่มรู้สึกว่าอุณหภูมิที่ลดต่ำลงทำให้เขารู้สึกหนาวสั่น  ทั้ง ๆ ที่อุณภูมิในห้องยังไม่ลดลงแต่อย่างใด  ทุกอย่างยังคงเป็นปรกติเหมือนกับวินาทีแรกที่เขาก้าวเข้ามาในห้องนี้  หากแต่เป็นตัวเด็กหนุ่มเองเท่านั้นที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปรกติ

    เดรโกสัมผัสได้ถึงเหงื่อเย็น ๆ บนแผ่นหลังและหน้าผากของเขา  ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกหนาวจนตัวแทบสั่นแบบนี้แต่ทำไมเขาถึงมีเหงื่อออกได้อีกล่ะ  เดรโกไม่มีเวลาจะคิดหาสาเหตุของอาการแปลกประหลาดไปมากกว่านั้นเมื่อเขาพบว่าหัวของเขาปวดร้าวราวกับมันจะระเบิด  มันคล้าย ๆ กับอาการปวดหัวเมื่อเขาเป็นไข้แต่มันรุนแรงกว่ามาก  เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความร้อนที่พลุ่งพล่านขึ้นในกายราวกับเลือดของเขากำลังเดือดพล่านในขณะเดียวกับหัวไหล่ของเขาก็ปวดแปลบราวกับมันถูกดึงทึ้งออกเป็นชิ้น ๆ

     

    นายท่านกำลังตามหามันอย่างนั้นรึเสียงของพ่อที่พูดกับสเนปเหมือนกับดังมาจากที่ไกลแสนไกลสำหรับเดรโก  แต่เด็กหนุ่มก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้เสพความตายสองคนกำลังพูดกันอยู่

    ใช่  นายท่านออกตามหาเบาะแสของมันได้ซักระยะหนึ่งแล้ว  และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมท่านถึงไม่อยู่ที่ศูนย์บัญชาการเมื่อคุณกลับมาหาท่านหลังจากเสร็จภารกิจ  แต่ท่านกำชับกับผมเอาไว้ว่าให้บอกคุณถึงเรื่องแผนการทั้งหมดนี้สเนปพูด  ทั้ง ๆ คู่สนทนากันต่อโดยที่ไม่ได้สังเกตถึงความผิดปรกติของเด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ในห้องเลย

    แต่ว่านายท่านแน่ใจหรือว่าไม้กายสิทธิ์นั่นมีอยู่จริงน่ะลูเซียสถามขึ้น  เซเวอร์รัสตวัดสายตาที่เฉียบคมของเขามามองชายผมบลอนด์

    คุณสงสัยในสิ่งที่จอมมารเชื่ออย่างนั้นหรือ  ลูเซียส

    ไม่ใช่  ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนายมัลฟอยกลืนน้ำลาย ผมแค่......แปลกใจเท่านั้น  คุณก็รู้ว่าเรื่องไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์นั้นเป็นตำนานหลอกเด็กพอ ๆ กับเรื่องน้ำพุแห่งความโชคดี  แม้ว่าจะมีข่าวลือเกี่ยวกับมันมากแค่ไหนก็ตาม  แต่ก็ไม่มีใครเคยหามันพบ  และที่สำคัญไม่เคยมีใครได้ครอบครองมัน  เซเวอร์รัสชายผมบลอนด์แย้ง

    ที่คนเหล่านั้นไม่มีโอกาสครอบครองไม้เอลเดอร์ก็เพราะเขาไม่คู่ควรกับมันต่างหาก  แต่นายท่านไม่เหมือนกัน  ท่านมีทั้งความรู้และแน่นอน  อำนาจ  ผมแน่ใจว่าท่านต้องตามหามันจนพบได้อย่างแน่นอนสเนปพูด

    ถ้าเป็นอย่างนั้น  ตอนนี้นายท่านก็กำลังเดินทางเพื่อตามหาไม้เอลเดอร์ที่จะมาเป็นอาวุธของท่านที่จะใช้สังหารพอตเตอร์ใช่มั๊ยนายลูเซียสพูด  ขณะที่ชายผมดำผงกศีรษะ

    ถูกต้องแล้ว  นายท่านกำลังเดินทางอย่างไม่มีกำหนดเพื่อตามหาสิ่งล้ำค่าของท่าน  และมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าท่านกำลังตามหาอะไรอยู่  และท่านเองก็ไม่ต้องการให้มีคนรู้ความลับของท่านมากนัก  แต่ที่ผมมาในวันนี้ก็เพื่อจะมาบอกคุณรวมทั้งเดรโกเรื่องแผนการต่อไปของนายท่านหลังจากท่านได้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์มาครอบครองสเนปพูดพลางปรายตาไปมองเดรโกที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง  แม้ว่าเขาจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เขาเห็นว่าใบหน้าของเด็กหนุ่มซีดเซียว  แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรรวมทั้งไม่ได้หยุดการสนทนาไว้เพียงเท่านั้นด้วย

    หลังจากนายท่านได้เป็นนายของไม้กายสิทธิ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกแล้ว  แผนการของเราก็จะเริ่มขึ้น  เมื่อถึงตอนนั้นนายท่านก็จะให้เด็กเกรนเจอร์นั่นเป็นเหยื่อล่อให้พอตเตอร์มาติดกับ  และสังหารเขาซะ........ไม่ทันที่สเนปจะพูดจนจบประโยคดี  เสียง ๆ หนึ่งก็ดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง  และเมื่อผู้เสพความตามทั้งสองคนหันไปดูพวกเขาก็พบว่าเดรโก  มัลฟอยได้ล้มลงไปนอนกับพื้นเสียแล้ว

    นายลูเซียสรวมทั้งสเนปรีบถลาเข้าไปหาเดรโกทันที

    เดรโกลูเซียส  มัลฟอยเรียกลูกชายด้วยสีหน้าตกใจ  ใบหน้าของเด็กหนุ่มซีดขาวราวกับกระดาษ  เซเวอร์รัสจ้องมองเดรโกอย่างพิจารณาขณะที่นายลูเซียสคุกเข่าลงข้าง ๆ ลูกชาย  ชายผมบลอนด์เอื้อมมือไปแตะตัวเดรโก  แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าผิวกายของเด็กหนุ่มร้อนรุ่มราวกับถูกไฟเผา

    นายลูเซียสมองลูกชายเพียงคนเดียวของเขาด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก  แต่มันก็แฝงด้วยความเป็นห่วงเอาไว้  ก่อนที่เขาจะหันกลับไปสบตาเพื่อนเก่าแก่ของเขาอย่างสับสน  และในวินาทีนั้นเซเวอร์รัสก็พูดขึ้น

    เขาเป็นอะไรเสียงทุ้มลึกของสเนปซ่อนความแปลกใจเอาไว้  ลูเซียสส่ายหน้าเหมือนกับต้องการพูดว่าเขาก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่าสเนปเลย  และเมื่อเห็นเช่นนั้นชายผมดำจึงก้าวเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม  เขาคุกเข่าลงข้างเดรโกก่อนจะหันไปมองลูเซียสอย่างขออนุญาต

    งั้นผมขอดูเขาหน่อยสเนปพูดก่อนจะสำรวจเด็กหนุ่มที่นอนเหยียดยาวอยู่ด้านหน้าเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  ตั้งแต่ใบหน้าที่ขาวซีดของเขา  เหงื่อมากมายบนหน้าผากรวมไปทั้งริมฝีปากขาวซีดที่มันเริ่มออกสีม่วงคล้ำไปจนถึงผิวกายที่ร้อนรุ่นและลมหายใจที่ถี่กระชั้น  สเนปใช้มือของเขาอังจมูกเดรโกก่อนจะเลื่อนมันไปวางตรงหัวใจของเขาแทน  และเมื่อทำเช่นนั้นชายผมดำก็พบว่าหัวใจของเขาเต้นแรงราวกับเสียงกลอง

    สีหน้าของสเนปดูลำบากใจเป็นอย่างมาก  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้บำบัดก็ตาม  แต่อาการของเดรโกที่เป็นอยู่นี้นั้นพอจะบอกสเนปได้คร่าว ๆ ว่าเด็กหนุ่มเป็นอะไร  เพราะเท่าที่เขารู้มานั้น  อาการตัวร้อนราวกับไฟสุม  เหงื่อออกแต่ใบหน้ากลับซีดแถมริมฝีปากม่วงคล้ำแบบนี้เป็นอาการของโรคเพียงไม่กี่โรคเท่านั้น  และหนึ่งในนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับเดรโก  ไม่ใช่สิ  สเนปได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งที่เขาคิดในใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของเขาในตอนนี้  ชายผมดำได้แต่ภาวนาของให้เขาคิดผิด  แต่ทางเดียวที่เขาจะพิสูจน์มันได้คือเขาต้องหาร่องรอยของมันให้พบ

    มือของสเนปละไปจากอกซ้ายของเดรโกก่อนจะเลื่อนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของเด็กหนุ่มอย่างระมัดระวัง  และมือขาวซีดของสเนปก็ชะงักเมื่อเขาคลำพบบางอย่างบริเวณใหล่ซ้ายของเดรโก  เซเวอร์รัสลองสัมผัสมันอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและก็พบว่าเขาคลำเจอนั้นมันเป็นผ้าพันแผล  และเมื่อเป็นเช่นนั้นชายผมดำจึงหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาและเริ่มร่ายคาถากรีดเสื้อคลุมบริเวนไหล่ของเด็กหนุ่มออก

    นี่คุณจะ......ลูเซียส  มัลฟอยพูดได้เพียงเท่านั้นเมื่อเสื้อคลุมของเดรโกเลิกออก  เผยให้เขาเห็นผ้าพันแผลบริเวณหัวไหล่ของลูกชาย  คิ้วของชายผมบลอนด์เลิกสูงเมื่อเขาพบว่ามันน่าจะเป็นแผลที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ เพราะเขายังคงเห็นรอยเลือดที่ซึมออกมาจากผ้าพันแผลสีขาวนั้นอยู่  และภาพที่เขาได้เห็นก็เตือนให้เขานึกถึงสิ่งที่เอลฟ์รายงานเขาในตอนเช้าที่เขาเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์  แต่นายลูเซียสก็ลืมเลือนมันไปเสียสนิทเมื่อเขาขึ้นไปบนห้องนอนของเดรโกและพบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในนั้น

    เสียงแคว่กที่ดังขึ้นปลุกนายลูเซียสให้ตื่นขึ้นจากภวังค์เมื่อสหายเก่าของเขาเริ่มแกะผ้าพันแผลของเดรโกออกขณะที่เจ้าตัวยังคงหมดสติ  ราวกับเขาต้องการรู้สาเหตุของการหมดสติของเด็กหนุ่มไม่แพ้กับนายลูเซียส  นิ้วซีดขาวของอดีตอาจารย์ปรุงยาแกะผ้าพันแผลออกจากใหล่ของเดรโกอย่างรีบร้อนหากแต่ระมัดระวัง  และเมื่อใหล่เปลือยเปล่าของเดรโกปรากฏขึ้นสู่สายตาของเขา  ดวงตาสีดำของเซเวอร์รัสก็แสดงความตกใจขึ้นมาเป็นครั้งแรก

    เพราะสิ่งที่เขารวมทั้งลูเซียสเห็นอยู่บนใหล่ของเดรโกก็คือรอยเล็บขนาดใหญ่และยาวเรียงกันจำนวนทั้งสิ้นสามรอย  และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือทั้งสองรู้เรื่องศาสตร์มืดดีพอที่จะแยกแยะได้ว่ามันเป็นรอยเล็บของตัวอะไร

    ใบหน้าของนายลูเซียสซีดขาวยามสเนปหันกลับไปมองเขา  ดวงตาสีเงินของเขาดูตื่นตระหนกยิ่งกว่าทุกครั้งที่ชายผมดำเคยเห็น 

    ไม่จริง........เป็นไปไม่ได้!” นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เร็ดลอดริมฝีปากบางเฉียบของนายมัลฟอยอออกมา เขาส่ายศีรษะน้อย ๆ ราวกับเขาเพิ่งได้พบเรื่องที่น่าตกใจที่สุดในโลก  ยิ่งกว่าตอนที่จอมมารถูกทำลายเสียอีก

    คุณก็รู้ว่ารอยนี่เป็นแผลที่มาจากอะไรลูเซียสสเนปพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม  หากแต่มีแววเห็นใจเจืออยู่ในดวงตาสีดำที่แสนจะเย็นชาคู่นั้น

    มันเป็นรอยเล็บของมนุษย์หมาป่า  ลูกชายของคนถูกมนุษย์หมาป่าข่วนชายผมดำพูดกับชายผมบลอนด์สหายเก่าที่บัดนี้มีสีหน้าราวกับทุกสิ่งทุกอย่างได้พังทลายลงตรงหน้าเขาแล้ว

     

    .................................................

     

    เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์รู้สึกราวกับโลกของเธอได้พังทลายลงตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว  หลังจากกลับมาถึงห้องนอนของเธอ  เด็กสาวก็ซบใบหน้าเข้ากับหมอนและร้องไห้อย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อนแม้ในคืนที่พ่อแม่ของเธอถูกสังหารเป็นคืนแรกซึ่งเป็นคืนเดียวกับที่เธอถูกลูเซียส  มัลฟอยจับตัวมาไว้ที่ศูนย์บัญชาการศาสตร์มืดก็ตาม  เฮอร์ไมโอนี่จำได้ดีว่าตอนที่เธอถูกจับมาแรก ๆ นั้นเธอหวาดกลัวและสิ้นหวังมากเพียงใด  แต่ความรู้สึกสิ้นหวังในตอนนั้นมันก็ไม่อาจเทียบได้กับที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้  เพราะในตอนนั้นเธอยังหลงเหลือความหวังอยู่ว่าแฮร์รี่  กับรอนจะมาช่วยเธอ  เธอยังสามารถหวังเล็ก ๆ ได้ว่าซักวันเธอจะได้รับอิสรภาพและได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นนักโทษเช่นนี้  แต่สำหรับในตอนนี้ความหวังทั้งหลายเหล่านั้นได้พังทลายลงไปหมดพอ ๆ กับร่างกายของเธอที่แทบจะแตกสลายไม่ต่างจากตุ๊กตาเซรามิกที่ถูกขว้างลงพบพื้น  ซึ่งย่อยยับจนไม่อาจจะกลับมาเป็นตุ๊กตาที่สวยงามเช่นดังเดิมได้  และในตอนนี้มันก็เป็นเพียงแค่เศษกระเบื้องไร้ราคาเท่านั้น

    เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นปาดน้ำตา  แต่ไม่นานนักก็มีหยดใหม่ไหลออกมาเรื่อย ๆ จนเธอไม่สนใจที่จะเช็ดมันอีกต่อไป  แม้เด็กสาวจะรู้ดีว่าการร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้นั้นไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นมาแต่เธอก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านั้น  ราวกับว่าการนอนคุดคู้และร้องไห้สะอึกสะอื้นในห้องแคบ ๆ เพียงลำพังนั้นเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะทำเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอยังหายใจอยู่และจิตวิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลายไปกับการกระทำอย่างทารุณที่เธอเพิ่งได้รับตลอดทั้งวันที่ผ่านมานี้

    นอกจากนั้นแล้วอีกเหตุผลที่เฮอร์ไมโอนี่จำต้องทนรับสภาพที่โหดร้ายทารุณนี้โดยที่เธอไม่ชิงฆ่าตัวตายไปก่อนนอกจากความหวังที่ว่าซักวันจะได้ออกไปจากที่นี่เพื่อพบเพื่อน  ๆ ของเธออีกครั้งก็คือเธอไม่กล้าพอที่จะฆ่าตัวตาย  เด็กสาวไม่มีความอาจหาญพอที่จะหยิบยื่นความตายให้กับตัวของเธอเอง  แม้เธอจะรู้ดีว่าการมีชีวิตอยู่ของเธอในตอนนี้เปรียบเสมือน ตายทั้งเป็นโดยเฉพาะหลังจากที่เดรโกจับเธอกลับมาที่นี่ได้  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็เชื่อว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางที่ควรจะเลือกเดิน  ซ้ำยังเป็นบาปมหันต์ที่จะติดตามวิญญาณของเธอไปยังโลกหน้าอีกด้วย

    แต่ถึงกระนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจตอบได้ว่าพระเจ้าจะต้องการให้เธออยู่ในโลกนี้ไปเพื่ออะไร  ในเมื่อมันไม่หลงเหลือความหวังใด ๆ ในการดำรงชีวิตอยู่สำหรับเธออีกต่อไปแล้ว  หรือว่าเธอจะต้องอยู่เป็นทาสของเดรโก  มัลฟอยไปจนวันตายอย่างนั้นหรือ  ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  ชีวิตของเธอก็คงไม่ต่างกับคำว่า ตกนรกทั้งเป็น สักเท่าไหร่นัก เด็กสาวคิดอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะซุกตัวกอดหมอนแน่น  และปล่อยน้ำตาให้ไหลรินมาอย่างไม่คิดจะหยุดมัน

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่แน่ใจว่าเธอร้องไห้มาได้นานเท่าไหร่แล้วเมื่อเสียงป็อปดังขึ้นในห้องนอนของเธอ  แม้ไม่ต้องลุกขึ้นดูเธอก็รู้ดีว่าเป็นเสียงหายตัวของเอลฟ์ประจำบ้าน

    เสียงฝีเท้าแผ่วเบาของเอลฟ์เดินย่างแช่มช้ามาที่เตียงของเด็กสาว  ราวกับมันไม่แน่ใจว่าเธอนอนหลับอยู่หรือไม่  เธอได้ยินเสียงดีดนิ้วดังเป๊าะ  ตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่างกระทบกับโต๊ะไม้ในห้อง  ขณะที่ดีน่าเคลื่อนกายมาเข้ามาใกล้เธอมาขึ้น

    คุณผู้หญิงเจ้าคะมันถามขึ้น  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ตอบ

    ดีน่าเอาอาหารมาให้คุณผู้หญิงค่ะ  นายน้อยสั่งให้ดีน่ามาดูแลคุณผู้หญิงการเอ่ยถึงเดรโกของเอลฟ์กับราวกับคมมีดกรีดหัวใจเฮอร์ไมโอนี่  เด็วสาวร่างกายสั่นสะท้านราวกับเด็กหนุ่มได้ก้าวเข้ามายืนในห้องเสียเอง  คำพูดของเดรโกยังคงก้องอยู่ในหัวสมองของร่างเล็ก ๆ ที่ถูกเขาทำร้ายจนบอบช้ำ

     

    ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว  เกรนเจอร์  เธอเป็นทาสของฉันชั่วนิรันดร์! ’

     

    เงียบ!  ไร้เสียงตอบจากร่างบางที่นั่งหันหลังอยู่  ดีน่าซึ่งไม่แน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่ตื่นอยู่หรือไม่จึงเอื้อมมือไปเขย่าแขนของเด็กสาวเบา ๆ

    คุณผู้หญิงคะ.....แม้ไม่ต้องการตอบ  แม้ว่าเธอจะต้องการหายตัวไปจากที่นี่หรือนอนหลับแบบที่ไม่ต้องตื่นมาก็ดี  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าเธอไม่อาจทำเช่นนั้นได้  เพราะถึงจะทำเช่นไรเธอก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงตรงหน้าที่ว่าบัดนี้เธอได้ตกเป็นทาสของมัลฟอยไปได้  ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นมาเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก  ริมฝีปากที่แห้งผากนั้นเผยอขึ้นอย่างลังเลราวกับเธอลืมวิธีพูดไปชั่วขณะหรือไม่ก็ไม่อยากจะเปล่งเสียงใด ๆ ออกมา

    ฉันไม่อยากกิน  ฉันอยากอยู่คนเดียวเฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก

    คุณผู้หญิงเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ  ถ้าคุณผู้หญิงไม่สบายให้ดีน่าป้อนคุณผู้หญิงมั๊ยเจ้าคะเอลฟ์ถามอย่างเป็นห่วงแต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมหันมามองมัน  เธอตอบกลับมาแค่

    ไม่ต้อง......เธอออกไปเถอะดีน่า  ฉันอยากอยู่คนเดียวพอพูดจบ  เด็กสาวก็หลับตาคู่ที่บอบช้ำลงอย่างเหนื่อยล้า  เอลฟ์สาวมองร่างของเฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง  แต่มันก็จำต้องเดินออกมาจากห้องอย่างจนใจ

     

    .................................................

     

    ที่ห้องนอนห้องหนึ่งของคฤหาสน์  เดรโก  มัลฟอยกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงนอน  ใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษแต่กลับมีเหงื่อไหลซึมไปทั่วไรผมสีบลอนด์  ขณะที่ร่างของเขากำลังทุรนรุรายเพราะพิษไข้ที่ขึ้นสูงอยู่นั้น  ร่างอีกสองร่างที่อยู่ในห้องกำลังเฝ้าดูเขาอย่างเป็นห่วงระคนเคร่งเครียด

    ร่างหนึ่งเป็นพ่อมดสูงวัยผมสีบลอนด์ที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเด็กหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนเตียง  บัดนี้ลูเซียส  มัลฟอยหน้าซีดไม่ต่างจากลูกชาย  เขาเดินกลับไปกลับมาในห้องอย่างร้อนรนขณะที่พ่อมดผมดำซึ่งก็คือเซเวอรัส  สเนป  อดีตอาจารย์ของเดรโกกำลังตรวจดูอาการของเด็กหนุ่มอย่างใกล้ชิด  สเนปบอกให้ลูเซียสพาเด็กหนุ่มมาที่ห้องพร้อมกับทำความสะอาดบาดแผลเบื้องต้นให้  รวมทั้งถือโอกาสตรวจดูบาดแผลของเดรโกไปด้วย

    ขณะที่สเนปกำลังดำเนินการรักษาขั้นต้นอยู่นั้น  ลูเซียสก็ถามโพล่งขึ้นมา  บัดนี้เขาลืมภารกิจที่จอมมารได้มอบหมายซึ่งต้องมาหารือกับสเนปก่อนหน้านี้ไปจนสิ้น  ตอนนี้สิ่งเดียวที่ชายผมบลอนด์กังวลก็คือความปลอดภัยของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเขา

    หลังจากผ่านการรอคอยที่น่าอึดอัดไปไม่นานนัก  ลูเซียสที่กำลังเดินวนเวียนอยู่ในห้องก็รุดมาที่เตียงที่เดรโกกำลังนอนอยู่อีกครั้ง

    คุณแน่ใจหรือ  เซเวอร์รัสนายมัลฟอยถาม  สเนปเงยหน้ามองเขา  สีหน้าอึดอัดใจ

    ผมไม่ใช่ผู้บำบัดแม้จะตอบเช่นนั้นแต่สเนปก็มีท่าทีกังวลเป็นอย่างมาก แต่ผมก็มั่นใจมากกว่าครึ่งว่าลูกชายของคุณถูกมนุษย์หมาป่าข่วน  อันที่จริงผมมั่นใจมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ  หลังจากที่ผมนึกขึ้นได้ว่าคืนที่ผ่านมาเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงชายผมดำกล่าวเรียบ ๆ  ลูเซียสใบหน้าซีดเผือด

    ถ้างั้นก็หมายความว่าลูกชายของผมจะต้องเป็นมนุษย์หมาป่าน่ะหรือ!” เขาถามอย่างตระหนก  พลางรุดไปยังเตียงที่เดรโกนอนอยู่  ซึ่งแค่มองด้วยตาก็พอรู้แล้วว่าเด็กหนุ่มนั้นอาการย่ำแย่เพียงไร

    ผมบอกแล้วลูเซียส  ว่าผมไม่ใช่ผู้บำบัด  ผมไม่อาจแน่ใจในเรื่องนี้ได้  เว้นแต่......เขาหยุดพูดไง

    เว้นแต่อะไรนายลูเซียสถามขึ้นมาทันที

    เว้นแต่ว่าผมจะรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง  ลูกชายของคุณออกไปจากคฤหาสน์จริงหรือไม่  แล้วทำไมยังออกไปข้างนอกทั้ง ๆ ที่เขาก็น่าจะรู้ว่าเมื่อคืนเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง สเนปพูดอย่างมีเหตุผล

    เขาออกไปเพื่อที่จะตามนังเลือดสีโคลนนั่นกลับมาน่ะสิ!  เมื่อคืนมันคงหนีไปจากคฤหาสน์เข้าไปในป่า  เดรโกเลยไปตามตัวมันจนต้องได้รับบาดเจ็บ!” น้ำเสียงและแววตาของเขายามเอ่ยถึงเฮอร์ไมโอนี่นั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและจงเกลียดจงชังอย่างที่สุด

    ถ้าอย่างนั้นก็มีทางเดียวที่เราจะรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้สเนปเอ่ยเรียบ ๆ พลางมองลูเซียสอย่างขออนุญาต  แน่นอนว่าชายผมบลอนด์รู้ดีว่าเพื่อนเก่าแก่ของเขาพูดถึงอะไร  และนายลูเซียสก็ไม่ได้ห้ามการกระทำนั้นเมื่อสเนปยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นและชี้ไปที่เดรโก

    เลกจิลิเมนส์อาจารย์สอนวิชาปรุงยาผู้เชี่ยวชาญศาสตร์มืดและการพินิจใจเป็นอย่างดีกระซิบคาถาขึ้นเบา ๆ ก่อนจะเจาะเข้าไปในใจของเดรโก  แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ได้พบว่ามีปราการขวางกั้นเขาไว้จากการเข้าไปในใจของเด็กหนุ่ม  ซึ่งแสดงว่าเดรโกต้องเรียนรู้และสามารถสกัดใจได้เป็นอย่างดี

    เซเวอร์รัสลองพยายามอีกครั้งที่จะเจาะเข้าไปในใจของเดรโกเพื่อไปดูความทรงจำที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาของเขา  แต่ชายผมดำก็กลับถูกขัดขวางอีกครั้ง  ซึ่งสเนปเองก็ยอมรับว่าเดรโกนั้นเชี่ยวชาญทางด้านสกัดใจมากพอสมควร  จึงสามารถปิดกั้นเขาออกจากใจได้ทั้ง ๆ ที่ตนเองอยู่ในสภาวะกึ่งไม่ได้สติเช่นนี้

    หลังจากพยายามอยู่นานกว่าห้านาที  สเนปก็ลดไม้กายสิทธิ์ลงและสิ่งแรกที่เขาเห็นหลังจากออกจากใจของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ก็คือดวงตาสีเงินแบบเดียวกับเดรโกหากแต่ดูเคร่งเครียดกว่าของลูเซียสกำลังจ้องมองเขาอยู่

    ว่ายังไงบ้างนายลูเซียสซึ่งแน่นอนว่าเชี่ยวชาญด้านการพินิจใจน้อยกว่าสเนปเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน  ราวกับเขาอยากรู้ใจจะขาดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขา  ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็น่าจะเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ 

    แน่นอนว่าลูเซียส  มัลฟอยสามารถเดาได้ง่าย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น  หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายจนเกินกว่าที่เขาจะกล้ายอมรับมัน!

     

    สเนปมีสีหน้าลำบากใจ  เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามของชายผมบลอนด์ตามตรง

    เดรโกเรียนรู้การสกัดใจได้ดีมาก  จนถึงขนาดสามารถปิดกั้นใจของเขาเองจากผมในสภาวะที่ร่างกายย่ำแย่เช่นนี้ เซเวอร์รัสเอ่ย ถ้าผมเดาไม่ผิดคุณคงเคยสอนเขาสินะ

    เบลลาทริกซ์เป็นคนสอนเขา  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น  ผมต้องการรู้ว่าลูกของผมได้รับบาดเจ็บจากมนุษย์หมาป่าจริงหรือไม่นายลูเซียสถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

    นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณ  ลูเซียส  แม้ว่าเดรโกจะพยายามปิดกั้นใจของเขาจากการมองเห็นของคนอื่น  แต่ผมก็สามารถสกัดเข้าไปในใจของเขาได้บางส่วน......สเนปหยุดพูด  เขากลืนน้ำลายและมองไปทางเด็กหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาที่ยากจะอ่าน  ราวกับเขาเองไม่แน่ใจในที่สิ่งที่เขาได้เห็น

    นายลูเซียสกำลังจะเอ่ยปากถามอีกครั้ง  แต่ชายผมดำชิงพูดขึ้นก่อน

    และที่ผมเห็นพอจะบอกได้แค่ว่า  เดรโกติดตามมิสเกรนเจอร์ซึ่งหลบหนีเขาเข้าไปในป่าจริง ๆ  แต่ความทรงจำหลังจากนั้นผมไม่สามารถมองเห็นมันได้สเนปพูดเรียบ ๆ แต่สีหน้าของเขากลับบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นจากการสกัดใจเดรโกไม่ได้มีเพียงเท่านั้น  แต่สิ่งที่เขาได้รับรู้นั้นเป็นสิ่งที่เขาแน่ใจว่าเดรโกไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามันเกิดขึ้น  โดยเฉพาะพ่อของเขา

    แต่ในตอนนี้ผมมั่นใจเกินครึ่งว่าเดรโกถูกมนุษย์หมาป่าทำร้าย  แต่เขาจะถูกทำร้ายในรูปแบบไหนนั้นผมไม่แน่ใจ  อันที่จริงผมอยากจะรู้เรื่องตรงนั้นให้มากที่สุด  ผมต้องการรู้ว่าเขาโดนทำร้ายในแบบไหนเพื่อที่จะหาทางรักษาเขาต่อไป.....ไม่ทันที่สเนปจะพูดจบ  นายลูเซียสก็ขัดขึ้น

    คุณรักษาเขาได้งั้นรึ.......เท่าที่ได้ยินมาการถูกมนุษย์หมาป่ากัดไม่สามารถรักษาได้  หรือว่าคุณค้นพบยาที่สามารถช่วยคนที่โดนกัดได้แล้วหรือ  เซเวอร์รัสชายผมบลอนด์ถาม  แววแห่งความหวังปรากฏขึ้นในดวงตาสีเงินแทนความเคียดแค้น  สเนปมองเพื่อนผู้เสพความตายของเขาด้วยสีหน้าที่หนักใจ

    ในตอนนี้ยังไม่มียาใด ๆ รักษาคนที่ถูกมนุษย์หมาป่ากัดได้  เรื่องนี้คุณก็รู้ดีลูเซียสเขาพูดพลางปรายตาไปมองเดรโกที่กำลังกระสับกระส่ายอย่างไม่ได้สติ แต่ลูกชายของคุณไม่ได้ถูกกัด  แต่เขาน่าจะถูกข่วน  ซึ่งการจะรักษาเขาก็อาจจะเป็นไปได้  แต่ผมได้บอกไปแล้วว่าผมไม่แน่ใจเพราะผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้

    แต่ผมปล่อยให้ลูกชายคนเดียวของผมเป็นมนุษย์หมาป่าไม่ได้  เรื่องนี้คุณก็รู้!  เขาเป็นลูกชายคนเดียวของผม  เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลมัลฟอย!” นายลูเซียสขึ้นเสียง  เขาตะโกนใส่หน้าสเนปราวกับคนเสียสติ  แต่ชายผมดำยังคงนิ่งเฉย  ดวงตาสีดำที่จ้องมองอีกฝ่ายนั้นไร้แววใด ๆ

    ยังไม่ทันที่สเนปจะตอบอะไรออกมา  เดรโกที่กำลังกระสับกระส่ายเพราะพิษไข้ก็ดิ้นรนหนักขึ้น  ราวกับเด็กหนุ่มกำลังทรมานอยู่ในฝันร้าย  เหงื่อกาฬไหลชุ่มเสื้อคลุมสีดำสนิทของเขา  ใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ 

    นายลูเซียสรุดไปที่ลูกชายของเขาทันที เดรโก....เขาเขย่าตัวลูกชายพลางตบหน้าเบา ๆ แต่เด็กหนุ่มไม่มีท่าทีว่าจะตื่น  ชายผมบลอนด์จึงหันมาทางเซเวอร์รัสอย่างร้อนรน

    สเนปทาบฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของเดรโก  แต่เขาก็ต้องถอนมันออกมาในทันที

    ไข้เขาขึ้นสูงมาก......นี่เป็นอาการเริ่มต้นของคนที่ถูกมนุษย์หมาป่ากัดชายผมดำพูดเรียบ ๆ ขณะที่ใบหน้าของนายลูเซียสนั้นขาวซีดจนแทบจะเป็นสีเดียวกับลูกชาย

    คุณรักษาเขาได้ไหมชายผมบลอนด์กระซิบเสียงแห้งผาก 

    ผมทำได้แค่ช่วยรักษาไข้ให้เขาเท่านั้น  แต่เรื่องการกลายร่าง………” สเนปพูดเพียงเท่านั้น  ก่อนจะยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นและร่ายคาถาไปที่ร่างของเดรโกเบา ๆ ไม่นานนักเด็กหนุ่มจึงมีทีท่าสงบลง  แม้ว่าเขาจะเลิกดิ้นรนแล้วแต่ร่างกายของเขายังคงร้อนรุ่มราวกับไฟเผาอยู่

     หลังจากรักษาอาการเบื้องต้นของเดรโกเรียบร้อยแล้ว  สเนปก็สั่งเอลฟ์ประจำบ้านให้ไปต้มยาสำหรับเด็กหนุ่ม  โดยเขาเขียนวิธีการปรุงยาลดไข้ง่าย ๆ ให้แก่เอลฟ์  ก่อนจะบอกกับนายลูเซียสว่าเขาจะรีบกลับไปปรุงยาสำหรับรักษาไข้และบาดแผลโดยตรงมาให้  ส่วนตอนนี้ให้ชายผมบลอนด์รักษาลูกชายของเขาแบบเบื้องต้นไปก่อน

    แต่คุณบอกผมว่าไม่มีใครสามารถรักษาเดรโกได้ไม่ใช่รึ  ถ้าหากว่าเขากลายเป็น........มนุษย์หมาป่าไปแล้วนายลูเซียสกัดฟันกับคำพูดสุดท้าย

    ผมไม่แน่ใจ  ลูเซียส  ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้  แต่ผมยินดีจะช่วยเท่าที่ผมจะทำได้  บางทีเราอาจจะต้องสอบถามข้อมูลบางอย่างจากเกรย์แบ็กสเนปพูดอย่างเคร่งขรึม  ขณะที่นายลูเซียสมีสีหน้าราวกับเขากำลังเย้ยหยันตัวเอง

    ผมอยากให้คุณบอกผมมาคำเดียวเซเวอร์รัสลูเซียสจ้องลึกเข้าไปในแววตาสีดำสนิทของเพื่อนเก่าของเขา ลูกชายของผมมีโอกาสรอดพ้นจากการเป็นมนุษย์หมาป่าไหม

    สเนปมีท่าทีอึดอัดใจอย่างที่สุดก่อนที่จะตอบออกมา

    เราไม่มีวันรู้ได้เลย  ลูเซียส......เขากลืนน้ำลาย  จนกว่าเดรโกจะกลายร่าง

    หลังจากได้รับคำตอบ  ชายผมบลอนด์ราวกับถูกความจริงที่รุนแรงยิ่งกว่าคาถาสะกดนิ่งอัดใส่ร่างใบหน้าของเขาขาวซีดจนแทบไม่มีสีเลือดพอ ๆ กับหน้าของเดรโก  นายลูเซียสนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นเรียบเฉยราวดูราวกับเขาทำใจยอมรับคำพูดของเซเวอร์รัสได้  แต่ในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นดวงตาสีเงินที่ว่างเปล่าของนายมัลฟอยก็เปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด  มือสวมถุงมือกำไม้กายสิทธิ์แน่นก่อนที่เขาจะเดินไปที่ประตู

    สเนปเรียกเขา  แต่นายลูเซียสไม่แม้แต่หันกลับมามอง  จนกระทั่งชายผมดำเดินตามเขาออกมานอกห้อง  สเนปถึงรู้ว่าเพื่อนเก่าของเขากำลังมุ่งหน้าไปยังปีกตะวันตกของคฤหาสน์โดยไม่หันฟังเสียงเรียกของเขาแต่อย่างใด

     

    .................................................

     

    เฮอร์ไมโอนี่กำลังล่องลอยอยู่ในความฝันถูกกระชากให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริงที่โหดร้ายเมื่อเสียงเปิดประตูห้องนอนของเธอดังสนั่นขึ้น  เด็กสาวลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างยากลำบาก  แต่ก่อนที่เธอจะได้หันหลังไปดูว่าผู้มาเยือนเป็นใครนั้น  เธอก็ถูกมือที่มองไม่เห็นกระชากขึ้นมาจากเตียง  มือล่องหนนั้นบีบคอเธอไว้และบังคับให้เธอลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเจ้าของคาถา

    ผู้ที่เสกคาคาใส่เธอนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูเซียส  มัลฟอย  พ่อของเดรโก  ใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธระคนรังเกียจนั้นดูราวกับใบหน้าของปีศาจร้ายในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวพยายามดิ้นรนด้วยความตกใจเพราะมือล่องหนของนายลูเซียสนั้นกำลังบีบคอเธออย่างแรงจนเธอหายใจไม่ออกขณะที่มันลากร่างของเธอลงมายังพื้นแทบเท้าชายผมบลอนด์

    นายลูเซียสมองดูภาพเฮอร์ไมโอนี่ทุรนทุรายด้วยความสมเพช  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คิดว่ามันยังไม่สาสมกับสิ่งที่เธอได้ทำกับไว้ลูกชายของเขา  เขาจึงกระดกไม้กายสิทธิ์อีกครั้งเพื่อสั่งให้มือล่องหนนั้นยกใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาเผชิญหน้าเขา  นายมัลฟอยมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเด็กสาวด้วยความโกรธแค้นเกินกว่าที่เขาจะสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถระบายมันออกมาจากการลงโทษเธอได้!

    แกทำได้แสบมากนะ  นังเลือดสีโคลน   ลูกชายของฉันต้องบาดเจ็บก็เพราะแก!” เขาเค้นแต่ละคำพูดออกมาจากปากด้วยความเคียดแค้น  ขณะนั้นเองไม้กายสิทธิ์ในมือของนายลูเซียสก็ยกสูงขึ้น  ดวงตาสีเงินของเขามองเด็กสาวเลือดสีโคลนตรงหน้าราวกับหมาป่าที่เห็นเหยื่ออันโอชะ  เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงอย่างหวาดกลัว  เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง!

    แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น  ก่อนที่นายลูเซียสจะร่ายคาถากรีดแทงใส่เธอ  ร่าง ๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้นเสียก่อน  แม้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นหนึ่งในคนที่เด็กสาวไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ก็ตาม  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็นึกขอบคุณเขาไม่น้อยที่เขาเข้ามาขัดจังหวะการทรมานเธอของนายลูเซียส

     

    เซเวอร์รัส  สเนปก้าวเข้ามาในห้องนอนอันแสนจะคับแคบของเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะมองเพื่อนเก่าแก่ของเขาอย่างแปลกใจ

    คุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่  ลูเซียสชายผมดำถามด้วยน้ำเสียงที่แสนจะธรรมดา  แต่ถ้อยคำนั้นเหมือนจะเป็นการปรามนายลูเซียสทางอ้อม

    ลูเซียสหันมามองหน้าสเนปแต่เขาก็ยังไม่ละไม้กายสิทธิ์จากเฮอร์ไมโอนี่

    แกก็รู้ว่าฉันกำลังจะทำอะไร!  ฉันจะแก้แค้นนังเลือดสีโคลนนี่ที่มันบังอาจทำให้เดรโกได้รับบาดเจ็บจนต้องเป็นแบบนี้!” ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด

    อันที่จริงผมก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องนี้หรอกนะ  เพียงแต่ว่าผมไม่เห็นว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาจากการที่คุณทรมานมิสเกรนเจอร์แบบนี้เขาพูดด้วยท่าทีที่เรียบเฉย อีกอย่างคุณก็น่าจะรู้ว่าเจ้านายประสงค์ที่จะเก็บชีวิตของเธอไว้เพื่ออะไรเพราะประโยคนี้เองที่ทำให้นายลูเซียสละไม้กายสิทธิ์จากเด็กสาว  ดวงตาสีเงินที่มองเพื่อนผู้เสพความตายของเขานั้นเต็มไปด้วยเพลิงแค้นจนมันแทบจะลุกเป็นไฟ

    ฉันเชื่อว่าจอมมารไม่สนหรอกว่าเหยื่อล่อของท่านจะอยู่ในสภาพไหน  ตราบใดที่มันสามารถล่อพอตเตอร์ให้มาติดกับของท่านได้ชายผมบลอนด์ตวาด  แต่สเนปยังคงมีทีท่าเรียบเฉย

    แล้วถ้าหากท่านสนล่ะ  ลูเซียส  ผมแน่ใจว่าท่านคงไม่ชอบใจแน่นอนถ้าหากว่าคุณทำร้ายเหยื่อล่อของท่านจนเสียสติ  โดยที่ท่านไม่ได้ออกคำสั่งให้คุณทำ

    นายลูเซียสสาวเท้าเข้ามาอยู่ตรงหน้าสเนปโดยข้ามร่างที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวของเฮอร์ไมโอนี่ไป

    ไหนบอกผมซิ  ว่าถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไง  ถ้าลูกชายของคุณตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกับเดรโก  เพราะนังเลือดสีโคลนคนนี้แววตาสีเงินคู่นั้นมองเซเวอร์รัสอย่างขุ่นเคือง  ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเบา ๆ ในเชิงเยาะเย้ย แต่คุณคงไม่มีวันเข้าใจหรอกเซเวอร์รัส  เพราะคุณไม่มีครอบครัว  ไม่มีทายาทสืบสกุลอย่างผม

    แววตาสีดำที่สเนปใช้มองชายผมดำนั้นดูสุขุมเสียจนมันยากที่จะอ่านว่าเขาโกรธเคืองกับคำพูดนั้นหรือไม่  หลังจากนั้นไม่นานชายผมดำก็พูดออกมา  ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเฉกเช่นเคย

    ที่ผมห้ามคุณไม่ให้ทรมานมิสเกรนเจอร์เพราะผมเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้น  ตรงกันข้ามเธออาจจะมีประโยชน์ขึ้นมาสำหรับคุณหากคิดในอีกแง่หนึ่ง  เพราะว่าเธออยู่ในเหตุการณ์คืนที่เดรโกถูกมนุษย์หมาป่าทำร้าย  และความทรงจำของเธออาจจะบอกเราในสิ่งที่ผมไม่สามารถค้นมาจากใจของเดรโกได้เขาอธิบาย  นายลูเซียสมีสีหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก  เขาหันไปมองร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป  แต่มันยังคงความรังเกียจเดียดฉันท์ในสถานะทางเลือดของเธอไว้เหมือนเคย

    คุณคิดว่าความทรงจำของนังเลือดสีโคลนนี่จะบอกเราได้หรือว่าเดรโกถูกมนุษย์หมาป่าทำร้ายอย่างไรบ้างนายลูเซียสถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่มั่นใจ  สเนปพยักหน้าให้เขาเบา ๆ

    ผมคิดเช่นนั้นเข่าวา

    ถ้าคุณคิดว่าอย่างนั้นก็ลงมือเสียสินายลูเซียสพูด  เขารู้ดีว่าสเนปเชียวชาญทางด้านพินิจใจมากกว่าเขาเพียงแต่เขาไม่อยากพูดออกมาเท่านั้น

    สเนปที่เหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้ววว่าลูเซียสต้องการสื่ออะไรในคำพูดนั้นก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นชี้ไปที่เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งมีสีหน้าอ่อนแรงและหวาดกลัว

    เลกจิลิเมนส์!”

     ชายผมดำพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเจาะเข้าไปในใจของเด็กสาว

     

     
     

     

     

    *************************************************

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×