ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    ลำดับตอนที่ #26 : ความแค้นเคืองของรอน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.48K
      102
      3 ต.ค. 48

    ***Chapter 26  ความแค้นเคืองของรอน***



    เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าเธอไม่ควรจะยืนอยู่ตรงนี้  และเธอก็ไม่ควรจะมาเห็นภาพเบื้องหน้าของเธอเลย ! แต่ถึงรู้อย่างนั้นเด็กสาวก็ไม่สามารถละสายตาจากสิ่งที่เธอเห็นได้เช่นเดียวกับที่เธอไม่อาจพาตัวเองออกไปจากที่ตรงนั้นได้  ถึงแม้ว่าเธอจะต้องการเพียงไรก็ตาม  แต่ตอนนี้ขาทั้งสองของเธอนั้นไม่ยอมขยับเขยื้อน  ราวกับว่ามันแข็งเป็นหินไปเสียแล้ว

    เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอยืนอยู่ตรงนั้นมานานเท่าไหร่  แต่เด็กสาวเพิ่งจะรู้ตัวเมื่อได้ยินเสียงของมัลฟอยพูดขึ้นเบา ๆ

    “กลับเข้าข้างในกันเถอะ” แพนซี่เงยหน้าขึ้นมาสบตามัลฟอย

    “แต่ฉันยังอยากอยู่กับเธอต่อนี่เดรโก” น้ำเสียงของหล่อนฟังดูออดอ้อน

    “วันหลังก็ยังมีเวลา” มัลฟอยพูดขึ้น  สีหน้าและแววตาที่มองแพนซี่นั้นไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ แต่ก็ไม่ได้มีแววรำคาญปรากฏขึ้นมา “ตอนนี้ก็มืดแล้ว”

    “ก็ได้” แพนซี่พูดเสียงอ่อน  และร่างทั้งสองก็ออกเดินไปในทิศทางเดียวกับตอนที่มา

    เฮอร์ไมโอนี่รอจนกระทั่งแพนซี่และมัลฟอยเดินไปไกลพอสมควรแล้วเธอจึงออกมาจากหลังรูปปั้น  เด็กสาวได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยของทั้งสองที่ค่อย ๆ เบาลงจนกระทั่งเลือนหายไป  หนังสือเล่มหนาก็หนักร่วงหล่นลงจากมือของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวก้มลงไปเก็บมัน  พร้อมกับน้ำตาของเธอที่หยดลงบนปกหนังสือ !!!

    เฮอร์ไมโอนี่เช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว  แววตาสีน้ำตาลดูปวดร้าว !  ไม่นานเด็กสาวก็ทรุดตัวลงกับพื้น  และร้องไห้ราวกับจะขาดใจ!!!

    ทำไม  ทำไมเธอต้องทำกับฉันอย่างนี้ด้วยมัลฟอย!

    ทั้ง ๆ ที่เธอเคยบอกฉัน  เธอเคยบอกฉันว่าเธอไม่มีวันรักแพนซี่!



    คนที่ฉันคิดจะรักก็มีเพียง  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์เท่านั้น



    เธอเคยบอกฉันว่าจะบอกแพนซี่อย่างนั้นไม่ใช่รึ  แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงทำแบบนี้!

    น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ไหลอาบแก้ม !!!

    หรือเพราะว่าฉันหลอกลวงเธอใช่ไหม  เพราะว่าฉันใช้ยาเสน่ห์กับเธอเหรอ  หรือเพราะว่าฉันเคยรักแฮร์รี่ใช่ไหม  เธอถึงไม่ต้องการฉันอีกต่อไป



    ฉันต้องการเธอและฉันอยากให้เธอมาเป็นของฉัน

    ฉันจะทำให้เธอเป็นของฉันให้ได้  ทั้งตัวแล้วก็หัวใจ  จำคำของฉันไว้ให้ดีล่ะ




    เธอเคยพูดอย่างนั้นไม่ใช่รึมัลฟอย  แล้วทำไมตอนนี้เธอถึงไม่ต้องการฉันอีกแล้วล่ะ  แล้วทำไมเธอถึงต้องการคนอื่นนอกจากฉันล่ะ  เพราะว่าฉันทำผิดต่อเธอใช่ไหม  ฉันถึงต้องสูญเสียเธอไป

    แต่ฉันไม่อยากจะสูญเสียเธอไป!

    เสียงเหล่านั้นดังก้องอยู่ในหัวสมองของเฮอร์ไมโอนี่  ใช่  เธอไม่อยากจะสูญเสียเขาไปเลย  เธอไม่ต้องการที่จะเสียเขาไปเลย  เพราะตอนนี้เธอก็เพิ่งรู้เองว่า  เธอรักเขามากแค่ไหน  และเธอเจ็บปวดแค่ไหนที่เธอเห็นเขาทำแบบนั้นกับคนอื่น

    เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าลงกับฝ่ามือ  ราวกับต้องการให้มันรองรับความโศกเศร้าของเธอเอาไว้  แต่แล้วเด็กสาวก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังก้องระเบียงทางเดิน!



    *************************************************



    เฮอร์ไมโอนี่รีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว  และรีบเก็บหนังสือทั้งหมดบนพื้นและถือมันไว้ในอ้อมแขน  สายตาของเธอมองผ่านความืดไปเห็นเงาของร่างหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางเธอ  เสื้อคลุมสีแดงสะบัดพลิ้วไหวภายใต้แสงจันทร์  จนกระทั่งร่างนั้นเข้ามาใกล้คบไฟ  ผมสีแดงของเขาก็สะท้อนแสงไฟเป็นประกายสีเพลิง  รอนนั่นเอง ! เขาสวมเสื้อคลุมควิดดิช  ผมสีแดงดูยุ่งเหยิง  เด็กหนุ่มเดินมาทางเฮอร์ไมโอนี่  ในมือหนึ่งถือไว้กวาดไว้

    “เฮอร์ไมโอนี่  เธอออกมาทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ อย่างนี้เนี่ย” เขาถาม

    “ฉัน.....ออกมาคืนหนังสือน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับกระชับหนังสือในอ้อมแขน

    “แต่ฉันว่าตอนนี้ห้องสมุดน่าจะปิดแล้วนะ” เด็กหนุ่มแย้ง

    “ใช่  ฉันมาไม่ทันน่ะ  ก็เลยกะจะกลับหอ  เธอล่ะรอน” เด็กสาวถามกลับบ้าง

    “ฉันเพิ่งซ้อมเสร็จ  แอนเจลิน่ากักตัวฉันไว้เป็นคนสุดท้ายทุกทีเลย  เธอบอกว่าฉันต้องซ้อมหนักกว่าคนอื่น ๆ อย่างกับฉันเป็นตัวถ่วงของทีมอย่างนั้นแหละ” รอนบ่นออกมาอย่างเบื่อหน่าย  เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะออกมาเบา ๆ แต่เสียงของเธอที่ดังออกมากลับตรงข้ามกับความรู้สึกของเธอโดยสิ้นเชิง  รอนมองเธออย่างแปลกใจ

    “ฉันว่ามันดึกแล้วนะ  เรากลับหอกันก่อนที่ฟิลซ์จะมาเจอเถอะ” เด็กสาวเสนอ  และหันหลังให้รอนอย่างรวดเร็ว  

    “เธอเป็นอะไรรึเปล่าเฮอร์ไมโอนี่” เด็กหนุ่มถาม  

    “เป็นอะไรที่ไหนกันล่ะ” เธอตอบอย่างฝืน ๆ รอนมองเธออย่างสงสัย  ก่อนที่เขาจะจ้องเข้าไปในแววตาเธอ  และคว้าตัวเธอเข้ามาใกล้

    “เธอร้องไห้นี่” รอนพูดเบา ๆ เขาสังเกตุเห็นได้ว่าใบหน้าและดวงตาของเธอมีคราบน้ำตาอยู่จากแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามา  

    “ฉัน......” เด็กสาวอึกอัก

    “ใครทำอะไรเธอเฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอยใช่ไหม” รอนถามเสียงดัง  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น  เธอรู้สึกว่าน้ำตาของเธอกำลังจะไหลมาอีกรอบ

    “บอกฉันสิเฮอร์ไมโอนี่” รอบเขย่าตัวเธออย่างร้อนรน  

    “มัลฟอยใช่ไหม  เจ้านั่นมันทำอะไรเธอ  มันรังแกอะไรเธอ!” รอนถาม “มัลฟอยมันทำอะไรเธอเธอถึงเป็นแบบนี้!” น้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่คลอเอ่อดวงตา  เสียงของรอนดังก้องอยู่ภายในหัวสมองของเฮอร์ไมโอนี่

    มัลฟอย  มัลฟอย  มัลฟอย

    ฉันรักเธอมัลฟอย!

    “ฮือ ๆ ๆ ๆ ” เสียงสะอื้นดังขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลออกมาอย่างยากที่จะกลั้น  รอนมองภาพของเฮอร์ไมโอนี่อย่างสงสาร  ก่อนที่จะตัดสินใจคว้าตัวเธอมาโอบกอดไว้ในทันที!

    “มันทำอะไรกับเธอเฮอร์ไมโอนี่!” รอนถามพร้อมกับกอดร่างที่สั่นเทาของเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น  แต่ก็ยังคงไม่มีถ้อยคำใดหลุดมาจากปากของเธอนอกจากเสียงสะอื้น

    “อะไรก็ตามที่มันทำไว้กับเธอ  ฉันรับรองว่ามันต้องได้รับกลับคืนอย่างสาสมแน่” รอนพูดอย่างหนักแน่น  แววตาของเขาทอประกายอย่างมุ่งมั่น  และมันเต็มไปด้วยความแค้นมากกว่าครั้งไหน



    *************************************************



    หลังจากที่ปลอบเฮอร์ไมโอนี่ให้สงบลงได้แล้ว  รอนก็พาเธอกลับหอนอนและเดินไปส่งเธอที่เชิงบันไดหอนอนหญิง  ก่อนที่จะบอกราตรีสวัสดิ์เธอ  รอนได้ถามเฮอร์ไมโอนี่เป็นครั้งสุดท้ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  ซึ่งแน่นอนว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมบอกเขาแต่อย่างใด

    .................................................

    ยิ่งใกล้การแข่งขันควิดดิชรอบชิงชนะเลิศระหว่างกริฟฟินดอร์และเรเวนคลอมากขึ้นเท่าไหร่  ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกริฟฟินดอร์กับสลิธีรินก็จะยิ่งตรึงเครียดมากขึ้นเท่านั้น  ทุกคนในโรงเรียนต่างรู้ดีว่าสลิธีรินเจ็บใจที่พ่ายแพ้ในการแข่งขันคราวก่อน  และก็ไม่มีนักเรียนบ้านสลิธีรินคนไหนที่ต้องการให้บ้านคู่แข่งตลอดกาลอย่างกริฟฟินดอร์ชนะเลิศในการแข่งครั้งนี้  และความคับแค้นใจของสลิธีรินนั้นก็ถูกระบายด้วยการสาปเด็กกริฟฟินดอร์ให้มีต้นหอมหรือผักเขียวงอกออกมาจากจมูกทุกครั้งที่มีการเดินสวนกันตามระเบียงทางเดิน  แม้ว่าทุกคนจะรู้ดีว่าสลิธีรินมักจะเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนเสมอ  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กลับแตกต่างจากที่ทุกคนคิดโดยสิ้นเชิง

    หลังจากที่เสียงออดหมดเวลาเรียนดังขึ้น  นักเรียนทั้งยี่สิบคนในห้องเรียนสเนปต่างเก็บข้าวของ  อุปกรณ์ปรุงยาและตำราต่าง ๆ ลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะเด็กกริฟฟินดอร์ที่ต้องการจะออกไปจากคุกใต้ดินให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาหรือเธอจะทำได้

    ขณะที่มัลฟอยกำลังจะออกจากห้องเรียน  หลังจากที่เด็กส่วนใหญ่ออกจากห้องกันไปจนหมดแล้ว  เมื่อมัลฟอยเงยหน้าขึ้นหลังจากที่เขายุ่งอยู่กับการเก็บของต่าง ๆ เข้ากระเป๋า  ภาพแรกที่เขาพบก็คือรอน

    มัลฟอยมองเขาอย่างไม่สนใจและยกกระเป๋าขึ้นพาดบ่า  แต่รอนกลับมาขวางทางของเขาไว้

    “ถอยไปวีสลีย์” มัลฟอยพูดเรียบ ๆ แต่รอนไม่ขยับ

    “ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าแกจะบอกมาว่าแกทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดขึ้น  

    “แกหมายความว่ายังไง” มัลฟอยพูด  

    “แกก็น่าจะรู้อยู่กับใจนี่  ว่าเมื่อวานแกทำอะไรเธอ” รอนพูด

    “ฉันไม่ได้ทำอะไรยัยเลือดสีโคลนนั่น” มัลฟอยตอบอย่างเรียบเฉย

    “โกหก!” เสียงของรอนสั่นด้วยโทสะ “ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใครมัลฟอย  แกทำอะไรเธอ  เธอถึงมานั่งร้องไห้อยู่บนระเบียงทางเดินคนเดียวแบบนั้น  แกพูดจาดูถูกอะไรเธออีก” รอนว่า  หูของเขาเริ่มแดงด้วยความโกรธ

    สีหน้าของมัลฟอยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่รอนพูด

    ระเบียงทางเดินอย่างนั้นหรือ

    มัลฟอยครุ่นคิดอย่างสงสัย  หรือว่าเธอเห็นที่เขากับแพนซี่......

    “แกบอกฉันมานะว่าแกทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่!” รอนพูดเสียงดัง  มัลฟอยมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

    “ฉันไม่ได้ทำอะไรยายเลือดสีโคลนนั่นแม้แต่น้อย  และฉันก็รังเกียจยายนั่นจนแทบไม่อยากจะสูดอากาศร่วมโลกด้วยแล้ว  แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องไปยุ่งกับยายเลือดสีโคลนสกปรกโสโครกนั่น!” มัลฟอยพูดอย่างร้ายกาจ  รอนคว้าไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาทันที!

    “แก!!!” ปลายไม้กายสิทธิ์ของรอนตวัดไปจ่อคอของมัลฟอยอย่างรวดเร็ว  พร้อม ๆ กับประตูคุกใต้ดินที่เปิดออก

    “รอน!” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้นเมื่อเธอเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า  

    “อย่ารอน!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องก่อนจะวิ่งมาห้ามเด็กหนุ่ม  รอนมองเธออย่างไม่เข้าใจ

    “เธอมาห้ามฉันทำไมเฮอร์ไมโอนี่  เจ้านี่มัน  เจ้านี่มันรังแกเธอไม่ใช่รึ” รอนหันมาคาดคั้นความจริงจากเธอ  เด็กสาวก้มหน้าเงียบ

    “อย่าเลยรอน  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาหรอก” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ที่ดังขึ้นมานั้นแผ่วเบายิ่งนัก

    “เฮอร์ไมโอนี่?”

    “ฉันขอร้องเถอะรอน  อย่ามีเรื่องกันเลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับมองรอนในเชิงขอร้อง  เด็กหนุ่มยอมลดไม้กายสิทธิ์ลงโดยดี  แม้ว่าแววตาที่เขามองมาทางมัลฟอยจะยังคงแสดงความเคียดแค้นอยู่ก็ตาม

    “เราไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบา ๆ และดึงรอนออกมาจากตรงนั้น  โดยไม่หันกลับมามองเลยแม้แต่น้อย  

    มัลฟอยมองภาพแผ่นหลังของทั้งคู่หายลับไปจากคุกใต้ดินด้วยความรู้สึกสับสนและปวดร้าว  แต่ว่าบางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วก็ได้

    ก็เธอสมควรอยู่กับวีสลีย์มากกว่าเขานี่  มัลฟอยคิดอย่างขมขื่น  โดยเด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่า  เฮอร์ไมโอนี่เองก็คิดเช่นเดียวกันว่า  มัลฟอยสมควรอยู่กับคนที่คู่ควรกับเขามากกว่าเธอ



    *************************************************  



    ผ่านไปหลายวัน  การแข่งขันควิดดิชรอบชิงชนะเลิศระหว่างกริฟฟินดอร์กับเรเวนคลอก็ใกล้เข้ามาทุกที  รอนต้องซ้อมควิดดิชหนักขึ้นทุกวันเพราะการแข่งขันที่ใกล้เข้ามาและแอนเจลิน่าก็หวังกับการแข่งครั้งนี้ไว้มากเพราะปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่ที่นี่แล้ว  แต่ถึงแม้รอนจะต้องใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการซ้อมและเขาก็ต้องมีเวลาให้เพื่อนทั้งสองน้อยลงก็ตาม  แต่สิ่งหนึ่งที่รอนสังเกตเห็นได้ก็คือ  มีบางอย่างที่ผิดปรกติเกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่

    เพราะตั้งแต่วันที่เขาพบเธอที่ระเบียงทางเดินนั้น  เธอก็ดูซึมไปผิดปรกติ  แม้เขาจะถามหลายครั้งหลายหนว่าเธอเป็นอะไร  แต่เธอก็ไม่ยอมตอบ  และถึงแม้ว่ารอนจะมั่นใจแค่ไหนก็ตามว่ามัลฟอยเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้  แต่ทุกครั้งที่รอนพูดถึงเรื่องนี้  เฮอร์ไมโอนี่ก็จะพูดกลับมาว่า  มัลฟอยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย

    แม้ว่ารอนจะไม่อยากปล่อยให้เรื่องนี้เป็นอย่างนี้ก็ตาม  ความจริงแล้วในคุกใต้ดินวันนั้นเขาอยากจะสาปมัลฟอยให้เป็นตัวเฟเร็ตอีกรอบด้วยซ้ำที่บังอาจมาทำให้เพื่อนรักของเขาเป็นแบบนี้  แต่เมื่อรอนเห็นสีหน้าและแววตาที่เฮอร์ไมโอนี่ขอร้องเขาแล้ว  เขาก็ไม่อาจทำแบบนั้นได้  และสิ่งเดียวที่รอนสงสัยอยู่ในขณะนี้ก็คือ  สิ่งที่มัลฟอยทำกับเธอนั้นคืออะไร  อะไรถึงทำให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นเช่นนี้ได้

    หลังจากวันที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นมัลฟอยอยู่กับแพนซี่ที่ระเบียงทางเดินนั่นแล้ว  เธอก็ไม่ได้พูดคุยกับเขาอีกเลย  มีหลายครั้งที่เธอและเขาต้องเดินสวนทางกันตามระเบียงทางเดิน  และทุกครั้งเธอก็จะเห็นเขาอยู่กับแพนซี่ตลอด  ซึ่งนั่นอาจจะหมายความว่าทั้งสองเริ่มคบกันแล้ว  แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเจ็บปวดกับการได้รู้เรื่องดังกล่าว  แต่นั่นก็อาจจะดีแล้วก็ได้  เพราะถึงอย่างไรเรื่องระหว่างเธอกับเขาก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว  และตอนนี้มัลฟอยเองก็คงได้เจอคนที่เขาต้องการมากกว่าเธอ  แต่ถึงเฮอร์ไมโอนี่จะคิดอย่างนั้น  เธอก็ไม่อาจห้ามใจของเธอเองไม่ให้คิดถึงเรื่องนี้ได้

    ในขณะเดียวกันนั้นมัลฟอยเองก็เป็นเช่นเดียวกัน  ทุกครั้งที่เขาอยู่กับแพนซี่  เขาไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้ง  แม้ว่าเธอจะพยายามทำดีกับเขามากมาย  และมัลฟอยก็รู้ดีว่าแพนซี่รักเขา  และอาจจะรักมาก  เพียงแต่ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเธอ  เขาไม่อาจทำใจให้รักเธอได้แม้แต่น้อย  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นในใจของเขามีเพียงผู้หญิงที่ชื่อเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น  และทุกครั้งที่เขาเจอหน้าเธอ  สิ่งที่เขาสังเกตุได้อย่างหนึ่งคือรอนพยายามจะกันเธอออกจากเขาตลอดเวลา  ความจริงตั้งแต่ที่รอนมาหาเรื่องเขาหลังจากวันนั้น  บวกกับอีกหลาย ๆ ครั้งที่เขาพยายามจะปกป้องเฮอร์ไมโอนี่จากมัลฟอย  มัลฟอยเองก็พอจะเดาออกถึงความรู้สึกที่รอนมีต่อเธอได้  แต่ถึงแม้เขาจะไม่พอใจกับเรื่องนี้มากเท่าไร  มัลฟอยเองก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้  เพราะตอนนี้เขาและเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เป็นอะไรกันอีกต่อไป  ความจริงเขาทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดนั่น  มันไม่มีอยู่จริงแม้แต่น้อย

    แต่ถึงจะคิดเช่นนั้น  มัลฟอยก็ไม่อาจสั่งให้ตัวเขาเองลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้เลย

    .................................................

    ในที่สุดการแข่งขันควิดดิชรอบชิงชนะเลิศก็มาถึง  ซึ่งวันนี้เป็นเช้าวันเสาร์ที่อากาศแจ่มใส  นักกีฬาประจำบ้านต่างลงมาทานอาหารเช่นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  แอนเจลิน่าพยายามบอกลูกทีมของเธอว่าอย่าตื่นเต้นกับการแข่งขันครั้งนี้  และให้คิดเสียว่ามันเป็นเพียงการซ้อมครั้งหนึ่งก็ตาม  แต่ดูเหมือนบรรดานักกีฬาที่เหลือจะไม่คิดอย่างเธอเลยแม้แต่น้อย

    “เธอต้องทานหน่อยนะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางพลักจานใส่ไส้กรอกไปทางเขา  แต่รอนกลับทำหน้าพะอืดพะอม

    “ไม่ล่ะ  ฉันไม่ค่อยอยากกิน” รอนพูด  พลางมองไส้กรอกตรงหน้าราวกับมันใส่ยาพิษไว้

    “แต่เธอไม่กินไม่ได้นะ  เดี๋ยวก็ไม่มีแรงกันหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างมีเหตุผล  “แค่ชิ้นเดียวก็ยังดี” เธอพูดต่อ

    รอนจึงยอมจิ้งไส้กรอกขึ้นมาชิ้นหนึ่งด้วยท่าทีฝืน ๆ

    “แค่ชิ้นเดียวนะ” เขาพูด  และเริ่มกัดที่ปลายไส้กรอกเบา ๆ

    “วีสลีย์ได้เวลาแล้ว” เสียงของแอนเจลิน่าดังขึ้นข้างหลังขา  รอนสะดุ้งพร้อมกับวางส้อมลงที่เดิม

    “ฉันไปก่อนนะ” เขาหันมาบอกเพื่อนทั้งสอง  ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ

    “แล้วเราจะตามไปดู” แฮร์รี่พูดขึ้น  แต่ก่อนที่รอนจะเดินตามแอนเจลิน่าไป  เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ก็เรียกเขาไว้ก่อน

    “รอน!” เธอตะโกน “โชคดีนะ” เด็กสาวพูดพร้อมกับยิ้มให้เขา  รอนหันมามองเธอและก็ยิ้มให้เธอในเชิงขอบคุณ  เพราะตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าสิ่งที่รอนต้องการมากที่สุดคือกำลังใจจากคนรอบข้าง  แต่เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอนั้นถูกสายตาหนึ่งมองมาจากทางโต๊ะของบ้านสลิธีริน

    “ตุบ!!!” เสียงก้นแก้วที่มัลฟอยถืออยู่กระแทกพื้นโตะเสียงดังสนั่นจนคนรอบข้างหันมามอง  แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

    “เป็นอะไรรึเปล่าเดรโก” แพนซี่ถามอย่างสงสัย  แม้เธอจะยังคงอาการตกใจไว้ก็ตาม

    “เปล่า” เขาตอบอย่างเฉยเมย  ในขณะที่แววตาสีซีดของเขาที่กำลังมองไปทางโต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์นั้นแทบลุกเป็นไฟ

    “นายจะไปดูการแข่งขันรึเปล่ามัลฟอย” เสียงของแครบดังขึ้น  มันฟังดูหวาดหวั่น

    “แกจะให้ฉันไปเชียร์เจ้าพวกกริฟฟินดอร์มันอย่างนั้นเรอะ” มัลฟอยตะคอกเสียงดัง  จนคนอื่น ๆ สะดุ้ง

    “ฉันเกลียดพวกมัน  โดยเฉพาะเจ้าวีสีลย์นั่น” มัลฟอยกัดฟันพูด  มือของเขากำแน่นรอบแก้วราวกับต้องการบีบมันให้แหลกคามือ

    “แล้วทำไมเราไม่ไปดูการแข่งขันล่ะ” กอยล์พูดขึ้นบ้าง “บางทีวีสลีย์อาจจะอยากให้เราร้องเพลงเชียร์มันก็ได้นะ”

    เขาพูดอย่างนึกสนุก  แครบพยักหน้าตามหงึกหงัก  มัลฟอยมีสีหน้าครุ่นคิด

    “ดีมากแครบ  นั่นเป็นความคิดที่ดีทีเดียว” มัลฟอยพูดขึ้นเบา ๆ   ดวงตาสีซีดฉายแววแค้นเคียงออกมาอย่างชัดเจน



    *************************************************



    ขอโทษด้วยนะคะที่มาอัพช้า  เราเพิ่งสอบเสร็จตอนสิ้นเดือนนี่เอง  พอสอบเสร็จแล้วกะจะมาอัพโทรศัพท์ก็เสียตั้งแต่เมื่อวันก่อน  เพิ่งใช้ได้นี่แหละค่ะ  ยังไงก็ขอโทษเพื่อน ๆ ด้วยนะคะห่างหายไปนาน  เราไม่ว่างจริง ๆ ช่วงที่ผ่านมาอ่านหนังสืออย่างเดียวเลยค่ะ  เครียดมาก ๆ เลย  ตอนนี้ปิดเทอมแล้วคิดว่าน่าจะมีเวลาอัพมากขึ้นนะคะ  ส่วนตอนที่ 27 กำลังปั่นอยู่ค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×