ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศัตรูที่รัก : เรื่องวุ่น ๆหลังแต่งงานของเฮอร์ไมโอนี่กะมัลฟอย

    ลำดับตอนที่ #11 : ความผิดหวังของมัลฟอยและน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.32K
      67
      14 ม.ค. 48

    ตอนที่ 11 ความผิดหวังของมัลฟอยและน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่

    เดรโก  มัลฟอย  กลับมาถึงคฤหาสน์ของเขาเมื่อเวลาห้าโมงเย็น  ชายหนุ่มรีบตรงกลับบ้านทันทีที่เขาเลิกประชุมกับฝ่ายการตลาดซึ่งกินเวลานานเกือบสองชั่วโมง  

    “โอ้  ยินดีต้อนรับนายน้อยกลับบ้านครับ” คุณคลิฟฟอร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม  ในขณะที่มีเอล์ฟประจำบ้านสองตัวเข้ามาช่วยมัลฟอยขนกระเป๋าเอกสาร

    “เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ” มัลฟอยถาม  ในขณะที่พ่อบ้านชรามีท่าทีอ้ำอึ้ง

    “คงไปขลุกอยู่ที่ห้องสมุดล่ะสิท่า” มัลฟอยพูดด้วยรอยยิ้ม  เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่าเฮอร์ไมโอนี่จะอยู่ที่ไหนมากกว่ากันในคฤหาสน์นี้

    “เอ่อ……”

    “มีอะไรรึ?” มัลฟอยถาม  มองพ่อบ้านประจำตระกูลด้วยแววตาสงสัย

    “คือ….” พ่อบ้านชราพยายมเรียบเรียงคำพูด  ขณะที่ในหัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะบอกมัลฟอยว่าอย่างไรดีเรื่องเฮอร์ไมโอนี่

    “มีอะไรที่จะบอกฉันหรือ” มัลฟอยถาม  หรี่ตาลงอย่างสงสัย

    “คือว่า….” คุณคลิฟฟอร์ดอ้ำอึ้ง

    “บอกมา!” มัลฟอยขึ้นเสียงจนพ่อบ้านชราสะดุ้ง

    “เฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ไหน” มัลฟอยพูดกับชายชรา

    “คือว่า  เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ” พ่อบ้านชราพูดขณะที่มัลฟอยจ้องมองเขาด้วยแววตาสีซีดที่ดูเย็นชายิ่งนัก

    “แล้วเธออยู่ที่ไหน  ทำไมถึงไม่ดูแลเธอให้ดี!” มัลฟอยคำรามจนเอล์ฟประจำบ้านที่เหลือสะดุ้งจนทำกระเป๋าเอกสารหลุดจากมือ  พวกมันกระวีกระวาดเก็บมันขึ้นมาอย่างลนลาน

    “เธอ  เอ่อ ……” คุณคลิฟฟอร์คพูดตะกุกตะกัก  ในขณะที่มัลฟอยจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เกือบจะลุกเป็นไฟ

    “จะบอกฉันดี ๆ ไหม” มัลฟอยพูดอย่างเยือกเย็นซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการยื่นฟางเส้นสุดท้ายให้กับเขา

    “เธอออกไปข้างนอกครับ  กับเพื่อนเธอที่ชื่อพอตเตอร์และวีสลีย์ครับนายน้อย”



    *************************************************



    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าเธอถูกดูดเข้าไปในเตาผิง  ในขณะที่ร่างของเธอกำลังหมุนคว้างอยู่นั้นเธอก็พยายามกลั้นหายใจเพื่อที่จะไม่หายใจเอาขี้เถ้าพวกนั้นไป  เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาเดินทางไม่นานนักเธอก็มายืนอยู่ที่เตาผิงในห้องรับแขกของคฤหาสน์มัลฟอยแล้ว  

    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากห้องรับแขกไปยังห้องโถงใหญ่  ซึ่งเธอรู้สึกแปลกใจที่บรรยากาศในบ้านนั้นดูเงียบสงัดและวังเวงพิกล  ปกติแล้วจะมีเอล์ฟประจำบ้านเดินเพ่นพ่านในคฤหาสน์อยู่ตลอดเวลา  แต่คราวนี้เธอกลับไม่เจอใครเลย  ไฟในห้องโถงนั้นถูกเปิดไว้เป็นจุด ๆ มากกว่าจะเปิดไฟทุกดวงที่มี  และนั่นก็ทำให้มันมีลักษณะอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก  นี่ถ้าเป็นครั้งแรก ที่เฮอร์ไมโอนี่มาที่นี่ล่ะก็  เธอคงไม่กล้าเข้าไปในบ้านที่มีบรรยากาศน่ากลัวเช่นนี้เป็นแน่

    เฮอร์ไมโอนี่เดินขึ้นบันไดไปพลางมองหาสัญญาณบ่งบอกถึงการมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่เธอไม่เห็นมัลฟอย  นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้บอกเธอไว้ก่อนแล้วว่าเขาจะกลับดึกในคืนวันนี้  เฮอร์ไมโอนี่จึงเดินเข้าไปที่ห้องนอนของเธออย่างเงียบเชียบ  ก้าวแรกที่เธอเดินเข้าไปเธอก็พบว่าห้องทั้งห้องนั้นมืดสนิท

    “ให้ตายสิ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพลางสะบัดไม้กายสิทธิ์  ในไม่ช้าไฟทุกดวงในห้องก็สว่างขึ้นพร้อมกัน  และนั่นพอทำให้เฮอร์ไมโอนี่มองเห็นร่าง ๆ หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา

    “มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำอย่างตกใจ

    “กลับมาแล้วรึ….” มัลฟอยพูดด้วยเสียงยานคาง  เขาหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่เธอไม่เคยได้รับจากเขา  แววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

    “ไหนบอกฉันซิว่าเธอไปไหนมา” มัลฟอยพูดอย่างเย็นชา  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่นั้นกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก  เธอไม่คิดว่ามัลฟอยจะกลับมาถึงบ้านก่อนเธอ  เพราะเขาบอกเธอเมื่อเช้าว่าจะกลับดึก

    “ฉัน…..ไปข้างนอกมา” เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก  แต่เธอก็พยายามทำตัวเป็นปรกติที่สุด

    “ฉันถามว่าเธอไปไหนมา!” มัลฟอยคำรามพลางลุกขึ้นยืน  แววตาสีซีดอันแสนเยือกเย็นของเขาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโกรธปนผิดหวัง

    “ฉัน……ไป” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก

    “ไปกับไอ้เจ้าพอตเตอร์กับไอ้เจ้าวีสลียใช่มั้ย ?” มัลฟอยตะโกน  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเฮือก  

    ‘ เขารู้ได้อย่างไร ’ หญิงสาวคิดขณะที่ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ

    “ฉัน…..”

    “แล้วมันสองคนพาเธอไปไหนมาบ้างล่ะ เฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยคำรามด้วยความโกรธ “เธอถึงได้กลับมาดึกดื่นขนาดนี้”

    “ฟังฉันอธิบายก่อนได้มั้ย  มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เธอจะอธิบายอะไรอีกล่ะ  ในเมื่อฉันก็รู้เรื่องหมดแล้วว่าเธอไปทำอะไรมาบ้าง” มัลฟอยตะโกน

    “ฉันไปทำอะไรมา?” เฮอร์ไมโอนี่ถามกลับ “ฉันไม่ได้ไปทำอะไรเลย  เราแค่ไปเยี่ยมบ้านรอนเท่านั้น”

    “เธอไปบ้านไอ้เจ้าวีสลีย์นั่นมารึ” มัลฟอยพูดรอดไรฟัน  แววตาสีซีดนั้นกำลังลุกเป็นไฟ

    “ใช่  ฉันก็แค่ไปเที่ยวเฉย ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เธอบอกว่าเธอไปบ้านไอ้เจ้านั่นมาเฉย ๆ งั้นเหรอ  เฮอร์ไมโอนี่!” มัลฟอยคำราม  เขาเอามือสองข้างจับแขนของเธอไว้ “เธอหนีไปบ้านเจ้านั่นโดยไม่บอกฉัน!” มัลฟอยตะโกนเสียงดัง  ในขณะที่มือของเขาก็ออกแรงบีบแขนของเฮอร์ไมโอนี่มากขึ้น

    “ปล่อยนะ  มัลฟอย  ฉันเจ็บ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  แต่ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่ยอมฟังที่เธอพูดเลย

    “เธอไปกับเจ้าพวกนั้น  โดยไม่บอกฉันซักคำ!!!”  มัลฟอยคำรามด้วยความโกรธ

    “ฉันไม่ได้หนีไปไหนนะ  มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เริ่มขึ้นเสียงบ้าง  เธอทนกับการที่มัลฟอยทำตัวไร้เหตุผลอย่างนี้ไม่ไหวแล้ว “แล้วอีกอย่างพวกเขาก็เป็นเพื่อนของฉันนะมัลฟอย  แฮร์รี่กับรอนเป็นเพื่อนฉัน  เราจะไปเที่ยวกันบ้างก็ไม่แปลก” เธอพูด

    “เธอเอ่ยชื่อไอ้เจ้าสองคนนั่นต่อหน้าฉันเหรอ” มัลฟอยพูด  ดูเหมือนว่าที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามอธิบายให้เขาฟังไม่ได้ช่วยให้เขาอารมณ์เย็นลงเลย  แต่มันกลับทำให้เขาโกรธมากขึ้นต่างหาก

    “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ล่ะ  ก็พวกเขาเป็นเพื่อนฉันนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน

    “แต่เธอเป็นเมียฉัน!!!” มัลฟอยตะโกนด้วยเสียงอันดังจนเฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง  เขามองเธอด้วยแววตาที่ยากจะอ่าน “รู้สึกว่าเธอจะลืมไปแล้วนะว่าเราเป็นอะไรกัน  เห็นคงต้องเตือนความจำกันหน่อยแล้วมั้ง”

    ทันที่ที่พูดจบมัลฟอยก็รวบตัวเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและอุ้มเธอไปที่เตียงทันที

    “นี่  เธอจะทำอะไรน่ะ  มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง “ปล่อยนะ!”

    “เธอคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปหาเจ้าพอตเตอร์ง่าย ๆ งั้นเหรอ” มัลฟอยพูดด้วยเสียงเย็นชาก่อนที่จะวางเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเตียงและเริ่มจูบเธอ

    จะเรียกว่าจูบก็ไม่ถูกนัก  เพราะสิ่งที่มัลฟอยกระทำกับเฮอร์ไมโอนี่นั้นต้องเรียกว่าการบดขยี้ถึงจะถูก  เพราะสิ่งนั้นดูรุนแรงจนไม่เหลือภาพที่มัลฟอยเคยจูบเธอเมื่อก่อนเลยแม้แต่น้อย  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรน  แต่กำลังของเธอไม่อาจสู้แรงของมัลฟอยได้  เฮอร์ไมโอนี่ทำได้แค่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนของเขาเท่านั้น

    “ปล่อยฉัน  ปล่อยฉันนะมัลฟอย!!!” เฮอร์ไมโอนี่หวีดร้องอย่างตกใจเมื่อมัลฟอยเริ่มประทับรอยจูบของเขาลงบนลำคอขาวเนียนของเธอ  และจู่ ๆ ภาพ ๆ หนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ



    มันเป็นภาพของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งกำลังคร่อมร่างของเธออยู่  แววตาสีน้ำตาลของชายผู้นั้นดูราวกับไร้แววใด ๆ เขาพยายามที่จะจูบเธอทั้งที่ริมฝีปาก  และที่ลำคอ

    “ไรอันอย่า” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  และเมื่อชายคนนั้นเอื้อมมือมาฉีกเสื้อของเธอจนขาดคามือ!

    “อย่าทำแบบนี้” เฮอร์ไมโอนี่ร้องทั้งน้ำตา



    “ไรอันอย่า” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำชื่อที่แววเข้ามาในหัวเธอออกมาได้อย่างไรนั้นเธอไม่อาจรู้ได้  แต่สิ่งที่ตามมาคือมัลฟอยหยุดชะงักการกระทำของเขาเมื่อได้ยินสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่พูด  เขามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาสับสนและงงงวย

    “เธอจำมันได้” มัลฟอยพึมพำ

    “ใคร?”

    “เธอเอ่ยชื่อมัน” มัลฟอยพูดในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย

    “ฉันเอ่ยชื่อใคร?” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “เธอเอ่ยชื่อมันต่อหน้าฉัน!” มัลฟอยคำราม  แววตาสีซีดนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรนจากอ้อมแขนของเขา  แต่ดูเหมือนว่ามัลฟอยจะไม่มีวันยอมให้เธอออกไปได้  เขาก้มลงไปจูบเธออีกครั้ง  ซึ่งครั้งนี้นั้นรุนแรงกว่าเดิม  

    “อย่านะ  มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  แต่ชายหนุ่มไม่ฟัง  เขาเอื้อมมือไปฉีกเสื้อตัวสวยของเธอจนขาดออกมาอย่างง่ายดายเช่นเดียวกับที่ชายผมสีน้ำตาลเคยทำ  เผยให้เห็นบราสีขาวสะอาดตาท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้าภายในห้อง

    “อย่าทำแบบนี้” เฮอร์ไมโอนี่สะอื้นเมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป  เพราะว่ามือของมัลฟอยนั้นกำลังจะมากระชากบราของเธอออก

    แต่ก่อนที่มัลฟอยจะได้แตะต้องมันก็มีบางสิ่งบางอย่างมาหยุดเขาไว้ก่อน  บางสิ่งทำให้เขาหยุดการกระทำของเขาในทันที

    มันคือน้ำตา! น้ำตาที่รินไหลอาบแก้มขาวเนียนของเฮอร์ไมโอนี่    

    มัลฟอยเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของหญิงสาว  ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น  ตัวของเธอสั่นเทาด้วยความกลัว  และมัลฟอยก็มามองที่สองมือของเขาราวกับสงสัยว่าเขาทำเรื่องเช่นนี้ไปได้อย่างไร  เขามองภาพหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก  น้ำตาใส ๆ ของไหลรินอาบสองแก้ม  เมื่อมัลฟอยเห็นอย่างนั้นก็ทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องเธอมากกว่าสิ่งใด  เพียงแต่ว่าครั้งนี้นั้นคนที่ทำร้ายเธอก็คือตัวของเขาเอง!

    มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามขยับกายออกห่างจากเขาด้วยความหวาดกลัว  

    ‘ เขาทำเธอร้องไห้อีกแล้วสินะ ’



    มัลฟอยค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง  เขาเพื่อหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่ในลิ้นชักข้างเตียงขึ้นมาอย่างลวก ๆ และนำมันมามอบให้หญิงสาว

    “ใส่ซะสิ” เขาพูดพลางยื่นเสื้อคลุมให้เธอ  เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอและไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตั้งตัว

    เพี๊ยะ!

    เธอฟาดผ่ามือเข้าไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มแรง  ใบหน้าซีดเซียวนั้นหันตามแรงตบจากผ่ามือ  มือน้อย ๆ อันเรียวเล็กของเฮอร์ไมโอนี่นั้นเป็นสีแดงเนื่องจากความเจ็บ  แต่ก็ยังไม่เท่าหน้าของชายหนุ่มทีมีรอยมือสีแดงประทับอยู่บนผิวซีดเซียวของเขา

    เฮอร์ไมโอนี่ชักมือกลับ  เธอมองมัลฟอยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง  แต่ชายหนุ่มยังคงไม่ชักมือที่ยื่นเสื้อคลุมให้เธอกลับออกมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะรับมันมาใส่

    “งั้นฉันวางไว้นี่นะ” มัลฟอยพูดด้วยสีหน้าที่แสดงความรู้สึกผิดพร้อม ๆ กับวางเสื้อคลุมลงบนเตียงเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่มองตามเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ

    ในที่สุดมัลฟอยก็เดินจากไปจากห้องนอน  ทิ้งเฮอร์ไมโอนี่นี่เต็มไปด้วยความสับสนไว้คนเดียว

    โดยไม่พูดอะไรแม้เพียงคำเดียว!



    *************************************************



    มัลฟอยเดินออกมาจากห้องนอนด้วยความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามาในอก  เขาปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำจนเขาเกือบจะทำร้ายคนที่เขารักด้วยมือของเขาเอง!

    มัลฟอยทรุดตัวลงตรงบันไดขึ้นที่เชื่อมระหว่างห้องโถงกับห้องนอนของ  เขาเอามือกุมศีรษะ  ความรู้สึกผิดในใจของเขานั้นมีอยู่มากก็จริง แต่ความผิดของเขาก็ไม่ได้น้อยไปกว่ามันเลย  เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการทำร้ายคนที่เขารัก  แถมยังเป็นสิ่งที่เขาสู้อดทนอดกลั้น  และสัญญากับตัวเองเสมอมาว่าจะไม่ทำมันลงไปเป็นอันขาด

    แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองได้



    มัลฟอยนั่งอยู่ตรงนั้นได้ไม่นานนัก  เขาก็สังเกตว่ามีร่าง ๆ หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่  มัลฟอยเงยหน้าขึ้นไปมองมัน

    เอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งยืนอยู่ห่างมัลฟอยประมาณหนึ่งเมตร  มันมองเขาด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ แต่แฝงด้วยความเป็นห่วง

    “นายท่านไม่สบายหรือเจ้าคะ” เอล์ฟสาวตัวนั้นพูดขึ้น  ดวงตากลมโตของมันเหลือกออกเล็กน้อยด้วยความสงสัย

    “ฉันไม่เป็นไร” มัลฟอยตอบเรียบ ๆ และเบือนหน้าไปทางอื่น  หากแต่เอล์ฟตนนั้นกลับเดินเตาะแตะมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้านายของมัน

    “นายท่านมีอะไรให้มีน่าช่วยไหมเจ้าคะ” เอล์ฟสาวนามว่า ‘ มีน่า ’ เอ่ยถาม  มันเหลือกตาโปน ๆ ที่มีขนตาเป็นแผงติดอยู่ขณะที่จ้องมองมัลฟอย

    ตอนแรกมัลฟอยคิดจะไล่มันไปไกล ๆ เสียแล้ว  เพียงแต่เขาคิดอะไรบางอย่างออกเสียก่อน

    “มี” มัลฟอยตอบเสียงแผ่วเบา

    “เจ้านายจะให้มีน่ารักใช้อะไรเจ้าคะ” เอล์ฟตัวนั้นถามด้วยสีหน้าสนใจ “มีน่ายินดีรับใช้  นายท่านเจ้าค่ะ”

    “ช่วยไปดูแลนายหญิงที  เธออยู่ในห้องนอน” มัลฟอยพึมพำด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล



    *************************************************



    หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่นั่งมองแผ่นหลังของมัลฟอยหายลับไปจากห้องนอน  เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง  ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่รินไหลออกมาไม่ขาดสาย  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ต้องการร้องไห้  และเธอก็ไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นฟูมฟาย  เพียงแต่น้ำตาของเธอมันไหลออกมาอย่างที่เธอยากจะหยุดมันเท่านั้นเอง

      เฮอร์ไมโอนี่ยกข้อมือขึ้นมาและมองรอยช้ำน้อย ๆ ที่แขนของเธออันมาจากการกระทำของมัลฟอย  เธอลูบมันเบา ๆ ความเจ็บเล็ก ๆ แล่นผ่านข้อมือของเธอ  เฮอร์ไมโอนี่มองมันด้วยแววตาเลื่อนลอย

    รอยช้ำนั้นอาจจะสร้างความเจ็บให้กับเธอไม่มาก  และก็ไม่มีวันเท่ากับความเจ็บปวดที่จิตใจของเธอได้รับ  เธอไม่เข้าใจว่ามัลฟอยทำมันลงไปได้อย่างไร เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่เคยสุภาพอ่อนโยนกับเธอ  ผู้ชายที่เคยดีกับเธอขนาดนั้น  จะทำแบบนี้กับเธอได้  และถ้ามัลฟอยไม่หยุดการกระทำนั้นกลางคัน  จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป  สิ่งนั้นเธอรู้ดี

    เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มทำกับเธอนั้นไม่ต่างจากการขืนใจเธอซักเท่าไหร่เลย!

    แต่ถ้าลองคิดในอีกด้านหนึ่ง  เขาก็คือ  เดรโก  มัลฟอย  ถึงแม้ว่าเขาจะเคยดีกับเธอยังไง  เคยอ่อนโยนแค่ไหน  แต่เขาก็ยังคงเป็นมัลฟอยอยู่วันยันค่ำ  เฮอร์ไมโอนี่จะไม่แปลกใจเลยถ้าเกิดว่ามัลฟอยที่เธอเคยรู้จักคนก่อนจะทำเรื่องแบบนี้  เพราะถ้าเป็นมัลฟอยคนเดิมที่เฮอร์ไมโอนี่รู้จักล่ะก็เขาสามารถทำเรื่องเลวร้ายได้สารพัด  แต่ที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจก็คือ ‘ มัลฟอยคนนี้ ’ ทำไมถึงได้ทำเรื่องแบบนี้

    น้ำตาอีกหยดรินไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง  พร้อม ๆ กับการปรากฏตัวของร่าง ๆ หนึ่งที่ปลายเตียงด้วยเสียงป็อบเบา ๆ

    เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองร่างนั้น  มันคือเอล์ฟประจำบ้านตัวหนึ่งในจำนวนหลาย ๆ ตัว  แต่เอล์ฟตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่น ๆ ที่เฮอร์ไมโอนี่เคยเห็น  มันแต่งกายด้วยผ้าม่านสีชมพูที่มีรอยปะอยู่หลายจุด  และมันก็ผูกโบสีเดียวกันตรงคอ  ผ้าม่านนั้นจับจีบเล็ก ๆ จนทำให้ชุดของมันบานออกคล้ายกระโปรงสุ่ม  จากที่เฮอร์ไมโอนี่สังเกต  เธอคิดว่าเอล์ฟตัวนี้เป็นผู้หญิง  

    “นายท่านให้มีน่ามารับใช้นายหญิง” เอล์ฟนามว่ามีน่าเอ่ยขึ้นมามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยดวงตากลมโตที่เบิกกว้างของมัน  ก่อนที่มันจะสะบัดหัวแรง ๆ “ไม่ใช่สิ  นายท่านสั่งให้มีน่ามาดูแลนายหญิง” มันแก้ให้ถูก

    เฮอร์ไมโอนี่มองเอล์ฟตัวนั้น ‘ มัลฟอยใช้มันมาเหรอ ’

    “ฉัน……ไม่เป็นไร” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ

    “นายหญิงเป็น” มีน่าเถียง “เธอเห็นนายหญิงร้องไห้” มันพูดกับเฮอร์ไมโอนี่  หญิงสาวเอามือปาดน้ำตา

    “ฉันไม่เป็นไรแล้ว  เธอไปทำงานอย่างอื่นเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ไม่ได้เจ้าค่ะ” มีน่าส่ายหัวดิก “งานของเธอคือดูแลนายหญิง  นายท่านสั่งให้เธอทำ” มันยืนกรานอย่างนั้น  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองมันอย่างจนใจ

    “ตามใจเธอ” พูดพลางลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำ  และมีน่าก็เดินตามเธอมาด้วย

    “เธอไม่ต้องตามฉันมาหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัน

    “เธอต้องคอยรับใช้นายหญิง  หน้าที่ของเธอคือดูแลนายหญิงเจ้าค่ะ” มันพูด  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวอย่างเสียไม่ได้

    มีน่าคอยตามรับใช้เธอทุกอย่าง  ตั้งแต่เธออาบน้ำไปจนเธอแต่งตัว  เฮอร์ไมโอนี่พร่ำบอกมันว่าไม่จำเป็นต้องทำ  แต่มีน่าก็ยังจะดึงดันว่าเป็นหน้าที่ของมัน  จนเมื่อเฮอร์ไมโอนี่อาบน้ำเสร็จ  มีน่าก็พบว่าเฮอร์ไมโอนี่มีรอยช้ำอยู่ที่แขน

    “นายหญิงบาดเจ็บ!” มีน่าร้องอย่างตกใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างจนดูคล้ายลูกเทนนิส

    “ไม่เป็นไร  แค่รอยช้ำน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกมัน

    “ไม่ได้เจ้าค่ะ  เธอต้องดูแลนายหญิงอย่างดี  ถ้านายท่านรู้ว่านายหญิงบาดเจ็บเธอจะโดนตำหนิ” มันพูดด้วยท่าทีตกใจเกินจริง

    “เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปาก “นายท่านของเธอห่วงฉันขนาดนั้นเชียวเหรอ”

    “เจ้าค่ะ” เอล์ฟสาวยืนยัน “นายท่านห่วงและรักนายหญิงมาก”

    ‘ แล้วคนที่รักกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ ’ เฮอร์ไมโอนี่คิด

    “อย่างวันนี้ตอนที่นายท่านกลับมาแล้วไม่เจอนายหญิง  นายท่านเป็นห่วงนายหญิงมาก” มันเล่า

    “เขาโกรธฉันมากกว่า” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ค่ะ  นายท่านโกรธ” มีน่าบอก “แต่ท่านก็เป็นห่วงนายหญิงมากนะเจ้าคะ  นายท่านถึงสั่งให้มีน่ามาดูแลนายหญิ……” เอล์ฟสาวพูด  

    “เขาคงรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่เถียง  เอล์ฟสาวมองเจ้านายของมันอย่างจนใจและก่อนที่มันจะได้อ้าปากพูดอะไรออกมา  เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบเปลี่ยนเรื่องเสียก่อน

    “ปกติเธอมีหน้าที่อะไรมีน่า  ฉันไม่เคยเห็นเธอเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ปกติเธอทำงานในห้องครัว” เอล์ฟสาวตอบ “เธอมีหน้าที่ทำอาหารให้นายท่านกับนายหญิง”

    “เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “แต่ตอนนี้เธอว่างงาน” มีน่าเริ่มพูด “ความจริงก็มีงาน  เพราะนายท่านสั่งให้เธอทำอาหารชุดใหญ่ไว้สำหรับนายท่านกับนายหญิง” มีน่าพูดอย่างลืมตัว  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองมันด้วยท่าทีประหลาดใจ

    “สำหรับมัลฟอยกับฉัน?” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างสงสัย “ก็วันนี้มัลฟอยมีนัดกับลูกค้านี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามในขณะที่เอล์ฟสาวอึกอัก

    “บอกฉันมาเถอะ  มีน่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอ่อนโยน

    “เธอไม่ควรบอกเรื่องนี่กับนายหญิง” มีน่าพึมพำ

    “บอกฉันเถอะ  มันมีอะไรงั้นเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เอล์ฟสาวมันท่าทีลังเลก่อนที่จะพูดออกมา

    “นายท่านสั่งให้ห้องครัวทำอาหารอย่างดีสำหรับนายหญิง  เพราะว่าวันนี้…” มีน่าอึกอัก

    “วันนี้ทำไม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย

    “วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของนายท่านกับนายหญิง”



    *************************************************



    มาอัพแร้วน้า  แล้วก็ขอแรงผู้อ่านช่วยเม้นด้วยจ้า  คนแต่งจาได้มีกำลังใจ  ( หมู่รี้คนเม้นน้อยจัง T-T ) มีหลายคนแซวว่ามัลดีฟโดยสึนามิถล่มไปแร้วนะจะไปเที่ยวได้ไง คือว่า  เราวางโครงเรื่องไว้อย่างนี้น่ะ  มัลฟอยตกลงจะไปมัลดีฟตั้งแต่ตอนแรก ๆ เรย  ไม่รู้ว่าจะโดนคลื่นยักษ์ถล่มนี่คะ แล้วฝากเพื่อน ๆ รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ ก่อนที่จะเป็นหวัดงอมแงมเหมือนเรา  ฮัดชิ่ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×