ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ปะทะคารม
หวัดดีค่ะเพื่อน ๆ ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้อัพนานเพราะตอนนี้ยุ่งมากเลยใกล้สอบแล้ว  แล้วพิกซี่ยังมาป่วยเป็นไข้หวัดอีก  อ้อแล้วสำหรับเพื่อน ๆ ที่อ่านตอนที่ 8 เขตหวงห้ามพิกซี่ต้องขอโทษด้วย  เพราะตอนที่เราลงตอนแรกมันส่งไม่ไป แต่พอเราไปเช็คดูมันก็ลงให้เรียบร้อยแล้ว  เราก็ไม่ได้คิดอะไร  แต่พอเข้าไปดูเนื้อหาปรากฏว่ามันลงให้เราไม่ครบซึ่งตอนนี้เราก็แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว  แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนหนที่ยังอ่านไม่ครบล่ะก็เข้าไปอ่านใหม่ก่อนอ่านตอนที่ 9 แล้วกันนะ  พิกซี่ต้องขอโทษจริง ๆ
ตอนที่ 9  ปะทะคารม
เฮอร์ไมโอนี่ตกใจเล็กน้อยที่เห็นซิลเวียอยู่ที่นี่แทนที่จะเป็นมาดามพินซ์  แล้วเธอก็ดันมาเห็นเฮอร์ไมโอนี่ในสภาพแบบนี้อีก  เฮอร์ไมโอนี่รีบผละออกจากอ้อมกอดของไรอันและลุกขึ้นโดยที่เธอพยายามที่จะไม่เหยียบหนังสือที่หล่นลงมาจากชั้น
“เกรนเจอร์กับครัม”  ซิลเวียพึมพำมองทั้งสองด้วยสายตาดูแคลน
“อรุณสวัสดิ์ครับ  มิสเดอ  เวซอง”  ไรอันทักเธอตามมารยาท  ส่วนซิลเวียนั้นทำหน้าเหมือนกับว่าไม่อยากเสวนากับพวกเขาทั้งสองเท่าไรนัก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ  มิสเตอร์ครัม”  เธอทักอย่างเสียไม่ได้  “อ้อ  คุณด้วยนะคะ  มิสเกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มเสแสร้งมาให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังพยายามทำสีหน้าเรียบเฉยอยู่
“เหมือนกันค่ะ  มิสเดอ  เวซอง”  ตอบเธอตามมารยาทเช่นเดียวกับที่ซิลเวียตอบไรอัน  ทั้งสองต่างจ้องตากันอยู่เนิ่นนานโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย  จนไรอันกลัวว่ามันจะเกิดสงครามเย็นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ  คุณมาที่นี่บ่อยไหมครับ”  ไรอันถามซิลเวียเพื่อต้องการกำจัดความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไปซะ  แต่ดูเหมือนมันจะให้ผลเป็นตรงข้าม
“ก็บ่อยเหมือนกันค่ะ  แต่ฉันก็ไม่นึกว่าจะเจอพวกคุณสองคนที่นี่”  ซิลเวียพูดจงใจเน้นคำว่า  ‘ พวกคุณสองคน ’ ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน  และส่งสายตาที่มีความหมายว่า ‘ ฉันเห็นนะว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่ ’ มาให้เธอ  ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้  และไรอันก็รู้เรื่องนี้ดี  เขาจึงพยายามหาเรื่องมาพูดเพื่อที่จะดับไฟสงครามที่กำลังปะทุอยู่ในขณะนี้
“เอ่อ  แล้วคุณมาหาหนังสืออ่านที่นี่เหรอครับ”  ไรอันถามซิลเวียอีกครั้งแต่เขากลับได้คำตอบที่ทำให้เขาคิดว่าเขาไม่ควรถามอะไรเธอเลย
“ค่ะ  แล้วคุณคิดว่าฉันจะมาห้องสมุดทำไมกันล่ะคะ”  ซิลเวียตอบเรียบ ๆ
“แปลกนะคะที่ฉันมักจะเห็นพวกคุณอยู่ด้วยกัน”  เสียงของเธอขาดห้วงไปเธอกวาดสายตาไปมองที่ไรอันก่อนที่จะมาหยุดที่เฮอร์ไมโอนี่  “เสมอ”  ซิลเวียตบท้าย
“แต่ก็แปลกเหมือนกันนะคะที่ฉันไม่เห็นคุณอยู่กับใครเลย”  เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด  เธอคิดว่าหมดความอดทนของเธอได้หมดลง  และไม่อยากที่จะเงียบเฉยอีกต่อไปแล้ว
“หรืออาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีใครอยากคบกับคุณหรือเปล่าคะ”  เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อจนจบ  ส่วนซิลเวียนั้นเมื่อได้ยินที่เฮอร์ไมโอนี่พูดรอยยิ้มบนหน้าของเธอก็หายไป
“ความจริงฉันคิดว่าคุณน่าจะเห็นนะคะว่าฉันชอบอยู่กับใคร”  ซิลเวียทำหน้าตามปกติของเธออีกครั้ง  และเธอก็ไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มร้ายกาจมาให้เฮอร์ไมโอนี่เช่นเคย
“หรือว่าคุณแกล้งทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากยอมรับความจริงกันแน่คะ  มิสเกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดแทงใจดำของเฮอร์ไมโอนี่เข้าอย่างจัง  และเธอก็รู้ว่าคนที่ซิลเวียชอบอยู่ด้วยนั้นคือใคร  ซิลเวียกำลังพูดถึงมัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่นั้นอึ้งไปสักพักหนึ่ง  เธอรู้จริง ๆ แล้วว่าผู้หญิงคนนี้นั้นร้ายกาจอย่างที่มัลฟอยพูดเอาไว้แน่ ๆ และยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้อ้าปากเถียงอะไรซิลเวียก็เดินก้าวข้ามกองหนังสือที่ตกอยู่มายืนอยู่ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่ข้าง ๆ ชั้นหนังสือ  เธอกระซิบเบา ๆ เข้าที่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่
“เธอคงคิดสินะว่าฉันตั้งใจจะขโมยคนรักของเธอ  แต่ขอให้คิดใหม่ได้เลยนะเพราะว่าเดรโกน่ะไม่ได้เป็นของเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่อึ้งกับคำพูดของวิลเวีย  ตอนนี้เธอในอกของเธอนั้นราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดออกมา  เฮอร์ไมโอนี่นั้นโกรธจนแทบจะสาปซิลเวียให้กลายเป็นกิ้งกือหรือไส้เดือนได้ด้วยซ้ำ  แต่ในใจของเธอนั้นก็กลับเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไร  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะหยิบไม้กายสิทธ์ขึ้นมาร่ายคาถาใด ๆ ใส่ซิลเวีย  มาดามพินซ์ก็โผล่มาจากมุมชั้นหนังสือซะก่อน
“พวกเธอทำอะไรกัน  ตายแล้ว  พระเจ้าช่วย”  มาดามพินซ์อุทานออกมาพลางเอามือทาบบนอก 
“นี่พวกเธอทำอะไรกันถึงได้ระเนระนาดกันอย่างนี้”  เธอหันมาดุพวกเขาทั้งสาม ( รวมซิลเวียด้วย )
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น  ใครพอจะบอกฉันได้บ้าง”  มาดามพินซ์นั้นดูตกอกตกใจเป็นอย่างมากกับการที่เธอได้เห็นหนังสือที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นลงมากองอยู่ที่พื้น
“คือ  หนูขอโทษจริงค่ะมาดามพินซ์”  เสียงของซิลเวียดังขึ้นก่อนที่ไรอันและเฮอร์ไมโอนี่จะนึกออกว่าจะพูดอะไรด้วยซ้ำ 
“ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง”  ซิลเวียตอบด้วยหน้าที่มีร่องรอยความสำนึกผิดอยู่  แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นคิดว่าเธอดูออกว่ามันเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง
“ฉันไม่นึกเลยนะว่าเธอจะเป็นคนทำ  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์พูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“ไหนลองเล่ามาซิมิสเดอ  เวซอง  ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”  มาดามพินซ์พูดกับซิลเวียพลางมองไปที่กองหนังสือที่อยู่บนพื้นและกรอกตา 
“คือหนูขอโทษค่ะ  เป็นเพราะหนูแท้ ๆ ”  ซิลเวียเอ่ยเสียงสั่นเครือ  ก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“ฉันรู้  แต่ที่ฉันต้องการคือมันเกิดอะไรขึ้น”  มาดามพินซ์ปลอบเธอโดยตบเธอที่บ่าเบา ๆ อย่างปลอบโยน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่และไรอันนั้นยังงง ๆ อยู่ว่าคราวนี้ซิลเวียจะมาไม้ไหนอีก ( เนี่ย )
“ถ้าหนูไม่พูดอย่างนั้นกับเกรนเจอร์มันก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอกค่ะ”  ซิลเวียละล่ำละลัก  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังทำหน้างงงวยเมื่อมีชื่อเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซิลเวียนั้นต้องพาดพิงถึงเธอแน่
“เธอพูดอะไรกับมิสเกรนเจอร์  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์ถามเธอขณะที่น้ำเสียงของซิลเวียเริ่มเหมือนคนเสียขวัญเข้าไปทุกที
“หนูแค่พูดให้เธอไม่พอใจ  แล้วเกรนเจอร์ก็โมโหหนูจนพังชั้นหนังสือลงมาอย่างที่คุณเห็นนี่แหละค่ะ”  ซิลเวียตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่แสร้งทำ  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นถึงกับอ้าปากค้าง
“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ  ฉันยังไม่ได้ ”  เฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะเถียงแต่เธอกลับถูกขัดจังหวะด้วยสายตาดุดันของมาดามพินซ์
“เธอทำอย่างนั้นจริงเหรอเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์หันมาถามเธอ 
“หนูเปล่านะคะ  มันก็เป็นแค่  แค่อุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา  เธอไม่นึกเลยว่าซิลเวียจะร้ายกาจขนาดนี้  และก็ไม่นึกเลยว่ามาดามพินซ์จะสงสัยเธอ
“ไม่มันไม่ใช่อุบัติเหตุ  แต่มันเป็นฝีมือเธอ  เกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่  “ทำไมเธอต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย  กับแค่..”  เสียงของซิลเวียขาดห้วงไป
“เธอจะพูดอะไร  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์ถามเธอ  ส่วนซิลเวียนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตามาดามพินซ์ด้วยสายตาอันแสนเสแสร้งก่อนที่จะมาส่งสายตามุ่งร้ายให้เฮอร์ไมโอนี่
“แค่ฉันล้อเธอเรื่องครัม”  ซิลเวียพูดออกมาในที่สุด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นแทบจะสติแตกไปเลย  ตอนนี้เธอไม่คิดแล้วว่าในฮอกวอตส์จะมีใครที่เสแสร้งแล้วก็โกหกหน้าตายได้เก่งเท่ากับ  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง  คนนี้  เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดเรื่องพวกนี้มาได้ยังไง  หรือมันสมองของเธอทำด้วยอะไรถึงได้แต่คิดเรื่องร้ายกาจอย่างนี้  แต่เท่าที่เธอรู้การกระทำของเธอนั้นจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตกที่นั่งลำบาก
“มิสเกรนเจอร์  ฉันคิดว่าครั้งนี้เธอทำรุนแรงไปนะ”  มาดามพินซ์กล่าว  เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาดามพินซ์จะพูดกับเธอ ‘ อย่างนี้ ’
“แต่หนูไม่ได้ทำนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา
“ครับ  ผมเป็นพยานได้”  ไรอันออกปากปกป้องเธอ  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“แล้วสิ่งที่ฉันเห็นล่ะ  เธอจะอธิบายอย่างไร  มิสเตอร์ครัม”  มาดามพินซ์ตอบเสียงเรียบ  ซึ่งคำพูดของเธอนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอเชื่อคำโกหกของซิลเวียไปเรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นอุบัติเหตุครับ”  ไรอันพยายามจะอธิบาย
“พอได้แล้วมิสเตอร์ครัม  ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น  และจากที่ฉันเห็นฉันคิดว่ามิสเกรนเจอร์เป็นฝ่ายผิด”  มาดามพินซ์พูด
“แต่..”
“ไม่มีคำว่าแต่มิสเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์มองหน้าเธอด้วยสายตาราวกับว่าเธอเพิ่งทำผิดอย่างร้ายแรงมา “หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนนโทษฐานก่อความวุ่นวายในห้องสมุดและฉันจำเป็นต้องกักบริเวณเธอ  มิสเกรนเจอร์” เธอพูด
“พรุ่งนี้ทุ่มตรงมาหาฉันที่ห้องสมุด  แล้วฉันคิดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้อีกนะ” พอมาดามพินซ์พูด
“เอาล่ะ  แล้วฉันขอเชิญพวกเธอออกไปจากตรงนี้ก่อนนะ  เพราะฉันจำเป็นต้องจัดเรียงหนังสือใหม่”  และเมื่อเธอพูดจนจบเฮอร์ไมโอนี่ก็แทบจะวิ่งออกไปทันทีที่สิ้นเสียงของมาดามพินซ์  เธอไม่ต้องการทนอยู่ใกล้ ๆ ซิลเวียอีกต่อไป  เพราะถ้าหากเธอทำอย่างนั้นบ้านกริฟฟินดอร์อาจจะเสียคะแนนเพิ่มเนื่องจากเธอร่ายคำสาปใส่ซิลเวียเข้า
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย  เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดอารมณ์ออกมากับไรอันเมื่อเธอเดินออกมาจากห้องสมุดแล้ว
“เธอก็รู้นี่  ฉันหมายถึงเธอก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  “ฉันไม่คิดเลยว่ายัยนั่นจะชั่วร้ายแบบนี้”  และอีกสารพัดที่เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา  เธอด่าว่าซิลเวียต่าง ๆ นานา  ส่วนไรอันนั้นก็ยืนพังเธอโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
“ไม่ยุติธรรมเลย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกมาในตอนท้ายและเธอก็เหลือบไปเห็นไรอันที่ฟังเธออยู่อย่างเงียบ ๆ เฮอร์ไมโอนี่เลยเริ่มรู้สึกว่าเธอทำไม่ถูกที่มาระบายอารมณ์กับไรอัน
“เอ่อ  ฉันขอโทษ  ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก  เธอไม่น่าทำอย่างนี้เลย
“ไม่เป็นไรครับ  ผมไม่ว่าคุณหรอก”  ไรอันตอบด้วยไปหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับของเขา  “แต่ผมเห็นใจคุณมากกว่า”  เขาตบท้ายส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ
“คุณจะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอครับ”  ไรอันถามเธอ “ผมหมายถึงเรื่อง ”  แต่ไม่ต้องให้เจาพูดเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าไรอันจะพูดถึงอะไร
“ฉันเองก็ไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงเศร้า  เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไรดี  ทั้งเรื่องครอบครัวมัลฟอย  และเรื่องซิลเวีย  ดูเหมือนตอนนี้จะมีเรื่องต่าง ๆ มาให้เธอได้ปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน
“ถ้าคุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไร  หรือมีอะไรที่คุณไม่สบายใจก็บอกผมได้นะครับ”  ไรอันพูด  มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เข้าใจมันดี
“ทำไมเธอถึงดีกับฉันนัก”  เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา  “ฉันหมายถึง  เธอคอยเป็นห่วงฉันและยังช่วยฉันตั้งหลายเรื่องอีก”
“นั่นก็เพราะ ”  ไรอันจะพูดอะไรออกมา  เฮอร์ไมโอนี่มองตาเขา  แต่ก็ดูเหมือนกับว่าเขาเลือกที่จะเก็บสิ่งที่เขาจะพูดไว้ในใจมากกว่า
“ไม่มีอะไรครับ”  เขาตอบยิ้ม ๆ “ผมว่าเรากลับกันดีกว่า  เดี๋ยวผมเดินไปส่ง” 
“อืม”  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า  และทั้งสองก็เดินไปตามระเบียงทางเดินมุ่งสู่หอกริฟฟินดอร์
ตอนที่ 9  ปะทะคารม
เฮอร์ไมโอนี่ตกใจเล็กน้อยที่เห็นซิลเวียอยู่ที่นี่แทนที่จะเป็นมาดามพินซ์  แล้วเธอก็ดันมาเห็นเฮอร์ไมโอนี่ในสภาพแบบนี้อีก  เฮอร์ไมโอนี่รีบผละออกจากอ้อมกอดของไรอันและลุกขึ้นโดยที่เธอพยายามที่จะไม่เหยียบหนังสือที่หล่นลงมาจากชั้น
“เกรนเจอร์กับครัม”  ซิลเวียพึมพำมองทั้งสองด้วยสายตาดูแคลน
“อรุณสวัสดิ์ครับ  มิสเดอ  เวซอง”  ไรอันทักเธอตามมารยาท  ส่วนซิลเวียนั้นทำหน้าเหมือนกับว่าไม่อยากเสวนากับพวกเขาทั้งสองเท่าไรนัก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ  มิสเตอร์ครัม”  เธอทักอย่างเสียไม่ได้  “อ้อ  คุณด้วยนะคะ  มิสเกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มเสแสร้งมาให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังพยายามทำสีหน้าเรียบเฉยอยู่
“เหมือนกันค่ะ  มิสเดอ  เวซอง”  ตอบเธอตามมารยาทเช่นเดียวกับที่ซิลเวียตอบไรอัน  ทั้งสองต่างจ้องตากันอยู่เนิ่นนานโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย  จนไรอันกลัวว่ามันจะเกิดสงครามเย็นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ  คุณมาที่นี่บ่อยไหมครับ”  ไรอันถามซิลเวียเพื่อต้องการกำจัดความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไปซะ  แต่ดูเหมือนมันจะให้ผลเป็นตรงข้าม
“ก็บ่อยเหมือนกันค่ะ  แต่ฉันก็ไม่นึกว่าจะเจอพวกคุณสองคนที่นี่”  ซิลเวียพูดจงใจเน้นคำว่า  ‘ พวกคุณสองคน ’ ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน  และส่งสายตาที่มีความหมายว่า ‘ ฉันเห็นนะว่าพวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่ ’ มาให้เธอ  ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้  และไรอันก็รู้เรื่องนี้ดี  เขาจึงพยายามหาเรื่องมาพูดเพื่อที่จะดับไฟสงครามที่กำลังปะทุอยู่ในขณะนี้
“เอ่อ  แล้วคุณมาหาหนังสืออ่านที่นี่เหรอครับ”  ไรอันถามซิลเวียอีกครั้งแต่เขากลับได้คำตอบที่ทำให้เขาคิดว่าเขาไม่ควรถามอะไรเธอเลย
“ค่ะ  แล้วคุณคิดว่าฉันจะมาห้องสมุดทำไมกันล่ะคะ”  ซิลเวียตอบเรียบ ๆ
“แปลกนะคะที่ฉันมักจะเห็นพวกคุณอยู่ด้วยกัน”  เสียงของเธอขาดห้วงไปเธอกวาดสายตาไปมองที่ไรอันก่อนที่จะมาหยุดที่เฮอร์ไมโอนี่  “เสมอ”  ซิลเวียตบท้าย
“แต่ก็แปลกเหมือนกันนะคะที่ฉันไม่เห็นคุณอยู่กับใครเลย”  เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด  เธอคิดว่าหมดความอดทนของเธอได้หมดลง  และไม่อยากที่จะเงียบเฉยอีกต่อไปแล้ว
“หรืออาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีใครอยากคบกับคุณหรือเปล่าคะ”  เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อจนจบ  ส่วนซิลเวียนั้นเมื่อได้ยินที่เฮอร์ไมโอนี่พูดรอยยิ้มบนหน้าของเธอก็หายไป
“ความจริงฉันคิดว่าคุณน่าจะเห็นนะคะว่าฉันชอบอยู่กับใคร”  ซิลเวียทำหน้าตามปกติของเธออีกครั้ง  และเธอก็ไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มร้ายกาจมาให้เฮอร์ไมโอนี่เช่นเคย
“หรือว่าคุณแกล้งทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากยอมรับความจริงกันแน่คะ  มิสเกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดแทงใจดำของเฮอร์ไมโอนี่เข้าอย่างจัง  และเธอก็รู้ว่าคนที่ซิลเวียชอบอยู่ด้วยนั้นคือใคร  ซิลเวียกำลังพูดถึงมัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่นั้นอึ้งไปสักพักหนึ่ง  เธอรู้จริง ๆ แล้วว่าผู้หญิงคนนี้นั้นร้ายกาจอย่างที่มัลฟอยพูดเอาไว้แน่ ๆ และยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้อ้าปากเถียงอะไรซิลเวียก็เดินก้าวข้ามกองหนังสือที่ตกอยู่มายืนอยู่ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่ข้าง ๆ ชั้นหนังสือ  เธอกระซิบเบา ๆ เข้าที่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่
“เธอคงคิดสินะว่าฉันตั้งใจจะขโมยคนรักของเธอ  แต่ขอให้คิดใหม่ได้เลยนะเพราะว่าเดรโกน่ะไม่ได้เป็นของเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่อึ้งกับคำพูดของวิลเวีย  ตอนนี้เธอในอกของเธอนั้นราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดออกมา  เฮอร์ไมโอนี่นั้นโกรธจนแทบจะสาปซิลเวียให้กลายเป็นกิ้งกือหรือไส้เดือนได้ด้วยซ้ำ  แต่ในใจของเธอนั้นก็กลับเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไร  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะหยิบไม้กายสิทธ์ขึ้นมาร่ายคาถาใด ๆ ใส่ซิลเวีย  มาดามพินซ์ก็โผล่มาจากมุมชั้นหนังสือซะก่อน
“พวกเธอทำอะไรกัน  ตายแล้ว  พระเจ้าช่วย”  มาดามพินซ์อุทานออกมาพลางเอามือทาบบนอก 
“นี่พวกเธอทำอะไรกันถึงได้ระเนระนาดกันอย่างนี้”  เธอหันมาดุพวกเขาทั้งสาม ( รวมซิลเวียด้วย )
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น  ใครพอจะบอกฉันได้บ้าง”  มาดามพินซ์นั้นดูตกอกตกใจเป็นอย่างมากกับการที่เธอได้เห็นหนังสือที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นลงมากองอยู่ที่พื้น
“คือ  หนูขอโทษจริงค่ะมาดามพินซ์”  เสียงของซิลเวียดังขึ้นก่อนที่ไรอันและเฮอร์ไมโอนี่จะนึกออกว่าจะพูดอะไรด้วยซ้ำ 
“ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง”  ซิลเวียตอบด้วยหน้าที่มีร่องรอยความสำนึกผิดอยู่  แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นคิดว่าเธอดูออกว่ามันเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง
“ฉันไม่นึกเลยนะว่าเธอจะเป็นคนทำ  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์พูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“ไหนลองเล่ามาซิมิสเดอ  เวซอง  ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”  มาดามพินซ์พูดกับซิลเวียพลางมองไปที่กองหนังสือที่อยู่บนพื้นและกรอกตา 
“คือหนูขอโทษค่ะ  เป็นเพราะหนูแท้ ๆ ”  ซิลเวียเอ่ยเสียงสั่นเครือ  ก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“ฉันรู้  แต่ที่ฉันต้องการคือมันเกิดอะไรขึ้น”  มาดามพินซ์ปลอบเธอโดยตบเธอที่บ่าเบา ๆ อย่างปลอบโยน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่และไรอันนั้นยังงง ๆ อยู่ว่าคราวนี้ซิลเวียจะมาไม้ไหนอีก ( เนี่ย )
“ถ้าหนูไม่พูดอย่างนั้นกับเกรนเจอร์มันก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอกค่ะ”  ซิลเวียละล่ำละลัก  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังทำหน้างงงวยเมื่อมีชื่อเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซิลเวียนั้นต้องพาดพิงถึงเธอแน่
“เธอพูดอะไรกับมิสเกรนเจอร์  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์ถามเธอขณะที่น้ำเสียงของซิลเวียเริ่มเหมือนคนเสียขวัญเข้าไปทุกที
“หนูแค่พูดให้เธอไม่พอใจ  แล้วเกรนเจอร์ก็โมโหหนูจนพังชั้นหนังสือลงมาอย่างที่คุณเห็นนี่แหละค่ะ”  ซิลเวียตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่แสร้งทำ  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นถึงกับอ้าปากค้าง
“ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ  ฉันยังไม่ได้ ”  เฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะเถียงแต่เธอกลับถูกขัดจังหวะด้วยสายตาดุดันของมาดามพินซ์
“เธอทำอย่างนั้นจริงเหรอเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์หันมาถามเธอ 
“หนูเปล่านะคะ  มันก็เป็นแค่  แค่อุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา  เธอไม่นึกเลยว่าซิลเวียจะร้ายกาจขนาดนี้  และก็ไม่นึกเลยว่ามาดามพินซ์จะสงสัยเธอ
“ไม่มันไม่ใช่อุบัติเหตุ  แต่มันเป็นฝีมือเธอ  เกรนเจอร์”  ซิลเวียพูดมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่  “ทำไมเธอต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย  กับแค่..”  เสียงของซิลเวียขาดห้วงไป
“เธอจะพูดอะไร  มิสเดอ  เวซอง”  มาดามพินซ์ถามเธอ  ส่วนซิลเวียนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตามาดามพินซ์ด้วยสายตาอันแสนเสแสร้งก่อนที่จะมาส่งสายตามุ่งร้ายให้เฮอร์ไมโอนี่
“แค่ฉันล้อเธอเรื่องครัม”  ซิลเวียพูดออกมาในที่สุด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นแทบจะสติแตกไปเลย  ตอนนี้เธอไม่คิดแล้วว่าในฮอกวอตส์จะมีใครที่เสแสร้งแล้วก็โกหกหน้าตายได้เก่งเท่ากับ  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง  คนนี้  เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดเรื่องพวกนี้มาได้ยังไง  หรือมันสมองของเธอทำด้วยอะไรถึงได้แต่คิดเรื่องร้ายกาจอย่างนี้  แต่เท่าที่เธอรู้การกระทำของเธอนั้นจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตกที่นั่งลำบาก
“มิสเกรนเจอร์  ฉันคิดว่าครั้งนี้เธอทำรุนแรงไปนะ”  มาดามพินซ์กล่าว  เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาดามพินซ์จะพูดกับเธอ ‘ อย่างนี้ ’
“แต่หนูไม่ได้ทำนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา
“ครับ  ผมเป็นพยานได้”  ไรอันออกปากปกป้องเธอ  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“แล้วสิ่งที่ฉันเห็นล่ะ  เธอจะอธิบายอย่างไร  มิสเตอร์ครัม”  มาดามพินซ์ตอบเสียงเรียบ  ซึ่งคำพูดของเธอนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอเชื่อคำโกหกของซิลเวียไปเรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นอุบัติเหตุครับ”  ไรอันพยายามจะอธิบาย
“พอได้แล้วมิสเตอร์ครัม  ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็น  และจากที่ฉันเห็นฉันคิดว่ามิสเกรนเจอร์เป็นฝ่ายผิด”  มาดามพินซ์พูด
“แต่..”
“ไม่มีคำว่าแต่มิสเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์มองหน้าเธอด้วยสายตาราวกับว่าเธอเพิ่งทำผิดอย่างร้ายแรงมา “หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนนโทษฐานก่อความวุ่นวายในห้องสมุดและฉันจำเป็นต้องกักบริเวณเธอ  มิสเกรนเจอร์” เธอพูด
“พรุ่งนี้ทุ่มตรงมาหาฉันที่ห้องสมุด  แล้วฉันคิดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้อีกนะ” พอมาดามพินซ์พูด
“เอาล่ะ  แล้วฉันขอเชิญพวกเธอออกไปจากตรงนี้ก่อนนะ  เพราะฉันจำเป็นต้องจัดเรียงหนังสือใหม่”  และเมื่อเธอพูดจนจบเฮอร์ไมโอนี่ก็แทบจะวิ่งออกไปทันทีที่สิ้นเสียงของมาดามพินซ์  เธอไม่ต้องการทนอยู่ใกล้ ๆ ซิลเวียอีกต่อไป  เพราะถ้าหากเธอทำอย่างนั้นบ้านกริฟฟินดอร์อาจจะเสียคะแนนเพิ่มเนื่องจากเธอร่ายคำสาปใส่ซิลเวียเข้า
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย  เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดอารมณ์ออกมากับไรอันเมื่อเธอเดินออกมาจากห้องสมุดแล้ว
“เธอก็รู้นี่  ฉันหมายถึงเธอก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  “ฉันไม่คิดเลยว่ายัยนั่นจะชั่วร้ายแบบนี้”  และอีกสารพัดที่เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา  เธอด่าว่าซิลเวียต่าง ๆ นานา  ส่วนไรอันนั้นก็ยืนพังเธอโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
“ไม่ยุติธรรมเลย” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกมาในตอนท้ายและเธอก็เหลือบไปเห็นไรอันที่ฟังเธออยู่อย่างเงียบ ๆ เฮอร์ไมโอนี่เลยเริ่มรู้สึกว่าเธอทำไม่ถูกที่มาระบายอารมณ์กับไรอัน
“เอ่อ  ฉันขอโทษ  ไรอัน” เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก  เธอไม่น่าทำอย่างนี้เลย
“ไม่เป็นไรครับ  ผมไม่ว่าคุณหรอก”  ไรอันตอบด้วยไปหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับของเขา  “แต่ผมเห็นใจคุณมากกว่า”  เขาตบท้ายส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ
“คุณจะปล่อยไว้อย่างนี้เหรอครับ”  ไรอันถามเธอ “ผมหมายถึงเรื่อง ”  แต่ไม่ต้องให้เจาพูดเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าไรอันจะพูดถึงอะไร
“ฉันเองก็ไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงเศร้า  เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไรดี  ทั้งเรื่องครอบครัวมัลฟอย  และเรื่องซิลเวีย  ดูเหมือนตอนนี้จะมีเรื่องต่าง ๆ มาให้เธอได้ปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน
“ถ้าคุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไร  หรือมีอะไรที่คุณไม่สบายใจก็บอกผมได้นะครับ”  ไรอันพูด  มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เข้าใจมันดี
“ทำไมเธอถึงดีกับฉันนัก”  เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา  “ฉันหมายถึง  เธอคอยเป็นห่วงฉันและยังช่วยฉันตั้งหลายเรื่องอีก”
“นั่นก็เพราะ ”  ไรอันจะพูดอะไรออกมา  เฮอร์ไมโอนี่มองตาเขา  แต่ก็ดูเหมือนกับว่าเขาเลือกที่จะเก็บสิ่งที่เขาจะพูดไว้ในใจมากกว่า
“ไม่มีอะไรครับ”  เขาตอบยิ้ม ๆ “ผมว่าเรากลับกันดีกว่า  เดี๋ยวผมเดินไปส่ง” 
“อืม”  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า  และทั้งสองก็เดินไปตามระเบียงทางเดินมุ่งสู่หอกริฟฟินดอร์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น