ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศัตรูที่รัก เฮอร์ไมโอนี่ + มัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #8 : เขตหวงห้าม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.29K
      49
      20 มิ.ย. 47

    ตอนที่ 8  เขตหวงห้าม

    เวลาค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความหนักใจของทุกคนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนปีห้าและปีเจ็ด  เพราะใกล้สอบ ว.พ.ร.ส. และ ส.พ.บ.ส. เข้ามาทุกที  ยิ่งถ้าเด็กคนนั้นเป็นนักกีฬาควิดดิชของบ้านด้วยแล้วเขายิ่งคิดว่าอยากจะให้เวลาย้อนกลับได้หรือให้มันเดินช้าลงกว่าเดิมซักเท่าตัวจริง ๆ

    ในที่สุดรอนก็หลุดพ้นมาจากนรกในคุกใต้ดินมาได้เรียบร้อยแล้ว  เฟร็ดกับจอร์จถึงกับจัดงานเลี้ยงย่อม ๆ เพื่อรับขวัญน้องชายคนเล็กของเขาทีเดียว  ทุกคนต่างคิดว่างานคงดำเนินไปอย่างราบรื่นถ้าแองเจลิน่าไม่มาลากคอสามพวกเขาไปซ้อมควิดดิชซะก่อน  ยิ่งเข้าใกล้ช่วงแข่งเท่าไรโอกาสที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้เจอแฮร์รี่และรอนนั้นยิ่งน้อยพอ ๆ กับโอกาสที่พวกเขาจะได้ยืนบนพื้นทีเดียว  ถ้าไม่นับเวลาทานอาหารสามมื้อกับเวลาในชั่วโมงเรียนแล้วล่ะก็เธอกับแฮร์รี่และรอนก็แทบจะไม่ได้เจอหน้าค่าตากันเลย

    “นายจะอิ่มได้หรือยังวีสลีย์”  แองเจลิน่าถามเสียงเขียว  ขณะนี้เธอยืนเท้าเอวอยู่ใกล้ ๆ  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่

    “เอออะอีบไอไอ๋อ่ะ  แองเออิอ่า”  รอนพูดไม่เป็นศัพท์ขณะที่กำลังเคี้ยวเบคอนอยู่  ส่วนแองเจลิน่านั้นเอี้ยวตัวหลบเศษเบคอนที่กระเด็นมาจากปากรอน

    “อั๋นอังอินไอ่อิ่มเอยอ่ะ”  รอนพูดขึ้นมาอย่างยากเย็นอีกครั้งส่วนกัปตันทีมควิดดิชของเรานั้นกำลังใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะฟังสิ่งที่รอนพูดออกมา

    “เธอจะรีบไปไหนแองเจลิน่า  ฉันยังกินไม่อิ่มเลยนะ”  แฮร์รี่เอ่ยขึ้น  เขาแปลภาษาต่างดาวของรอนพูดให้เป็นภาษาที่คนทั่วไปฟังออก

    “ถ้านายถามฉันว่าจะรีบไปไหน  ฉันก็จะบอกเหมือนเดิมนะวีสลีย์ว่าฉันต้องรีบไปซ้อมควิดดิช  รวมทั้งนายด้วย!”  แองเจลิน่าพูดอย่างหัวเสีย  ส่วนรอนนั้นเมื่อได้ยินคำว่า ‘ ควิดดิช ’ เขาถึงกับสะอึก

    “ฉันให้เวลานายอีก 15 นาทีนะวีสลีย์!”  เธอพูดพลางปรายตามองไปที่เฟร็ดกับจอร์จเหมือนจะหมายความว่า ‘ รวมถึงพวกนายด้วย ’ “และถ้าถึงเวลาแล้วฉันไม่เห็นลูกทีมของฉันอยู่กันครบล่ะก็”  เสียงของแองเจลิน่าขาดหายไป  แต่เธอส่งสายตาน่ากลัวมาแทนคำตอบ  และเมื่อพวกเขาทำหน้าเหมือนรับรู้สิ่งที่เธอพูดแล้วก็เธอสะบัดเสื้อคลุมจากไป    

    “โอ้พระเจ้า  ข้านายเฟร็ด  วีสลีย์และน้องชายของข้าทำผิดประการใดเราถึงต้องถูกลงโทษให้ต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้”  เฟร็ดครวนครางเอามือประสานกันเหมือนสวดอ้อนวอน  

    “ถูกต้องอย่างยิ่ง  เราทำผิดอะไรถึงต้องมาถูกยัยแม่มดที่แสนน่ากลัวทรมานอย่างนี้”  จอร์จพูดทำท่าเหมือนฝาแฝดของเขาแววตามองสูงขึ้นไปยังเพดานเนรมิต  ราวกับว่ากำลังขอความเป็นธรรมจากสวรรค์อยู่  ขณะที่เด็กคนอื่น ๆ หัวเราะกับการกระทำของพวกเขา  แต่รอนนั้นไม่ได้สนใจพี่ชายของเขามากกว่าอาหารบนโต๊ะเลย  เขาก้มหน้าก้มตากินราวกับว่าอดอยากมานานปี  ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็มองดูพวกเขาอย่างเบื่อหน่ายและเลือกที่จะสนใจหนังสือตรงหน้าของเธอดีกว่า



    หลังจากส่งแฮร์รี่และรอน  รวมทั้งเฟร็ดกับจอร์จไปซ้อมควิดดิชแล้ว  ( รอนดูมีสีหน้าดีกว่าตอนไปกักบริเวณกับเสนปนิดเดียว ) เฮอร์ไมโอนี่ก็เลือกที่จะตรงไปที่ห้องสมุดตามปรกติของเธอ  แต่วันนี้อาจจะไม่เหมือนทุกวันตรงที่มีไรอันติดสอยห้อยตามเธอไปด้วย

    “คุณนี่ขยันจังนะครับเฮอร์ไมโอนี่”  ไรอันพูดในมือของเขามีหนังสือ ‘ การแปลงร่างชั้นสูง ’ ของเฮอร์ไมโอนี่ที่เขาเพิ่งอาสาช่วยถือให้อยู่ในมือ  เขามองเจ้าหนังสือเล่มหน้ากว่าพันหน้านั้นแล้วมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างทึ่ง ๆ

    “ไม่หรอกไรอัน  เธอก็รู้นี่ว่าพวกเราใกล้สอบแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ  ความจริงตอนนี้เธอก็รู้ว่าเธอนั้นทำตัวขยันกว่าเดิมหลายเท่า  เพราะว่าถ้าเธอปล่อยให้ตัวเองว่างมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เธอคิดถึงมัลฟอยมากเท่านั้น  และเมื่อเธอคิดถึงเขาเรื่องของซิลเวียและเรื่องของนายลูเซียสก็มักจะเข้ามาสร้างความกังวลใจให้เธอเสมอ

    เมื่อทั้งสองถึงห้องสมุด  เฮอร์ไมโอนี่ก็ก้าวฉับ ๆ ไปหามาดามพินซ์ราวกับว่ากลัวเธอจะหนีไปไหนพร้อมกับหยิบหนังสือในมือของไรอันมาวางบนเคาท์เตอร์

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะมาดามพินซ์  หนูอยากคืนหนังสือเล่มนี้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดมองไปที่หนังสือ ‘ การแปลงร่างชั้นสูง ’ ที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์

    “อรุณสวัสดิ์จ๊ะมิสเกรนเจอร์  เธอแน่ใจเหรอว่าจะคืนมันน่ะ”  มาดามพินซ์ตอบเธอพลางมองไปที่หนังสือเล่มนั้น  “เธอเพิ่งยืมมันไปเมื่อสองวันก่อนเองนะ”  เธอมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยแต่เพราะเธอกำลังพูดอยู่กับ  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  ไม่ใช่นักเรียนธรรมดาทั่วไป  เธอจึงไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นอ่านหนังสือหนาพันหน้าภายในสองวันได้อย่างไร

    “ถ้าหนูไม่คืนมันหนูก็จะยืมเล่มอื่นไม่ได้สิคะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบยิ้ม ๆ

    “แล้วตอนนี้เธอกำลังหาหนังสือเรื่องไหนอยู่ล่ะจ๊ะ  บอกมาสิเผื่อฉันจะช่วยได้”  มาดามพินซ์พูดขณะกำลังวางหนังสือ ‘ การแปลงร่างชั้นสูง ’  ลงบนหนังสือกองหนึ่ง

    “เอ่อ  เรื่องยาพิษต้องห้ามมั้งคะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย  เหตุผลที่เธอต้องมาหาหนังสือเรื่องนี้เป็นเพราะเมื่อวันก่อนที่เธอเอาเรียงความเรื่อง ‘ ยาพิษและวิธีแก้พิษ ’ ไปส่งนั้น  เสนปกลับไม่รับเรียงความของเธอโดยอ้างว่ามันมีเนื้อหาไม่ครบสมบูรณ์  และยังให้เธอมาทำเรียงความเรื่อง ‘ ยาพิษต้องห้าม ’ แทน  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าที่ผิดนั้นไม่ใช่เรียงความของเธอหรอก  แต่เป็นเพราะเธอเป็นเด็กบ้านกริฟฟินดอร์และเป็นเพื่อนสนิทของแฮร์รี่  เพราะฉะนั้นเสนปเลยหาโอกาสกลั่นแกล้งเธอ

    “ฉันเกรงว่าฉันคงช่วยเธอไม่ได้หรอก  มิสเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์พูดซึ่งคำพูดของเธอนั้นสร้างความสงสัยให้กับเฮอร์ไมโอนี่เป็นอย่างมาก  เพราะมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่มาดามพินซ์จะไม่สามารถช่วยเธอหาหนังสือได้ถ้าหากว่ามันอยู่ในห้องสมุดแห่งนี้   และเหมือนว่ามาดามพินซ์จะอ่านสีหน้าของเธอออก

    “ที่ฉันช่วยเธอไม่ได้เพราะว่าหนังสือที่เธอต้องการจะหาอยู่ในเขตหวงห้าม  มิสเกรนเจอร์”  มาดามพินซ์ตอบ  “เธอจำเป็นต้องมีใบอนุญาติจากอาจารย์ถึงจะยืมหนังสือเล่มนั้นได้”  เธอพูด

    และแล้วก็เข้าใจว่าที่แท้จริงแล้วเสนปนั้นไม่ได้ต้องการให้เธอไปเขียนเรียงความเรื่องใหม่  แต่เขากำลังสั่งให้เธอทำในสิ่งที่เธอทำไม่ได้  และก็เปล่าประโยชน์ที่จะไปขอใบอนุญาติจากเสนป  

    “แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”  พึมพลางถอนหายใจ  เธอไม่นึกเลยว่าเสนปจะจงใจกลั่นแกล้งเธอถึงขนาดนี้

    “คุณจะเอาหนังสือนั่นไปทำไมเหรอครับ”  ไรอันถามมองเฮฮร์ไมโอนี่ที่ทำหน้ากลุ้มใจอยู่

    “ก็เสนปน่ะสิ  สั่งให้ฉันทำรายงานเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าหนังสือที่จะใช้ทำมันอยู่ในเขตหวงห้าม  เขาจงใจแกล้งฉันนี่  เขารู้ว่าฉันไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในนั้น  แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงดีล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นยืดยาว  เธอนึกไม่ออกเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากเธอไม่มีงานไปส่งเนปตามเวลา  เฮอร์ไมโอนี่นึกอยากให้เธอมีใบอนุญาติจากอาจารย์อย่างตอนที่เธออยู่ปีสองอีกครั้ง ( แต่น่าเสียดายที่ล็อกฮาร์ตความจำเสื่อมไปเรียบร้อยแล้ว )

    “คุณไม่ได้รับอนุญาติ  แต่ผมคิดว่าผมได้นะ”  ไรอันตอบยิ้ม ๆ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นเงยหน้ามามองเขาอย่างงง ๆ และเมื่อเขาเห็นสีหน้าของเด็กสาวเขาก็เริ่มอธิบายให้เธอฟัง  ไรอันควักกระดาษแผ่นหนึ่งมาจากเสื้อคลุมของเขา

    “ผมได้รับอนุญาติให้เข้าไปในเขตหวงห้ามของห้องสมุดได้ครับ  เพราะผมเป็นหัวหน้านักเรียนเดิร์มแสตรงค์” เขาพูดพลางชี้ให้เฮอร์ไมโอนี่ดูกระดาษแผ่นนั้นซึ่งเหมือนกับใบอนุญาติที่ล็อกฮาร์ตเซ็นต์ให้เธอตอนทีเธออยู่ปีสอง  แต่ต่างกันที่ลายเซ็นต์นั้นเป็นของศาสตราจารย์มักกอนนากัล  

    “ดีจัง  งั้นเธอก็เข้าไปอ่านหนังสือในนั้นได้สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอิจฉา  และนึกอยากได้ใบอนุญาติอย่างเขาบ้าง  

    “ใครบอกว่าคุณจะไม่ได้เข้าล่ะครับ”  ไรอันตอบพลางชี้ให้เธอดูด้านล่างของใบอนุญาติที่เขียนไว้ว่า

    ‘ หัวหน้านักเรียนสามารถพาผู้บุคคลอื่นเข้าไปได้หนึ่งคน  ซึ่งจะต้องเป็นคนที่อาจารย์คัดเลือกให้เป็นผู้ร่วมงานแล้วเท่านั้น ‘

    เฮอร์ไมโอนี่อ่านจบก็ยิ้มดีใจ  เพราะว่า ‘ ผู้ร่วมงานที่อาจารย์คัดเลือก ’ นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอและมัลฟอย  ซึ่งอย่างนั้นก็หมายความว่าเธอสามารถเข้าไปอ่านหนังสือในเขตหวงห้ามได้ตามสบาย  และทั้งสองก็เอาใบอนุญาติไปให้มาดามพินซ์ดู  และเธอก็ปล่อยให้ทั้งสองเข้าไปในเขตหวงห้าม  และกลับไปจัดการกับงานของเธอต่อที่โต๊ะบรรณารักษ์

    “เราจะเริ่มหาตรงไหนก่อนดีครับ”  ไรอันพูดพลางมองชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงรายเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด  และคิดว่าอยากให้มาดามพินซ์มาช่วยพวกเขาหาหนังสือมากกว่า  แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นไได้คิดอย่างเขาเลย  เธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้อ่านหนังสือที่เธอยังไม่เคยอ่าน  เฮอร์ไมโอนี่เดินลัดเลาะไปตามชั้นหนังสือ  และหยิบหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่ามาดูอย่างสนอกสนใจ  ส่วนไรอันก็มองอาการตื่นเต้นแบบเด็ก ๆ ของเธออย่างยิ้ม

    “ผมว่าถ้าเราไม่รีบหาห้องสมุดอาจจะปิดก่อนก็ได้นะครับ”  ไรอันพูดเตือนเฮอร์ไมโอนี่ที่เอาแต่ดูหนังสือจนลืมเรื่องสำคัญไปว่าเธอมาที่นี่เพื่อมาหาหนังสือไปทำรายงานส่งเสนป

    “เอ้อ  โทษที  ฉันลืมตัวน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแก้เขินกับอาการบ้าหนังสือที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดของเธอ  และเธอกับไรอันก็เริ่มต้นหาหนังสือ ‘ ยาพิษต้องห้าม ’ กัน

    เมื่อเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง  ไรอันคิดว่าการหาหนังสือในห้องสมุดของฮอกวอตส์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  เพราะแค่ในเขตหวงห้ามนี่มีหนังสือเยอะเกินกว่าที่พวกเขาจะหาหนังสือเรื่องเดียวได้  ทั้งสองตั้งหน้าตั้งตาหาหนังสือที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องการมาเป็นเวลานานแต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของมัน  จนทำให้ทั้งสองเริ่มเหนื่อย  และเริ่มรู้สึกไม่อยากทำภารกิจน่าเบื่อนี้ต่อไปแล้ว

    “เราหาตรงชั้นบนนั่นหรือยังนะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามตัวเองขณะที่มองไปที่ชั้นหนังสือสูงเกินสองเมตร   เธอพยายามจะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือบนชั้นมาดู  แต่เนื่องจากมันอยู่สูงเกินไป  เด็กสาวพยายามกี่ครั้งก็หยิบมันไม่ถึง  เฮอร์ไมโอนี่เลยให้วิธีเหยียบไปบนขอบของชั้นล่างสุดของชั้นหนังสือเพื่อที่จะปีนขึ้นไปเพื่อที่จะคว้ามันลงมา  ( พยายามซะเหลือเกินนะเจ๊ ) แต่เนื่องจากเธอก้าวพลาดทำให้เธอลื่นล้มลงมาจากชั้น  แต่มือของเธอคว้าชั้นหนังสือไว้

    “เฮอร์ไมโอนี่”  เสียงไรอันดังขึ้นเมื่อเห็นเด็กสาว

    “ตุบ!!!!”  

    หนังสือทั้งชั้นนั้นที่มือของเฮอร์ไมโอนี่คว้าไว้ได้หล่นลงไปกับพื้นจนทำให้เกิดเสียงอันดัง  ส่วนตัวเธอนั้นไรอันรับไว้ได้ทันท่วงที  ซึ่งทำให้ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่ม

    “คุณไม่เป็นใช่มั้ยครับ”  ไรอันพูด  พลางมองเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง  

    “ใครน่ะ!”  เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น  พร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าของเสียงขึ้นที่มุมของชั้นหนังสือ  ตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเป็นมาดามพินซ์  เพราะเธอทำเสียงดังขนาดนี้ในห้องสมุดและเป็นไปไม่ได้ที่มาดามพินซ์จะไม่ได้ยิน  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก้รู้ว่าคิดผิดไป  เพราะที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่มาดามพินซ์  

    แต่กลับเป็น  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง



    เพื่อน ๆ ทุกคน  ขอโทษจริง ๆ เนื่องจากตอนที่เราลงตอนที่ 8 นี้มีความผิดพลาดนิดหน่อยคือพอกดส่งเรื่องมันก็ขึ้นว่า This page can not be found แต่พอเราเข้าไปดูก็เห็นว่ามันลงไปแล้วเลยไม่ใส่ใจอะไร ไม่ได้เช็คว่ามันลงเนื้อเรื่องให้เราไม่ครบ  ซึ่งตอนนี้เราแก้ไขให้ใหม่แล้ว  เพื่อน ๆ ที่อ่านไปแล้วก็เข้ามาอ่านเพิ่มและกันนะ  อย่าเพิ่งงงล่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×