ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศัตรูที่รัก เฮอร์ไมโอนี่ + มัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #6 : อันตรายใกล้ตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.92K
      75
      27 พ.ค. 47

    ตอนที่ 6  อันตรายใกล้ตัว

    เฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปตามระเบียงทางเดินอย่างรวดเร็ว  เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะวิ่งไปไหนแต่ที่เธอต้องการคือไปให้ไกลจากตรงนั้นที่สุด  โดยที่มีเสียงฝีเท้าวิ่งตามเธอมาอย่างติด ๆ พร้อมเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอ

    “เฮอร์ไมโอนี่!”  ไรอันตะโกนเรียกเธอไปตลอดทางที่เขาวิ่งตามเธอมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเสียงเรียกของเขาเลย  เธอยังคงวิ่งต่อไปและเมื่อไรอันวิ่งตามเธอทันเขาก็เอามือคว้าไหล่เธอไว้

    “เฮอร์ไมโอนี่  คุณเป็นอะไรรึเปล่า”  ไรอันถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าเธอเป็นอะไร

    “ฉะ  ฉันไม่เป็นไร” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงสั่นเครือ  เธอยืนหันหลังให้เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างเต็มที่  แต่ไรอันรู้ดีว่าเธอไม่ได้พูดความจริง

    “คุณโกหก”  เขาพูด  “คุณกำลังร้องไห้อยู่ใช่มั้ย”  ไรอันถามพยายามมองหน้าเธอ  แต่เธอหลบสายตาเขา  “ผมจะไม่พูดปลอบใจคุณหรอกนะ  แต่ถ้าคุณอยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ  ผมจะอยู่เป็นเพื่อน”  เขาพูดส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นยังหันหลังให้เขาเธอเอามือปาดน้ำตาบนหน้าออกจนหมด

    “ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่หันมายิ้มให้เขาอย่างเสแสร้ง  แน่นอนว่าไรอันดูเธอออก  แต่เขาไม่ได้พูดอะไร  “ฉันว่าฉันกลับหอดีกว่า  ราตรีสวัสดิ์นะ”  เธอพูดเสียงใสและไม่ทันที่เขาจะตอบอะไรเฮอร์ไมโอนี่ก็หมุนตัวและตรงกลับห้องนั่งเล่นรวมอย่างรวดเร็ว



    เช้าวันต่อมาเฮอร์ไมโอนี่ตื่นนอนมาด้วยอาการไม่สดชื่นนัก  แต่เธอก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำให้  และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไปได้ดีทีเดียวถ้าไม่เป็นเพราะเธอเหลือบไปมองทางโต๊ะสลิธีรินแล้วเห็นซิลเวียมานั่งกินข้าวข้าง ๆ มัลฟอยท่าทางสนิทสนม

    “นี่เธอ  ลุกไปเลยนะนี่มันที่ของฉันนะยะ”  แพนซี่  พาร์กินสันเอ่ยเสียงเขียวเมื่อเห็นว่ามีคนมาแย่งที่นั่งข้าง ๆ มัลฟอยไป

    “ขอโทษนะคะมิสพาร์กินสัน  ฉันก็ไม่เห็นว่าที่ตรงนี้มันจะติดป้ายไว้ว่ามีคนจองแล้ว” ซิลเวียตอกกลับอย่างเผ็ดร้อน  สีหน้าไม่สะทกสะท้าน  

    “กรี๊ดๆๆๆๆ  แกกล้าพูดกับฉันอย่างนี้เหรอ  แกกล้าดียังไงมานั่งใกล้เดรโกของชั้นหา!”  แพนซี่กรีดร้องขึ้นพร้อม ๆ กับเอามือชี้หน้าซิลเวีย ส่วนแครบกับกอยล์ที่อยู่ข้าง ๆ นั้นเอามืออุดหูแทบไม่ทันเพราะทนเสียงกรี๊ดของแพนซี่ไม่ไหว

    “เดรโกของเธอ  เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะมิสพาร์กินสัน”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็น  แววตาของเธอมองไปที่แพนซี่อย่างดูแคลนเป็นผลให้ถึงกับแพนซี่ชะงัก  “เดรโกเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  อ้อแล้วกรุณาเอามือลงด้วยค่ะ  มันไม่สุภาพเลยนะหรือว่าพ่อแม่เธอไม่เคยสั่งสอนเธองั้นเหรอ”  ซิลเวียพูดพร้อมส่งรอยยิ้มเยือกเย็นให้เธอ  ส่วนแพนซี่นั้นแทบคลั่งเธอกรีดร้องออกมาจนนักเรียนทั้งห้องโถงมองเธอเป็นตาเดียว

    “เดรโก  ดูมันสิคะ  มันเป็นใครกันถึงกล้ามาทำแบบนี้”  แพนซี่ทำเสียงออดอ้อน  ส่วนมัลฟอยทำหน้าราวกับอยากตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย  

    “อ้าวเดรโกยังไม่ได้บอกเธออีกเหรอ  ว่าฉันเป็นคู่หมั้นของเขา”  ซิลเวียเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอย่างมีชัย  ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์  แพนซี่นั้นช็อคได้ไม่นานก็กรี๊ดเสียงดังแสบแก้วหูกว่าเดิม

    “ฉันไม่เชื่อแกหรอกนังหน้าด้าน  ไม่จริงใช่มั้ยเดรโก  นังนี่มันโกหกใช่มั้ย!”  แพนซี่เขย่าแขนมัลฟอย อย่างแรงราวกับว่าต้องการที่จะกระชากมันให้หลุดออกมา  ส่วนมัลฟอยก็ทำหน้าซังกะตายแต่เมื่อเขาเห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากทางโต๊ะกริฟฟินดอร์ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องโถงไป  เขาก็สลัดแพนซี่ออกและเดินตามเฮอร์ไมโอนี่ไปอย่างรวดเร็ว

    “เดรโกเดี๋ยวสิ”  แพนซี่พยายามจะรั้งเขาไว้แต่ไม่สำเร็จ  เพราะตอนนี้มัลฟอยเดินออกจากห้องโถงไปเรียบร้อยแล้ว

    “เมื่อกี๊เธอด่าใครว่า ‘ นังหน้าด้าน ’ ”  ซิลเวียพูดจ้องมองแพนซี่ด้วยแววตาที่ทำให้เธอถึงกับขนลุก

    “ก็ด่าเธอน่ะสิ  ไม่รู้ตัวหรือไง”  แพนซี่พยายามทำท่าทีเหมือนไม่เกรงกลัวเธอ  “นังหน้าด้าน!”  เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง  แต่พอเธอเห็นสีหน้าซิลเวียนั้นแพนซี่ก็รู้ว่าตัวเองไปล้วงคองูเห่าเข้าซะแล้ว  ซิลเวียกำลังควักไม้กายสิทธ์ออกมาพร้อมที่จะสาปแพนซี่ให้เป็นตัว

    นิฟเฟลอร์แต่โชคดี ( หรือเปล่า ) ที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลมาห้ามไว้ทัน

    “พวกเธอเอะอะโวยวายอะไรกัน!”  เธอตะโกนน้ำเสียงน่ากลัว  “หักสลิธีรินยี่สิบคะแนนข้อหาส่งเสียงดังและพูดจาหยาบคาย”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดอย่างอารมณ์เสีย

    “แต่  อาจารย์คะ”  แพนซี่พยายามอธิบาย

    “ไม่มีคำว่าแต่มิสพาร์กินสัน  เธอตามฉันไปที่ห้องทำงานเดี๋ยวนี้  เธอด้วยมิสเดอ  เวซอง”  เธอพูดอย่างหัวเสียสุด ๆ ส่วนแพนซี่นั้นก็ยอมเดินตามศาสตราจารย์มักกอนนากัลไปโดยดี



    เมื่อออกมาจากห้องโถงมัลฟอยพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อตามเฮอร์ไมโอนี่ให้ทัน  และเมื่อเขาคว้าตัวเธอได้

    “เกรนเจอร์  ฉัน” ไม่ทันที่เขาจะพูดจบเฮอร์ไมโอนี่ก็สะบัดมือเขาออก  มัลฟอยมองท่าทีของเด็กสาวอย่างงง ๆ  “เกรนเจอร์  ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”  เขาพูดเสียงอ่อน

    “เรื่องอะไร  เรื่องแม่คู่หมั้นของเธองั้นเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงประชดประชัน

    “เธอโกรธฉันเหรอเกรนเจอร์”  มัลฟอยพูดมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามหลบสายตาเขา

    “เปล่า  ไม่โกรธ” เฮอร์ไมโอนี่โกหก  จริง ๆ เธอโกรธมากจนอยากจะคว้าไม้กายสิทธิ์มาระเบิดโต๊ะสลิธีรินให้เป็นจุนเลยด้วยซ้ำ ( โหเฮอร์ไมโอนี่โหดซ้า )  

    “งั้นก็หึง”  มัลฟอยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ตามแบบของเขา  เขายื่นหน้าเขามาใกล้เธอยิ่งขึ้น

    “ใครจะหึงคนอย่างนายล่ะ  ปล่อยนะมัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงเขียวพยายามดิ้นรนจากการกอดรัดของเด็กหนุ่ม  แต่เปล่าประโยชน์  ยิ่งดิ้นมัลฟอยก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น

    “ไม่ปล่อยจนกว่าจนกว่าเธอจะยอมเข้าใจฉัน”  มัลฟอยพูดมองหน้าเธอด้วยแววตาเศร้า ๆ

    “จะให้ชั้นเข้าใจอะไรอีกล่ะมัลฟอย  ในเมื่อสิ่งที่เห็นกับตามันก็บอกอะไรฉันหมดแล้วนี่  ปล่อยนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโกรธเคือง  แน่ล่ะเป็นใครจะไม่โกรธ  แต่เธอไม่ได้โกรธเขาที่เขาถูกจับหมั้นกับซิลเวียหรอกนะ  แต่เธอโกรธเพราะเห็นเขาสนิมสนมกับหล่อนที่โต๊ะอาหารเมื่อกี๊  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ไม่ได้มีท่าทางว่าจะปฏิเสธเธอเหมือนเมื่อวานเลย

    “เธอไม่เข้าใจเกรนเจอร์ มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด”  มัลฟอยพูดน้ำเสียงปวดร้าว

    “แล้วมันเป็นยังไงล่ะ  ฉันขี้เกียจฟังนายอธิบายแล้ว  ปล่อยฉันนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นแรงขึ้นกว่าเดิมทำยังไงก็ไม่มีท่าทีว่าจะสงบหรือจะยอมฟังเขาเลย  แต่มัลฟอยก็ไม่ได้พูดอะไรเขาก้มลงจูบเธอซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ขัดขืนอะไรเขา  เธอยอมให้มัลฟอยจูบโดยดี  

    “เอาล่ะ  ทีนี้ฟังฉันได้รึยัง”  มัลฟอยพูดมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนอารมณ์จะเย็นลงแล้ว  และเมื่อเธอพยักหน้าตอบ  มัลฟอยก็เริ่มเล่า

    “ความจริงฉันไม่เคยรู้จักกับยัยนั่นมาก่อนเลยนะ  ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อฉันจับฉันหมั้นกับยัยนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่  ก็เพิ่งรู้เมื่อคืนนี่แหละ”  มัลฟอยอธิบาย  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าแบบว่า ‘ แล้วไงล่ะ ’

    “เรื่องนั้นฉันก็รู้แล้วนี่” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ  ส่วนมัลฟอยมองหน้าเธอแวบหนึ่งก่อนเล่าต่อ

    “แล้วเธอรู้ไหมว่าทำไมพ่อฉันถึงจับฉันหมั้นกับหล่อนโดยไม่ถามฉันก่อน”  มัลฟอยหยุดพูด  และเขาก็เล่าต่อเมื่อเฮอร์ไมโอนี่สั่นหน้า

    “ก็เพราะว่าพ่อฉันเขารู้เรื่องของเราแล้วน่ะสิ”  มัลฟอยเอ่ยสีหน้าตึงเครียด

    “เรื่องของเรา  เรื่องฉันกับนายน่ะนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตกใจ  เธอไม่คิดว่านายลูเซียสจะรู้เร็วขนาดนี้

    “ใช่เรื่องที่เรารักกัน”  มัลฟอยพูดอย่างเขิน ๆ

    “แต่เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเธอเริ่มหวั่น ๆ เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับมัลฟอยเสียแล้ว

    “ฉันก็ไม่รู้  ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ยังไง”  มัลฟอยพูด  มองไปนอกระเบียงสีหน้าของเขาดูวิตกอย่างเห็นได้ชัด  

    “นายว่าเขาจะพยายามหาทางขัดขวางความรักของพวกเรารึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ถามหวาด ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

    “อยู่แล้วล่ะ  ไม่งั้นเขาคงไม่จับฉันหมั้นกับแม่นั่นหรอก”  มัลฟอยพูดสีหน้าหนักใจ  ”แต่ถึงยังไงฉันก็จะไม่ยอมแต่งงานกับยัยนั่นหรอก  ถ้าฉันจะแต่งก็ต้องแต่งกับเธอคนเดียว”  มัลฟอยพูด  มองเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าเป็นสีชมพูเพราะความเขินอาย  แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งอายนะ

    “แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะ  เพราะถึงยังไงพ่อนายก็คงไม่ยอมรับฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเศร้า  ส่วนมัลฟอยนั้นทำท่าทีหนักใจ

    “ฉันก็ไม่รู้”  เขาพูดอย่างจนปัญญา  “แต่ไม่ต้องห่วงนะ  ถึงยังไงฉันไม่ยอมให้พ่อบังคับฉันมากไปกว่านี้หรอก  ถึงจะต้องหนีออกจากตระกูลนี้ฉันก็จะไม่ยอมแต่งกับยัยนั่น” มัลฟอยพูดอย่างมุ่งมั่น  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองเขาอย่างทึ่ง ๆ เธอไม่นึกเลยว่าคุณหนูเลือดบริสุทธ์ที่แสนจะเย่อหยิ่งคนนี้คิดจะทำอะไรออกนอกลู่นอกทางเพียงเพราะเธอ

    “มัลฟอยฉัน” เฮอร์ไมโอนี่โผเข้ากอดเขา  ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีกันแน่  แต่เท่าที่รู้มัลฟอยก็กอดเธอตอบและจูบเธอที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา  เขากระซิบข้างหูเธอเบา ๆ

    “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจำไว้นะว่าฉันรักเธอเกรนเจอร์”  มัลฟอยพูดซึ่งตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดีใจจนน้ำตาคลอ  เมื่อมัลฟอยเห็นเธอร้องไห้เขาก็เอามือเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ

    “ไปเรียนเถอะเกรนเจอร์  เดี๋ยวมีใครมาเห็นเอา”  มัลฟอยมองไปที่กลุ่มนักเรียนที่เพิ่งทยอยออกมาจากห้องโถงหลังกินข้าว  นี่เป็นครั้งแรกที่มัลฟอยกลัวคนอื่นเห็นเขาอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่  ความจริงเขาก็ไม่ได้กลัวใครเห็นหรอกนอกจากซิลเวีย

    แต่มัลฟอยจะรู้ไหมว่าซิลเวียนั้นมาแอบยืนดูพวกเขาอยู่ซักพักนึงแล้ว  เธอหลบอยู่ข้างเสาต้นหนึ่งมาตั้งแต่เธอออกมาจากห้องทำงานของศาสตราจารย์มักกอนนากัล  และเธอได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างดี

    “ฉันจะไม่ยอมให้เธอทำตระกูลที่สูงส่งของเธอแปดเปื้อนหรอกเดรโก”  เธอพึมพำมองทั้งสองด้วยสายตาที่น่ากลัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×