ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คู่หมั้น
ตอนที่ 5  คู่หมั้น
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยรอนต้องไปหาเสนปที่ห้องทำงาน  เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ารอนมีสีหน้าแย่มาก  มากกว่าตอนที่ต้องไปซ้อมควิดดิชหลายเท่า  ส่วนทางแองเจลิน่านั้นเมื่อได้ยินว่ารอนโดนกักบริเวณ
“โอยย  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยกักบริเวณตั้งสัปดาห์  แถมเป็นตอนใกล้แข่งอย่างนี้ด้วย”  แองเจลิน่าพูด  ทำท่าเหมือนจะเป็นลม
“แต่เราก็ยังหลืออีกตั้งสองสัปดาห์กว่าจะแข่งนี่”  รอนแย้งแต่มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
“อีกแค่สองสัปดาห์ต่างหากล่ะ วีสลีย์”  แองเจลิน่าหัวเสีย  “แล้วนายจะเอาเวลาที่ไหนมาซ้อมล่ะ”
เธอทำท่าทีครุ่นคิด  “เอาเป็นว่าเราต้องหาเวลาซ้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”  แองเจลิน่าพูด
“เธอคิดว่าแค่นี้ยังไม่มากพออีกเหรอ”  รอนร้องแต่แฮร์รี่เอามืออุดปากเขาไว้ทัน
“ฉันคิดว่าเธอคงไม่อยากให้รอนไปพบเสนปสายหรอกนะแองเจลิน่า  ถ้าเขาโมโหขึ้นมาอาจจะสั่งกักบริเวณเพิ่มอีกก็ได้”  แฮร์รี่พูดแทนรอน  แองเจลิน่าก็จนด้วยเหตุผลเธอยอมปล่อยรอนไปโดยดี
เมื่อรอนไปหาเสนปที่ห้องทำงาน ( เฟร็ดกับจอร์จต่างช่วยอวยพรให้เขาโชคดี ) แฮร์รี่ก็กลับห้องนั่งเล่นรวม  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นขอตัวไปทำงานที่เสนปสั่งที่ห้องสมุดกับไรอัน  และดูเหมือนว่าจะมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องไปที่พวกเขาที่เดินออกจากห้องโถงไป
มัลฟอยแอบมองพวกเขาอยู่นาน ( ความจริงก็ตั้งแต่ไรอันมาอยู่นี่แล้ว ) เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เฮอร์ไมโอนี่นั้นไปสนิทสนมกับไรอันจนอยากจะตามไปกระทืบไรอันให้ตายคาห้องสมุดเลยด้วยซ้ำ  แต่เขาไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้เพราะว่าเขาต้องไปกักบริเวณกับศาสตราจารย์มักกอนนากัล
มัลฟอยมาหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลหลังอาหาร  เขาเคาะประตูห้องทำงานของเธอและเมื่อมีเสียงตอบกลับมาว่า “เข้ามาได้” เขาจึงผลักประตูเข้าไป  ในห้องทำงานมีศาสตราจารย์มักกอนนากัลนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอตามเดิม  และมีคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอ  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง นั่นเอง
“นั่งลงสิ  มิสเตอร์มัลฟอย”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลชี้ไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ ซิลเวีย  มัลฟอยนั่งลงและมองหน้าเธอ  “เอาล่ะ ฉันมีงานให้เธอทำ”  เธอพูดกับมัลฟอยที่ทำหน้าเซ็ง ๆ
“ฉันจะให้เธอจัดเรียงเอกสารพวกนี้”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดชี้ไปที่กองเอกสารที่วางอยู่บนพื้น  มันสูงจนเกือบจะเท่าโต๊ะทำงานเธออยู่แล้ว  “และให้เธอทำงานกับมิสเดอ  เวซอง”  เธอมองไปที่ซิลเวีย
“เฮอะ  พวกโบซ์บาตงก็โดนกักบริเวณเหมือนกันเหรอเนี่ย”  มัลฟอยพูดรอดไรฟัน 
“เธอไม่ได้โดนกักบริเวณมิสเตอร์มัลฟอย  แต่เธอต้องทำตามหน้าที่  เพราะเอกสารเหล่านั้นเป็นข้อมูลของนักเรียนโบซ์บาตงที่ต้องเรียงเข้าแฟ้ม”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยเสียงเรียบ  มัลฟอยทำท่าไม่สนใจเธอ
“เอาล่ะ  พวกเธอทำงานไปนะ  มีอะไรก็ถามมิสเดอ  เวซองเอาละกัน”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด  ทิ้งให้เขาอยู่จัดการกับเอกสารกองเท่าภูเขากับซิลเวียเพียงสองคน
ส่วนทางเฮอร์ไมโอนี่นั้นอยู่กับไรอันที่ห้องสมุด  เขาช่วยเธอได้มากเลยในการทำรายงานของเสนปเพราะเขาจดจำคุณสมบัติของตัวยาได้ดีเยี่ยมราวกับเอาหนังสือมาเปิดอ่านตรงหน้า  และไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ข้อมูลครบตามที่เธอต้องการ
“เรียบร้อยซะที  ขอบคุณมากนะไรอันเธอนี่เก่งจริง ๆ เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเก็บของใส่กระเป๋า
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ  มันคงเป็นเพราะผมชอบเรียนวิชาปรุงยาด้วย”  ไรอันตอบอย่างถล่มตัว
“เธอชอบเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าแหยเก “ความจริงมันก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกนะ  ถ้าไม่ได้เรียนกับเสนปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกนึกถึงอาจารย์วิชาปรุงยาที่สุดแสนจะน่ารักของเธอ
“เหรอครับ  ผมยังไม่เคยเรียนกับเขาเลย  เพราะที่เขาสอนอยู่ผมเรียนไปหมดแล้ว”  ไรอันบอก
“เธอจะกลับหรือยังล่ะ  นี่มันก็ดึกแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงดูนาฬิกาและก็พบว่านี่ใกล้เวลาหอปิดแล้ว
“ก็ดีครับ  งั้นผมไปส่งคุณนะ”  ไรอันพูดเสียงใส  แต่โดยปกติแล้วถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่กลับหอพร้อมแฮร์รี่กับรอน  ก็จะเป็นมัลฟอยที่ไปส่งเธอ  แต่วันนี้เขาไม่อยู่นี่ 
“ก็ได้  ไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเดินออกจากห้องสมุดไปพร้อมเขา
หลังจากนั่งทำงานมานานนับชั่วโมง  มัลฟอยเริ่มเมื่อยล้าและรู้สึกเบื่อที่ต้องมานั่งทำงานไร้สาระแบบนี้  แถมเอกสารพวกนั้นบางอันเป็นภาษาฝรั่งเศสที่เขาอ่านไม่ออกเลยต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ซิลเวียแทน  ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มทำงานซิลเวียไม่พูดกับเขาเลยแม้แต่น้อย  ยกเว้นเวลาที่เธอต้องแปลภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษให้เขาฟัง และเมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลกลับมาเพื่อบอกพวกเขาว่าให้มาทำงานใหม่ในวันพรุ่งนี้  เขาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมซิลเวีย 
“ฉันต้องทำไอ้งานกิ๊กก๊อกนั่นไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย”  มัลฟอยบ่นรอดไรฟันออกมาเบา ๆ แต่ซิลเวียกลับได้ยินที่เขาพูด
“เธอต้องทำอีกนานเลยล่ะ  มัลฟอย  เอ๊ะ  ไม่ใช่สิ  เดรโก”  ซิลเวียพูดมองมัลฟอยพร้อมยิ้มน้อย ๆ
“ใครใช้ให้เธอเรียกฉันแบบนี้”  มัลฟอยพูดเสียงเย็นชา แต่ซิลเวียนั้นไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านเลย
“ไม่ได้มีใครใช้หรอก  แต่ฉันพอใจที่ฉันจะพูด”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็น  โดยที่คำพูดของเธอนั้นไปกระตุ้นต่อมอารมณ์โกรธของมัลฟอยเข้าแล้ว
“เธอ!”  มัลฟอยคำราม  “เธอไม่มีสิทธิ์เรียกฉันอย่างนี้ถ้าฉันไม่อนุญาติ  จำไว้!”
“ฉันไม่มีสิทธิ์  แต่ยัยเลือดสีโคลนนั่นกลับมีสิทธิ์ที่จะเรียกเธอว่า ‘ เดรโก ’ อย่างนั้นเหรอ”  ซิลเวียพูด
“ถ้าเธอหมายถึงเฮอร์ไมโอนี่ล่ะก็เขามีสิทธิ์  และต่อไปห้ามเธอเรียกเขาว่าอย่างนั้นอีก  ไม่งั้นล่ะก็ ”  มัลฟอยตวาดเธอ  อารมณ์ของเขาตอนนี้เหมือนกับปรอทที่ใกล้จะแตก  ยิ่งเมื่อได้เห็นสีหน้าเฉยเมยของซิลเวียเขาก็ยิ่งเดือดดาล
“ก็อะไรล่ะ  เดรโก”  ซิลเวียจงใจเน้นคำว่า ’ เดรโก ‘ ให้เขาได้ยินชัด ๆ “เธอจะทำอะไรฉันหรือ  ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าเธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”  ซิลเวียเอ่ยแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ
“เธอคิดว่าเธอเป็นใครฉันถึงทำอะไรเธอไม่ได้”  มัลฟอยคำรามรอดไรฟันออกมา  เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สาปซิลเวียให้เป็นตัวแบดเจอร์  เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิง
“อ้าวนี่คุณลุงยังไม่ได้บอกเธออีกเหรอ  เดรโก”  ซิลเวียเอ่ยเสียงหวาน  มัลฟอยทำหน้างงงวย
“เธอหมายถึงใคร  พ่อฉันงั้นเหรอ”  มัลฟอยพูดหรี่ตามองที่ซิลเวีย 
“ใช่พ่อของเธอ  ลูเซียส  มัลฟอย ยังไม่ได้บอกเธอเรื่องฉันงั้นเหรอ”  ซิลเวียพูด  ใบหน้าของเธอตอนนี้เป็นแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า  เธอส่งยิ้มชั่วร้ายให้มัลฟอยที่ทำหน้างงอย่างสุด ๆ อยู่
“พ่อฉัน  จะบอกฉัน  เรื่องอะไร”  มัลฟอยถามอย่างสงสัย  บัดนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำถาม
“งั้นฉันจะบอกให้ก็ได้  ถ้าเธออยากรู้”  ซิลเวียพูดอมยิ้ม  เธอยื่นหน้ามาใกล้เขา
“พ่อเธอน่ะรู้เรื่องของเธอกับยายเกรนเจอร์นั่นหมดแล้ว  รู้หมดทุกเรื่อง”  ซิลเวียกระซิบที่ข้าง ๆ หูของเขา  น้ำเสียงสะใจเป็นที่สุด  “เพราะฉะนั้นเขาก็เลยมาหาพ่อฉัน  มาปรึกษากันเสียยกใหญ่”  เธอพูดต่อไปซึ่งตอนนั้นมัลฟอยหน้าซีดราวกับกระดาษ
“พ่อรู้  รู้ได้ยังไง”  มัลฟอยถามเสียงสั่นเครือ  แต่ซิลเวียไม่ตอบเขา  เธอมองหน้ามัลฟอยและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้งก่อนที่จะเล่าเรื่องต่อ
“เขาก็เลยส่งฉันมาที่นี่  เพื่อที่จะมาดูแลเธออย่างใกล้ชิด”  ซิลเวียพูดเหมือนเพ้อ เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาอีก  “และตอนนี้ฉันก็เป็น .”
“มัลฟอย!” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้น  ทั้งสองหันไปมองก็เห็นเธออยู่ห่างจากพวกเขาไม่มากนัก และก็มีไรอันยืนอยู่ข้าง ๆ  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นเดินเข้ามาใกล้เขา  มองมัลฟอยและซิลเวียด้วยท่าทีไม่พอใจ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เกรนเจอร์”  มัลฟอยถาม รีบถอยออกห่างจากซิลเวีย
“ฉันก็กำลังจะกลับห้องนั่งเล่นรวมน่ะสิ  แล้วนายล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามมองเขาและซิลเวีย
“กำลังจะกลับห้องนั่งเล่นรวมแต่กลับเหน็บไอ้เจ้านี่มาด้วยนี่นะ”  มัลฟอยพูดมองไรอันด้วยสายตาดูถูก
“เขาชื่อไรอัน!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างมีน้ำโห  “ทีตัวเองล่ะมัลฟอย  ฉันคงมาขัดจังหวะนายล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด  มัลฟอยมายืนทำอะไรกับซิลเวียที่ระเบียงมืด ๆ นี่  แถมตอนที่เธอเห็น  หน้าของเขากับซิลเวียก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ  แต่ก่อนที่มัลฟอยจะได้อธิบายอะไร
“ถูกต้องอย่างยิ่งเลยค่ะมิสเกรนเจอร์  คุณนี่เดาเก่งจริง ๆ” ซิลเวียพูดกับเธอพร้อมส่งรอยยิ้มเสแสร้งมาให้  เธอเอามือคล้องแขนมัลฟอยไว้  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นโกรธจนควันออกหู  แต่เธอพยายามเก็บอารมณ์ไว้
“อ๋อเหรอ  งั้นต้องขอโทษด้วยนะมิสเดอ  เวซอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันกับเดรโกไม่ถือ”  ซิลเวียพูดยิ้มเย้ยหยัน 
“นี่คงสนิทกันมากสินะ  ถึงกับเรียกชื่อเขาน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงน้อยใจ
“ค่ะ  นี่เดรโกยังไม่ได้บอกคุณอีกเหรอคะว่าเราเป็นอะไรกัน”  ซิลเวียพูดมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยดวงตาสีน้ำเงินของเธอ  รอยยิ้มที่เจือด้วยยาพิษปรากฏบนริมฝีปากของเธออีกครั้ง  ส่วนมัลฟอยที่กำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกซิลเวียขัดซะก่อน
“ถ้าเดรโกยังไม่ได้บอกคุณ  ฉันจะบอกให้แล้วกันว่าเราเป็น ’ คู่หมั้น ‘ กัน”  เมื่อซิลเวียพูดจบเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยก็ถึงกับซ็อคไปเลย
“คู่หมั้น!”  ทั้งสองตะโกนออกมาอย่างตกใจและงงงวยเป็นที่สุด
“นี่เธอพูดอะไรน่ะ  ฉันไปหมั้นกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”  มัลฟอยพูด  เขาผลักซิลเวียออกห่างทันที
“ใช่เธอยังไม่ได้หมั้นกับฉัน  แต่พวกพ่อของเราก็ตกลงเรื่องนี้กันแล้วเรียบร้อย”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็น  คว้าแขนมัลฟอยมาควงอีกครั้ง  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่มันไม่จริงใช่มั้ยมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำน้ำตาคลอเป้า
“จริงแท้แน่นอนค่ะมิสเกรนเจอร์  คุณพ่อของเดรโกยังบอกอีกว่าให้เราแต่งงานกันทันทีหลังจากเรียนจบ”  ซิลเวียพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี  ส่วนมัลฟอยนั้นสะบัดมือเธอออก
“ฉันไม่ต้องการหมั้นกับคนอย่างเธอ  ฉันรักเกรนเจอร์คนเดียว”  มัลฟอยตะโกนใส่หน้าซิลเวีย  แต่เธอไม่ได้แสดงท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด  แต่กลับยิ้มอย่างมีชัย
“เธอไม่ต้องการก็ไม่มีประโยชน์  เพราะคุณลุงตัดสินใจแล้ว  คุณลุงน่ะไม่ยอมให้เธอทำตระกูลแปดเปื้อนด้วยการไปคว้าเลือดสีโคลนมาแต่งงานด้วยหรอกเดรโก”  ซิลเวียพูดอย่างร้ายกาจ  มัลฟอยนั้นโกรธแทบคลั่ง  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นน้ำตาไหลอาบแก้ม  เธอไม่ต้องการจะยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่วิ่งหนีไปจากตรงนั้นเธอวิ่งหายไปตามระเบียงทางเดินที่มืดมิด
“เกรนเจอร์/เฮอร์ไมโอนี่!!!”  เสียงของมัลฟอยและไรอันดังขึ้นพร้อมกัน  แต่ไรอันเร็วกว่าเขาวิ่งตามเฮอร์ไมโอนี่ไปทันที  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ทำท่าจะตามเช่นกันแค่ซิลเวียคว้าตัวไว้ได้ทัน
“ปล่อยฉันนะ”  มัลฟอยตะโกนใส่หน้าเธอ  แต่เธอกลับพูดเสียงเยือกเย็น
“เธอจะดื้อไปถึงไหนเดรโก  ช้าเร็วเธอก็ต้องหมั้นกับชั้นอยู่ดี”  มัลฟอยพยามยามดิ้นจากการเกาะกุมของเธอ  แต่ซิลเวียยังคงพูดต่อไป
“หรือว่าเธอต้องให้เรื่องถึงหูพ่อเธอก่อนงั้นเหรอ  เธอคิดว่าคุณลุงจะอยู่เฉยน่ะเหรอ”  เมื่อซิลเวียพูดจบมัลฟอยก็สงบลง  เขายืนนิ่งไม่ไหวติง  แขนสองข้างตกลงข้างลำตัวราวกับรูปปั้น
“ลองไปตรองดูและกันนะ  ถ้าเธอฉลาดพอล่ะก็คงไม่ทำอย่างนี้อีกหรอกนะ”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็นและทิ้งมัลฟอยให้ยืนแข็งเป็นหินอยู่อย่างนั้น     
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยรอนต้องไปหาเสนปที่ห้องทำงาน  เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ารอนมีสีหน้าแย่มาก  มากกว่าตอนที่ต้องไปซ้อมควิดดิชหลายเท่า  ส่วนทางแองเจลิน่านั้นเมื่อได้ยินว่ารอนโดนกักบริเวณ
“โอยย  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยกักบริเวณตั้งสัปดาห์  แถมเป็นตอนใกล้แข่งอย่างนี้ด้วย”  แองเจลิน่าพูด  ทำท่าเหมือนจะเป็นลม
“แต่เราก็ยังหลืออีกตั้งสองสัปดาห์กว่าจะแข่งนี่”  รอนแย้งแต่มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
“อีกแค่สองสัปดาห์ต่างหากล่ะ วีสลีย์”  แองเจลิน่าหัวเสีย  “แล้วนายจะเอาเวลาที่ไหนมาซ้อมล่ะ”
เธอทำท่าทีครุ่นคิด  “เอาเป็นว่าเราต้องหาเวลาซ้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้”  แองเจลิน่าพูด
“เธอคิดว่าแค่นี้ยังไม่มากพออีกเหรอ”  รอนร้องแต่แฮร์รี่เอามืออุดปากเขาไว้ทัน
“ฉันคิดว่าเธอคงไม่อยากให้รอนไปพบเสนปสายหรอกนะแองเจลิน่า  ถ้าเขาโมโหขึ้นมาอาจจะสั่งกักบริเวณเพิ่มอีกก็ได้”  แฮร์รี่พูดแทนรอน  แองเจลิน่าก็จนด้วยเหตุผลเธอยอมปล่อยรอนไปโดยดี
เมื่อรอนไปหาเสนปที่ห้องทำงาน ( เฟร็ดกับจอร์จต่างช่วยอวยพรให้เขาโชคดี ) แฮร์รี่ก็กลับห้องนั่งเล่นรวม  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นขอตัวไปทำงานที่เสนปสั่งที่ห้องสมุดกับไรอัน  และดูเหมือนว่าจะมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องไปที่พวกเขาที่เดินออกจากห้องโถงไป
มัลฟอยแอบมองพวกเขาอยู่นาน ( ความจริงก็ตั้งแต่ไรอันมาอยู่นี่แล้ว ) เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เฮอร์ไมโอนี่นั้นไปสนิทสนมกับไรอันจนอยากจะตามไปกระทืบไรอันให้ตายคาห้องสมุดเลยด้วยซ้ำ  แต่เขาไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้เพราะว่าเขาต้องไปกักบริเวณกับศาสตราจารย์มักกอนนากัล
มัลฟอยมาหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลหลังอาหาร  เขาเคาะประตูห้องทำงานของเธอและเมื่อมีเสียงตอบกลับมาว่า “เข้ามาได้” เขาจึงผลักประตูเข้าไป  ในห้องทำงานมีศาสตราจารย์มักกอนนากัลนั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอตามเดิม  และมีคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอ  ซิลเวีย  เดอ  เวซอง นั่นเอง
“นั่งลงสิ  มิสเตอร์มัลฟอย”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลชี้ไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ ซิลเวีย  มัลฟอยนั่งลงและมองหน้าเธอ  “เอาล่ะ ฉันมีงานให้เธอทำ”  เธอพูดกับมัลฟอยที่ทำหน้าเซ็ง ๆ
“ฉันจะให้เธอจัดเรียงเอกสารพวกนี้”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดชี้ไปที่กองเอกสารที่วางอยู่บนพื้น  มันสูงจนเกือบจะเท่าโต๊ะทำงานเธออยู่แล้ว  “และให้เธอทำงานกับมิสเดอ  เวซอง”  เธอมองไปที่ซิลเวีย
“เฮอะ  พวกโบซ์บาตงก็โดนกักบริเวณเหมือนกันเหรอเนี่ย”  มัลฟอยพูดรอดไรฟัน 
“เธอไม่ได้โดนกักบริเวณมิสเตอร์มัลฟอย  แต่เธอต้องทำตามหน้าที่  เพราะเอกสารเหล่านั้นเป็นข้อมูลของนักเรียนโบซ์บาตงที่ต้องเรียงเข้าแฟ้ม”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยเสียงเรียบ  มัลฟอยทำท่าไม่สนใจเธอ
“เอาล่ะ  พวกเธอทำงานไปนะ  มีอะไรก็ถามมิสเดอ  เวซองเอาละกัน”  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด  ทิ้งให้เขาอยู่จัดการกับเอกสารกองเท่าภูเขากับซิลเวียเพียงสองคน
ส่วนทางเฮอร์ไมโอนี่นั้นอยู่กับไรอันที่ห้องสมุด  เขาช่วยเธอได้มากเลยในการทำรายงานของเสนปเพราะเขาจดจำคุณสมบัติของตัวยาได้ดีเยี่ยมราวกับเอาหนังสือมาเปิดอ่านตรงหน้า  และไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ข้อมูลครบตามที่เธอต้องการ
“เรียบร้อยซะที  ขอบคุณมากนะไรอันเธอนี่เก่งจริง ๆ เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเก็บของใส่กระเป๋า
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ  มันคงเป็นเพราะผมชอบเรียนวิชาปรุงยาด้วย”  ไรอันตอบอย่างถล่มตัว
“เธอชอบเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าแหยเก “ความจริงมันก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกนะ  ถ้าไม่ได้เรียนกับเสนปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกนึกถึงอาจารย์วิชาปรุงยาที่สุดแสนจะน่ารักของเธอ
“เหรอครับ  ผมยังไม่เคยเรียนกับเขาเลย  เพราะที่เขาสอนอยู่ผมเรียนไปหมดแล้ว”  ไรอันบอก
“เธอจะกลับหรือยังล่ะ  นี่มันก็ดึกแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงดูนาฬิกาและก็พบว่านี่ใกล้เวลาหอปิดแล้ว
“ก็ดีครับ  งั้นผมไปส่งคุณนะ”  ไรอันพูดเสียงใส  แต่โดยปกติแล้วถ้าเฮอร์ไมโอนี่ไม่กลับหอพร้อมแฮร์รี่กับรอน  ก็จะเป็นมัลฟอยที่ไปส่งเธอ  แต่วันนี้เขาไม่อยู่นี่ 
“ก็ได้  ไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเดินออกจากห้องสมุดไปพร้อมเขา
หลังจากนั่งทำงานมานานนับชั่วโมง  มัลฟอยเริ่มเมื่อยล้าและรู้สึกเบื่อที่ต้องมานั่งทำงานไร้สาระแบบนี้  แถมเอกสารพวกนั้นบางอันเป็นภาษาฝรั่งเศสที่เขาอ่านไม่ออกเลยต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ซิลเวียแทน  ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มทำงานซิลเวียไม่พูดกับเขาเลยแม้แต่น้อย  ยกเว้นเวลาที่เธอต้องแปลภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษให้เขาฟัง และเมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลกลับมาเพื่อบอกพวกเขาว่าให้มาทำงานใหม่ในวันพรุ่งนี้  เขาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมซิลเวีย 
“ฉันต้องทำไอ้งานกิ๊กก๊อกนั่นไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย”  มัลฟอยบ่นรอดไรฟันออกมาเบา ๆ แต่ซิลเวียกลับได้ยินที่เขาพูด
“เธอต้องทำอีกนานเลยล่ะ  มัลฟอย  เอ๊ะ  ไม่ใช่สิ  เดรโก”  ซิลเวียพูดมองมัลฟอยพร้อมยิ้มน้อย ๆ
“ใครใช้ให้เธอเรียกฉันแบบนี้”  มัลฟอยพูดเสียงเย็นชา แต่ซิลเวียนั้นไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านเลย
“ไม่ได้มีใครใช้หรอก  แต่ฉันพอใจที่ฉันจะพูด”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็น  โดยที่คำพูดของเธอนั้นไปกระตุ้นต่อมอารมณ์โกรธของมัลฟอยเข้าแล้ว
“เธอ!”  มัลฟอยคำราม  “เธอไม่มีสิทธิ์เรียกฉันอย่างนี้ถ้าฉันไม่อนุญาติ  จำไว้!”
“ฉันไม่มีสิทธิ์  แต่ยัยเลือดสีโคลนนั่นกลับมีสิทธิ์ที่จะเรียกเธอว่า ‘ เดรโก ’ อย่างนั้นเหรอ”  ซิลเวียพูด
“ถ้าเธอหมายถึงเฮอร์ไมโอนี่ล่ะก็เขามีสิทธิ์  และต่อไปห้ามเธอเรียกเขาว่าอย่างนั้นอีก  ไม่งั้นล่ะก็ ”  มัลฟอยตวาดเธอ  อารมณ์ของเขาตอนนี้เหมือนกับปรอทที่ใกล้จะแตก  ยิ่งเมื่อได้เห็นสีหน้าเฉยเมยของซิลเวียเขาก็ยิ่งเดือดดาล
“ก็อะไรล่ะ  เดรโก”  ซิลเวียจงใจเน้นคำว่า ’ เดรโก ‘ ให้เขาได้ยินชัด ๆ “เธอจะทำอะไรฉันหรือ  ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าเธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”  ซิลเวียเอ่ยแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ
“เธอคิดว่าเธอเป็นใครฉันถึงทำอะไรเธอไม่ได้”  มัลฟอยคำรามรอดไรฟันออกมา  เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สาปซิลเวียให้เป็นตัวแบดเจอร์  เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิง
“อ้าวนี่คุณลุงยังไม่ได้บอกเธออีกเหรอ  เดรโก”  ซิลเวียเอ่ยเสียงหวาน  มัลฟอยทำหน้างงงวย
“เธอหมายถึงใคร  พ่อฉันงั้นเหรอ”  มัลฟอยพูดหรี่ตามองที่ซิลเวีย 
“ใช่พ่อของเธอ  ลูเซียส  มัลฟอย ยังไม่ได้บอกเธอเรื่องฉันงั้นเหรอ”  ซิลเวียพูด  ใบหน้าของเธอตอนนี้เป็นแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า  เธอส่งยิ้มชั่วร้ายให้มัลฟอยที่ทำหน้างงอย่างสุด ๆ อยู่
“พ่อฉัน  จะบอกฉัน  เรื่องอะไร”  มัลฟอยถามอย่างสงสัย  บัดนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำถาม
“งั้นฉันจะบอกให้ก็ได้  ถ้าเธออยากรู้”  ซิลเวียพูดอมยิ้ม  เธอยื่นหน้ามาใกล้เขา
“พ่อเธอน่ะรู้เรื่องของเธอกับยายเกรนเจอร์นั่นหมดแล้ว  รู้หมดทุกเรื่อง”  ซิลเวียกระซิบที่ข้าง ๆ หูของเขา  น้ำเสียงสะใจเป็นที่สุด  “เพราะฉะนั้นเขาก็เลยมาหาพ่อฉัน  มาปรึกษากันเสียยกใหญ่”  เธอพูดต่อไปซึ่งตอนนั้นมัลฟอยหน้าซีดราวกับกระดาษ
“พ่อรู้  รู้ได้ยังไง”  มัลฟอยถามเสียงสั่นเครือ  แต่ซิลเวียไม่ตอบเขา  เธอมองหน้ามัลฟอยและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้งก่อนที่จะเล่าเรื่องต่อ
“เขาก็เลยส่งฉันมาที่นี่  เพื่อที่จะมาดูแลเธออย่างใกล้ชิด”  ซิลเวียพูดเหมือนเพ้อ เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาอีก  “และตอนนี้ฉันก็เป็น .”
“มัลฟอย!” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้น  ทั้งสองหันไปมองก็เห็นเธออยู่ห่างจากพวกเขาไม่มากนัก และก็มีไรอันยืนอยู่ข้าง ๆ  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นเดินเข้ามาใกล้เขา  มองมัลฟอยและซิลเวียด้วยท่าทีไม่พอใจ
“เธอมาทำอะไรที่นี่เกรนเจอร์”  มัลฟอยถาม รีบถอยออกห่างจากซิลเวีย
“ฉันก็กำลังจะกลับห้องนั่งเล่นรวมน่ะสิ  แล้วนายล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามมองเขาและซิลเวีย
“กำลังจะกลับห้องนั่งเล่นรวมแต่กลับเหน็บไอ้เจ้านี่มาด้วยนี่นะ”  มัลฟอยพูดมองไรอันด้วยสายตาดูถูก
“เขาชื่อไรอัน!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างมีน้ำโห  “ทีตัวเองล่ะมัลฟอย  ฉันคงมาขัดจังหวะนายล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด  มัลฟอยมายืนทำอะไรกับซิลเวียที่ระเบียงมืด ๆ นี่  แถมตอนที่เธอเห็น  หน้าของเขากับซิลเวียก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ  แต่ก่อนที่มัลฟอยจะได้อธิบายอะไร
“ถูกต้องอย่างยิ่งเลยค่ะมิสเกรนเจอร์  คุณนี่เดาเก่งจริง ๆ” ซิลเวียพูดกับเธอพร้อมส่งรอยยิ้มเสแสร้งมาให้  เธอเอามือคล้องแขนมัลฟอยไว้  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นโกรธจนควันออกหู  แต่เธอพยายามเก็บอารมณ์ไว้
“อ๋อเหรอ  งั้นต้องขอโทษด้วยนะมิสเดอ  เวซอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันกับเดรโกไม่ถือ”  ซิลเวียพูดยิ้มเย้ยหยัน 
“นี่คงสนิทกันมากสินะ  ถึงกับเรียกชื่อเขาน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงน้อยใจ
“ค่ะ  นี่เดรโกยังไม่ได้บอกคุณอีกเหรอคะว่าเราเป็นอะไรกัน”  ซิลเวียพูดมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยดวงตาสีน้ำเงินของเธอ  รอยยิ้มที่เจือด้วยยาพิษปรากฏบนริมฝีปากของเธออีกครั้ง  ส่วนมัลฟอยที่กำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกซิลเวียขัดซะก่อน
“ถ้าเดรโกยังไม่ได้บอกคุณ  ฉันจะบอกให้แล้วกันว่าเราเป็น ’ คู่หมั้น ‘ กัน”  เมื่อซิลเวียพูดจบเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยก็ถึงกับซ็อคไปเลย
“คู่หมั้น!”  ทั้งสองตะโกนออกมาอย่างตกใจและงงงวยเป็นที่สุด
“นี่เธอพูดอะไรน่ะ  ฉันไปหมั้นกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”  มัลฟอยพูด  เขาผลักซิลเวียออกห่างทันที
“ใช่เธอยังไม่ได้หมั้นกับฉัน  แต่พวกพ่อของเราก็ตกลงเรื่องนี้กันแล้วเรียบร้อย”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็น  คว้าแขนมัลฟอยมาควงอีกครั้ง  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่มันไม่จริงใช่มั้ยมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำน้ำตาคลอเป้า
“จริงแท้แน่นอนค่ะมิสเกรนเจอร์  คุณพ่อของเดรโกยังบอกอีกว่าให้เราแต่งงานกันทันทีหลังจากเรียนจบ”  ซิลเวียพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี  ส่วนมัลฟอยนั้นสะบัดมือเธอออก
“ฉันไม่ต้องการหมั้นกับคนอย่างเธอ  ฉันรักเกรนเจอร์คนเดียว”  มัลฟอยตะโกนใส่หน้าซิลเวีย  แต่เธอไม่ได้แสดงท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด  แต่กลับยิ้มอย่างมีชัย
“เธอไม่ต้องการก็ไม่มีประโยชน์  เพราะคุณลุงตัดสินใจแล้ว  คุณลุงน่ะไม่ยอมให้เธอทำตระกูลแปดเปื้อนด้วยการไปคว้าเลือดสีโคลนมาแต่งงานด้วยหรอกเดรโก”  ซิลเวียพูดอย่างร้ายกาจ  มัลฟอยนั้นโกรธแทบคลั่ง  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นน้ำตาไหลอาบแก้ม  เธอไม่ต้องการจะยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่วิ่งหนีไปจากตรงนั้นเธอวิ่งหายไปตามระเบียงทางเดินที่มืดมิด
“เกรนเจอร์/เฮอร์ไมโอนี่!!!”  เสียงของมัลฟอยและไรอันดังขึ้นพร้อมกัน  แต่ไรอันเร็วกว่าเขาวิ่งตามเฮอร์ไมโอนี่ไปทันที  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ทำท่าจะตามเช่นกันแค่ซิลเวียคว้าตัวไว้ได้ทัน
“ปล่อยฉันนะ”  มัลฟอยตะโกนใส่หน้าเธอ  แต่เธอกลับพูดเสียงเยือกเย็น
“เธอจะดื้อไปถึงไหนเดรโก  ช้าเร็วเธอก็ต้องหมั้นกับชั้นอยู่ดี”  มัลฟอยพยามยามดิ้นจากการเกาะกุมของเธอ  แต่ซิลเวียยังคงพูดต่อไป
“หรือว่าเธอต้องให้เรื่องถึงหูพ่อเธอก่อนงั้นเหรอ  เธอคิดว่าคุณลุงจะอยู่เฉยน่ะเหรอ”  เมื่อซิลเวียพูดจบมัลฟอยก็สงบลง  เขายืนนิ่งไม่ไหวติง  แขนสองข้างตกลงข้างลำตัวราวกับรูปปั้น
“ลองไปตรองดูและกันนะ  ถ้าเธอฉลาดพอล่ะก็คงไม่ทำอย่างนี้อีกหรอกนะ”  ซิลเวียเอ่ยเสียงเย็นและทิ้งมัลฟอยให้ยืนแข็งเป็นหินอยู่อย่างนั้น     
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น