ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศัตรูที่รัก เฮอร์ไมโอนี่ + มัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #18 : ความรู้สึกของมัลฟอย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.62K
      51
      4 ก.ย. 47

    ตอนที่ 18  ความรู้สึกของมัลฟอย

    แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่นั้นต่างพากันเร่งฝีเท้าเพื่อให้เข้าไปเรียนวิชาสมุนไพรทัน  และก็เป็นตามที่เขาคาดหวังเพราะพวกเขาไปถึงเรียนกระจกก่อนศาสตราจารย์เสปราต์จะเข้าสอน

    “อาจารย์ยังไม่มาเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามปาราวตีที่มาถึงก่อนเธอ  

    “ยังหรอก  แต่ฉันเห็นอาจารย์เดินหายไปทางเรียนกระจกทางฝั่งนู้นน่ะ” ปาราวตีตอบพลางชี้มือไปที่เรียนกระจกที่อยู่ท้ายสุดซึ่งเป็นที่อยู่สำหรับต้นไม้อันตรายต่าง ๆ ที่อาจารย์ห้ามพวกนักเรียนเข้าไปยุ่ง “แล้วเธอก์ยังไม่กลับมาเลย” ปาราวตีบอก

    ทุกคนรออยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงศาสตราจาร์ยเสปราต์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาสอน  นักเรียนคนอื่น ๆ ก็ต่างหาอะไรทำเพื่อรอคอยการมาของอาจารย์  บ้างก็นั่งจับกลุ่มคุยกันบ้างก็หาอะไรมาทำ ( โชคดีเป็นอย่างยิ่งที่เฟร็ดกับจอร์จไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนด้วย  ไม่งั้นคงต้องเกิดเรื่องวุ่นขึ้นแน่ ๆ  ) รอนนั้นหยิบไพ่แสนประเบิดปังพี่พกติดตัวไว้ออกมาเล่นโดยมี  เขา  แฮร์รี่  ดีน  และ เชมัส  จับจองพื้นที่มุมหนึ่งของเรียนกระจกเพื่อนเล่นไพ่ไปแล้ว  ส่วนบางคนอย่างเนวิลล์ก็ได้แต่เดินดูต้นไม้ในเรียนกระจกอย่างสนอกสนใจ  แต่คนที่ดูอารมณ์เสียทีสุดน่าจะเป็นเฮอร์ไมโอนี่  เพราะว่าเธอไม่พอใจที่เด็กคนอื่น ๆ เอาเวลาที่แสนมีค่าในชั้นเรียนไปเล่นไพ่หรือทำอะไรไร้สาระ  และเมื่อความอดทนของเฮอร์ไมโอนี่หมดลง  เธอก็เดินปึงปังจากเรียนกระจกทันที

    “ฉันจะไปตามอาจารย์มาสอน!” เธอพูดอย่างอารมณ์เสีย

    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจากเรียนกระจกหมายเลข 7 ที่พวกเธอต้องเรียนในวันนี้ไปที่เรียนกระจกที่อยู่ริมสุดซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่านั่นเป็นเขตหวงห้ามสำหรับนักเรียน  แต่เธอทนไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเห็นเด็กคนอื่น ๆ ไม่สนใจที่จะเอาหนังสือเรียนมาอ่านเลยแม้แต่น้อย

    เฮอร์ไมโอนี่เดินมาหยุดหน้าเรียนกระจกที่อยู่ท้ายสุด มันเป็นเรียนกระจกที่ดูเก่าแก่และดูมืดครึ้มมาก  ซึ่งเธอสังเกตได้จากตะไคร่และเถาวัลย์จำนวนมากที่เกาะเกี่ยวอยู่ภายนอกเรียนกระจกจนทำให้เธอไม่สามารถมองเข้าไปข้างในนั้นได้ง่าย ๆ  เฮอร์ไมโอนี่เดินมาหยุดที่ประตูที่ถูกเปิดอ้าไว้  สายลมอ่อน ๆ พัดมาทำให้มันขยับเบา ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ๆ ชวนให้ขนลุก  

    “ศาสตราจารย์เสปราต์คะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาคือความเงียบ  ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากเธอ “ศาสตราจารย์เสปราต์คะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีเสียงใด ๆ บ่งบอกถึงการมีตัวตนของเธออยู่ในนั้นเลย  จะมีก็แต่เสียงประตูขยับเบา ๆ ที่ดังขึ้นอีกครั้ง  และเสียงอะไรดังแกรกกราก ๆ มาจากข้างในเรือนกระจก  เฮอร์ไมโอนี่มองเข้าไปข้างในนั้น  มันมืดครึ้มและเหม็นอับราวกับไม่เคยมีแสงแดดส่องผ่าน  เธอครุ่นคิดอย่างชั่งใจก่อนที่จะรวบรวมความกล้าและเข้าไปในนั้น  แต่เธอก็ยังไม่ลืมที่จะกระชับไม้กายสิทธ์ในมือไว้

    “กรี๊ด!!!” เฮอร์ไมโฮนี่ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีร่าง ๆ หนึ่งพุ่งออกมาจากประตูเรียนกระจกในทันทีก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้ก้าวผ่านมันไป

    “มิสเกรนเจอร์  เธอเป็นอะไรรึเปล่า” ศาสตราจารย์สเปราต์นั่นเอง  เธอถามเฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง  แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งอาการตกอกตกใจ

    “เปล่าค่ะ หนูแค่ตกใจ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางเอามือกุมหน้าอก  นี่ถ้าเป็นตอนกลางคืนเธอคงหัวใจวายไปแล้วแน่ ๆ

    “เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะมิสเกรนเจอร์  ฉันจำได้ว่าฉันห้ามนักเรียนเข้าเรียนกระจกนี้นี่” ศาสตราจารย์เสปราต์พูดพลางชี้ให้เฮอร์ไมโอนี่ดูป้ายที่ติดไว้ว่า ‘ ห้ามนักเรียนเข้า ’

    “หนูไม่เห็นอาจารย์ไปสอนหนูแล้วพอหนูรู้ว่าอาจารย์อยู่ที่นี่ก็เลยมาตามน่ะค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “หนูไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปค่ะ  แต่หนูเรียกอาจารย์แล้วอาจารย์ก็ไม่ตอบ” เธออธิบาย

    “ฉันกำลังยุ่งอยู่น่ะมิสเกรนเจอร์  เธอช่วยไปบอกคนอื่นด้วยนะว่าฉันยกเลิกการสอนในวันนี้  ให้พวกเธอไปทำรายงานเรื่องพืชสมุนไพรแถบตะวันออกมาแทนนะ” ศาสตราจารย์เสปราต์สั่ง

    “ทำไมล่ะคะอาจารย์” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  สำหรับเธอนั้นเรื่องเรียนสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด

    “ฉันมีเรื่องต้องจัดการมิสเกรนเจอร์  ฉันเพิ่งพบว่าของในเรียนกระจกหายไป” ศาสตราจารย์เสปราต์พูด

    “ของหายหรือคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง ‘ อีกแล้วรึนี่  เมื่อกี๊ก็เสนป ตอนนี้ก็ศาตราจารย์เสปราต์’ เธอคิด

    “ใช่มิสเกรนเจอร์  มีใครบางคนมาขโมยต้นไม้ของฉันไป” ศาสตราจารย์เสปราต์ตอบ

    “แล้วมีอะไรหายไปบ้างคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสนใจ

    “ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนักเรียนซักเท่าไหร่นะ  มิสเกรนเจอร์” ศาสตราจารย์เสปราต์พูด  เธอดูอารมณ์เสียอย่างชัดเจนที่มีคนมาขโมยต้นไม้ที่เธออุตส่าต์ปลูกมากับมือ

    “แต่หนูเป็นพรีเฟ็คนะคะอาจารย์  หนูคิดว่าหนูพอจะช่วยอะไรอาจารย์ได้บ้าง” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างมีความหวัง  ส่วนศาสตราจารย์เสปราต์นั้นครุ่นคิดอย่างชั่งใจ

    “ที่หายไปก็คือ  กุหลาบหิมะ  มิสเกรนเจอร์  ส่วนอีกอย่างหนึ่งก็คือหญ้าน้ำประสาน” ศาสตราจารย์เสปราต์ตอบ



    เฮอร์ไมโอนี่ตรงกลับไปที่เรียนกระจกหมายเลข 7 อย่างรวดเร็วเพื่อบอกเพื่อน ๆ ของเธอว่าวันนี้ศาสตราจารย์เสปราต์ยกเลิกการสอน  “เธอพูดจริงรึเปล่าเฮอร์ไมโอนี่  ฉันรักเธอที่สุดเลยรู้มั้ย” รอนพูดออกมาอย่างดีอกดีใจแต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่บอกว่าอาจารย์สั่งให้ไปทำรายงายแทนรอนก็หน้าเหี่ยวขึ้นมาทันที

    “แล้วนายจะไปไหนต่อแฮร์รี่”  รอนถาม “ฉันว่านะไปนอนให้สบายไปเลยดีกว่า  หรือว่าจะเล่นหมากรุกกันดี” รอนร่ายโครงการของเขาให้แฮร์รี่ฟัง

    “ถ้านายว่างมากนายก็เอาเวลาไปอ่านหนังสือหรือไม่ก้ทำการบ้านสิรอน” เฮอร์ไมโอนี่บ่น

    “เห็นจะไม่ได้หรอกเฮอร์ไมโอนี่  เพราะว่าสมองฉันน่ะไม่ค่อยซึมซับพวกเรื่องมีสาระเท่าไหร่หรอก” รอนพูดขณะเดินออกจากเรียนกระจก

    “แล้วทำไมศาสตราจารย์เสปราต์ถึงไม่มาสอนล่ะ” แฮร์รี่ถาม

    “ก็เพราะว่ามีคนเข้าไปขโมยของจากเรียนกระจกไปน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

    “ขโมย  อีกแล้วเหรอเนี่ย” แฮร์รี่พูดออกมาอย่างแปลกใจ “เขาได้อะไรไบ้าง”

    “หญ้าน้ำประสานกับกุหลาบหิมะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เธอจะช่วยอธิบายให้เราฟังหน่อยได้ไหมว่าไอ้ที่เธอพูดน่ะ  มันคืออะไร” รอนถามทำสีหน้างุนงง

    “หญ้าน้ำประสาน” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เป็นส่วนผสมหนึ่งของน้ำยาสรรพรส  เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็มั่นใจได้แล้วว่าเจ้าหัวโขมยคนที่ขโมยของจากห้องทำงานของเสนปกับในเรียนกระจกเป็นคนเดียวกัน  และที่มันต้องการปรุงคือน้ำยาสรรพรสแน่นอน”

    “แล้วกุหลาบหิมะล่ะเฮอร์ไมโอนี่  มันมีไว้ทำไม” แฮร์รี่ถาม

    “กุหลาบหิมะเป็นกุหลาบที่พบบริเวณเทือกเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมเท่านั้น  มันหายากมาก ๆ ฉันคิดว่าศาสตราจารย์เสปราต์จะเอามันมาขยายพันธุ์ที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย

    “นี่เรากำลังเรียนวิชาสมุนไพรกันอยู่หรือไงนะ” รอนแขวะ  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจเขาเธอยังคงพูดต่อไป

    “กุหลาบหิมะเป็นพืชที่หายากมาก ๆ มันจะออกดอกปีละครั้งในช่วงหน้าหนาวของปีในเดือนกุมภาพันธ์  และมันก็มีสรรพคุณในการรักษาบาดแผลและโรคต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เฮอร์ไมโอนี่  เราไม่ต้องการรู้สรรพคุณของไอ้กุหลาบอะไรนั่นหรอกนะ” รอนบ่น “เราแค่อยากรู้ว่าไอ้เจ้าหัวขโมยนั่นจะใช้ขโมยไปทำไม” รอบถามเธอ

    “ฉันก็ไม่รู้  เพราะเท่าที่ฉันอ่านหนังสือมาฉันยังไม่เคยเจอยาตัวไหนที่มีส่วนผสมของกุหลาบหิมะกับเลือดมังกรรวมอยู่ด้วยกันเลย  แล้วไหนจะพิษงูเห่ากับเขายูนิคอร์นอีก” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยทำหน้าครุ่นคิด

    “เธอไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้  บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้” แฮร์รี่บอกเธอ  ส่วนเฮอ์ไมโอนี่นั้นก็คิดว่ามันอาจจะเป็นอย่างที่แฮร์รี่พูดก็ได้

    “ไม่รู้สิแฮร์รี่  แล้วนี่พวกเธอจะไปไหนต่อล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามพวกเขาทั้งสอง

    “ก็กลับห้องนั่งเล่นรวมน่ะสิถามได้  เราจะไปนอนให้สบายกันไปเลยเนอะ  แฮร์รี่” รอนบอกพลางทำสีหน้ามีความสุข  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองพวกเขาทั้งสองด้วยสายตาขุ่นเขียว

    “แล้วเธอล่ะ  จะไปไหน” แฮร์รี่รีบชิงถามเฮอร์ไมโอนี่ก่อนที่เธอจะร่ายบทสวดใส่รอนเรื่องที่เขาไม่ยอมขยันเรียน “เอ้อ”  เฮอร์ไมโอนี่นึก  “ฉันคงไปห้องสมุดแหละแฮร์รี่”



    หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่แยกกับแฮร์รี่และรอนแล้วเธอก้เดินไปที่ปราสาท  ตอนแรกเธอจะไปที่ห้องสมุดแต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินผ่านห้องพยาบาล  เธอกลับหยุดอยู่ที่หน้าห้องพยาบาลเอาซะดื้อ ๆ เฮอร์ไมโอนี่มองเข้าไปข้างในนั้น  ‘ มัลฟอยจะเป็นยังไงบ้างนะ ‘ เฮอร์ไมโอนี่คิด แต่เธอก็สะบัดหัวแรง ๆ เพื่อไล่ความคิดนั้นออกไปไกล ๆ

    เขาจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของเขานี่ไม่เกี่ยวกับเธอ

    แต่เขาเป็นคนช่วยเธอไว้นะ  ถ้าไม่ได้เขาเธอนั่นแหละที่ต้องไปนอนที่ห้องพยาบาล

    แต่…..

    เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเถียงกับตัวเองอีกครั้ง  เธอครุ่นคิดอย่างสับสนระหว่างตรงไปที่ห้องสมุดโดยไม่สนใจเขา  กับแวะดูอาการของเขาก่อน  เธอควรจะเลือกอันไหนดีนะ  

    แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีโอกาสได้คิดจนจบเพราะว่ามีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

    “มิสเกรนเจอร์  เธอมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ” มาดามพรอมฟรีย์ถามเมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่มายืนอยู่หน้าห้องพยาบาลได้พักนึงแล้วโดยแต่ก็ไม่ยอมเข้ามา

    “เปล่าค่ะ  ไม่มีอะไรค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว

    “เธอไม่มีเรียนหรือจ๊ะมิสเกรนเจอร์” มาดามพรอมฟรีย์ถามเธอ

    “ค่ะ  มีอะไรให้หนูช่วยหรือคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “คือฉันต้องไปพบอาจารย์ใหญ่ซักครู่น่ะจ๊ะ  เรื่องยาที่ต้องสั่งซื้อเพิ่ม  เพราะวันที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดนั่นขึ้นก็ทำให้ยาในห้องพยาบาลร่อยหลอลงไปเยอะเลย” มาดามพรอมฟรีย์พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่มีการแข่งควิดดิช  “เธอจะว่าอะไรไหมจ๊ะ  ถ้าฉันจะของให้เธอช่วยอยู่ที่นี่ซัก 15 นาทีน่ะ  แค่อยู่รอฉันกลับมาเฉย ๆ ” มาดามพรอมฟรีย์พูด

    “ได้ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่รับคำ  เมื่อเธอพูดจบมาดามพรอมฟรีย์ก็ออกจากห้องพยาบาลเพื่อไปทำธุระของเธอ  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็ต้องเข้าไปในห้องพยาบาลอย่างเสียไม่ได้  ในห้องพยาบาลนั้นไม่มีใครอยู่เลยยกเว้นแต่เตียง ๆ หนึ่งที่มีผ้าม่านคลุมเอาไว้อยู่  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

    เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ เดินไปที่เตียงของมัลฟอยอย่างเงียบเชียบเพราะกลัวมัลฟอยจะตื่น  เธอค่อย ๆ เปิดผ้าม่านออกเบา ๆ และเธอก็พบว่ามัลฟอยกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง  ใบหน้าของเขานั้นดูขาวซีดกว่าเดิมมาก  มันแทบจะไม่มีสีเลือดเลย  และสิ่งเดียวที่พอจะสังเกตุได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ก็คือจังหวะการหายใจอย่างสม่ำเสมอของเขา  เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวบนเก้าอี้ข้างเตียงมองมัลฟอยด้วยแววตาห่วงใย  

    ‘ ทำไมเธอต้องมาเจ็บตัวเพื่อฉันด้วย ’ เฮอร์ไมโอนี่คิด

    เฮอร์ไมโอนี่เลื่อนมือของเธอไปสัมผัสมือของมัลฟอยเบา ๆ และทันใดนั้นเองเขาก็ขยับตัวและค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้น  “เกรนเจอร์” มัลฟอยพึมพำเมื่อเขาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือใคร  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นรีบชักมือกลับทันที

    “เธอมาเยี่ยมฉันเหรอ  เกรนเจอร์” มัลฟอยถาม  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ว่าเขาดูอ่อนแรง

    “อย่าเข้าใจผิดนะฉันแค่จะมาดูเฉย ๆ ว่านายเป็นยังไงบ้าง  เพราะว่าที่นายเป็นอย่างนี้ก็เพราะฉัน  อย่าคิดว่าฉันเป็นห่วงนายนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่แก้ตัวอย่างรวดเร็ว  ส่วนมัลฟอยนั้นยิ้ม ๆ กับท่าทีของเด็กสาว

    “เธอไม่ได้โกหกแน่นะเกรนเจอร์” มัลฟอยท้วงอย่างรู้ทัน

    “ก็แน่สิ  ฉันจะโกหกทำไมเล่า  แล้วตอนนี้นายก็ไม่เป็นไรแล้วนี่  ฉันไปแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าจะเดินจากเขาไปแต่มัลฟอยคว้าแขนของเด็กสาวเอาไว้ก่อน

    “อย่าไปเลย  เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”

    “แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายนี่  ปล่อยฉันนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางสะบัดแขน  แต่มัลฟอยไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ อย่างวันนั้นอีกแล้ว

    “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอจริง ๆ เกรนเจอร์” มัลฟอยพูด

    “ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่คุย  ฉันต้องไปแล้วแฮร์รี่กับรอนรอฉันรออยู่” เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาข้ออ้างเพื่อที่จะได้ออกจากที่ตรงนั้น  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ให้ผลอย่างที่เธอคิด

    “พอตเตอร์กับวีสลีย์!” มัลฟอยคำราม “เธอพูดถึงพวกมันต่อหน้าฉันงั้นรึ”

    “แล้วทำไมฉันจะพูดไม่ได้ล่ะมัลฟอย  ก็พวกเขาเป็นเพื่อนฉันนี่” เฮอร์ไมโอนี่เถียง

    “แต่เธอ” มัลฟอยพูดพลางดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาใกล้เขา “เป็นแฟนฉัน!”

    “ไม่ใช่  ระหว่างเรามันจบลงแล้วมัลฟอย  เราไม่มีอะไรเกี่ยวกันอีกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงสั่นเครือ  ส่วนมัลฟอยนั้นอึ้งกับคำพูดของเธอ

    “จบแล้วรึ  เธอจะไม่ให้โอกาสฉันอธิบาย  ไม่ให้โอกาสฉันแก้ตัวเลยหรือ” มัลฟอยถาม

    “ฉัน” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก

    “ฉันรักเธอนะเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด

    “ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “ไม่มัลฟอย  มันไม่มีวันเป็นไปได้  เรื่องระหว่างเรามันจบลงแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ยื่นคำขาดออกมา

    “ไม่จริง  เธอยังรักฉันอยู่” มัลฟอยพูด

    “ไม่  ฉันไม่ได้รักนาย” เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูดออกไป  เธอหันหลังให้มัลฟอยเพื่อซ่อนไม่ให้น้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาของเธอ  ส่วนมัลฟอยนั้นเพิ่งเข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่นั้นเจ็บเพียงใดตอนที่เขาพูดออกไปว่าเขาไม่ได้รักเธอ  เพราะตอนนี้เขาเองก็กำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่

    “ถ้าเธอไม่ได้รักฉันแล้วเธอรักใครเกรนเจอร์” มัลฟอยถาม ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นนิ่งเงียบ  

    “หรือว่าเธอรักเจ้าครัมนั่น” มัลฟอยคำรามด้วยอาการโกรธจัด

    “ไรอันไม่เกี่ยวนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ไม่เกี่ยว” มัลฟอยพูดอย่างอารมณ์เสีย “กี่ครั้งแล้วที่เธอบอกว่าไม่เกี่ยว แล้วมันเป็นอย่างที่เธอพูดไหม!” มัลฟอยตะโกน

    “แล้วทีนายล่ะมัลฟอย  กี่ครั้งแล้วที่นายไม่เชื่อฉัน” เฮอร์ไมโอนี่เถียง  เธอหันหน้ามาเผชิญหน้าเขาซึ่งมันทำให้มัลฟอยเห็นดวงตารื้นน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่จ้องมองเขาอยู่ “กี่ครั้งแล้วที่นายทำฉันเสียใจ  กี่ครั้งแล้วที่นายทำฉันร้องไห้”

    “เกรนเจอร์” มัลฟอยพึมพำอย่างตกใจเมื่อเห็นน้ำตาใส ๆ หยดลงมาที่แก้มขาวเนียนของเฮอร์ไมโอนี่  เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ  แต่เด็กสาวกลับปัดมันทิ้ง  และทำท่าจะเดินจากไปแต่มัลฟอยไม่รอช้าเขาตวัดของแขนของเขาโอบกอดเธอเอาไว้ทันที

    “มัลฟอย ปล่อยนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ดิ้น แต่เด็กหนุ่มกลับยิ่งกอดเธอแน่น

    “เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอไปง่าย ๆ งั้นเหรอเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด

    “นายจะไม่ปล่อยฉันดี ๆ ใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงกร้าวพร้อมกับพยายามที่จะหยิบไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ในเสื้อคลุม  แต่มัลฟอยรู้ทันเขาจึงรีบคว้ามือเธอไว้เสียก่อน

    “ปล่อยนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งดิ้นหนักขึ้นไปอีก

    “เธอจะอยู่เฉย ๆ ซักนิดได้ไหมเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด “เธอรู้ไหมว่าทุกครั้งที่เธอดิ้นเธอทำฉันเจ็บแผลนะ” เขาพูด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นหยุดดิ้นทันที

    “เจ็บแล้วไง  มันก็สมควรแล้วนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ใช่  สมควรเจ็บเพราะฉันเข้าไปช่วยเธอ  สมควรจริง ๆ ” มัลฟอยประชด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นนั้นนิ่งเงียบ  แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่เธอสมควรจะพูดออกมา

    “เอ่อ  ขอบใจที่ช่วยฉันไว้นะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยพร้อม ๆ กับเงยหน้าไปสบตามัลฟอย  

    “ช่างมันเถอะ” เด็กหนุ่มพึมพำ  เงียบกันไปซักพักได้ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบซะก่อน “นายจะปล่อยฉันได้หรือยัง” เธอถาม

    “ฉันไม่ปล่อยนจนกว่าเธอจะยกโทษให้ฉัน” มัลฟอยพูด  เขาขยับวงแขนกระชับร่างบอบบางนั้นขึ้นอีก  และก้มลงกระซิบเบา ๆ ที่หูของเธอ “ยกโทษให้ฉันเถอะนะเกรนเจอร์  ฉันไม่อยากเสียเธอไป” มัลฟอยพูด

    “เอ่อ..” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก

    “ฉันขอโทษ” มัลฟอยกระซิบ “ฉันรู้ว่าฉันทำเธอเสียใจมามากแล้ว  แต่เธอจะให้โอกาสฉันอีกซักครั้งได้ไหมเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่ได้ตอบอะไรเขาไป  เธอกำลังลังเลอย่างมากแม้ว่าตอนนี้ความโกรธที่เธอมีนั้นเหมือนจะจางไปแล้วก็ตาม  แต่เธอก็ยังกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างที่แล้วมาอีก  เธอกลัวว่ามัลฟอยจะทำให้เธอเสียใจอีก

    “เกรนเจอร์เธอ…” มัลฟอยพูด  

    ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจได้

    “ฉัน….” เฮอร์ไมโอนี่มีโอกาสได้พูดแค่นั้น  เพราะมีเสียง ๆ หนึ่งมาขัดจังหวะเสียก่อน

    “มิสเกรนเจอร์” มาดามพรอมฟรีย์เรียก  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นรีบผละออกจากอ้อมแขนของมัลฟอยทันที

    “คะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  เธอโผล่หน้าออกมาจากเตียงของมัลฟอย  พยายามทำตัวให้ปกติมากที่สุด

    “เธอไปทำอะไรที่นั้นมิสเกรนเจอร์” มาดามพรอมฟรีย์พูดทันทีที่เห็นเธอ

    “เอ่อ….หนู” เฮอร์ไมโอนี่อ้ำอึ้ง “หนูเอาน้ำไปให้มัลฟอยค่ะ” เธอพูด

    “อ้อ  แล้วเธอเป็นยังไงบ้างมิสเตอร์มัลฟอย  ดีขึ้นรึยัง” มาดามพรอมฟรีย์ถาม  ตอนนี้เธอเดินมาหยุดที่เตียงที่เขานอนอยู่แล้ว

    “ดีขึ้นแล้วครับ” มัลฟอยพึมพำ

    “งั้นก็ดี  เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมยามาให้เธอนะ” มาดามพรอมฟรีย์พูด “อ้อ  ส่วนเธอมิสเกรนเจอร์  เธอไปได้แล้วล่ะ  ต้องขอบใจเธอจริง ๆ นะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบก่อนที่จะเดินออกจากห้องพยาบาล

    “เกรนเจอร์” มัลฟอยเรียกเธอ

    “ฉันไปก่อนนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ไม่  เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลย” มัลฟอยท้วง  แต่เฮอร์ไมโฮนี่ไม่ฟังเขา  เธอเดินออกมาจากห้องพยาบาลโดยไม่สนใจเสียงเรียกของมัลฟอย  

    และด้วยหัวใจที่สับสน



    มาอัพแล้วจ้า  เพื่อน ๆ แฟนฟิคอย่างโกรธเคืองกานเรยน้าที่มาอัพช้า  ช่วงนี้งานยุ่งมาก ๆ แล้วก็ใกล้สอบแล้วด้วย  ยังไงก็จะพยายามมาอัพให้เร็วขึ้นถ้ามีเวลาว่างนะจ๊ะ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×