ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ช่วงเวลาแห่งความเสียใจ
ตอนที่ 21  ช่วงเวลาแห่งความเสียใจ
เมื่อออกจากห้องเรียนคาถาเก่า  เฮอร์ไมโอนี่ก็ตรงกลับหอนอนอย่างรวดเร็ว  เธอไม่ต้องการให้ใคร ๆ ได้เห็นเธอในสภาพอย่างนี้  เธอไม่ต้องการให้มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว  แต่เมื่อเธอกำลังจะถึงรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนหน้าหอกริฟฟินดอร์  เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นและเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย  แฮร์รี่นั่นเอง
“เฮอร์ไมโอนี่  เธอไปไหนมาน่ะ”  แฮร์รี่พูดเมื่อเขาเห็นเธอเดินมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เขามาก  เธอเอามือปาดน้ำตา
“มักกอนนากัลเรียกฉันไปพบน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่โกหก  “แล้วเธอล่ะ  มายืนทำอะไรที่นี่”
“ฉันก็มารอเธอแหละ  เฮอร์ไมโอนี่  ที่ฉันบอกว่าฉันมีเรื่องคุยกับเธอน่ะ”  แฮร์รี่พูดกุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“แฮร์รี่ฉันว่าไว้คุยวันหลังจะดีกว่านะ  คือตอนนี้มันดึกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ตอบปัด ๆ เธอก้มน้าลงเพราะไม่ต้องการให้เขาเห็นว่าเธอตาแดง
“เธอร้องไห้เหรอ  เธอแน่ใจนะว่าไปพบศาสตร์จารย์มักกอนนากัลมาน่ะ”  แฮร์รี่ถามพยายามมองเข้าไปในแววตาของเธอ 
“แฮร์รี่ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  เธอเงยหน้าขึ้นมองตาเขาแต่การที่เธอทำอย่างนั้นยิ่งทำให้แฮร์รี่มั่นใจว่าเฮอร์ไมโอนี่โกหกเขา
“คือ  ฉันจะขึ้นไปนอนแล้วแฮร์รี่  ราตรีสวัสดิ์นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว  และกำลัง
จะเดินขึ้นเข้าหอกริฟฟินดอร์ไป
“เธอไปพบมัลฟอยมาใช่มั้ย”  คำพูดของแฮร์รี่ถึงกับทำให้เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก  เธอหันมามองหน้าเขา
“เธอเอาอะไรมาพูดน่ะแฮร์รี่  ฉันจะไปพบมัลฟอยทำไมกัน” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก  แต่มันก็ไม่ทำให้แฮร์รี่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
“อย่าโกหกฉันเลย  ฉันรู้หมดแล้ว  รู้เรื่องของพวกเธอหมดแล้ว”  แฮร์รี่พูดด้วยท่าทีหมองเศร้า 
“เธอรู้เหรอ  รู้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอดูตกใจไม่น้อย  แต่แฮร์รี่ไม่ตอบเธอแต่อย่างใด
“แล้วที่เธอร้องไห้ก็เป็นเพราะไอ้เจ้ามัลฟอยนั่นใช่มั้ย”  แฮร์รี่พูด  แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนิ่งเงียบ
“ฉันจะไปจัดการมันเอง!!!”  แฮร์รี่ตะโกนออกมา  แววตาที่เศร้าหมองของเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน  นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำมั้งที่แฮร์รี่คิดจะไปหาเรื่องมัลฟอยก่อน
“อย่าแฮร์รี่  อย่าทำอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ร้องรั้งตัวเขาไว้  และตอนนี้แฮร์รี่ก็รู้แล้วว่าเธอร้องไห้ขึ้นมาอีก
“ทำไมล่ะ  ก็ไอ้เจ้านั่นมัน .”  แฮร์รี่ทำท่าจะเถียงแต่พอเขาเห็นหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ในเวลานี้  เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป  เฮอร์ไมโอนี่กำลังร้องไห้  เขารู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน  แฮร์รี่คว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก  ปล่อยให้น้ำตาของเธอหยดลงบนเสื้อของเขา
“ทำไมเฮอร์ไมโอนี่  ทำไมต้องเป็นเจ้านั่นด้วย  ทำไมไม่เป็นฉัน  ถ้าเป็นฉัน  ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอเป็นอย่างนี้  ฉันจะไม่ทำให้เธอร้องไห้อย่างวันนี้เลย”  แฮร์รี่พึมพำซ้ำไปซ้ำมาโดยที่ไม่รู้หรอกว่าครั้งหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เคยพูดอย่างนี้เหมือนกัน 
หลังจากนั้นร่วมเดือนเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็ยังคงเป็นแบบเดิม  ทั้งสองไม่ได้พุดคุยกันเลย  และแทบไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ  ยกเว้นวิชาปรุงยาแต่ทั้งสองก็ทำอย่างกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ไม่ได้มาหาเรื่องพวกเขาทั้งสามอีกเลยตั้งแต่วันนั้น  จนทำให้รอนผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรคิดว่ามัลฟอยคงต้องตกบันไดหัวฟาดพื้นหรือไม่ก็ต้องโดนใครร่ายคาถาลบความจำใส่เป็นแน่  เขาถึงจำไม่ได้ว่าความสุขอย่างหนึ่งของเขาคือการหาเรื่องแกล้งแฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่
ตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อก่อน  เหมือนกับตอนที่เธอและมัลฟอยเป็นศัตรูกัน  แค่กลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อนเท่านั้น  แต่เธอก็รู้ตัวว่าคิดผิดไป  เพราะว่าทุกอย่างไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนได้  ถึงแม้ว่าเธอพยายามจะทำให้มันเป็นอย่างนั้นเท่าไร  แต่อย่างน้อยความรู้สึกของเธอก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม  เหตุผลก็เพราะ  เธอดันไปรักศัตรูของเธอคนนี้เข้าแล้วน่ะสิ
ช่วงคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้วหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว  รอบ ๆ ปราสาทปกคลุมไปด้วยหิมะ  มองดูขาวโพลนไปหมด  น้ำในทะเลสาปเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง  นักเรียนส่วนใหญ่มักชอบที่จะหมกตัวอยู่แต่ในปราสาทและพยายามอยู่ใกล้เตาผิงให้มากที่สุด  แต่เด็กบางคน ( อย่างเฟร็ดกับจอร์จเป็นต้น ) ก็ชอบที่จะออกไปสัมผัสอากาศหนาวข้างนอก  พวกเขาออกไปเล่นปาหิมะ  หรือปั้นตุ๊กตาหิมะกันอย่างสนุกสนาน  แต่สำหรับบางคนนั้นก็ไม่อยากให้ฤดูหนาวมาเยือน
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  เสียงของเแองเจลิน่า  จอห์นสันกัปตันทีมควิดิชของกริฟฟินดอร์ดังขึ้น  ทำเอาแฮร์รี่กับรอนที่กำลังนั่งผิงเตาผิงอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมถึงกับสะดุ้ง
“ซ้อมควิดดิช”  แองเจลิน่าพูดเดินมาที่สองคนนั่งอยู่พร้อมรอยยิ้มซึ่งรอนเห็นว่ามันกำลังจะดูดวิญญาณของพวกเขาไป
“ตอนที่อากาศหนาวอย่างนี้เนี่ยนะ  เธออยากให้เราแข็งตายคาไม้กวาดหรือไง!” รอนร้องออกมาแต่แองเจลิน่าไม่ฟังเขา
“นายก็คงรู้ว่านัดหน้าเราแข่งเมื่อไหร่  และกับใครนะ!”  แองเจลิน่าพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“รู้ซิเธอบอกพวกเรา เอ่อหลายรอบแล้ว”  แฮร์รี่พูดขึ้นมา
“ใช่  ฉันบอกพวกนายมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วด้วยซ้ำว่า การแข่งนัดนี้สำคัญแค่ไหน”  แองเจลิน่าขึ้นเสียง
“ทำไมเราต้องกลัวไอ้เจ้ามัลฟอยด้วยล่ะ  ในเมื่อเราก็มีแฮร์รี่อยู่แล้ว” รอนบ่นอย่างเบื่อหน่ายเช่นกัน  เขาไม่อยากจะออกไปซ้อมดวิดดิชท่ามกลางหิมะอย่างนี้นักหรอกนะ
“ถึงเราจะมีแฮร์รี่  มีซีกเกอร์ที่ดีที่สุดอยู่กับเราก็เถอะ” เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งดูอยู่แน่ใจว่าเมื่อแองเจลิน่าพูดคำว่า ‘ ซีกเกอร์ที่ดีที่สุด ’ แฮร์รี่หน้าแดงขึ้นมาทันที
“แต่ถ้าทุกคนในทีมของเราคิดอย่างนายนะวีสลีย์  เราก็คงไม่ชนะแม้แต่ฮัฟเฟิลพัฟหรอก” แองเจลิน่าพูดต่อ  “เอาล่ะ  ฉันไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้วนะ  พวกนายไปเอาไม้กวาดมาได้แล้วเดี๋ยวฉันจะลงไปรอที่สนาม”  พอเธอพูดจบก็เดินปึงปังออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป
“ยัยๆๆๆ”  รอนตั้งท่าจะด่าเธอแต่แฮร์รี่มาปรามไว้ก่อน
“ถ้านายไม่อยากซ้อมจนตายคาไม้กวาดก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”  แฮร์รี่พูดและหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่  เธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“พวกเธอไปเถอะ แต่ฉันไม่ลงไปดูนะ”  แฮร์รี่ตอบก่อนที่เขาจะพูดออกมา  ปกติแทบทุกครั้งที่พวกเขาซ้อมควิดดิชเธอจะไปนั่งดูข้างสนามเละเอาหนังสือไปอ่านด้วย  แต่คราวนี้เธอไม่อยากหนาวตายกลางสนามควิดดิชซะก่อน
“อืม  งั้นพวกเราไปนะ”  แฮร์รี่พูดพยายามลากรอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างยากเย็น  เพราะว่าเขาทำท่าทางอย่างกับแฮร์รี่จะจับเขาไปให้โทรล์กินงั้นแหละ
   
และแล้วก็ถึงวันคริสต์มาสอีฟ  ในปราสาทโดยเฉพาะห้องโถงถูกตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาส  และของประดับอย่างอื่นมากมาย  ปีนี้ก็เป็นอย่างเช่นทุกปีที่แฮร์รี่ไม่ขอกลับบ้านไปอยู่กับพวกเดอร์ลีย์  ส่วนรอนนั้นถึงแม้ว่าเขาอยากจะอยู่ฉลองคริสต์มาสที่นี่เท่าไร  แต่เมื่อแองเจลิน่ายืนกรานให้พวกเขาซ้อมควิดดิชในช่วงวันหยุดด้วยรอนก็อยากจะหนีกลับบ้านโพรงกระต่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ยัยนั่นบ้าไปแล้ว”  รอนพูดออกมาระหว่างที่เขาพยายามจะยัดน่องไก่งวงชิ้นเท่าช้างลงไปในท้องขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่
“จะให้ฉันซ้อมจนตายคาไม้กวาดหรือไงนะ  ถึงขนาดต้องซ้อมวันหยุดด้วย  คริสต์มาสแท้ ๆ ”  รอนบ่น
จนเสร็จและหันไปจัดการกับขนมปังต่อ
“แต่เธอใกล้แข่งแล้วนะรอน  แล้วคราวนี้ก็เป็นรอบชิงแล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอกำลังนั่งจิบชาบนโต๊ะมีหนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ กางอยู่
“ฉันรู้ว่าเราใกล้แข่งแล้ว  แต่ซ้อมควิดดิชวันคริสต์มาสนี่นะ  ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ”  รอนบ่นอุบ  เขาซดน้ำฟักทองไปเกือบหมดเหยือกในทีเดียว  “ฉันว่าถ้าตอนแข่งฉันเกิดเป็นลมขึ้นมาก็เพราะว่าซ้อมมากไปแน่ ๆ ”
“แต่แองเจลิน่าให้เราหยุดซ้อมได้ในวันพรุ่งนี้นี่”  แฮร์รี่พูดขึ้นมา  เขาเพิ่งเงยหน้าจากเบคอนของเขาเมื่อกี๊
“ใช่หยุด  แค่วันเดียว!  ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ ได้หยุดอย่างสบายตลอดทั้งอาทิตย์”  รอนเถียงกลับขณะที่มือของเขาควานหาอาหารมายัดใส่ปากอีก
“ถึงยังไงเธอก็ต้องซ้อมนะรอน  ดูฉันสิฉันยังไม่หยุดอ่านหนังสือเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ 
“แต่เธอก็อ่านเพราะอยากอ่านนี่  แบบว่าเธอมีความสุขกับมัน”  รอนพูดมองไปที่หนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ แล้วทำหน้าสยอง
“แล้วเธอไม่มีความสุขกับการเล่นควิดดิชหรือ  เธอถูกบังคับให้เล่นหรือเปล่าล่ะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูด  และก่อนที่รอนจะได้อ้าปากเถียงเธอ
“หรือว่าเธออยากจะปล่อยให้ถ้วยตกไปอยู่ในมือพวกสลิธีรินก็ตามใจเธอนะ” เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาและรอนก็ยอมจำนนต่อคำพูดของเธอ
“แล้วเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่  ปีนี้เธอไม่กลับบ้านเหรอ”  แฮร์รี่ถามหลังปิดฉากการเถียงเรื่องควิดดิช
“แฮร์รี่เธอก็รู้นี่ว่าฉันต้องอยู่ที่นี่เพื่ออ่านหนังสือสอบ  คือฉันคิดว่าการสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ”    เฮอร์ไมโอนี่เตรียมร่ายเหตุผลยาวยืดของเธอ
“แต่นั่นมันอีกตั้งนานนะเฮอร์ไมโอนี่”  รอนขัดขึ้น
“มันไม่นานเลยนะรอน  เวลาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น  เธอรู้มั้ยว่าเนื้อหาที่ออกข้อสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเยอะแค่ไหน  แล้วยังจะมี .”  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะร่ายบทสวดของเธอจนจบแองเจลิน่าก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  เธอร้องเสียงใส  ขณะที่รอนและแฮร์รี่ทำหน้าสยอง
“ควิดดิช”  ทั้งสองพูดพร้องกันท่าทางปลง ๆ
และในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่างห่อเหี่ยวของเพื่อนเธอทั้งสองคนเดินตามแองเจลิน่าไปโดยดี
เมื่อออกจากห้องเรียนคาถาเก่า  เฮอร์ไมโอนี่ก็ตรงกลับหอนอนอย่างรวดเร็ว  เธอไม่ต้องการให้ใคร ๆ ได้เห็นเธอในสภาพอย่างนี้  เธอไม่ต้องการให้มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว  แต่เมื่อเธอกำลังจะถึงรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนหน้าหอกริฟฟินดอร์  เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นและเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย  แฮร์รี่นั่นเอง
“เฮอร์ไมโอนี่  เธอไปไหนมาน่ะ”  แฮร์รี่พูดเมื่อเขาเห็นเธอเดินมา  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เขามาก  เธอเอามือปาดน้ำตา
“มักกอนนากัลเรียกฉันไปพบน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่โกหก  “แล้วเธอล่ะ  มายืนทำอะไรที่นี่”
“ฉันก็มารอเธอแหละ  เฮอร์ไมโอนี่  ที่ฉันบอกว่าฉันมีเรื่องคุยกับเธอน่ะ”  แฮร์รี่พูดกุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“แฮร์รี่ฉันว่าไว้คุยวันหลังจะดีกว่านะ  คือตอนนี้มันดึกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ตอบปัด ๆ เธอก้มน้าลงเพราะไม่ต้องการให้เขาเห็นว่าเธอตาแดง
“เธอร้องไห้เหรอ  เธอแน่ใจนะว่าไปพบศาสตร์จารย์มักกอนนากัลมาน่ะ”  แฮร์รี่ถามพยายามมองเข้าไปในแววตาของเธอ 
“แฮร์รี่ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  เธอเงยหน้าขึ้นมองตาเขาแต่การที่เธอทำอย่างนั้นยิ่งทำให้แฮร์รี่มั่นใจว่าเฮอร์ไมโอนี่โกหกเขา
“คือ  ฉันจะขึ้นไปนอนแล้วแฮร์รี่  ราตรีสวัสดิ์นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว  และกำลัง
จะเดินขึ้นเข้าหอกริฟฟินดอร์ไป
“เธอไปพบมัลฟอยมาใช่มั้ย”  คำพูดของแฮร์รี่ถึงกับทำให้เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก  เธอหันมามองหน้าเขา
“เธอเอาอะไรมาพูดน่ะแฮร์รี่  ฉันจะไปพบมัลฟอยทำไมกัน” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก  แต่มันก็ไม่ทำให้แฮร์รี่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
“อย่าโกหกฉันเลย  ฉันรู้หมดแล้ว  รู้เรื่องของพวกเธอหมดแล้ว”  แฮร์รี่พูดด้วยท่าทีหมองเศร้า 
“เธอรู้เหรอ  รู้ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอดูตกใจไม่น้อย  แต่แฮร์รี่ไม่ตอบเธอแต่อย่างใด
“แล้วที่เธอร้องไห้ก็เป็นเพราะไอ้เจ้ามัลฟอยนั่นใช่มั้ย”  แฮร์รี่พูด  แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนิ่งเงียบ
“ฉันจะไปจัดการมันเอง!!!”  แฮร์รี่ตะโกนออกมา  แววตาที่เศร้าหมองของเขาเปลี่ยนเป็นดุดัน  นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำมั้งที่แฮร์รี่คิดจะไปหาเรื่องมัลฟอยก่อน
“อย่าแฮร์รี่  อย่าทำอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่ร้องรั้งตัวเขาไว้  และตอนนี้แฮร์รี่ก็รู้แล้วว่าเธอร้องไห้ขึ้นมาอีก
“ทำไมล่ะ  ก็ไอ้เจ้านั่นมัน .”  แฮร์รี่ทำท่าจะเถียงแต่พอเขาเห็นหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ในเวลานี้  เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป  เฮอร์ไมโอนี่กำลังร้องไห้  เขารู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน  แฮร์รี่คว้าตัวเธอมากอดไว้แนบอก  ปล่อยให้น้ำตาของเธอหยดลงบนเสื้อของเขา
“ทำไมเฮอร์ไมโอนี่  ทำไมต้องเป็นเจ้านั่นด้วย  ทำไมไม่เป็นฉัน  ถ้าเป็นฉัน  ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอเป็นอย่างนี้  ฉันจะไม่ทำให้เธอร้องไห้อย่างวันนี้เลย”  แฮร์รี่พึมพำซ้ำไปซ้ำมาโดยที่ไม่รู้หรอกว่าครั้งหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็เคยพูดอย่างนี้เหมือนกัน 
หลังจากนั้นร่วมเดือนเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็ยังคงเป็นแบบเดิม  ทั้งสองไม่ได้พุดคุยกันเลย  และแทบไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ  ยกเว้นวิชาปรุงยาแต่ทั้งสองก็ทำอย่างกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน  ส่วนมัลฟอยนั้นก็ไม่ได้มาหาเรื่องพวกเขาทั้งสามอีกเลยตั้งแต่วันนั้น  จนทำให้รอนผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรคิดว่ามัลฟอยคงต้องตกบันไดหัวฟาดพื้นหรือไม่ก็ต้องโดนใครร่ายคาถาลบความจำใส่เป็นแน่  เขาถึงจำไม่ได้ว่าความสุขอย่างหนึ่งของเขาคือการหาเรื่องแกล้งแฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่
ตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนกับเมื่อก่อน  เหมือนกับตอนที่เธอและมัลฟอยเป็นศัตรูกัน  แค่กลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อนเท่านั้น  แต่เธอก็รู้ตัวว่าคิดผิดไป  เพราะว่าทุกอย่างไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนได้  ถึงแม้ว่าเธอพยายามจะทำให้มันเป็นอย่างนั้นเท่าไร  แต่อย่างน้อยความรู้สึกของเธอก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม  เหตุผลก็เพราะ  เธอดันไปรักศัตรูของเธอคนนี้เข้าแล้วน่ะสิ
ช่วงคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้วหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว  รอบ ๆ ปราสาทปกคลุมไปด้วยหิมะ  มองดูขาวโพลนไปหมด  น้ำในทะเลสาปเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง  นักเรียนส่วนใหญ่มักชอบที่จะหมกตัวอยู่แต่ในปราสาทและพยายามอยู่ใกล้เตาผิงให้มากที่สุด  แต่เด็กบางคน ( อย่างเฟร็ดกับจอร์จเป็นต้น ) ก็ชอบที่จะออกไปสัมผัสอากาศหนาวข้างนอก  พวกเขาออกไปเล่นปาหิมะ  หรือปั้นตุ๊กตาหิมะกันอย่างสนุกสนาน  แต่สำหรับบางคนนั้นก็ไม่อยากให้ฤดูหนาวมาเยือน
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  เสียงของเแองเจลิน่า  จอห์นสันกัปตันทีมควิดิชของกริฟฟินดอร์ดังขึ้น  ทำเอาแฮร์รี่กับรอนที่กำลังนั่งผิงเตาผิงอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมถึงกับสะดุ้ง
“ซ้อมควิดดิช”  แองเจลิน่าพูดเดินมาที่สองคนนั่งอยู่พร้อมรอยยิ้มซึ่งรอนเห็นว่ามันกำลังจะดูดวิญญาณของพวกเขาไป
“ตอนที่อากาศหนาวอย่างนี้เนี่ยนะ  เธออยากให้เราแข็งตายคาไม้กวาดหรือไง!” รอนร้องออกมาแต่แองเจลิน่าไม่ฟังเขา
“นายก็คงรู้ว่านัดหน้าเราแข่งเมื่อไหร่  และกับใครนะ!”  แองเจลิน่าพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“รู้ซิเธอบอกพวกเรา เอ่อหลายรอบแล้ว”  แฮร์รี่พูดขึ้นมา
“ใช่  ฉันบอกพวกนายมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วด้วยซ้ำว่า การแข่งนัดนี้สำคัญแค่ไหน”  แองเจลิน่าขึ้นเสียง
“ทำไมเราต้องกลัวไอ้เจ้ามัลฟอยด้วยล่ะ  ในเมื่อเราก็มีแฮร์รี่อยู่แล้ว” รอนบ่นอย่างเบื่อหน่ายเช่นกัน  เขาไม่อยากจะออกไปซ้อมดวิดดิชท่ามกลางหิมะอย่างนี้นักหรอกนะ
“ถึงเราจะมีแฮร์รี่  มีซีกเกอร์ที่ดีที่สุดอยู่กับเราก็เถอะ” เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งดูอยู่แน่ใจว่าเมื่อแองเจลิน่าพูดคำว่า ‘ ซีกเกอร์ที่ดีที่สุด ’ แฮร์รี่หน้าแดงขึ้นมาทันที
“แต่ถ้าทุกคนในทีมของเราคิดอย่างนายนะวีสลีย์  เราก็คงไม่ชนะแม้แต่ฮัฟเฟิลพัฟหรอก” แองเจลิน่าพูดต่อ  “เอาล่ะ  ฉันไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้วนะ  พวกนายไปเอาไม้กวาดมาได้แล้วเดี๋ยวฉันจะลงไปรอที่สนาม”  พอเธอพูดจบก็เดินปึงปังออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป
“ยัยๆๆๆ”  รอนตั้งท่าจะด่าเธอแต่แฮร์รี่มาปรามไว้ก่อน
“ถ้านายไม่อยากซ้อมจนตายคาไม้กวาดก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”  แฮร์รี่พูดและหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่  เธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
“พวกเธอไปเถอะ แต่ฉันไม่ลงไปดูนะ”  แฮร์รี่ตอบก่อนที่เขาจะพูดออกมา  ปกติแทบทุกครั้งที่พวกเขาซ้อมควิดดิชเธอจะไปนั่งดูข้างสนามเละเอาหนังสือไปอ่านด้วย  แต่คราวนี้เธอไม่อยากหนาวตายกลางสนามควิดดิชซะก่อน
“อืม  งั้นพวกเราไปนะ”  แฮร์รี่พูดพยายามลากรอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างยากเย็น  เพราะว่าเขาทำท่าทางอย่างกับแฮร์รี่จะจับเขาไปให้โทรล์กินงั้นแหละ
   
และแล้วก็ถึงวันคริสต์มาสอีฟ  ในปราสาทโดยเฉพาะห้องโถงถูกตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาส  และของประดับอย่างอื่นมากมาย  ปีนี้ก็เป็นอย่างเช่นทุกปีที่แฮร์รี่ไม่ขอกลับบ้านไปอยู่กับพวกเดอร์ลีย์  ส่วนรอนนั้นถึงแม้ว่าเขาอยากจะอยู่ฉลองคริสต์มาสที่นี่เท่าไร  แต่เมื่อแองเจลิน่ายืนกรานให้พวกเขาซ้อมควิดดิชในช่วงวันหยุดด้วยรอนก็อยากจะหนีกลับบ้านโพรงกระต่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ยัยนั่นบ้าไปแล้ว”  รอนพูดออกมาระหว่างที่เขาพยายามจะยัดน่องไก่งวงชิ้นเท่าช้างลงไปในท้องขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่
“จะให้ฉันซ้อมจนตายคาไม้กวาดหรือไงนะ  ถึงขนาดต้องซ้อมวันหยุดด้วย  คริสต์มาสแท้ ๆ ”  รอนบ่น
จนเสร็จและหันไปจัดการกับขนมปังต่อ
“แต่เธอใกล้แข่งแล้วนะรอน  แล้วคราวนี้ก็เป็นรอบชิงแล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอกำลังนั่งจิบชาบนโต๊ะมีหนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ กางอยู่
“ฉันรู้ว่าเราใกล้แข่งแล้ว  แต่ซ้อมควิดดิชวันคริสต์มาสนี่นะ  ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ”  รอนบ่นอุบ  เขาซดน้ำฟักทองไปเกือบหมดเหยือกในทีเดียว  “ฉันว่าถ้าตอนแข่งฉันเกิดเป็นลมขึ้นมาก็เพราะว่าซ้อมมากไปแน่ ๆ ”
“แต่แองเจลิน่าให้เราหยุดซ้อมได้ในวันพรุ่งนี้นี่”  แฮร์รี่พูดขึ้นมา  เขาเพิ่งเงยหน้าจากเบคอนของเขาเมื่อกี๊
“ใช่หยุด  แค่วันเดียว!  ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ ได้หยุดอย่างสบายตลอดทั้งอาทิตย์”  รอนเถียงกลับขณะที่มือของเขาควานหาอาหารมายัดใส่ปากอีก
“ถึงยังไงเธอก็ต้องซ้อมนะรอน  ดูฉันสิฉันยังไม่หยุดอ่านหนังสือเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ 
“แต่เธอก็อ่านเพราะอยากอ่านนี่  แบบว่าเธอมีความสุขกับมัน”  รอนพูดมองไปที่หนังสือ ‘ คู่มือการสอบ ว.พ.ร.ส. ภาคปฏิบัติ ’ แล้วทำหน้าสยอง
“แล้วเธอไม่มีความสุขกับการเล่นควิดดิชหรือ  เธอถูกบังคับให้เล่นหรือเปล่าล่ะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูด  และก่อนที่รอนจะได้อ้าปากเถียงเธอ
“หรือว่าเธออยากจะปล่อยให้ถ้วยตกไปอยู่ในมือพวกสลิธีรินก็ตามใจเธอนะ” เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาและรอนก็ยอมจำนนต่อคำพูดของเธอ
“แล้วเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่  ปีนี้เธอไม่กลับบ้านเหรอ”  แฮร์รี่ถามหลังปิดฉากการเถียงเรื่องควิดดิช
“แฮร์รี่เธอก็รู้นี่ว่าฉันต้องอยู่ที่นี่เพื่ออ่านหนังสือสอบ  คือฉันคิดว่าการสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ”    เฮอร์ไมโอนี่เตรียมร่ายเหตุผลยาวยืดของเธอ
“แต่นั่นมันอีกตั้งนานนะเฮอร์ไมโอนี่”  รอนขัดขึ้น
“มันไม่นานเลยนะรอน  เวลาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น  เธอรู้มั้ยว่าเนื้อหาที่ออกข้อสอบ ว.พ.ร.ส. น่ะเยอะแค่ไหน  แล้วยังจะมี .”  ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะร่ายบทสวดของเธอจนจบแองเจลิน่าก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  เธอร้องเสียงใส  ขณะที่รอนและแฮร์รี่ทำหน้าสยอง
“ควิดดิช”  ทั้งสองพูดพร้องกันท่าทางปลง ๆ
และในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นร่างห่อเหี่ยวของเพื่อนเธอทั้งสองคนเดินตามแองเจลิน่าไปโดยดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น