ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ฮอกมี้ดส์และวาเลนไทน์
***Chapter 6  ฮอกมี้ดส์และวาเลนไทน์***
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนกลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมด้วยอาการหัวเสีย  แต่ก็ไม่เท่ากับแอนเจลิน่า  จอห์นสัน  กัปตันทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์  เธอดูโกรธมากที่รอนได้รับโทษกักบริเวณในเวลาใกล้แข่งเช่นนี้  แถมเขายังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นักในการแข่งนัดที่ผ่านมา
“นายไปทำอะไรให้อัมบริดจ์กักบริเวณล่ะวีสลีย์  นี่จะเอาอย่างพี่ชายของนายหรือไง”  แอนเจลิน่าตะโกนลั่นห้องนั่งเล่นรวม  เฟร็ดกับจอร์จสะดุ้งโหยง  ในขณะที่รอนกำลังอธิบายว่ามันสุดวิสัยจริง ๆ ที่เขาต่อยมัลฟอย  และถ้าเป็นเธอ  เธอก็คงไม่ลังเลที่จะทำแบบเดียวกับเขา  แต่แอนเจลิน่าดูจะไม่ฟังเหตุผลของรอนเอาเสียเลย  เธอกลับสวดเขายับ  และแนะนำให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์มากกว่านี้  แถมเธอยังต้องการให้รอนซ้อมควิดดิชหนักขึ้นเป็นพิเศษ เพราะเขาเป็นคนเดียวในทีมที่น่าเป็นห่วง
“อย่าบ้าไปเลยน่าแอนเจลิน่า  ฉันมาฝึกซ้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะ  คนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน” รอนพยายามเถียง
“แต่นายต้องมาซ้อมวีสลีย์  นายต้องมาซ้อมพิเศษนอกเหนือจากที่เราต้องซ้อมกัน  นั่นก็เพราะนายอยากหาเรื่องให้ถูกกักบริเวณ” แอนเจลิน่าตะโกนดังลั่น  ฝาแฝดวีสลีย์เอามืออุดพร้อมกัน “นายต้องมาซ้อมทุกวัน ๆ วันในเวลาที่นายว่าง  รวมทั้งในวันหยุดด้วย  ฉันจะเป็นคนฝึกซ้อมให้นายเอง!”
“เธอบ้าไปแล้ว  เธอมันบ้าควิดดิชจนขึ้นสมองไปแล้ว” รอนร้องอย่างโกรธเคือง “และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไปหาเรื่องใครก่อนด้วย” เขาเถียง  แฮร์รี่เพิ่งกลับมาจากคุกใต้ดินหลังจากการเรียนสกัดใจกับเสนปเสร็จ  มองพวกเขาด้วยท่าทีงง ๆ
“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เขาเข้ามาถามเฮอร์ไมโอนี่ในขณะที่แอนเจลิน่ากำลังโต้เถียงกับรอนอยู่
“โอ๊ย  อย่าเพิ่งพูดถึงมันเลย!” เธอว่า
................................................
เรื่องทั้งหมดจบลงโดยที่แอนเจลิน่าเป็นฝ่ายชนะ [ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ] ส่วนรอนนั้นก็ต้องซ้อมควิดดิชหนักกว่าคนอื่นเป็นพิเศษแถมยังต้องรับโทษกักบริเวณกับฟิลซ์อีก  เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ามันคงแย่มาก ๆ สำหรับเขา  เพราะรอนทำหน้าเหมือนเขาต้องกลืนทากเป็น ๆ ทุกครั้งที่ใครก็ตามพูดถึงเรื่องควิดดิชหรือเอ่ยชื่อฟิลซ์
หลังจากจบการโต้เถียงลง  เฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในแฮร์รี่ [ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ] ฟัง  แน่นอนว่าเขาคิดว่ามันแย่มาก  โดยเฉพาะกับรอน
“แล้วทำไมหมู่นี้มัลฟอยถึงมาหาเรื่องเธอบ่อยนักล่ะ” แฮร์รี่ถามเฮอร์ไมโอนี่ รอนพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิ  เฮอร์ไมโอนี่” เขาว่า  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากจนมันเกือบเป็นเส้นบางเฉียบ  อย่างที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลชอบทำก่อนที่จะตอบออกมา
“ไม่รู้สิ” เธอพูดแสร้งก้มลงไปที่รายงานวิชาแปลงร่างและทำเป็นไม่สนใจ
“แต่เธอต้องเดินตรวจบริเวณและทำงานกับเจ้านั่นด้วยนะ” รอนพูด “แล้วถ้ามันเกิดจะทำอะไรเธอขึ้นมาอีกล่ะ” เขาพูดอย่างเป็นห่วง  เช่นเดียวกับแฮร์รี่
“แล้วฉันจะระวังตัวแล้วกัน” เธอรับปากกับเพื่อนทั้งสอง  แต่ในใจก็อดกังวลไม่ได้  เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปาก  พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  เธอสัญญากับตัวเองว่าต่อไปจะพกไม้กายสิทธิ์ติดตัวในทุกที่ ๆ เธอไป
*************************************************
เดือนมกราคมดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ  การไปฮอกมี้ดส์ครั้งต่อไปใกล้เข้ามาทุกที  นักเรียนทุกคนดูตื่นเต้นและดีใจมากกับการไปเที่ยวครั้งนี้  ยกเว้นรอนเพราะแอนเจลิน่ายืนกรานจะให้เขาซ้อมควิดดิชในวันหยุดด้วย  หลังจากจบการโต้เถียงนานหลายชั่วโมงจึงได้ผลสรุปออกมาว่ารอนต้องอยู่ซ้อมควิดดิชในวันวาเลนไทน์  รอนดูหงุดหงิดอย่างมาก  ถึงแม้ว่าแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่สัญญาว่าจะซื้อของมาฝากเขาเยอะ ๆ ก็ตาม
“ถ้าพวกนายซื้อระเบิดเหม็นหรือน้ำยาแปลงร่างมาก็ดีนะ  ฉันจะได้ใช้มันกับเธอบ้าง!” รอนพูดอย่างโกรธเคือง
ในวันวาเลนท์ไทน์ที่กำลังจะถึงนี้นักเรียนส่วนมากต่างไปเที่ยวฮอกมี้ดส์กันเป็นคู่ ๆ รวมทั้งแฮร์รี่ด้วย  เพราะว่าเขานัดโช แชง  เด็กสาวจากบ้านเรเวนคลอไว้  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รู้เรื่องนั้นดี  แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องขอให้แฮร์รี่มาพบเธอในตอนเที่ยงชองวันนั้น  ซึ่งเขาเองก็ไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากที่แฮร์รี่ตกลงแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบตอบจดหมายของริต้า  สกีตเตอร์ทันที  และบอกเธอเรื่องสถานที่และเวลาที่จะนัดเจอ  เฮอร์ไมโอนี่ต้องการให้ริต้าเขียนที่เกิดขึ้นระหว่างการประลองเวทย์ไตรภาคีเมื่อปีที่แล้วจากคำบอกเล่าของแฮร์รี่ลงในนิตยสาร  ผู้คนจะได้อ่านอะไรที่เป็นความจริงกันบ้าง  ไม่ใช่ได้อ่านแต่เรื่องโกหกที่พรอเฟ็ตเหม็นเน่านั่นกุขึ้นมา
.................................................
เฮอร์ไมโอนี่ไปที่โรงนกฮูกหลังจากเขียนจดหมายเสร็จ  เธอเลือกนกฮูกโรงนาสำหรับการส่งจดหมายเพราะเฮ็ดวิกนกฮูกของแฮร์รี่นั้นดูสะดุดตาเกินไป  หลังจากที่ส่งจดหมายเรียบร้อยแล้วเธอก็ยืนเหม่อมองออกไปที่หน้าต่างข้างนอก  วันนี้อากาศไม่ดีนัก  ท้องฟ้าเป็นสีเทาทึม ๆ ไม่มีแสงแดดส่องลงมาเลยสักนิด
เด็กสาวถอนใจออกมาเบา ๆ กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าแฮร์รี่ชอบโช  แน่นอนเธอรู้เรื่องนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว  แต่เด็กสาวพยายามจะไม่สนใจมัน  หรือต้องพูดว่าทำเป็นไม่สนใจถึงจะถูก  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าทีเฉย ๆ เมื่อรู้ว่าแฮร์รี่จูบกับเธอหลังจากการประชุม ก.ด. ทั้ง ๆ ที่ในใจของเธอปั่นป่วนอย่างร้ายกาจ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามเขียนจดหมายหาวิคเตอร์  แสร้งทำเป็นสนใจเรื่องเรียน  ดุพวกเขาเรื่องว.พ.ร.ส.  ทำเป็นถักหมวกไหมพรมอย่างไม่ยี่หระ  แต่ความจริงแล้วในใจของเธอไม่ได้ปรกติสุขอย่างท่าทีที่เธอแสดงออกมาเลย!
เฮอร์ไมโอนี่เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าที่มีสีคล้ายควันบุหรี่  เด็กสาวกำลังคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยผ่านมันมาด้วยกัน  เธอยังจำวันที่พวกเขาช่วยเธอจากโทรลล์ภูเขาสูงสามเมตรได้  แน่นอนว่ามิตรภาพของเด็กทั้งสามเริ่มขึ้นจากตรงนั้นรวมทั้งความประทับใจที่เธอมีต่อเด็กชายที่ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย  เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงเรื่องราวที่พวกเขาเคยร่วมผจญภัยด้วยกัน  เรื่องที่พวกเขาไปตามหาศิลา  เรื่องที่เขาและเธอย้อนเวลากลับไปช่วยบัคบีคและซีเรียส
เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจ  รู้สึกเจ็บปวดอย่างแปลกประหลาด  ทั้ง ๆ ที่เธอรู้จักเขามาก่อนใคร  ทั้ง ๆ ที่เธอสนิทกับเขามากกว่าคนอื่น [ ยกเว้นรอน ] ทั้ง ๆ ที่เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาใกล้ชิดด้วยมากที่สุด  แต่เขากลับไม่เคยมองเธอมากไปกว่าเพื่อนเลยสักครั้งเลย 
และทั้ง ๆ ที่เธอรักเขามาก่อนใครแท้ ๆ !
เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างขมขื่น  เธอกัดริมฝีปาก  น้ำตาใส ๆ ไหลรินจากดวงตาสีน้ำตาลพร้อม ๆ กับเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปราย
*************************************************
ในที่สุดวันวาเลนไทน์ก็มาถึงนักเรียนที่จะไปเที่ยวฮอกมี้ดส์ต่างมาตั้งแถวรอให้ฟิลซ์ตรวจใบอนุญาติด้วยความตื่นเต้น  รอนมามองส่งพวกเขาอย่างขมขื่น และในไม่ช้าแอนเจลิน่าก็มาลากตัวเข้าไปซ้อม
แฮร์รี่มาถึงที่ร้านไม้กวาดสามอันตามที่เฮอร์ไมโอนี่นัด  เขาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นริต้า  สกีตเตอร์ที่นั่น  เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาอธิบาย [ และถกเถียงกับริต้า ] อยู่พักหนึ่งจนกว่าจะพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ 
เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง ริต้ายิงคำถามใส่แฮร์รี่ไม่หยุดหลังจากเริ่มการสัมพาษณ์  แฮร์รี่เองก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับทุกครั้งที่เขาพยายามเล่าให้ใครต่อใครฟังตลอดแปดเดือนที่ผ่านมา  ปากกาจดทันใจขยุกขยิกอยู่บนโต๊ะ  ริต้าเองก็คอยขัดจังหวะการพูดของเขาอยู่เนือง ๆ [ “คนไม่ควรเอ่ยนามมีหน้าตาอย่างไรบ้าง” “เธอแน่ใจหรือว่าปีเตอร์  เพ็ตตริกรูว์ยังไม่ตาย” “คนที่เธอก็รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเซตดริก  ดิกกอรี่ด้วยคาถาพิฆาตจริง ๆ หรือ” ]     
ในที่สุดการสัมพาษณ์ก็จบลงเมื่อสามชั่วโมงให้หลัง  ริต้าพยายามจะถามแฮร์รี่เรื่องเด็กผู้หญิงที่เขามาเที่ยวด้วยหลายครั้ง  และก็ถูกเฮอร์ไมโอนี่ปรามทุกครั้งไป
“เอาล่ะ  ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ริต้าถามเฮอร์ไมโอนี่เมื่อการสัมพาษณ์จบลง  เธอกำลังเก็บเก็บม้วนกระดาษกับปากกาจดทันใจลงกระเป๋า
“แน่นอน  และฉันหวังว่าคุณคงส่งเรื่องนี้ให้เดอะควิบเบอร์ตีพิมพ์ในหนึ่งสัปดาห์  ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะส่งจดหมายไปแจ้งทางการเรื่องที่คุณเป็น.........” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ริต้าดูโกรธที่โดนขู่
“เอาล่ะ ๆ ๆ ” เธอรีบพูด “ฉันรับรองว่าจะทำงานนี้ให้เธอ  และจะส่งบทความไปให้พ่อของยัยหนูนี่  ภายในหนึ่งอาทิตย์” ริต้าพูด  หันไปมองทางลูน่า
“แค่นี้คงทำให้เธอพอใจใช่ไหม  แล้วฉันจะไปได้หรือยัง” เธอหันมาถามเฮอร์ไมโอนี่ด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“แน่นอน” เด็กสาวพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “อ้อ  แล้วอย่าลืมจ่ายค่าเครื่องดื่มของคุณด้วยล่ะ” เธอพูดมองไปที่โต๊ะ  ริต้าทำหน้าเหมือนเฮอร์ไมโอนี่พูดอะไรหยาบคายมาก ๆ ออกไป  เธอควักเงินค่าเครื่องดื่มออกมาวางบนโต๊ะ  ปิดกระเป๋าหนังจระเข้ดังฉับและก้าวออกจากร้านอย่างรวดเร็ว
แฮร์รี่รอจนกระทั่งริต้าเดินไปพ้นรัศมีสายตาของพวกเขา 
“เธอจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะไป...เอ่อ....เดินข้างนอกหน่อยน่ะ  บางทีฉันอาจจะเจอโชบ้าง เธอคงรู้น่ะ....” แฮร์รี่พูดตะกุกตะกัก 
“แน่นอนแฮร์รี่  ถ้าเธอต้องการนะ  และฉันก็แนะนำให้เธอไปง้อเขาเร็ว ๆ ด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจของเธอมาก ๆ ออกไป “เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องค่าเครื่องดื่มให้  ไปเถอะ” เธอพูด  แฮร์รี่กล่าวขอบใจเธอและเดินออกจากร้านไป  เฮอร์ไมโอนี่มองภาพของแฮร์รี่ที่ค่อย ๆ หายไปกับกลุ่มคนภายนอกด้วยสีหน้าหมองเศร้า
.................................................
หลังจากที่จ่ายค่าเครื่องดื่มแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ออกมาจากร้านไม้กวาดสามอันพร้อมกับลูน่า  เธอบอกเฮอร์ไมโอนี่ด้วยน้ำเสียงฝัน ๆ ว่าเธอต้องการจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับตัวแสน็กคอร์เขาย่นสักเล่ม  แน่นอนว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดจะไปกับเธอ  เด็กสาวบอกลาลูน่าและยกนาฬิกาขึ้นดู  มันบอกเวลาสามโมงสิบนาทีและเวลาที่รถไฟที่จะกลับไปฮอกวอตส์นั้นเป็นตอนสี่โมงตรง  เฮอร์ไมโอนี่ยังมีเวลาอยู่ที่นี่สักพัก
เธอเตร่ไปตามถนนในฮอกมี้ดส์ไม่นานนักเฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่ามีแค่เธอคนเดียวที่อยู่เพียงลำพังในวันวาเลนไทน์เช่นนี้  เด็กสาวมองไปรอบกายที่มีแต่คู่รัก  หรือไม่ก็กลุ่มเด็กนักเรียนที่เบียดเสียดกันเข้าร้านขายขนมอย่างร้านฮันนี่ดุ๊กส์  และซื้อขนมต่าง ๆ มาเท่าที่พวกเขาถือไหว 
เท้าของเฮอร์ไมโอนี่ย่ำลงไปในโคลนเปียกแฉะเพราะสายฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อตอนกลางวัน  เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวในโลก  รู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยวเกินที่เธอจะทนไหว  เด็กสาวพยายามก้าวเร็ว ๆ ผ่านร้านกาแฟที่มีแต่คู่รักเต็มไปหมด  เพราะไม่อยากเห็นพวกเขาป้อนขนมเค้กให้กันหรือจูบกันเหนือถ้วยกาแฟ  เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว  ในใจก็คิดเรื่องบางอย่างซึ่งไม่พ้นเรื่องของเพื่อนรักของเธอ 
‘ ป่านนี้พวกเขาคงดีกันแล้วมั้ง ’ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างขมขื่น  แฮร์รี่ไม่คิดจะสนใจเธอเลยสักนิด  ตอนนี้เขาสนแค่โช  แต่โชเท่านั้น  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าที่เขาทั้งสองโกรธกันนั้นมีสาเหตุหนึ่งที่มาจากเธอ  แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าบางครั้งโชก็ออกจะงี่เง่า
‘ ทำไมต้องเป็นโชด้วยนะ ทำไมถึงไม่เป็นฉัน  ทำไมไม่เป็นฉันทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ใกล้เธอมากกว่าใคร  ทั้ง ๆ ที่ฉันรักเธอมากกว่าใคร ’ คำถามเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวของเธออีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่พยายามสะบัดศีรษะแรง ๆ เพื่อจะไล่มันออกไปจากสมอง  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กสาวได้หันมามองรอบกาย
“ที่นี่มันที่ไหนกัน”
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบกายซึ่งดูไม่เหมือนสถานที่ ๆ เธอคุ้นเคย  แน่นอนว่าที่นี่คือฮอกมี้ดส์  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช่สักทีเดียว  ถึงแม้ว่ารอบกายของเธอจะดูเหมือนฮอกมี้ดส์แค่ไหน  แต่ที่ที่เธอกำลังยืนอยู่นั้นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว  มันดูสงบเงียบจนชวนให้แปลกใจและไม่ใช่ฮอกมี้ดส์ซึ่งมีผู้คนคึกคักแน่ ๆ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบ ๆ อย่างแปลกใจ  คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของเธออีกครั้ง
‘ นี่เรากำลังอยู่ที่ไหน  แล้วฉันมาที่นี่ได้อย่างไร ’ เด็กสาวครุ่นคิด  มีท่าทีไม่ต่างจากตอนที่แฮร์รี่หลงเข้าไปในตรอกน็อกเทิร์น  เธอพยายามว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม  เฮอร์ไมโอนี่ต้องการใครสักคนเพื่อจะถามทางได้บ้าง
แต่เฮอร์ไมโอนี่คิดผิดถนัด  เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ๆ ก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตแถวนี้  ราวกับว่าเธอกำลังหลงอยู่ในเมืองร้าง  และไม่ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเดินไปทางไหนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเงียบเชียบ  บ้านเรือนปิดเงียบและปราศวี่แววของผู้อยู่อาศัย 
สายตาของเฮอร์ไมโอนี่บังเอิญสะดุดเข้ากับกระโจมสีดำขนาดย่อม ๆ ที่ตั้งอยู่โดดเด่นอยู่กลางถนน  เด็กสาวลองเดินเข้าไปใกล้ ๆ มันอย่างเกรง ๆ 
“ขอโทษนะคะ  มีใครอยู่ไหมคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  เธอคาดว่ามันก็คงจะเป็นกระโจมร้างอย่างเดียวกับบ้านเรือนแถวนี้  แต่เด็กสาวคิดผิดถนัด  มีเสียงตอบกลับมาเบา ๆ
“เขามาสิจ๊ะ”  เสียงนั้นดูอ่อนหวานและมีอำนาจอยู่ในที  เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ เลิกผ้าคลุมกระโจมออกช้า ๆ
กลิ่นกำยานฉุนจมูกลอยมาทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่เปิดผ้าคลุมออก  ภายในกระโจมนั้นกว้างใหญ่กว่าที่เห็นข้างนอกมากนัก  มันถูกปูด้วยพรมที่สีสีสันและลวดลายบาดตา  ตรงมุมหนึ่งของกระโจมมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่  เฮอร์ไมโอนี่เห็นหน้าของเธอไม่ชัดเพราะว่าเธอสวมผ้าคลุมผืนใหญ่สีดำที่ปิดตั้งแต่ศีรษะจนถึงตาตุ่ม  และสวมมีผ้าผืนบาง ๆ ปกคลุมส่วนใบหน้าไว้ให้เหลือแต่ลูกตา  แต่เท่าที่เห็นเธอเป็นผู้หญิงที่น่าจะอยู่ในวันสาว  เฮอร์ไมโอนี่เห็นผมสีดำขลับของเธอโผล่พ้นมาจากผ้าคลุม  ดวงตาของเธอเป็นสีดำและเป็นประกาย  ริมผีปากสีแดงสดซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าผืนบาง  ดูจากการแต่งตัวของผู้หญิงคนนี้และกระโจมหลังนี้แล้วเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอหลุดออกมาจากนิทานเรื่องอาหรับราตรี
“เอ่อ.....หนู” เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก  หญิงสาวค่อย ๆ เยื้องย่างเข้ามาหาเธอ 
“เธอกำลังหลงทาง” หญิงสาวต่อให้  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“ใช่ค่ะ  และหนูอยากรู้ว่าหนูจะกลับไปฮอกมี้ดส์ได้อย่างไร  หนูไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ฮอกมี้ดส์หรือเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  หญิงสาวคนนั้นมองเธอด้วยดวงตาที่ดูเหมือนพยายามจะอ่านทุกอย่าง  เธอรู้สึกเหมือนกับโดนเอ็กซเรย์
“ทั้งใช่และไม่ใช่จ๊ะ” หญิงสาวตอบ “ทำไมเธอไม่นั่งลงก่อนล่ะจ๊ะ  เราจะได้คุยกันเรื่องช่วยเธอหาทางกลับไงล่ะ” เธอพูด  และโต๊ะกลมเล็ก ๆ เหมือนโต๊ะสำหรับดื่มชาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับเก้าอี้อีกสองตัวโดยที่เธอไม่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์เลย  เด็กสาวทรุดตัวลงบนเก้าอี้เตี้ย ๆ อย่างเกรง ๆ พร้อม ๆ กับที่หญิงสาวคนนั้นนั่งลงตรงข้ามเธอ
“ไม่ต้องเกรงใจนะ  เฮอร์ไมโอนี่” เธอพูด “ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ”
“คุณรู้ชื่อหนูได้ยังไงคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ  หญิงสาวยิ้มอย่างแปลกประหลาด  กาน้ำชาปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาทั้งสอง  เธอลงมือรินชาให้เฮอร์ไมโอนี่
“ฉันรู้ทุกเรื่องที่ต้องการรู้จ๊ะ” เธอตอบ ลงมือจิบชา “ฉันบอกเธอหรือยังจ๊ะว่าฉันชื่อโรส  และฉันจะดีใจมากถ้าเธอเรียกฉันอย่างนั้น” โรสกล่าว
“เอ่อ...ค่ะ.....โรสคะ  หนูอยากรู้ว่าที่นี่ที่ไหนคะ  ที่นี่ใช่ฮอกมี้ดส์รึเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ฉันตอบคำถามนี้กับเธอไปแล้วนี่  ขอเป็นคำถามอื่นได้ไหมจ๊ะ  อ้อ  เธอจะทานชาก็ได้นะไม่ต้องกลัวว่าฉันจะวางยาเธอหรอกจ๊ะ” โรสว่า  ดวงตาสีดำทอประกาย  เฮอร์ไมโอนี่ยกชาขึ้นจิบเบา ๆ
“พูดตามตรงนะคะว่าหนูอยากหาทางกลับฮอกมี้ดส์  หนูไม่มีเวลามากด้วย  ถ้ากลับไปช้าหนูจะไปไม่ทันรถไฟก
ลับโรงเรียน”  เฮอร์ไมโอนี่พูดตรงไปตรงมา  โรสไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน เธอจิบชาจนหมดและเติมใหม่อีกแก้ว
“เธอมีเวลาเหลือเฟือที่จะกลับฮอกวอตส์จ๊ะ  ไม่ต้องเป็นห่วง” โรสพูด  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกใจ
“คุณรู้ว่าหนูอยู่ฮอกวอตส์” เฮอร์ไมโอนี่พูด 
“แน่นอนจ๊ะ” โรสบอก “ฉันรู้ทุกเรื่อง  รวมทั้งเรื่องที่เธอกำลังคิดอยู่ด้วย  เฮอร์ไมโอนี่” เธอพูด  ดวงตาเป็นประกายเหมือนลูกปัด  เฮอร์ไมโอนี่ขนลุกไม่มีสาเหต
“คุณต้องล้อหนูเล่นแน่ ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลก  แต่แววตาของโรสจริงจังเกินกว่าที่เธอจะคิดเช่นนั้นได้
“หนูคิดว่าหนูควรกลับแล้ว  ถ้าคุณช่วยหนูให้หาทางกลับไปฮอกมี้ดส์ไม่ได้หนูก็คงต้องช่วยตัวเอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเกรง ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “ขอบคุณสำหรับชานะคะ” เธอพูด
“แล้วถ้าฉันจะบอกเธอว่าไม่มีใครช่วยเธอให้ออกไปจากที่นี่ได้นอกจากฉันล่ะจ๊ะ” เสียงของโรสดังขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองเธอทันที
“คุณหมายความว่ายังไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอหรี่ตาลงอย่างสงสัย  รู้สึกขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันบอกว่าไม่มีใครที่จะช่วยเธอให้ออกจากที่นี่ได้นอกจากฉัน” ด้วยพูดเสียงเย็นเยียบต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“เพราะว่าคนที่พาเธอมาที่นี่ก็คือฉัน”
*************************************************
ตอนเน้มะมีพี่เดรนะ  อย่าเพิ่งบ่นกันล่ะมันยังไม่ถึงบทอ่ะ  ส่วนใครที่ถามหาตอนสวีท  รอก่อน  ข้าพเจ้ากำลังปั่นให้พวกที่นอ่านอยู่
อ้อ  อย่าลืมเม้นด้วยนะจ๊ะ  นักอ่านที่รัก 
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนกลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมด้วยอาการหัวเสีย  แต่ก็ไม่เท่ากับแอนเจลิน่า  จอห์นสัน  กัปตันทีมควิดดิชของกริฟฟินดอร์  เธอดูโกรธมากที่รอนได้รับโทษกักบริเวณในเวลาใกล้แข่งเช่นนี้  แถมเขายังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นักในการแข่งนัดที่ผ่านมา
“นายไปทำอะไรให้อัมบริดจ์กักบริเวณล่ะวีสลีย์  นี่จะเอาอย่างพี่ชายของนายหรือไง”  แอนเจลิน่าตะโกนลั่นห้องนั่งเล่นรวม  เฟร็ดกับจอร์จสะดุ้งโหยง  ในขณะที่รอนกำลังอธิบายว่ามันสุดวิสัยจริง ๆ ที่เขาต่อยมัลฟอย  และถ้าเป็นเธอ  เธอก็คงไม่ลังเลที่จะทำแบบเดียวกับเขา  แต่แอนเจลิน่าดูจะไม่ฟังเหตุผลของรอนเอาเสียเลย  เธอกลับสวดเขายับ  และแนะนำให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์มากกว่านี้  แถมเธอยังต้องการให้รอนซ้อมควิดดิชหนักขึ้นเป็นพิเศษ เพราะเขาเป็นคนเดียวในทีมที่น่าเป็นห่วง
“อย่าบ้าไปเลยน่าแอนเจลิน่า  ฉันมาฝึกซ้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะ  คนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน” รอนพยายามเถียง
“แต่นายต้องมาซ้อมวีสลีย์  นายต้องมาซ้อมพิเศษนอกเหนือจากที่เราต้องซ้อมกัน  นั่นก็เพราะนายอยากหาเรื่องให้ถูกกักบริเวณ” แอนเจลิน่าตะโกนดังลั่น  ฝาแฝดวีสลีย์เอามืออุดพร้อมกัน “นายต้องมาซ้อมทุกวัน ๆ วันในเวลาที่นายว่าง  รวมทั้งในวันหยุดด้วย  ฉันจะเป็นคนฝึกซ้อมให้นายเอง!”
“เธอบ้าไปแล้ว  เธอมันบ้าควิดดิชจนขึ้นสมองไปแล้ว” รอนร้องอย่างโกรธเคือง “และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไปหาเรื่องใครก่อนด้วย” เขาเถียง  แฮร์รี่เพิ่งกลับมาจากคุกใต้ดินหลังจากการเรียนสกัดใจกับเสนปเสร็จ  มองพวกเขาด้วยท่าทีงง ๆ
“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เขาเข้ามาถามเฮอร์ไมโอนี่ในขณะที่แอนเจลิน่ากำลังโต้เถียงกับรอนอยู่
“โอ๊ย  อย่าเพิ่งพูดถึงมันเลย!” เธอว่า
................................................
เรื่องทั้งหมดจบลงโดยที่แอนเจลิน่าเป็นฝ่ายชนะ [ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ] ส่วนรอนนั้นก็ต้องซ้อมควิดดิชหนักกว่าคนอื่นเป็นพิเศษแถมยังต้องรับโทษกักบริเวณกับฟิลซ์อีก  เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ามันคงแย่มาก ๆ สำหรับเขา  เพราะรอนทำหน้าเหมือนเขาต้องกลืนทากเป็น ๆ ทุกครั้งที่ใครก็ตามพูดถึงเรื่องควิดดิชหรือเอ่ยชื่อฟิลซ์
หลังจากจบการโต้เถียงลง  เฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในแฮร์รี่ [ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ] ฟัง  แน่นอนว่าเขาคิดว่ามันแย่มาก  โดยเฉพาะกับรอน
“แล้วทำไมหมู่นี้มัลฟอยถึงมาหาเรื่องเธอบ่อยนักล่ะ” แฮร์รี่ถามเฮอร์ไมโอนี่ รอนพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิ  เฮอร์ไมโอนี่” เขาว่า  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากจนมันเกือบเป็นเส้นบางเฉียบ  อย่างที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลชอบทำก่อนที่จะตอบออกมา
“ไม่รู้สิ” เธอพูดแสร้งก้มลงไปที่รายงานวิชาแปลงร่างและทำเป็นไม่สนใจ
“แต่เธอต้องเดินตรวจบริเวณและทำงานกับเจ้านั่นด้วยนะ” รอนพูด “แล้วถ้ามันเกิดจะทำอะไรเธอขึ้นมาอีกล่ะ” เขาพูดอย่างเป็นห่วง  เช่นเดียวกับแฮร์รี่
“แล้วฉันจะระวังตัวแล้วกัน” เธอรับปากกับเพื่อนทั้งสอง  แต่ในใจก็อดกังวลไม่ได้  เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปาก  พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  เธอสัญญากับตัวเองว่าต่อไปจะพกไม้กายสิทธิ์ติดตัวในทุกที่ ๆ เธอไป
*************************************************
เดือนมกราคมดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ  การไปฮอกมี้ดส์ครั้งต่อไปใกล้เข้ามาทุกที  นักเรียนทุกคนดูตื่นเต้นและดีใจมากกับการไปเที่ยวครั้งนี้  ยกเว้นรอนเพราะแอนเจลิน่ายืนกรานจะให้เขาซ้อมควิดดิชในวันหยุดด้วย  หลังจากจบการโต้เถียงนานหลายชั่วโมงจึงได้ผลสรุปออกมาว่ารอนต้องอยู่ซ้อมควิดดิชในวันวาเลนไทน์  รอนดูหงุดหงิดอย่างมาก  ถึงแม้ว่าแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่สัญญาว่าจะซื้อของมาฝากเขาเยอะ ๆ ก็ตาม
“ถ้าพวกนายซื้อระเบิดเหม็นหรือน้ำยาแปลงร่างมาก็ดีนะ  ฉันจะได้ใช้มันกับเธอบ้าง!” รอนพูดอย่างโกรธเคือง
ในวันวาเลนท์ไทน์ที่กำลังจะถึงนี้นักเรียนส่วนมากต่างไปเที่ยวฮอกมี้ดส์กันเป็นคู่ ๆ รวมทั้งแฮร์รี่ด้วย  เพราะว่าเขานัดโช แชง  เด็กสาวจากบ้านเรเวนคลอไว้  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รู้เรื่องนั้นดี  แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องขอให้แฮร์รี่มาพบเธอในตอนเที่ยงชองวันนั้น  ซึ่งเขาเองก็ไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากที่แฮร์รี่ตกลงแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบตอบจดหมายของริต้า  สกีตเตอร์ทันที  และบอกเธอเรื่องสถานที่และเวลาที่จะนัดเจอ  เฮอร์ไมโอนี่ต้องการให้ริต้าเขียนที่เกิดขึ้นระหว่างการประลองเวทย์ไตรภาคีเมื่อปีที่แล้วจากคำบอกเล่าของแฮร์รี่ลงในนิตยสาร  ผู้คนจะได้อ่านอะไรที่เป็นความจริงกันบ้าง  ไม่ใช่ได้อ่านแต่เรื่องโกหกที่พรอเฟ็ตเหม็นเน่านั่นกุขึ้นมา
.................................................
เฮอร์ไมโอนี่ไปที่โรงนกฮูกหลังจากเขียนจดหมายเสร็จ  เธอเลือกนกฮูกโรงนาสำหรับการส่งจดหมายเพราะเฮ็ดวิกนกฮูกของแฮร์รี่นั้นดูสะดุดตาเกินไป  หลังจากที่ส่งจดหมายเรียบร้อยแล้วเธอก็ยืนเหม่อมองออกไปที่หน้าต่างข้างนอก  วันนี้อากาศไม่ดีนัก  ท้องฟ้าเป็นสีเทาทึม ๆ ไม่มีแสงแดดส่องลงมาเลยสักนิด
เด็กสาวถอนใจออกมาเบา ๆ กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าแฮร์รี่ชอบโช  แน่นอนเธอรู้เรื่องนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว  แต่เด็กสาวพยายามจะไม่สนใจมัน  หรือต้องพูดว่าทำเป็นไม่สนใจถึงจะถูก  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าทีเฉย ๆ เมื่อรู้ว่าแฮร์รี่จูบกับเธอหลังจากการประชุม ก.ด. ทั้ง ๆ ที่ในใจของเธอปั่นป่วนอย่างร้ายกาจ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามเขียนจดหมายหาวิคเตอร์  แสร้งทำเป็นสนใจเรื่องเรียน  ดุพวกเขาเรื่องว.พ.ร.ส.  ทำเป็นถักหมวกไหมพรมอย่างไม่ยี่หระ  แต่ความจริงแล้วในใจของเธอไม่ได้ปรกติสุขอย่างท่าทีที่เธอแสดงออกมาเลย!
เฮอร์ไมโอนี่เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าที่มีสีคล้ายควันบุหรี่  เด็กสาวกำลังคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยผ่านมันมาด้วยกัน  เธอยังจำวันที่พวกเขาช่วยเธอจากโทรลล์ภูเขาสูงสามเมตรได้  แน่นอนว่ามิตรภาพของเด็กทั้งสามเริ่มขึ้นจากตรงนั้นรวมทั้งความประทับใจที่เธอมีต่อเด็กชายที่ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย  เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงเรื่องราวที่พวกเขาเคยร่วมผจญภัยด้วยกัน  เรื่องที่พวกเขาไปตามหาศิลา  เรื่องที่เขาและเธอย้อนเวลากลับไปช่วยบัคบีคและซีเรียส
เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจ  รู้สึกเจ็บปวดอย่างแปลกประหลาด  ทั้ง ๆ ที่เธอรู้จักเขามาก่อนใคร  ทั้ง ๆ ที่เธอสนิทกับเขามากกว่าคนอื่น [ ยกเว้นรอน ] ทั้ง ๆ ที่เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาใกล้ชิดด้วยมากที่สุด  แต่เขากลับไม่เคยมองเธอมากไปกว่าเพื่อนเลยสักครั้งเลย 
และทั้ง ๆ ที่เธอรักเขามาก่อนใครแท้ ๆ !
เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างขมขื่น  เธอกัดริมฝีปาก  น้ำตาใส ๆ ไหลรินจากดวงตาสีน้ำตาลพร้อม ๆ กับเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปราย
*************************************************
ในที่สุดวันวาเลนไทน์ก็มาถึงนักเรียนที่จะไปเที่ยวฮอกมี้ดส์ต่างมาตั้งแถวรอให้ฟิลซ์ตรวจใบอนุญาติด้วยความตื่นเต้น  รอนมามองส่งพวกเขาอย่างขมขื่น และในไม่ช้าแอนเจลิน่าก็มาลากตัวเข้าไปซ้อม
แฮร์รี่มาถึงที่ร้านไม้กวาดสามอันตามที่เฮอร์ไมโอนี่นัด  เขาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นริต้า  สกีตเตอร์ที่นั่น  เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาอธิบาย [ และถกเถียงกับริต้า ] อยู่พักหนึ่งจนกว่าจะพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ 
เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง ริต้ายิงคำถามใส่แฮร์รี่ไม่หยุดหลังจากเริ่มการสัมพาษณ์  แฮร์รี่เองก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับทุกครั้งที่เขาพยายามเล่าให้ใครต่อใครฟังตลอดแปดเดือนที่ผ่านมา  ปากกาจดทันใจขยุกขยิกอยู่บนโต๊ะ  ริต้าเองก็คอยขัดจังหวะการพูดของเขาอยู่เนือง ๆ [ “คนไม่ควรเอ่ยนามมีหน้าตาอย่างไรบ้าง” “เธอแน่ใจหรือว่าปีเตอร์  เพ็ตตริกรูว์ยังไม่ตาย” “คนที่เธอก็รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าเซตดริก  ดิกกอรี่ด้วยคาถาพิฆาตจริง ๆ หรือ” ]     
ในที่สุดการสัมพาษณ์ก็จบลงเมื่อสามชั่วโมงให้หลัง  ริต้าพยายามจะถามแฮร์รี่เรื่องเด็กผู้หญิงที่เขามาเที่ยวด้วยหลายครั้ง  และก็ถูกเฮอร์ไมโอนี่ปรามทุกครั้งไป
“เอาล่ะ  ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ริต้าถามเฮอร์ไมโอนี่เมื่อการสัมพาษณ์จบลง  เธอกำลังเก็บเก็บม้วนกระดาษกับปากกาจดทันใจลงกระเป๋า
“แน่นอน  และฉันหวังว่าคุณคงส่งเรื่องนี้ให้เดอะควิบเบอร์ตีพิมพ์ในหนึ่งสัปดาห์  ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะส่งจดหมายไปแจ้งทางการเรื่องที่คุณเป็น.........” เฮอร์ไมโอนี่พูด  ริต้าดูโกรธที่โดนขู่
“เอาล่ะ ๆ ๆ ” เธอรีบพูด “ฉันรับรองว่าจะทำงานนี้ให้เธอ  และจะส่งบทความไปให้พ่อของยัยหนูนี่  ภายในหนึ่งอาทิตย์” ริต้าพูด  หันไปมองทางลูน่า
“แค่นี้คงทำให้เธอพอใจใช่ไหม  แล้วฉันจะไปได้หรือยัง” เธอหันมาถามเฮอร์ไมโอนี่ด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“แน่นอน” เด็กสาวพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “อ้อ  แล้วอย่าลืมจ่ายค่าเครื่องดื่มของคุณด้วยล่ะ” เธอพูดมองไปที่โต๊ะ  ริต้าทำหน้าเหมือนเฮอร์ไมโอนี่พูดอะไรหยาบคายมาก ๆ ออกไป  เธอควักเงินค่าเครื่องดื่มออกมาวางบนโต๊ะ  ปิดกระเป๋าหนังจระเข้ดังฉับและก้าวออกจากร้านอย่างรวดเร็ว
แฮร์รี่รอจนกระทั่งริต้าเดินไปพ้นรัศมีสายตาของพวกเขา 
“เธอจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะไป...เอ่อ....เดินข้างนอกหน่อยน่ะ  บางทีฉันอาจจะเจอโชบ้าง เธอคงรู้น่ะ....” แฮร์รี่พูดตะกุกตะกัก 
“แน่นอนแฮร์รี่  ถ้าเธอต้องการนะ  และฉันก็แนะนำให้เธอไปง้อเขาเร็ว ๆ ด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจของเธอมาก ๆ ออกไป “เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องค่าเครื่องดื่มให้  ไปเถอะ” เธอพูด  แฮร์รี่กล่าวขอบใจเธอและเดินออกจากร้านไป  เฮอร์ไมโอนี่มองภาพของแฮร์รี่ที่ค่อย ๆ หายไปกับกลุ่มคนภายนอกด้วยสีหน้าหมองเศร้า
.................................................
หลังจากที่จ่ายค่าเครื่องดื่มแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ออกมาจากร้านไม้กวาดสามอันพร้อมกับลูน่า  เธอบอกเฮอร์ไมโอนี่ด้วยน้ำเสียงฝัน ๆ ว่าเธอต้องการจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับตัวแสน็กคอร์เขาย่นสักเล่ม  แน่นอนว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดจะไปกับเธอ  เด็กสาวบอกลาลูน่าและยกนาฬิกาขึ้นดู  มันบอกเวลาสามโมงสิบนาทีและเวลาที่รถไฟที่จะกลับไปฮอกวอตส์นั้นเป็นตอนสี่โมงตรง  เฮอร์ไมโอนี่ยังมีเวลาอยู่ที่นี่สักพัก
เธอเตร่ไปตามถนนในฮอกมี้ดส์ไม่นานนักเฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่ามีแค่เธอคนเดียวที่อยู่เพียงลำพังในวันวาเลนไทน์เช่นนี้  เด็กสาวมองไปรอบกายที่มีแต่คู่รัก  หรือไม่ก็กลุ่มเด็กนักเรียนที่เบียดเสียดกันเข้าร้านขายขนมอย่างร้านฮันนี่ดุ๊กส์  และซื้อขนมต่าง ๆ มาเท่าที่พวกเขาถือไหว 
เท้าของเฮอร์ไมโอนี่ย่ำลงไปในโคลนเปียกแฉะเพราะสายฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อตอนกลางวัน  เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวในโลก  รู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยวเกินที่เธอจะทนไหว  เด็กสาวพยายามก้าวเร็ว ๆ ผ่านร้านกาแฟที่มีแต่คู่รักเต็มไปหมด  เพราะไม่อยากเห็นพวกเขาป้อนขนมเค้กให้กันหรือจูบกันเหนือถ้วยกาแฟ  เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว  ในใจก็คิดเรื่องบางอย่างซึ่งไม่พ้นเรื่องของเพื่อนรักของเธอ 
‘ ป่านนี้พวกเขาคงดีกันแล้วมั้ง ’ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างขมขื่น  แฮร์รี่ไม่คิดจะสนใจเธอเลยสักนิด  ตอนนี้เขาสนแค่โช  แต่โชเท่านั้น  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าที่เขาทั้งสองโกรธกันนั้นมีสาเหตุหนึ่งที่มาจากเธอ  แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าบางครั้งโชก็ออกจะงี่เง่า
‘ ทำไมต้องเป็นโชด้วยนะ ทำไมถึงไม่เป็นฉัน  ทำไมไม่เป็นฉันทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ใกล้เธอมากกว่าใคร  ทั้ง ๆ ที่ฉันรักเธอมากกว่าใคร ’ คำถามเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวของเธออีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่พยายามสะบัดศีรษะแรง ๆ เพื่อจะไล่มันออกไปจากสมอง  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กสาวได้หันมามองรอบกาย
“ที่นี่มันที่ไหนกัน”
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบกายซึ่งดูไม่เหมือนสถานที่ ๆ เธอคุ้นเคย  แน่นอนว่าที่นี่คือฮอกมี้ดส์  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช่สักทีเดียว  ถึงแม้ว่ารอบกายของเธอจะดูเหมือนฮอกมี้ดส์แค่ไหน  แต่ที่ที่เธอกำลังยืนอยู่นั้นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว  มันดูสงบเงียบจนชวนให้แปลกใจและไม่ใช่ฮอกมี้ดส์ซึ่งมีผู้คนคึกคักแน่ ๆ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบ ๆ อย่างแปลกใจ  คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของเธออีกครั้ง
‘ นี่เรากำลังอยู่ที่ไหน  แล้วฉันมาที่นี่ได้อย่างไร ’ เด็กสาวครุ่นคิด  มีท่าทีไม่ต่างจากตอนที่แฮร์รี่หลงเข้าไปในตรอกน็อกเทิร์น  เธอพยายามว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม  เฮอร์ไมโอนี่ต้องการใครสักคนเพื่อจะถามทางได้บ้าง
แต่เฮอร์ไมโอนี่คิดผิดถนัด  เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ๆ ก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตแถวนี้  ราวกับว่าเธอกำลังหลงอยู่ในเมืองร้าง  และไม่ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเดินไปทางไหนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเงียบเชียบ  บ้านเรือนปิดเงียบและปราศวี่แววของผู้อยู่อาศัย 
สายตาของเฮอร์ไมโอนี่บังเอิญสะดุดเข้ากับกระโจมสีดำขนาดย่อม ๆ ที่ตั้งอยู่โดดเด่นอยู่กลางถนน  เด็กสาวลองเดินเข้าไปใกล้ ๆ มันอย่างเกรง ๆ 
“ขอโทษนะคะ  มีใครอยู่ไหมคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  เธอคาดว่ามันก็คงจะเป็นกระโจมร้างอย่างเดียวกับบ้านเรือนแถวนี้  แต่เด็กสาวคิดผิดถนัด  มีเสียงตอบกลับมาเบา ๆ
“เขามาสิจ๊ะ”  เสียงนั้นดูอ่อนหวานและมีอำนาจอยู่ในที  เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ เลิกผ้าคลุมกระโจมออกช้า ๆ
กลิ่นกำยานฉุนจมูกลอยมาทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่เปิดผ้าคลุมออก  ภายในกระโจมนั้นกว้างใหญ่กว่าที่เห็นข้างนอกมากนัก  มันถูกปูด้วยพรมที่สีสีสันและลวดลายบาดตา  ตรงมุมหนึ่งของกระโจมมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่  เฮอร์ไมโอนี่เห็นหน้าของเธอไม่ชัดเพราะว่าเธอสวมผ้าคลุมผืนใหญ่สีดำที่ปิดตั้งแต่ศีรษะจนถึงตาตุ่ม  และสวมมีผ้าผืนบาง ๆ ปกคลุมส่วนใบหน้าไว้ให้เหลือแต่ลูกตา  แต่เท่าที่เห็นเธอเป็นผู้หญิงที่น่าจะอยู่ในวันสาว  เฮอร์ไมโอนี่เห็นผมสีดำขลับของเธอโผล่พ้นมาจากผ้าคลุม  ดวงตาของเธอเป็นสีดำและเป็นประกาย  ริมผีปากสีแดงสดซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าผืนบาง  ดูจากการแต่งตัวของผู้หญิงคนนี้และกระโจมหลังนี้แล้วเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอหลุดออกมาจากนิทานเรื่องอาหรับราตรี
“เอ่อ.....หนู” เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก  หญิงสาวค่อย ๆ เยื้องย่างเข้ามาหาเธอ 
“เธอกำลังหลงทาง” หญิงสาวต่อให้  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“ใช่ค่ะ  และหนูอยากรู้ว่าหนูจะกลับไปฮอกมี้ดส์ได้อย่างไร  หนูไม่ทราบว่าที่นี่ใช่ฮอกมี้ดส์หรือเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  หญิงสาวคนนั้นมองเธอด้วยดวงตาที่ดูเหมือนพยายามจะอ่านทุกอย่าง  เธอรู้สึกเหมือนกับโดนเอ็กซเรย์
“ทั้งใช่และไม่ใช่จ๊ะ” หญิงสาวตอบ “ทำไมเธอไม่นั่งลงก่อนล่ะจ๊ะ  เราจะได้คุยกันเรื่องช่วยเธอหาทางกลับไงล่ะ” เธอพูด  และโต๊ะกลมเล็ก ๆ เหมือนโต๊ะสำหรับดื่มชาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับเก้าอี้อีกสองตัวโดยที่เธอไม่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์เลย  เด็กสาวทรุดตัวลงบนเก้าอี้เตี้ย ๆ อย่างเกรง ๆ พร้อม ๆ กับที่หญิงสาวคนนั้นนั่งลงตรงข้ามเธอ
“ไม่ต้องเกรงใจนะ  เฮอร์ไมโอนี่” เธอพูด “ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ”
“คุณรู้ชื่อหนูได้ยังไงคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ  หญิงสาวยิ้มอย่างแปลกประหลาด  กาน้ำชาปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาทั้งสอง  เธอลงมือรินชาให้เฮอร์ไมโอนี่
“ฉันรู้ทุกเรื่องที่ต้องการรู้จ๊ะ” เธอตอบ ลงมือจิบชา “ฉันบอกเธอหรือยังจ๊ะว่าฉันชื่อโรส  และฉันจะดีใจมากถ้าเธอเรียกฉันอย่างนั้น” โรสกล่าว
“เอ่อ...ค่ะ.....โรสคะ  หนูอยากรู้ว่าที่นี่ที่ไหนคะ  ที่นี่ใช่ฮอกมี้ดส์รึเปล่าคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ฉันตอบคำถามนี้กับเธอไปแล้วนี่  ขอเป็นคำถามอื่นได้ไหมจ๊ะ  อ้อ  เธอจะทานชาก็ได้นะไม่ต้องกลัวว่าฉันจะวางยาเธอหรอกจ๊ะ” โรสว่า  ดวงตาสีดำทอประกาย  เฮอร์ไมโอนี่ยกชาขึ้นจิบเบา ๆ
“พูดตามตรงนะคะว่าหนูอยากหาทางกลับฮอกมี้ดส์  หนูไม่มีเวลามากด้วย  ถ้ากลับไปช้าหนูจะไปไม่ทันรถไฟก
ลับโรงเรียน”  เฮอร์ไมโอนี่พูดตรงไปตรงมา  โรสไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน เธอจิบชาจนหมดและเติมใหม่อีกแก้ว
“เธอมีเวลาเหลือเฟือที่จะกลับฮอกวอตส์จ๊ะ  ไม่ต้องเป็นห่วง” โรสพูด  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกใจ
“คุณรู้ว่าหนูอยู่ฮอกวอตส์” เฮอร์ไมโอนี่พูด 
“แน่นอนจ๊ะ” โรสบอก “ฉันรู้ทุกเรื่อง  รวมทั้งเรื่องที่เธอกำลังคิดอยู่ด้วย  เฮอร์ไมโอนี่” เธอพูด  ดวงตาเป็นประกายเหมือนลูกปัด  เฮอร์ไมโอนี่ขนลุกไม่มีสาเหต
“คุณต้องล้อหนูเล่นแน่ ๆ ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลก  แต่แววตาของโรสจริงจังเกินกว่าที่เธอจะคิดเช่นนั้นได้
“หนูคิดว่าหนูควรกลับแล้ว  ถ้าคุณช่วยหนูให้หาทางกลับไปฮอกมี้ดส์ไม่ได้หนูก็คงต้องช่วยตัวเอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเกรง ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “ขอบคุณสำหรับชานะคะ” เธอพูด
“แล้วถ้าฉันจะบอกเธอว่าไม่มีใครช่วยเธอให้ออกไปจากที่นี่ได้นอกจากฉันล่ะจ๊ะ” เสียงของโรสดังขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองเธอทันที
“คุณหมายความว่ายังไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอหรี่ตาลงอย่างสงสัย  รู้สึกขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันบอกว่าไม่มีใครที่จะช่วยเธอให้ออกจากที่นี่ได้นอกจากฉัน” ด้วยพูดเสียงเย็นเยียบต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“เพราะว่าคนที่พาเธอมาที่นี่ก็คือฉัน”
*************************************************
ตอนเน้มะมีพี่เดรนะ  อย่าเพิ่งบ่นกันล่ะมันยังไม่ถึงบทอ่ะ  ส่วนใครที่ถามหาตอนสวีท  รอก่อน  ข้าพเจ้ากำลังปั่นให้พวกที่นอ่านอยู่
อ้อ  อย่าลืมเม้นด้วยนะจ๊ะ  นักอ่านที่รัก 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น