ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #6 : Diagon Alley [ตรอกไดแอกอน]

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 52




                   *** Chapter 6 Diagon Alley [ตรอกไดแอกอน]***

     

                    วันหยุดช่วงปิดเทอมนั้นผ่านไปรวดเร็วราวกับสายลมร้อนที่พัดผ่าน  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าเธอมาพักอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายได้ไม่นานนักก็ได้เวลาเปิดเทอมเสียแล้ว  เด็กสาวได้พบกับแฮร์รี่ในอาทิตย์ที่สองที่เธอมาพักอยู่กับครอบครัววีสลีย์  ดัมเบิลดอร์เป็นคนพาเขามาส่งที่บ้านโพรงกระต่ายด้วยตนเอง  และในเช้าวันเดียวกันนั้นผลสอบว.พ.ร.ส. ของพวกเขาก็มาถึง

                    เฮอร์ไมโอนี่ได้ ดีเยี่ยมจากว.พ.ร.ส. ทั้งหมดสิบตัว  และ เกินความคาดหมายหนึ่งตัวจากวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด  ส่วนรอนและแฮร์รี่ได้คะแนนในระดับพอใช้แต่พวกเขาก็ดูมีความสุขดี 

                    หลังจากได้รับจดหมายจากฮอกวอตส์และเมื่อนางวีสลีย์ยืนยันว่าถึงเวลาที่พวกเด็ก ๆ จะต้องไปซื้อของใช้สำหรับเทอมใหม่กันได้แล้ว  ในวันเสาร์ครอบครัววีสลีย์  แฮร์รี่  และเฮอร์ไมโอนี่จึงยกขบวนกันไปที่ตรอกไดแอกอน

                    ตรอกไดแอกอนในเวลานี้นั้นเงียบเหงามาก  ร้านหม้อใหญ่รั่วที่เคยคึกคักกลับร้างผู้คน  ภายในตรอกที่เคยแน่นขนัดและเต็มไปด้วยร้านรวงที่มีผู้คนคึกคักในตอนนี้กลับดูเงียบเหงา  ร้านบางร้านก็ติดป้ายบอกไว้อย่างเด่นชัดว่าปิดกิจการ  ส่วนบางร้านนั้นก็ปิดไปเฉย ๆ โดยไม่บอกกล่าว  แถมบางร้านก็ดูราวกับเจ้าของถูกลากไปเก็บหรือโดนลักพาตัวไปอย่างกระทันหัน  เพราะเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินผ่านร้านไอศครีมของฟลอเรียน  ฟอร์เตสคิวเธอก็พบว่าร้านทั้งร้านนั้นถูกทำลายยับเยิน  เก้าอี้ที่ขาหักกลิ้งระเนระนาดอยู่ภายในร้าน  บานกระจกหน้าร้านแตกกระจาย  ร่มสีสันสดใสขาดวิ่น 

                    แต่เหมือนว่าสิ่งที่มาทดแทนร้านรวงที่ปิดไปนั้นจะเป็นแผงขายของซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ริมทาง  มีพ่อมดแก่หง่อมและแม่มดใบหน้าซีดเซียวยืนขายเครื่องรางป้องกันภัยอยู่อย่างเหงาหงอย 

     

                    ………………………………………………………..

                   

                    [ ขออ้างอิงจากเล่ม 6 นิดนึงเน้อ ]

     

                    หลังจากตกลงกันเป็นอันเรียบร้อยว่าจะแยกกันเป็นสองกลุ่ม  โดยแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่จะไปที่ร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้นโดยมีแฮกริดเป็นผู้ดูแล  ส่วนนายและนางวีสลีย์รวมทั้งจินนี่ก็จะไปซื้อหนังสือที่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่รวมทั้งแฮกริดจึงรีบก้าวยาว ๆ ผ่านแผงลอยเหล่านั้นมุ่งตรงไปยังร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น  เมื่อมาถึงร้านพวกเขาก็มองผ่านกระจกร้านเข้าไป  ในตอนแรกเด็ก ๆ คิดว่าในร้านไม่มีลูกค้า  จนกระทั่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งโผล่มาจากผ้าม่านตรงหลังร้าน  เด็กหนุ่มคนนั้นมีใบหน้าแหลมเสี้ยม  ผิวซีดเผือดและผมสีบลอนด์เกือบขาว  มัลฟอยนั่นเอง!  แต่คราวนี้เขาไม่อยู่ตามลำพังแต่หากมีแม่ของเขา  นาร์ซิลซาร์  มัลฟอยมากับเขาด้วย

                    ไม่นานมัลฟอยก็มองเห็นพวกเขาผ่านทางกระจกเงาภายในร้าน  เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยันก่อนจะเริ่มพูดถากถางเฮอร์ไมโอนี่  แฮร์รี่และรอนชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่มัลฟอยทันทีที่เขาทำเช่นนั้น  เฮอร์ไมโอนี่รีบเข้ามาห้ามเพื่อนทั้งสองไว้ก่อนที่แฮร์รี่และรอนจะสาปมัลฟอยให้เป็นตัวเฟเร็ต  แต่ถึงเธอทำเช่นนั้นมัลฟอยก็ยังไม่หยุดพูดจาถากถางเธอเสียที  เด็กหนุ่มสังเกตุเห็นดวงตาเขียวปั๊ดของเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

                    ใครทำตาเธอเขียวล่ะเกรนเจอร์  ฉันจะได้ส่งดอกไม้ไปให้พวกนั้น

                    แฮร์รี่และรอนตั้งท่าจะตอบโต้  แต่มาดามมัลกิ้นเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน  เธอขอร้องให้นางมัลฟอยห้ามช่วยหยุดพวกเขาไว้ก่อนที่จะมีเรื่อง  แต่การห้ามครั้งนี้ดูเหมือนจะยิ่งเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟเสียเปล่า ๆ เมื่อแฮร์รี่เริ่มปะทะคารมกับนางนาร์ซิลซาร์แทนที่จะเป็นมัลฟอย 

                    เก็บไม้กายสิทธิ์ไปซะ  ถ้าพวกเธอโจมตีลูกชายฉันอีก  ฉันจะทำให้แน่ใจว่านั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเธอจะได้ทำนาร์ซิลซาร์  มัลฟอยพูดเสียงเย็น 

                    งั้นเหรอ  จะไปตามผู้เสพความตายเพื่อนคุณมาฆ่าเราหรือไงแฮร์รี่พูดอย่างไม่เกรงกลัว 

                    ฉันเห็นแล้วว่าการเป็นคนโปรดของดัมเบิลดอร์ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจเรื่องความปลอดภัยอย่างผิด ๆ แฮร์รี่  พอตเตอร์นางมัลฟอยพูด แต่ดัมเบิลดอร์จะไม่ได้อยู่ปกป้องเธอตลอดไปหรอกนะ

                    ว้าว....ดูสิ...เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้แฮร์รี่พูดขึ้นหลังจากที่แกล้งทำเป็นมองไปรอบ ๆ ถ้างั้นทำไมไม่ลงมือเลยล่ะ  พวกเขาอาจจะหาห้องขังคู่ในอัซคาบันให้คุณกับสามีขี้แพ้ของคุณก็ได้!”

                   

                    ทันทีที่แฮร์รี่พูดเช่นนั้นมัลฟอยก็ออกหน้าปกป้องแม่ของเขาในทันที

                    แกอย่าบังอาจพูดกับแม่ของฉันอย่างนั้นเชียวนะพอตเตอร์มัลฟอยขู่  ใบหน้าเป็นสีชมพูด้วยความโกรธ

                    ไม่เป็นไรเดรโก  แม่คิดว่าพอตเตอร์คงจะไปสมทบกับซีเรียสที่รักก่อนที่แม่จะไปพบกับคุณพ่อแน่ ๆ นางนาร์ซิลซาร์ตอบโต้ 

                    แฮร์รี่ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ  ราวกับว่าคำว่า ซีเรียสนั้นไปกระตุ้นต่อมโกรธหรืออะไรสักอย่างในตัวเขา  มาดามมัลกิ้นมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีตกใจราวกับเธอกลัวว่าแฮร์รี่จะพังร้านของเธอในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง  เธอเลื่อนมือสั่นเทาไปจับแขนซ้ายของมัลฟอยหมายจะเลิกเสื้อคลุมขึ้น 

                    มัลฟอยสะดุ้งและโวยวายขึ้นมาในนาทีนั้นพร้อมกับทิ้งเสื้อคลุมที่ลองแล้วเรียบร้อยลงแทบเท้า  เด็กหนุ่มแลดูอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด  เฮอร์ไมโอนี่มองท่าทีของเขาอย่างนึกประหลาดใจ 

                    สองแม่ลูกเดินออกไปจากร้านในทันทีโดยทิ้งมาดามมัลกิ้นที่ดูจะระอากับมารยาทของทั้งสองไว้เบื้องหลัง  เฮอร์ไมโอนี่มองตามแผ่นหลังของมัลฟอยไปจนกระทั่งเขาหายลับไปจากร้าน

     

     

    *************************************************

     

     

                หลังจากซื้อเสื้อคลุมเสร็จแล้ว  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่ก็ตรงไปสมทบกับนายวีสลีย์  พวกเขาทั้งหมดแวะไปซื้อของอีกสองสามที่ก่อนจะตรงไปยังร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ของเฟร็ดกับจอร์จ

                    ร้านของเฟร็ดกับจอร์จนั้นเป็นร้านที่มีคนแน่นขนัดและคึกคักที่สุดในตรอกไดแอกอน  ผู้คนในร้านแน่นจนเกือบจะล้นออกมาข้างนอก  เด็ก ๆ พยายามเบียดเสียดเข้าไปภายในตัวร้านอย่างยากลำบากเพื่อชื่นชมสินค้าที่น่าทึ่งของพวกเขา

                    ภายในร้านนั้นดูแน่นขนัดกว่าที่คิด  รอบ ๆ เต็มไปด้วยชั้นใส่ของตลกมากมายที่บัดนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า  กล่องอาหารว่างเลี่ยงงานกองสูงเกือบจรดเพดาน  ไม้กายสิทธิ์ปลอมมากมายเสียบอยู่ในโถที่ติดราคาไว้ต่าง ๆ กัน  ชุดหนองน้ำกระเป๋าหิ้วที่ฝาแฝดเคยทดลองใช้ที่โรงเรียนเมื่อปีที่แล้ววางเรียงรายกันอยู่บนชั้น 

                    เฮอร์ไมโอนี่เบียดเสียดผู้คนเข้าไปหาฝาแฝดวีสลีย์เพื่อจะขอยาแก้อาการตาช้ำของเธอ  ในขณะที่แฮร์รี่  รอน  และจินนี่นั้นเริ่มเดินสำรวจรอบ ๆ ร้าน  หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่สามารถรักษาให้ตาของเธอกลับมาเป็นอย่างเดิมได้  เด็กสาวก็หันไปสมทบกับคนอื่น ๆ ที่เหลือ  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่คงได้แต่เพลิดเพลินไปกับของเล่นตลกภายในร้านไปอีกนานแน่ ๆ  ถ้าแฮร์รี่ไม่บังเอิญเหลือบไปเห็นมัลฟอยเดินอยู่ตรงถนนนอกร้านเพียงคนเดียวเสียก่อน

                    หลังจากการปรึกษาหารือกันเพียงชั่วครู่  เด็กทั้งสามก็ตัดสินใจว่าจะตามมัลฟอยไป  แฮร์รี่ใช้ผ้าคลุมล่องหนคลุมพวกเขาทั้งสามคนไว้และลอบออกจากร้าน  พวกเด็ก ๆ ติดตามมัลฟอยไปจนกระทั่งถึงตรอกนอกเทิร์น  เด็กหนุ่มผมบลอนด์เหลียวซ้ายแลขวาอย่างระแวดระวังก่อนจะหายเข้าไปในร้านบอร์เจ็นและเบิร์ก

                    เมื่อประตูร้านปิดลงเด็กทั้งสามก็รู้สึกว่าการแอบตามมัลฟอยมานั้นเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง  เพราะพวกเขารู้แค่ว่าเด็กหนุ่มแอบหนีแม่ของเขาออกมาที่ร้านนี้  แต่ไม่รู้จุดประสงค์ในการมาของมัลฟอยจนกระทั่งรอนดึงหูยืดยาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง 

                    จากบทสนทนาระหว่างมัลฟอยและนายบอร์เจ็นที่พวกเขาได้ยิน  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่สามารถสรุปได้ว่ามัลฟอยต้องการให้บอร์เจ็นบอกวีธีซ่อมอะไรสักอย่างแก่เขา  ซึ่งมัลฟอยไม่สามารถนำมันมาซ่อมที่ร้านนี้ด้วยตัวเองได้  และนอกจากนั้นมัลฟอยยังสั่งให้บอร์เจ็นเก็บของบางสิ่งบางอย่างไว้ให้เขา  ฟังดูเหมือนมันเป็นของคู่กันกับชิ้นที่มัลฟอยต้องการจะซ่อม 

                    ในตอนแรกมิสเตอร์บอร์เจ็นก็ทำท่าราวกับไม่อยากตกปากรับคำ  จนกระทั่งมัลฟอยก้าวไปใกล้เขาและเปิดเผยบางสิ่งบางอย่างให้นายบอร์เจ็นเห็น 

                    นายบอร์เจ็นทำท่าตกใจอยู่ชั่วครู่  ใบหน้าของเขาซีดเผือดและมันยิ่งซีดขึ้นไปอีกเมื่อมัลฟอยเอาคนชื่อ  เฟนเรีย  เกรย์แบ็กมาขู่เขา  และเมื่อมัลฟอยทำเช่นนั้นนายบอร์เจ็นก็ยอมทำตามที่เขาต้องการอย่างง่ายดาย 

                    หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว  มัลฟอยก็เดินออกมาจากร้านด้วยท่าทีภาคภูมิใจ  แม้ว่าใบหน้าของเด็กหนุ่มจะแลดูพึงพอใจ  ริมฝีปากยิ้มกระหย่องแต่ดวงตาของนั้นเขากลับดูกังวลใจอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นมาก่อน  ราวกับว่าเขาพยายามบังคับตัวเองให้ทำแลดูมั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่  ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเขาอยากจะวิ่งหนีไปจากมันไกล ๆ เลยด้วยซ้ำ 

                   

                    เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยเดินไปจนลับสายตา  เด็กสาวขมวดคิ้ว  แววตาสีน้ำตาลแลดูเคร่งเครียดเนื่องจากเธอกำลังไตร่ตรองเรื่องทั้งหมดที่เธอเพิ่งได้ยินเมื่อครู่  รวมไปทั้งท่าทีประหลาดของมัลฟอยที่ร้านของมาดามมัลกิ้นด้วย  สิ่งเหล่านั้นมันสื่อถึงอะไรนะ  มัลฟอยต้องการจะทำอะไรกันแน่  และสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นมันเป็นผลมาจาก ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาอย่างที่เขาเคยเอ่ยถึงในจดหมายหรือเปล่านะ  แล้วมันเป็นเช่นนั้นจริงทำไมมันถึงจะส่งผลกระทบต่อความรักระหว่างเขาและเธอด้วยล่ะ!

                    หลังจากผ่านการระดมสมองไปชั่วครู่  เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถหาคำตอบให้กับข้อสงสัยทั้งหมดของเธอได้  เพราะในตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามัลฟอยกำลังจะทำอะไร  เธอไม่รู้แม้กระทั่งว่ามัลฟอยจองของสิ่งใดในร้านบอร์เจ็นและเบิร์กไว้  จากที่แฮร์รี่เคยเล่าให้ฟังร้าน ๆ นี้นั้นเต็มไปด้วยของพวกศาสตร์มืด  และพ่อของมัลฟอยก็เคยเอาของส่วนตัวมาขายที่นี่ในตอนที่กระทรวงระดมกำลังค้นหาสิ่งของพวกศาสตร์มืดอยู่ด้วย 

                    เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านกระจกที่เต็มไปด้วยฝุ่นของร้านบอร์เจ็นและเบิร์กไปโดยคิดว่าเธอจะได้เห็นของที่มัลฟอยได้จองเอาไว้  ทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้  มีของศาสตร์มืดตั้งเป็นร้อย ๆ ชิ้นในนั้น  และเธอก็ไม่รู้เลยว่าชิ้นไหนเป็นของที่มัลฟอยต้องการ 

                    จู่ ๆ เด็กสาวก็คิดอะไรบางอย่างได้  เธอมุดออกจากผ้าคลุมล่องหนและเดินตรงไปยังร้านบอร์เจ็นและเบิร์กก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเรียกเธอกลับมาทัน  มือสั่นเทาของเฮอร์ไมโอนี่ผลักประตูที่เต็มไปด้วยฝุ่นออก  เธอเดินเข้าไปในร้านทันทีโดยไม่สนใจฟังเสียงเรียกของแฮร์รี่และรอน!    

     

                    ………………………………………………………..

     

                    การเข้าไปสืบข้อมูลของเฮอร์ไมโอนี่ในร้านบอร์เจ็นและเบิร์กนั้นล้มไม่เป็นท่า  แน่นอนว่านายบอร์เจ็นจะรู้ว่าเธอมาเพื่อจุดประสงค์อะไร  และเขาก็จัดการตะเพิดเธอออกมาในเวลาไม่ถึงห้านาทีที่เธอเหยียบเข้าไปในร้านของเขา

                    แม้ความพยายามครั้งแรกจะล้มเหลว  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ท้อถอย  เธออยากรู้สิ่งที่มัลฟอยกำลังวางแผนจะทำพอ ๆ กับที่เธออยากรู้เหลือเกินว่าทำไมเรื่อง ๆ นี้อาจจะส่งผลให้ความรักของทั้งสองไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป  แม้แฮร์รี่กับรอนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอบ้าบิ่นมากที่เดินเข้าไปในร้านของนายบอร์เจ็นอย่างนั้น  แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับไม่สนใจคำพูดของเพื่อนทั้งสอง  เธอตั้งใจแล้วว่าจะต้องสืบให้ได้ว่ามัลฟอยกำลังจะทำอะไร  และถ้าการกระทำของเขาในครั้งนี้มีจะส่งผลให้ความรักของเธอและเขาไม่มีวันเป็นเหมือนเดิมอีก  เธอก็จะทำทุกวิถีทางที่จะหยุดเขา  ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ตาม  เธอก็จะหยุดเขาให้ได้!  เธอจะยอมทำทุกทางเพื่อไม่ให้ความรักของเธอในครั้งนี้ต้องจบลง! 

                    หลังจากเดินออกจากตรอกนอกเทิร์นมาได้ไม่นาน  ในขณะที่รอนกำลังบ่นถึงการกระทำของเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้านบอร์เจ็นและเบิร์กไม่จบเสียที  เด็กสาวก็เสนอให้เพื่อนทั้งสองกลับไปที่ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ก่อนเพราะว่าเธอต้องการไปซื้อของที่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกเพิ่มเติม

                    แต่แม่ฉันก็ซื้อหนังสือมาให้พวกเราครบตามรายการแล้วนี่รอนแย้งออกมาทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่พูดจบ 

                    มันก็จริง  แต่ฉันอยากจะไปซื้อหนังสือไว้อ่านเล่น ๆ สักสองสามเล่มน่ะ  ความจริงฉันก็ดู ๆ ไว้แล้วล่ะว่าจะซื้อเล่มไหน  แต่ฉันไม่กล้ารบกวนคุณนายวีสลีย์ให้ไปซื้อให้หรอก  แค่หนังสือของพวกเราสามคนก็หนักจะแย่อยู่แล้วเฮอร์ไมโอนี่อธิบาย

                    งั้นให้พวกเราไปเป็นเพื่อนสิแฮร์รี่พูดขึ้น  รอนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

                    ไม่ได้หรอก พวกเราแอบออกจากร้านมานะ  เธอสองคนต้องกลับไปที่ร้านให้คุณกับคุณนายวีสลีย์เห็นว่าเธอสองคนไม่ได้หายไปไหน  ไม่งั้นพ่อกับแม่เธอจะสงสัยเอานะรอนเธอพูดอย่างมีเหตุมีผล

                    แล้วพ่อกับแม่จะไม่สนเรื่องที่เธอหายไปหรือเฮอร์ไมโอนี่รอนพูดขึ้นบ้าง

                    ไม่หรอก  ถ้าเธอบอกว่าฉันอยู่ซักที่ในร้านน่ะ  พ่อกับแม่ของเธอก็เห็นว่าเราไปไหนด้วยกันเสมอ  อีกอย่างในร้านก็คนเยอะจะตายไปพวกเขาคงไม่สงสัยหรอกว่าฉันหายไป  แต่ถ้าเราหายไปทั้งสามคนนาน ๆ ล่ะก็พวกเขาอาจจะสงสัยได้เฮอร์ไมโอนี่พูดราวกับเธอไตร่ตรองเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน

                    แต่เราก็เป็นห่วงเธอนะเฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่แย้งขึ้นมา ยังไงเราไปด้วยกันดีไหม

                    ไม่เป็นไรหรอกฉันไปคนเดียวได้

                    แต่.....แฮร์รี่ตั้งท่าจะพูด

                    ฉันไม่เป็นไรหรอกน่าแฮร์รี่  ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกน่ะอยู่ห่างออกไปแค่สิบห้าเมตรเอง  พวกเธอทำอย่างกับจะปล่อยให้ฉันเดินเข้าป่าต้องห้ามตามลำพังอย่างงั้นแหละเด็กสาวพูดอย่างหนักแน่นจนเพื่อนทั้งสองคล้อยตามและยอมแยกกับเธอตรงนั้นเพื่อให้เธอได้ไปที่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก 

                    หลังจากที่แฮร์รี่และรอนเดินจากไปจนลับตา  เฮอร์ไมโอนี่ก็เดินไปอีกทางหนึ่งของตรอก  เธอตรงไปยังร้านตัวบรรจงและหยดหมึก  แต่จุดประสงค์ในการมาที่ร้านของเธอในคราวนี้แตกต่างกับที่เคยบอกเพื่อนทั้งสองไว้โดยสิ้นเชิง

     

                    ………………………………………………………..

     

     

                    ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกยังคงแน่นขนัดอยู่บ้างเมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ ในตรอกไดแอกอน  อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้เป็นช่วงใกล้เปิดเทอมแล้ว  พวกเด็ก ๆ จึงพากันมาซื้อตำราเรียนที่ต้องใช้ในเทอมต่อไป 

                    เฮอร์ไมโอนี่มองหามัลฟอยทันทีที่เขาไปในร้าน  ที่เด็กสาวแน่ใจดีว่ามัลฟอยจะต้องมาที่ร้านนี้ก็เพราะตอนที่เธอเจอเขาที่ร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้นเธอไม่เห็นมัลฟอยหรือนางนาร์ซิลซาร์ถือถุงหนังสือออกจากไปร้านแต่อย่างใด  และนางมัลฟอยก็พูดอยู่หยก ๆ ว่าจะพาลูกชายไปตัดชุดคลุมที่ร้านทไวล์ฟิตต์และทิตติ้งแทน  เมื่อคำนวณเวลาในการลองเสื้อคลุมกับเวลาในการซื้อของใช้จิปาถะอื่น ๆ แล้ว  มัลฟอยก็น่าจะมาที่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกเป็นเวลาพอ ๆ กับที่แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ 

                    เพราะนักเรียนส่วนมากมักจะเลือกซื้อหนังสือเป็นอย่างสุดท้ายเสมอ  เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ได้แบกมันไปที่ร้านอื่น ๆ ให้วุ่นวาย  อีกอย่างก็คือตอนที่แฮร์รี่เห็นมัลฟอยเดินอยู่ตรงถนนหน้าร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์นั้นทางที่เขามาเป็นทางไปร้านตัวบรรจงและหยดหมึก  เฮอร์ไมโอนี่กล้าพนันได้เลยว่าเขาต้องแอบหนีแม่ของเขาไปที่ร้านบอร์เจ็นและเบิร์กตอนที่เขาอยู่ที่ร้านหนังสือโดยอ้างว่าต้องการดูหนังสือสักพักแน่ ๆ

                    หลังจากพยายามมองหาอยู่ชั่วครู่เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีบลอนด์เงินที่เธอคุ้นเคยอยู่ตรงบริเวณชั้นสองของร้าน  เด็กสาวรีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนทันที

                    บนชั้นสองเงียบเหงาและแทบจะไม่มีคนต่างกับชั้นแรกโดยสิ้นเชิง  เด็กสาวเดินไปยังชั้นหนังสือตรงที่เธอเห็นมัลฟอยยืนอยู่จากข้างล่างแต่เธอก็พบว่ามันปราศจากผู้คน  เด็กสาวมองสำรวจชั้นหนังสืออย่างผ่าน ๆ ก่อนจะหยุดสายตาที่หนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่ง  เด็กสาวยื่นมือไปสัมผัสปกสีทองของมันเบา ๆ พลางนึกไปถึงวันที่เธอเจอกับมัลฟอยที่นี่เมื่อปีที่แล้ว 

                    ในตอนนั้นเธอและเขายังคงเป็นศัตรูกันอยู่เลย  เฮอร์ไมโอนี่จำได้ดีว่าวันนั้นเธอกับมัลฟอยต่างเลือกที่จะหยิบหนังสือเล่มนี้เหมือน ๆ กัน  และเรื่องราวในวันนั้นก็จบลงด้วยการต่อสู้ระหว่างเธอกับเขา 

                    เด็กสาวนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นพร้อมกับยิ้มอย่างเศร้า ๆ น่าแปลกเหลือเกิน  ทั้ง ๆ ที่ไม่ถึงปีก่อนเธอยังเป็นศัตรูกับเขาอยู่เลย  แต่จู่ ๆ เมื่อเวลาผ่านไปเธอกับเขาก็กลับมารักกันอย่างเช่นวันนี้  เธอและเขารักกันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าความรักของทั้งสองเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย 

                    เฮอร์ไมโอนี่ละมือจากปกหนังสือไปอย่างช้า ๆ ในขณะนั้นเองเสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังเธอ

                    คิดถึงฉันนักรึไง

                     เฮอร์ไมโอนี่หันไปด้านหลังทันทีและที่เธอได้พบก็คือเด็กหนุ่มที่เธอคิดถึงและอยากเจอมากกว่าอะไรทั้งหมด

     

     

    *************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×