ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Thor] Fire and Ice [Loki/OC]

    ลำดับตอนที่ #5 : การเสียสละของเจ้าหญิง: The Sacrifice of the Princess

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 57




                     ลงตอนที่ 5 แล้วนะคะ มีความคิดเห็นยังไงกับฟิคเรื่องนี้เข้ามาคุยกันได้นะคะ วันนี้เราเข้ามาปรับปรุงเนื้อหาและแก้ไขสำนวนเล็กน้อยค่ะ  ใครที่ชอบเซฟฟิคเก็บไว้  มาเซฟอันล่าสุดนี้ไปนะคะ

     

     


     

                     
                
    ***Chapter 5 The Sacrifice of the Princess: การเสียสละของเจ้าหญิง***

     

    สิ่งที่ข้าต้องการก็คืออาณาจักรของเจ้า  คือการที่นอร์นไฮม์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับแอสการ์ด  และมันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเจ้าแต่งงานกับข้า

    สกาฎีไม่แน่ใจว่านางได้ยินคำพูดนั้นถูกต้องหรือไม่  บางทีหูของนางอาจจะผิดเพี้ยนไปที่ได้ยินถ้อยคำแบบนั้นออกมาจากปากของราชาแห่งแอสการ์ด  แต่เมื่อเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์เงยหน้าขึ้นและได้เห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามแล้วนางก็รู้ในทันทีว่านางไม่ได้ยินผิดไปแต่อย่างใดเมื่อโลกิเริ่มพูดต่อ

    สิ่งที่ข้าต้องการเป็นทางเดียวที่ข้าจะได้ความคงรักภักดีมาจากอาณาจักรของเจ้า  และเป็นทางเดียวที่เจ้าจะรักษานอร์นไฮม์ของเจ้าไว้ได้  ด้วยการแต่งงานกับข้า เขาบอกข้อเสนอกับนางราวกับมันเป็นการเจรจาข้อตกลงทางการเมือง  ไม่ใช่การขอแต่งงานอย่างที่มันควรจะเป็น  แต่แน่นอนว่าสกาฎีรู้ดีว่าสิ่งที่ราชาแห่งแอสการ์ดต้องการนั้นไม่ใช่การแต่งงานกับนาง  หากแต่เป็นอาณาจักรของนางที่เขาจะได้จากการแต่งงานครั้งนี้ต่างหาก

    และเมื่อเป็นเช่นนั้นสกาฎีก็พูดคำตอบแรกที่ผุดขึ้นในใจของนางออกมา

    ข้าไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!” นางกล่าวออกไปราวกับนางลืมไปแล้วว่าชะตากรรมของนอร์นไฮม์นั้นอยู่ในกำมือชายตรงหน้า  ขณะที่ราชาแห่งแอสการ์ดผู้เพิ่งถูกหญิงสาวปฏิเสธคำขอแต่งงานเป็นครั้งแรกนั้นยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

    ถ้าเจ้าไม่ยอมทำตามที่ข้าต้องการ  เจ้าก็เตรียมบอกลาอาณาจักรของเจ้าเลยแล้วกันโลกิพูดพร้อมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่บอกว่าเขาสามารถทำตามที่พูดได้อย่างแน่นอน  ก่อนที่เขาจะเดินไปเบื้องหลังแท่นควบคุมไบฟรอสท์โดยที่มือใหญ่ของเขาเลื่อนไปกุมดาบที่ปักอยู่บนแท่นอย่างรวดเร็ว  แต่ก่อนที่มือใหญ่ของชายหนุ่มจะกดลงบนดาบที่ปักอยู่บนแท่นนั้น  สกาฎีก็ร้องขึ้น

    อย่า!!!” เสียงแหลมสูงซึ่งเต็มไปด้วยความตระหนกของหญิงสาวดังขึ้น  และเมื่อราชาแห่งแอสการ์ดมองไปยังต้นเสียง  เขาก็พบกับใบหน้าที่ขาวซีดและดวงตาสีฟ้าที่มีน้ำตาคลอของเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์  สีหน้าของนางดูสับสนเป็นอยู่ชั่วครู่  ราวกับนางต้องตัดสินใจเรื่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของนาง  ก่อนที่ริมฝีปากบางอันสั่นระริกของสกาฎีจะขยับเมื่อนางพูดออกมาว่า

    อย่า  ได้โปรดข้ายอมแล้ว!” นางพูดออกมาพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน  และเมื่อเป็นเช่นนั้นโลกิจึงละมือจากแท่นควบคุมไบฟรอสท์ก่อนจะพูดขึ้น

     “เจ้ายอมอะไรล่ะ เขาพูดพลางมองเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ด้วยสายตาอันตราย  ขณะที่อีกฝ่ายกลืนน้ำลายเมื่อได้เห็นสายตาของโลกิที่มองมาทางนาง  หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะตัดสินใจพูดขึ้น

      ข้า……” นางพูดได้เพียงเท่านั้นก่อนที่น้ำเสียงอันสั่นระริกของนางจะขาดหายไปเมื่อมีน้ำตาหยดใหม่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของนางอีกรอบ  ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวต้องเผชิญสถานการณ์อันน่าลำบากใจเช่นนี้นั้นกลับมองภาพตรงหน้าของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความพึงพอใจก่อนที่เขาจะพูดต่อ

    เจ้าก็รู้ดีนี่ว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เจ้าจะรักษาอาณาจักรของเจ้าไว้ได้  คือการที่เจ้าตกลงยอมแต่งงานกับข้าโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ รวมทั้งเจ้าต้องยกอาณาจักรของเจ้าให้อยู่ในความครอบครองของข้าด้วย เขาพูดกับใบหน้าซีดขาวของหญิงสาวตรงหน้าเมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้านางอีกครั้ง  และสิ่งที่เขาได้รับแทนคำตอบนั้นก็เป็นแววตาซึ่งแสดงถึงความสับสนของสกาฎีที่มองกลับมาก่อนที่โลกิจะพูดขึ้นอีกครั้ง

    ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว  ว่าเจ้าจะยอมเสียสละตัวเจ้าเองเพื่อรักษาอาณาจักรของเจ้าไว้หรือไม่ โลกิพูดกับเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ซึ่งบัดนี้มีท่าทีว่านางจะยอมศิโรราบแก่เขาแต่โดยดี  และถึงแม้ว่าสกาฎีจะไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันใดที่นางจะยอมตกลงแต่งงานกับชายผู้เป็นคนสังหารบิดาของนางอย่างโลกิได้ก็ตาม  แต่ในขณะนี้นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะรักษาอาณาจักรของนางรวมทั้งชีวิตประชาชนชาวนอร์นไฮม์ของนางไว้ได้นอกจากการยินยอมทำตามข้อเสนอของเขาเท่านั้น

    และเมื่อคิดได้เช่นนั้นหญิงสาวจึงตอบออกไปด้วยหัวใจที่แตกสลายว่า

    ข้า……ข้ายอม นางพูดออกมาอย่างยากเย็นพร้อมกับน้ำตาใสที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยที่แสนจะบอบช้ำ ข้าตกลงแต่งงานกับท่าน นางตอบออกมาในที่สุด  หากแต่นางกลับไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาเขา  จนทำให้โลกิที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าขสกาฎีนั้นใช้มือใหญ่ของเขาเชยคางนางขึ้นมาเพื่อบังคับให้ดวงตาสีฟ้าของหญิงสาวเงยสบดวงตาสีเขียวของเขาก่อนที่เขาจะถามต่อ

    เจ้าสาบานว่าจะเข้าพิธีอภิเษกกับข้า  จะเป็นชายาของข้า  และจะยกอาณาจักรของเจ้าให้อยู่ในความครอบครองของข้าหรือไม่ เขาถามซ้ำ  ขณะที่สกาฎีซึ่งตอนนี้รู้สึกราวกับหัวใจของนางได้แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นได้ยินเสียงตัวเองตอบราชาแห่งแอสการ์ดออกไปว่า

    หากท่านสาบานว่าจะละเว้นอาณาจักรของข้า  ข้าก็สาบานว่าจะทำตามที่ท่านต้องการ นางตอบออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียน  เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์หลับตาลงในวินาทีนั้นราวมันเป็นหนทางที่ทำให้นางสามารถหลีกเลี่ยงความจริงที่นางกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ได้  แม้ว่านางจะรู้อยู่เต็มอกก็ตามว่านางไม่มีทางที่จะหลีกหนีความจริงอันแสนจะโหดร้ายนี้ไปได้นาน  พอ ๆ กับที่นางไม่มีทางอื่นที่จะรักษาอาณาจักรของนางไว้นอกเสียจากการที่นางจะยอมเสียสละตัวเองโดยการแต่งงานกับราชาแห่งแอสการ์ดเท่านั้น!

    ในขณะที่สกาฎีกำลังหลับตาลงเพื่อหลีกหนีความจริงที่นางต้องเผชิญอยู่นั้น  ทางฝ่ายโลกิก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจกับภาพที่เขาได้เห็น  ซึ่งเป็นภาพที่องค์หญิงแห่งนอร์นไฮม์ยอมศิโรราบและมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้แก่เขาอย่างง่ายดายเสียเหลือเกิน  และอาจเป็นเพราะการได้เห็นภาพเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ซึ่งเดิมเคยมีท่าทีแข็งกร้าวและอวดดีกับเขาไม่ต่างจากบิดาของนางยอมจำนนต่อเขาแบบนี้แล้วนั้น  การที่โลกิได้เห็นภาพใบหน้าซีดเซียวและแก้มเนียนที่เปรอะไปด้วยหยดน้ำตาของนาง  รวมไปถึงริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริกของนางในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก  และความพึงพอใจที่ราชาแห่งแอสการ์ดกำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้นั้นรุนแรงมากกว่าความรู้สึกพอใจของเขายามที่เขามีชัยชนะเหนือราชาแห่งนอร์นไฮม์เมื่อวันก่อนเสียอีก 

    และเมื่อเป็นเช่นนั้น  เมื่อเขาได้เห็นภาพเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์  ธิดาเพียงองค์เดียวผู้เป็นทายาทสืบราชบัลลังค์ของธีอาซียอมจำนนต่อเขาแบบนี้แล้ว  มันก็ทำให้เขาต้องการจะแสดงอำนาจที่เขามีต่อนางมากยิ่งขึ้นไปอีก  ราชาแห่งแอสการ์ดรู้สึกว่าความต้องการที่จะครอบครองรวมทั้งเอาชนะหญิงสาวตรงหน้าเช่นเดียวกับที่เขาต้องการจะครอบครองอาณาจักรของนางนั้นพุ่งสูงขึ้นเมื่อเขาตัดสินใจทำสิ่งที่สกาฎีหรือแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะทำลงไปในขณะนี้  เมื่อราชาแห่งแอสการ์ดเอ่ยคำพูดต่อไปของเขาออกมา

    ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะย้ำคำสาบานนี้ที่ริมฝีปากของเจ้า เขากล่าวก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหมายจะจูบหญิงสาวขณะที่มือหนึ่งกุมคางของนางไว้

    หากแต่ก่อนที่ริมฝีปากบางของโลกิจะสัมผัสริมฝีปากอิ่มของสกาฎี  อีกฝ่ายที่ล่วงรู้การกระทำของเขานั้นก็ไหวตัวทันโดยการเบี่ยงหน้าหลบ  ซึ่งมันส่งผลให้ริมฝีปากบางของโลกิไปสัมผัสกับแก้มเนียมที่เปื้อนคราบน้ำตาของหญิงสาวแทน  ก่อนที่เสียงอันสั่นระริกของเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์จะดังขึ้น

    อย่า…….” นางพูดได้เพียงเท่านั้นขณะที่อีกฝ่ายถอนริมฝีปากของเขาออกมาจากแก้มของนาง  ราชาแห่งแอสการ์ดจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้กับการขัดขืนที่ไร้ประโยชน์ของหญิงสาว

    เจ้าก็น่าจะรู้นี่ว่าเจ้าไม่อาจปฏิเสธข้าได้อีกต่อไป  ในเมื่อเจ้าตกลงจะแต่งงานกับข้าแล้ว เขาพูดพลางจ้องลึกไปในดวงตาสีฟ้าที่ดูหวาดหวั่นของฝ่ายตรงข้าม  และเมื่อเขาเห็นว่าเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์มีท่าทีว่าจะโต้เถียงอะไรเขาออกมา  โลกิก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน  ขณะที่นิ้วโป้งของเขาสัมผัสริมฝีปากสีกุหลาบของนางด้วยท่าทีประเมิน  ราวกับเขากำลังสงสัยว่ามันจะรู้สึกอย่างไรถ้าเขาได้สัมผัสริมฝีปากนุ่มนวลของเจ้าหญิงองค์นี้ด้วยริมฝีปากของเขา

    เจ้าจะปฏิเสธข้าได้เพียงแค่ครั้งนี้เท่านั้น  เจ้าหญิง  เพราะตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  เจ้าต้องอยู่ในความครอบครองของข้า  ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธข้าได้อีกแม้แต่ครั้งเดียวราชาแห่งแอสการ์ดพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและแสดงถึงความเป็นเจ้าของ  ขณะที่แววตาของเขาสำรวจใบหน้าของเจ้าหญิงคนงามผู้มีฐานะเป็นว่าที่ชายาของเขาอย่างพิจารณา

      ข้าจะได้เป็นผู้ชายคนแรกที่จูบเจ้า  ครอบครองเจ้า  ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม  แต่เจ้าจะต้องเป็นของข้า  และเป็นของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น  เจ้าเข้าใจหรือไม่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและหนักแน่นจนทำให้อีกฝ่ายรู้ดีว่าเขาหมายความตามที่พูดในทุกถ้อยคำ  และเพราะคำพูดนั้นของราชาแห่งแอสการ์ดเองที่ทำให้เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์รู้สึกขนลุกขึ้นมา  ราวกับคำพูดของเขาได้ส่งความหนาวเยือกเข้าสู่กระดูกสันหลังของนาง  และถึงแม้ว่าสกาฎีจะต้องการหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่นี้  ซึ่งก็คือการอยู่ภายใต้การครอบครองของโลกิมากเพียงใดก็ตาม  หญิงสาวก็รู้ดีว่านางไม่อาจจะหนีจากเขาไปได้  พอ ๆ กับที่นางรู้ดีว่าไม่มีทางอื่นที่จะรักษาอาณาจักรของนางไว้ได้นอกจากการยอมแต่งงานกับโลกิเท่านั้น  และเมื่อคิดได้เช่นนั้นหญิงสาวจึงตัดสินใจพูดออกไปหลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งว่า

    ท่านจะได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ  ขอเพียงท่านสาบานว่าจะละเว้นอาณาจักรของข้าเท่านั้น

    ข้าสาบานว่าจะละเว้นอาณาจักรของเจ้า  เมื่อเจ้ารวมทั้งชาวนอร์นไฮม์ยอมอยู่ใต้การปกครองของข้า  และยอมรับข้าในฐานะราชาผู้ปกครองแอสการ์ดและนอร์นไฮม์  รวมทั้งอาณาจักรทั้งเก้าด้วย  นี่คือข้อตกลงของข้า โลกิกล่าวอย่างรอบคอบ  พร้อมกับสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย  และถึงแม้ว่าสกาฎีจะไม่พอใจกับเงื่อนไขนี้ของเขามากเพียงใดก็ตาม  แต่เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ก็ฉลาดพอที่จะคิดได้ว่านางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตามความต้องการของโลกิในตอนนี้เลย

    และเมื่อเป็นเช่นนั้นหญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองราชาแห่งแอสการ์ดอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้น

    ขอเพียงท่านปล่อยอาณาจักรของข้าไป  ข้าขอสาบานว่าท่านจะได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ สกาฎีพูดก่อนจะหลับตาลงอย่างปวดร้าว  ท่ามกลางสายตาของโลกิที่มองมาที่นางอย่างพออกพอใจ  และเมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้งนางก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มพูดขึ้น 

    ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะถือว่าเจ้าเข้าใจในข้อตกลงของข้าดีแล้ว เขากล่าว  หากแต่เขากลับยังไม่ยอมดึงดาบออกจากแท่นควบคุมไบฟรอสท์แต่อย่างใด  และในวินาทีต่อมาราชาแห่งแอสการ์ดก็ยกมือขึ้นพร้อมกับออกคำสั่งเรียกทหารที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องควบคุมไบฟรอสท์ให้เข้ามาหาเขา  สิ้นคำสั่งของโลกิก็มีทหารสองนายมาเดินมาทางเขาในทันที

    เจ้า  พาเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ไปที่พระราชวัง  ให้นางพักในห้องพักของอาคันตุกะและสั่งให้ทหารยามเฝ้าไว้อย่าให้นางออกจากห้องได้แม้แต่ก้าวเดียว เขาสั่ง  และทันทีที่โลกิพูดจบ  นายทหารคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาคุมตัวสกาฎีไว้  นางพยายามขัดขืนหากแต่นางก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ชายได้โดยเฉพาะในยามที่นางไม่มีอาวุธติดกายเช่นนี้

    ยอมไปแต่โดยดีเถอะองค์หญิง  ถ้าเจ้าขัดขืนข้าจะถือว่าเจ้าไม่ทำตามที่เราได้ตกลงกันไว้นะ โลกิออกปากเตือน  หากแต่เขากลับส่งสายตาห้ามปรามไปยังทหารคนที่กำลังเข้ามากุมตัวหญิงสาวเอาไว้  ราวกับเขาต้องการเตือนไม่ให้ทหารนายนั้นทำรุนแรงกับหญิงสาวมากเกินไปนัก  ขณะที่สกาฎีเงยหน้าขึ้นมองโลกิก่อนจะพูดออกมา

    ท่านจะให้ข้าทำตามที่ท่านสั่งได้อย่างไร  ในเมื่อข้าก็ยังไม่รู้เลยว่าท่านจะรักษาคำสัตย์ของท่านหรือไม่  ท่านยังไม่ดึงดาบนั่นออกมาเลยด้วยซ้ำ นางกล่าวขณะที่สายตาของนางมองไปยังแท่นควบคุมไบฟรอสท์ซึ่งราชาแห่งแอสการ์ดยืนอยู่ไม่ไกลจากมันนัก  ราวกับนางกลัวว่าหากนางออกไปจากที่นี่แล้ว  โลกิจะผิดคำสัญญาและใช้ไบฟรอสท์ทำลายอาณาจักรของนางหลังจากนั้น

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น  แม้ว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมาจะเป็นคำพูดที่หมิ่นเกียรติของราชาแห่งแอสการ์ดก็ตาม  แต่โลกิกลับไม่ใส่ใจในคำพูดของสกาฎี  ตรงกันข้ามเขากลับหันมาสบตาองค์หญิงคนงามผู้กำลังจะกลายเป็นชายาของเขาพร้อมกับส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้นาง

    มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เจ้าควรจะเรียนรู้ไว้นะ เจ้าหญิง  ว่าเจ้าไม่มีวันรู้หรอกว่าข้าจะรักษาคำสัตย์ของข้าหรือไม่เขาพูด “แต่ในทางตรงกันข้าม  ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถจะทำให้เจ้ารักษาคำสาบานทุก ๆ คำที่เจ้าให้ไว้กับข้าได้อย่างแน่นอน เขากล่าวอย่างหนักแน่นพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเจ้าเล่ห์  สิ้นคำพูดราชาแห่งแอสการ์ดก็ร่ายเวทย์มนต์ที่ทำให้ในวินาทีต่อมามีกุญแจมือเหล็กปรากฏขึ้นบนข้อมือเล็กของเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์  กุญแจมือที่เกิดจากเวทย์มนต์ของเขานั้นเกี่ยวรัดรอบข้อมือบอบบางของหญิงสาวไว้พร้อมกับเสียงดังคลิก 

    และเมื่อสกาฎีเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยแววตาตกใจ  นางก็ได้ยินเสียงของโลกิที่ดังขึ้น

    เอาตัวนางไปได้แล้ว  เมื่อถึงที่พักแล้วค่อยปลดกุญแจมือให้นาง  แต่จำเอาไว้ล่ะว่าข้าห้ามไม่ให้นางออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียวเอาออกคำสั่งอย่างไม่ยี่หระต่อสีหน้าและแววตาที่แสดงออกถึงความโกรธเคืองของหญิงสาว  สิ้นเสียงสั่งการจากโลกิ  นายทหารคนดังกล่าวก็คุมตัวเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ออกไปจากห้องควบคุมไบฟรอสท์ท่ามกลางเสียงร้องและการดิ้นรนขัดขืนของนาง!

     

    …………………………………………………………………..

     

     

    หลังจากแน่ใจว่านายทหารที่ทำหน้าที่คุมตัวเจ้าหญิงสกาฎีออกไปห่างจากพวกเขาแล้ว  โลกิก็เดินลงจากแท่นควบคุมไบฟรอสท์และพยักหน้าให้ไฮม์ดัลกลับขึ้นมายังประจำตำแหน่งของเขาแทน 

    ทีนี้ก็หมดเรื่องกบฎอีกครั้งของนอร์นไฮม์แล้วจริงไหม  ข้าไม่ต้องเสียเลือดเนื้อในการปราบกบฎครั้งนี้แถมข้ายังได้นอร์นไฮม์มาครอบครองอีกด้วย โลกิพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง  ราวกับว่าเขาภาคภูมิใจในการกระทำของตัวเองเป็นอย่างมาก  ที่เขาสามารถทำให้นอร์มไฮม์มารวมเป็นหนึ่งเดียวกับแอสการ์ดได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อซึ่งไม่เคยมีราชาแห่งแอสการ์ดคนใดทำเช่นนี้ได้มาก่อน  แม้กระทั่งโอดินบิดาบุญธรรมของเขาก็ตาม

    อันที่จริงโลกิต้องขอบคุณโอดินในเรื่องนี้  เพราะถ้าหากเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าครั้งหนึ่งโอดินต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือในการรวมแอสการ์ดกับโยธันไฮม์เข้าด้วยกัน  เขาก็คงไม่มีวันคิดแผนการที่จะรวมนอร์นไฮม์เข้ากับแอสการ์ดผ่านการแต่งงานครั้งนี้ขึ้นมาได้  แต่แผนการในครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนคือในครั้งนี้เขาไม่ได้เป็นเครื่องมือหรือเป็นเหยื่อในแผนการของโอดินเพื่อรวมอาณาจักรทั้งสอง  หากแต่เขากลับเป็นผู้ดำเนินแผนการทั้งหมดเสียเอง  เขาเป็นผู้วางแผนเพื่อรวมนอร์นไฮม์เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของแอสการ์ดได้อย่างราบรื่นไม่มีที่ติ  ไม่ต่างจากตอนที่เขาวางแผนยึดครองแอสการ์ดและสาปให้โอดินหลับใหลไปตลอดกาลก่อนหน้านี้

    ขณะที่กำลังภาคภูมิใจในชัยชนะของตัวเองอยู่นั้น  เสียงของไฮม์ดัลก็ปลุกโลกิขึ้นจากภวังค์

    ฝ่าบาท  ท่านแน่ใจแล้วหรือที่จะอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ ไฮม์ดัลถามขึ้น  และโลกิก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยในคำพูดของนายทวาร

    แน่นอนว่าข้าแน่ใจ  หรือเจ้ามีข้อโต้แย้งในการตัดสินใจของข้าอย่างนั้นหรือ ราชาแห่งแอสการ์ดถาม

    ข้าไม่กล้า  ฝ่าบาท  แต่มีบางเรื่องที่ท่านควรรู้เกี่ยวกับเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ ไฮม์ดัลกล่าว  และเมื่อเห็นว่าเจ้าเหนือหัวของเขามีท่าทีสนใจฟังในสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกมานั้น  เขาก็ตัดสินใจพูดต่อ

    เจ้าหญิงองค์นี้  นางมีคนรักอยู่แล้วที่อาณาจักรของนาง ไฮม์ดัลพูดออกมาในที่สุด  ขณะที่โลกิขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัยในข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับชั่วครู่ก่อนจะยิ้มขึ้นแล้วถามว่า

    เจ้ากำลังจะบอกข้าว่าหญิงที่ข้ากำลังจะแต่งงานด้วย  ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ เขาถามด้วยรอยยิ้ม  หากแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับฟังดูดุดันยิ่งนัก

    ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น  เจ้าหญิงสกาฎียังไม่เคยผ่านการอภิเษกมาก่อน  ท่านจะได้เป็นชายคนแรกที่ได้ครอบครองนางตามที่ท่านได้พูดไว้ ไฮม์ดัลหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “แต่ข้าก็ค่อนข้างแน่ใจว่านางมีคนรักอยู่แล้วที่นอร์นไฮม์  ข้าจึงจำเป็นต้องบอกท่านในเรื่องนี้ สิ้นคำบอกเล่าของนายทวาร  โลกิก็รู้ถึงความร้อนวูบวาบที่แล่นผ่านร่างของเขา  แต่มันเกิดขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่มันจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาพูดขึ้นอีกครั้ง

    ข้าไม่สนใจว่านางจะมีคนรักอยู่ก่อนหรือไม่  แต่สิ่งเดียวที่ข้าสนใจก็คือข้าจะได้อาณาจักรของนางมาครอบครองผ่านการแต่งงานครั้งนี้  และที่สำคัญนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากยอมแต่งงานกับข้า  แล้วบางทีการที่นางมีคนรักอยู่แล้วที่นอร์นไฮม์อาจมีส่วนช่วยให้นางยอมตกลงแต่งงานกับข้าแต่โดยดีก็เป็นได้  เพราะนางคงไม่ต้องการให้คนรักของนายย่อยยับไปพร้อมกับอาณาจักรของนางหรอกจริงไหมโลกิกล่าวด้วยรอยยิ้ม

    แต่ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะบ่งบอกว่าเขาไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจที่ได้เรียนรู้ว่าสกาฎีมีคนรักอยู่ก่อนแล้วก็ตาม  แต่น้ำเสียงของราชาแห่งแอสการ์ดที่เปล่งออกมานั้นกลับแฝงไว้ด้วยแววเกรี้ยวกราดและความรู้สึกไม่พอใจ  แต่ถึงแม้ว่าไฮม์ดัลจะจับความรู้สึกที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเจ้าเหนือหัวของเขาได้  แต่นายทวารกลับตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรต่อ  เมื่อเขาละสายตาจากโลกิเพื่อมองไปยังพิภพเบื้องล่างอีกครั้ง  แต่ในครั้งนี้ไฮม์ดัลกลับต้องชะงักในสิ่งที่เขาเห็น

    เจ้าเห็นอะไรอย่างนั้นหรือ ราชาแห่งแอสการ์ดที่สังเกตเห็นท่าทีนั้นของไฮม์ดัลถามขึ้นในทันที  และหลังจากเฝ้ามองสิ่งที่ตนเห็นเพื่อให้แน่ใจอยู่ครู่หนึ่งแล้ว  นายทวารก็ตอบออกมา

    ในตอนนี้  คงไม่ได้มีแค่ชายคนรักของเจ้าหญิงสกาฎีเท่านั้นที่นางห่วงใยเป็นอย่างยิ่งในอาณาจักรของนาง สิ้นคำพูดของไฮม์ดัลโลกิก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  และเมื่อเห็นเช่นนั้นไฮม์ดัลจึงหันมามองเจ้าเหนือหัวของเขาก่อนจะพูดขึ้น

    ฝ่าบาท  กษัตริย์ธีอาซี  บิดาขององค์หญิงที่พลักตกเหวไประหว่างการประลองกับท่านยังไม่ตาย เขาพูดออกมาในที่สุด  ขณะที่โลกิมีท่าทีแปลกใจ

    เจ้าแน่ใจหรือ นั่นเป็นคำพูดของราชาแห่งแอสการ์ดขณะที่เขามองไฮม์ดัลอย่างสนใจ

    นั่นเป็นสิ่งที่ข้าเห็น นายทวารตอบ  ก่อนจะละสายตาลงไปจ้องมองพิภพเบื้องล่างอีกครั้ง  ขณะที่โลกิได้เข้ามายืนข้าง ๆ เขาและมองตามสายตาของไฮม์ดัลลงไปราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นอาณาจักรทั้งหลายได้เช่นเดียวกับอีกฝ่าย

    แล้วพวกนอร์นไฮม์รู้ไหมว่ากษัตริย์ของพวกมันยังไม่สิ้น ราชาแห่งแอสการ์ดถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  และในไม่ช้าไฮม์ดัลก็ตอบออกมา

    ไม่  พวกเขาไม่รู้  ร่างของกษัตริย์ธีอาซีติดอยู่ตรงซอกเขาใต้หน้าผาที่พวกท่านต่อสู้กัน  บริเวณที่เขาตกลงไปมีหิมะปกคลุมเขาเลยไม่ถึงกับชีวิต  และที่ผ่านมาเขาก็สลบอยู่ข้าจึงไม่รู้ว่าเขายังไม่ตาย ไฮม์ดัลตอบ  ขณะที่โลกิพยักหน้าอย่างรับรู้

    ถ้าอย่างนั้นก็ดี ราชาแห่งแอสการ์ดกล่าวขึ้นก่อนจะออกคำสั่งเรียกทหารยามที่รอรับคำสั่งอยู่ข้างนอกเข้ามา

    เจ้าจงไปแจ้งนายพลอาร์นเฮอยาให้เขานำทหารไปที่นอร์นไฮม์  บริเวณใต้หน้าผาที่ข้าประลองกับธีอาซีเมื่อวาน  ไปค้นหาและนำร่างของธีอาซีกลับมาที่แอสการ์ด  ถ้าอาการของเขาสาหัสนักก็ให้ห้องโอสถรักษาแต่หลังจากนั้นให้นำเขาไปขังไว้ที่คุกใต้ดิน  ที่สำคัญก็คือห้ามให้ชาวนอร์นไฮม์คนใดล่วงรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด  ถ้าหากมีใครมาพบเห็นพวกเจ้าให้สังหารได้ทันที  เจ้าเข้าใจหรือไม่ โลกิออกคำสั่ง  ขณะที่ทหารคนดังกล่าวตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

    เข้าใจพะย่ะค่ะ เขาตอบ

    งั้นก็ดี  รีบไปจัดการซะ  ถ้าเรียบร้อยแล้วให้รีบมารายงานข้าด้วย ราชาแห่งแอสการ์ดออกคำสั่งก่อนที่ทหารนายนั้นจะรีบเร่งไปทำหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมายมาเป็นอย่างดี

     

    …………………………………………………………………..

     

    ทางด้านสกาฎีที่ถูกคุมตัวจากสะพานไบฟรอสท์ไปยังพระราชวังแอสการ์ดนั้นไม่นานนักนางก็ถูกพามายังห้องนอนสำหรับอาคุนตุกะห้องหนึ่งในพระราชวัง  หลังจากที่นายทหารคนดังกล่าวพานางเข้าไปในห้องแล้วเขาก็จัดแจงถอดกุญแจมือที่พันธนาการข้อมือเล็กทั้งสองข้างของเจ้าหญิงไว้ก่อนจะพูดขึ้น

    ท่านต้องอยู่ที่นี่ก่อน  ตามคำสั่งของฝ่าบาท นายทหารที่เป็นคนคุมตัวนางกล่าวขึ้นเมื่อเขาพานางเข้าไปในห้องนอนที่มีขนาดกว้างขวางและถูกตกแต่งอย่างสวยงาม  แม้ว่าเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์จะอดตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังแอสการ์ดที่นางได้เห็นตลอดเส้นทางที่ถูกคุมตัวมาไม่ได้  แต่ถึงกระนั้นสกาฎีก็ไม่ได้ต้องการที่จะอภิเษกกับราชาแห่งแอสการ์ดและเป็นชายาของเขาเลยแม้แต่น้อย  ความยิ่งใหญ่ของบัลลังค์แอสการ์ดนั้นดูไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อต้องแลกมาด้วยอิสระภาพของนางรวมทั้งเสรีภาพของอาณาจักรของนางแบบนี้

     แต่ถึงจะไม่ยินยอมในการถูกพาตัวมายังพระราชวังแห่งนี้ก็ตาม  แต่องค์หญิงแห่งนอร์นไฮม์ก็ไม่อาจจะห้ามตัวเองไม่ให้สำรวจห้องนอนซึ่งบัดนี้มันได้กลายมาเป็นที่พักของนางอย่างสงสัยใคร่รู้ไม่ได้

    ท่านได้โปรดทำตัวตามสบาย  จะมีทหารเฝ้าอยู่หน้าห้อง  ถ้าท่านต้องการสิ่งใดท่านสามารถเรียกพวกเขาได้  แต่ได้โปรดจำไว้ว่าท่านไม่มีสิทธิก้าวออกจากห้องแม้แต่เพียงก้าวเดียว  นั่นเป็นคำสั่งของฝ่าบาท นายทหารอธิบาย  และคำพูดนั้นเองที่ทำให้ความตื่นตาตื่นใจเพียงน้อยนิดของหญิงสาวมีต่อที่อยู่ใหม่ซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามของนางจางหายไปในทันที  มือเล็กของสกาฎีที่กำลังลูบพนักพิงเก้าอี้บุนวมชั้นดีอยู่ก็ชะงักเล็กน้อยก่อนที่นางจะเงยหน้าขึ้นมองทหารคนดังกล่าวแล้วพูดออกมา

    งั้นก็ช่วยไปบอกฝ่าบาทของเจ้าด้วยแล้วกัน  ว่าถ้าเขาต้องการกักขังข้าแบบนี้  เขาควรจะนำตัวข้าไปขังคุกใต้ดินเสียดีกว่า นางกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน  หากแต่ถ้อยคำนั้นกลับไม่สามารถทำให้นายททารผู้มีหน้าที่ทำตามคำสั่งของเจ้าเหนือหัวรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจกับถ้อยคำประชดประชันที่นางเอ่ยขึ้นได้

    ฝ่าบาทสั่งให้ข้าพาท่านมาที่นี่  ข้าก็เพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น เขากล่าว  และเมื่อได้ยินเช่นนั้นสกาฎีก็มีสีหน้าอ่อนลงในทันที  นางพยักหน้าให้นายทหารคนนั้นเบา ๆ อย่างเข้าใจ

    ข้าจะปล่อยให้ท่านพักผ่อน  ถ้าท่านต้องการอะไรได้โปรดเรียก เขาพูดเพียงเช่นนั้นก่อนจะออกจากห้องไป  และหลังจากที่นายทหารคนดังกล่าวออกไปรวมทั้งประตูบานใหญ่ได้ถูกปิดลงแล้ว  เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ซึ่งถูกทิ้งให้อยู่ภายในห้องบรรทมที่กว้างใหญ่เพียงลำพังก็เริ่มเดินสำรวจที่อยู่ใหม่ของนางในทันที

     

    …………………………………………………………………..

     

    หลังจากจัดการกับการก่อกบฏของนอร์นไฮม์เป็นครั้งที่สองได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ  อีกทั้งมันยังทำให้เขาได้นอร์นไฮม์มาอยู่ภายใต้การปกครองของเขาอีกด้วยแล้ว  โลกิก็กลับไปยังพระราชวังตามปกติเพื่อรอคอยการกลับมาของทหารที่เขาสั่งให้ไปทำภารกิจที่นอร์นไฮม์

    และหลังจากเขาเสียเวลารอคอยอยู่เกือบตลอดทั้งวัน  ก่อนเวลาอาหารเย็นประมาณหนึ่งชั่วโมงก็มีนายทหารคนสนิทของนายพลอาร์นเฮอยามารายงานกับโลกิที่กำลังอยู่ในห้องสมุดว่าภารกิจที่เขามอบหมายไปนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี  กษัตริย์ธีอาซีถูกนำตัวขึ้นมาจากหุบเหวที่พวกเขาต่อสู้กัน  เขาบาดเจ็บภายนอกแต่ไม่ถึงกับชีวิต  หลังจากถูกนำตัวไปรักษาที่ห้องโอสถแล้วเขาก็ถูกนำตัวไปขังไว้ที่คุกใต้ดิน  โดยนายทหารคนนั้นรายงานว่าเขาตัดสินใจขังธีอาซีไว้เพียงลำพังแยกกับนักโทษคนอื่น ๆ เนื่องจากสภาพร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดีรวมทั้งสถานะกษัตริย์ของธีอาซีที่ทำให้เขาสมควรจะถูกขังแยกจากนักโทษทั่วไป  ซึ่งโลกิเองก็คิดว่าเป็นการกระทำที่รอบคอบไม่น้อย  หลังจากที่เขาพยักหน้าอย่างพอใจกับสิ่งที่นายทหารคนดังกล่าวได้รายงานเขามาแล้วนั้นโลกิก็โบกมือให้ทหารนายนั้นออกไปได้

    ทันทีที่นายทหารเดินออกจากห้องสมุดไปก็มีนางกำนัลคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าเขาและสอบถามว่าเขาต้องการทานอาหารเย็นที่ไหน  ในห้องโถงใหญ่ร่วมกับสมาชิกของราชสำนักหรือในห้องของเขาเอง  หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง  โลกิก็ตอบออกไปว่าเขาต้องการทานอาหารตามลำพังในห้องส่วนตัวของเขา  โดยให้คนจัดอาหารของเขาไว้ที่นั่น  แต่เมื่อนางกำนัลรับคำสั่งและกำลังจะเดินออกไปจากห้องสมุด  ราชาแห่งแอสการ์ดก็เรียกนางไว้ก่อน

    แล้วเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ล่ะ  นางเป็นอย่างไรบ้าง เขาถามเรียบ ๆ ราวกับเขาไม่ได้สนใจเรื่องของนางเป็นพิเศษ  ขณะที่นางกำนัลผู้ถูกกษัตริย์ของตนสอบถามนั้นชะงักฝีเท้าเล็กน้อย  ก่อนที่นางจะเดินกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าโลกิอีกครั้ง  นางมีท่าทีครุ่นคิดอยู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมา

    นางอยู่ในห้องของนางตามคำสั่งของฝ่าบาทเพคะ  มีคนนำอาหารกลางวันไปให้นาง  แต่นางไม่ยอมทานเพคะ นางกำนัลคนนั้นตอบ  และเมื่อได้ยินเช่นนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นบนริมฝีปากบางของโลกิ  นี่เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์คิดจะอดอาหารประท้วงเขาอย่างนั้นหรือ  แน่นอนว่ามันไม่ได้ผลแต่อย่างใด  เขาคิดเช่นนั้นก่อนจะพูดขึ้น

    ถ้าอย่างนั้นก็ยกอาหารเย็นให้ไปนางที่ห้องตามเดิม  แต่ถ้านางไม่ยอมทานล่ะก็  ให้บอกนางว่าข้าจะมาจัดการนางด้วยตัวเองโทษฐานที่นางขัดคำสั่งข้า  อ้อ  แล้วก็จัดการเรื่องเสื้อผ้าให้นางด้วย  ให้นางเปลี่ยนมาใส่ชุดของแอสการ์ดเสีย  และเอาชุดและสิ่งของที่เป็นของนอร์นไฮม์ทิ้งไปให้หมด เขาสั่ง  ขณะที่นางกำนัลรับคำด้วยท่าทีลังเล

    เพคะ  แต่ข้าไม่แน่ใจว่านางจะยอมหรือไม่นางกำนัลพูด ฝ่าบาท  ถึงเราจะเอาของ ๆ นอร์นไฮม์ออกจากตัวนางได้  แต่ข้าเกรงว่าเราจะไม่สามารถเอาความเป็นนอร์นไฮม์ออกไปจากตัวนางได้นะเพคะนางกำนัลกล่าว  และเมื่อนางเห็นว่าเจ้าเหนือหัวของนางขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัยกับสิ่งที่นางเพิ่งรายงานไป  นางจึงพูดต่อ

    ข้าคิดว่า  เจ้าหญิงองค์นี้  นางเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณที่เข็งแกร่งทีเดียวเพคะ นางกำนัลผู้ได้รับหน้าที่ดูแลสกาฎีในตอนกลางวันกล่าว  และถึงแม้ว่าโลกิผู้ได้ฟังคำพูดนั้นของนางกำนัลจะมีท่าทีแปลกใจในสิ่งที่เขาได้รับรู้ก็ตาม  แต่เขาก็ยิ้มออกมาแทบจะในทันทีที่นางกำนัลพูดจบ

    เจ้าคิดว่าเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ เขาถาม  และเมื่อได้ยินเช่นนั้น  นางกำนัลก็ตอบออกมาอย่างไม่ลังเลเลยว่า

    เพคะ ราชาแห่งแอสการ์ดยิ้มให้กับคำตอบนั้น  ก่อนจะออกคำสั่งใหม่

    งั้นก็ดี  เจ้าไปทำตามที่ข้าสั่ง  แต่ถ้านางขัดขืนก็ไม่เป็นไร  ข้าจะเป็นคนจัดการเอง  อันที่จริงข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้าจะทำลายจิตวิญญาณของนางที่เจ้าคิดว่าแข็งแกร่งได้หรือไม่ เขากล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะสั่งให้นางกำนัลออกจากห้องไป

     

    …………………………………………………………………..

     

    หลังจากนางกำนัลออกไปทำหน้าที่ของนางเรียบร้อยแล้ว  โลกิก็กลับไปที่ห้องนอนของเขา  เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะทานอาหารเย็นเพียงลำพัง  ปกติแล้วโลกิมักจะทานอาหารร่วมกับข้าราชบริพารของเขาที่ห้องโถงใหญ่  แต่เนื่องจากวันนี้เขาต้องการความสงบเพื่อจะครุ่นคิดบางเรื่องเขาจึงต้องการที่จะทานอาหารเพียงลำพังในห้องมากกว่า 

    และเรื่องที่ราชาแห่งแอสการ์ดจำเป็นต้องครุ่นคิดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากเรื่องเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์ซึ่งเขาเพิ่งได้พบเป็นครั้งแรกในวันนี้  รวมทั้งเขายังได้ตกลงการแต่งงานระหว่างเขากับนางไปแล้วด้วย  แม้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่กระทันหันมากในการเลือกคู่ครองของเขาก็ตาม  แต่โลกิก็พบว่ามันคุ้มค่าไม่น้อยเมื่อการแต่งงานครั้งนี้จะมีสินสมรสเป็นอาณาจักรของนางที่จะมาสวามิภักดิ์ต่อเขา  แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจก็ตามว่าเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์คนนี้จะยอมอยู่ภายใต้อาณัติของเขาง่าย ๆ หรือแม้กระทั่งนางจะสร้างปัญหาให้เขาในภายหลังถ้าหากเขาแต่งงานกับนางไปหรือไม่  หรือว่าบางทีเขาอาจจะรีบร้อนตัดสินใจเกินไปในการเลือกราชินีแอสการ์ดคนต่อไป  นี่ยังไม่นับการที่นางเป็นชาวนอร์นไฮม์ซึ่งไม่ใช่เทพเฉกเช่นเขาด้วย

    แต่ถึงจะกังวลในการตัดสินใจแต่งงานซึ่งมีเหตุผลหลักมาจากการเมืองในครั้งนี้ของเขาอยู่บ้าง  แต่ในไม่ช้าโลกิก็สามารถหาทางออกสำหรับปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้ได้อย่างง่ายดาย  เมื่อเขาคิดได้ว่า  อันที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นจะต้องแต่งตั้งให้สกาฎีเป็นราชินีของแอสการ์ดในทันทีเลยก็ได้  แต่เขาสามารถกักตัวนางไว้ในฐานะคู่หมั้นของเขา  ซึ่งจะทำให้นอร์นไฮม์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา  และในตอนนี้เขาไม่ได้มีเพียงอาณาจักรของนางเท่านั้นที่เป็นตัวประกันสำหรับสกาฎี  หากแต่ชีวิตของธีอาซีซึ่งเป็นบิดาของนางก็อยู่ในกำมือของเขาด้วยเช่นกัน  โลกิจะใช้ทั้งสองสิ่งนี้บังคับให้เจ้าหญิงคนนี้ยอมศิโรราบต่อเขาอย่างที่เขาได้ทำไปแล้วในวันนี้  และเมื่อเขาแน่ใจว่านางยอมสวามิภักดิ์และมอบความจงรักภักดีให้กับเขาอย่างแท้จริงแล้ว  เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะแต่งตั้งให้นางเป็นมเหสีของเขา  เป็นราชินีแห่งแอสการ์ดเพื่อเชื่อมทั้งสองอาณาจักรเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์

     

    แล้วบิดาของนางเล่า  อย่าลืมนะว่ากษัตริย์แห่งนอร์นไฮม์ยังคงมีชีวิตอยู่

    เสียงเล็ก ๆ ในหัวนั้นเตือนเขาถึงเรื่องของธีอาซีซึ่งต่อมาอาจเป็นภัยต่อเขาได้  แต่หลังจากผ่านการขบคิดไปได้ครู่หนึ่ง  ราชาแห่งแอสการ์ดก็ได้คำตอบของการแก้ปัญหาเรื่องธีอาซี  แน่นอนว่าการมีชีวิตอยู่ของธีอาซีอาจจะเป็นภัยต่อเขาก็จริง  แต่เขาก็สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์แก่เขาได้เมื่อโลกิคิดว่า  เขาจะใช้ธีอาซีเป็นตัวประกันในการข่มขู่ให้สกาฎียอมทำตามที่เขาต้องการ  ในขณะเดียวกัน  หลังจากที่เขาแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์เพื่อเชื่อมอาณาจักรทั้งสองเข้าด้วยกันแล้ว  เขาก็จะใช้ธิดาของธีอาซีเองเป็นตัวประกันเพื่อไม่ให้บิดาของนางคิดเข็งข้อและคิดทรยศเขาเมื่อเขาปล่อยให้ธีอาซีกลับไปปกครองนอร์นไฮม์ซื่งในตอนนั้นมันก็คงอยู่ใต้อำนาจของแอสการ์ดอย่างสมบูรณ์เสียแล้ว

    เมื่อคิดหาวิธีที่จะทำให้เขาสามารถครอบครองอาณาจักรนอร์นไฮม์ไว้ได้แล้ว  โลกิก็อดยิ้มให้กับแผนการที่ช่างสมบูรณ์แบบในความคิดของเขาออกมาไม่ได้  มันเป็นแผนการที่เขาจะสามารถได้ประโยชน์ในทุก ๆ ทาง  เพราะมันทำให้เขาสามารถครอบครองนอร์นไฮม์ได้อย่างราบรื่นผ่านการแต่งงานกับเจ้าหญิงผู้มีสิทธิในบัลลังค์ของนอร์นไฮม์อย่างสกาฎี  โดยที่เขาไม่ต้องเปลืองแรงทำสงครามให้ต้องสูญเสียเลือดเนื้อเลยแม้แต่น้อย

    เมื่อถึงตอนนี้โลกิก็ค้นพบว่า  ก่อนที่แผนการครอบครองนอร์นไฮม์ของเขาจะเสร็จสมบูรณ์ได้นั้นเขาก็จะต้องเริ่มจากการครอบครองเจ้าหญิงสกาฎีผู้มีสิทธิในบัลลังค์อย่างสมบูรณ์เสียก่อน  เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องแน่ใจว่านางจะยอมศิโรราบให้แก่เขาอย่างแท้จริง  รวมทั้งนางจะยอมอยู่ใต้อำนาจของเขาและไม่สร้างปัญหาให้กับเขาในภายภาคหน้าเมื่อเขาแต่งตั้งให้นางเป็นราชินีแห่งแอสการ์ดแล้ว

    ใช่แล้ว  เขาต้องครอบครองนางเสียตั้งแต่ตอนนี้  ไม่ใช่หลังจากที่พวกเขาเข้าพิธีอภิเษกกันแล้ว  แต่เขาจะต้องครอบครองนางรวมทั้งปราบพยศนางให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน  ราชาแห่งแอสการ์ดคิดเช่นนั้น

    และเป็นเพราะความคิดดังกล่าวนี้เองที่ทำให้โลกิหวนนึกไปถึงใบหน้าของเจ้าหญิงคนงามแห่งนอร์นไฮม์  เขานึกไปถึงดวงหน้างามซึ่งรับกับดวงตาสีฟ้าที่มีน้ำตาคลอเอ่อของนางยามที่นางตกลงแต่งงานกับเขา  ชายหนุ่มนึกไปถึงริมฝีปากอิ่มของนางที่เขาเคยได้สัมผัสแค่จากนิ้วโป้งของเขาเท่านั้น  ทำให้เขานึกสงสัยว่าริมฝีปากสีกุหลาบของนางนั้นจะนุ่มนวลเพียงใดหากเขาสัมผัสมันด้วยริมฝีปากของเขา  และผิวพรรณผุดผ่องของนางจะเนียนนุ่มเพียงใดหากเขาสัมผัสมันด้วยมือของเขา  และมันจะรู้สึกเช่นไรเมื่อเขาได้ครอบครองเจ้าหญิงคนงามแห่งนอร์นไฮม์หลังจากที่เขาได้มีชัยเหนืออาณาจักรของนางมาแล้ว

    แต่ถึงกระแสความคิดของราชาแห่งแอสการ์ดจะก่อให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมากเพียงใดก็ตาม  เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่มีวันที่จะล่วงรู้ถึงคำตอบของข้อสงสัยเหล่านั้นได้เลยหากเขาไม่ลงมือค้นหามันด้วยตัวเอง  ใช่แล้ว  เขาจำเป็นต้องค้นหามันด้วยตัวของเขาเอง  เขาจำเป็นต้องครอบครองเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์เพื่อที่จะทำให้นางยอมศิโรราบต่อเขาแต่โดยดี  แม้ว่าในส่วนลึก ๆ โลกิจะรู้ดีว่าความต้องการของเขาที่จะครอบครองสกาฎีในตอนนี้นั้น  ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากความปรารถนาของเขาที่มีต่อนางรวมอยู่ด้วยก็ตาม  เพราะในตอนนี้โลกิไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเขาปรารถนาที่จะครอบครองเรือนร่างงดงามของเจ้าหญิงองค์นี้พอ ๆ กับที่เขาปรารถนาที่จะครอบครองอาณาจักรของนาง  หากแต่ดูเหมือนว่าการกระทำตามความปรารถนาทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องการเมืองของราชาแห่งแอสการ์ดในครั้งนี้ล้วนแต่จะนำผลประโยชน์มาให้แก่เขาและแอสการ์ดอย่างมหาศาล  เพราะหลังจากที่เขาได้ครอบครองเจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์แล้ว  หลังจากที่เขาสามารถทำให้นางมาเป็นของเขาและทำให้นางยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาได้แล้ว  นอร์นไฮม์ก็จะต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาเช่นเดียวกับนาง

    และเมื่อได้ข้อสรุปของแผนการที่สามารถนำประโยชน์มาให้เขาได้ในทุก ๆ ทางแล้ว  โลกิก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของเขาไป  ราชาแห่งแอสการ์ดมุ่งหน้าไปยังห้องที่เจ้าหญิงแห่งนอร์นไฮม์พักอยู่อีกฝั่งหนึ่งของพระราชวัง  เพื่อไปครอบครองในสิ่งที่เป็นของเขา

     

     

     

    ************************************************************

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×