ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    ลำดับตอนที่ #11 : คำโกหกของเฮอร์ไมโอนี่

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 48


    ***Chapter 11 คำโกหกของเฮอร์ไมโอนี่***



    แฮร์รี่และรอนยืนมองภาพของเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง  

    เฮอร์ไมโอนี่นั้นผลักมัลฟอยออกอย่างรวดเร็ว  พอ ๆ กับที่รอนถลาเข้ามาหาพวกเขา

    “แก!” รอนร้อง  พุ่งเข้ามาหามัลฟอย  กำหมัดแน่น  แต่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ห้ามเขาไว้ก่อน

    “อย่ารอน!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  รอนหันมามองเธออย่างไม่เข้าใจ

    “เธอห้ามฉันทำไมเฮอร์ไมโอนี่” ร้องตะโกน “ก็ในเมื่อไอ้เจ้านี่มันกำลัง...........” เขาดูเหมือนจะพูดไม่ออกเสียเฉย ๆ แฮร์รี่เองก็เช่นกัน  เขามองภาพตรงหน้าอย่างไม่รู้ดีว่าจะทำอย่างไรต่อไป

    “แกคิดว่าฉันทำอะไรยัยนี่หรือวีสลีย์” มัลฟอยถามเสียงเรียบ  รอนดูโมโหมากกว่าเดิม  เขาดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเหนี่ยวรั้งของเพื่อนทั้งสอง

    “แก.......แกก็รู้” รอนคำราม  หน้าเป็นสีแดงทั้งหน้า แต่มัลฟอยกลับกำลังหัวเราะหึ ๆ

    “ไม่กล้าพูดอย่างนั้นหรือวีสลีย์  ว่าแกเห็นอะไร” มัลฟอยว่า  รอนหน้าแดงไปถึงหู  เขาดิ้นรนมากกว่าเดิม

    “แกคงรับไม่ได้สินะที่เห็นฉันทำอย่างนี้กับเพื่อนแกน่ะ” เขาพูดอย่างไม่คำนึงถึงสถานะภาพของตัวเอง  เมื่อได้ยินเช่นนั้นแฮร์รี่ไม่ได้รั้งตัวรอนไว้อีกแล้ว  แต่เด็กหนุ่มกลับหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขามาชี้ไว้ที่มัลฟอยแทน

    “แกทำอะไรเธอมัลฟอย” แฮร์รี่พูดเสียงเข้ม  

    “ก็ทำอย่างที่แกเห็นนั่นแหละพอตตี้” มัลฟอยตอบอย่างอารมณ์ดี เฮอร์ไมโอนี่ภาวนาขอให้เขาอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้อีกเลย  

    “ถ้าอยากรู้ก็ถามเกรนเจอร์เอาเองสิ” มัลฟอยพูด  แฮร์รี่และรอนหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่อย่างพร้อมเพรียงกัน  

    “ว่ายังไงเฮอร์ไมโอนี่ เจ้านี่มันทำอะไรเธอ” แฮร์รี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  เธออยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เสียจริง ๆ เลย

    “ตอบมาสิเฮอร์ไมโอนี่” รอนร้อง  ดูเหมือนว่าลิ้นของเธอจะพันกันขึ้นมาเฉย ๆ เด็กสาวได้แต่อึกอัก  

    “ทำไมไม่บอกพวกมันไปล่ะเกรนเจอร์  ว่าฉันจูบได้ร้อนแรงแค่ไหน” เสียงของมัลฟอยดังขึ้น

    แฮร์รี่และรอนหันไปมองเขาทันที  สีหน้าของพวกเขาดูตกใจมาก  แต่ไม่เท่าเฮอร์ไมโอนี่ที่จวนเจียนจะเป็นลมอยู่แล้ว

    “มันทำอย่างนั้นกับเธอจริง ๆ หรือ” รอนคาดคั้นเธอด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน  เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีกระอักกระอ่วน  เธอไม่กล้ามองหน้าเพื่อนทั้งสอง

    เด็กสาวไม่เข้าใจทำไมมัลฟอยต้องพูดเรื่องพวกออกมานี้ด้วย

    เธออ้าปากจะพูด  แต่แล้วเด็กสาวก็สะอื้นออกมาเบา ๆ เมื่อรอนเห็นภาพตรงหน้าความโกรธของเขาก็พุ่งขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ  เด็กหนุ่มตรงไปที่มัลฟอย  เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้นและเริ่มร่ายคาถา

    .................................................

    ผ้าม่านคลุมเตียงถูกเลิกขึ้นอีกครั้ง  มาดามพรอมฟรีย์ยืนอยู่ตรงนั้น  มองภาพตรงหน้าของเธอด้วยความตกใจ

    “พวกเธอจะทำอะไรกันน่ะ” เธอร้องเสียงแหลม  มองไปที่รอนที่กำลังจะสาปมัลฟอยให้เป็นกบ  เขาลดไม้กายสิทธิ์ในมือลงทันที  

    “ฉันต้องบอกพวกเธอกี่ครั้งกันนะว่าที่นี่เป็นห้องพยาบาล  ไม่ใช่สนามรบหรือลานท้าประลอง” เธอพูดอย่างโกรธเกรี้ยว  ก่อนที่จะกราดสายตาไปทางมัลฟอย

    “เธอก็ด้วยมิสเตอร์มัลฟอย  เธอจะอยู่นิ่ง ๆ สักหน่อยไม่ได้เลยใช่ไหม  ไหนเอาแขนของเธอมาให้ฉันตรวจดูสิ” มาดามพรอมฟรีย์พูดพร้อมกับยกแขนที่มีผ้าพันแผลพันทั้งสองข้างของมัลฟอยขึ้นมาสำรวจ  เด็กหนุ่มทำหน้าเหยเก

    “แล้วพวกเธอก็ด้วย” เธอปรายสายตาดุ ๆ มามองเด็กทั้งสาม

    “ฉันต้องให้พวกเธอออกไปก่อน  และอย่าคิดจะมารบกวนมิสเตอร์มัลฟอยอีก  ออกไปเสียสิ!”

    .................................................

    หลังจากที่เด็กทั้งสามถูกเตะโด่งออกมาจากห้องพยาบาล  พวกเขาก็เดินไปตามทางเดินด้วยความหงุดหงิด  โดยเฉพาะรอนซึ่งเสียดายเหลือเกินที่ไม่ได้สาปมัลฟอยก่อนที่มาดามพรอมฟรีย์จะมาถึง  เขาพึมพำอย่างเคียดแค้นและเหวี่ยงกำปั้นชกอากาศไปตลอดทาง  จนในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงบริเวณระเบียงที่ไม่มีคน  แฮร์รี่ดึงรอนและเฮอร์ไมโอนี่มาคุยทันที

    “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่กระซิบ  เพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน  เด็กสาวกัดริมฝีปาก

    “ใช่  เฮอร์ไมโอนี่  ที่เจ้านั่นพูดมันเป็นความจริงหรือ” รอนพูดขึ้นมาบ้าง  เด็กสาวมีท่าทีลำบากใจที่ถูกเพื่อนทั้งสองคาดคั้น  แต่เธอคงจะไม่ตอบอะไรเลยก็ไม่ได้

    “เจ้าซีดนั่นมันจูบเธอจริง ๆ น่ะหรือ” รอนถามเสียงดังจนแฮร์รี่ต้องหันมาปราม

    “ฉันไม่ได้จูบเขารอน  ฉันไม่ได้จูบกับมัลฟอย” เธอตอบอย่างหนักแน่น  แม้ว่าจะเป็นการโกหกก็ตาม

    “แต่ที่พวกเราเห็นล่ะ” แฮร์รี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก

    “เขากำลังจะทำอย่างนั้น” เฮอร์ไมโอนี่สารภาพ  เธอได้ยินเสียงรอนกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น  แฮร์รี่เองก็ดูตกใจไม่น้อย  เฮอร์ไมโอนี่รีบอธิบายต่อ “เขาต้องการแก้แค้นฉัน  เธอก็รู้  เรื่องมือของเขาน่ะ”

    “มันเป็นการแก้แค้นที่สกปรกที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา” แฮร์รี่คำราม  เขาเองก็ดูโกรธมากเช่นเดียวกับรอน

    “ใช่  มันสกปรก  แต่เธออย่าลืมสิว่าเขาคือมัลฟอย  มัลฟอยมักจะนิยมชมชอบวิธีสกปรกเสมอล่ะ” เธอพูด  

    “แล้วมันไม่ได้ทำอะไรเธอมากไปกว่านั้นใช่ไหม” รอนถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

    “ไม่มีเลย  พวกเธอเข้ามาพอดี  ก่อนที่เขาจะ.........” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “นั่นแหละ”

    “แต่มัลฟอยพูดเหมือนกับว่า  เธอเคยจูบกับมัน” แฮร์รี่นึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมา  เฮอร์ไมโอนี่อ้ำอึ้ง

    “เธอก็รู้จักมัลฟอยนี่” เด็กสาวพูดอย่างรวดเร็ว “เขาต้องการแก้แค้นฉัน  ต้องการทำให้ฉันเสียศักดิ์ศรี  อะไรทำนองนั้นแหละ  เขาถึงได้พูดเรื่องไม่จริงออกมาไง” เธออธิบายยาวยืด  แฮร์รี่กับรอนพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    “มัลฟอยคงแค้นเธอมากนะ  ฉันไม่นึกว่าเลยเขาจะใช้วิธีนี้มาเล่นงานเธอ” แฮร์รี่พูด เขานึกไม่ถึงจริง ๆ ว่ามัลฟอยที่ขึ้นชื่อว่ารังเกียจเลือดสีโคลนอย่างกับอะไรดี  จะยอมลดตัวมาทำเรื่องอย่างนี้กับเฮอร์ไมโอนี่เพื่อต้องการแก้แค้น

    แต่อย่างที่เฮอร์ไมโอนี่พูดนั่นแหละ  มัลฟอยทำทุกอย่างที่ชั่วร้ายได้เสมอ

    “งั้นต่อไปนี้เธอคงต้องระวังตัวมาก ๆ แล้วแหละ  เฮอร์ไมโอนี่” รอนว่า

    “ทางที่ดีเธออย่าอยู่ห่างพวกเราเลยดีกว่านะ  เผื่อว่ามัลฟอยจะจ้องเล่นงานเธออีก”  เด็กหนุ่มพูดอย่างเป็นห่วง  เขามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ  เด็กสาวยิ้มรับ  

    “ขอบใจเธอนะรอน” เธอพูด “ขอบใจพวกเธอมากนะ”

    “ฉันคิดว่าเราน่าจะหาวันนัดประชุมก.ด.กันอีกครั้งหนึ่งนะ  เผื่อว่าฉันจะได้สอนคาถาป้องกันตัวดี ๆ แก่เธอสักบท” แฮร์รี่ออกความเห็น



    *************************************************



    สองสามวันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ห้องพยาบาล  แขนของมัลฟอยก็หายเป็นปรกติ  เขาเอาผ้าพันแผลออกและเฮอร์ไมโอนี่ก็สังเกตเห็นว่ามันกลับมามีเนื้อหนังอย่างเดิมแล้ว  หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา  เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็แทบจะไม่ได้พบกันตามลำพังเลยสักครั้ง  เพราะทุก ๆ ที่ที่เธอไปจะมีแฮร์รี่และรอนขนาบข้างอยู่ราวกับองค์รักษ์ก็ไม่ปาน  เพื่อนรักทั้งสองของเธอต่างเห็นต้องกันว่าพวกเขาจะไม่มีวันยอมให้มัลฟอยมาทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่อีกเป็นอันขาด  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ดีใจที่พวกเขาเข้าใจว่ามัลฟอยพยายามจะใช้สารพัดวิธีเพื่อเล่นงานเธอ  โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้นล้วนเป็นไปด้วยความเต็มใจของเธอเอง

    เมื่อนึกถึงตรงนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกสับสน  เธอคิดไม่ออกจริง ๆ เลยว่าทำไมเธอถึงยอมให้มัลฟอยจูบเธอโดยดี  ความจริงเธอสมควรจะขัดขืนเขาอย่างที่เธอเคยทำ  หรือไม่ก็ร้องตะโกนให้คนอื่นมาช่วยก็ได้นี่  

    และทำไมเธอถึงไม่ทำเช่นนั้นล่ะ.................?

    ‘ บอกตามตรง  ฉันไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้นเธอนะ  แล้วฉันก็ไม่คิดจะแก้แค้นเธอแล้วด้วย ’

    เสียงของมัลฟอยในวันนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวละสายตาจากการบ้านวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ตรงหน้า

    ถ้านายไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้นแล้วนายทำเพื่ออะไรกันมัลฟอย  

    เฮอร์ไมโอนี่รำพันกับตัวเอง  ภาพของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ผุดขึ้นในหัวสมองของเธออีกครั้ง  เธอนึกถึงแผ่นอกเปลือยเปล่าที่เธอได้เห็นในวันนั้น  แววตาสีซีดที่ดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง  ริมฝีปากเรียวบางของเขา  ลมหายใจของเขา  คำพูดของเขา......................................

    เฮอร์ไมโอนี่ปิดหนังสือตรงหน้าอย่างเหม่อลอย  ครุกแชงค์ที่นอนอยู่บนตักสะดุ้งตื่นขึ้นมาและส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจ  

    คงไม่ได้หมายความว่าเขาจะเกิดหลงเสน่ห์เธอขึ้นมาหรอกนะ

    เด็กสาวคิดอย่างกลัว ๆ แต่มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือที่ยาเสน่ห์จะออกฤทธิ์กับเขา  แม้ว่าเธอและเขาจะเป็นศัตรูคู่แค้นกันก็ตาม  เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด  เด็กสาวเม้มริมฝีปากจนมันบางเฉียบ

    เธอนึกถึงท่าทีของเด็กหนุ่มในวันนั้น  ซึ่งแตกต่างกับทุกครั้งที่เขาเคยปฏิบัติกับเธอ  มัลฟอยไม่มีท่าทีแข็งกระด้างและทำท่ารังเกียจเธออย่างเดิมเลย  เขาดูอ่อนโยนจนน่าตกใจ

    และที่เขาเป็นเช่นนั้นก็หลังจากที่เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ขวดนั้นไป!

    เด็กสาวคิดอย่างตกใจ  แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่มัลฟอยจะมา  หลงรักเธอ    

    ไม่มีทางหรอก  เฮอร์ไมโอนีครุ่นคิด  เขาไม่มีทางที่จะมาหลงเสน่ห์เธอเด็ดขาด  

    และเธอก็จะไม่มีวันมองเขาเป็นอย่างอื่นนอกเสียจากศัตรูของเธอ  เด็กสาวคิดอย่างหนักแน่น

    โดยเธอหารู้ไม่ว่า  เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิดเลย

    .................................................

    ผ่านไปหลายวัน  การประชุมก.ด.เริ่มขึ้นอีกครั้ง ณ ห้องต้องประสงค์  สมาชิกทุกคนต่างมีฝีมือก้าวหน้าขึ้นมาก  แฮร์รี่เดินดูพวกเขาซ้อมไปรอบ ๆ ห้องอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าพวกเขาพัฒนาไปได้มากแค่ไหนแล้ว  

    “เธอต้องถือไม้อย่างนี้นะ  เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดพลางสาธิตวิธีตั้งรับคู่ต่อสู้ให้เด็กสาว  เฮอร์ไมโอนี่พยายามทำตาม  “เสกคาถาเข้าไปตรง ๆ ที่ตัวศัตรูนะ  บริเวณหน้าอกน่ะดีที่สุด  เข้าใจไหม” เธอพยักหน้ารับ  แฮร์รี่กำลังจะเดินผ่านเธอไปเพื่อไปดูคนอื่น  เขาก้มลงกระซิบเฮอร์ไมโอนี่เบา ๆ

    “ฝึกเอาไว้รับมือมัลฟอยนะ” เขาว่า  ก่อนที่จะเดินไปดูคาถาทลายด่านของรอน  โชมองเขามาจากอีกมุมหนึ่งของห้องด้วยสายตาเย็นชา

    [ ขออ้างอิงจากเล่ม 5 หน่อยนะคะ ]

    แต่จู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดขึ้น  เอล์ฟประจำบ้านชื่อด็อบบี้โผล่พรวดเข้ามาด้วยท่าทีตกใจสุดขีด  ทุกสายตาในห้องต่างหยุดมองที่มัน  แฮร์รี่เดินเข้าไปหาด็อบบี้

    “แฮร์รี่  พอตเตอร์  เธอกำลังมา!” ด็อบบี้กระหืดกระหอบ  มันพยายามต่อสู้เพื่อห้ามไม่ได้ตัวเองเอาหัวโขกผนังห้อง

    “ใครกำลังมาด็อบบี้” แฮร์รี่ถามอย่างสงสัย

    “ด็อบบี้บอกไม่ได้  เธอกำลังมา  แฮร์รี่  พอตเตอร์   เธอกำลังมาที่นี่”  ด็อบบี้พูดเสียงสั่น  มันมีท่าทีหวาดกลัวมาก

    “ศาสตราจารย์อัมบริดจ์ใช่ไหม” แฮร์รี่พูดเสียงแผ่ว  ด็อบบี้พยักหน้าช้า ๆ ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ  หากแต่ทุกใบหน้านั้นฉายแววหวาดกลัว

    “พวกนายจะรออะไรกันอยู่อีกล่ะ หนีเร็วเข้า!” แฮร์รี่ตะโกน  สมาชิกก.ด.ต่างแตกฮือไปและรีบวิ่งออกจากห้องต้องประสงค์อย่างเร็วที่สุด  แต่โชคร้ายที่มีหลายคนถูกจับได้โดยฝีมือนักเรียนบ้านสลิธีรินที่ทำงานให้อัมบริดจ์

    เฮอร์ไมโอนี่ถูกมิลลิเซ็นต์  บัลสโตรด  เด็กสาวร่างใหญ่ปีเดียวกับเธอจับได้ขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปซ่อนในห้องเรียนเก่า ๆ ห้องหนึ่ง  มิลลิเซ็นต์ดูพอใจมาก

    “แพนซี่มานี่สิ  ดูสิว่าฉันจับใครได้” มิลลิเซ็นต์พูดเสียงแหบห้าว  แพนซี่เดินมาทางพวกเธอ  รอยยิ้มฉายแววดีใจประดับอยู่บนใบหน้าหงิกงอ

    “โอ๊ะ  โอ๊ นี่เป็นข่าวดีทีเดียวล่ะ มิลลีเซ็นต์” แพนซี่พูดอย่างพอใจ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรนแต่มิลลิเซ็นต์ตัวใหญ่กว่าเธอมากนัก

    “ไหนดูซิ  มิสเกรนเจอร์  นักเรียนที่มีผลการเรียนเป็นที่หนึ่งของชั้นปีที่ห้าถูกไล่ออกเพราะว่าเข้าร่วมชมรมผิดกฏหมาย” แพนซี่ดัดเสียงเลียนแบบเสียงหวาน่ารังเกียจของอัมบริดจ์อย่างอารมณ์ดี  เฮอร์ไมโอนี่มองเธออย่างเคียดแค้น  ในใจภาวนาขอให้เพื่อน ๆ ของเธอรอดไปได้

    “แล้วเธอจับใครได้บ้างแพนซี่” มิลลิเซ็นต์ถาม  มืออวบหนาของเธอล็อคแขนสองข้างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น

    “ฉันไม่จำเป็นต้องจับใครอีกแล้วล่ะ  เพราะว่าฉันมีรายชื่อพวกมันอยู่ในมือแล้ว” เธอว่า  โบกแผ่นกระดาษที่มีลายเซ็นต์ของสมาชิกทุกคนในก.ด.ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่ หัวใจของเด็กสาวหล่นไปถึงตาตุ่ม

    นี่เธอกำลังจะทำให้คนอื่นที่เหลือโดนไล่ออกจนหมด!

    “งั้นเราไปพบศาสตราจารย์อัมบริดจ์กัน  อาจารย์ต้องชอบใจแน่ ๆ ถ้าได้เห็นมัน” มิลลิเซ็นต์แนะ  แต่แพนซี่กลับไม่ยอมทำตาม  สายตาของเธอจับจ้องอยู่เฮอร์ไมโอนี่อย่างนึกสนุก

    “ยัง  มิลลิเซ็นต์  ฉันว่าเราควรจะหาอะไรสนุก ๆ ทำกันก่อนดีกว่า” เธอพูด “อย่างเช่นสาปเกรนเจอร์ให้กลายเป็นตัวนิฟเฟลอร์น่าเกลียดแล้วค่อยส่งให้อาจารย์” แพนซี่ออกความเห็น  มิลลิเซ็นต์เห็นดีเห็นงามด้วย  เธอจับเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น  เพื่อที่แพนซี่จะได้ร่ายคาถา  แพนซี่ล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม  เธอชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เฮอร์ไมโอนี่และ.......................



    *************************************************



    “พวกเธอกำลังทำอะไรกันน่ะ” เสียงยานคางดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของมัลฟอยจากทางเดินด้านหลังแพนซี่

    “มัลฟอย” แพนซี่และมิลลิเซ็นต์พึมพำพร้อมกับ  มือใหญ่เกินหญิงของมิลลิเซ็นต์เลื่อนมาปิดปากของเฮอร์ไมโอนี่จนมิด  มัลฟอยมองภาพตรงหน้าอย่างสงสัย

    “เอ่อ.......” แพนซี่อึกอัก “ฉันแค่อยากจะหาอะไรสนุก ๆ เล่นนิดหน่อยน่ะ”

    “เรากำลังจะสาปยัยนี่ให้เป็นตัวนิฟเฟลอร์  เธอว่าดีไหมมัลฟอย” มิลลิเซ็นต์โพล่งออกมา  จนแพนซี่ต้องส่งสายตาขุ่นเขียวไปปรามเธอ

    “อ้อ” มัลฟอยพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เธอสองคนมีเวลามาเล่นสนุกกัน  ทั้ง ๆ ที่พวกเราคนอื่นวิ่งพล่านจับเจ้าพวกนี้กันจนเหนื่อยแทบตายงั้นหรือ” มัลฟอยพูด  เขาเสยผมบลอนด์ชุ่มเหงื่อออกจากหน้าผาก  แพนซี่หน้าเจื่อนลงเล็กน้อย  แต่เธอก็บังคับสีหน้าให้เป็นปรกติได้อย่างรวดเร็ว

    “ฉันขอโทษมัลฟอย  ฉันไม่รู้นี่ว่าพวกเธอต้องวิ่งไปจนทั่ว” เธอพูดเสียงหวานพร้อมกับยิ้มให้เขา  มัลฟอยกรอกตาอย่างรำคาญ “แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ  เพราะว่าฉันมีรายชื่อพวกมันหมดแล้ว  พวกมันทุกคนเลยล่ะ” เธอส่งกระดาษในมือมาให้เขา  มัลฟอยรับมันไปอ่านอย่างพิจารณา  เขาเหลือบมามองเฮอร์ไมโอนี่แวบหนี่ง  มือของเขากำกระดาษไว้แน่น  

    “แล้วทำไมเธอไม่เอาของที่เป็นปะโยชน์อย่างนี้ไปให้ศาสตราจารย์อัมบริดจ์กันล่ะ  เธอก็รู้ว่าอาจารย์ต้องใช้มัน” มัลฟอยพูดเสียงเรียบ  มิลลิเซ็นต์กระซิบกับแพนซี่ ‘ ฉันบอกเธอแล้ว ’

    “แทนที่พวกเธอจะทำอย่างที่ฉันบอก  แต่พวกเธอกลับคิดจะมาเล่นสนุกกันแทน” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน  เป็นครั้งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นเขาใช้น้ำเสียงแบบนี้กับพวกเดียวกัน  แพนซี่และมิลลิเซ็นต์สะดุ้งเล็กน้อย

    “พวกเราไม่ได้ตั้งใจ” แพนซี่พูดเสียงอ่อน  “พวกเราเพียงแค่...........”

    “พอแล้ว” มัลฟอยห้ามด้วยท่าทีรำคาญ “พวกเธอเอากระดาษนี่ไปให้ศาสตราจารย์อัมบริดจ์เถอะ”  เขาพูด  คืนกระดาษในมือให้แพนซี่

    “แล้วเธอก็ปล่อยยัยนั่นด้วย  มิลลิเซ็นต์  เธออยากให้มีอาจารย์คนอื่นมาเห็นเธอทำร้ายนักเรียนบ้านอื่นหรือไง”  มัลฟอยพูด  มิลลิเซ็นต์ยอมปล่อยเฮอร์ไมโอนี่แต่โดยดี  แม้จะไม่เต็มใจนักก็ตาม

    “แล้วเธอล่ะมัลฟอย  เธอจะไม่ไปกับพวกเราหรือ” แพนซี่ถาม

    “ไม่ล่ะ  ฉันจะลองหาดูอีกทีว่ามีเจ้าพวกนั้นหลงเหลืออยู่บ้างไหม” มัลฟอยว่า  แพนซี่มองเขาอย่างแปลกใจ  แต่เธอก็ไม่กล้าโต้เถียงอะไร  เด็กสาวหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่

    \"งั้นแกก็มานี่ยัยเลือดสีโคลน\" แพนซี่พูด  ชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เฮอร์ไมโอนี่

    \"เกรนเจอร์จะต้องอยู่ที่นี่\" มัลฟอยพูด  แพนซี่มองหน้าเขาทันที

    \"มัลฟอย.......\"

    \"เธอก็ได้รายชื่อในมือไปแล้วไม่ใช่หรือ  ยังจะจำเป็นต้องเอายัยนี่ไปอีกรึไง\" เขาพูด

    \"แต่.....\" แพนซี่อึกอัก  มิลลิเซ็นต์เองก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไมมัลฟอยถึงได้คิดเช่นนั้น

    \"บางทีเกรนเจอร์อาจจะบอกฉันได้ว่ายังมีพรรคพวกของเธอหลบอยู่ตรงไหนบ้าง\" มัลฟอยพูดต่อไปโดยไม่ใส่ใจท่าทีของแพนซี่  เด็กสาวพยายามจะอ้าปากเถียง  แต่มัลฟอยกลับชิงพูดเสียก่อน

    \"พวกเธอจะรอถึงพรุ่งนี้หรือไง\" เขาว่า  แพนซี่กับมิลลิเซ็นต์ยอมเดินไปโดยดี  เมื่อแน่ใจว่าร่างทั้งสองไปไกลลับตาแล้ว  มัลฟอยก็หันมาทางเฮอร์ไมโอนี่  เขาคว้ามือเธอไว้

    \"มานี่เกรนเจอร์!\"



    *************************************************



    ช่วยกานเม้นด้วยเน้อ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×