ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ป่วย
ตอนที่ 11 ป่วย
ขณะที่แฮร์รี่พาเฮอร์ไมโอนี่ไปห้องพยาบาล  เป็นเวลาที่นักเรียนส่วนใหญ่ลงมากินอาหารกัน  เพราะฉะนั้นจึงมีคนจำนวนมากจึงเห็นแฮร์รี่อุ้มเฮอร์ไมโอนี่ที่สวมชุดนอนไปอย่างเร่งรีบ 
ซึ่งรวมถึงแครบและกอยล์ด้วย
เมื่อพวกเขามาถึงห้องพยาบาล  แฮร์รี่วางเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเตียง  ดูท่าทางเธอจะไม่ได้สติเหมือนกับว่าสะลึมสะลืออยู่  และเธอก็ละเมอออกมาเบา ๆ แต่แฮร์รี่ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร
พวกรอนตามมาดามพรอมฟรีย์มา
“เกรนเจอร์เป็นอะไร  พวกเธอถอยไปก่อน  ฉันจะรักษาให้”
พวกเขาออกมายืนด้านหลังม่านแฮร์รี่ยืนรออย่างเป็นห่วง  และสักพักมาดามพรอมฟรีย์ก็เดินออกมา  “ไข้หวัดใหญ่น่ะ”  เธอกล่าวทำให้พวกเขาโล่งใจกันถ้วนหน้า  โดยเฉพาะแฮร์รี่
“แต่ทำไมเฮอร์ไมโอนี่ถึงไม่รู้สึกตัวเลยล่ะครับ”  แฮร์รี่ถาม
“ร่างกายเธออ่อนแออยู่ก่อนแล้วพอตเตอร์”  มาดามพรอมฟรีย์ตอบ  “เมื่อมาเจออากาศเย็น ๆ ก็อาจทำให้เธอมีโอกาสป่วยได้ง่าย ๆ ”
“แต่ทำไมคนอื่นไม่เห็นเป็นเลยล่ะ”  รอนถามอย่างสงสัย  “ช่วงนี้อากาศก็ไม่ได้เย็นมากนี่ครับ  ถ้าไม่ใช่ตอนกลางคืน”
“เอ่อ  อาจจะเป็นเพราะว่าเฮอร์ไมโอนี่เขาไม่ได้นอนในห้องก็ได้”  ลาเวนเดอร์พูด
“เธอหมายความว่าไงน่ะ  ลาเวนเดอร์”  แฮร์รี่ถาม
“ก็เฮอร์ไมโอนี่เขาบอกว่า  เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ  ก็เลยออกไปที่ห้องนั่งเล่นรวม  แล้วก็เผลอหลับไป” 
“นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มิสเกรนเจอร์ไม่สบาย  นอกจากนี้  ความเครียด  การหักโหมทำงาน  หรือการนอนหลับไม่เพียงพอก็อาจทำให้ป่วยได้”  มาดามพรอมฟรีย์อธิบาย
“ฉันให้ยาเธอไปแล้ว  อีกสักพักคงฟื้น  ถ้าถึงตอนนั้นพวกเธอเรียกฉันก็แล้วกัน”  และมาดามพรอมฟรีย์ก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ
ทุกคนต่างเข้าไปดูเฮอร์ไมโอนี่ที่หลับอยู่บนเตียง  หน้าของเธอเมื่อครู่ที่เป็นสีแดงจัดเพราะพิษไข้ได้หายไปแล้ว  แต่ก็ไม่ปรากฏสีชมพูแต่อย่างใด  มันดูขาวซีดกว่าที่เคยเป็น
แฮร์รี่นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เตียง  และกุมมือเธอไว้ 
“ไข้ลดแล้วสินะ”  เขาพึมพำเมื่อเอามืออีกข้างแตะหน้าผากของเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่เป็นยังไงบ้างแฮร์รี่”  ปาราวตีถามเธอยืนอยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่
“ฉันว่าไข้คงลดแล้วแหละ”  เขาตอบและจ้องมองเธอด้วยแววตาเป็นห่วง
“งั้นพวกเรากลับหอนอนก่อนนะแฮร์รี่”  ปาราวตีพูด  ทั้งเธอและลาเวนเดอร์ยังสวมชุดนอนอยู่
“แล้วฉันจะมาเยี่ยมใหม่นะเฮอร์ไมโอนี่” เธอพูดแล้วก็เดินออกจากห้องพยาบาลไป
“นายล่ะแฮร์รี่  ไม่ไปกินข้าวเช้าเหรอ”  รอนถามพลางลูบท้องที่กำลังร้องครวญครางอยู่
“ถ้านายหิวก็ไปเถอะ  ฉันจะอยู่เฝ้าเฮอร์ไมโอนี่เอง” แฮร์รี่พูดมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาห่วงใย
“งั้นฉันไปนะ”  รอนบอก  “อืม  ไปเถอะ”
หลังจากทุกคนทานมื้อเช้าเสร็จแล้วก็ต่างแยกย้ายไปที่ต่าง ๆ ได้ตามใจ  เพราะว่าไม่มีเรียน  แต่เด็กปี 5 ส่วนใหญ่มักจะกลับห้องนั่งเล่นรวมหรือไม่ก็ไปห้องสมุดหลังทานข้าว  สาเหตุก็มาจากการบ้านที่มากซะจนแทบจะกองท่วมหัวท่วมหูของพวกเขา
ในห้องนั่งเล่นรวมสลิธีริน  แครบและกอยล์กำลังนั่งปั่นรายงานวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์อย่างเร่งรีบ  เพราะว่าเส้นตายของมันคือวันพรุ่งนี้  ( ศ.บินให้เวลาทำงานชิ้นนี้ 1 อาทิตย์ )  แต่พวกเขาเพิ่งเริ่มทำมันเมื่อตอนเช้านี้เอง
“นายไม่ทำเหรอมัลฟอย”  แครบสงสัยกับอาการไม่ทุกข์ไม่ร้อน (แต่เหม่อ) ของมัลฟอย
“ของฉันเสร็จแล้ว”  มัลฟอยตอบเนือย ๆ ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาสนใจแต่อย่างใด
“เสร็จแล้ว!”  แครบและกอยล์ร้องขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันยังไม่เห็นนายเอาขึ้นมาทำเลย”  กอยล์ถามขณะที่มือจับปากกาขนนกอยู่
“แล้วฉันจำเป็นต้องทำต่อหน้าแกรึไงหา!!!”  มัลฟอยคำราม  กอยล์สะดุ้งโหยงจนปากกาขนนกหลุดจากมือ 
“นี่นายทำตัวเป็นคนขยันเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะมัลฟอย  นายจะเอาอย่างยัยเกรนเจอร์นั่นหรืองัย”  แครบพูดยิ้ม ๆ แต่เมื่อเห็นสายที่มัลฟอย มองเขาแครบก็ถึงกับยิ้มไม่ออกเลย
“เออนี่มัลฟอยนายรู้เรื่องยัยเกรนเจอร์นั่นรึยัง”  กอยล์ถามเสียงหวาด ๆ เพราะกลัวมัลฟอยจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีก 
“เกรนเจอร์ทำไม!!!”  มัลฟอยเอ่ยเสียงดัง  แววตาที่เหม่อลอยของเขาบัดนี้มันจับจ้องที่  แครบและกอยล์อย่างสนอกสนใจ  “ไหนว่ามาซิ”
“ก็เมื่อเช้าตอนพวกเรากำลังเดินไปกินอาหาร  ตอนที่เราลงตามนายมาน่ะ  พวกเราเห็น”  แครบหยุดเล่าหันมามองหน้ากอยล์
“เห็นอะไร!”  มัลฟอยตวาด
“ก็เห็นไอ้เจ้าพอตเตอร์มันอุ้มยายเลือดสีโคลนนั่นมานั่นสิ  ฉันได้ยินมาว่ามันไม่สบายหนัก  ไอ้พวกนั้นมันเลยพาไปส่งห้องพยาบาล”  กอยล์พูดจบก็ยิ้มอย่างสะใจ
“แล้วยัยนั่นเป็นอะไรมากหรือเปล่า”  มัลฟอยถาม  แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นความกังวล
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนี่เจ้าพอตเตอร์มันเฝ้าอยู่”  แครบตอบ 
“แต่ถ้ามันไม่สบายหนัก ๆ ก็ดีฉันว่า”  หน้าของมัลฟอยเปลี่ยนจากสีขาวซีดมาเป็นสีแดงด้วยความโกรธ ( หึงนั่นแหละ )
ขณะที่แฮร์รี่พาเฮอร์ไมโอนี่ไปห้องพยาบาล  เป็นเวลาที่นักเรียนส่วนใหญ่ลงมากินอาหารกัน  เพราะฉะนั้นจึงมีคนจำนวนมากจึงเห็นแฮร์รี่อุ้มเฮอร์ไมโอนี่ที่สวมชุดนอนไปอย่างเร่งรีบ 
ซึ่งรวมถึงแครบและกอยล์ด้วย
เมื่อพวกเขามาถึงห้องพยาบาล  แฮร์รี่วางเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเตียง  ดูท่าทางเธอจะไม่ได้สติเหมือนกับว่าสะลึมสะลืออยู่  และเธอก็ละเมอออกมาเบา ๆ แต่แฮร์รี่ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร
พวกรอนตามมาดามพรอมฟรีย์มา
“เกรนเจอร์เป็นอะไร  พวกเธอถอยไปก่อน  ฉันจะรักษาให้”
พวกเขาออกมายืนด้านหลังม่านแฮร์รี่ยืนรออย่างเป็นห่วง  และสักพักมาดามพรอมฟรีย์ก็เดินออกมา  “ไข้หวัดใหญ่น่ะ”  เธอกล่าวทำให้พวกเขาโล่งใจกันถ้วนหน้า  โดยเฉพาะแฮร์รี่
“แต่ทำไมเฮอร์ไมโอนี่ถึงไม่รู้สึกตัวเลยล่ะครับ”  แฮร์รี่ถาม
“ร่างกายเธออ่อนแออยู่ก่อนแล้วพอตเตอร์”  มาดามพรอมฟรีย์ตอบ  “เมื่อมาเจออากาศเย็น ๆ ก็อาจทำให้เธอมีโอกาสป่วยได้ง่าย ๆ ”
“แต่ทำไมคนอื่นไม่เห็นเป็นเลยล่ะ”  รอนถามอย่างสงสัย  “ช่วงนี้อากาศก็ไม่ได้เย็นมากนี่ครับ  ถ้าไม่ใช่ตอนกลางคืน”
“เอ่อ  อาจจะเป็นเพราะว่าเฮอร์ไมโอนี่เขาไม่ได้นอนในห้องก็ได้”  ลาเวนเดอร์พูด
“เธอหมายความว่าไงน่ะ  ลาเวนเดอร์”  แฮร์รี่ถาม
“ก็เฮอร์ไมโอนี่เขาบอกว่า  เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ  ก็เลยออกไปที่ห้องนั่งเล่นรวม  แล้วก็เผลอหลับไป” 
“นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มิสเกรนเจอร์ไม่สบาย  นอกจากนี้  ความเครียด  การหักโหมทำงาน  หรือการนอนหลับไม่เพียงพอก็อาจทำให้ป่วยได้”  มาดามพรอมฟรีย์อธิบาย
“ฉันให้ยาเธอไปแล้ว  อีกสักพักคงฟื้น  ถ้าถึงตอนนั้นพวกเธอเรียกฉันก็แล้วกัน”  และมาดามพรอมฟรีย์ก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ
ทุกคนต่างเข้าไปดูเฮอร์ไมโอนี่ที่หลับอยู่บนเตียง  หน้าของเธอเมื่อครู่ที่เป็นสีแดงจัดเพราะพิษไข้ได้หายไปแล้ว  แต่ก็ไม่ปรากฏสีชมพูแต่อย่างใด  มันดูขาวซีดกว่าที่เคยเป็น
แฮร์รี่นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เตียง  และกุมมือเธอไว้ 
“ไข้ลดแล้วสินะ”  เขาพึมพำเมื่อเอามืออีกข้างแตะหน้าผากของเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่เป็นยังไงบ้างแฮร์รี่”  ปาราวตีถามเธอยืนอยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่
“ฉันว่าไข้คงลดแล้วแหละ”  เขาตอบและจ้องมองเธอด้วยแววตาเป็นห่วง
“งั้นพวกเรากลับหอนอนก่อนนะแฮร์รี่”  ปาราวตีพูด  ทั้งเธอและลาเวนเดอร์ยังสวมชุดนอนอยู่
“แล้วฉันจะมาเยี่ยมใหม่นะเฮอร์ไมโอนี่” เธอพูดแล้วก็เดินออกจากห้องพยาบาลไป
“นายล่ะแฮร์รี่  ไม่ไปกินข้าวเช้าเหรอ”  รอนถามพลางลูบท้องที่กำลังร้องครวญครางอยู่
“ถ้านายหิวก็ไปเถอะ  ฉันจะอยู่เฝ้าเฮอร์ไมโอนี่เอง” แฮร์รี่พูดมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาห่วงใย
“งั้นฉันไปนะ”  รอนบอก  “อืม  ไปเถอะ”
หลังจากทุกคนทานมื้อเช้าเสร็จแล้วก็ต่างแยกย้ายไปที่ต่าง ๆ ได้ตามใจ  เพราะว่าไม่มีเรียน  แต่เด็กปี 5 ส่วนใหญ่มักจะกลับห้องนั่งเล่นรวมหรือไม่ก็ไปห้องสมุดหลังทานข้าว  สาเหตุก็มาจากการบ้านที่มากซะจนแทบจะกองท่วมหัวท่วมหูของพวกเขา
ในห้องนั่งเล่นรวมสลิธีริน  แครบและกอยล์กำลังนั่งปั่นรายงานวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์อย่างเร่งรีบ  เพราะว่าเส้นตายของมันคือวันพรุ่งนี้  ( ศ.บินให้เวลาทำงานชิ้นนี้ 1 อาทิตย์ )  แต่พวกเขาเพิ่งเริ่มทำมันเมื่อตอนเช้านี้เอง
“นายไม่ทำเหรอมัลฟอย”  แครบสงสัยกับอาการไม่ทุกข์ไม่ร้อน (แต่เหม่อ) ของมัลฟอย
“ของฉันเสร็จแล้ว”  มัลฟอยตอบเนือย ๆ ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาสนใจแต่อย่างใด
“เสร็จแล้ว!”  แครบและกอยล์ร้องขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันยังไม่เห็นนายเอาขึ้นมาทำเลย”  กอยล์ถามขณะที่มือจับปากกาขนนกอยู่
“แล้วฉันจำเป็นต้องทำต่อหน้าแกรึไงหา!!!”  มัลฟอยคำราม  กอยล์สะดุ้งโหยงจนปากกาขนนกหลุดจากมือ 
“นี่นายทำตัวเป็นคนขยันเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะมัลฟอย  นายจะเอาอย่างยัยเกรนเจอร์นั่นหรืองัย”  แครบพูดยิ้ม ๆ แต่เมื่อเห็นสายที่มัลฟอย มองเขาแครบก็ถึงกับยิ้มไม่ออกเลย
“เออนี่มัลฟอยนายรู้เรื่องยัยเกรนเจอร์นั่นรึยัง”  กอยล์ถามเสียงหวาด ๆ เพราะกลัวมัลฟอยจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีก 
“เกรนเจอร์ทำไม!!!”  มัลฟอยเอ่ยเสียงดัง  แววตาที่เหม่อลอยของเขาบัดนี้มันจับจ้องที่  แครบและกอยล์อย่างสนอกสนใจ  “ไหนว่ามาซิ”
“ก็เมื่อเช้าตอนพวกเรากำลังเดินไปกินอาหาร  ตอนที่เราลงตามนายมาน่ะ  พวกเราเห็น”  แครบหยุดเล่าหันมามองหน้ากอยล์
“เห็นอะไร!”  มัลฟอยตวาด
“ก็เห็นไอ้เจ้าพอตเตอร์มันอุ้มยายเลือดสีโคลนนั่นมานั่นสิ  ฉันได้ยินมาว่ามันไม่สบายหนัก  ไอ้พวกนั้นมันเลยพาไปส่งห้องพยาบาล”  กอยล์พูดจบก็ยิ้มอย่างสะใจ
“แล้วยัยนั่นเป็นอะไรมากหรือเปล่า”  มัลฟอยถาม  แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นความกังวล
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนี่เจ้าพอตเตอร์มันเฝ้าอยู่”  แครบตอบ 
“แต่ถ้ามันไม่สบายหนัก ๆ ก็ดีฉันว่า”  หน้าของมัลฟอยเปลี่ยนจากสีขาวซีดมาเป็นสีแดงด้วยความโกรธ ( หึงนั่นแหละ )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น