ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ความสับสน
***Chapter 10  ความสับสน***
“อะไรนะคะ!” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่และแพนซี่ดังขึ้นพร้อมกัน  โดยเฉพาะแพนซี่ที่ดูตกใจมาก  แต่สเนปไม่สนใจกับท่าทีของเด็กทั้งสอง
“ฉันบอกให้พวกเธอสองคนแลกที่กัน” เขาพูดเสียงเข้ม  ปรายตามองมาทางเฮอร์ไมโอนี่และเนวิลล์ “เพราะฉันคิดว่าลองบอตท่อมคงไม่มีทางปรุงยาได้เองแน่ ๆ หากว่ามีเกรนเจอร์คอยกระซิบบอกวิธีทำอยู่ใกล้ ๆ ”
“แต่อาจารย์คะ” แพนซี่มีท่าทีอิดออด  เธอไม่อยากจะเปลี่ยนที่นั่งกับใคร โดยเฉพาะกับเฮอร์ไมโอนี่
“ไม่มีคำว่าแต่พาร์กินสัน” สเนปพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด  ซึ่งยากจะเห็นเขาใช้กับนักเรียนบ้านสลิธีริน
“เธอด้วยเกรนเจอร์  เก็บข้าวของของเธอซะ  เร็วเข้า!” เขาสั่ง  แพนซี่และเฮอร์ไมโอนี่ต่างรวบรวมเครื่องปรุงยาและข้าวของของตัวเองขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและเดินไปที่ที่นั่งของอีกฝ่าย 
เฮอร์ไมโอนี่นั่งหมิ่น ๆ ลงบนเก้าอี้ข้างมัลฟอย  ซึ่งเจ้าตัวทำเป็นไม่สนใจเธอ  เขาเหลือบมองเธอด้วยหางตาก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาปรุงยาต่อ  ส่วนแพนซี่นั่งลงข้าง ๆ เนวิลล์ด้วยท่าทีไม่พอใจเท่าไรนัก  เธอกระแทกหม้อใหญ่ของเธอลงบนโต๊ะอย่างแรงจนถาดใส่เครื่องปรุงยาของเนวิลล์สั่นสะเทือน
หลังจากนั้นเด็กทุกคนก็ต่างก้มลงสนใจหม้อยาของตัวเอง  เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะหมดเวลา  เฮอร์ไมโอนี่ใส่น้ำทับทิมลงไปในหม้อของเธอและกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าไม้คนหม้อแต่มือของมัลฟอยกลับเอื้อมมาคว้ามันพร้อมกับเธอ  กลายเป็นว่ามือของเด็กหนุ่มกลับคว้ามือของเฮอร์ไมโอนี่ได้แทน  ทั้งสองเงยหน้าขึ้นสบตากันก่อนจะหลบไปคนละทางอย่างรวดเร็ว  พร้อม ๆ กับที่มัลฟอยชักมือออก
มัลฟอยโบ้ยใบ้ให้เฮอร์ไมโอนี่ใช้ที่คนยาไปก่อน  เด็กสาวหยิบไม้คนขึ้นมาอย่างเกร็ง ๆ และมัลฟอยก็สังเกตุได้
“เป็นอะไรไปรึเกรนเจอร์” เขาถามพลางยิ้มกริ่ม “ดีใจมากรึไงที่ได้สัมผัสมือที่สะอาดสะอ้านของฉันน่ะ” เขาว่า
“ใครอยากจะไปถูกตัวนาย” เฮอร์ไมโอนี่โต้กลับเสียงแผ่วเบา  เพราะกลัวว่าสเนปจะหาเรื่องหักคะแนนเธออีกหากเธอมาทะเลาะกับมัลฟอยในชั้นเรียน
“แล้วเธอคิดว่าฉันอยากถูกตัวเธอมากนักหรือไง” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ 
“งั้นหรือ  ดูเหมือนว่าคำพูดของนายกับการกระทำมันจะคนละอย่างกันนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่โต้  พลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันวาเลนไทน์  มัลฟอยยิ้มรับ
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันทำเพื่อแก้แค้น” เขาพูด  จงใจเน้นประโยคสุดท้ายอย่างชัดเจน  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ  เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมัลฟอยที่กำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“จะจ้องฉันไปอีกนานไหม” เด็กหนุ่มพูด  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะใส่ส่วนผสมลงในหม้อ
“หรือว่าเธอคิดถึงเรื่องคืนนั้น” มัลฟอยเลื่อนหน้าเข้ามากระซิบเธอใกล้ ๆ ด้วยระดับเสียงที่ได้ยินกันสองคน  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงแปร๊ด  เธอผลักมัลฟอยออกด้วยความโกรธ
“นายมันน่าเกลียดที่สุด!” เธอพูดก่อนจะโยนหัวใจจระเข้ลื่น ๆ ใส่เขา  แต่มัลฟอยหลบได้ทันก่อนที่มันจะแปะอยู่บนหน้าของเขา  หัวใจจระเข้ที่เฮอร์ไมโอนี่ขว้างมาจึงหล่นใส่หม้อใหญ่ของเขาแทน!
*************************************************
ทันทีที่หัวใจจระเข้ตกลงในหม้อก็มีเสียงระเบิดบึ้มขึ้นพร้อมกับน้ำในหม้อใหญ่ที่กระจายขึ้นมาเป็นวงกว้าง  เหมือนกับตอนที่แฮร์รี่โยนดอกไม้ไปเข้าไปในหม้อใหญ่ของกอยล์เพื่อจะหันเหความสนใจของสเนปตอนปีสองเพื่อที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้เข้าไปโขมยของในห้องทำงานของเขา  แต่ต่างกันตรงที่ตอนนั้นคนที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงล้วนโดยน้ำยากันถ้วนหน้า  แต่คราวนี้คนที่โดนน้ำยาล่องหนที่ยังปรุงไม่เสร็จดีเข้าไปเต็ม ๆ ก็คือมัลฟอย
เกิดเสียงฟู่ตามมา  เสื้อคลุมของมัลฟอยม้วนหงิกงอและหดตัวเป็นรอยดำ ๆ ราวกับโดนไฟเผาด้วยฤทธิ์ของน้ำยา  แต่นั่นยังไม่แย่เท่ามือของเขาที่โดนน้ำยาเข้าไปเต็ม ๆ โดยไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
มือของมัลฟอยที่เคยขาวซีด  ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีอื่น  อาจจะเป็นเพราะน้ำยาล่องหนที่ยังไม่ได้สมบูรณ์ดีนักมันทำให้ผิวหนังของมัลฟอยล่องหนได้  แต่แค่เพียงผิวหนังเท่านั้น  ส่วนอื่น ๆ กลับไม่ล่องหนตามไปด้วย  ตอนนี้มือของมัลฟอยนั้นมีสภาพเหมือนกับมือของหุ่นตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ตามโรงพยาบาลซึ่งใช้จำลองให้เห็นอวัยวะภายในของมนุษย์ไม่มีผิดเพี้ยน  เฮอร์ไมโอนี่สามารถมองทะลุได้ไปถึงกระดูกของเขา  เส้นเลือดสีแดง  เส้นประสาท เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อสีแดง ๆ ซึ่งดูสยดสยองเกินจะบรรยาย
สเนปรุดมาที่โต๊ะของทั้งสองทันที  เขามองดูภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าสีเทาอมม่วงเหมือนลุงเวอร์นอนตอนโกรธไม่มีผิด  ดวงตาสีดำจับจ้องมาที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างคาดโทษ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” สเนปตวาด  เขาโบกไม้กายสิทธิ์เพื่อกำจัดซากความเสียหายที่เกิดขึ้น
“ฉันอุตส่าห์ให้เธอแลกที่กับพาร์กินสัน  แต่เธอกลับก่อเรื่องในชั้นเรียนของฉันเป็นครั้งที่สองของวันแล้วนะเกรนเจอร์” สเนปพูด
“หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน” เขากล่าว  ตามมาด้วยเสียงพึมพำอย่างไม่พอจากเด็กกริฟฟินดอร์  แต่เมื่อสเนปปรายตาไปมองพวกเขา  เสียงเหล่านั้นก็เงียบลงทันที  เขาหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง 
“พามัลฟอยไปห้องพยาบาล” สเนปสั่ง
“อะไรนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
“เธอได้ยินแล้วนี่เกรนเจอร์  พามัลฟอยไปห้องพยาบาล” สเนปย้ำ 
“แต่หนูยังปรุงยาไม่เสร็จเลยนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง  มองไปที่น้ำยาล่องหนของเธอที่ปรุงเกือบเสร็จแล้ว  เหลือเพียงแค่ใส่หัวใจจระเข้ลงไปพร้อมกับดีงูเท่านั้น  แต่เธอกลับโยนหัวใจจระเข้ของเธอลงไปในหม้อของมัลฟอยแทน
“เธอคิดว่าถึงเธอจะปรุงยาเสร็จแล้วฉันจะให้คะแนนเธอหรือ  เธอน่าจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำที่ฉันไม่กักบริเวณเธอ” สเนปพูดแววตาราวโรจน์  เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีลำบากใจแต่เธอก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรออกไป  เพราะเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการกระทำที่โง่มากทีเดียว  ส่วนมือของมัลฟอยนั้นดูแย่กว่าเดิมอีก  เพราะน้ำยาเริ่มซึมมากขึ้น  และลามไปทั่วแขนของเขา
“อาจารย์คะ  ถ้ายังไงหนูพามัลฟอยไปห้องพยาบาลเองก็ได้ค่ะ” แพนซี่เสนอ  สเนปหันไปทางเธอ
“ไม่ต้องพาร์กินสัน  ฉันคิดว่าน้ำยาของเธอยังไม่ไปถึงไหนหรอกจริงไหม” เขาว่าพลางมองไปที่น้ำยาสีเขียวหนืด ๆ ของแพนซี่ก่อนจะหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่
“พาเขาไปห้องพยาบาลเร็วสิ  หรือว่าเธอจะปล่อยให้เขากลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ก่อนหรือไง” สเนปพูด  เฮอร์ไมโอนี่จึงพามัลฟอยเดินออกไปจากชั้นเรียนไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจากคุกใต้ดินมาพร้อมกับมัลฟอย ซึ่งตอนนี้แขนเกือบทั้งแขนของเขากลายเป็นโครงกระดูกไปเรียบร้อยแล้ว  ทั้งสองเดินไปห้องพยาบาลอย่างเงียบเชียบ  นักเรียนหลายคนที่เดินผ่านมาต่างพากันชี้ให้เพื่อนดูแขนของมัลฟอยและทำสีหน้าสยดสยอง แต่ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่สนใจเด็กพวกนั้น  เขาส่งสายตาดุดันไปให้เด็กฮัพเฟิลพัฟสองสามคนที่กำลังกระซิบกระซาบเรื่องแขนของเขา  เมื่อทั้งสองเดินไปถึงห้องพยาบาลมาดามพรอมฟรีย์มองมัลฟอยด้วยท่าทีเหลือเชื่อที่สุดทันทีที่เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทำน้ำยาล่องหนระเบิด!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด  ขณะกำลังโปะยาลงบนแขนของมัลฟอย  เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นอะไรออกมา “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย  พวกเธออยู่ปีห้าแล้วนะ  น่าจะโตพอที่จะมีความคิดกันได้แล้วว่าการล้อเล่นกันในชั่วโมงปรุงยาน่ะมันอันตรายแค่ไหน” มาดามพรอมฟรีย์พูด  เธอทายาจนทั่วแขนของมัลฟอยแล้วถึงจะหยิบผ้าพันแผลออกมา
“มาดามครับ  มาดาม” เสียงเรียกดังมาจากประตูห้องพยาบาลพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กกริฟฟินดอร์ปีเจ็ดสองคนที่มีต้นหอมงอกมาจากจมูก  ส่วนเด็กสลิธีรินปีเดียวอีกสองคนมีเขางอกออกมาทางหัวและมืออุ้งเท้าคล้ายตัวนิฟเฟลอร์
“ตายจริง  อะไรกันนักหนานี่” มาดามพรอมฟรีย์บ่นพลางทิ้งผ้าพันแผลในมือ  เธอหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่
“มิสเกรนเจอร์  เธอช่วยพันผ้าพันแผลนี่ให้มิสเตอร์มัลฟอยหน่อยนะ  ฉันจำเป็นต้องไปดูพวกนั้นก่อน” เธอพูดก่อนจะเดินไปจากเตียงของมัลฟอยที่มีผ้าม่านกั้นโดยรอบ  เฮอร์ไมโอนี่หยิบผ้าพันแผลขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
“ยื่นแขนมาสิ” เธอพูดเบา ๆ มัลฟอยยื่นแขนที่มีน้ำยาสีเขียวโปะอยู่ขึ้นมา  เฮอร์ไมโอนี่ลงมือพันแผลให้เขาช้า ๆ
“ระวังหน่อยนะเกรนเจอร์  เดี๋ยวโคลนจากตัวเธอจะมาถูกตัวฉันเอา” มัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา  เธอทิ้งผ้าพันแผลในมือทันที
“ถ้านายไม่อยากให้ฉันถูกตัวก็ทำเอาเองสิ” เธอพูด 
“เธอก็เห็นว่าฉันทำเองไม่ได้” เด็กหนุ่มกล่าว “แล้วอีกอย่างเธอก็เป็นคนทำให้ฉันเป็นอย่างนี้เองนี่” เขาว่า  เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้ง  แต่เธอก็ยอมกลับไปพันแผลให้มัลฟอยตามเดิมถึงจะมีท่าทีไม่ค่อยเต็มใจนักก็ตาม  เด็กสาวพันผ้าพันแผลไปจนกระทั่งเกือบสุดแขน
“เอาเสื้อขึ้นไปหน่อยสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  พยายามจะดึงแขนเสื้อของเขาขึ้นไปอีก
“ไม่ได้แล้วเกรนเจอร์  มันสุดแล้ว” เขาว่า
“แล้วฉันจะพันแผลให้นายยังไงล่ะ” เธอพูดอย่างขัดใจ  มัลฟอยมองเธออย่างไม่ยี่หระ
“ถ้างั้นก็ถอดมันออกก็หมดเรื่อง” เขาว่าพลางขยับแขนไปแกะกระดุม  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นทันตา เธอร้องห้ามทันที
“จะบ้าเหรอ!” เธอพูด  มัลฟอยมองเธออย่างงง ๆ และเมื่อเขาจัดแจงถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก  เฮอร์ไมโอนี่จะหันไปมองทางอื่นทันที
“เป็นอะไรเกรนเจอร์  จะไม่มีพันแผลต่อแล้วหรือ” มัลฟอยยั่ว  เฮอร์ไมโอนี่หน้าขึ้นสี  ยิ่งตอนที่เธอหันมาเห็นร่างกายของเด็กหนุ่มตรงหน้า  แผ่นอกแข็งแรง  หน้าท้องแบนเรียบ  แม้ไม่ได้มีมัดกล้ามเท่าชายหนุ่มทั่วไปเป็นเพราะเขาอายุยังน้อย  แต่ภาพของมัลฟอยก็ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ
“จะจ้องฉันอีกนายไหมเนี่ย” มัลฟอยพูด  เฮอร์ใมโอนี่สะดุ้ง
เด็กสาวรีบจับแขนของเขามาพันผ้าพันแผลต่ออย่างรวดเร็วเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอาย  แต่หน้าที่แดงราวกับโดนแดดเผามาทั้งวันของเธอมันกลับฟ้องให้มัลฟอยรู้ได้ไม่ยาก  เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม  นั่งมองท่าทีของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนึกขำในใจ
“เสร็จแล้ว” เธอพูดพร้อมกับวางแขนของมัลฟอยลงข้างตัวของเขาที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง
“นายก็ควรใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วย” เธอว่า  แต่มัลฟอยกลับไม่ทำตาม  เมื่อเธอกำลังจะหมุนตัวเดินออกไปจากเตียงของเขา  มัลฟอยก็คว้าแขนของเธอไว้ได้ก่อน  พร้อมกับรั้งร่างของเด็กสาวมาอยู่ในอ้อมแขน  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมาสบตามัลฟอย 
“นายจะทำอะไรน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  มัลฟอยไม่ตอบ  เด็กหนุ่มก้มหน้าลงมาชิดใกล้  เด็กสาวเบี่ยงตัวหลบทันที
“ไหนนายบอกฉันไงว่านายจะไม่ทำอย่างนี้กับฉัน” เธอว่า 
“ฉันบอกว่าจะไม่ใช้วิธีนี้เพื่อแก้แค้นเธออีก” เขาพูด  “แล้วถ้าฉันบอกว่าที่ฉันทำครั้งนี้ไม่เพื่อแก้แค้นเธอล่ะ” เด็กหนุ่มพูดมองตาเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังใจสั่นอย่างไม่รู้สาเหตุ  ดวงตาสีฟ้าจางของจ้องมองเธอราวกับต้องการอ่านใจเด็กสาวตรงหน้า
“อย่าโกหกมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เตือน “ที่นายทำครั้งนี้เพราะต้องการแก้แค้นฉันเรื่องมือของนายมากกว่า”
“และบังเอิญว่าคราวนี้เธอก็อยากจะให้ฉันแก้แค้นเธอน่ะสิ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
“ใครบอกนายกัน คิดไปเองทั้งนั้น” เด็กสาวพูดเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
“งั้นก็ลองปฏิเสธฉันสิเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด “ถ้าเธอบอกฉันว่าเธอไม่ต้องการให้ฉันทำอย่างนี้อีก  ฉันก็จะไม่ทำ”
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองมัลฟอยอย่างสงสัย 
“บอกตามตรงนะ  ฉันไม่ได้ทำเพื่อจะแก้แค้น  แล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะแก้แค้นเธอแล้วด้วย” เขาพูด 
“ทำไมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย “ทำไมฉันนายถึง..........”
“อย่ามาถามฉันว่าทำไมเลย  เพราะฉันเองก็ไม่รู้” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ 
“ที่นายบอกว่าไม่รู้นั้นรวมถึงการกระทำของนายครั้งนี้ด้วยรึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา  มัลฟอยเงียบไปสักครู่  แต่เขาก็ไม่มีคำตอบออกมาให้เธอ 
เขาไม่มีแม้แต่เหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เม้มริมฝีปากแน่น  รู้สึกสับสน  แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้พูดอะไรออกไปมัลฟอยก็รั้งร่างของเธอมาชิดใกล้อีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่ขืนตัวเล็กน้อย
“อย่า......” เธอพูดเสียงแผ่วเบา  มัลฟอยมองเธออย่างสงสัย
“ทำไมล่ะ  ถ้าจะปฎิเสธก็ให้มันหนักแน่นกว่านี้หน่อยสิ” เขาพูดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีก  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง  เธอตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา 
“ถ้านายจะทำอย่างนี้กับฉันโดยที่ไม่มีเหตุผลล่ะก็” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยพร้อมกับขืนตัวแรงขึ้นจนกระทั่งเธอหลุดจากอ้อมแขนของเขา
“นายไปทำกับผู้หญิงคนอื่นที่เขาเต็มใจเถอะ  ฉันคิดว่านายคงหาผู้หญิงอย่างนั้นได้ไม่ยาก  อย่างน้อยก็แพนซี่คนหนึ่งล่ะ  เธอคงยอมให้นายทำอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด  มัลฟอยมองเธออย่างงงงวย
“เธอพูดอะไรน่ะ  ฉันไม่เคยทำอย่างนี้กับใคร” เขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
“คนที่ฉันเคยทำอย่างนี้ด้วยมีเพียงแค่เธอเท่านั้น”
..................................................
เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างไม่เชื่อ  มัลฟอยเองก็ไม่ได้พูดอะไร กริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น  เด็กทั้งสองสะดุ้ง 
“ฉันควรจะกลับไปที่ห้องเรียน  ฉันทิ้งข้าวของไว้ที่นั่น” เฮอร์ไมโอนี่พูดโดยไม่ยอมมองตาอีกฝ่าย  เธอพยายายามที่จะหาข้ออ้างเพื่อออกไปจากตรงนั้น
“เดี๋ยวเจ้าพวกองค์รักษ์ของเธอก็เก็บมาให้เองแหละน่า” มัลฟอยไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ  เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าบึ้งก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปอีกทาง  แต่คราวนี้เด็กหนุ่มไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว  เขารวบตัวเธอมาไว้ในอ้อมแขนจากด้านหลัง 
“ปล่อยฉันเถอะมัลฟอย  ถ้านายทำมันไปโดยไม่มีเหตุผลล่ะก็” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความน้อยใจ
“ไม่!” มัลฟอยส่ายหัวดิกและเริ่มเอาหน้ามาซุกซอกคอเธอ “เธอไม่เชื่อฉันหรือเกรนเจอร์” เขาพูด 
“ทำไมฉันต้องเชื่อคนไม่รักษาสัญญาอย่างนายด้วย” เธอว่า  มัลฟอยขมวดคิ้ว
“ฉันไม่ได้ไม่รักษาสัญญา” เขาพูดพลางวางศีรษะลงบนไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวใบหน้าร้อนผ่าว
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะปล่อยเธอไปเมื่อเธอปฏิเสธฉันจริง ๆ จัง ๆ กว่านี้” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน  ก่อนที่เขาจะรั้งร่างทั้งร่างของเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาใกล้แผ่นอกของเขามากขึ้น  จนร่างของทั้งสองแนบชิดกัน
“มัลฟอย......” เฮอร์ไมโอนี่อิดออดกับการกระทำของเด็กหนุ่ม  ใบหน้าของเธอร้อนราวกับไข้ขึ้น  หัวใจเต้นแรงราวกับกลอง 
‘ให้ตายสินี่มันอะไรกันนะ  ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน ’ เด็กสาวคิดอย่างสับสนเมื่อตัวเองกลับรู้สึกดีเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของมัลฟอย 
“พูดไม่ออกหรือ” น้ำเสียงยั่วอารมณ์ดังขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะโต้กลับแต่ก็ต้องชะงัก  เพราะมัลฟอยเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ  ลมหายใจของเด็กหนุ่มปะทะที่แก้มของเธอก่อนที่เขาจะกระซิบเบา ๆ ที่ใบหู
“แต่ฉันก็ดีใจที่เธอไม่ตอบอะไรออกมา” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีเข้ม  เด็กสาวค่อย ๆ หันหลังไปมองดวงตาสีฟ้าจางของเด็กหนุ่มที่เป็นศัตรูของเธอช้า ๆ
สองสายตาสบกัน  ร่างสองร่างแนบชิดจนสามารถสัมผัสไออุ่นของอีกฝ่ายได้  เสียงหัวใจเต้นแรงจนไม่รู้ว่าเป็นของใคร  และดูเหมือนว่าทั้งสองจะรับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย  เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงช้า ๆ ในขณะที่มัลฟอยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้  แต่ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะสัมผัสกันผ้าม่านกั้นเตียงของมัลฟอยก็ถูกเลิกขึ้น
รอนและแฮร์รี่ยืนอยู่ตรงนั้น กำลังมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีที่บอกไม่ถูกว่าโกรธหรือตกใจมากกว่ากัน!
*************************************************
เอามาลงแว้ว  สงกรานต์ไปเที่ยวไหนกันจ๊ะ เราเหงาอยู่บ้านอ่า  ไม่ได้ไปเที่ยวเรย T-T
“อะไรนะคะ!” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่และแพนซี่ดังขึ้นพร้อมกัน  โดยเฉพาะแพนซี่ที่ดูตกใจมาก  แต่สเนปไม่สนใจกับท่าทีของเด็กทั้งสอง
“ฉันบอกให้พวกเธอสองคนแลกที่กัน” เขาพูดเสียงเข้ม  ปรายตามองมาทางเฮอร์ไมโอนี่และเนวิลล์ “เพราะฉันคิดว่าลองบอตท่อมคงไม่มีทางปรุงยาได้เองแน่ ๆ หากว่ามีเกรนเจอร์คอยกระซิบบอกวิธีทำอยู่ใกล้ ๆ ”
“แต่อาจารย์คะ” แพนซี่มีท่าทีอิดออด  เธอไม่อยากจะเปลี่ยนที่นั่งกับใคร โดยเฉพาะกับเฮอร์ไมโอนี่
“ไม่มีคำว่าแต่พาร์กินสัน” สเนปพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด  ซึ่งยากจะเห็นเขาใช้กับนักเรียนบ้านสลิธีริน
“เธอด้วยเกรนเจอร์  เก็บข้าวของของเธอซะ  เร็วเข้า!” เขาสั่ง  แพนซี่และเฮอร์ไมโอนี่ต่างรวบรวมเครื่องปรุงยาและข้าวของของตัวเองขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและเดินไปที่ที่นั่งของอีกฝ่าย 
เฮอร์ไมโอนี่นั่งหมิ่น ๆ ลงบนเก้าอี้ข้างมัลฟอย  ซึ่งเจ้าตัวทำเป็นไม่สนใจเธอ  เขาเหลือบมองเธอด้วยหางตาก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาปรุงยาต่อ  ส่วนแพนซี่นั่งลงข้าง ๆ เนวิลล์ด้วยท่าทีไม่พอใจเท่าไรนัก  เธอกระแทกหม้อใหญ่ของเธอลงบนโต๊ะอย่างแรงจนถาดใส่เครื่องปรุงยาของเนวิลล์สั่นสะเทือน
หลังจากนั้นเด็กทุกคนก็ต่างก้มลงสนใจหม้อยาของตัวเอง  เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะหมดเวลา  เฮอร์ไมโอนี่ใส่น้ำทับทิมลงไปในหม้อของเธอและกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าไม้คนหม้อแต่มือของมัลฟอยกลับเอื้อมมาคว้ามันพร้อมกับเธอ  กลายเป็นว่ามือของเด็กหนุ่มกลับคว้ามือของเฮอร์ไมโอนี่ได้แทน  ทั้งสองเงยหน้าขึ้นสบตากันก่อนจะหลบไปคนละทางอย่างรวดเร็ว  พร้อม ๆ กับที่มัลฟอยชักมือออก
มัลฟอยโบ้ยใบ้ให้เฮอร์ไมโอนี่ใช้ที่คนยาไปก่อน  เด็กสาวหยิบไม้คนขึ้นมาอย่างเกร็ง ๆ และมัลฟอยก็สังเกตุได้
“เป็นอะไรไปรึเกรนเจอร์” เขาถามพลางยิ้มกริ่ม “ดีใจมากรึไงที่ได้สัมผัสมือที่สะอาดสะอ้านของฉันน่ะ” เขาว่า
“ใครอยากจะไปถูกตัวนาย” เฮอร์ไมโอนี่โต้กลับเสียงแผ่วเบา  เพราะกลัวว่าสเนปจะหาเรื่องหักคะแนนเธออีกหากเธอมาทะเลาะกับมัลฟอยในชั้นเรียน
“แล้วเธอคิดว่าฉันอยากถูกตัวเธอมากนักหรือไง” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ 
“งั้นหรือ  ดูเหมือนว่าคำพูดของนายกับการกระทำมันจะคนละอย่างกันนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่โต้  พลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันวาเลนไทน์  มัลฟอยยิ้มรับ
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันทำเพื่อแก้แค้น” เขาพูด  จงใจเน้นประโยคสุดท้ายอย่างชัดเจน  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ  เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมัลฟอยที่กำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“จะจ้องฉันไปอีกนานไหม” เด็กหนุ่มพูด  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะใส่ส่วนผสมลงในหม้อ
“หรือว่าเธอคิดถึงเรื่องคืนนั้น” มัลฟอยเลื่อนหน้าเข้ามากระซิบเธอใกล้ ๆ ด้วยระดับเสียงที่ได้ยินกันสองคน  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงแปร๊ด  เธอผลักมัลฟอยออกด้วยความโกรธ
“นายมันน่าเกลียดที่สุด!” เธอพูดก่อนจะโยนหัวใจจระเข้ลื่น ๆ ใส่เขา  แต่มัลฟอยหลบได้ทันก่อนที่มันจะแปะอยู่บนหน้าของเขา  หัวใจจระเข้ที่เฮอร์ไมโอนี่ขว้างมาจึงหล่นใส่หม้อใหญ่ของเขาแทน!
*************************************************
ทันทีที่หัวใจจระเข้ตกลงในหม้อก็มีเสียงระเบิดบึ้มขึ้นพร้อมกับน้ำในหม้อใหญ่ที่กระจายขึ้นมาเป็นวงกว้าง  เหมือนกับตอนที่แฮร์รี่โยนดอกไม้ไปเข้าไปในหม้อใหญ่ของกอยล์เพื่อจะหันเหความสนใจของสเนปตอนปีสองเพื่อที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้เข้าไปโขมยของในห้องทำงานของเขา  แต่ต่างกันตรงที่ตอนนั้นคนที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงล้วนโดยน้ำยากันถ้วนหน้า  แต่คราวนี้คนที่โดนน้ำยาล่องหนที่ยังปรุงไม่เสร็จดีเข้าไปเต็ม ๆ ก็คือมัลฟอย
เกิดเสียงฟู่ตามมา  เสื้อคลุมของมัลฟอยม้วนหงิกงอและหดตัวเป็นรอยดำ ๆ ราวกับโดนไฟเผาด้วยฤทธิ์ของน้ำยา  แต่นั่นยังไม่แย่เท่ามือของเขาที่โดนน้ำยาเข้าไปเต็ม ๆ โดยไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
มือของมัลฟอยที่เคยขาวซีด  ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีอื่น  อาจจะเป็นเพราะน้ำยาล่องหนที่ยังไม่ได้สมบูรณ์ดีนักมันทำให้ผิวหนังของมัลฟอยล่องหนได้  แต่แค่เพียงผิวหนังเท่านั้น  ส่วนอื่น ๆ กลับไม่ล่องหนตามไปด้วย  ตอนนี้มือของมัลฟอยนั้นมีสภาพเหมือนกับมือของหุ่นตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ตามโรงพยาบาลซึ่งใช้จำลองให้เห็นอวัยวะภายในของมนุษย์ไม่มีผิดเพี้ยน  เฮอร์ไมโอนี่สามารถมองทะลุได้ไปถึงกระดูกของเขา  เส้นเลือดสีแดง  เส้นประสาท เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อสีแดง ๆ ซึ่งดูสยดสยองเกินจะบรรยาย
สเนปรุดมาที่โต๊ะของทั้งสองทันที  เขามองดูภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าสีเทาอมม่วงเหมือนลุงเวอร์นอนตอนโกรธไม่มีผิด  ดวงตาสีดำจับจ้องมาที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างคาดโทษ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” สเนปตวาด  เขาโบกไม้กายสิทธิ์เพื่อกำจัดซากความเสียหายที่เกิดขึ้น
“ฉันอุตส่าห์ให้เธอแลกที่กับพาร์กินสัน  แต่เธอกลับก่อเรื่องในชั้นเรียนของฉันเป็นครั้งที่สองของวันแล้วนะเกรนเจอร์” สเนปพูด
“หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน” เขากล่าว  ตามมาด้วยเสียงพึมพำอย่างไม่พอจากเด็กกริฟฟินดอร์  แต่เมื่อสเนปปรายตาไปมองพวกเขา  เสียงเหล่านั้นก็เงียบลงทันที  เขาหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง 
“พามัลฟอยไปห้องพยาบาล” สเนปสั่ง
“อะไรนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
“เธอได้ยินแล้วนี่เกรนเจอร์  พามัลฟอยไปห้องพยาบาล” สเนปย้ำ 
“แต่หนูยังปรุงยาไม่เสร็จเลยนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง  มองไปที่น้ำยาล่องหนของเธอที่ปรุงเกือบเสร็จแล้ว  เหลือเพียงแค่ใส่หัวใจจระเข้ลงไปพร้อมกับดีงูเท่านั้น  แต่เธอกลับโยนหัวใจจระเข้ของเธอลงไปในหม้อของมัลฟอยแทน
“เธอคิดว่าถึงเธอจะปรุงยาเสร็จแล้วฉันจะให้คะแนนเธอหรือ  เธอน่าจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำที่ฉันไม่กักบริเวณเธอ” สเนปพูดแววตาราวโรจน์  เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีลำบากใจแต่เธอก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรออกไป  เพราะเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการกระทำที่โง่มากทีเดียว  ส่วนมือของมัลฟอยนั้นดูแย่กว่าเดิมอีก  เพราะน้ำยาเริ่มซึมมากขึ้น  และลามไปทั่วแขนของเขา
“อาจารย์คะ  ถ้ายังไงหนูพามัลฟอยไปห้องพยาบาลเองก็ได้ค่ะ” แพนซี่เสนอ  สเนปหันไปทางเธอ
“ไม่ต้องพาร์กินสัน  ฉันคิดว่าน้ำยาของเธอยังไม่ไปถึงไหนหรอกจริงไหม” เขาว่าพลางมองไปที่น้ำยาสีเขียวหนืด ๆ ของแพนซี่ก่อนจะหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่
“พาเขาไปห้องพยาบาลเร็วสิ  หรือว่าเธอจะปล่อยให้เขากลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ก่อนหรือไง” สเนปพูด  เฮอร์ไมโอนี่จึงพามัลฟอยเดินออกไปจากชั้นเรียนไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจากคุกใต้ดินมาพร้อมกับมัลฟอย ซึ่งตอนนี้แขนเกือบทั้งแขนของเขากลายเป็นโครงกระดูกไปเรียบร้อยแล้ว  ทั้งสองเดินไปห้องพยาบาลอย่างเงียบเชียบ  นักเรียนหลายคนที่เดินผ่านมาต่างพากันชี้ให้เพื่อนดูแขนของมัลฟอยและทำสีหน้าสยดสยอง แต่ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่สนใจเด็กพวกนั้น  เขาส่งสายตาดุดันไปให้เด็กฮัพเฟิลพัฟสองสามคนที่กำลังกระซิบกระซาบเรื่องแขนของเขา  เมื่อทั้งสองเดินไปถึงห้องพยาบาลมาดามพรอมฟรีย์มองมัลฟอยด้วยท่าทีเหลือเชื่อที่สุดทันทีที่เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทำน้ำยาล่องหนระเบิด!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด  ขณะกำลังโปะยาลงบนแขนของมัลฟอย  เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นอะไรออกมา “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย  พวกเธออยู่ปีห้าแล้วนะ  น่าจะโตพอที่จะมีความคิดกันได้แล้วว่าการล้อเล่นกันในชั่วโมงปรุงยาน่ะมันอันตรายแค่ไหน” มาดามพรอมฟรีย์พูด  เธอทายาจนทั่วแขนของมัลฟอยแล้วถึงจะหยิบผ้าพันแผลออกมา
“มาดามครับ  มาดาม” เสียงเรียกดังมาจากประตูห้องพยาบาลพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กกริฟฟินดอร์ปีเจ็ดสองคนที่มีต้นหอมงอกมาจากจมูก  ส่วนเด็กสลิธีรินปีเดียวอีกสองคนมีเขางอกออกมาทางหัวและมืออุ้งเท้าคล้ายตัวนิฟเฟลอร์
“ตายจริง  อะไรกันนักหนานี่” มาดามพรอมฟรีย์บ่นพลางทิ้งผ้าพันแผลในมือ  เธอหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่
“มิสเกรนเจอร์  เธอช่วยพันผ้าพันแผลนี่ให้มิสเตอร์มัลฟอยหน่อยนะ  ฉันจำเป็นต้องไปดูพวกนั้นก่อน” เธอพูดก่อนจะเดินไปจากเตียงของมัลฟอยที่มีผ้าม่านกั้นโดยรอบ  เฮอร์ไมโอนี่หยิบผ้าพันแผลขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
“ยื่นแขนมาสิ” เธอพูดเบา ๆ มัลฟอยยื่นแขนที่มีน้ำยาสีเขียวโปะอยู่ขึ้นมา  เฮอร์ไมโอนี่ลงมือพันแผลให้เขาช้า ๆ
“ระวังหน่อยนะเกรนเจอร์  เดี๋ยวโคลนจากตัวเธอจะมาถูกตัวฉันเอา” มัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา  เธอทิ้งผ้าพันแผลในมือทันที
“ถ้านายไม่อยากให้ฉันถูกตัวก็ทำเอาเองสิ” เธอพูด 
“เธอก็เห็นว่าฉันทำเองไม่ได้” เด็กหนุ่มกล่าว “แล้วอีกอย่างเธอก็เป็นคนทำให้ฉันเป็นอย่างนี้เองนี่” เขาว่า  เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้ง  แต่เธอก็ยอมกลับไปพันแผลให้มัลฟอยตามเดิมถึงจะมีท่าทีไม่ค่อยเต็มใจนักก็ตาม  เด็กสาวพันผ้าพันแผลไปจนกระทั่งเกือบสุดแขน
“เอาเสื้อขึ้นไปหน่อยสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  พยายามจะดึงแขนเสื้อของเขาขึ้นไปอีก
“ไม่ได้แล้วเกรนเจอร์  มันสุดแล้ว” เขาว่า
“แล้วฉันจะพันแผลให้นายยังไงล่ะ” เธอพูดอย่างขัดใจ  มัลฟอยมองเธออย่างไม่ยี่หระ
“ถ้างั้นก็ถอดมันออกก็หมดเรื่อง” เขาว่าพลางขยับแขนไปแกะกระดุม  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นทันตา เธอร้องห้ามทันที
“จะบ้าเหรอ!” เธอพูด  มัลฟอยมองเธออย่างงง ๆ และเมื่อเขาจัดแจงถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก  เฮอร์ไมโอนี่จะหันไปมองทางอื่นทันที
“เป็นอะไรเกรนเจอร์  จะไม่มีพันแผลต่อแล้วหรือ” มัลฟอยยั่ว  เฮอร์ไมโอนี่หน้าขึ้นสี  ยิ่งตอนที่เธอหันมาเห็นร่างกายของเด็กหนุ่มตรงหน้า  แผ่นอกแข็งแรง  หน้าท้องแบนเรียบ  แม้ไม่ได้มีมัดกล้ามเท่าชายหนุ่มทั่วไปเป็นเพราะเขาอายุยังน้อย  แต่ภาพของมัลฟอยก็ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ
“จะจ้องฉันอีกนายไหมเนี่ย” มัลฟอยพูด  เฮอร์ใมโอนี่สะดุ้ง
เด็กสาวรีบจับแขนของเขามาพันผ้าพันแผลต่ออย่างรวดเร็วเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอาย  แต่หน้าที่แดงราวกับโดนแดดเผามาทั้งวันของเธอมันกลับฟ้องให้มัลฟอยรู้ได้ไม่ยาก  เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม  นั่งมองท่าทีของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนึกขำในใจ
“เสร็จแล้ว” เธอพูดพร้อมกับวางแขนของมัลฟอยลงข้างตัวของเขาที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง
“นายก็ควรใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วย” เธอว่า  แต่มัลฟอยกลับไม่ทำตาม  เมื่อเธอกำลังจะหมุนตัวเดินออกไปจากเตียงของเขา  มัลฟอยก็คว้าแขนของเธอไว้ได้ก่อน  พร้อมกับรั้งร่างของเด็กสาวมาอยู่ในอ้อมแขน  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมาสบตามัลฟอย 
“นายจะทำอะไรน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  มัลฟอยไม่ตอบ  เด็กหนุ่มก้มหน้าลงมาชิดใกล้  เด็กสาวเบี่ยงตัวหลบทันที
“ไหนนายบอกฉันไงว่านายจะไม่ทำอย่างนี้กับฉัน” เธอว่า 
“ฉันบอกว่าจะไม่ใช้วิธีนี้เพื่อแก้แค้นเธออีก” เขาพูด  “แล้วถ้าฉันบอกว่าที่ฉันทำครั้งนี้ไม่เพื่อแก้แค้นเธอล่ะ” เด็กหนุ่มพูดมองตาเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังใจสั่นอย่างไม่รู้สาเหตุ  ดวงตาสีฟ้าจางของจ้องมองเธอราวกับต้องการอ่านใจเด็กสาวตรงหน้า
“อย่าโกหกมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เตือน “ที่นายทำครั้งนี้เพราะต้องการแก้แค้นฉันเรื่องมือของนายมากกว่า”
“และบังเอิญว่าคราวนี้เธอก็อยากจะให้ฉันแก้แค้นเธอน่ะสิ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
“ใครบอกนายกัน คิดไปเองทั้งนั้น” เด็กสาวพูดเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
“งั้นก็ลองปฏิเสธฉันสิเกรนเจอร์” มัลฟอยพูด “ถ้าเธอบอกฉันว่าเธอไม่ต้องการให้ฉันทำอย่างนี้อีก  ฉันก็จะไม่ทำ”
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองมัลฟอยอย่างสงสัย 
“บอกตามตรงนะ  ฉันไม่ได้ทำเพื่อจะแก้แค้น  แล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะแก้แค้นเธอแล้วด้วย” เขาพูด 
“ทำไมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย “ทำไมฉันนายถึง..........”
“อย่ามาถามฉันว่าทำไมเลย  เพราะฉันเองก็ไม่รู้” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ 
“ที่นายบอกว่าไม่รู้นั้นรวมถึงการกระทำของนายครั้งนี้ด้วยรึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา  มัลฟอยเงียบไปสักครู่  แต่เขาก็ไม่มีคำตอบออกมาให้เธอ 
เขาไม่มีแม้แต่เหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เม้มริมฝีปากแน่น  รู้สึกสับสน  แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้พูดอะไรออกไปมัลฟอยก็รั้งร่างของเธอมาชิดใกล้อีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่ขืนตัวเล็กน้อย
“อย่า......” เธอพูดเสียงแผ่วเบา  มัลฟอยมองเธออย่างสงสัย
“ทำไมล่ะ  ถ้าจะปฎิเสธก็ให้มันหนักแน่นกว่านี้หน่อยสิ” เขาพูดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีก  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง  เธอตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา 
“ถ้านายจะทำอย่างนี้กับฉันโดยที่ไม่มีเหตุผลล่ะก็” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยพร้อมกับขืนตัวแรงขึ้นจนกระทั่งเธอหลุดจากอ้อมแขนของเขา
“นายไปทำกับผู้หญิงคนอื่นที่เขาเต็มใจเถอะ  ฉันคิดว่านายคงหาผู้หญิงอย่างนั้นได้ไม่ยาก  อย่างน้อยก็แพนซี่คนหนึ่งล่ะ  เธอคงยอมให้นายทำอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ล่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด  มัลฟอยมองเธออย่างงงงวย
“เธอพูดอะไรน่ะ  ฉันไม่เคยทำอย่างนี้กับใคร” เขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
“คนที่ฉันเคยทำอย่างนี้ด้วยมีเพียงแค่เธอเท่านั้น”
..................................................
เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างไม่เชื่อ  มัลฟอยเองก็ไม่ได้พูดอะไร กริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น  เด็กทั้งสองสะดุ้ง 
“ฉันควรจะกลับไปที่ห้องเรียน  ฉันทิ้งข้าวของไว้ที่นั่น” เฮอร์ไมโอนี่พูดโดยไม่ยอมมองตาอีกฝ่าย  เธอพยายายามที่จะหาข้ออ้างเพื่อออกไปจากตรงนั้น
“เดี๋ยวเจ้าพวกองค์รักษ์ของเธอก็เก็บมาให้เองแหละน่า” มัลฟอยไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ  เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าบึ้งก่อนที่จะหมุนตัวกลับไปอีกทาง  แต่คราวนี้เด็กหนุ่มไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว  เขารวบตัวเธอมาไว้ในอ้อมแขนจากด้านหลัง 
“ปล่อยฉันเถอะมัลฟอย  ถ้านายทำมันไปโดยไม่มีเหตุผลล่ะก็” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความน้อยใจ
“ไม่!” มัลฟอยส่ายหัวดิกและเริ่มเอาหน้ามาซุกซอกคอเธอ “เธอไม่เชื่อฉันหรือเกรนเจอร์” เขาพูด 
“ทำไมฉันต้องเชื่อคนไม่รักษาสัญญาอย่างนายด้วย” เธอว่า  มัลฟอยขมวดคิ้ว
“ฉันไม่ได้ไม่รักษาสัญญา” เขาพูดพลางวางศีรษะลงบนไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวใบหน้าร้อนผ่าว
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะปล่อยเธอไปเมื่อเธอปฏิเสธฉันจริง ๆ จัง ๆ กว่านี้” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน  ก่อนที่เขาจะรั้งร่างทั้งร่างของเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาใกล้แผ่นอกของเขามากขึ้น  จนร่างของทั้งสองแนบชิดกัน
“มัลฟอย......” เฮอร์ไมโอนี่อิดออดกับการกระทำของเด็กหนุ่ม  ใบหน้าของเธอร้อนราวกับไข้ขึ้น  หัวใจเต้นแรงราวกับกลอง 
‘ให้ตายสินี่มันอะไรกันนะ  ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน ’ เด็กสาวคิดอย่างสับสนเมื่อตัวเองกลับรู้สึกดีเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของมัลฟอย 
“พูดไม่ออกหรือ” น้ำเสียงยั่วอารมณ์ดังขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะโต้กลับแต่ก็ต้องชะงัก  เพราะมัลฟอยเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ  ลมหายใจของเด็กหนุ่มปะทะที่แก้มของเธอก่อนที่เขาจะกระซิบเบา ๆ ที่ใบหู
“แต่ฉันก็ดีใจที่เธอไม่ตอบอะไรออกมา” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีเข้ม  เด็กสาวค่อย ๆ หันหลังไปมองดวงตาสีฟ้าจางของเด็กหนุ่มที่เป็นศัตรูของเธอช้า ๆ
สองสายตาสบกัน  ร่างสองร่างแนบชิดจนสามารถสัมผัสไออุ่นของอีกฝ่ายได้  เสียงหัวใจเต้นแรงจนไม่รู้ว่าเป็นของใคร  และดูเหมือนว่าทั้งสองจะรับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย  เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงช้า ๆ ในขณะที่มัลฟอยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้  แต่ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะสัมผัสกันผ้าม่านกั้นเตียงของมัลฟอยก็ถูกเลิกขึ้น
รอนและแฮร์รี่ยืนอยู่ตรงนั้น กำลังมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีที่บอกไม่ถูกว่าโกรธหรือตกใจมากกว่ากัน!
*************************************************
เอามาลงแว้ว  สงกรานต์ไปเที่ยวไหนกันจ๊ะ เราเหงาอยู่บ้านอ่า  ไม่ได้ไปเที่ยวเรย T-T
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น