คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความสงสารและคำขอร้อง: Sympatize and Request
***Chapter 8 ความสงสารและคำขอร้อง: Sympatic and Require***
“คืนนี้เธอจะอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหมเกรนเจอร์”
มัลฟอยถามขึ้นขณะที่ดวงตาสีเงินของเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่
เด็กสาวรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเช่นนั้น แม้ว่าเธอจะเห็นใจมัลฟอยอยู่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา
แต่การที่จะให้เธออยู่เป็นเพื่อนกับเขาตลอดทั้งคืนนั้นมันเป็นการขอที่มากเกินไปรึเปล่านะฃ
“ว่าไงล่ะ เกรนเจอร์” มัลฟอยถามซ้ำ และเอื้อมมือแข็งแรงมากุมมือบอบบางของเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทำอย่างในวันนั้นอีก” มัลฟอยพูดอย่างหนักแน่น
และมองเธอด้วยแววตาที่ดูราวกับว่าเขากำลังอ้อนวอนเธออยู่
แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับดึงมือของตัวเองออกการเกาะกุมของมัลฟอยเบา ๆ เด็กหนุ่มมองเธอด้วยความแปลกใจ
“แล้วนายจะไม่รังเกียจฉันหรือ” เด็กสาวพูด “ที่เลือดสีโคลนอย่างฉันจะมานอนห้องเดียวกับนายน่ะ” เธอว่า
พร้อมกับมองตามัลฟอย
“ฉันยอมรับว่าฉันรังเกียจเลือดสีโคลนอย่างเธอ” มัลฟอยพูดตามตรง แววตาสีเงินมองเหม่อไปไกล
“แต่ที่ฉันรังเกียจมากกว่านั้นก็คือสายเลือดของฉันเอง สายเลือดบริสุทธิ์ที่ใคร ๆ คิดว่าสูงส่งนี่ จริง
ๆ แล้วฉันไม่ได้ต้องการมันเลย!” เด็กหนุ่มพูดอย่างปวดร้าว เขาเดินไปหยุดอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
และมองดูภาพที่กระจกสะท้อนกลับมา ภาพเด็กหนุ่มที่เขาเกลียดมากกว่าใครในโลกนี้ ภาพของตัวเขาเอง!
“ถ้าหากว่าเลือดบริสุทธิ์ของฉันสามารถแก้ไขทุกอย่างได้ ถ้ามันสามารถทำให้แม่หายเป็นปรกติได้
ฉันก็จะยอมสละเลือดทุกหยดในร่างกายฉันให้กับเธอ!” พอจบคำพูด มัลฟอยก็ทุปกำปั้นของเขาลงบนกระจก
เพื่อลบภาพสะท้อนที่อยู่ตรงหน้านั้นเสีย เลือดสีแดงเปรอะเปื้อนกระจกอันงาม!
“มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจ และรีบเข้าไปห้ามเขาก่อนที่มัลฟอยคิดจะทำร้ายตัวเองมากกว่านี้!
เด็กสาวรีบเข้าไปดูบาดแผลของเขา และพบว่ามันไม่ใช่แผลเล็ก ๆ เลยทีเดียว
“นายไม่เห็นต้องทำอย่างนี้นี่” เด็กสาวพูดพลางมองตามัลฟอย
“การทำร้ายตัวเองมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอกนะ” เธอว่า พลางจูงมือมัลฟอยไปที่เตียงเพื่อที่จะทำแผล
แต่เด็กหนุ่มกับห้ามเธอไว้ก่อน
“เธอคิดยังไงกับฉันกันแน่ เกรนเจอร์” มัลฟอยถามเฮอร์ไมโอนี่ที่เงยหน้ามองเขาด้วยความแปลกใจ
“เธอรักหรือเกลียดฉันกันแน่” เด็กหนุ่มถามตรง
“ไม่ทั้งสองอย่าง” เฮอร์ไมโอนี่ตอบในทันที เธอไม่หลบสายตาของมัลฟอยแต่อย่างไร
“กรณีของเธอน่ะ มันอยู่ตรงกลางระหว่างเกลียด...........กับรัก” เด็กสาวตอบ
มัลฟอยเอื้อมมือไปลูบแก้มของเฮอร์ไมโอนี่เบา ๆ อย่างเหม่อลอย
“แล้วเธอจะรักฉันได้ไหม............ฉันหมายถึงในอนาคตข้างหน้า” มัลฟอยพูด
“ฉันไม่รู้” เด็กสาวตอบตามตรงและก้มหน้าหลบสายตาของมัลฟอย เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไร
และควรตอบว่าอะไรดีเมื่อมัลฟอยถามเธอแบบนี้ แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่รู้แน่ชัดว่าเธอคิดกับมัลฟอยอย่างไร
แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงได้ยินเสียงหัวใจของเธอดังราวกับเสียงกลองเมื่อยามที่เขาและเธอชิดใกล้กันขนาดนี้ล่ะ
“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร” มัลฟอยพูด เขามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่อ่อนลง ราวกับว่ามันไม่ใช่แววตาที่เดรโก
มัลฟอย มีไว้ใช้มองพวกเลือดสีโคลนอีกต่อไป!
“แต่ตอนนี้ฉันอยากจะขอให้เธออยู่ข้าง ๆ ฉัน” เด็กหนุ่มพูด “เธอไม่จำเป็นต้องรักฉันก็ได้
แต่ฉันขอแค่เธอไม่เกลียดฉัน และอยู่ข้างกายฉันก็พอ เธอจะทำได้ไหม”
เขามองลึกเข้าไปในแววตาของเฮอร์ไมโอนี่
เด็กสาวรู้สึกว่าหัวใจของเธอหวั่นไหวไปยามถูกจ้องมองด้วยดวงตาสีเงินของมัลฟอย
“ถ้าเงียบก็คือตกลง” เด็กหนุ่มพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาทันที
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมตกลงล่ะ” เธอเถียง มัลฟอยยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ตามแบบฉบับของเขา
แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็กลับดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง
“คนรับใช้ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งเจ้านาย เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดอย่างเคร่งขรึม
“ถึงยังไงฉันก็ยังคงเป็นคนรับใช้ของนายอยู่ใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตัดพ้อ
ดวงตาสีน้ำตาลของเธอฉายแววน้อยใจ
“เธอเป็นทาสของฉันเกรนเจอร์” เขาว่า “ทั้งร่างกายและหัวใจของเธอเป็นของฉัน”
มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่หนักแน่นเสียจนเด็กสาวต้องหลบตาเขา
และเมื่อเธอทำเช่นนั้นมัลฟอยจึงใช้มือเชยคางของเธอขึ้นมา
และประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากสีกุหลาบนั้นอย่างนุ่มนวล
.................................................
“อาหารเจ้าค่ะนายน้อย” เอลฟ์ประจำบ้านปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถาดเงินที่ใส่อาหารบำรุงนานาชนิดสำหรับมัลฟอย
แต่เมื่อเด็กหนุ่มสำรวจสำรับอาหารนั้นโดยถี่ถ้วนแล้วเขากลับทำหน้าตาไม่พอใจขึ้นมาเสียเฉย ๆ
“ทำไมมีชุดเดียวล่ะ ฉันสั่งให้ทำมาสองชุดไม่ใช่เรอะ” เด็กหนุ่มพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เอลฟ์ประจำบ้านเริ่มตัวสั่นไปตาม ๆ กัน
“เจ้าค่ะนายน้อย แต่สำหรับของคุณเกรนเจอร์พวกเราเตรียมไว้เธอข้างล่างค่ะ
เพราะนายท่านสั่งไว้ว่าห้ามให้เธอขึ้นมารับประทานอาหารบนตึกนี้เป็นอันขาด” เอลฟ์พูดด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
“แต่ฉันสั่งให้ยกอาหารของเกรนเจอร์ขึ้นมาบนนี้ไม่ใช่เรอะ แล้วแกก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน!”
มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน จนเอลฟ์แม่ครัวขาสั่นพั่บ ๆ
“ก็ใช่เจ้าค่ะ แต่นายท่านสั่งเอาไว้” มันพูด
“ถึงพ่อจะสั่งเอาไว้ก็เถอะ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่
และถ้าแกไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉันล่ะก็ฉันจะปล่อยแกเป็นไทก่อนที่พ่อจะกลับมาด้วยซ้ำ!” เด็กหนุ่มขู่
เอลฟ์สองสามตัวรีบคุกเข่าลงกับพื้น
“นายน้อยได้โปรด อย่าปล่อยเราเป็นไทเลย ได้โปรดสงสารพวกเราด้วยเถอะ”
เอลฟ์ประจำบ้านแต่ละตัวต่างกราบกรานขอร้องมัลฟอย บางตัวถึงกับร้องไห้น้ำตานองหน้า
“ถ้าไม่อยากถูกฉันลงโทษแกก็รีบไปเอาอาหารเย็นของเกรนเจอร์ขึ้นมาที่นี่สิ!” มัลฟอยตะโกน
เอลฟ์ที่เหลือต่างลนลานกลับไปที่ห้องครัวแทบไม่ทัน
เพื่อนำอาหารของเฮอร์ไมโอนี่มาไว้ในห้องของมัลฟอยตามที่เขาต้องการ
ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจมาลงโทษเอลฟ์ที่เหลือทั้งหมด!
เฮอร์ไมโอนี่ลงไปเก็บข้าวของที่จำเป็นของเธอจากห้องพักก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ห้องของมัลฟอยเป็นการชั่วคร
าว แม้มัลฟอยจะขอร้องเธอว่าให้อยู่เป็นเพื่อนเขาในคืนนี้ แต่จริง ๆ
และเฮอร์ไมโอนี่น่าจะพอเดาออกได้ว่ามัลฟอยคงยังไม่ยอมปล่อยเธอได้ไหนง่าย ๆ หรอก
เพราะคนเอาแต่ใจอย่างเขาถ้าต้องการสิ่งใดแล้ว ก็ต้องได้สิ่งนั้นมา ข้อนี้เธอรู้ดี
แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงมาทำดีกับเธอถึงเพียงนี้ด้วย
‘ บางทีเขาอาจจะไม่มีใคร ’ เฮอร์ไมโอนี่คิด บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาขาดความอบอุ่นในตอนเด็กก็เป็นได้
เมื่อมีใครมาเข้าใจเขาสักคนเขาถึงได้ขาดคน ๆ นั้นไม่ได้
แต่ที่เฮอร์ไมโอนี่สงสัยก็คือทำไมต้องเป็นเธอด้วยล่ะ 0
ทำไมมัลฟอยถึงต้องมาญาติดีกับเลือดสีโคลนที่ตอนนี้มีฐานะเป็นคนรับใช้ในบ้านของเขาเช่นนี้ด้วย
แต่ที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจมากมากกว่านั้นก็คือเหตุใดเธอถึงต้องทำตามที่เขาต้องการด้วย
ในเมื่อเขาก็เคยทำเรื่องร้าย ๆ กับเธอมาสารพัด!
‘ ก็แค่ตอนนี้เท่านั้น ’ เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจ
ที่เธอทำดีกับเขาก็เพราะว่าความสงสารและความรู้สึกผิดเท่านั้น
แต่ถ้าจะให้เธอรักเขานั้นเธอไม่มีวันทำได้แน่ เธอไม่มีวันรักศัตรูของเพื่อนรัก
รวมทั้งลูกชายของคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเธอได้เป็นแน่ เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เธอทำให้เขานั้น
มันไม่ใช่ความรัก หรือความรู้สึกดี แต่เป็นเพียงความสงสารเท่านั้น แค่ความสงสารเท่านั้น
เด็กสาวย้ำเตือนกับตัวเอง โดยเฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้เลยว่า ต่อไปในวันข้างหน้า
เธอจะไม่มีทางได้คิดเช่นนี้อีก
.................................................
“เข้ามาสิ” มัลฟอยพูดก่อนที่ประตูจะเปิดออกช้า ๆ
เผยให้เขาเห็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ตรงธรณีประตูอย่างเกรง ๆ พร้อมกับข้าวของของเธอจำนวนหนึ่ง
“มานั่งนี่สิเกรนเจอร์” มัลฟอยเรียกเธอมานั่งบนโต๊ะอาหารที่ถูกจัดไว้ในห้องนอนของเขา
บนโต๊ะมีอาหารเลิศรสนานาชนิด บางอย่างเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนด้วยซ้ำ เด็กสาวนั่งหมิ่น ๆ
ลงบนเก้าอี้ ในขณะที่มัลฟอยสั่งให้เอลฟ์ประจำบ้านรินเครื่องดื่มให้เธอ
“ทานสิ” มัลฟอยบอกเธอ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองอาหารเลิศรสตรงหน้าและตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทานอะไรก่อนดี
“ปรกตินายทานอาหารอย่างนี้ทุกมื้อเลยเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
แม้ว่าปรกติอาหารแต่ละมื้อของครอบครัวมัลฟอยนั้นจะหรูหราอลังการและเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสในปริมาณที่ทานก
ันไม่หวาดไม่ไหว แต่ในคราวนี้เฮอร์ไมโอนี่เห็นได้ชัดว่ามันมีอะไรเป็นพิเศษกว่าทุกวัน
“ก็อย่างนี้แหละ แต่ช่วงนี้ฉันไม่สบายนี่ ก็เลยสั่งให้ห้องครัวทำอาหารบำรุงมามากหน่อย”
มัลฟอยพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ในขณะนั้นเองก็มีเอลฟ์ตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันถือจดหมายซองหนึ่งมายื่นให้มัลฟอย
“จดหมายจากนายท่านค่ะ” เอลฟ์ตัวนั้นพูด มัลฟอยรับมันมาเปิดอ่าน
สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่ออ่านจบ ใบหน้าของมัลฟอยซีดลงจนเฮอร์ไมโอนี่สังเกตุได้
“มีอะไรหรือ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ถาม มัลฟอยหันมาสบตาเธอและรีบพับจดหมายลงในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรหรอก ทานต่อเถอะ” เด็กหนุ่มพูด พยายามทำสีหน้าให้ดูเป็นปรกติมากที่สุด
ก่อนจะหันมาตักเนื้อแกะให้เด็กสาว
.................................................
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เอลฟ์ประจำบ้านก็รีบมาเก็บโต๊ะอาหาร
และมาจัดแจงที่นอนสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ไว้ข้าง ๆ เตียงของมัลฟอยตามที่เธอขอ และเมื่อเสร็จธุระ
เอลฟ์ที่เหลือก็ขอตัวไปทำงานอื่น ๆ ที่คั่งค้างไว้
จนในที่สุดก็เหลือแค่เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยเพียงสองคนเท่านั้น
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปสำหรับเตียงของตัวเอง ในขณะที่มัลฟอยกลับมองมันอย่างขัดใจ
“ความจริงไม่เห็นต้องจัดเตียงอีกเตียงก็ได้นี่” เขาพูด “เตียงของฉันก็ใหญ่พอที่จะนอนกันสองคน” เขาว่า
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หันขวับมองเขาทันที
“เราไม่ได้ตกลงกันไว้อย่างนั้นนี่ ฉันบอกสักคำหรือว่าจะนอนกับเธอน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เถียง
แต่มัลฟอยกลับยิ้มเจ้าเล่ห์
“เธอไม่ได้บอก แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธฉันไม่ใช่หรือ เกรนเจอร์” เด็กหนุ่มพูด
“อย่าเข้าข้างตัวเอง มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เตือน ก่อนจะย่างสามขุมไปที่เตียงของตัวเอง
แต่มัลฟอยกลับรั้งแขนของเธอไว้ก่อน
“แล้วถ้าฉันจะให้เธอนอนบนเตียงฉันล่ะ” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
พร้อมกับหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและเสกเตียงของเฮอร์ไมโอนี่ให้หายไปในพริบตา เด็กสาวอ้าปากค้าง!
“นาย!” เฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะโวยวาย
“คนรับใช้ไม่มีสิทธิ์เถียงเจ้านาย อย่าลืมสิ” เด็กหนุ่มพูดอย่างเป็นต่อ
เฮอร์ไมโอนี่จนปัญญาที่จะต่อปากต่อความกับเขาเธอจึงเดินปึงปังไปยังประตูห้อง
แต่ก่อนที่เธอจะก้าวถึงมันประตูห้องก็ปิดฉับลงต่อหน้าต่อตาเธอ!
เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมาและเธอก็เห็นมัลฟอยหมุนไม้กายสิทธิ์ในมือเล่นอย่างอารมณ์ดี
มัลฟอยก้าวยาว ๆ เข้ามาทางเด็กสาวที่ทำหน้าไม่พอใจอยู่
“บอกแล้วไงว่าเธอไม่มีทางขัดขืนฉัน” มัลฟอยพูดเบา ๆ
“เพราะฉันเป็นทาสนายใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่ต่อให้ทันที
“แล้วนายอยากจะทาสอย่างฉันไปนอนบนที่นอนราคาแพงของนายอย่างนั้นรึ” เด็กสาวประชด
มัลฟอยมองเธอด้วยด้วยดวงตาสีเงินที่ดูหมองเศร้า เด็กหนุ่มตวัดแขนทั้งสองของเขาโอบรอบเอวเฮอร์ไมโอนี่
“ใช่ ถึงเธอจะเป็นทาส จะเป็นเลือดสีโคลน แต่เธอก็เป็นคนเดียวที่เข้าใจฉัน” มัลฟอยพูด
และด้วยน้ำเสียงและท่าทีของเขามันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ใจอ่อนได้ไม่ยาก
“หรือเธอจะปล่อยให้ฉันนอนคนเดียวล่ะ” มัลฟอยจบประโยคสุดท้ายด้วยถ้อยคำที่ราวกับจะอ้อนวอนเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ
“ก็ได้ ฉันตามใจนาย” เด็กสาวพูดอย่างจนใจ
และในไม่ช้ามัลฟอยก็ดึงร่างของไปยังเตียงสี่เสาขนาดใหญ่
ก่อนที่ไฟของทั้งห้องจะดับลงเด็กทั้งสองก็ซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้านวมสีเขียวเข้ม
“มานี่สิ” มัลฟอยพูดก่อนจะดึงร่างของเฮอร์ไมโอนี่มากอดโดยที่เด็กสาวไม่มีโอกาสได้ขัดขืนเขา
มัลฟอยโอบกอดร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่น
เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแบบเช่นเดียวกับในวันที่เธอโอบกอดเขาอีกครั้งหนึ่ง
ความอบอุ่นที่เขาถวิลหามาตลอดทั้งชีวิตของเขา
ร่างสองร่างตระคองกอดกันท่ามกลางความมืดยามราตรี
ร่างหนึ่งคือเด็กหนุ่มสายเลือดบริสุทธิ์ที่ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและเขาต้องการเพียงแค่ใครที่
มาเข้าใจ
อีกร่างหนึ่งคือเด็กสาวที่กำเนิดจากมักเกิ้ลผู้ที่ช่วยรักษาเยียวยาจิตใจของเด็กหนุ่มเพราะความสงสาร
แต่เด็กทั้งสองไม่รู้เลยว่า
ความรู้สึกแปลกประหลาดที่กำลังเริ่มก่อตัวในจิตใจยามที่ได้ชิดใกล้กันนั้นคืออะไรกันแน่
และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปอย่างไรบ้าง
*************************************************
ความคิดเห็น