คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เกมส์ทายใจ: Guessing Game
***Chapter 5 เกมส์ทายใจ: Guessing Game***
หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ผ่านการลองเสื้อผ้าที่พนักงานขายเลือกมาให้ไม่ต่ำกว่าสิบชุด เดรโกก็ลงความเห็นว่าเธอดูดีสุดในชุดเดรสสั้นเสมอเข่าสีน้ำเงินเข้มของวีร่า แวง แม้ว่ามันจะเป็นชุดเรียบ ๆ ไม่ประดับอะไรมากก็ตาม แต่มันก็ทำให้เธอดูสง่างามและดูเรียบหรูในคราเดียวกัน และชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะเลือกเครื่องประดับซึ่งเป็นสร้อยเงินเส้นเล็กประดับคริสตัลและตุ้มหูที่เข้ากัน รวมทั้งรองเท้าและกระเป๋าให้เข้ากับชุดที่เธอใส่ด้วย และเมื่อเขาแน่ใจว่าเขาได้เลือกของที่เธอต้องใช้ในงานให้เธอเสร็จเรียบร้อยโดยไม่ขาดอะไรแล้ว เดรโกก็ส่งบัตรทองของเขาเพื่อให้พนักงานขายคิดเงินและนำของที่เขาซื้อใส่ถุง
เมื่อร่างเล็กของพนักงานขายคนนั้นลับราวแขวนเสื้อไป เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งตอนนี้กลับมาสวมชุดเดิมของเธอก็เข้ามาพูดกับเดรโกด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
“เธอไม่เห็นต้องซื้อของแพงขนาดนั้นให้ชั้นเลย ชุดนั่นแพงมากเลยนะ เดรโก” หญิงสาวพูด แม้เธอรู้ดีว่าเขามีเงินทองมากมายก็ตาม แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เขาใช้เงินของเขาหมดเปลืองไปกับการซื้อของให้เธอแบบนี้
“ชั้นต้องซื้อให้เธอสิ ก็เธออุตส่าห์ไปงานแต่งงานพ่อเป็นเพื่อนชั้นทั้งทีนี่นา” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ยี่หระ ความจริงเขาก็ทำแบบนี้ทุกครั้งที่เขาชวนเธอไปงานสำคัญต่าง ๆ กับเขา แต่ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะไม่ชินกับมันเสียที
“อีกอย่างชั้นก็อยากจะแน่ใจด้วยว่าคู่ควงของชั้นจะสวยที่สุดในงาน” เดรโกพูดพลางยิ้มมุมปากที่ดูกรุ้มกริ่มเหลือเกินในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่มักทำให้สาว ๆ ทุกคนหลงเสน่ห์เขาทันทีที่เขายิ้มออกมา
“ใครเป็นคู่ควงเธอกัน ชั้นไปงานกับเธอในฐานะ.......” เธอเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ชั้นไปงานกับเธอในฐานะเพื่อนต่างหากล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่แก้
“แน่นอน เฮอร์ไมโอนี่ เธอไปงานในฐานะเพื่อนของชั้น เพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น” เดรโกพูดพลางส่งยิ้มให้หญิงสาว
.................................................
หลังจากทั้งสองออกจากแผนกเสื้อผ้าสุภาพสตรี เดรโกกับเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงเตร็ดเตร่อยู่ในห้างต่อเกือบตลอดช่วงบ่าย เนื่องจากพวกเขายังหาของขวัญแต่งงานให้กับเฟลิกซ์ พ่อทูนหัวของเดรโกไม่ได้ แต่หลังจากผ่านการเดินช้อปปิ้งอยู่ในห้างหรูของลอนดอนนานเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง ทั้งสองก็ยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถหาของขวัญแต่งงานที่พวกเขาคิดว่าเฟลิกซ์น่าจะชอบได้ในห้างของมักเกิ้ลแห่งนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกจึงหันไปปรึกษาเฮอร์ไมโอนี่ว่าเขาควรไปหาของขวัญแต่งงานที่ ‘เดอะ ฮิททอรี่’ ดีไหม และเมื่อหญิงสาวบอกว่าเธอเห็นด้วยกับเขา เดรโกก็พาเธอออกจากห้างของมักเกิ้ลแห่งนี้และขับรถไปแถบถนนที่เดอะ ฮิททอรี่ ตั้งอยู่ทันที
เดอะ ฮิททอรี่ เป็นร้านขายของเก่าในลอนดอน แม้คำว่า ‘ของเก่า’ อาจจะดูไม่ค่อยมีราคาและคู่ควรที่จะซื้อเป็นของขวัญแต่งงานนัก แต่ร้านที่เดรโกกับเฮอร์ไมโอนี่จะไปนั้นเป็นร้านที่เขาเป็นลูกค้าประจำมาเป็นเวลานานแล้ว ร้านเดอะ ฮิททอรี่ที่ว่านี้ไม่ได้ขายของเก่าที่หักพังและทรุดโทรมจนซ่อมแซมไม่ได้ แต่มันเป็นร้านที่ขายของโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่างหาก
เดรโกรู้จักร้านนี้เพราะเฮอร์ไมโอนี่แนะนำให้เขามาลองเลือกซื้อของเก่าจากที่นี่เพื่อเอาไปตกแต่งโรงแรมในสก็อตแลนด์ หลังจากเดรโกมาบ่นกับเธอว่าเขายังหารูปภาพไปประดับล็อบบี้ของโรงแรมที่กำลังจะเปิดตัวไม่ได้เลยหญิงสาวจึงแนะนำให้เขาลองมาที่นี่ ตอนแรกเดรโกก็มีความคิดในทางลบกับคำว่า ‘ของเก่า’ เพราะมันทำให้เขานึกถึงของใช้มือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างเขาไม่เคยจับต้องหรือคิดจะซื้อมันมาครอบครอง
แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ที่รู้ทันเขามากกว่าใครทั้งหมดเห็นสีหน้าไม่ประทับใจของเดรโก เธอจึงอธิบายขึ้นมาว่าร้าน ‘เดอะ ฮิททอรี่’ ที่เธอพูดถึงนี้ไม่ใช่ร้านขายของมือสอง แต่เป็นร้านที่ขายสินค้าที่มีคุณค่าในทางโบราณคดี ร้านนี้ขายสินค้าที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ สินค้าที่เป็นโบราณวัตถุผิดกับร้านขายของเก่าทั่ว ๆ ไป และหญิงสาวก็เห็นว่าเดรโกควรจะหาซื้อภาพวาดที่ดูมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และของตกแต่งที่ดูเก่าแก่มีค่าไปประดับโรงแรมของเขามากกว่าจะซื้อภาพเขียนใหม่เอี่ยมไปแขวน เพราะมันคงดูไม่เข้ากับบรรยากาศของโรงแรมที่ถูกดัดแปลงมาจากปราสาทโบราณเลยแม้แต่น้อย
เดรโกยอมจำนนในเหตุผลของเธอ รวมทั้งยอมให้เธอพาเขามาดูของที่ร้านที่เธอพูดถึง ซึ่งในตอนแรกชายหนุ่มมากับเธอเพราะเขาไม่อยากจะขัดใจเธอเท่านั้น แต่ปรากฏว่าหลังจากได้เห็นของที่อยู่ในร้านเดอะ ฮิททอรี่ นี้แล้ว เดรโกก็ต้องเปลี่ยนความคิดทันที เพราะมันเป็นแบบที่เฮอร์ไมโอนี่บอกเขาไว้ทุกอย่าง ร้านนี้มีของโบราณจำนวนมากมายเกินกว่าที่เขาจะเลือกดูไหว ไม่ว่าจะเป็นแจกันโบราณสมัยศตวรรษที่ 17 ภาพเขียนโบราณหายากที่ถูกขายมาจากปราสาทในสกอตแลนด์ (ซึ่งเดรโกซื้อไปตกแต่งโรงแรมของเขาจำนวน 3 ภาพ) ดาบ เชิงเทียน โต๊ะเก้าอี้รูปทรงโบราณ และของใช้โบราณอื่น ๆ อีกมากมายจนเขาเลือกดูแทบไม่ไหว
เมื่อเขาก้าวเข้ามาในร้านนี้เดรโกรู้สึกเหมือนกับเขาหลุดเข้ามาในช่วงที่เวลาเดินถอยหลัง และนั่นมันทำให้เขาเกิดความคิดในการตกแต่งโรงแรมแบบยุคโบราณขึ้นมา และความคิดนี้เองกลับผลักดันให้เขาได้กลายเป็นราชาอสังหาริมทรัพย์ของยุโรปในอีกหลายปีต่อมา รวมทั้งที่เขาได้กลายเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ไปโดยปริยาย
…………………………………………………………..
เมื่อมาถึง เดอะ ฮิททอรี่ เดรโกใช้เวลาเลือกสินค้าไม่นานนักเขาก็สะดุดเข้ากับเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นโบราณที่ยังมีสภาพดีอยู่
“เธอว่าชิ้นนี้เหมาะไหม” เดรโกถามขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับมองสำรวจสิ่งที่เขาถามเธอ
“เธอไม่เอาแจกันยุคราชวงศ์หมิงที่เธอเล็งไว้ตอนแรกแล้วเหรอ” หญิงสาวถาม “แต่ชั้นว่าอันนี้ก็เหมาะกว่านะ”
“ก็จริง เธอก็รู้ว่าชั้นไม่ควรให้ของที่แตกได้เป็นของขวัญแต่งงานเฟลิกซ์ พ่อชั้นยิ่งเป็นคนค่อยไม่รักษาของอยู่ด้วย ถ้าขืนชั้นให้แจกันนั่นไปเวลาพ่อเล่นไล่จับกับเมียใหม่ของเขา พ่อคงจะชนมันล้มพอดี” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเพราะคำพูดของเขา
“ที่ชั้นพูดว่าเหมาะน่ะ หมายความว่าเฟลิกซ์คงไม่ค่อยชอบของตกแต่งสไตส์เอเชียเท่าไหร่ ชั้นว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับคฤหาสน์ของเขาน่ะ” เธอรีบพูด พลางมองหน้าเดรโกด้วยสายตาราวกับเธอต้องการจะบอกเขาว่า ‘นี่เธอคิดเรื่องพวกนี้ได้ตลอดเวลาจริง ๆ เหรอเนี่ย’
“ชั้นก็พูดตามความจริงนี่นา” เดรโกเริ่มปกป้องตัวเองเมื่อเห็นสายตาที่เฮอร์ไมโอนี่ใช้มองเขา “เธอจำนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ชั้นให้เขาเป็นของขวัญงานแต่งงานครั้งที่สามได้มั๊ย ที่เขาทำพังตั้งแต่สามวันแรกน่ะ”
เขาพูดถึงนาฬิกาตั้งโต๊ะทำจากคริสตัลที่เฮอร์ไมโอนี่ช่วยเขาเลือกเป็นของขวัญงานแต่งงานครั้งที่สามของเฟลิกซ์ และเมื่อเดรโกส่งจดหมายไปอวยพรอีกรอบหลังงานแต่งงานพร้อมกับถามพ่อของเขาว่าชอบของขวัญไหม เฟลิกซ์ก็เขียนตอบกลับมาว่า มันแตกเป็นชิ้น ๆ ไปตั้งแต่ตอนเขาไปฮันนีมูนแล้ว เพราะพ่อทูนหัวของเดรโกวางมันไว้บนโต๊ะขณะที่เขากับภรรยาใหม่กำลัง......ขย่มโต๊ะกันอยู่ แล้วดูเหมือนว่าเฟลิกซ์จะออกแรงเยอะไปหน่อย ของขวัญที่ลูกทูนหัวของเขาซื้อให้เลยหล่นลงมาที่พื้นและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แถมยังบาดเท้าเฟลิกซ์อีกต่างหาก
หลังจากนั้นเดรโกก็เขียนจดหมายตอบกลับไปว่า เขาดีใจที่เฟลิกซ์เอาของขวัญของเขาไปฮันนีมูนด้วย และเขาสัญญาว่าเขาจะไม่ซื้อของที่แตกได้ให้เป็นของขวัญเฟลิกซ์อีกแล้ว
“อ๋อ จำได้สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วจู่ ๆ เธอก็หัวเราะขึ้นมา เดรโกเลิกคิ้ว
“หัวเราะอะไรกัน” เขาถามพลางเดินเข้ามาโอบเอวหญิงสาวที่กำลังหัวเราะคิก ๆ อยู่
“เปล่า.....” เฮอร์ไมโอนี่พูด ใบหน้าแดงกล่ำเพราะกำลังกลั้นหัวเราะอยู่ “ชั้นแค่คิดว่าชั้นคงลำบากน่าดูเวลาเธอแต่งงานน่ะ” เธอมองสีหน้างงงวยของเดรโกแล้วก็พูดต่อ
“ชั้นหมายถึง ชั้นคงเลือกของขวัญให้เธอยากน่าดู น่าจะยากยิ่งกว่าเฟลิกซ์อีกมั้ง........แต่ชั้นก็พอจะนึกออกอยู่อย่างนึงนะ” หญิงสาวเสริม
“ที่ว่านึกออกนั่นนั่นมันอะไรกันล่ะ” เขาถามเฮอร์ไมโอนี่ที่ใบหน้าเริ่มเป็นสีจัดอีกครั้ง
“กุญแจมือซักอันมั้ง” เธองึมงำออกมา “เผื่อเจ้าสาวของเธอกลัวเธอจะหนีไปไหน จะได้มัดเธอไว้กับเตียงไง” หญิงสาวหัวเราะ
“ไม่รู้ยักแฮะว่าเธอก็ทะลึ่งเป็นกับเขาด้วย” เดรโกพูดอย่างประหลาดใจหน่อย ๆ
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขา และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่รอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มใจเต้นแรง เดรโกมองภาพเธออย่างหลงใหลพลางคิดว่าเธอดูสวยมากเวลาที่เธอยิ้ม แต่เมื่อชายหนุ่มรู้ตัวว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาก็รีบลบความคิดนั้นออกไปจากหัวทันที
“แต่อย่าห่วงเลย เฮอร์ไมโอนี่ เธอคงไม่มีวันได้ให้ของขวัญงานแต่งงานกับชั้นหรอก” เดรโกพูดพลางปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ “เธอก็รู้ดีว่าชั้นไม่อยากแต่งงาน” สีหน้าของเขาดูเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อพูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตเห็นมัน
“ชั้นก็รู้ว่าเธอคิดแบบนี้ ก็ตอนนี้เธอยังหนุ่ม แถมเสน่ห์แรงอีกต่างหาก มันก็คงยากถ้าหากเธอจะทิ้งอิสระพวกนั้นมาแต่งงานกับใครซักคน เรื่องนี้ชั้นพอเข้าใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่เดรโกกลับส่ายหน้า
“แต่ชั้นก็ไม่ได้อยากอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตหรอกนะ ชั้นแค่คิดว่าวันนึงชั้นอาจจะเจอผู้หญิงที่รักชั้นจริง ๆ ก็ได้” หญิงสาวเลิกคิ้วกับคำพูดของเขา
“แต่เท่าที่ชั้นเห็นเธอก็มีคนรักเธอออกเยอะแยะนี่นา เดรโก สาว ๆ ในสต๊อกเธอก็มีออกเป็นเบือ แต่เธอกลับพูดเหมือนเธอขาดความรักอย่างนั้นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกไปโดยไม่ทันได้คิดเสียให้ดีก่อน และเมื่อเธอเห็นสายตาของเดรโกที่มองกลับมามันก็ทำให้เธอรู้ว่าเธอคงพูดอะไรผิดไป
“เธอก็รู้นี่นาเฮอร์ไมโอนี่ ว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้รักชั้นจริง ๆ เลยซักคน พวกหล่อนรักความร่ำรวยของชั้น รักชื่อเสียงของชั้น รักรูปร่างภายนอกของชั้น แล้วก็.....” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“รักที่จะอยู่บนเตียงของเธอ” เธอต่อให้ เดรโกพยักหน้า “แต่เธอเองก็ไม่ได้รักพวกหล่อนนี่ แล้วเธอจะแคร์อะไร” เฮอร์ไมโอนี่ถาม แม้ว่าคำถามนั้นจะฟังดูตรงไปตรงมาและออกจะแทงใจดำเดรโกอยู่มากก็ตาม แต่หญิงสาวก็มองเขาด้วยสายตาเป็นห่วงขณะถามคำถามนั้นกับเขา
“ชั้นไม่แคร์เลยเรื่องที่ผู้หญิงพวกนั้นไม่รักชั้นตราบเท่าที่พวกหล่อนยังให้ความสุขกับชั้นได้ แต่ที่ชั้นแคร์ก็คือ......” เดรโกเว้นจังหวะ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง
‘แต่ที่ชั้นแคร์ก็คือเธอ ชั้นกลัวว่าวันนึงเธอจะจากชั้นไป ชั้นกลัวว่าวันนึงจะมีใครมาแย่งเธอไปจากชั้น และเธอจะไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ชั้นอีกต่อไป’
เดรโกคิดอย่างสับสน แต่ก็เป็นเหมือนครั้งที่แล้ว เมื่อชายหนุ่มรู้ตัวว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขาก็รีบลบความคิดนั้นออกไปจากสมองอย่างรวดเร็ว
เฮอร์ไมโอนี่มองเดรโก เธอรอให้เขาพูดประโยคต่อมาอยู่ แต่ชายหนุ่มไม่ยอมสบตาเธอ เขาเหลือบมองไปยังเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่คิดว่าจะซื้อเป็นของขวัญแต่งงานให้เฟลิกซ์
“เธอก็รู้ว่าการที่ได้เห็นพ่อทูนหัวของตัวเองแต่งงานหลายครั้งขนาดนั้น มันทำให้ชั้นกลัวขึ้นมา ชั้นกลัวว่าวันนึงฉันอาจจะเป็นแบบเขา ชั้นกลัวว่าวันนึงชั้นอาจจะต้องอยู่คนเดียว วันนึงที่ชั้นหาผู้หญิงดี ๆ มาเป็นคู่ชีวิตด้วยไม่ได้......ชั้นอาจจะต้องแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่ากับผู้หญิงที่รักฉันเพียงเพราะเงินเท่านั้น” เดรโกสารภาพออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรจึงทำให้เขาพูดความในใจของเขาออกมาเสียหมดเปลือกแบบนี้ ความในใจที่เขาไม่ควรจะให้ใครก็ตามรับรู้ แม้กระทั่งเฮอร์ไมโอนี่ที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา เพราะเมื่อเขาทำเช่นนั้นก็เท่ากับเขาได้แสดงด้านที่อ่อนแอของเขาให้เธอเห็น ตัวตนด้านที่เขาอยากจะซ่อนไว้ให้ลึกที่สุดเพื่อไม่ให้ใครพบเจอ เขาอีกคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนละคนกับเดรโก มัลฟอย หนุ่มเพลย์บอยเจ้าสเน่ห์ที่ไม่เคยจริงจังในเรื่องของความรัก
ในใจลึก ๆ เดรโกกลัวว่าเฮอร์ไมโอนี่จะหัวเราะกับสิ่งที่เขาพูด แต่เปล่าเลย เธอไม่ได้ทำเช่นนั้นแต่เธอกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน เธอลูบแขนเขาเบา ๆ และพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม
“ชั้นแน่ใจว่าเธอจะไม่มีวันเป็นแบบเฟลิกซ์แน่นอน เดรโก” เธอพูดอย่างมั่นใจ “เพียงแต่วันนึงที่เธอพบผู้หญิงที่เธอรัก เธอต้องบอกผู้หญิงคนนั้นว่าเธอรักเขา ว่าเธอต้องการจริงจังกับเขา และที่สำคัญเธอต้องเลิกเจ้าชู้ด้วย” หญิงสาวย้ำ เดรโกทำหน้าเหยเก
“ถ้าเธอทำอย่างนั้นได้ ชั้นว่าคงไม่มีผู้หญิงดี ๆ คนไหนที่จะปฏิเสธเธอได้ลงหรอก” หญิงสาวพูด
เดรโกยิ้มให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่ดีกับเขาเสมอมา เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เพื่อนที่เขาจะไม่มีวันยอมเสียไปเป็นอันขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าวันข้างหน้าเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็จะยังคงเป็นเพื่อนกับเธอตลอดไป และที่สำคัญเดรโกจะไม่มีวันยอมสูญเสียเธอไปเพราะความคิดชั่ววูบของเขาอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่มีวันยอมให้อารมณ์หวั่นไหวชั่วครู่มาทำลายมิตรภาพของเธอและเขาอย่างแน่นอน
“ทีเธอยังปฏิเสธชั้นเสียไม่มีดีเลยคืนนั้นน่ะ แถมยังว่าหน้าตาชั้นเหมือนตัวเฟเร็ตอีกด้วย” เขารำลึกความหลังขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่ค้อนเขาเข้าควับใหญ่
“ก็เธอจะปล้ำชั้นนี่นา จะให้ชั้นยอมเธอง่าย ๆ งั้นเหรอ อ้อ อีกอย่าง ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนนั้นเธอก็ยังหน้าเหมือนตัวเฟเร็ตอยู่ดี” หญิงสาวเสริมพลางบีบจมูกเรียวของเขาแรง ๆ เดรโกร้องออกมา
“โอ๊ย เจ็บนะ ยายบ้า!” เขาปัดมือเธอออกพลางคลำจมูกตัวเอง
“สมแล้ว ตาบ้า!” เธอว่าพลางสะบัดหน้าหนี
“รู้งี้คืนนั้นปล้ำเสียให้เข็ดก็ดี” เดรโกพึมพำออกมา เฮอร์ไมโอนี่หันมาทางเขา
“ว่าไงนะ!” หญิงสาวเหวขึ้นมา พลางมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาน่ากลัว
“เปล๊า!” เขารีบกลบเกลื่อน “ว่าแต่ว่าตกลงเครื่องเล่นแผ่นเสียงนี่ดีแล้วใช่ไหม ชั้นจะได้คิดเงินแล้วให้เขาห่อของขวัญซะที” เดรโกเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วพลางโอบไหล่เฮอร์ไมโอนี่แล้วพาเธอเดินไปยังเคาเตอร์ด้านหน้าของร้าน
.................................................
เมื่อทั้งสองซื้อของขวัญแต่งงานให้เฟลิกซ์เสร็จก็เป็นเวลาเย็นเสียแล้ว หลังจากออกจากเดอะ ฮิททอรี่ เดรโกก็พาเฮอร์ไมโอนี่ไปยังที่สุดท้ายที่เขาและเธอต้องไปด้วยกันทุกอาทิตย์ มันคือร้านขนมที่ขายดีที่สุดในลอนดอนซึ่งทั้งสองมาทานด้วยกันทุกครั้งที่ออกมาข้างนอกในวันอาทิตย์ แม้ว่าบางครั้งเดรโกกับเฮอร์ไมโอนี่จะต้องยืนรอต่อคิวเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ตาม
ความจริงแล้วเดรโกเป็นคนไม่ชอบทานขนมหวานเลย เขาคิดว่าของหวานมีไว้สำหรับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอกสามศอกเช่นเขา แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่พาเขามาทานขนมเค้กที่ร้านนี้ความคิดของเดรโกก็เปลี่ยนไปในทันที ชายหนุ่มนึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาเพิ่งชนะคดีความกับทางกระทรวงและรอดพ้นจากการถูกยึดทรัพย์มาอย่างหวุดหวิดเพราะความช่วยเหลือของเฮอร์ไมโอนี่ทนายสาวมือดีที่เขาจ้างมาทำคดีให้ จนบัดนี้เธอได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนของเขาแทน
หลังจากการพิจารณาคดีผ่านไปและเขาพ้นข้อกล่าวหาแล้ว เดรโกก็รับปากว่าจะพาเฮอร์ไมโอนี่ไปเลี้ยงขอบคุณ เขาบอกเธอว่าเธอสามารถพาเขาไปร้านไหนก็ได้ตามแต่เธอต้องการ ในตอนแรกเดรโกคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเลือกร้านอาหารอิตาลี่ราคาแพง หรือร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูบนโรงแรมห้าดาวให้คุ้มกับค่าเหนื่อยในการทำคดีที่ยากเย็นให้เขา แต่ปรากฏว่าหญิงสาวกลับพาชายหนุ่มไปทานร้านอาหารจีนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งตรงหัวมุมถนนที่ดูไม่น่าเข้าเสียเลยในความคิดของเดรโกเมื่อเขาเห็นมันในตอนแรก (แต่หลังจากได้ลองทานแล้ว เดรโกก็พบว่าอาหารของร้านนั้นอร่อยมากทีเดียว)
หลังจากทานอาหารจีนเสร็จแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็พาเขาไปทานขนมเค้กในร้านที่มีชื่อว่า ‘ซัมซิงส์สวีท’ ต่อ ในตอนแรกเดรโกอยากจะปฏิเสธเพราะเขาเป็นคนไม่ชอบทานของหวานใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะว่าเขาเป็นคนเอ่ยปากบอกเธอเองว่าเธอสามารถเลือกร้านที่อยากจะทานได้ตามใจชอบ ชายหนุ่มจึงไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ เดรโกจำได้ว่าวันนั้นเขากับเฮอร์ไมโอนี่ยืนรอต่อคิวเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เข้าไปในร้าน แต่ชายหนุ่มก็ไม่บ่นซักคำกับการรอคอยที่ออกจะไร้สาระบ้างก็ตามในความคิดของเขาตอนนั้น แต่เดรโกกลับประท้วงออกไปเป็นครั้งแรกเมื่อเฮอร์ไมโอนี่สั่งเค้กเผื่อเขาที่นึง
ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงตอนนั้น
.................................................
“เอาเค้กช็อกโกแลตครีมฟัดจ์สองที่ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับพนักงานเสิร์ฟหลังจากกวาดสายตาผ่านเมนูที่อยู่ในมือเพียงแค่แวบเดียว ราวกับเธอคิดมาแล้วว่าต้องการสั่งอะไร
“นี่เธอจะกินคนเดียวสองชิ้นเลยเหรอ” เดรโกพูดอย่างทึ่ง ๆ เขาไม่รู้มาก่อนว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนโปรดปรานเค้กขนาดนี้ แถมหุ่นเพรียวบางของเธอจึงทำให้เขาดูไม่ออกเลยว่าเธอเป็นคนกินเก่งแต่อย่างไร
“ใครว่าล่ะ ชั้นสั่งให้เธอต่างหาก” เธอพูด
“สั่งให้ชั้นทำไม ใครบอกว่าชั้นจะกินกัน” ชายหนุ่มพูดพลางวางแก้วชาในมือลง
“ลองซักนิดไม่เสียหายหรอกน่า เค้กร้านนี้อร่อยจะตาย” หญิงสาวชวน
“ไม่เอาล่ะ ชั้นไม่ชอบของหวาน ชั้นว่าชั้นสั่งให้เค้าเอาอีกชิ้นใส่กล่องให้เธอดีกว่านะ” เดรโกทำท่าจะเรียกพนักงานเสิร์ฟเพื่อเปลี่ยนแปลงออเดอร์ แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับพูดขึ้นมาก่อน
“มิน่าล่ะ หน้าตาถึงเป็นอย่างนี้” เธอบ่นออกมาเบา ๆ ก่อนจะยกชาขึ้นมาจิบ เดรโกหันมามองเธอ
“หน้าตาชั้นเป็นยังไง” ชายหนุ่มถาม นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่ยายหัวฟูนี่วิจารณ์เรื่องหน้าตาเค้าเนี่ย
“ก็หน้าบูดอยู่ตลอดเวลาไงล่ะ คิ้วก็ขมวดกันจนแทบจะเป็นปมอยู่แล้ว” เธอพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ “ตอนแรกนึกว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดเสียอีก ที่ไหนได้ก็เพราะไม่ยอมกินของหวานนี่เอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะที่เดรโกทำหน้างง ๆ
“ชั้นไม่กินของหวาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่หน้าชั้นบูดกัน” เขาถามขึ้นอย่างงง ๆ ในขณะที่หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยอมรับแล้วสิว่านายน่ะหน้าบูดอยู่ตลอดเวลาน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูด เดรโกเพิ่งรู้ว่าเขาหลงกลเธอเข้าเสียแล้ว
“ยาย!.....” ชายหนุ่มกำลังจะย้อนเธอบ้าง แต่เป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานเสิร์ฟเข้ามาเสิร์ฟเค้กเสียก่อน เดรโกจึงได้แต่ทำปากขมุบขมิบออกมาคล้าย ๆ กับคำว่า ‘ยายหัวฟู’ มากทีเดียว
เมื่อพนักงานเสิร์ฟเดินจากไป เฮอร์ไมโอนี่ก็หันมาจัดการเค้กของตนเองอย่างอารมณ์ดี โดยมีเดรโกที่นั่งหน้าบูดอยู่ตรงข้ามเธอ เขาไม่ยอมแตะเค้กตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งหญิงสาวพูดขึ้น
“ทานซะสิ เดี๋ยวหน้าเธอก็บูดไปมากกว่านี้หรอก”
“ชั้นไม่เห็นว่าการกินไอ้ขนมบ้านี่หรือไม่มันจะเกี่ยวกับหน้าตาของฉันตรงไหนเลย” เดรโกสวนขึ้นมา
“เกี่ยวสิ การกินของหวานทำให้อารมณ์ดีรู้มั๊ย แล้วจากการที่เธอไม่กินของหวานเลยแบบนี้ ชั้นก็พอจะเข้าใจว่ามันเป็นต้นเหตุให้เธอทำหน้าเครียดได้ตลอดเวลา” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น
เดรโกอ้าปากจะเถียงว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย ที่เขาทำหน้าเครียดอยู่ตลอดเวลานั่นก็เพราะ......เพราะ......ช่างเถอะ ชายหนุ่มคิดพลางหลบตาเธอแล้วมองไปทางอื่น เขาไม่ต้องการจะพูดออกไปหรอกว่าจริง ๆ แล้วที่หน้าตาเขาดูเครียดอยู่ตลอดเวลานั้นมันเป็นเพราะเขาไม่ค่อยจะมีความสุขกับชีวิตในช่วงที่ผ่านมานี้เท่าไหร่นัก
เดรโกหันกลับมาทางเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง แล้วพบว่าเธอกำลังทานขนมเค้กอย่างเอร็ดอร่อย
“มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ” ชายหนุ่มถามขึ้นมา
“อยากรู้ก็ลองดูสิ” หญิงสาวพยักหน้าไปทางเค้กของเขาที่ไม่มีร่องรอยถูกแตะต้อง
“ไม่ล่ะ.....ชั้นให้เค้าเอาใส่กล่องให้เธอกลับไปทานที่บ้านดีกว่า” เขามองขนมเค้กตรงหน้าพลางนึกอะไรขึ้นมาได้ “เว้นแต่ว่า......” เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขา
“เว้นแต่อะไร” เธอถาม มือหนึ่งถือส้อมค้างอยู่
“เว้นแต่เธอจะป้อนฉัน” ชายหนุ่มตอบพลางมองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“อย่ามาทำรุ่มร่ามกับชั้นนะ มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่แหวขึ้นมา ใบหน้าเป็นสีแดง
“ใครว่าชั้นรุ่นร่ามกัน แค่ป้อนหน่อยเดียวเอง ไม่สึกหรอหรอกน่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อหญิงสาวมองเขาตอบด้วยสายตาแบบเดียวกับที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลใช้เปี๊ยบชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาควรหยุดแกล้งเธอได้แล้ว
“โอเค ๆ ชั้นลองกินดูก็ได้” เดรโกพูดอย่างยอมแพ้ ก่อนจะส้อมจิ้มเค้กเข้าปาก
.................................................
“เดรโก เดรโก!” หญิงสาวเรียก
“หือ” ชายหนุ่มตื่นมาจากภวังค์ เขาเผลอนึงถึงเรื่องราวเมื่อเกือบสิบปีก่อน ตอนที่เขาและเฮอร์ไมโอนี่มาทานเค้กที่ร้านนี้เป็นครั้งแรก ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่คนปัจจุบันมองเขาอย่างระอา
“เมื่อคืนนอนไม่พอหรือไง ถึงได้ยืนเหม่อแบบนี้น่ะ” หญิงสาวแขวะเขา เดรโกเลิกคิ้ว
“ชั้นไม่ได้เหม่อซะหน่อย ว่าแต่เมื่อกี๊เธอพูดถึงไหนนะ” ชายหนุ่มพูด เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาด้วยสายตาราวกับจะพูดว่า ‘เนี่ยนะไม่ได้เหม่อ!’
ทั้งสองกำลังยืนต่อแถวซื้อขนมของร้านซัมซิงส์สวีทอยู่ ซึ่งเป็นร้านเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนี่พาเขามาทานเมื่อเกือบสิบปีก่อนแล้วแดรโกก็เริ่มติดใจของหวานตั้งแน่นั้นเป็นต้นมา
“เรากำลังเล่นเกมส์ทายใจกันอยู่ แล้วจู่ ๆ เธอก็เหม่อไปซะก่อน” เธอพูด เกี่ยวแขนของเธอรอบแขนของเดรโกและพาเขาเดินตามแถวที่ร่นขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองมายืนต่อแถวอยู่อย่างนี้เป็นเวลากว่าสิบห้านาทีแล้ว แต่มันก็มักจะเป็นอย่างนี้เสมอ และเนื่องจากทั้งสองต้องรอนานขนาดนี้เดรโกเลยคิดเกมส์ขึ้นมาเล่นระหว่างที่เขาและเธอยืนรอต่อคิวอยู่ มันชื่อว่า ‘เกมส์ทายใจ’ พวกเขามักจะเล่มเกมส์นี้เสมอเวลาที่มาต่อแถวซื้อขนมร้านนี้
“แล้วเราเล่นถึงไหนแล้วล่ะ” ชายหนุ่มถามขึ้น หญิงสาวมองหน้าเขา
“เธอกำลังทายว่าชั้นจะสั่งอะไร.......แล้วเธอก็ยังตอบไม่ถูกด้วย” เธอเสริมด้วยท่าทางนึกสนุก
“อืม.....ชั้นทายอะไรไปบ้างแล้วนะ” เดรโกทำท่าเหมือนเขากำลังใช้ความคิด “เค้กช็อกแลตครีมฟัดจ์ทายไปรึยัง”
“ไปแล้ว” หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้ม
“งั้นอะไรดีล่ะ........ไวท์ช็อคโกแลตครีมเค้กรึเปล่า” เขาทาย เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า แววตาของเธอดูขี้เล่นและซุกซนราวกับเด็ก ๆ
“อืม.......บราวนี่ครีมชีส” เขาลองอีกครั้ง คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอีกหนเช่นกัน
“ของโปรดของชั้นนอกจากช็อกโกแลตครีมฟัดจ์ไง จำไม่ได้เหรอ” เธอใบ้ให้ และเดรโกก็คิดออกทันที
“บลูเบอรี่ชีสเค้ก” เขาตอบ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า
“เก่งมาก” เธอยิ้มให้เขา “คราวนี้ตาชั้นบ้างนะ.......อืม ไวท์ช็อกโกแลตชีสเค้กรึเปล่า” เธอลองทาย เดรโกส่ายหน้า เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าคิดอีกรอบ
“อืม........คาปูชิโน่บัตเตอร์เค้กแน่เลย เห็นเธอทำหน้าง่วง ๆ อยู่” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้ม
เดรโกส่ายหน้าอีกครั้ง พลางเสริมว่า “ชั้นก็กินกาแฟไปแล้วตอนเช้านะ”
“อืม......งั้นก็คงไม่ใช่ไอริชคอฟฟี่เค้กด้วยใช่มั๊ย” เธอลองทายอีกครั้ง และชายหนุ่มก็ส่ายหน้าอีกหน นั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่คิดหนักมากขึ้น
“มงต์บลังก์รึเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ลองอีกที แต่เดรโกก็ส่ายหน้าอีกจนได้
“ชั้นยอมรับนะว่าชั้นคิดจะสั่งมงต์บลังก์ แต่ชั้นเปลี่ยนใจเสียก่อน” เขาพูดพลางส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว
“งั้นอะไรอีกล่ะ” เธอพึมพำ เท่าที่เธอทายไปมันก็จะหมดอยู่แล้ว แต่เธอยังทายไม่ถูกเลยว่าเดรโกอยากสั่งอะไรในวันนี้ “ชีสเค้กแมคคาเดเมียราดบัตเตอร์สก็อต” เธอลองอีกครั้ง คราวนี้เดรโกก็หัวเราะออกมา
“ไม่ถูกเลยเฮอร์ไมโอนี่ เฉลยดีกว่ามั้ง แต่ความจริงเธอไม่น่าลืมเลยนะ ท่าทางจะมือตกแล้วนะเนี่ย” ชายหนุ่มพูดยั่ว หญิงสาวรีบยกมือห้ามเขา
“เดี๋ยว ๆ ๆ ยังก่อน” เธอกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดแบบเดียวกับที่เธอทำเวลาเจอคำถามยาก ๆ ราวกับเธอต้องการเอาคำตอบที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากออกมา
“แบล็กฟอร์เรส!” เธอร้องออกมา เดรโกยิ้มกว้างให้เธอ
“ในที่สุดก็ถูกซะที” ชายหนุ่มพูดพลางโอบไหล่เฮอร์ ไมโอนี่แล้วพาเธอเดินตามแถวที่เริ่มร่นขึ้นไป
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น