ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Dark Princess:เจ้าหญิงแห่งความมืด [เฮอร์ไมโอนี่/ลูเซียส]

    ลำดับตอนที่ #4 : The Memories: ความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 55





    ***Chapter 4 The Memories: ความทรงจำ****

     

    สิ่งที่จอมมารต้องการก็คือทายาทคนสุดท้ายที่สืบเชื้อสายจากโรวีน่า  เรเวนคลอ  ใช่แล้วเมอซิเออร์ซิลเวีย  ผมหมายถึงลูกสาวของคุณ”  ลูเซียส  มัลฟอยพูดกับสีหน้าตกตะลึงของเมอซิเออร์ซิลเวีย

    คุณว่าอะไรนะ!” ใบหน้าของเมอซิเออร์ซิลเวียที่ขาวซีดอยู่แล้วกลับซีดยิ่งขึ้นเมื่อเขาได้รู้ว่าจอมมารต้องการสิ่งใดจากเขาจนถึงกับส่งผู้เสพความตายมาหาเขาถึงที่นี่

    ผมแน่ใจว่าคุณได้ยินสิ่งที่ผมพูดชัดเจนดีแล้ว  เมอซิเออร์ลูเซียสย้ำกับสีหน้าตกตะลึงของชายหนุ่มตรงหน้า  สายตาของเมอซิเออร์ซิลเวียเหลือบไปยังประตูห้องรับแขกอย่างหวาดระแวง  ราวกับเขากลัวว่าเมื่อนายลูเซียสพูดจบเขาจะเดินออกจากห้องรับแขกขึ้นไปชั้นบนแล้วเข้าไปลักพาตัวลูกสาวของเขาไป

    ผมไม่เข้าใจว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใคร.......จะต้องการตัวลูกสาวของผมไปทำไมเขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา  ขณะที่นายมัลฟอยยังคงยิ้มกริ่ม

     

     “คุณเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ เจ้าหญิงแห่งความมืด บ้างไหม  เมอซิเออร์ซิลเวียเขาถามขึ้น  ขณะที่เมอซิเออร์ซิลเวียมีสีหน้างุนงง  นายลูเซียสวางแก้วในมือลง  เขายิ้มเยือกเย็นให้กับสีหน้างุนงงของชายหนุ่มตรงหน้า

    แน่นอนว่าคงไม่  เพราะผมเองก็เพิ่งได้ยินเรื่องของเธอเมื่อไม่นานมานี้เอง  และที่สำคัญผมแน่ใจว่านักพยากรณ์ที่ผมได้ฟังคำทำนายอันนี้มาคงไม่เคยบอกเรื่องคำทำนายของเธอให้แก่ใครเขาเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้  นายลูเซียสเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเตาผิงในห้องนั่งเล่นของบ้านซิลเวีย  แววตาสีเงินของเขาจ้องมองเปลวไฟที่กำลังเต้นรำอยู่ในเตาผิงอย่างเยือกเย็น

    ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก  มีนักพยากรณ์คนหนึ่งได้ทำนายเกี่ยวการกำเนิดของเจ้าหญิงแห่งความมืดไว้  คำทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่า  ในอนาคตเจ้าหญิงคนนี้จะกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับสงครามครั้งยิ่งใหญ่  และหากฝ่ายใดได้ตัวเธอไป  ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้มีชัยในสงคราม.....ลูเซียสเริ่มเล่าช้า ๆ แต่เมอซิเออร์ซิลเวียกลับขัดจังหวะเขาเสียก่อน

    ผมไม่เห็นว่าเรื่องเจ้าหญิงแห่งความมืดมันจะเกี่ยวอะไรกับที่จอมมารต้องการตัวลูกสาวของผมเลย!” เมอซิเออร์ซิลเวียระเบิดเสียงออกมา  เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่  ดวงตาสีน้ำตาลดูเกรี้ยวกราด  ลูเซียสหันมาเผชิญหน้าเขาช้า ๆ ชายหนุ่มผมบลอนด์มองเมอซิเออร์ซิลเวียด้วยดวงตาสีเงินเยือกเย็นของเขา

    แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างมากทีเดียว  เมอซิเออร์ซิลเวียลูเซียสพูดเสียงเย็น เพราะคำทำนายนั้นได้บอกไว้ว่าเจ้าหญิงแห่งความมืดจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้  และจะถือกำเนิดจากทายาทคนสุดท้ายของเรเวนคลอเขาพูด  ในขณะที่เมอร์ซิเออร์ซิลเวียอ้าปากค้าง  เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรงหลังจากนายลูเซียสพูดจบ  ในขณะที่ลูเซียส  มัลฟอยเดินกลับมาที่ชุดรับแขกอีกครั้ง  เขามองไปยังเมอซิเออร์ซิลเวียที่นั่งอยู่บนโซฟา  ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ ชายหนุ่ม 

     

    .................................................

     

    มันต้องใช้เวลาราวหนึ่งนาทีในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่  กว่าเมอซิเออร์ซิลเวียจะสามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้  หรือไม่เขาก็อาจจะเข้าใจทุกอย่างที่นายลูเซียสบอกเขาตั้งแต่แรกแล้ว  เพียงแต่สิ่งที่ชายหนุ่มผมบลอนด์เพิ่งบอกเขาไปเมื่อครู่นั้นมันร้ายแรงเกินกว่าที่เขาจะทำใจรับมันได้โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อย  เพราะเท่าที่เด็กสาวเห็น  สีหน้าของเมอซิเออร์ซิลเวียดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด  มือทั้งสองข้างของเขากุมแก้วเหล้าไว้ในมือแน่นราวกับเขาต้องการบีบมันให้แตกคามือ

    แต่ไม่นานนักเมอซิเออร์ซิลเวียก็เงยหน้าขึ้นมองลูเซียส  มัลฟอย  ที่มีสีหน้าสบาย ๆ ราวกับพวกเขากำลังเจรจาธุรกิจธรรมดา ๆ กันอยู่  ไม่ใช่การมาบอกว่าจอมมารต้องการตัวลูกสาวของเขา

    ผมแน่ใจว่าครอบครัวของคุณสืบเชื้อสายมาจากโรวีน่า  เรเวนคลอถูกต้องไหม  เมอซิเออร์เขาพูดเสียงนุ่ม  เมอซิเออร์ซิลเวียพยักหน้าเบา ๆ

    และลูกสาวของคุณก็เกิดในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงด้วยลูเซียสเสริมกับสีหน้าซีดเผือดของเมอซิเออร์ซิลเวีย  เขาพยักหน้าเบา ๆ อีกครั้ง  ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ

    เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็คงไม่ได้เข้าใจผิดว่าลูกสาวของคุณเป็นทายาทคนสุดท้ายของเรเวนคลอ  และเป็นเจ้าหญิงแห่งความมืดที่ผมกำลังตามหาอยู่เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจมากกว่าครั้งใด

    ทำไมเจ้าแห่งศาสตร์มืดต้องการตัวลูกสาวของผมเมอซิเออร์ซิลเวียพูดขึ้นมา  ลูเซียสมองหน้าเขาแล้วเหยียดยิ้ม

    เห็นได้ชัดว่าคุณมีนิสัยชอบถามสิ่งที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วนะ  เมอซิเออร์เขาใช้คำพูดที่เคยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่  หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ  นายลูเซียสนำคำพูดที่เขาเคยใช้พูดกับเมอซิเออร์ซิลเวียมาพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ตอนที่เธออยู่ที่กองปริศนา

    จอมมารต้องการตัวเจ้าหญิงแห่งความมืดเพราะเธอคือกุญแจสำคัญของสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต  คำทำนายกล่าวไว้ว่าหากฝ่ายใดได้ตัวเธอไปอำนาจของเธอจะชักนำให้ฝ่ายนั้นมีชัยในสงครามและจอมมารเองก็ต้องการตัวเธอเพื่อชัยชนะของท่านลูเซียสอธิบาย

    ลูกสาวของคุณจะเปรียบเหมือนอาวุธที่ทรงพลังสำหรับท่าน  เมื่อท่านได้ตัวเธอมาอยู่ฝ่ายท่านแล้ว  ลูกสาวของคุณจะช่วยให้อำนาจมืดเติบโตขึ้น  เธอจะเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคนในสงครามครั้งยิ่งใหญ่นั้น  เธอจะเป็นเช่นดังชื่อของเธอในคำทำนาย  เจ้าหญิงแห่งความมืด  เธอจะช่วยให้จอมมารได้รับชัยชนะในสงครามต่อพวกที่บังอาจต่อต้านท่าน  เธอจะทำให้ท่านได้ครอบครองโลกเวทย์มนต์ดังที่ท่านปรารถนา  เธอจะนำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มากกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์มาให้แก่ท่าน  และคุณก็คงรู้ดีนะเมอซิเออร์ว่าเจ้านายของผมไม่เคยพ่ายแพ้เช่นเดียวกับที่ท่านไม่เคยพลาดหวังในสิ่งที่ท่านต้องการลูเซียสจบประโยคพลางมองเมอซิเออร์ซิลเวียด้วยดวงตาสีเทาเยือกเย็นของเขา  ดวงตาที่เปิดเผยให้เห็นถึงความกระหายอำนาจในตัวชายหนุ่ม

    แต่ผมไม่ต้องการให้ลูกสาวของผมเป็นผู้เสพความตาย!” เมอซิเออร์ซิลเวียแผดเสียงออกมาอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ใบหน้าของเขาขาวซีดและดูหวาดกลัวมากกว่าครั้งก่อนยิ่งนัก  ดวงตาสีน้ำตาลของเขาแสดงออกถึงความสิ้นหวังและหวาดกลัวอย่างชัดเจน  ราวกับเขาเพิ่งได้รับรู้ว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดในชีวิตได้กลายเป็นความจริงแล้ว

    คุณคงเข้าใจอะไรผิดเสียแล้ว  เมอซิเออร์ลูเซียสพูดด้วยเสียงนุ่มดุจแพรไหมซึ่งขัดกับท่าทีตื่นตระหนกของคู่สนทนาของเขาเป็นอย่างมาก

    ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาตัวลูกสาวคุณไปเป็นผู้เสพความตาย  จอมมารไม่ได้ต้องการเช่นนั้นเมอซิเออร์ซิลเวียมีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่นายลูเซียสพูด

    ลูกสาวของคุณจะได้เป็นมากกว่าผู้เสพความตาย  เพราะเธอมีค่ามากกว่าจะเป็นเพียงแค่สมุนรับใช้ของจอมมาร  จอมมารจะให้เธอมาเป็นที่ปรึกษาของท่าน  เป็นมือขวาของท่าน  จอมมารต้องการมันส์สมองของเธอ  ความชาญฉลาดของเธอที่ได้รับการสืบทอดมาจากแม่มดผู้ยิ่งใหญ่  โรวีน่า  เรเวนคลอ  เธอจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับท่านในการแผ่ขยายอำนาจมืด  และถ้าโชคดีเธออาจจะได้เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของท่านด้วยซ้ำ  เมื่อลูกสาวของคุณเติบโตขึ้นเธอจะได้เป็นอย่างที่คำทำนายกล่าวไว้  เธอจะเป็นเจ้าหญิงแห่งความมืด  อำนาจที่เธอมีจะอยู่เหนือผู้เสพความตายทุกคน  รวมถึงตัวผมเองด้วยลูเซียสอธิบาย  ขณะที่เมอซิเออร์ซิลเวียมีสีหน้าซีดขาวราวกระดาษ  เพราะสิ่งที่นายลูเซียสพูดให้เขาฟังนั้นมันเลยร้ายกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากนัก

     

    .................................................

     

    เมอซิเออร์ซิลเวียก้มหน้าลงจ้องแก้วในมืออีกครั้ง  เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เดาว่าเขาคงลำบากใจไม่ใช่น้อย  ความเงียบเริ่มปกคลุมห้องรับแขกของบ้านซิลเวียทันทีที่นายมัลฟอยพูดจบ  แต่ไม่นานนักแขกผู้ไม่ได้รับเชิญของบ้านหลังนี้ก็เอ่ยบางสิ่งบางอย่างเป็นการทำลายความเงียบขึ้น

    ผมเข้าใจดีว่าคุณคงไม่อยากให้ลูกสาวของคุณเข้าสู่ด้านมืดเท่าไหร่ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ  ในขณะที่เมอซิเออร์ซิลเวียมองเขาด้วยสายตาแปลกแปร่ง

    คุณไม่มีวันเข้าใจหรอกเมอซิเออร์ซิลเวียโพล่งออกมา  น้ำเสียงและสีหน้าของเขาที่แสดงออกมาทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขาไม่เชื่อที่นายลูเซียสพูดแม้แต่น้อย 

    แน่นอนว่าผมเข้าใจคุณ  ผมเองก็กำลังจะมีลูกเขาพูดเสียงเรียบพลางคว้าแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะมาจิบอีกครั้ง ภรรยาของผมเพิ่งตั้งครรภ์  อีกไม่นานผมก็จะได้เป็นพ่อคนเหมือนกับคุณ  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น......

    แล้วคุณยังจะทำอย่างนี้อีกหรือเมอซิเออร์ซิลเวียถามขึ้นมา  ลูเซียสเลิกคิ้ว

    ขอโทษที..........เขามีสีหน้าสงสัย

    ผมพูดว่า  คุณยังจะอยากรับใช้เจ้าแห่งศาสตร์มืดอยู่อีกหรือ  ทั้ง ๆ ที่คุณก็มีครอบครัว คุณก็มีคนที่คุณรักและเป็นห่วงคุณ  แล้วทำไมคุณต้องอุทิศชีวิตของคุณให้กับคนที่คุณก็รู้ว่าใครด้วยลูเซียสมีสีหน้าแปลกใจกับคำถามนั้นไม่น้อย  แต่เขาก็ยอมตอบออกมาโดยดี

    แน่นอนว่าผมรับใช้ท่านเพราะความเต็มใจและนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการ  ส่วนภรรยาของผมเธอก็รู้เรื่องนี้ดี  และเธอ.....ก็เห็นด้วยกับผมนายลูเซียสเอ่ยประโยคสุดท้ายอย่างแผ่วเบาราวกับเขากำลังโกหกอยู่

    แต่มันคงไม่ใช่สำหรับผม!  ภรรยาของผมคงไม่ยอมแน่  หากรู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไรเมอซิเออร์ซิลเวียพูดตามตรง

    ผมแน่ใจว่าคุณสามารถเกลี้ยกล่อมเธอได้  อย่างน้อยเธอก็ดูเชื่อฟังคุณดีเขาพูดราวกับเขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ภรรยาจะต้องเชื่อฟังสามี

    แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ  ถ้าหากคนที่คุณก็รู้ว่าใครต้องการตัวลูกของคุณไปรับใช้  คุณจะยอมไหมเมอซิเออร์ซิลเวียถามขณะจ้องตานายมัลฟอย 

    ลูเซียสจ้องเขาตอบพลางยิ้มมุมปาก

    แน่นอนว่าผมคงอึดอัดใจไม่น้อย ถ้าต้องอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับคุณ  แต่ผมบอกได้เลยว่าการรับใช้จอมมารนั้นเป็นเกียรติอันสูงสุดของลูกของผมเขาตอบกับสีหน้าตกตะลึงของชายหนุ่มตรงหน้า

    แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะเมอซิเออร์ซิลเวียพูด  ดวงตาสีน้ำตาลของเขาฉายแววเด็ดเดี่ยว ถ้าผมไม่ยอมยกลูกสาวของผมให้ท่านล่ะลูเซียสเหลือบมองเขาทันทีที่เมอซิเออร์ซิลเวียพูดจบ  ดวงตาสีเงินของเขาดูเยือกเย็นกว่าทุกครั้งที่เด็กสาวเคยเห็น  เฮอร์ไมโอนี่ที่บังเอิญสบตาเขาในตอนนั้นพอดีรู้สึกราวกับเลือดของเธอจับเป็นก้อนแข็ง

    ผมแน่ใจว่าคุณคงฉลาดกว่านี้นะ  เมอซิเออร์  คุณก็รู้ว่าเจ้านายของผมต้องได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ  และท่านก็จะทำทุกทางเพื่อให้ได้มันมา  อีกอย่าง  ครอบครัวคุณคงไม่อาจมีศัตรูไปมากกว่านี้อีกแล้วลูเซียสพูดด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม  ราวกับเขาเพิ่งใช้ไพ่ใบสุดท้ายเล่นงานเมอซิเออร์ซิลเวีย  ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามนั้นหน้าซีดเผือด

    ผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณมีศัตรูอยู่ทั่วฝรั่งเศสเลยทีเดียว  พวกเขาเชื่อกันไปผิด ๆ ว่าคุณมีรัดเกล้าของเรเวนคลออยู่  พวกเขาเลยต้องการครอบครองมันและอยากแย่งชิงมันไปจากคุณ  ครอบครัวของคุณเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้คุณเลยต้องหนีมาซ่อนตัว  ผมพูดถูกไหมลูเซียสพูดด้วยท่าทางรู้ทัน  ขณะที่เมอซิเออร์ซิลเวียมีสีหน้าตกตะลึง

    แล้วผมก็บังเอิญรู้มาว่าที่ครอบครัวคุณต้องลำบากขนาดนี้  ก็เพราะก่อนหน้านี้คุณมีเรื่องกับตระกูลโกริยาร์ด  พวกเขาก็เลยปล่อยข่าวลือว่าคุณมีรัดเกล้าอยู่ในครอบครองเพื่อที่จะเล่นงานคุณ  และผมคิดว่าทั้งหมดนี่คงเป็นฝีมือของฟรองซัวส์  โกริยาร์ด  ผมพูดถูกต้องไหมชายผมบลอนด์พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ในขณะที่ผู้ฟังของเขานั้นดูโกรธเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด

    ฟรองซัวส์  โกริยาร์ดมันเป็นได้สารเลว!” เมอซิเออร์ซิลเวียแผดเสียงขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด  ราวกับเขาได้แปลงร่างเป็นเสือร้ายในฉับพลัน

    มันพยายามจะลวนลามชาร์ล็อตในงานเลี้ยงของมัน  ดีเท่าไหร่แล้วที่ผมตามเข้าไปช่วยเธอได้ทัน  ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่อยากจะนึกเลยว่ามันจะทำอะไรเธอบ้าง  แต่ไอ้สารเลวนั่นยังมีหน้ามาพูดอีกว่ามันต้องการตัวเธอ  มันบอกให้ผมยอมยกเธอให้มันเสียดี ๆ ไม่งั้นครอบครัวของผมจะต้องเดือดร้อน  แต่ผมไม่ยอม  ผมไม่มีวันยอมยกภรรยาของผมให้ใคร  พอมันไม่สมใจมันก็เลยไปปล่อยข่าวเรื่องรัดเกล้านั่นเพื่อให้พ่อมดคนอื่นมาตามล่าครอบครัวของผมเป็นการแก้แค้น!” เมอซิเออร์ซิลเวียระเบิดเสียงออกมาอย่างคับแค้นใจ  แววตาสีน้ำตาลที่ดูคงแก่เรียนของเขาราวกับจะลุกเป็นไฟ  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดว่าเธอจะได้เห็นมันในสภาพนี้

    ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ  คงไม่มีผู้ชายคนไหนยอมเสียภรรยาของตัวเองให้คนอื่นอย่างแน่นอน  รวมทั้งผมด้วยลูเซียสพูดอย่างเคร่งขรึม แต่ผมเกรงว่าคุณอาจจะต้องยอมเสียบางสิ่งบางอย่าง  บางอย่างที่คุณสามารถสูญเสียได้  เพื่อปกป้องภรรยาของคุณ  รวมทั้งตัวคุณเองด้วยเมอซิเออร์ซิลเวียเงยหน้าขึ้นมองเขาทันทีที่เขาพูดจบ

    คุณหมายความว่า.....

    อย่างที่คุณคิด  เมอซิเออร์  จอมมารต้องการตัวลูกสาวของคุณ  และท่านก็จะไม่ให้คุณต้องเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไปโดยเปล่าประโยชน์แน่นายมัลฟอยพูดเสียงนุ่ม

    สิ่งที่คุณจะได้รับถ้าคุณยอมส่งลูกสาวของคุณมาให้ผมก็คือความปลอดภัยของครอบครัวคุณ  ผมสัญญาว่าครอบครัวของคุณจะได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดีจากผู้เสพความตาย  ถ้าคุณยอมยกลูกสาวของคุณให้จอมมาร  ผมจะเป็นผู้รักษาความลับให้ครอบครัวของคุณเอง  ครอบครัวของคุณจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้เสพความตายจะสามารถทำได้

     

    ผม.....สีหน้าของเมอซิเออร์ซิลเวียเปลี่ยนไปในทันที  เฮอร์ไมโอนี่บอกได้ว่าเขาเริ่มสับสน

    แต่เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของผมเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขมขื่น

    ผมเข้าใจลูเซียสทำหน้าเห็นใจ  ซึ่งในความเห็นของเฮอร์ไมโอนี่เธอคิดว่าเขาช่างเล่นละครได้เก่งเสียเหลือเกิน แต่คุณกับภรรยายังสามารถมีลูกได้อีกเมื่อครอบครัวของคุณปลอดภัย  คุณกับเธอก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องหวาดกลัวเหมือนอย่างที่พวกคุณเป็นอยู่ทุกวันนี้  ผมจะเป็นคนรับรองความปลอดภัยของพวกคุณเองเขาเสริม

    แต่.....ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมีสีหน้าลำบากใจอย่างที่สุด  เขากำลังลังเลอย่างเห็นได้ชัด แล้วถ้าผมมอบเธอให้กับจอมมาร  ใครจะเป็นคนเลี้ยงเธอต่อจากผม.....ครอบครัวของคุณอย่างนั้นหรือ

    เกรงว่าจะไม่ใช่ลูเซียสตอบออกมาในทันที

    จอมมารได้คิดไว้แล้วว่าจะให้ใครเป็นคนเลี้ยงดูเจ้าหญิงให้แก่ท่าน  มีผู้เสพความตายคู่หนึ่งที่เป็นสามีภรรยากัน  พวกเขาเป็นสมุนที่จงรักภักดีของท่าน  ครอบครัวของพวกเขายังไม่มีทายาท  จอมมารจึงเห็นว่าครอบครัวของพวกเขาน่าจะเหมาะสมที่สุดที่จะเลี้ยงดูเจ้าหญิงให้แก่ท่าน  แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม  ผมก็คงได้เจอลูกสาวของคุณอยู่ไม่น้อยทีเดียว  เพราะภรรยาของครอบครัวที่ผมพูดถึงนี้เป็นพี่สาวของภรรยาของผมนายลูเซียสพูดถึงแผนการของจอมมาร 

    เฮอร์ไมโอนี่หายใจกระตุกทันทีเมื่อเธอรู้ว่าใครจะเป็นคนเลี้ยงดูเด็กคนนั้นถ้าหากเมอซิเออร์ซิลเวียยกลูกของเขาให้แก่จอมมาร  เพราะครอบครัวที่นายลูเซียสกำลังพูดถึงนั้นก็คือครอบครัวเลสแตรงค์  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหญิงคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างไรเมื่อมีเบลลาทริกซ์เป็นแม่  แค่คิดเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อยากนึกภาพต่อแล้ว

    เมอซิเออร์ซิลเวียนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่ง

    เมื่อถึงตอนนั้นผมก็คงไม่ได้พบกับเธออีกแล้วใช่ไหมเขาถามขึ้น  ลูเซียสยิ้มมุมปาก

    ผมเกรงว่าจะใช่  เมอซิเออร์  เมื่อคุณยกเจ้าหญิงให้จอมมารแล้ว  คุณจะไม่มีสิทธ์จะได้พบเธออีก  และเธอก็จะไม่รู้ด้วยว่าคุณเป็นพ่อของเธอ  คุณจะต้องตัดขาดจากเธอทุกประการเพราะนั่นคือสิ่งที่จอมมารต้องการเขาพูด

    ถ้าอย่างนั้นผม.....

    ผมไม่อยากให้คุณรีบร้อนตัดสินใจเกินไป  คุณซิลเวีย  คุณควรจะคิดให้รอบคอบเสียก่อนนายมัลฟอยพูดอย่างเคร่งขรึม  เขาดูพอใจมากที่ได้เห็นความสับสนในดวงตาสีน้ำตาลของชายหนุ่มตรงหน้า

    ผมจะให้เวลาคุณสามวันในการตัดสินใจ  และเมื่อถึงตอนนั้นผมจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง  และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจจากคุณลูเซียส  มัลฟอยพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้  ธุระในการเจรจาของเขาครั้งนี้ได้จบลงแล้ว  และเมื่อดูจากสีหน้าของเขามันน่าจะจบลงด้วยดีเสียด้วย

    แล้วเจอกันอีกครั้ง  เมอซิเออร์เขาบอกลาเมอซิเออร์ซิลเวียก่อนจะเดินไปยังประตูห้องรับแขก  นายลูเซียสเปิดมันออก  แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากห้อง  ชายหนุ่มผมบลอนด์ก็หันกลับมาหาชายผมสีน้ำตาลอีกครั้งราวกับเขาเพิ่งนึกขึ้นได้

    อ้อ  ผมขอเตือนไว้ก่อนด้วยนะว่าอย่าพยายามคิดหนี  เพราะสายของผมคอยจับตาดูคุณอยู่ตลอดเวลา  โอวัวร์ [ลาก่อน] แล้วพบกันใหม่ลูเซียส  มัลฟอยทิ้งท้ายไว้เช่นนั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปและภาพทั้งหมดก็ดำมืดลงอีกครั้ง

     

     

     

    *************************************************   

     

     

    ในไม่กี่อึดใจความมืดที่ดูราวกับมีม่านสีดำผืนใหญ่ตกลงมาคลุมร่างของเฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มจางหายไป  เมื่อเด็กสาวรู้สึกตัวอีกครั้งเธอก็พบว่าเธอกำลังยืนอยู่ในบ้านตระกูลซิลเวียเหมือนก่อนหน้านี้  เพียงแต่ที่แตกต่างไปนั้นคือสภาพของบ้านที่เธอกำลังยืนอยู่  เพราะตอนนี้เท่าที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นภายในบ้านตระกูลซิลเวียที่เคยดูเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านกลับถูกรื้อร้นเสียแทบไม่มีชิ้นดี  เก้าอี้บุนวมหักพังเป็นชิ้น ๆ เครื่องแก้วและของตกแต่งที่ดูมีราคาถูกกวาดมากองลงกับพื้น  ตู้โชว์และชั้นวางของถูกเปิดออก  ของทุกชิ้นถูกรื้อกระจายเต็มบ้าน  ราวกับผู้บุกรุกต้องการหาสิ่งของบางชิ้นในบ้านหลังนี้มากกว่าต้องการจะทำลายมันเฉย ๆ

    สายตาของเฮอร์ไมโอนี่มองผ่านโถงทางเดินไปพบเข้ากับร่างของนายลูเซียสในอดีต  เขามองไปรอบบ้านด้วยท่าทีตกใจ  ไม้กายสิทธิ์ในมือยกขึ้นสูงในเชิงระวังภัย  เห็นได้ชัดว่าลูเซียส  มัลฟอยไม่ได้เป็นตัวการที่ทำลายบ้านตระกูลซิลเวียเสียจนเกือบย่อยยับเช่นนี้  แต่เขาเข้ามาพบบ้านหลังนี้ตอนที่มันอยู่ในสภาพนี้แล้วต่างหาก

    นายลูเซียสเดินอย่างระมัดระวังเข้าไปในห้องรับแขก  เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเขาเข้าไปและพบว่ามันถูกรื้อค้นเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของบ้าน  ใบหน้าของนายมัลฟอยขาวซีดเมื่อเขาเห็นห้องรับแขกถูกรื้อกระจุยกระจาย  ชายหนุ่มมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องราวกับเขาต้องการหาสัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตในห้อง ๆ นั้น  แต่เมื่อเขาไม่สามารถหามันพบพอ ๆ กับที่เขาไม่รู้ว่าลูกสาวของตระกูลซิลเวียอยู่ที่ใด  ใบหน้าของนายมัลฟอยก็ยิ่งขาวซีดลงกว่าเดิม

    ลูเซียส  มัลฟอยยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น  ก่อนจะพึมพำขึ้นมาว่า โฮเมนัม  ริเวลิโอซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ดูรู้ว่ามันเป็นคาถาสำหรับให้มนุษย์แสดงตัว  หากว่ายังมีมนุษย์อยู่ในบ้านหลังนี้อีกล่ะก็  แต่จู่ ๆ ก็มีแสงสีเงินพุ่งจากปลายไม้กายสิทธิ์ของลูเซียสออกมา  มันพุ่งออกจากห้องรับแขกไป  ชายผมบลอนด์เริ่มมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่พุ่งออกมาจากไม้ของเขา  เขารีบตามมันไปทันที

    แสงสีเงินนั้นนำลูเซียส  และเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินตามเขามายังชั้นสองของบ้านตระกูลซิลเวีย  แวบแรกที่เด็กสาวก้าวขึ้นบันไดบ้านเธอสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ของบ้านหลังนี้พอ ๆ กับที่เธอสัมผัสได้ที่บ้านตระกูลแบล็ก  แต่ดูเหมือนบ้านตระกูลซิลเวียหลังนี้จะให้ความรู้สึกที่ดีว่ากริมโมลด์เพลซเลขที่สิบสองมากนัก

    เฮอร์ไมโอนี่เดินตามลูเซียสขึ้นบันไดไป  เธอเห็นรูปวาดจำนวนมากมายแขวนอยู่บนฝาผนังตรงทางขึ้นบันได  เธอเดาว่ามันคงจะเป็นรูปของสมาชิกตระกูลซิลเวียรุ่นที่แล้ว ๆ มา  เด็กสาวเดินมองมันมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย  และเธอก็เห็นรูปวาดของสองสามีภรรยาซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคือเมอซิเออร์และมาดามซิลเวีย  แต่น่าแปลกเหลือเกินที่มาดามซิลเวียคนนั้นช่างมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับเธอยิ่งนัก 

    เฮอร์ไมโอนี่หยุดตรงบันไดขั้นสุดท้ายเพื่อมองรูปของทั้งสองใช้ชัดเต็มมา  ชาร์ล็อต  ซิลเวียมีรูปหน้าแบบเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่เลย  หล่อนมีริมฝีปากแบบเดียวกับเด็กสาว  จมูกรั้นของทั้งคู่ก็ช่างเหมือนกันยิ่งนัก  ยกเว้นเพียงดวงตาของทั้งสองเท่านั้น  มาดามซิลเวียมีดวงตาสีฟ้าสดใสและเส้นผมสีบลอนด์หยักศกที่ต่างจากเฮอร์ไมโอนี่   เธอละสายตาจากรูปของมาดามซิลเวียไปยังสามีของเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลเช่นเดียวกับเธอ  และตาของเขา  ตาของเขาเหมือนกับตาสีช็อคโกแลตของเธอเหลือเกิน  แถมมันยังแฝงไว้ด้วยแววฉลาดและคงแก่เรียนอย่างที่เธอมีด้วย  เฮอร์ไมโอนี่มองทั้งสองคนแล้วพลันคิดว่าถ้าหากเธอบอกใครว่าทั้งคู่เป็นพ่อกับแม่ของเธอ  ก็คงมีคนเชื่อเธอเป็นแน่  เพราะเธอช่างเหมือนพวกเขาเสียเหลือเกิน

     

    แต่มัน.....มันจะเป็นได้อย่างไร  มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก  ก็เธอมีพ่อแม่ของเธออยู่แล้วนี่นา

     

    เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างสับสน  แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นและปลุกเธอขึ้นจากภวังค์  เด็กสาวรีบหันไปทางต้นเสียงพร้อมกับไปยังที่มาของมันทันที  ในตอนแรกเธอก็ไม่รู้ว่าเสียงที่เธอได้ยินคืออะไร  แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปยืนอยู่ตรงที่เกิดเหตุเธอก็สามารถเข้าใจทุกอย่างได้จากภาพที่เธอเห็นตรงหน้า

    เพราะภาพที่เธอเห็นก็คือ  ชายผมสีน้ำตาลคนหนึ่งซึ่งก็คือเมอซิเออร์ซิลเวียกำลังนอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นชั้นสองของบ้าน  ในขณะที่ชายผมบลอนด์ซึ่งแน่นอนว่าคือลูเซียส  มัลฟอยกำลังคุกเข่าลงและก้มไปดูชายคนที่บาดเจ็บ  เสียงที่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเมื่อครู่เป็นเสียงไอของเมอซิเออร์ซิลเวียนั่นเอง  แต่จะพูดว่าไอก็คงไม่ถูกนัก  เพราะเมอซิเออร์กำลังสำลักเลือดของเขาออกมาทางริมฝีปาก  ชายหนุ่มพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา

    เกิดอะไรขึ้นลูเซียสถามกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของเมอซิเออร์ซิลเวีย  เขาดูแย่มากในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่  เธอคิดว่าเขาน่าจะถูกทำร้ายด้วยคาถาอันตรายหลายต่อหลายอันก่อนที่นายลูเซียสจะมาพบเข้า  และที่สำคัญก็คือเขายังไม่ตาย  คนที่ทำร้ายเขาไม่ยอมเสกคาถาพิฆาตเพื่อปลิดชีวิตเขาในตอนท้าย  พวกมันทิ้งเขาไว้ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและปล่อยให้เขาตายไปอย่างช้า ๆ

    พวกมัน......หาเราเจ......มันจับตัวชาร์ล็อตไป.......คนของฟรองซัว.......จับตัวเธอไป.........”  เมอซิเออร์ซิลเวียพูดออกมาอย่างยากลำบาก  เลือดทะลักออกมาจากริมฝีปากและบาดแผลเกือบทั่วทั้งกายของเขา  จนเสื้อคลุมของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือด

    อยู่นิ่ง ๆ ผมจะรักษาคุณให้ลูเซียสพูดพลางยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น  แต่เมอซิเออร์ซิลเวียกลับจับมือของเขาไว้แทน

    สายไปแล้ว.......ฟังผมนะ......ฟังให้ดี.......ผมซ่อนลูกของผมไว้ในห้องนอน......ผมใช้ผ้าคลุมล่องหนคลุมเธอไว้.......ในแปลเด็ก.......ช่วยพาเธอไปจากที่นี่ด้วย.......เขาพยายามพูดอย่างยากลำบาก  แววตาสีน้ำตาลดูมุ่งมั่นราวกับเขากำลังดิ้นรนอย่างสุดแรงเกิดเพื่อยืดชีวิตต่อไปอีกวินาทีหนึ่ง

    ลูเซียสพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    สัญญากับผมมาก่อน.......ว่าคุณจะดูแลเธออย่างดีที่สุด........ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.......สัญญากับผมเมอซิเออร์ซิลเวียพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนเฮอร์ไมโอนี่ใจหาย  เธอรู้สึกถึงน้ำใส ๆ ที่เอ่อล้นดวงตาของเธอ  แต่เด็กสาวก็ไม่อาจบอกได้ว่าเธอร้องไห้ทำไม

    ผมสัญญา  ผมสัญญาว่าผมจะดูแลลูกสาวของคุณอย่างดีลูเซียสรับปากพลางบีบมือเขา  เมอซิเออร์ซิลเวียยิ้มบาง ๆ แววตาของเขาดูผ่อนคลายลงมาก  ราวกับคำขอครั้งสุดท้ายของเขาได้เป็นความจริงแล้ว  นายซิลเวียพูดออกมาเป็นครั้งสุดท้าย

    ฝากเธอด้วยลูเซียสพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเห็นแสงสว่างค่อย ๆ หายลับไปจากดวงตาสีน้ำตาลที่ดูคงแก่เรียนคู่นั้น

     

    .................................................

     

    หลังจากเมอซิเออร์ซิลเวียสิ้นใจ  นายลูเซียสก็ละจากร่างของเขาและตรงไปยังห้องนอนของบ้านซิลเวียทันที  ชายหนุ่มผลักประตูที่แง้มอยู่ให้เปิดออก  ข้างในเป็นห้องขนาดไม่กว้างขวางเท่าไหร่นักถูกตกแต่งแบบห้องนอนเด็กทั่ว ๆ ไป  ลูเซียสมองสำรวจรอบห้องก่อนที่จะตรงไปยังแปลเด็กที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างซึ่งมันดูว่างเปล่าในสายตาของเขา

    ลูเซียสยกไม้กายสิทธิ์ในมือขึ้นพร้อมกับพึมพำคาถา  และบางสิ่งก็ลอยขึ้นมาจากแปลเด็กพร้อมกับการปรากฏตัวของทารกผมสีน้ำตาลในห่อผ้า  สิ่งที่ลอยขึ้นมานั้นตกอยู่แทบเท้าของนายลูเซียส  เฮอร์ไมโอนี่รู้ทันทีว่ามันเป็นผ้าคลุมล่องหน

    นายมัลฟอยก้าวข้ามผ้าคลุมที่อยู่แทบเท้าเขาไปอย่างไม่ใส่ใจ  ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ริมแปลเด็ก  เขาอุ้มทารกในแปลไว้ในอ้อมแขน  เด็กสาวเพิ่งสังเกตเห็นตอนนั้นเองว่าที่คอของทารกมีสร้อยที่มีจี้รูปนกอินทรีแขวนอยู่  มันเป็นเส้นเดียวกับที่เธอเห็นมาดามซิลเวียใส่  และมันก็เป็นเส้นเดียวกับที่เธอกำลังใส่อยู่ในตอนนี้ด้วย!

    ลูเซียส  มัลฟอยมองดูทารกในอ้อมแขนด้วยสีหน้าพอใจ  ราวกับเขาได้สิ่งที่เขาต้องการมาอยู่ในมือแล้ว  แม้ว่ามันออกจะผิดแผนการของเขาไปบ้างก็ตาม  ในขณะเดียวกันทารกน้อยก็จ้องเขาตอบอย่างไม่กลัวเกรง  ดวงตาสีน้ำตาลของเธอดูแปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นเขา  แต่มันก็ไม่ได้แสดงออกถึงอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย  หนูน้อยไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของปีศาจร้ายเสียแล้ว!

    ชายหนุ่มผมบลอนด์อุ้มทารกไม่อ้อมแขนก่อนจะเดินออกไปจากห้องไป  เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเขาลงบันไดไปยังห้องโถงของบ้าน  ลูเซียสเดินอย่างรวดเร็วขณะที่อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขน  อีกมือหนึ่งของเขาก็ถือไม้กายสิทธิ์ไว้ในเชิงระวังภัย  มันบอกให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขาต้องการจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดพอ ๆ กับที่เขาไม่ต้องการให้เกิดอะไรผิดพลาดขึ้นในช่วงสุดท้ายแบบนี้

    ลูเซียสรีบเดินไปตามโถงทางเดินที่ถูกทำลายเสียย่อยยับของบ้านหลังนี้  เขากำลังจะถึงประตูบ้านอยู่แล้วขณะที่เขาหยุดฝีเท้าลงจนเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินตามมาติด ๆ แทบจะชนเข้ากับเขาในความทรงจำ  เด็กสาวรีบหยุดฝีเท้าในทันทีก่อนจะคิดได้ว่าถึงเธอหยุดไม่ทันจริง ๆ เธอก็ไม่มีทางชนเขาอย่างแน่นอน  เพราะเธอสามารถทะลุผ่านตัวเขาในความทรงจำไปได้  และเมื่อเธอเห็นว่านายลูเซียสยังคงยืนหยุดนิ่งอยู่หน้าเธอโดยไม่มีท่าทีว่าจะขยับเขยื้อนไปไหน  เด็กสาวจึงเบี่ยงตัวไปด้านข้างเพื่อมองให้ชัดเจนว่าสาเหตุที่ทำให้นายลูเซียสต้องหยุดอย่างกะทันหันนั้นคืออะไร  และเธอก็พบว่ามีร่าง ๆ หนึ่งยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าตรงข้ามกับชายหนุ่มผมบลอนด์

    ไม้กายสิทธิ์ของลูเซียสยกขึ้นและชี้ไปที่ร่างที่มาใหม่นั่น  ใบหน้าซีดเซียวของเขาดูเกรี้ยวกราดและตกใจในคราเดียวกัน  ในขณะที่ร่างที่ยืนอยู่ตรงประตูนั้นมีท่าทีสงบนิ่งตามแบบฉบับของเขา  ร่างนั้นเป็นคนที่เฮอร์ไมโอนี่จำได้เป็นอย่างดีแม้ว่าเธอจะอยู่ในความทรงจำในอดีตเกือบยี่สิบปีก่อนก็ตาม  เพราะเขาดูไม่เปลี่ยนไปจากปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย

     

    ร่างที่ว่านั้นคือ  อัลบัส  ดัมเบิลดอร์!

     

     

     

    *************************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×