คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ช้อปปิ้งที่ลอนดอน: Shopping at London
***Chapter 4 ช้อปปิ้งที่ลอนดอน: Shopping at London***
“เธอคิดว่าชั้นจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้เค้าดีน่ะ” เดรโกพูดขึ้นขณะที่เขาและเฮอร์ไมโอนี่กำลังเดินเล่นอยู่ในห้างสรรพสินเค้าชั้นนำของลอนดอน (หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาเกลี้ยกล่อมเธออยู่นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมมาเป็นเพื่อนช่วยเลือกของขวัญให้เขา)
“ชั้นไม่ไปงานแต่งพ่อเธออีกแล้วนะ เดรโก” หญิงสาวพูดขึ้นขณะที่เดรโกกำลังเลือกดูเครื่องแก้วลวดลายโบราณอยู่
“ขอบคุณครับ” เขาหันไปพูดกับพนักงานขายก่อนจะเดินตามเธอออกนอกร้าน
“โธ่ เฮอร์ไมโอนี่ เธอไปเป็นเพื่อนชั้นหน่อยนะ ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น” เขาออดอ้อน
“เห็นครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้” หญิงสาวย้อน “ทำไมเธอไม่ชวนกิ๊กใหม่ซักคนไปแทนชั้นล่ะ”
“ก็เพราะมันเป็นงานของครอบครัวน่ะสิ” ชายหนุ่มบอก “ชั้นไม่อยากผิดกฎ”
“อ๋อ จริงสินะ กฎที่ว่าจะไม่พาไปเจอครอบครัว กลัวว่าหล่อนจะเข้าใจผิดว่าเธอจริงจังด้วย เธอเลยต้องชวนชั้นไปแทนใช่มั๊ย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้ทัน
“น่านะ เฮอร์ไมโอนี่ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ คราวหน้าชั้นค่อยหาคนอื่นไปแทนก็ได้” เขาพูดพลางโอบไหล่เธอ เดรโกมักทำแบบนี้ทุกครั้งที่เขาต้องการให้เธอช่วยอะไร และหญิงสาวก็มักจะใจอ่อนทุกครั้งไป แต่ว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งอื่น ๆ
“ขอชั้นคิดดูก่อนละกัน” เธอพูดพลางแกะมือเขาออกจากไหล่ แม้น้ำเสียงของเธอจะฟังดูเคร่งขรึม แต่เดรโกก็รู้ดีว่าหญิงสาวใจอ่อนให้เขาเกินครึ่งแล้ว
“เธอก็รู้นี่นา เฮอร์ไมโอนี่ ว่าชั้นไม่อยากไปงานแต่งนั่นเหมือนกัน แต่จะให้ชั้นทำยังไงได้ล่ะก็เขาเป็นพ่อทูนหัวของชั้นนี่” ชายหนุ่มพูดตามตรง
“ชั้นนึกว่าเธออยากไปเสียอีก เผื่อจะได้เพื่อนเจ้าสาวของว่าที่แม่เลี้ยงติดมือกลับมาซักคนสองคน” เธอพูดอย่างรู้ทัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย” เดรโกพูดเสียงอ่อย เธอหาเรื่องกัดเขาได้ตลอดเชียวเกี่ยวกับความเป็นเพลย์บอยของเขาน่ะ
“ที่ชั้นไม่อยากไปก็เพราะชั้นไม่อยากเห็นพ่อแต่งงานใหม่อีกน่ะสิ” ชายหนุ่มพูด หญิงสาวมีสีหน้าแบบที่บอกได้คำเดียวว่า ‘อ๋อเหรอ ชั้นนึกว่าเธออยากจะเจริญรอยตามเขาเสียอีก’ และแน่นอนว่าเดรโกอ่านสีหน้าเธอออก
“ไม่เอาน่า เธอก็รู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่เคยรักพ่อเลย ที่พวกหล่อนแต่งงานด้วยก็เพราะอยากได้เงินได้ความสุขสบายเท่านั้น พอพวกหล่อนสูบพ่อชั้นจนพอใจก็พากันทิ้งพ่อไปอย่างที่เธอเห็นไง” เดรโกพูดตามความจริง เพราะภรรยาคนที่ผ่านมาของเฟลิกซ์ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
“แล้วทำไมเธอถึงไม่ห้ามเขาล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ชั้นห้ามพ่อได้ที่ไหนล่ะ เธอก็รู้”
“งั้นถ้าเธอเห็นใครทำผิด แล้วทักท้วงอะไรไม่ได้ สิ่งที่เธอทำได้ก็แค่ยินดีกับเขา” หญิงสาวแนะ
“ชั้นก็กำลังทำอยู่นี่ไง ชั้นชวนเธอมาเลือกของขวัญให้เขา แล้วก็ชวนไปงานแต่งงานด้วยกัน” เขาวกกลับมาเรื่องเดิมจนได้
“นั่นไม่ใช่ประเด็นนะ เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูด “ชั้นหมายความว่า เธอควรจะบอกเฟลิกซ์ว่า ถ้าเขามีความสุข เธอก็มีความสุขไปด้วย”
“ถ้าเขามีความสุข ชั้นก็มีความสุขไปด้วยงั้นเหรอ” เขาทวนคำอย่างงง ๆ
“ใช่ แล้วก็บอกว่าเธอรักเขาด้วยล่ะ” เธอเสริมพลางทำสีหน้าเคร่งขรึม ชายหนุ่มทำหน้าเหยเกหน้าราวกับเฮอร์ไมโอนี่บังคับให้เขากลืนหนอนพลับเบอร์ทั้งเป็น
“ไม่เอาน่า เธอก็รู้นี่ว่าชั้นไม่เคยบอกรักใคร” เขาพูดพลางทำหน้าสยอง
“เธอก็น่าจะหัดไว้บ้าง เขาเป็นคนในครอบครัวเธอนะ” เธอพูด ขณะที่เดรโกทำหน้าเบ้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่มองมา เขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีในทันที
“โอเค ชั้นพูดก็ได้ ชั้นจะพูดในงานแต่งต่อหน้าเธอเลยว่าชั้นรักเค้า” เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่แฝงความเจ้าเล่ห์เอาไว้ “โอ๊ย!” ชายหนุ่มร้องเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ถองเขาเข้าเต็ม ๆ
“ใครว่าชั้นจะไปงานนั่นกับเธอล่ะ” หญิงสาวบอกพลางเดินหนีอย่างเล่นตัวนิด ๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีท่าว่าจะเบื่อกับการง้อเธอเลย
“งั้นเราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังก็ได้” เขาพูด “ตอนนี้เธอช่วยชั้นเลือกของขวัญก่อนสิ”
“แล้วเธอคิดได้หรือยังล่ะว่าจะซื้ออะไรให้เฟลิกซ์ดี” หญิงสาวถาม ขณะที่เดินนำเขาไปที่บันไดเลื่อนเพื่อลงไปชั้นล่าง
“ไม่รู้สิ เธอก็รู้ว่าของพวกนี้” เขาชี้ไปทางเครื่องแก้วสวยงามที่วางโชว์อยู่ก่อนจะลงบันไดเลื่อนตามหญิงสาวไป
“พ่อชั้นก็มีเต็มบ้านไปหมดแล้ว ความจริงเขามีพร้อมทุกอย่างแล้วล่ะ ยกเว้นแค่อย่างเดียวเท่านั้น”
เขาเว้นคำพูดไว้แค่นั้น เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าทีเหมือนอยากรู้ ทั้งที่จริงเธอก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เฟลิกซ์ขาดไปนั้นคืออะไร
“คู่ชีวิตดี ๆ ซักคน” ชายหนุ่มพึมพำออกมา ความจริงไม่ใช่แค่เฟลิกซ์เท่านั้นที่ขาดสิ่งนี้ เขาเองก็ไม่มีคู่ชีวิตดี ๆ สักคนเช่นกัน แต่สำหรับเดรโกแล้วเขาไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย ความจริงเขาออกจะพอใจด้วยซ้ำกับการทำตัวเป็นเพลย์บอยหนุ่มเจ้าสเน่ห์ที่ไม่ต้องจริงจังกับใคร
“ก็เพราะเขาปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปน่ะสิ” หญิงสาวพูดเรียบ ๆ ขณะพาเดรโกเดินเข้าไปยังแผนกเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ หญิงสาวตรงไปยังเคาน์เตอร์ของ พอล สมิธ เธอมองดูไทด์หลากสีที่วางเรียงรายอยู่อย่างสนใจ
“อะไรนะ” เดรโกถาม
“ก็พ่อเธอพลาดโอกาสที่จะหาผู้หญิงดี ๆ ไปไง เพราะเขามัวเสียเวลาไปกับผู้หญิงแบบนั้น จนป่านนี้เขาเลยยังหาคู่ชีวิตดี ๆ ไม่ได้น่ะสิ” เธออธิบาย
“ถ้าพ่อเธอเลือกจริงจังกับผู้หญิงดี ๆ ซักคนตั้งแต่แรกนะ ป่านนี้เขาคงไม่ต้องแต่งงานถึงห้าครั้งหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะกำลังเลือกเนกไทด์ระหว่างสีฟ้าอ่อนกับเทาควันบุหรี่ และเธอก็ตัดสินใจหยิบสีเทาขึ้นมา
เดรโกมองภาพนั้นด้วยความหลงใหล หรืออาจจะเป็นเพราะคำพูดของหญิงสาวเมื่อครู่นี้ก็เป็นได้ เขาจึงเพิ่งคิดได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจจะอยู่กับเขาอย่างนี้ตลอดไปได้ อีกสามปีหรือห้าปีข้างหน้าเธอคงจะแต่งงานกับผู้ชายดี ๆ ซักคน (แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เขาเห็นชอบด้วย) แล้วก็มาเดินเลือกเนคไทด์ให้สามีของเธอแบบนี้
แต่จู่ ๆ หญิงสาวก็เอาไทด์สีควันบุหรี่นั้นมาทาบกับตัวเดรโก
“เข้ากับเธอดีจัง” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้เขา มันเป็นรอยยิ้มที่แทบจะทำให้หัวใจของเขาหลุดลอยไปเลยทีเดียว รอยยิ้มที่เขาคุ้นเคยดีตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมานี่ แต่กลับไม่มีวันใดที่เขาจะนึกเบื่อมันเลย
‘ไม่ได้! เฮอร์ไมโอนี่เป็นเพื่อนของเขานะ เขาจะเผลอคิดกับเธออย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด!’ เดรโกเตือนตัวเองก่อนจะสะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อไล่ความสับสนออกไป เธอมองเขาอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรรึเปล่า เดรโก” หญิงสาวถาม
“อ๋อ เปล่า ชั้นจะบอกเธอว่าพ่อชั้นไม่ใส่ไทด์ของมักเกิ้ลหรอก แล้วชั้นก็ไม่คิดจะซื้อเสื้อผ้าให้เขาด้วย เขาน่ะมีเสื้อคลุมเป็นร้อย ๆ ชุดแล้วมั้ง” ชายหนุ่มอธิบาย
“ไม่ได้ให้เขา ให้เธอต่างหาก ชั้นว่ามันเหมาะกับสีตาเธอดี” หญิงสาวพูด
“อ้อ งั้นเหรอ ก็สวยดีนะ งั้นเอาอันนี้ก็ได้” เดรโกพูดขณะเปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อหยิบบัตรเครดิต
“ไม่ต้อง ๆ ชั้นเอง” หญิงสาวพูดพลางหยิบเงินของมักเกิ้ลให้พนักงานขายที่ยืนอยู่แทน “เธอเลี้ยงข้าวชั้นไปแล้วนะ”
“แต่ไทด์นี่มันแพงกว่าค่าข้าวตั้งเยอะนะ” เดรโกทำหน้าไม่พอใจ
เขามักทำอย่างนี้เสมอเวลาหญิงสาวยืนกรานจะเป็นคนช่วยออกเงินค่าอะไรก็ตาม แต่ถึงเขาจะทำอย่างนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังยืนกรานอยู่ดีว่าเขากับเธอจะผลัดกันจ่ายเสมอ เพราะเธอไม่ใช่คู่เดทของเขาที่จะต้องให้เขาเลี้ยงตลอดรายการ
“งั้นทีหลังเวลาไปกินอะไรก็ดัทต์ทรีทกันสิ(อเมริกันแชร์)” เธอว่า
“ชั้นจะได้ไม่ต้องซื้อของตอบแทนเธอไง” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่เธอก็รู้ดีว่าเดรโกไม่มีทางแชร์ค่าอาหารครั้งต่อ ๆ ไปกับเธอแน่ เขามักจะอ้างเสมอว่าเขาเป็นผู้ชาย เขาควรจะเป็นฝ่ายเลี้ยง แต่ครั้งนี้เธอไม่ยอมให้เขาเป็นคนออกเงินอยู่ฝ่ายเดียวแน่
“ไม่ต้องทอนนะคะ” เธอหันไปบอกกับพนักงานขาย
.................................................
พนักงานขายคนนั้นหายไปไม่นานนักหล่อนก็กลับมาพร้อมกับไทด์ที่เฮอร์ไมโอนี่เลือกซึ่งถูกบรรจุในกล่องอย่างดี เธอรับมันมาก่อนจะยื่นให้เดรโก
“อืม แล้วเราจะไปไหนกันต่อดี ตกลงเธอคิดได้หรือยังว่าจะซื้ออะไรให้เฟลิกซ์น่ะ” หญิงสาวถาม
“ไม่รู้สิ ชั้นคิดไม่ออกเลย เฮอร์ไมโอนี่” เขาหันมาขอคำปรึกษาจากเธอ “ของที่คิดจะซื้อให้เฟลิกซ์เขาก็น่าจะมีหมดแล้ว”
“งั้นเธอก็ซื้ออย่างอื่นสิ” หญิงสาวเสนอ
“อะไรล่ะ ภาพวาดจากแกลอรี่เธอรึไง” ชายหนุ่มว่า
“ไม่ดีกว่านะ เพราะเธอให้ภาพจากร้านชั้นไปตอนงานแต่งครั้งที่สี่แล้วไง จำไม่ได้เหรอ” เธอเตือนว่าตอนที่เฟลิกซ์แต่งงานครั้งที่สี่เดรโกก็ซื้อภาพวาดจากแกลอรี่ของเธอภาพหนึ่งเป็นของขวัญให้เขา
“จริงสินะ ชั้นลืมไปได้ไงนะ” เดรโกพูดเมื่อนึกขึ้นได้
“ความจริงเธอไม่ต้องซื้อของที่เฟลิกซ์ใช้เองก็ได้นะ แต่ซื้อเป็นของใช้สำหรับผู้หญิงแทน แบบว่าไว้ให้แม่เลี้ยงเธอไง” เฮอร์ไมโอนี่แนะ
“เช่นอะไรล่ะ แส้เอาไว้ฟาดพ่อชั้นในคืนวันแต่งงานงั้นเรอะ” เดรโกถาม หญิงสาวนิ่วหน้า
“ชั้นหมายความถึงของใช้ทั่ว ๆ ไปหรอกน่า อย่าคิดลึกนักเลย” เธอพูดพลางพาเขาเดินมายังแผนกเครื่องใช้สุภาพสตรี และเมื่อทั้งสองเดินผ่านแผนกเครื่องประดับที่มีเพชรพลอยส่องแสงวูบวาบอยู่ในตู้โชว์เดรโกก็ทำหน้าเหมือนคลื่นไส้ขึ้นมา
“ใช้ตายเถอะชั้นเกลียดแผนกนี้น่าดูเลย” เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าสงสัยเหมือนจะถามว่า ‘ทำไมล่ะ’
“เธอก็รู้นี่นาว่าผู้หญิงทุกคนที่ชั้นเดทด้วยครั้งนึงต้องลากชั้นมาเดินแถวนี้ แล้วก็พยายามคะยั้นคะยอให้ชั้นซื้อเครื่องเพชรพวกนี้ให้ แค่ได้ตุ้มหูทิฟฟานี่ชิ้นนึงก็ดีใจแทบบ้าแล้ว” เขาพูดพลางทำหน้าสยดสยอง
“งั้นก็เปลี่ยนเป็นซื้อแหวนให้หล่อนสิ ชั้นว่าหล่อนคงไม่ขอเครื่องเพชรอันอื่นจากเธอไปอีกนานเลย” หญิงสาวออกความเห็น
“น้อยไปน่ะสิ หล่อนจะยิ่งเกาะฉันเป็นปลิงพอดี” ชายหนุ่มบ่น และเมื่อเขาพวกทั้งสองเฉียดเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์ทิฟฟานี่ พนักงานขายก็ปรี่เข้ามาหาทั้งสองทันที
“สวัสดีค่ะ กำลังหาอะไรอยู่รึเปล่าคะ บอกชั้นได้นะคะ” หญิงสาวผมบลอนด์ อายุมากแล้วพูดด้วยเสียงหวานเชื่อม หล่อนคงคิดว่าเดรโกกับเฮอร์ไมโอนี่เป็นคู่รักที่เข้ามาเลือกเครื่องเพชรด้วยกัน
“เรากำลังหาของขวัญน่ะค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกหล่อน
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ” หล่อนถาม
“งานแต่งงานค่ะ”
“คุณสองคนกำลังจะแต่งงานกันหรือคะ ยินดีด้วยนะคะ” หล่อนพูด
“โอ้ ไม่ใช่ค่ะ เรามาหาของขวัญให้ งานแต่งงานของคนอื่นน่ะค่ะ” เธอปฎิเสธ
“ชั้นแน่ใจค่ะว่าต้องเป็นงานของคนสำคัญแน่ ๆ ชั้นขอแนะนำสร้อยข้อมือตรงนี้เป็นไงคะ เป็นงานชั้นเยี่ยมแล้วก็รูปทรงน่ารักมากทีเดียวค่ะ” หล่อนบอกพลางผายมือไปยังสร้อยข้อมือน่ารักที่วางเรียงรายกันในตู้กระจก
“เอ่อ ค่ะ เดี๋ยวชั้นขอเลือกก่อนนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกพนักงานขาย
“ได้เลยค่ะ ถ้าคุณอยากดูชิ้นไหนเป็นพิเศษบอกชั้นได้เลยนะคะ” หล่อนพูดพลางเดินไปอีกมุมหนึ่งของเคาน์เตอร์เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าอีกคนเดินเข้ามา
หลังจากที่หล่อนเดินจากไป เดรโกก็พูดกับหญิงสาวว่า
“ชั้นว่าเราซื้ออย่างอื่นดีกว่ามั๊ย”
“นั่นสินะ ชั้นลืมไปว่าทิฟฟานีออกจะแพงไปหน่อยสำหรับของขวัญงานแต่งน่ะ” หญิงสาวพูดตามความจริง
“เรื่องราคาชั้นไม่เกี่ยงหรอก แต่เพชรน่ะผู้ชายเขาเอาไว้ซื้อให้ผู้หญิงที่รักเท่านั้น” เดรโกกระซิบบอกเธอ ขณะที่ทั้งสองผละจากเคาน์เตอร์ทิฟฟานี่มา
“นี่เธอก็โรแมนติกกับเขาเป็นด้วยแฮะ ผู้ชายซื้อเพชรให้ผู้หญิงที่รักเท่านั้น แต่เธอบอกเองว่าไม่ได้รักแม่พวกนั้นนี่ แล้วซื้อเพชรให้พวกหล่อนทำไมล่ะ” น้ำเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ฟังดูเกือบจะหงุดหงิด ซึ่งหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร
“ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ชั้นซื้อให้ก็เพราะโดนพวกหล่อนคะยั้นคะยอต่างหากล่ะ จริง ๆ แล้วชั้นไม่ได้อยากจะซื้อให้ซักหน่อย” เขาพูด
“แน่ล่ะสิ พ่อเพลย์บอย” เธอแขวะ “หลอกพวกหล่อนขึ้นเตียงตั้งหลายครั้ง แต่พอพวกหล่อนอยากให้ซื้อเพชรให้กลับทำหน้าเหมือนอยากตายงั้นแหละ” น้ำเสียงของเฮอร์ไมโอนี่บอกได้ว่าเธอพูดเล่นมากกว่าคิดจะว่าเขาจริงจัง
“โถ่ ก็ชั้นไม่ได้รักพวกหล่อนนี่นา แล้วก็ไม่อยากโดนเข้าใจผิดด้วย ที่ซื้อให้เพราะโดนบังคับรู้มั๊ย บางรายนะลากชั้นมาลองเพชร แล้วพอจะถอดคืนก็แกล้งทำสร้อยข่วนโต๊ะเป็นรอยบ้าง ทำตุ้มหูร่วงลงพื้นบ้าง สุดท้ายชั้นก็ต้องซื้อให้เพราะหล่อนทำของเขามีตำหนิแล้ว แบบนี้เรียกว่าเต็มใจที่ไหนกัน” เดรโกบ่นออกมา
ความจริงเขาไม่มีปัญหาเรื่องราคาค่างวดของมันหรอก แต่เป็นปัญหาเรื่องจิตใจมากกว่า เพราะผู้หญิงที่เขาซื้อของแบบนี้ให้ (แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม) มักคิดไปเองว่าเขาจริงจังกับหล่อน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากให้หล่อนคิด
“ถ้าเป็นผู้หญิงที่ชั้นรักก็ว่าไปอย่าง ต่อให้เธออยากได้ทั้งร้านชั้นก็ยินดีจะซื้อให้” เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็มองหน้าเขาอย่างสงสัย
“แต่เธอก็ไม่เคยรักใครนี่นา ชั้นว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ได้เครื่องเพชรจากเธอโดยไม่ต้องบังคับให้ซื้อให้หรอกนะ” เธอพูด เดรโกอึ้งไปพักหนึ่งเพราะคำพูดของเธอ แล้วเขาก็ยอมรับออกมาว่าที่เธอพูดมันก็จริง เพราะคนอย่างเขาไม่เคยรักใครมากก่อน แล้วก็ไม่คิดจะรักด้วย!
.................................................
ทั้งสองเปลี่ยนจากแผนกเครื่องเพชรไปยังแผนกเครื่องประดับอื่น ๆ แทน เมื่อเดรโกตกลงใจว่าจะซื้อของขวัญที่เป็นของใช้สำหรับผู้หญิงแทน เฮอร์ไมโอนี่ก็ทำหน้าที่เลือกของให้เขา เพราะหญิงสาวคงถนัดในการเลือกของใช้ของผู้หญิงมากกว่าผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขาแน่
เมื่อทั้งสองเดินมาถึงแผนกเครื่องหนัง หญิงสาวก็สะดุดตากับกระเป๋าหนังจระเข้ใบหนึ่งที่วางโชว์อยู่ มันเป็นกระเป๋าถือของผู้หญิงที่มีจระเข้สตาฟตัวเล็กติดตรงด้านหน้า และส่วนที่เหลือของกระเป๋าก็ดูเหมือนจะทำจากหนังจระเข้ด้วยเช่นกัน
เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วถามคนขายว่า “นี่หนังจระเข้แท้รึเปล่าคะ”
“แท้สิครับ ลูกจระเข้ด้วยนะครับ” พนักงานพูดอย่างเอาใจ
“คุณน่าจะละอายบ้างนะคะที่ขายของแบบนี้น่ะ” หญิงสาวพูดอย่างเผ็ดร้อนพลางวางกระเป๋าลง แต่เดรโกที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้นิสัยของเธอดีเลยไม่พูดอะไรออกไป เฮอร์ไมโอนี่ก็เป็นแบบนี้แหละ เธอเห็นความสำคัญของทุก ๆ ชีวิต แม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ก็ตาม
เดรโกพาเธอผ่านแผนกเครื่องหนังไปจนถึงแผนกเสื้อผ้าสตรี เพราะคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่คงไม่ยอมซื้ออะไรที่ทำจากหนังแท้แน่ (อันที่จริงกระเป๋าของหญิงสาวทุกใบนั้นล้วนทำจากหนังสังเคราะห์ทั้งหมด และเมื่อเดรโกชวนเธอไปเลือกรองเท้าหนังดี ๆ ซักคู่ หญิงสาวก็บังคับให้เขาเปลี่ยนไปซื้อคู่ที่ทำจากหนังสังเคราะห์แทน เพราะมันไม่เป็นการทำลายชีวิตใคร ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ชีวิตสัตว์ก็ตาม)
“เดี๋ยวก่อน แวะที่นี่ก่อน” ชายหนุ่มบอกเธอเมื่อทั้งสองเดินผ่านแผนกชุดชั้นในสตรี
“อย่าบอกนะว่าเธอจะซื้อชุดชั้นในให้แม่เลี้ยงเป็นของขวัญวันแต่งงานน่ะ” หญิงสาวพูด
“ใช่ที่ไหนกันเล่า มานี่เร็ว” เขาพูดพลางคว้าแขนเธอแล้วพาเดินผ่านแผนกชุดชั้นในไปยังบริเวณที่ขายเสื้อผ้าของดีไซเนอร์
ทันทีที่ทั้งสองก้าวเท้าเข้าไปในแผนก พนักงานขายร่างเล็กคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
“ผมกำลังหาชุดไปงานให้สุภาพสตรีคนนี้น่ะครับ”
“ไม่ทราบเป็นงานประเภทไหนคะ” พนักงานขายถาม
“งานแต่งงานครับ” เขาตอบ “เป็นงานที่ค่อนข้างหรูหราน่ะครับ เพราะฉะนั้น”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวชั้นจะไปเลือกชุดที่คุณน่าจะชอบมาให้นะคะ” พนักงานพูดพลางเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้าน เมื่อร่างของหล่อนลับมุมราวแขวนเสื้อไป หญิงสาวก็หันมาจ้องหน้าเขาทันที
“ชั้นยังไม่ได้บอกว่าจะไปงานกับเธอเลยนะเดรโก”
“เถอะน่า เฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่สงสารชั้นรึไงกัน” เขาพูดด้วยท่าทีเหมือนจะอ้อนวอน
“ทำไมชั้นต้องสงสารเธอด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“ก็เพราะถ้าเธอไม่ไปงานกับชั้น ชั้นก็ต้องเป็นชายหนุ่มน่าสงสารที่ไม่มีคู่ควงไปด้วยน่ะสิ” เดรโกพูด
“เธอก็เอาสาว ๆ ในสต๊อกของเธอไปซักคนสิ” หญิงสาวว่า
“โถ่ เฮอร์ไมโอนี่ เธอก็รู้ว่าชั้นไม่อยากผิดกฎนี่ อีกอย่างนะถ้าชั้นเอาพวกหล่อนคนใดคนหนึ่งไปงานแต่งพ่อชั้นที่ฝรั่งเศสล่ะก็ พอกลับมาหล่อนต้องเที่ยวพูดไปทั่วแน่เลยว่าชั้นจริงจังกับหล่อนถึงขนาดพาไปรู้จักครอบครัวแถมยังพาไปดูโรงแรมชั้นที่ฝรั่งเศสอีกน่ะ” เขาอธิบายในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กรอกตาอย่างเบื่อหน่าย
“นะ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริง ๆ” เขาพูดพลางกุมมือเธอแน่น หญิงสาวจ้องตาเขา
“ครั้งสุดท้ายนะ” เธอว่า
“แน่นอน ครั้งสุดท้าย” ชายหนุ่มยิ้มอย่างยินดีเมื่อเธอตอบตกลง เขาจูบมือเธอเบา ๆ โดยที่หญิงสาวไม่ว่าอะไร สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับเดรโกที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ก็คือ เขามักจะแสดงออกทางการกระทำมากกว่าคำพูด อาจจะเป็นเพราะเดรโกเป็นคนพูดน้อย และที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะอยากขอบคุณเธอเท่านั้น
“เอาล่ะ เราไปเลือกชุดกันกว่า” เดรโกพูดพลางโอบไหล่เธอแล้วพาเดินไปอีกมุมของร้านเมื่อเห็นว่าพนักงานคนเมื่อครู่กำลังเดินมาพร้อมกับรถเข็นที่แขวนชุดราตรีมาเสียเต็มราว
“ความจริงเธอไม่เห็นต้องพาชั้นมาซื้อชุดใหม่ก็ได้นะ อีกอย่างชุดที่นี่ก็แพงมากด้วย” หญิงสาวว่า
“แค่เธอตกลงไปชั้นก็ดีใจแล้ว เรื่องแค่นี้ชั้นจัดการได้น่ะ” เดรโกพูดพลางยิ้มกริ่ม
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น