ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Made of Honor [เวอร์ชั่น มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่]

    ลำดับตอนที่ #3 : กฎของเพลย์บอย: Playboy’s Rules

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 64


    ***Chapter 3 กฎของเพลย์บอย: Playboy’s Rules***

     

    เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับตะลึงไปเลยเมื่อเดรโกบอกว่าพ่อทูนหัวของเขากำลังจะแต่งงานใหม่ (อีกครั้ง) ทั้ง ๆ ที่หญิงสาวยังไม่รู้เลยว่าเขาหย่าขาดจากภรรยาคนเก่า ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ห้าของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!

    หลังจากที่นายและนางมัลฟอยถูกสังหารด้วยน้ำมือของจอมมาร เดรโกก็เหลือครอบครัวของเขาอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ เฟลิกซ์ ซิลเวอร์ ที่เป็นพ่อทูนหัวของเขา 

    เฟลิกซ์เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของนายลูเซียสตอนที่เรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ ปัจจุบันเขาเป็นมหาเศรษฐีอายุหกสิบที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ขนาดยักษ์แถบนีซของฝรั่งเศสและเคยแต่งงานมาแล้วห้าครั้ง ในตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเฟลิกซ์จะเป็นเหมือนนายลูเซียสที่คลั่งสายเลือดบริสุทธิ์ และเดียดฉันท์พวกมักเกิ้ลกับพวกเลือดสีโคลน แต่เมื่อหญิงสาวได้มีโอกาสพบเขาตอนไปดูโรงแรมกับเดรโกที่ฝรั่งเศส เธอก็เปลี่ยนความคิดทันที 

    เพราะเฟลิกซ์เป็นชายชราที่ใจดีและตลกมาก แถมยังไม่มีท่าทีรังเกียจเธอแม้แต่น้อย แม้เขาจะรู้ว่าเธอเป็นพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลก็ตาม แต่ในตอนท้ายเดรโกแอบกระซิบบอกเธอว่าที่เฟลิกซ์เป็นอย่างนี้ก็เพราะภรรยาคนแรกของเขาก็ถูกโวลเดอมอร์สังหารเช่นเดียวกับพ่อแม่ของเดรโก มันจึงทำให้เขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืดและเลิกบ้าคลั่งเรื่องเลือดบริสุทธิ์ไปเลย

    แต่ข้อเสียของเฟลิกซ์ก็คือ เขาไม่เคยจริงจังในความรัก ตั้งแต่ภรรยาคนแรกของเขาจากไป เขาก็เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เรียกได้ว่ามีอีหนูเก็บไว้แทบทุกที่ที่ไปทีเดียว ทั้งที่อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งเขาเพิ่งย้ายไปอยู่หลังจากเกษียณ 

    หลังจากภรรยาของเขาเสียชีวิตลง เฟลิกซ์ก็แต่งงานใหม่ถึงสี่ครั้ง (และกำลังจะแต่งงานใหม่อีกครั้งเร็ว ๆ นี้) ซึ่งแต่ละครั้งนั้นเจ้าสาวล้วนเป็นหญิงสาวสวยอายุคราวลูกเขาทั้งนั้น แต่แน่นอนว่าหญิงสาวพวกนั้นไม่ได้รักเขาพอ ๆ กับที่เขาเองก็ไม่ได้รักพวกเธอเช่นกัน การแต่งงานของเขาแต่ละครั้งจึงจบลงด้วยการหย่าร้าง และการเรียกร้องค่าเลี้ยงดูมากมายจากฝ่ายหญิง แต่นั่นก็ไม่ทำให้มหาเศรษฐีอย่างเขาเดือดร้อนแต่อย่างไร

    เดรโกแอบกระซิบบอกเธอมาอีกว่า การแต่งงานระหว่างเฟลิกซ์กับหญิงสาวเหล่านั้นเป็นเพียงข้อตกลงอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับข้อตกลงทางธุรกิจเลย เพราะต่างฝ่ายต่างมีสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการ ผู้หญิงเหล่านั้นให้ความสุขทางกายแก่พ่อทูนหัวของเขา และเฟลิกซ์เองก็ให้เงินทองและความสะดวกสบายกับพวกหล่อนเป็นสิ่งตอบแทน เพียงแต่ทั้งสองแค่จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากันเท่านั้น ซึ่งในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่แล้วมันไม่ต่างอะไรกับการซื้อผู้หญิงตามสถานบริการเลย แต่หญิงสาวเองก็แอบสงสัยนิด ๆ ว่าที่เดรโกเป็นแบบนี้เพราะเขามีพ่อทูนหัวเป็นต้นแบบรึเปล่านะ

    “งานจะจัดที่นีซ ที่บ้านของพ่อชั้น อีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” เดรโกเปรยด้วยน้ำเสียงเหมือนพวกเขากำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศกันอยู่

    “ชั้นไม่รู้ว่าแม่นั่นชื่ออะไร ไม่แน่ใจว่าชาร์ล็อต หรือซาแมนทร่า แต่รู้สึกว่าหล่อนจะเคยเป็นนางโชว์ที่มาก่อน ก่อนที่จะมาเจอพ่อชั้นที่ปารีส” ชายหนุ่มเล่า 

    เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าแบบที่แปลได้คำเดียวว่า ‘เยี่ยม’ แน่นอนว่ารสนิยมของเฟลิกซ์ไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ 

    “ตอนนี้ชั้นกำลังเร่งเคลียร์งานอยู่ พอถึงวันงานจะได้อยู่ที่ฝรั่งเศสได้นาน ๆ หน่อย ชั้นคิดไว้ว่าจะแวะไปดูโรงแรมด้วย” เขาบอกพลางกุมมือเฮอร์ไมโอนี่แน่น “เธอไปเป็นเพื่อนชั้นนะ เฮอร์ไมโอนี่” 

    “ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นจะไม่ไปงานแต่งของพ่อเธออีก เดรโก” หญิงสาวพูดเสียงเฉียบ

    “ชั้นไม่ได้หมายถึงงานแต่ง ชั้นหมายถึงไปดูโรงแรมต่างหากล่ะ” เขารีบแก้

    “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ เพราะยังไงเธอก็ต้องพาชั้นไปงานแต่งก่อนอยู่ดี” เธอพูดอย่างรู้ทัน

    “ไหนครั้งที่แล้วเธอบอกว่าจะให้ชั้นไปด้วยครั้งสุดท้ายแล้วไง” เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยแววตาคมกริบ

    “โอเค ๆ งั้นเราพักเรื่องนี้กันไว้ก่อนละกัน” เขาเหลือบมองนาฬิกา 

    “ใกล้เที่ยงแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ ชั้นจองร้านไว้แล้ว” ชายหนุ่มว่าพลางฉุดแขนเฮอร์ไมโอนี่ให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอทรงตัวไม่ทันเซไปซบอกกว้างของเขา!

    “เอ่อ ขอโทษ” หญิงสาวอ้อมแอ้ม

    “ไม่เป็นไร เอ้านี่กาแฟเธอ” เดรโกพูดพลางยัดถ้วยกาแฟใส่มือเธอ แล้วเริ่มก้าวยาว ๆ ไม่นานนักเธอก็เห็นแผ่นหลังเขาห่างออกไป

    “รอชั้นด้วยสิ! เดรโก!” หญิงสาวตะโกนอย่างหงุดหงิด แต่ก็ได้ผล เดรโกชะงักฝีเท้าเหลียวหลังมามองเธอ 

    “งั้นก็เดินเร็วหน่อยสิยายเบ๊อะ ชั้นหิวนะ เร็ว ๆ เข้า!” เขาแซว แต่ก็ส่งแขนให้เธอเกาะ

    “นี่แน่ะ ว่าชั้นยายเบ๊อะเหรอ!” เธอพูดพลางหยิกเขาเบา ๆ 

    “โอ๊ย! ชั้นเจ็บนะ” เดรโกครางพลางลูบแขนที่โดนหยิก “ก็เธอเดินช้าจะตายนี่”

    “สม! ใครมันจะสูงเป็นเสาไฟฟ้าแถมขายาวอย่างนายล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บ่น

    “ผู้หญิงอย่างเธอนี่ ถ้าใครได้ไปนะ” เดรโกพึมพำออกมา

    “ทำไม พูดให้ดี ๆ เลยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเขียวพลางมองหน้าเขา แม้ว่าตัวเธอจะเล็กกว่าเขามากแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็เขย่งสุดแรงเกิดเพื่อจ้องตาเขาทีเดียว

    “ก็.........เป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกไงล่ะ” ชายหนุ่มว่า เขากลัวว่าถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูออกไปจนเจอฤทธิ์แม่เสือสาวเข้าอีก

    หญิงสาวทำเสียงในลำคอฟังดูคล้าย ๆ คำว่า ‘ฮึ’ มาก

    “ว่าแต่วันนี้เราจะไปกินอะไรกันน่ะ เดรโก” เธอมองหน้าเขาอย่างหาคำตอบ 

    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ลองทายซิ”

    “อืม ร้านไหมไทยรึเปล่า เห็นวันก่อนเธอบ่นว่าอยากกินผัดไทย” เธอทาย

    เดรโกส่ายหน้า

    “งั้นอาหารอินเดียอ่ะ แกงกระหรี่ไก่เพิ่มแป้งนานพิเศษ” 

    เขาสายหน้าอีกหน

    “อืมๆๆๆ อาหารกรีกสุดแหวะนั่นรึเปล่า แต่ชั้นขอบอกก่อนนะว่าถ้าอันนี้ถูกชั้นไม่ไปนะ” เธอพูด พลางทำหน้าสยดสยองเมื่อนึกถึงร้านกรีกที่เธอกับเดรโกไปทานกันเมื่ออาทิตย์ก่อน มันแทบกระเดือกไม่ลงจริง ๆ 

    “โอ๊ย ไม่ใช่เลยเฮอร์ไมโอนี่ เฉลยดีกว่า” เขาหัวเราะคำพูดของเธอ

    “งั้นร้านอาหารจีนตรงหัวมุมถนน เป็ดย่างกับติ่มซำใช่มั๊ย” เธอลองอีกครั้ง

    “เก่งมาก ในที่สุดก็ถูกซักที” เดรโกว่าพลางลูบหัวเธออย่างเอ็นดู โดยไม่สนใจว่าหญิงสาวจะบ่นว่าเขาทำผมเธอยุ่งไปหมด ความจริงแล้วเขาจองโต๊ะที่ร้านอาหารจีนก็เพราะได้ยินเธอบ่นมาหลายวันแล้วว่าอยากกินติ่มซำ

    “ดีจังเลย ชั้นกำลังอยากกินอยู่พอดี” เธอพูดอย่างร่าเริง

    “หมู่นี้ชั้นเห็นว่าเธออ้วนขึ้นหรอกนะถึงจะพาไปกินอาหารจีนน่ะ แคลอรี่มันต่ำหน่อย” ชายหนุ่มว่า

    “ชั้นไม่ได้อ้วนขึ้นซะหน่อยนะ คนบ้า!” เธอเถียง แต่ก็หัวเราะไปด้วย

    ทั้งสองต่อปากต่อคำกันอีกเล็กน้อยก่อนจะพากันเดินไปที่รถของเดรโก

     

    .................................................

     

    “ชั้นไม่เข้าใจ กฎห้ามเดทสองคืนติดกับกฎอาทิตย์ละครั้งนี่เธอใช้อันไหนกันแน่” เฮอร์ไมโอน่าถามถึงกฎของเพลย์บอยขณะทั้งสองกำลังนั่งทานอาหารจีนอยู่ด้วยกัน

    “ทั้งสองอันนั่นแหละ” เดรโกตอบ “ชั้นจะไม่เดทผู้หญิงคนเดิมซ้ำสองคืนติด แล้วก็จะไม่เดทเกินหนึ่งครั้งต่ออาทิตย์ไง”

    “ถ้าอย่างนี้เธอก็เดทผู้หญิงคนเดียวกันคืนวันเสาร์กับคืนวันจันทร์ได้น่ะสิ” เธอถามอย่างชาญฉลาด

    “ก็ใช่นะ เพราะมันไม่ผิดกฎข้อไหน แต่ชั้นก็ไม่ค่อยทำหรอก มันถี่เกินไป” เขาบอก

    “อย่างเดรโก มัลฟอยมีหนักใจเรื่องเดทผู้หญิงถี่เกินไปด้วยเหรอ” เธอแซว

    “ชั้นก็คนนะเฮอร์ไมโอนี่ อีกอย่างชั้นก็อยากมีเวลาให้เพื่อนฝูงมั่ง” เขาว่า 

    เพื่อนฝูงที่ว่านี้นอกจากเฮอร์ไมโอนี่แล้วยังรวมไปถึงแฮร์รี่กับรอนเพื่อนซี้ของหญิงสาวด้วย เพราะตั้งแต่จบจากฮอกวอตส์มา เดรโก เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ และรอนก็ไม่ได้เป็นศัตรูกันอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนรักกันแทน และเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ทุก ๆ คืนวันจันทร์เดรโก แฮร์รี่ และรอนจะนัดเล่นควิดดิชกันเป็นประจำ

    “อืม ก็จริง งั้นเล่าให้ชั้นฟังเรื่องกฎข้ออื่นบ้างสิ” หญิงสาวถาม แต่ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบก็มีรถเข็นติ่มซำของทางร้านเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

    “เอ่อ ผมขอปอเปี๊ยะทอด กับซาลาเปาไส้หมูสับครับ” เดรโกพูดกับหญิงชราที่เป็นคนเข็นรถมา

    “เปลี่ยนเป็นปอเปี๊ยะสดแทนค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น “ทานของทอดมันไม่ดีนะ เธอเองก็ไม่ได้อายุใช่น้อย ๆ แล้ว” เธอเตือน

    “ชั้นก็อายุเท่าเธอนะเฮอร์ไมโอนี่” ชายหนุ่มเถียง อายุยี่สิบเจ็ดนี่ไม่ได้ถือว่าแก่ซะหน่อย

    “อายุอย่างพวกเราก็ห้ามกินของทอดกันแล้ว” หญิงสาวพูดเสียงดุ ๆ “มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ”

    “เธอเป็นแม่ชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เฮอร์ไมโอนี่” เดรโกครางเสียงอ่อย

    “ก็ตั้งแต่วันที่เธอมาขอชั้นเป็นเพื่อนนั่นแหละ” เธอว่า

    “ตกลงเอาอะไรจ๊ะ” อาม่าที่เป็นคนเข็นรถถามขึ้น หลังจากมองทั้งสองเถียงกันได้พักหนึ่ง

    “เอาปอเปี๊ยะสดแทนค่ะ แล้วก็” หญิงสาวชะโงกตัวมาดูของในรถเข็น 

    “ซาลาเปาไส้ผัก ติ่มซำไส้กุ้ง ขนมจีบปู กับหมั่นโถงาดำค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่สั่งเป็นชุด แล้วอาม่าก็หยิบติ่มซำเข่งแล้วเข่งเล่าวางลงบนโต๊ะ

    “แล้วปอเปี๊ยะทอดล่ะอาหนู เอามั๊ย” หล่อนหันมาถามเดรโก

    “ไม่ล่ะครับ เท่านี้แหละ ขอบคุณครับ” เดรโกพูด

    หลังจากหญิงชราเข็นรถลับตาไป ทั้งสองก็ลงมือรับประทาน

    “ที่เธอสั่งมานี่ของชอบเธอทั้งนั้นเลยนะ แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย” เดรโกพูดด้วยน้ำเสียงประชดเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ ขณะคีบหมั่นโถใส่จานเธอ

    “ไม่พอใจชั้นรึไง” หญิงสาวถาม

    “ใครจะกล้าไม่พอใจล่ะ องค์หญิงมีบัญชาว่าอยากเสวยอย่างนี้ ทาสอย่างชั้นจะบังอาจขัดพระเสาวนีย์ได้ยังไง” เดรโกพูด เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ

    “บ้าน่า พูดอะไรลิเกเชียว นี่ชั้นจู้จี้เกินไปงั้นเหรอ เดรโก ถามจริง ๆ นะ” เธอว่า 

    ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

    “ถามจริง ๆ เหรอ”

    “อืม แล้วก็ต้องตอบจริง ๆ ด้วยนะ” เธอรอฟัง

    “งั้นชั้นไม่เกรงใจนะ เธอน่ะจู้จี้มาก” เขาลากเสียงที่พยางค์หลังอย่างชัดเจน

    “คนบ้า!” หญิงสาวแว้ดขึ้นมา

    “อ้าวไหนว่าถามจริง ๆ ไง แต่เธอเป็นอย่างนี้ก็ดีนะ” เขาหัวเราะเมื่อเห็นอาการตอบสนองของเธอ หญิงสาวทำหน้างอเหมือนจะบอกว่า ‘ดียังไง!’

    “ดีตรงที่มีเธอคอยเป็นห่วงชั้นน่ะสิ แล้วชั้นก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรด้วย จะว่าไปก็ดีซะอีกที่เธอห้ามชั้นกินของทอดพวกนั้นน่ะ ไม่งั้นซิกแพคพวกเนี้ย” เขาพูดพลางเอามือจิ้มที่ท้องของตัวเอง “มันก็หายไปหมดพอดี”

    “จ้ะ พ่อคนหุ่นดี กล้ามเป็นมัด ๆ แต่ชั้นว่านะถึงเธอไม่เฟิร์มขนาดนี้ หน้าหล่อ ๆ ของเธอก็หลอกให้สาวหลงได้สบายอยู่แล้ว” หญิงสาวว่าพลางหมุนแก้วกาแฟของเธอในมือ มันเป็นกาแฟที่เดรโกซื้อให้เธอเมื่อเช้าแล้วที่ปลอกกาแฟก็มีเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงเขียนอยู่

    “ให้ตายสิเกือบลืมเลย เอามานี่เลยเฮอร์ไมโอนี่ ชั้นขอนะ” เดรโกพูดพลางเอื้อมมือมาคว้าปลอกสวมกาแฟไปแล้วเก็บลงในกระเป๋าเสื้อ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างระอา

    “แล้วไม่โทรไปหาเค้าเลยเรอะ” เธอถาม

    “ไม่ล่ะ ชั้นมีกฎว่าจะไม่โทรภายใน 24 ชั่วโมงแรก เดี๋ยวจะหาว่าชั้นสนใจเธอเป็นพิเศษ” เขาอธิบาย 

    “แล้วกฎข้ออื่น ๆ ล่ะ” เธอเท้าคางตั้งใจฟัง

    “ก็กฎที่ว่าจะไม่พาไปบ้าน ไม่พาไปพบครอบครัวของฉัน แล้วก็กฎห้ามบอกรัก” เดรโกพูด

    “น่าสงสารผู้หญิงที่เธอเดทด้วยน่าดูเลยนะ เธอทำเหมือนพวกเขาเป็นชู้ลับอย่างนั้นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูดตามตรง

    “เธอพูดซะชั้นดูแย่เชียว” เดรโกว่าขณะกำลังเคี้ยวขนมจีบปู หญิงสาวยักไหล่เหมือนจะบอกว่า ‘ก็มันจริงนี่นา’ 

    “เธออย่าไปสงสารแม่พวกนั้นเลย เพราะพวกหล่อนก็รู้ว่าชั้นเป็นคนแบบไหน” เขาบอก “แล้วชั้นก็บอกพวกหล่อนก่อนออกเดทด้วยซ้ำว่านี่เป็นการคบกันแบบไม่มีการผูกมัด พวกหล่อนรู้กฎนี่ดี แล้วก็รับได้ด้วย” 

    “ไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้กับกฎบ้า ๆ ของเธอหรอกเดรโก” หญิงสาวเถียง “ผู้หญิงที่ไหนก็อยากให้ผู้ชายที่เธอออกเดทด้วยจริงจังกับเธอทั้งนั้นแหละ” เดรโกเลิกคิ้ว

    “ไม่จริงมั้งเฮอร์ไมโอนี่” เขาเบ้หน้า ราวกับว่าการจริงจังกับใครสักคนเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะอยากทำ

    “จริงสิ” เธอตอบอยากหนักแน่น “แม้ว่าพวกหล่อนจะทำเหมือนเข้าใจในพฤติกรรมเจ้าชู้ของเธอก็ตาม แต่ในใจพวกหล่อนก็คงหวังลึก ๆ ว่าสุดท้ายเธอหันมาจะจริงจังกับพวกหล่อน” หญิงสาวอธิบายความรู้สึกพื้น ๆ ที่ผู้หญิงทุกคนมักมี

    “แต่ชั้นไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ชั้นไม่อยากจริงจังกับใคร” เดรโกพูด

    “ชั้นถึงบอกว่าพวกหล่อนน่าสงสารไงล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ว่า 

    “แล้วชั้นก็รู้สึกโชคดีมากด้วยที่ไม่หลงคารมเธอตอนปีเจ็ดน่ะ” เธอเสริม

    “แต่ชั้นว่าชั้นโชคไม่ดีมากกว่าที่เธอไม่หลงคารมชั้นนะ” เขาเปรยออกมาเบา ๆ 

    “เธอว่าอะไรนะ” หญิงสาวถาม พร้อมกับมองเขาด้วยแววตาน่ากลัว

    “เปล๊า!” เดรโกว่าพลางวางตะเกียบในมือลง ดวงตาสีเงินดูเหม่อลอยและครุ่นคิด

    “เธอบอกว่าผู้หญิงหวังแบบนี้ทุกคนงั้นเหรอ” คาสโนว่าหนุ่มถาม

    “ใช่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

    “แล้วเธอล่ะ” 

    “ชั้นเหรอ ชั้นจะไปหวังอะไรกับเธอ ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” เธอรีบปฏิเสธทันควัน

    “ไม่ได้หมายถึงชั้น หมายถึงทาร์ควินน่ะ” เขาพูดถึงทาร์ควิน สมิธ ทนายหนุ่มของกระทรวงที่เฮอร์ไมโอนี่เคยเดทด้วยเมื่อหลายปีก่อน 

    “เธอก็ไม่ได้หวังให้เขามาจริงจังกับเธอไม่ใช่เหรอ ตรงกันข้าม เธอกลับไม่อยากจริงจังกับเขาด้วยซ้ำ กรณีนี้มันออกจะผิดทฤษฏีของเธออยู่นา”

    เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาขุ่นเขียวมาให้เขาก่อนจะบอกว่า

    “ก็เพราะชั้นไม่ได้รักเขาน่ะสิ” หญิงสาวตอบ ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยเหม่อมองไปข้างหน้า 

    “ตอนแรกชั้นคิดว่าเขาเป็นคนใช้ได้ แต่พอคบกันไปนานเข้าชั้นกลับรู้ว่าเรานิสัยของเราต่างกันมาก แล้วเค้าก็มีข้อเสียหลายเรื่องที่ชั้นรับไม่ได้ด้วย ชั้นก็เลยเลิกกับเค้า มันก็เท่านั้น” เธอเล่า

    “นั่นแหละปัญหาของความสัมพันธ์” เดรโกพูด “ไอ้ช่วงอินเลิฟแรก ๆ น่ะมันก็จะดีหรอก แต่พอคบไปนาน ๆ เริ่มเห็นข้อเสียของอีกฝ่ายมากขึ้นก็รับกันไม่ได้ ก็เลยต้องจบกัน” เขาอธิบาย

    “นี่เธอเป็นผู้เชียวชาญเรื่องความสัมพันธ์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” หญิงสาวถามอย่างทึ่ง ๆ 

    “ก็ตั้งแต่เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพินิจใจนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าชั้นเดทผู้หญิงมาเป็นร้อยแล้วนะ”

    “แต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใคร” เธอพูด ในใจก็คิดว่าถ้าเดรโกเปลี่ยนมาเป็นคนรักเดียวใจเดียวได้ เขาจะเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กค์ในแบบที่เธอตามหาเลยทีเดียว

    ‘อย่าโง่เลยน่า เฮอร์ไมโอนี่ คนอย่างเขาน่ะไม่มีทางรักใครจริงหรอก เธอเป็นเพื่อนเขามาตั้งนานก็น่าจะรู้นี่’ เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเธอ เสียงที่คอยเตือนว่าอย่าฝันหวานไปหน่อยเลย

    เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็วางตะเกียบลง รู้สึกอิ่มขึ้นมากะทันหัน

    “อิ่มแล้วเหรอ ทำไมวันนี้ทานน้อยจัง” เดรโกทัก (ส่วนพี่เดรฟาดไปเต็มกระเพาะตั้งแต่ห้านาทีแรกแล้ว เอาไปชดเชยที่เมื่อคืนเสียพลังงานไปเยอะ)

    “ชั้นไม่ค่อยหิวน่ะ” เธอว่า

    “ของหวานหน่อยมั๊ย” เขาเสนอ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

    “งั้นชั้นคิดเงินเลยนะ” ชายหนุ่มพูดก่อนจะหันไปเรียกพนักงานมาคิดเงิน และเมื่อเขาหันกลับมาทางเธอ หญิงสาวก็พูดขึ้นว่า 

    “อันที่จริงทาร์ควินเพิ่งส่งจดหมายมาน่ะ”

    “หมอนั่นยังรังควานเธออยู่อีกเรอะ” เดรโกเอ่ยอย่างมีโทสะ

    “ไม่ใช่ ๆ เขาแค่เขียนมาทักทายน่ะ บอกว่าตอนนี้เขาย้ายมาอยู่ที่อเมริกาถาวรแล้ว เขาชวนชั้นไปเยี่ยมด้วย” หญิงสาวพูดถึงชายหนุ่มที่เธอเคยเดทด้วย 

    หลังจากเลิกกันเมื่อเกือบสองปีก่อน ทาร์ควินถึงกับต้องหนีไปอเมริกาเพื่อทำใจ และปัจจุบันเขาก็ย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น ในช่วงแรกที่เขาย้ายไปนั้น ทาร์ควินมักจะส่งจดหมายพร้อมโปสการ์ดมาให้เธอทุกอาทิตย์และโทรทางไกลมาสามวันครั้ง

    จนกระทั่งเฮอร์ไมโอนี่ไปบ่นกับมัลฟอยว่าเธอเริ่มรำคาญพฤติกรรมโทรตามรังควานของทาร์ควินแล้ว ชายหนุ่มก็อาสารับโทรศัพท์ให้ เดรโกปลอมเป็นแฟนใหม่เจ้าอารมณ์ของเธอได้อย่างแนบเนียน และหลังจากที่เดรโกรับสายครั้งนั้น (เขาตะโกนกรอกหูโทรศัพท์ไปนานห้านาทีเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่จำได้) ทาร์ควินก็ไม่เคยโทรมาหาเธออีกเลย มีแต่ส่งจดหมายมานาน ๆ ครั้ง เท่านั้น

    “แล้วเธอจะไปมั๊ย” เดรโกถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเกือบจะอารมณ์เสีย ราวกับเขาหวงเธอ

    “แน่นอนว่าไม่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “เธอก็รู้นี่นาว่าระหว่างเค้ากับชั้นมันจบกันแล้วจริง ๆ แล้วชั้นก็ไม่คิดจะบินไปหาเขาไกลขนาดนั้นด้วย” 

    “เธอเลิกกับมันมานานแค่ไหนแล้ว” เขาถามขึ้นลอย ๆ 

    “สิบเก้าเดือนเศษ” เธอตอบแบบไม่ต้องคิดเลย

    “นี่นับด้วยเหรอ” เดรโกเหวขึ้นมา

    “เค้านับต่างหากล่ะ เค้าเขียนมาในจดหมายน่ะ” หญิงสาวตอบพลางหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีโมโหของเดรโก จะว่าไปแล้วเขาเองก็หวงเพื่อนไม่ใช่น้อย ตั้งแต่เธอเลิกกับทาร์ควินมา ซึ่งก็นานมากแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่เคยมีแฟนใหม่เลย และสาเหตุที่ทำให้เธอโสดสนิทมาจนทุกวันนี้ก็คือชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าเธอตอนนี้นี่แหละ

    เพราะเดรโกยืนกรานว่าเขาจะต้องไปเจอหน้าผู้ชายที่มาจีบเธอก่อนที่หญิงสาวจะตัดสินใจคบด้วยทุกครั้ง แถมเขายังค่อนข้างทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอต่อหน้าหนุ่ม ๆ เหล่านั้นอีกต่างหาก แม้เดรโกจะบอกพวกนั้นว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของเธอก็ตาม  แต่ชายหนุ่มมักจะพูดเสมอว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นเพื่อนคนสำคัญของเขา และเขาจะไม่ให้อภัยใครเลยที่มาทำให้เธอเสียใจ แค่ประโยคนี้เท่านั้นผู้ชายที่มาเกาะแกะเธอต่างก็หนีหายไปตาม ๆ กัน 

     แต่เมื่อหญิงสาวบ่นเรื่องนี้กับเขา เดรโกก็ให้คำตอบว่า เขาแค่อยากปกป้องเธอจากคนที่ไม่จริงใจเท่านั้น ถ้าผู้ชายพวกนั้นชอบเธอจริงก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นสิว่าตัวเองคู่ควรกับเธอ ไม่ใช่แค่เจอหน้าเขาครั้งเดียวก็หนีหายไปแบบนี้ ซึ่งก็แสดงว่าไอ้พวกที่มาจีบเธอนั้นมันไม่ได้คิดจริงจังกับเธอต่างหากล่ะ แต่เมื่อเดรโกพูดแบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่ก็มักจะย้อนกลับว่า แล้วทีเขาล่ะ เขาก็ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลยซักคนเดียว เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าใคร

    ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเถียงกันด้วยเรื่องที่เดรโกเข้ามาก้าวก่ายความสัมพันธ์ของเธอกับชายหนุ่มคนอื่นบ่อยครั้งก็ตาม แต่สุดท้ายเฮอร์ไมโอนี่ก็ยอมให้เขาทำตัวเป็นกันชนให้เธอต่อไป ซึ่งหญิงสาวก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังไม่ได้ชอบใครจริง ๆ จัง ๆ ก็เป็นได้ เธอเลยยอมให้เดรโกสวมบทเพื่อนสนิทขี้หวงต่อไป

    “แต่คิดไปคิดมาก็น่าสงสารหมอนั่นเหมือนกันนะ” เดรโกพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างแปลกใจ

    “ทาร์ควินน่ะ ป่านนี้แล้วยังทำใจเรื่องเธอไม่ได้เลย” เขาว่า

    ‘ฮึ แล้วใครกันยะที่ตะโกนว่าเขาในโทรศัพท์วันนั้นน่ะ’ หญิงสาวคิดในใจ

    “แล้วไม่สงสารแม่บรรดากิ๊กของเธอบ้างเหรอฮะ ไหนต้องรอเธอเจียดเวลามาให้ ชั้นว่าบางคนคงจะรอเธอขอแต่งงานจนเฉาตายไปแล้วก็ได้” เธอโต้

    “อ๋อ ไม่หรอก เพราะชั้นก็ให้ความสุขพวกหล่อนได้เท่าเทียมกันเลยล่ะ อีกอย่างนะถ้าหล่อนรู้ว่าชั้นไม่ได้จริงจังกับหล่อนล่ะก็ หล่อนก็จะทิ้งชั้นไปเองแหละ” เขาตอบแบบเพลย์บอยตัวจริง!

     

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×