ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Dark Princess:เจ้าหญิงแห่งความมืด [เฮอร์ไมโอนี่/ลูเซียส]

    ลำดับตอนที่ #2 : The Dark Princess: เจ้าหญิงแห่งความมืด

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 55


     




    ***Chapter 2 The Dark Princess: เจ้าหญิงแห่งความมืด***

     

    ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังงงวยอยู่นั้น  แสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นตรงรูกุญแจของประตูบานหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากเธอนัก  เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อรู้ว่ามีใครบางคนร่ายคาถาเปิดประตูให้เธอจากข้างในราวกับต้องการให้เธอผ่านประตูนั้นเข้าไป  กระทรวงต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่เลือกให้เธอมาทำการสอบในกองปริศนาแบบนี้  ทั้ง ๆ ที่กองนี้เป็นที่ที่ใช้เก็บความลับอันมีค่ามหาศาลของโลกเวทย์มนต์ไว้  แล้วทำไมพวกเขาถึงยอมให้เธอซึ่งยังไม่ได้เป็นแม้แต่มือปราบมารฝึกหัดเข้ามาทำการสอบที่นี่ได้

     

    แต่กระทรวงอาจจะต้องการให้เธอเข้ามาสอบที่นี่จริง ๆ ก็ได้  เพราะถึงอย่างไรเธอก็เคยเข้ามาที่นี่แล้วในครั้งที่มาช่วยซีเรียสตอนปีห้า  หรือกระทรวงจะตั้งใจให้เธอจับฉลากได้กุญแจนำทางอันนี้อย่างนั้นเหรอ  อีกใจหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่คิดเช่นนั้น  แต่เมื่อผ่านการไตร่ตรองโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีไปแล้ว  เด็กสาวก็คิดว่ามันไร้สาระสิ้นดี!  กระทรวงไม่มีทางให้เธอทำการมาสอบในที่แบบนี้เป็นอันขาด  พวกเขายอมระเบิดตัวเองตายเสียดีกว่าปล่อยให้คนนอกเดินเข้ามาในกองปริศนาง่าย ๆ แบบนี้!

     

    เหลวไหลที่สุด  กระทรวงไม่มีทางทำอะไรโง่ ๆ อย่างนี้แน่  มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดพลาด  ฉันต้องกลับไป   เด็กสาวคิด  พลางก้มไปมองปากกาขนนกเก่าโทรมซึ่งเป็นกุญแจนำทางของเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ตั้งใจจะกลับไปยังสถานที่ที่เริ่มสอบ  และอธิบายกับกรรมการผู้ดูแลการสอบว่ามีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น  แต่ถ้าเธอทำเช่นนั้นแล้วกรรมการไม่เชื่อเธอล่ะ  มันก็อาจทำให้เธอหมดสิทธิ์สอบในครั้งนี้ไปในทันที

     

    เอาไงดีล่ะเนี่ยเด็กสาวคิด  เธอมองปากกาขนนกสลับกับประตูบานนั้น  แล้วก็หันมามองนาฬิกาที่ได้มาก่อนการสอบ  มันบอกว่าเธอใช้เวลาอันมีค่าไปแล้วห้านาทีแล้ว

     

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ  อย่างไรเสียเธอก็ไม่มีทางหันหลังกลับแล้ว  เพราะเธอไม่มีทางยอมให้ตัวเองหมดสิทธิ์สอบเพราะความสงสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นแน่

    เด็กสาวหย่อนนาฬิกาที่ถืออยู่ในลงในกระเป๋าเสื้อคลุม  เพื่อจะได้ไม่ทำมันหายระหว่างการสอบ  เธอกระชับไม้กายสิทธิ์ในมือก่อนจะตรงไปที่ประตูบานนั้น

     

    เมื่อผ่านประตูเข้ามาได้เด็กสาวก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสำหรับเก็บคำพยากรณ์ที่เธอเคยเข้ามากับแฮร์รี่และคนอื่น ๆ เพื่อมาช่วยซีเรียสเมื่อหลายปีก่อน  เด็กสาวมองไปตามชั้นดำทะมึนที่มีลูกแก้วนับร้อยนับพันเรียงกันอยู่อย่างไม่สบายใจ  เธอคิดว่ามันต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่ ๆ กระทรวงไม่น่าจะ  ไม่ใช่สิ  กระทรวงไม่มีวันส่งเธอเข้ามาทำการสอบในสถานที่ที่สำคัญเช่นนี้เป็นอันขาด  คำพยากรณ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อกระทรวงยิ่งนัก  พวกเขาไม่มีทางเสี่ยงให้เกิดการเสียหายขึ้นแน่ ๆ แค่คำถามก็คือว่า  ถ้ากระทรวงไม่ต้องการให้เธอเข้ามาที่นี่  แล้วใครล่ะที่ต้องการ!

     

    แต่นี่ไม่ใช่เวลามานั่งหาคำตอบนะ  ที่เธอต้องทำคือออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

     

    เด็กสาวสั่งตัวเองก่อนจะถอยกลับมาที่ประตู  ซึ่งยังคงเปิดอ้าอยู่  แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับผ่านประตูนั้นออกไปไม่ได้  เพราะว่ามีร่าง ๆ หนึ่งขวางมันไว้  ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีดำสนิทล่องลอยอยู่บนพื้นหน้าประตูห่างจากเธอไปราว ๆ 5 เมตร  แต่ถึงกระนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็สามารถได้ยินเสียงหวืดหวิวยามที่มันสูดอากาศเข้าร่างกาย  เธอรู้สึกหนาวเย็นยะเยือกราวกับจมลงไปในทะเลสาบกลางเดือนธันวาคม

     

    โดยไม่มีการเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น  ผู้คุมวิญญาณก็รุกเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว  เร็วเกินกว่าจะเรียกว่าล่องลอยได้  เด็กสาวก้าวถอยหลังตามสัญชาติญาณ  ในหัวของเธอดำมืดและเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง  เฮอร์ไมโอนี่เสียความเป็นตัวเองไปชั่วขณะ  เธอลืมแม้กระทั่งจะป้องกันตัวเอง!

    ความหนาวเย็นแทบจะกรีดผิวเนื้อของเฮอร์ไมโอนี่เมื่อผู้คุมวิญญาณหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ  ห่างเพียงเมตรเดียวเท่านั้น  เด็กสาวรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมดิ่งลงไปในความมืดมิด  ไม่มีความรู้สึกอะไรนอกไปจากหนาวเย็นและสิ้นหวัง  ในหัวของเธอเต็มไปด้วยเหตุการณ์ร้าย ๆ ทั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นและเกิดขึ้นมานานแล้ว  เธอเห็นภาพตัวเองเผชิญหน้ากับโทรลล์สูงสามเมตรเพียงลำพังในห้องน้ำหญิง  เห็นตัวเองมีเขี้ยวยาวงอกออกมาจากปากตอนที่มัลฟอยเสกคาถาใส่เธอตอนเธออยู่ปีสี่  เห็นวันที่รอนตรงเข้ามาโวยวายเรื่องแมวของเธอกินสแคบเบอร์หนูของเขา  เห็นภาพงานศพของดัมเบิลดอร์  ภาพผู้เสพความตายบุกโรงเรียน  ภาพตอนที่คุณย่าของเธอเสียเมื่อตอนเธอยังเป็นเด็ก  ภาพที่รอนเพื่อนรักโดนวางยาพิษในวันเกิดของเขาเองเมื่อตอนปีหก

     

    ผู้คุมวิญญาณลอยเข้ามาชิดร่างของเด็กสาว  มันมองเธอราวกับลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะมอบจุมพิตให้เธอดีหรือไม่  ท่ามกลางภาพเหตุการณ์น่ากลัวที่ไหลมาราวกับภาพฉายเหล่านั้น  จู่ ๆ ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นในหัวของเธอ  มันเป็นเสียงของแฮร์รี่  เพื่อนรักของเธอ

     

    กุญแจสำคัญคือมีสมาธิเท่านั้น  อย่าตกใจอะไรง่าย ๆ มีสติอยู่ตลอดเวลา

     

    ราวกับเสียงนั้นปลุกเธอขึ้นมากจากภวังค์  เฮอร์ไมโอนี่ได้สติขึ้นมาและพบว่าสิ่งเดียวที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือต่อสู้!  เด็กสาวยกไม้กายสิทธิ์ของเธอขึ้น  และชี้ไปที่ผู้คุมวิญญาณ  เธอรวบรวมสมาธิก่อนจะตะโกนก้อง

    เอกซ์เปกโตพาโทรนุม กลุ่มควันสีเงินยวงพวยพุ่งออกมาจากปลายไม้  ผู้คุมวิญญาณผงะถอยหลังเมื่อกลุ่มควันนั้นพุ่งมาทางมัน

    เมื่อเห็นว่าผู้คุมวิญญาณตัวนั้นผละหนีไปแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ก็กลับหลังหันแล้ววิ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่งในทันที  แต่เด็กสาวต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าข้างหลังเธอยังมีผู้คุมวิญญาณอีกสองตนคอยอยู่  เธอยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น

     

    เอกซ์เปกโตพาโทรนุมเฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถา  แต่ก็ทำได้แค่ปล่อยกลุ่มควันสีเงินออกมาจากปลายไม้เท่านั้น  จะว่าไปแล้วคาถาผู้พิทักษ์เป็นคาถาเดียวที่เธอมีปัญหา  แถมยิ่งเวลาเผชิญหน้ากับผู้คุมจริง ๆ แบบนี้มันทำให้เธอไม่มีสติพอที่จะเสกผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งออกมาได้

    ผู้คุมวิญญาณตัวหนึ่งผงะถอยหลังไปเพราะกลุ่มควันที่เฮอร์ไมโอนี่เสกขึ้นมา  แต่ผู้พิทักษ์ที่อ่อนแอนั้นไม่สามารถต้านทานผู้คุมวิญญาณได้พร้อมกันถึงสองตัว  อีกตัวหนึ่งที่ไม่ถอยหลังนั้นก้าวเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่  มันคว้าร่างของเธอไว้ด้วยมือเหี่ยว ๆ ตกสะเก็ดของมันก่อนที่เธอจะหนีได้ทัน  ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมนั้นยื่นเข้ามาใกล้หน้าเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงหวีดหวิวราวกับเสียงหวูดรถไฟแต่น่ากลัวกว่าหลายเท่าอยู่ใต้โปงผ้านั่น  มันกำลังจะมอบจุมพิตให้เธอ!

     

    แต่ก่อนที่ผู้คุมวิญญาณจะใช้มือตกสะเก็ดของมันอีกข้างหนึ่งดันใบหน้าเธอขึ้น  อะไรบางอย่างที่เป็นสีเงินยวงก็วิ่งเข้าหาพวกมัน  ผู้คุมวิญญาณเหล่านั้นแตกฮือเมื่อผู้พิทักษ์วิ่งตรงเข้ามา  มันรีบปล่อยเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะล่องลอยไปคนละทิศคนละทาง

     

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเด็กสาวก็พบว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนพื้นหินเย็น ๆ หลังพิงชั้นวางลูกแก้วพยากรณ์อยู่  และตรงหน้าของเธอนั้นเป็นผู้พิทักษ์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเป็นม้า  มันมีสีเงินยวงตลอดทั้งตัว ดวงตาสีเงินกลมโตของมันมองมาทางเฮอร์ไมโอนี่อย่างมีความหมาย

    ขอบใจนะเธอพูดหลังจากหายตกใจแล้ว ฉันว่าฉันควรจะต้องกลับไปแล้วล่ะ  นี่มันบ้ามากจริงไหม  มีที่ไหนบ้างที่ใช้ผู้คุมวิญญาณในการสอบอย่างนี้น่ะเด็กสาวบอกกับผู้พิทักษ์ที่เธอไม่ทราบว่าใครเป็นคนเสกมันขึ้นมา

    ว่าแต่  เธอเป็นผู้พิทักษ์ของใครกัน  ใครที่ช่วยฉันไว้เด็กสาวถามมัน  แน่นอนว่ามันไม่อาจตอบเธอได้  ม้าตัวนั้นหันหลังกลับ  มันออกวิ่งเหยาะ ๆ ไปข้างหน้าก่อนจะหยุดหันมามองเธอราวกับต้องการให้เธอตามมันไป

    เฮอร์ไมโอนี่มองมันอย่างสงสัย  แต่ในที่สุดเด็กสาวก็ลุกขึ้นและตามผู้พิทักษ์ตัวนั้นไป  เธอคิดว่าใครก็ตามที่เสกมันขึ้นมาคงไม่มีเจตนาร้ายกับเธอแน่ ๆ

    แต่เด็กสาวไม่รู้เลยว่าเธอคิดผิดอย่างมหันต์ทีเดียว      

     

    .................................................

     

    เฮอร์ไมโอนี่เดินตามร่างสีเงินยวงของผู้พิทักษ์ไป  มันนำเธอลึกเข้าไปในห้องเก็บคำพยากรณ์  เด็กสาวก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงตามมันไปแทนที่จะรีบออกไปจากที่นี่เสีย  เพื่อไปแจ้งกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น  อาจจะเป็นเพราะว่าอยากรู้ว่าคนที่เสกคาถาผู้พิทักษ์เพื่อช่วยเธอนั้นเป็นใคร  และเขามาทำอะไรที่นี่

    ร่างม้าผู้พิทักษ์ที่ส่องแสงสว่างไสวราวกับดวงจันทร์เบื้องบนนั้นค่อย ๆ เดินช้าลงและมันก็มาหยุดอยู่ตรงชั้นเก็บลูกแก้วพยากรณ์ชั้นหนึ่ง  ม้าตัวนั้นหันศีรษะมามองเฮอร์ไมโอนี่ราวกับต้องการให้เธอเข้าไปหามัน  แต่เมื่อเด็กสาวเดินไปใกล้ร่างสีเงินยวงของมันก็จางหายไป

    เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบกายอย่างประหลาดใจ  ผู้พิทักษ์ตัวนี้เป็นของใครกัน  แล้วมันนำเธอมาที่นี่ทำไม  แต่เมื่อดูจากรูปการแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่าคนที่เสกคาถาผู้พิทักษ์ต้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเธอเป็นแน่  แล้วเขาต้องการให้เธอมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่างถึงได้ส่งผู้พิทักษ์มานำทางเธอ  แต่เพื่ออะไรล่ะ  นั่นแหละที่เด็กสาวไม่อาจทราบได้

     

    เพราะต้องการจะหาคำตอบ  เฮอร์ไมโอนี่จึงเข้าไปสำรวจชั้นเก็บลูกแก้วตรงที่ผู้พิทักษ์เดินมาหยุดรอเธอก่อนที่มันจะหายไป  เด็กสาวพบว่ามันเป็นชั้นหมายเลข 99 เธอมองดูลูกแก้วพยากรณ์เหล่านั้นอย่างสงสัย  และแล้วจู่ ๆ ลูกแก้วหนึ่งในจำนวนนับร้อยที่วางอยู่ก็เรืองแสงขึ้นมา  เด็กสาวหันไปรอบกายเพื่อหาที่มาของคาถา  แต่เธอก็ไม่พบต้นตอของคนที่เสกมันขึ้นมาเลย  เฮอร์ไมโอนี่ตรงเข้าไปใกล้ลูกแก้วลูกนั้น  และเริ่มพิจารณามัน

    มันก็เหมือนลูกแก้วทั่ว ๆ ไป  ขุ่นมัวและเต็มไปด้วยกลุ่มควันที่หมุนวนอยู่ภายใน  มันมีขนาดเท่าฝ่ามือของเธอ  แต่เมื่อเด็กสาวขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น  เธอก็เห็นสิ่งที่ติดอยู่ที่ลูกแก้วอันนั้น  ป้ายเล็ก ๆ เก่าคร่ำคร่าพอ ๆ กับห้องเก็บคำพยากรณ์แห่งนี้  เฮอร์ไมโอนี่พยายามเพ่งอ่านข้อความที่เลือนรางนั้น  และเธอก็ตัวชาเมื่ออ่านมันจบ

     

     

    เจ้าหญิงแห่งความมืด

    เฮอร์ไมโอนี่ (ซิลเวีย) เกรนเจอร์

    กับสงครามครั้งสุดท้าย

     

     

    ทำไมลูกแก้วนี่ถึงมีชื่อของเธอติดอยู่  แล้วทำไมถึงมีคำว่า เจ้าหญิงแห่งความมืดที่เธอเคยได้ยินหลายต่อหลายครั้งในความฝันอยู่ด้วยเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจรู้ได้เลย  แต่เธอรู้อยู่อย่างเดียวว่าคำอธิบายทั้งหมดจะต้องอยู่ในลูกแก้วนั่น  แล้วทางเดียวที่เธอจะได้มันมาก็คือการหยิบลูกแก้วนี่ขึ้นมาจากชั้น

    เด็กสาวเอื้อมมือที่สั่นระริกไปหยิบมันออกมา  เธอกุมลูกแก้วพยากรณ์ไว้ในมือ  เด็กสาวรู้สึกถึงสัมผัสที่เย็นเฉียบราวน้ำแข็งของมัน  เธอกำมันไว้ในมือแน่นขณะที่รอฟังคำพยากรณ์ด้วยใจระทึก!

    แต่ก่อนที่ลูกแก้วนั้นจะบอกคำพยากรณ์แก่เฮอร์ไมโอนี่  เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ  มันดังก้องไปทั่วห้องราวกับผู้มาเยือนไม่ต้องการปกปิดการมาของตนเอง  เด็กสาวหันไปยังที่มาของเสียงนั้นอย่างตื่นตระหนก  แล้วสิ่งที่เธอเห็นก็คือร่างดำทะมึนร่างหนึ่งที่สวมหน้ากากราวกับภูตผี  ยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอนัก  ผู้เสพความตายนั่นเอง!

     

    เฮอร์ไมโอนี่ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นแต่เธอก็ช้าไป

    เอกซ์เปลลิอาร์มัสเสียงทุ้มดังขึ้นภายใต้หน้ากาก  มันเป็นเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด  ราวกับเธอเคยได้ยินมันมาก่อนแต่ก็จำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของใคร  ไม้กายสิทธิ์ในมือเธอถูกปลดออก  ร่างสูงนั้นยื่นมือมารับไว้อย่างชำนาญ   

    เฮอร์ไมโอนี่กำลูกแก้วพยากรณ์ในมือไว้แน่นพลางรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เขลาเหลือเกินที่เดินเข้ามาติดกับดักของผู้เสพความตายอีกครั้ง  ทั้ง ๆ ที่พวกมันเคยใช้แผนคล้าย ๆ กันนี้ล่อแฮร์รี่มาที่กระทรวงปริศนาครั้งหนึ่งแล้ว  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกผู้เสพความตายจะต้องการลูกแก้วพยากรณ์ที่มีชื่อของเธอ  อันที่จริงเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคำพยากรณ์เกี่ยวกับตัวเธอถูกเก็บรักษาอยู่ที่นี่

    ร่างใหญ่นั้นย่างสามขุมมาทางเธอ  เด็กสาวทำท่าจะถอยหนีแต่เมื่อเธอทำเช่นนั้นร่างนั้นก็ชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เธอ

     อย่าขยับ  แล้วก็อย่าคิดหนีด้วย  ทางที่ดีเธอควรส่งของที่อยู่ในมือมาให้ฉันดีกว่านะเกรนเจอร์เสียงหนึ่งดังมาจากร่างที่กำลังชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเธอ  และในครั้งนี้เด็กสาวจำได้ว่าเขาเป็นใคร

    คุณ!” เธอร้องออกมา

    จริงสินะ  เธอก็รู้จักฉันนี่นา  งั้นเราก็ไม่ควรจะปิดบังหน้าตากันแล้วใช่ไหมร่างใหญ่นั้นพูดก่อนจะร่ายคาถาเพื่อให้หน้ากากของเขาจางหายไป  และเมื่อเขาทำเช่นนั้นใบหน้าขาวซีดของร่างสูงก็ปรากฏต่อสายตาของเฮอร์ไมโอนี่

    ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าและเป็นคนปลดไม้กายสิทธิ์ของเธอก็คือ  ลูเซียส  มัลฟอย!

     

     

    .................................................

     

     

    อรุณสวัสดิ์คุณเกรนเจอร์  เราไม่ได้เจอกันนานเลยจริงไหมลูเซียสพูดเสียงนุ่ม  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีดเผือด

    คุณต้องการอะไร!” เธอตะโกนออกมา 

    ไม่น่าถามเลย  เธอก็รู้นี่นาว่าฉันต้องการอะไรเขากล่าว สิ่งที่อยู่ในมือเธอนั่นไง  ลูกแก้วพยากรณ์

    ถ้าคุณเข้ามาฉันจะทำลายมันซะเฮอร์ไมโอนี่ขู่  แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธออยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบก็ตาม

    เธอคิดว่าเธอจะใช้ลูกไม้เก่า ๆ เหมือนอย่างที่พอตเตอร์เคยใช้กับฉันได้เหรอเกรนเจอร์เสียงของลูเซียสฟังดูเกรี้ยวกราดขึ้นมาในทันที แอ็กซีโอลูกแก้ว!” เขาตะโกนก้อง 

    ลูกแก้วที่ถูกเด็กสาวกำไว้ในมืออย่างแน่นหนาลอยไปหาลูเซียสด้วยแรงคาถาทันที  เขายิ้มอย่างพอใจขณะที่รับมันมา  แล้วก็ไม่ลืมที่จะเสกคาถาป้องมันกันอีกชั้นหนึ่งก่อน  เพราะเขาไม่อาจเสี่ยงที่จะทำงานพลาดเหมือนคราวที่แล้วได้

    เมื่อแน่ใจว่าลูกแก้วพยากรณ์ปลอดภัยภายใต้คาถาคุ้มกันของเขา  ลูเซียสก็หันมาทางเฮอร์ไมโอนี่

    ฉันต้องขอบใจเธอนะที่ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น  ฉันนึกอยู่แล้วเชียวว่าแค่เธอคนเดียวคงจัดการได้ไม่ยาก

    คุณต้องการลูกแก้วนั่นไปทำไมเด็กสาวถามขึ้น

    ฉันรู้สึกว่าเธอจะมีนิสัยแย่ ๆ เกี่ยวกับการถามสิ่งที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วนะ  เกรนเจอร์  เธอก็รู้นี่ว่าฉันต้องการคำพยากรณ์ที่อยู่ในลูกแก้วนี่ลูเซียสตอบ

    แต่คำพยากรณ์นั่นมีชื่อฉันติดอยู่มันเกี่ยวกับฉันเธอเถียงออกไป  เด็กสาวนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าโวลเดอมอร์จะต้องการคำพยากรณ์เกี่ยวกับเธอไปทำไมกัน  เพราะเธอไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขา  เธอไม่ใช่แฮร์รี่  ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก  เธอเป็นแค่เด็กที่เกิดจากมักเกิ้ลเท่านั้น

    เห็นได้ชัดว่าเธอประเมินค่าตัวเองต่ำไปมากทีเดียว  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์.....ไม่ใช่สิ  ฉันต้องเรียกเธอว่า  เฮอร์ไมโอนี่  ซิลเวียถึงจะถูกเขากล่าว  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย  เธอไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไรและดูเหมือนลูเซียสจะอ่านสีหน้าของเธอออก

    เธอเคยได้ยินคำว่า เจ้าหญิงแห่งความมืดบ้างไหมมิสซิลเวียเขาพูดอย่างเป็นปริศนา  เด็กสาวตัวชาเมื่อได้ยินชื่อนั้น  เธอตกใจจนลืมสงสัยไปเลยว่าทำไมนายลูเซียสถึงเรียกเธอว่า ซิลเวีย แทนที่จะเป็น เกรนเจอร์ ’ 

     

    เขารู้ได้อย่างไร? ’เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างสับสน  และแน่นอนว่าลูเซียสจับสีหน้าที่ดูร้อนรนของเธอได้ดี  เขายิ้มกริ่ม

     

    เธอเคยได้ยินสินะ  แต่เธอคงไม่รู้ว่ามันคืออะไร......ใช่มั้ย”  เขาทิ้งท้ายไว้ด้วยคำพูดที่กระตุ้นความอยากรู้ของเฮอร์ไมโอนี่  ลูเซียส  มัลฟอยคนนี้เป็นคนที่มีวาทศิล์ปด้านการเจรจาต่อรอง  เขารู้วิธีที่จะเกลี้ยกล่อมคนอื่นให้คล้อยตามได้เป็นอย่างดี

    ฉันไม่เคยสนใจมันเด็กสาวพูดเสียงกร้าว  ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเธอสนใจมันมากกว่าอะไรทั้งหมด  เพราะมันคือสิ่งที่เธอได้ยินในความฝันมาเป็นเวลาหลายเดือน  และเธอก็อยากรู้เรื่องของมันเป็นอย่างมาก  อยากรู้มากกระทั่งยอมหยิบลูกแก้วพยากรณ์ออกมาจากชั้นโดยไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเป็นกับดัก

    และแน่นอนว่าลูเซียสรู้ทันความคิดของเธอเป็นอย่างดี

    แต่จากการที่เธอหยิบสิ่งนี้......เขาชี้ไปที่ลูกแก้วพยากรณ์ที่ลอยอยู่ในครอบแก้ว  ซึ่งเขาเสกไว้ให้คอยปกป้องมันจากอันตรายทั้งปวง ขึ้นมา  แถมพยายามจะปกป้องมันจากฉัน  ฉันคิดว่าเธอควรจะสนใจชื่อนั้นเป็นอย่างมากทีเดียวลูเซียสกล่าว  เฮอร์ไมโอนี่หลบตาเขา  เขาอ่านเธอออกทุกอย่างราวกับเขาสามารถได้ยินความคิดของเธอ

     

    แล้วมันคืออะไรล่ะเด็กสาวถามขึ้น เจ้าหญิงแห่งความมืดที่คุณว่า  มันคือเรื่องอะไรกัน  แล้วเธอเป็นใครเธอยิงคำถามใส่เขา  อย่างเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้ก็คือถ่วงเวลาไว้  แม้เฮอร์ไมโอนี่จะรู้ดีว่าโอกาสหนีรอดของเธอมีน้อยพอ ๆ กับโอกาสที่นายลูเซียสจะนำลูกแก้วกลับไปวางบนชั้นก็ตาม   แต่เธอก็หวังว่าเธออาจจะถ่วงเวลาเขาไว้ได้นานพอที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงจะระแคะระคายว่ามีคนบุกเข้ามาที่นี่

    ฉันไม่หลงกลเธอหรอก  เกรนเจอร์เขาพูดอย่างรู้ทัน ถ้าเธอต้องการจะถ่วงเวลาเพื่อหนีไปจากที่นี่ล่ะก็อย่าคิดเสียให้ยากเลยเขากล่าวพลางมองข้ามไหล่ของเธอไป  เด็กสาวมองตามและพบว่าข้างหลังเธอมีร่างดำทะมึนอีกสองร่างค่อย ๆ ก้าวเข้ามา 

    ร่างสองร่างนั้นไม่ได้ปกปิดหน้าตาเหมือนอย่างลูเซียสในตอนแรก  แต่พวกมันก็แต่งกายด้วยชุดสีดำเช่นเดียวกับเขา  เมื่อทั้งสองเข้ามาใกล้เฮอร์ไมโอนี่ก็จำได้ว่าผู้เสพความตายที่มาใหม่นั้นคือ  เบลลาทริกซ์  เลสสฃแตรงค์  และสามีของเธอ โรโดลฟัดจ์

    เมื่อเห็นว่าปราศจากหนทางหนีเด็กสาวจึงหันกลับมาเผชิญหน้าลูเซียสอีกครั้ง  แม้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอซีดเกือบจะเท่า ๆ ใบหน้าของเขาแล้วก็ตาม

    เรียบร้อยไหม  ลูเซียสเบลลาทริกซ์เอ่ยขึ้น  แทนคำตอบลูเซียสพยักหน้าไปทางลูกแก้วพยากรณ์ที่ลอยอยู่ในระดับอกของเขาอย่างปลอดภัยในครอบคาถา

    ดี  งั้นก็รีบจัดการนังเด็กนี่เสียสิ  เราจะได้กลับไปรายงานจอมมารเสียที  คุณคงไม่อยากให้นายท่านต้องรอนานใช่ไหมเบลลาทริกซ์พูดพลางเขี่ยไม้กายสิทธิ์เล่นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย  น่าแปลกเธอไม่สนใจที่จะขอลูเซียสทรมานเฮอร์ไมโอนี่แม้แต่น้อย  ตรงกันข้ามเธอกลับบอกให้เขาจัดการเด็กสาวอย่างรวดเร็วซึ่งมันออกจะผิดวิสัยของเธอไปหน่อย  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้สังเกตถึงความผิดปกตินั้น  เพราะสมองของเธอว่างเปล่าตั้งแต่วินาทีที่เบลลาทริกซ์บอกให้ลูเซียสฆ่าเธอแล้ว!

    จริงสินะ  ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้แหละเบลลาลูเซียสกระดกไม้ขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่ตาโต  เธอรู้สึกราวกับเลือดภายในกายแข็งตัวขึ้นฉับพลัน  เขากำลังจะฆ่าเธอ

    เด็กสาวหลับตา  เธอไม่มีทางหนีอีกแล้ว!

    ลาก่อนค่ะพ่อแม่  แฮร์รี่  รอนเธอคิดในขณะที่เตรียมตัวรับวาระสุดท้าย  แม้เธอจะไม่เห็นภาพตรงหน้าก็ตามแต่เด็กสาวก็ได้ยินเสียงนายลูเซียสกำลังพึมพำคาถา  และวินาทีต่อมาแสงจ้าบาดตาก็สว่างวาบขึ้น!

     

     

    .................................................

     

      

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อพบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่  แต่เมื่อเธอลืมตาเพื่อมองภาพตรงหน้าให้ชัด ๆ เด็กสาวก็รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้ลอยอยู่กลางอากาศแต่อย่างใด  แต่เธอกำลังถูกอุ้ม  และบุคคลที่โอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนนั้นไม่ใช่ใครอื่น  แต่เป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่เธอต้องการจะให้แตะต้องตัวเธอ  ลูเซียส  มัลฟอย!

    เมื่อเห็นเช่นนั้นเด็กสาวก็พยายามดิ้นรน  แต่เธอพบว่ามันเปล่าประโยชน์  เพราะตอนนี้ตัวเธอแข็งเหมือนหินและไม่สามารถขยับเขยื้อนได้  เขาร่ายคาถาใส่เธอ้้และทำให้เธอเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้!

    ลูเซียสปรายตามามองเฮอร์ไมโอนี่  และเมื่อเขาเห็นว่าเธอตื่นแล้วเขาก็ทำหน้านิ่งเฉยอย่างไม่สนใจและอุ้มร่างของเธอต่อ  ทั้งสองผ่านเข้ามาในทางเดินแคบ ๆ ทำด้วยหินที่เก่าแก่และสกปรก  เด็กสาวพยายามเบิกตามองให้มากที่สุดว่าเธออยู่ที่ไหนแต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถเห็นไปได้มากกว่าผนังที่ทำด้วยหินและเสื้อคลุมของนายลูเซียสเลย 

     

    เขาอุ้มเธอมาหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่งซึ่งมีผู้เสพความตายเฝ้าอยู่สองคน  และเมื่อสองคนนั้นเห็นการมาของลูเซียส  ร่างที่ยืนยามอยู่ก็ร่ายคาถาเปิดประตูพร้อมกับหลีกทางให้

     

    ภายในเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพดานต่ำที่มีขนาดกว้างขวาง  ผนังทั้งสี่ด้านปูด้วยหินแบบหยาบ ๆ ในห้องมีคบไฟแบบแขวนผนังประดับอยู่เป็นจุด ๆ ที่มุมห้องมีรูปปั้นปีศาจหน้าตาหน้ากลัว  แลบลิ้นเป็นแฉกยาวเฟี้อยแลดูสยดสยองตั้งอยู่  และที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องนั้นเป็นแท่นหินที่มีขนาดเท่ากับเตียงนอนใหญ่ ๆ ยกสูงจากพื้นราว ๆ 1 ฟุต  ลูเซียสอุ้มเด็กสาวไปวางไว้ที่นั่น

    เมื่อร่างของเธอถูกวางลงเฮอร์ไมโอนี่จึงเพิ่งสังเกตว่าตรงแท่นหินที่เธอกำลังนอนอยู่นี้ไม่ได้เป็นแค่แท่นหินเรียบ ๆ แต่อย่างใด  แต่มันมีโซ่ตรวจเก่าคร่ำคร่าคู่หนึ่งวางอยู่  ปลายของโซ่ยึดแน่นกับฐานของแท่นหิน  และหัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ก็กระตุกวูบเมื่อลูเซียสจับร่างของเธอขึ้นนั่งและล่ามแขนสองข้างเธอเข้ากับโซ่นั่น

    เด็กสาวมองเขาอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร  เธอพยายามขัดขืนแต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อตอนนี้เธอทำไม่ได้แม้กระทั่งเปล่งเสียงร้อง  ลูเซียสสบตาเฮอร์ไมโอนี่ขณะกำลังล่ามโซ่เธอ  เขายิ้มเยาะออกมาเมื่อเห็นแววตื่นตระหนกในดวงตาสีน้ำตาลที่เคยหยิ่งทระนงของเด็กสาว  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงความเย็นเยียบของเหล็กที่รัดรอบข้อมือเธอเมื่อเขาจัดการล่ามโซ่เธอเสร็จ  น้ำตาเริ่มรื้นดวงตาคู่สวยเมื่อเธอรู้ว่าเธอได้ตกเป็นเชลยชายตรงหน้าเสียแล้ว!

     

    เมื่อแน่ใจว่าเด็กสาวตรงหน้าถูกล่ามอย่างแน่นหนาดีแล้ว  ลูเซียสก็โบกไม้กายสิทธิ์เบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าร่างของเธอเบาหวิวและเริ่มขยับได้  เธอคลายจากการถูกสะกดแล้ว  แต่ถึงอย่างไรเสียเธอก็ไม่อาจหนีไปไหนได้เพราะโซ่แข็งแรงที่ล่ามแขนทั้งสองข้างของเธอไว้กับแท่นหินนี่อย่างแน่นหนา  เธอลองขยับแขน  แต่ก็รู้ดีว่าเปล่าประโยชน์  ในขณะที่ลูเซียสมองการกระทำของเธออย่างเยาะ ๆ

    เด็กสาวเงยหน้าไปสบตาเขา 

    ที่นี่ที่ไหน  คุณจับฉันมาทำไม  ทำไมไม่ฆ่าฉันเสียเธอถามออกไปเป็นชุดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด  เธอไม่สนแล้วว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบเพียงไร

    ฉันนึกว่าเธอจะฉลาดกว่านี้เสียอีกเกรนเจอร์ลูเซียสพูด ที่ฉันไม่ฆ่าเธอ  ไม่ใช่เพราะฉันไม่อยากฆ่า  และแน่นอนว่าฉันก็ไม่ลังเลด้วยหากต้องทำ  แต่ที่ฉันจับตัวเธอมาที่นี่ก็เพราะฉันได้รับคำสั่งจากจอมมาร  ให้พาเธอมาพบท่านในสภาพเป็น ๆ แบบนี้เขาอธิบาย

    ฉันไม่เข้าใจ  โวลเดอมอร์จะต้องการตัวฉันไปทำไม  ในเมื่อเขาก็ให้คุณไปเอาคำพยากรณ์นั่นมาแล้วเฮอร์ไมโอนี้พูดขึ้น  และราวกับการเรียกชื่อจอมมารได้ไปกระตุ้นต่อมความโกรธซักอย่างของลูเซียสเข้า  เขาตรงเข้ามาที่เธอทันทีที่เธอพูดชื่นนั้นจบ  มือใหญ่ของเขาคว้าคางเด็กสาวไว้และบีบมันแน่น  แววตาสีเงินทอประกายเกรี้ยวกราด

    เธอกล้าดียังไงถึงพูดชื่อนั้นออกมา!  เธอนึกเหรอว่าเธอเป็นเจ้าหญ.........ลูเซียสกัดริมฝีปาก แล้วจะพูดชื่อนั้นออกมาได้เหมือนเรียกชื่อพอตเตอร์น่ะ!” เขาคำรามพลางบีบกรามของเธอแน่น  ความเจ็บปวดที่ใบหน้าทำให้เด็กสาวแทบน้ำตาไหล  เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บ  แต่เสียงของเธอก็ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงอู้อี้ในลำคอเลย  และนายลูเซียสคงจะเล่นงานเธอมากกว่านี้แน่ ๆ ถ้าหากไม่มีร่างหนึ่งปรากฏกายขึ้นก่อน

    ลูเซียสเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา  หากแต่ลูเซียสกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน มันเป็นเสียงที่นุ่มลึกแต่แฝงความโหดเหี้ยมเอาไว้  เฮอร์ไมโอนี่มองข้ามไหล่ของนายลูเซียสไปยังร่างที่มาใหม่  แล้วเธอก็พบว่าร่างนั้นเป็นบุคคลที่เธอไม่อยากพบมากที่สุดในตอนนี้  มากเสียยิ่งกว่าลูเซียส  มัลฟอยหลายเท่านัก

    เพราะร่างที่มาใหม่นั้นก็คือ  จอมมาร

     

     

    *************************************************

     

    ***Chapter 3  The Heir of Revanclaw: ทายาทของเรเวนคลอ***

     

    นายท่านลูเซียส   มัลฟอยกระซิบ  ใบหน้าของเขาซีดเผือดเมื่อว่าเห็นว่าร่างที่มาใหม่นั้นเป็นใคร

    ข้าบอกเจ้าแล้วนี่ว่าห้ามเสียมารยาทกับแขกของข้าลอร์ดโวลเดอมอร์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาและเฮอร์ไมโอนี่พลางมองสมุนของเขาด้วยอย่างตำหนิ  นายลูเซียสรีบปล่อยมือจากเด็กสาวทันที

    ข้าผิดไปแล้วเจ้านายเขากล่าวกลางก้มศีรษะลงต่ำ  จอมมารโบกมือให้เขาหลบไปข้าง ๆ  และเมื่อจอมมารทำเช่นนั้นลูเซียสจึงหลีกทางให้เจ้านายของเขามายืนอยู่หน้าเฮอร์ไมโอนี่

    ยินดีต้อนรับคุณเกรนเจอร์  สู่ที่พักของฉันจอมมารเอ่ยขึ้นพลางผายมือไปรอบ ๆ ซึ่งในความคิดของเด็กสาวมันดูห่างไกลคำว่า ที่พัก มากนัก หวังว่าสมุนของฉันคงไม่ทำอะไรให้เธอต้องขุ่นเคืองใจหรอกนะเขาพูดเสียงนุ่ม  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ

     

    รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากบางเฉียบของลอร์ดโวลเดอมอร์  เขาเริ่มพูดต่อ

    เธอคงสงสัยใช่ไหมว่าฉันจับตัวเธอมาที่นี่ทำไมเขากล่าวพลางปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในฐานะเชลย

    ใช่แล้วเธอสงสัย  แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจับเธอมาเพื่อให้มาเป็นเชลยจอมมารพูดราวกับรู้ทันความคิดของเฮอร์ไมโอนี่

    แต่เธอมาที่นี่ในฐานะแขกของฉันเขากล่าว

    แล้วท่านต้อนรับแขกของท่านด้วยการล่ามโซ่แบบนี้น่ะหรือ เด็กสาวสวนขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัว  นายลูเซียสตาโต  เขาทำท่าจะตรงมาที่เธอพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ในมือ  แต่โวลเดอมอร์กลับโบกมือห้ามไว้เสียก่อน

    นายท่าน!”

    ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าเสียมารยาทกับแขก ลูเซียสจอมมารพูด  นายลูเซียสลดไม้ของเขาลงอย่างเสียไม่ได้

    เธอคงสงสัยไม่น้อยใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องจับตัวเธอมาที่นี่ด้วย  ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้วโวลเดอมอร์พูดพลางยื่นมือออกมา ลูเซียส  ส่งมันมาให้ข้า

    ครับ นายท่านลูเซียสส่งลูกแก้วพยากรณ์ที่เก็บไว้ในเสื้อคลุมไปให้จอมมาร  เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุเห็นว่าตอนนี้มันไม่ได้มีคาถาป้องกันอยู่แต่อย่างใด

    โวลเดอมอร์รับลูกแก้วมาถือไว้ในมือ  พลางมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่

    เธอไม่สงสัยบ้างหรือเกรนเจอร์  ว่าทำไมชื่อของเธอถึงไปอยู่บนลูกแก้วอันนี้ได้เขากล่าว ทำไมถึงมีคำว่าเจ้าหญิงแห่งความมืดปรากฏอยู่ด้วย  แล้วทำไมชื่อของเธอถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งสุดท้าย  ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นแค่เด็กเลือดสีโคลนคนหนึ่งเท่านั้น.......ทำไมกันโวลเดอมอร์พึมพำราวกับเขากำลังถามคำถามนี้กับตัวเองมากกว่าถามเฮอร์ไมโอนี่

     

    จอมมารออกเดินไปรอบห้อง  ในมือถือลูกแก้วพยากรณ์ไว้  เขาเริ่มต้นเล่าเรื่อง

    นานมาแล้วคุณเกรนเจอร์  นานเกือบยี่สิบปีก่อน  มีคำทำนายอันหนึ่งพูดถึงการกำเนิดของเจ้าหญิงแห่งความมืด จอมมารกล่าว

    นักพยากรณ์คนหนึ่งเคยทำนายเรื่องนี้เอาไว้  เธอเป็นคนที่มีความสามารถมากทีเดียว  เสียอยู่อย่างเธอกลับไม่ยอมรับใช้ฉัน  ไม่ยอมบอกข้อมูลสำคัญที่เธอรู้แก่ฉัน  ฉันเลยต้องทรมานเธอ  ฉันเสกคาถากรีดแทงใส่เธอจนเธอยอมบอกข้อมูลแก่ฉัน  คำทำนายที่เธอเห็นเกี่ยวกับเจ้าหญิงแห่งความมืดเขาพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ราวกับเขากำลังเล่านิทานก่อนนอนให้เด็กสาวฟัง

     

    คำทำนายนั้นกล่าวไว้ว่า  หลังจากนี้ไม่นานนักจะมีเจ้าหญิงแห่งความมืดถือกำเนิดขึ้น  เธอเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลกแห่งเวทย์มนต์เขาพูด

    เพราะอะไรน่ะหรือ  เพราะเธอมีชะตากรรมที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับอำนาจมืดและสงครามน่ะสิ  คำทำนายบอกไว้ว่า  เมื่อเจ้าหญิงคนนี้เจริญวัยขึ้น  จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นในโลกเวทย์มนต์  และเธอจะเป็นกุญแจหลักของการทำสงครามครั้งนี้  เธอเปรียบเสมือนอาวุธที่ทรงพลัง  ฝ่ายใดที่ได้ตัวเธอไปอำนาจของเธอจะช่วยสนับสนุนฝ่ายนั้นให้มีชัยในสงคราม  แต่ที่แปลกกว่านั้นก็คือ... จอมมารชะงักคำพูด  สีหน้าของเขาดูลังเลระคนสงสัยซึ่งเป็นสีหน้าที่เด็กสาวคาดว่าจะไม่มีวันได้เห็นจากเขา

    นักพยากรณ์คนนั้นได้ทำนายไว้ว่าเจ้าหญิงแห่งความมืดจะมีอำนาจที่แม้แต่เจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่างฉันไม่แม้แต่จะฝันถึงน้ำเสียงของโวลเดอมอร์เกรี้ยวกราดขึ้นทันทีเมื่อเขาเอ่ยประโยคสุดท้าย

     

    ตอนที่ได้ยินคำทำนายนี้ฉันยอมรับนะว่าฉันไม่พอใจซักเท่าไหร่นัก  แล้วก็เป็นเคราะห์ของนักพยากรณ์คนนั้นที่ฉันไม่ปลาบปลื้มกับคำทำนายของเธอแม้แต่น้อย  โวลเดอมอร์ยิ้มออกมา  มันเป็นรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมพอจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักพยากรณ์คนนั้น  เมื่อเธอทำให้จอมมารไม่พอใจ

    ทำไมน่ะรึ  เพราะฉันไม่เชื่อ  ไม่ใช่สิ  ฉันไม่มีทางเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะมามีอำนาจที่ฉันไม่มีวันมี  คิดดูสิว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรที่หล่อนจะมีอำนาจที่แม้แต่ฉัน  ลอร์ดโวลเดอมอร์  พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่เคยฝันถึงสีหน้าของจอมมารดูโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน  ดวงตาแดงก่ำหรี่ลงจนทำให้หน้าของเขาเหมือนงูมากขึ้น

     

    แม้ว่าฉันจะไม่เชื่อคำทำนายนั่นก็ตาม  แต่ฉันก็จำเป็นจะต้องรู้ว่าเจ้าหญิงที่ว่านั้นเป็นใคร  ฉันจึงสอบปากคำนักพยากรณ์คนนั้นต่อ  ฉันทรมานหล่อนเพิ่ม  แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้หล่อนจะไม่ยอมบอกฉันง่าย ๆ เหมือนอย่างที่แล้วมา  ฉันทรมานหล่อนจนหล่อนแทบเสียสติ  แต่หล่อนยังคงปิดปากเงียบ  เพราะหล่อนคงรู้ดีว่าถ้าหากหล่อนบอกเรื่องชาติกำเนิดของเจ้าหญิงแก่ฉัน  มันจะเป็นการทำลายชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าหญิงเสียตั้งแต่เธอยังไม่ได้ลืมตามาดูโลก  ฉันทรมานหล่อนอยู่นานแต่หล่อนก็ไม่ยอมปริปากพูดถึงครอบครัวที่จะให้กำเนิดเจ้าหญิง  จนกระทั่งหล่อนใกล้ถึงวาระสุดท้ายเต็มที  ฉันจึงเจาะเข้าไปในใจของหล่อนจอมมารเล่าด้วยท่าทีสบาย ๆ

     

    การเจาะเข้าไปในจิตใจของคนที่ใกล้จะตายเพื่อหาข้อมูลเล็ก ๆ นั้นคงจะเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับคนอื่น  เธอคงรู้ใช่ไหมคุณเกรนเจอร์  ว่าจิตใจของคนที่ใกล้ตายมักจะสับสนฟุ้งซ่าน  เพราะมันเต็มไปด้วยความทรงจำที่หลั่งไหลเข้ามาก่อนที่เขาจะตาย......แต่ที่ฉันพูดนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันเคยตายหรอกนะจอมมารพูดด้วยน้ำเสียงเดียดฉันท์ 

    แล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเสาะหาเศษเสี้ยวของข้อมูลเพียงน้อยนิดในจิตใจที่เต็มไปด้วยความสับสนของหล่อน  แต่มันก็ไม่ใช่กับฉันซึ่งเป็นนักพินิจใจยอดเยี่ยมที่สุด  ฉันเจาะเข้าไปในใจของหล่อนและนำข้อมูลจำนวนหนึ่งออกมาได้สำเร็จ  แม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่ฉันต้องการนั้นจะกระจัดกระจายเกินกว่าที่ฉันจะรวบรวมมาได้หมดก็ตาม  และฉันก็เสียดายไม่น้อยที่ฉันไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับอนาคตของเจ้าหญิง  แต่ฉันก็ได้ข้อมูลส่วนที่สำคัญที่สุดออกมา  ข้อมูลที่บอกฉันถึงชาติกำเนิดของเจ้าหญิงคนนั้น

    ข้อมูลอันมีค่านั้นบอกฉันว่า  เจ้าหญิงแห่งความมืดจะถือกำเนิดขึ้นเมื่อต้นฤดูใบไม้ร่วงในอีกหนึ่งปีให้หลัง  และเธอจะกำเนิดจากทายาทคนสุดท้ายของแม่มดผู้ยิ่งใหญ่  โรวีน่า  เรเวนคลอจอมมารกล่าว

     

    .................................................

     

                    เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตา  นี่เธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า  เจ้าหญิงแห่งความมืดจะถือกำเนิดจากทายาทคนสุดท้ายของเรเวนคลออย่างนั้นรึ  แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเธอเคยอ่านเจอในหนังสือว่าทายาทของเรเวนคลอนั้นสูญสิ้นไปหมดแล้ว

    เธอคงคิดสินะว่าทายาทของเรเวนคลอไม่หลงเหลืออยู่ในโลกนี้แล้วโวลเดอมอร์ กล่าวอย่างรู้ทัน ฉันเองก็เคยคิดอย่างนั้นเมื่อนานมาแล้ว  และมันก็เจ็บปวดทีเดียวที่ต้องยอมรับว่าฉันคิดผิด

    หลังจากหลักฐานหลายอย่างที่ฉันรวบรวมมาได้ฉันก็พบว่าเชื้อสายของเรเวนคลอยังมีชีวิตอยู่  แม้ว่าจะไม่มีใครใช้ชื่อสกุลนี้แล้วก็ตาม  ตระกูลที่สืบเชื้อสายของเรเวนคลออพยพออกไปจากอังกฤษเมื่อหลายศตวรรษที่แล้ว  และไปตั้งรกรากอยู่ที่อื่นแทน  แต่ฉันก็สั่งให้สมุนของฉันตามสืบจนเจอทายาทกลุ่มสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ของเรเวนคลอ  พวกเขาอพยพไปที่ฝรั่งเศส  ฉันสั่งให้ผู้เสพความตายของฉันจับตาดูครอบครัวนี้ไว้  และรายงานพฤติกรรมของพวกเขาตลอดเวลา  จนกระทั่งภรรยาของครอบครัวนี้คลอดลูกสาวคนหนึ่งในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงซึ่งตรงกับคำทำนายพอดีจอมมารเล่า  ริมฝีปากบางยิ้มอย่างชั่วร้าย

    หลังจากเด็กคนนั้นถือกำเนิดขึ้น  เธอพอจะเดาได้ไหมเกรนเจอร์ว่าฉันทำอย่างไรเขาถามเด็กสาว  ใบหน้าของเธอซีดเผือดเมื่อนึกถึงสิ่งที่จอมมารจะทำต่อผู้ที่อาจจะมีอำนาจเหนือเขา อย่างเดียวกับที่เขาพยายามทำกับแฮร์รี่

     

    และแน่นอนว่าโวลเดอมอร์อ่านสีหน้าที่ตื่นตระหนกของเฮอร์ไมโอนี่ออก

    เปล่าเลย  ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเขาอย่างที่เธอคิดหรอก  ตรงกันข้าม  ฉันส่งผู้เสพความตายคนหนึ่งเพื่อไปนำตัวเธอมา  แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่ามีพ่อมดอีกคนที่กำลังตามหาตัวเจ้าหญิงคนนี้เหมือนกัน  และก็น่าเสียดายอย่างที่สุดที่สมุนของฉันคนนั้นทำงานพลาดจอมมารพูดรอดไรฟันออกมาอย่างเคียดแค้น  รูม่านตาของเขาขยายกว้าง  แววตาสีแดงราวโรจน์ด้วยความโกรธ

    เจ้านาย.....ข้าเสียใจที่ทำให้ท่านผิดหวังนายลูเซียสเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา

     “เจ้าต้องการให้ข้าลงโทษเจ้าอีกหรือไง  ลูเซียสจอมมารบอกอย่างรำคาญอยู่ในที  นายลูเซียสหน้าขาวซีด  เขารีบตอบออกมา

    ไม่ครับเจ้านาย  แน่นอนว่าไม่จอมมารมองสมุนของเขาด้วยสายตาประเมินอยู่ครู่หนึ่งก่อนก็จะกล่าวขึ้น

    ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณเกรนเจอร์ฟังเสียสิ  เพราะถึงยังไงข้าก็คงไม่รู้ดีกว่าเจ้าที่อยู่ในเหตุการณ์จริงไหมเจ้าแห่งศาสตร์มืดพลางแสยะยิ้ม  แต่รอยยิ้มนั้นกลับดูน่ากลัวพิลึกเมื่อปรากฏอยู่บนใบหน้าที่เหมือนงูของเขา

     แต่นายท่านต้องการให้ข้าบอกเธอตอนนี้เลยหรือเสียงของลูเซียสแสดงถึงความลังเล

    บอกเท่าที่ความทรงจำของเจ้าจะเอื้ออำนวยโวลเดอมอร์สั่งพลางสะบัดไม้กายสิทธิ์ในมือ  และแล้วก็มีบางอย่างลอยมาจากมุมห้องมาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่  ในตอนแรกเด็กสาวคิดว่ามันเป็นอ่างหินที่ประดับอยู่คู่กับรูปปั้นสัตว์ประหลาดตรงมุมห้อง  แต่เมื่อเธอสามารถมองมันได้ชัดขึ้น  เธอก็พบว่ามันคือเพนซิฟ  อุปกรณ์สำหรับใช้ดูความทรงจำ

    แต่ท่านไม่ต้องการรอให้เขากลับมาก่อนหรือ  แค่ความทรงจำของข้าเพียงคนเดียวอาจจะทำให้เธอแคลงใจ”  ลูเซียสแย้ง  จอมมารมีสีหน้ารำคาญใจ

    เซเวอร์รัสกลับมาช้าเกินไป  ข้าไม่ต้องการที่จะรออีกแล้ว  ข้าสั่งให้เจ้า......เขาเอ่ยขึ้นอย่างโมโห  แต่ก่อนที่โวลเดอมอร์จะพูดจบ  ประตูห้องก็เปิดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างในชุดคลุมสีดำ

     

    .................................................

     

    เซเวอร์รัส  สเนปยืนอยู่ตรงธรณีประตู  เขาก้าวยาว ๆ ผ่านหน้าเฮอร์ไมโอนี่ไปยังจอมมาร  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างตกใจ  แต่สเนปไม่สนใจเธอ  เขาเดินไปหยุดหน้าลอร์ดโวลเดอมอร์ก่อนจะก้มศีรษะลงต่ำ 

    ข้ากลับมาแล้วเจ้านายสเนปพูดขึ้น

    เจ้าได้ของที่ข้าต้องการมารึเปล่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดถาม

    แทนคำตอบสเนปล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุมแล้วหยิบบางสิ่งออกมา  มันเป็นขวดแก้วเล็ก ๆ ที่บรรจุสารสีเงินยวงเอาไว้  เด็กสาวรู้ทันทีว่ามันเป็นความทรงจำ  แต่เจ้าของของมันคือใครนั้นเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจทราบได้

    ทำไมถึงใช้เวลานานนัก  หรือว่าภารกิจนี้มันหนักหนาสำหรับแกมากลูเซียสอดไม่ได้ที่จะแขวะร่างที่มาใหม่  สเนปเลิกคิ้วอย่างไม่สนใจ  เขาหันไปตอบคำถามนั้นกับเจ้านายของเขาแทน

    นายท่านโปรดอภัยให้ข้าด้วย  ที่ข้ากลับมาช้าเพราะต้องรอจังหวะที่จะเข้าถึงพ่อแม่ของเธอโดยไม่ให้พวกมักเกิ้ลคนอื่นสงสัย  เพื่อเอาความทรงจำมาเขาพยักเพยิกไปทางเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวตาโตเมื่อรู้ว่าพูดถึงอะไร

     

    คุณทำอะไรพ่อแม่ฉัน!” เธอร้องขึ้น  ถ

    สเนปกรอกตาอย่างรำคาญ  ก่อนจะพูดออกมา

    ฉันไม่ได้ทำอะไรพวกเขาทั้งนั้น  เกรนเจอร์สเนปว่า เธอคิดว่าฉันอยากจะแตะต้องพ่อแม่มักเกิ้ลของเธอนักรึไง

    โกหก  คุณโกหก!” เธอกรีดเสียง  พยายามดิ้นรนจากโซ่ที่ล่ามเธออยู่ คุณทำอะไรพวกท่าน  บอกฉันมานะ!”

    ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเขาสเนปตอบอย่างหนักแน่น ฉันแค่เข้าไปที่คลินิกของพ่อเธอ  เอาความทรงจำของเขามาแล้วก็เสกคาถาลบความทรงจำใส่เขาเท่านั้น  เธอวางใจได้ว่าเขาจะยังจำลูกสาวสุดที่รักของเขาได้แน่นอน  ถ้าหากเธอมีโอกาสกลับไปหาเขาอีกนะเสียงของสเนปฟังดูเยาะเย้ย  เด็กสาวโกรธจนหน้าแดง  แต่เมื่อได้ยินว่าสเนปไม่ได้ทำอะไรพ่อแม่ของเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ก็มีสีหน้าดีขึ้น

    คุณไม่ได้ทำอะไรท่านใช่จริง ๆ ใช่มั๊ยเธอถามซ้ำ  แต่คราวนี้สเนปไม่ตอบ  เขาเบนหน้าไปทางอื่นอย่างรำคาญ

     

    เอาล่ะ  เซเวอร์รัส  ส่งความทรงจำนั่นไปให้ลูเซียส  เราจะได้เริ่มกันเสียทีจอมมารสั่งขึ้น  สเนปทำตามโดยการส่งขวดแก้วเล็กจิ๋วในมือไปให้ลูเซียส

    ลูเซียสรับมันมาถือแต่ยังไม่ได้ทำอะไรกับมัน  เขาตรงไปยังเพนซิฟที่ลอยอยู่หน้าเฮอร์ไมโอนี่  มือข้างหนึ่งที่ถือไม้กายสิทธิ์ของเขายกขึ้นและชี้ไปยังเส้นผมสีบลอนด์ของตนเอง  และในวินาทีต่อมาเขาก็ดึงสารสีเงินยวงออกมาจากศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีบลอนด์

    นายลูเซียสทิ้งสารสีเงินยวงจากศีรษะเขาลงในเพนซิฟเป็นอันดับแรก  ก่อนจะลงมือเปิดขวดแก้วที่รับมาจากสเนปแล้วเทสารสีเงินในขวดตามลงในอ่างที่ทำด้วยหิน

    ดีมากจอมมารเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ  เมื่อลูเซียสทำหน้าที่เสร็จเขาก็หลบไปข้าง ๆ เพื่อหลีกทางให้เจ้านาย

    โวลเดอมอร์เดินเข้ามาหยุดที่เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งมีอ่างเพนซิฟลอยอยู่ตรงหน้า

    เอาล่ะคุณเกรนเจอร์  ถ้าเธอจะกรุณาเขาพูดเสียงนุ่ม  แต่แฝงแววชั่วร้ายเอาไว้  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าจอมมารต้องการอะไร  เขาต้องการให้เธอดูความทรงจำในเพนซิฟนั่นซึ่งเด็กสาวก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร  และเขามีจุดประสงค์อะไรถึงทำเช่นนี้  แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้ก็คือความทรงจำหนึ่งในสองอันนั้นเป็นของพ่อของเธอ

    เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเฉย  เธอไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา  และเมื่อเป็นเช่นนั้นจอมมารก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา

    ดูท่าเธอจะดื้อกว่าที่คิดนะเขาพูด ฉันบอกให้เธอดู!” จบคำพูดโวลเดอมอร์ก็กระดกไม้กายสิทธิ์ที่ชี้มาทางเธอ  เด็กสาวรู้สึกเหมือนมีมือขนาดใหญ่มาผลักศีรษะเธอให้จมลงไปในอ่างนั่น!

     

    .................................................

     

    เด็กสาวเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อศีรษะของเธอถูกกดให้จมลงในอ่างที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเงินยวง  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึดอัดในช่วงแรก  เธอพยายามดิ้นรนแม้จะรู้ว่ามันเปล่าประโยชน์ก็ตาม  และในวินาทีต่อมาภาพของเหลวสีเงินที่เธอเห็นก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น  ราวกับมันกำลังเข้าครอบคลุมใบหน้าของเธอไว้  เด็กสาวรู้สึกเหมือนร่างของเธอถูกดูดออกมาจากแท่นหินที่นั่งอยู่และจมดิ่งเข้าไปในมวลสารสีเงินนั่น

     

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนถนนแห่งหนึ่งท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา  สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยบ้านเรือนทรงโบราณ  เด็กสาวมองสำรวจไปรอบ ๆ กายก่อนจะลงความเห็นว่าที่ที่เธอยืนอยู่นี่คงไม่ใช่ประเทศอังกฤษแน่นอน  และเมื่อเธอเห็นตัวหนังสือที่อยู่บนป้ายสำหรับบอกชื่อถนน  เฮอร์ไมโอนี่ก็แน่ใจว่าเธออยู่ในฝรั่งเศส

     

    ท่ามกลางถนนที่เปล่าเปลี่ยวและปกคลุมไปด้วยหิมะหนา  ร่าง ๆ หนึ่งยืนเด่นอยู่กลางถนน  เขากำลังเดินอย่างเชื่องช้าหากแต่ระมัดระวัง  ผมสีบลอนด์เกือบขาวตัดกับเสื้อคลุมสีดำที่สวมอยู่  มือข้างหนึ่งของร่างนั้นถือไม้เท้าที่มีหัวเป็นรูปงูไว้  แม้จะเป็นการมองจากด้านหลังก็ตามแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็แน่ใจว่าร่างนั้นคือลูเซียส  มัลฟอย  และเธอกำลังอยู่ในความทรงจำของเขา

     

      โวลเดอมอร์ต้องการให้เธอเข้ามาในความทรงจำของลูเซียสทำไมกัน  เขามีจุดประสงค์อะไรที่ทำเช่นนี้เด็กสาวไม่อาจรู้ได้เลย  นอกเสียจากเธอจะตามนายลูเซียสไปเพื่อดูว่าจอมมารต้องการให้เธอเห็นอะไรในความทรงจำของนายมัลฟอยกันแน่

    เฮอร์ไมโอนี่เดินตามร่างสูงใหญ่ของลูเซียส  มัลฟอยในความทรงจำไป  แม้ว่าเมื่อครู่เธอจะยืนอยู่ไกลจากเขามากก็ตาม  แต่เด็กสาวเดินตามเขาเขาในไม่ช้า  อาจจะเป็นเพราะว่านายลูเซียสไม่รีบร้อน  เขาเดินอย่างช้า ๆ หากแต่ระมัดระวังยิ่งนัก

    เมื่อเด็กสาวเดินมาถึงร่างสูงและเห็นใบหน้าของเขา  เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าความทรงจำนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว  เพราะนายลูเซียสตรงหน้าของเธอนั้นยังหนุ่มอยู่มาก  อายุของเขาไม่น่าจะเกิน 27 ปีเป็นอย่างสูง  ใบหน้าขาวซีดของเขาไม่ปรากฏริ้วรอยอย่างที่เห็นในปัจจุบันเลย  แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นใบหน้าของลูเซียส  มัลฟอยของแท้  เพราะสีหน้าของเขามันเต็มไปด้วยความยิ่งยโสและถือตัวอย่างที่สุด

    เฮอร์ไมโอนี่ตามลูเซียสมาจนพ้นเขตบ้านเรือน  ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่ปราศจากผู้คนเนื่องจากอากาศหนาวเหน็บในตอนนี้  และในตอนนั้นเองเด็กสาวก็เพิ่งสังเกตุว่าลูเซียสไม่ได้มีท่าทางหนาวเหน็บเพราะอากาศที่โหดร้ายเช่นนี้เลยทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้สวมเสื้อคลุมหนา ๆ สำหรับหน้าหนาวแต่อย่างใด  เธอเดาว่าเขาคงจะเสกคาถาทำให้ร่างกายอบอุ่นก่อนจะออกมาเดินข้างนอกแบบนี้

    ลูเซียสหยุดอยู่ที่หน้าสวนสาธารณะ  เขายกไม้เท้าในมือขึ้นเล็กน้อยและเคาะมันลงบนพื้นถนนสามครั้ง

     

    ภาพสวนสาธารณะตรงหน้าค่อย ๆ จางหายไป  แต่ปรากฏเป็นบ้านหลังหนึ่งขึ้นมาแทน  มันเป็นบ้านทรงโบราณเฉกเช่นบ้านทุกหลังในละแวกนี้  หากแต่ว่าบ้านหลังนี้นั้นดูเก่าแก่กว่า  และโบราณกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ที่เหลือ  ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นเป็นหลังแรก ๆ ในละแวกบ้านนี้

    นายลูเซียสเดินเข้าไปที่ประตูหน้าบ้าน  เขาใช้ไม้เท้าในมือเคาะประตูสองครั้ง

    เสียงตึงตังดังขึ้นมาจากภายในบ้าน  ในไม่กี่อึดใจต่อมาก็มีใครบางคนมองลอดตาแมวจากข้างในออกมา  ตามมาด้วยเสียงห้าวลึกที่พูดเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งเด็กสาวพอเข้าใจว่ามันแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘’คุณเป็นใคร!”

     

    [อธิบายนิดนึง  ตรงที่ตัวละครพูดภาษาฝรั่งเศสกันข้างล่างข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ถูก 100 % รึเปล่านะคะ  แบบว่าเคยเรียนมาบ้าง  แต่ก็แค่งู ๆ ปลา ๆ อ่ะนะ]

     

    เฌอ มะแป็ล  ลูเซียส มัลฟอย(ผมคือลูเซียส  มัลฟอย)นายมัลฟอยตอบกลับไปด้วยภาษาฝรั่งเศส

    ประตูบานนั้นค่อย ๆ เปิดออก  เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกับนายลูเซียส  เขามีผมสีน้ำตาล  สวมแว่นไร้กรอบ  หน้าตาดูคงแก่เรียนและเฉลียวฉลาด  แต่แววตาสีน้ำตาลคู่นั้นดูไม่ไว้ใจร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย  ชายคนนั้นชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางลูเซียส

    แกสเซอเกอ วู แฟ็ต อีซี่?(คุณมาทำอะไรที่นี่)ชายสวมแว่นถามขึ้น

    เฌอ แชคเชอะ  เมอซิเออร์ซิลเวีย(ผมมาหาเมอซิเออร์ซิลเวีย)ลูเซียสตอบด้วยท่าทีไม่เป็นเดือดเป็นร้อนว่าขณะนี้ไม้กายสิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามกำลังชี้อยู่ที่หน้าอกของเขา

    ผมนี่แหละเมอซิเออร์ซิลเวีย  คุณมีธุระอะไรกับผมนายซิลเวียพูดภาษาอังกฤษขึ้นเป็นครั้งแรก  แม้สำเนียงของเขาจะฟังดูแปลกแปร่งอยู่บ้างก็ตาม  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หายใจกระตุกเมื่อได้ยินคำว่า ซิลเวีย

    ลูเซียสไม่ตอบแต่เขากลับยื่นมือให้นายซิลเวียแทน

    อองฌ็องเต้  เมอซิเออร์, ซิลวูเปล?(ยินดีที่ได้รู้จัก  ผมเข้าไปได้ไหม)เมอซิเออร์ซิลเวียมองนายลูเซียส อย่างลังเล  เขาไม่ยอมจับมือนั้นเขย่า  และเมื่อเป็นเช่นนั้นลูเซียสจึงลดมือลง  เขายิ้มอย่างไม่ว่าอะไรแม้ว่าไม้กายสิทธิ์ของเมอซิเออร์ซิลเวียจะชี้อยู่ที่อกของเขาก็ตาม

    คุณต้องการอะไรจากผมเมอซิเออร์ซิลเวียถาม

    ผมว่าเราเข้าไปคุณกันข้างในดีกว่าไหม  คุณก็รู้ว่าตรงนี้ไม่สะดวกเท่าไหร่  คุณคงไม่อยากเปิดประตูบ้านทิ้งไว้นานหรอกจริงไหมลูเซียสพยายามเกลี้ยกล่อมเขา  แต่เมอซิเออร์ซิลเวียไม่ขยับ

    ถ้าคุณสงสัยว่าผมจะเป็นคนที่ศัตรูของคุณส่งมาผมขอให้คุณคิดเสียใหม่นะ  เพราะว่าผมไม่ได้ทำงานให้พวกนั้นเขาพูด

    แต่ผมก็ไม่รู้นี่ว่าคุณเป็นฝ่ายไหนเมอซิเออร์ซิลเวียยังคงแคลงใจในการมาปรากฏตัวของเขา  ลูเซียส ถอนหายใจ  เขาเลิกเสื้อคลุมขึ้นก่อนจะยื่นแขนซ้ายให้ชายหนุ่มตรงหน้าดู

    ทันทีที่เห็นสิ่งที่อยู่บนแขนของลูเซียส  นายซิลเวียก็ผงะถอยหลังด้วยความตกใจ  ใบหน้าของเขาซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด 

    ผมว่าเราคงคุยกันดี ๆ ได้แล้วใช่ไหมลูเซียสพูดขณะที่แทรกกายผ่านประตูบ้านเข้ามา

     

    .................................................

     

    เมอซิเออร์ซิลเวียเดินนำนายลูเซียสเข้าไปในบ้านของเขา  เฮอร์ไมโอนี่ตามชายทั้งสองไปยังห้องรับแขก 

    บ้านตระกูลซิลเวียถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเครื่องเรือนแบบโบราณและของตกแต่งที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจประมาณค่าได้  เห็นได้ชัดว่าตระกูลนี้เป็นตระกูลที่เก่าแก่และน่าจะร่ำรวยอยู่ไม่น้อย  ซึ่งคนในตระกูลนี้ก็คงเป็นเลือดบริสุทธิ์เช่นเดียวกับนายลูเซียส

    เมื่อมาถึงห้องรับแขกเด็กสาวพบว่ามีใครอีกคนอยู่ในห้องอยู่แล้ว  เธอเป็นหญิงสาวที่สวยมากคนหนึ่ง  ใบหน้าของเธอ  ใบหน้าของเธอช่างคล้ายคลึงกับเฮอร์ไมโอนี่เหลือเกิน  เพียงแต่ว่าเธอมีดวงตาทีฟ้าสดใสและผมสีบลอนด์หยักศกเท่านั้น  เธอกำลังอุ้มทารกคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน

    แต่สิ่งที่ทำให้เด็กสาวใจเต้นนั้นไม่ใช่แค่ใบหน้าของหญิงสาวเท่านั้น  แต่กลับเป็นสร้อยที่หล่อนสวมอยู่  สร้อยคอที่มีจี้รูปนกอินทรีเหมือนกับที่เธอกำลังสวมอยู่ตอนนี้เลย!

    และดูเหมือนว่านายลูเซียสในอดีตจะสังเกตเห็นสิ่งเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนี่เห็น  เขามองหญิงสาวคนนั้นอย่างสนใจ  ก่อนจะเลื่อนสายตาลงมาที่จี้ที่สวมอยู่ที่คอและมาหยุดอยู่ที่ทารกที่อยู่ในอ้อมแขนของหล่อน

     

    นี่คงเป็นมาดามซิลเวียสินะครับนายลูเซียสเอ่ยขึ้น  แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เด็กน้อยในอ้อมแขนของหญิงสาว  ในขณะที่มาดามซิลเวียนั้นยืนนิ่งด้วยความตกใจ

    ชาร์ล็อต  พาลูกขึ้นไปข้างบนก่อนเมอซิเออร์ซิลเวียพูดกับภรรยาเป็นภาษาฝรั่งเศส  หญิงสาวทำตามโดยดี  เธออุ้มทารกในอ้อมแขนออกไปจากห้องรับแขกอย่างรีบเร่ง  แต่ก่อนที่ร่างของเธอจะลับจากธรณีประตูไป  ชาร์ล็อต  ซิลเวียก็ส่งสายตาเป็นห่วงมาทางสามี  เมอร์ซิเออร์ซิลเวียจึงพยักหน้าให้ภรรยาในเชิงให้บอกว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

    หลังจากมาดามซิลเวียออกจากห้องไปแล้ว  เมอซิเออร์ซิลเวียก็ปิดประตูพร้อมกับร่ายคาถาห้ามรบกวน  ก่อนจะเดินกลับมาที่นายลูเซียสซึ่งยืนอยู่กลางห้องรับแขก

    เชิญนั่ง  เมอซิเออร์มัลฟอย

    เมอซี่(ขอบคุณ)ลูเซียสพูดก่อนจะนั่งลงบนโซฟาหนังอย่างดีของบ้านซิลเวีย  เมอซิเออร์ซิลเวียเสกเครื่องดื่มสองแก้วขึ้นมาตรงหน้า  ลูเซียสยื่นมือไปรับมันมาแก้วหนึ่ง

     

    คุณหาบ้านผมเจอได้ยังไงเขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด 

    แน่นอนว่าจอมมารล่วงรู้ทุกอย่างที่ท่านต้องการจะรู้  แต่ผมก็ยอมรับว่ามนตราที่ใช้ป้องกันบ้านของคุณนั้นใช้ได้ทีเดียว  แม้ว่ามันจะไม่ดีที่สุดก็ตามนายลูเซียสตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ

    เมอซิเออร์ซิลเวียไม่พูดอะไร  เขาจิบวิสกี้เข้าไปอีกอึก  สีหน้ายังคงตึงเครียดอยู่

    คุณมีธุระอะไรกับผม  ไม่ใช่สิ  คนที่คุณก็รู้ว่าใครส่งคุณมาที่นี่ทำไมเมอซิเออร์ซิลเวียเปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษ  นายลูเซียสยิ้มมุมปาก  เขาจิบวิสกี้เข้าไปอึกหนึ่งก่อนจะเริ่มพูด

     ผมดีใจที่คุณเข้าใจอะไรได้รวดเร็วดี  เราจะได้เลิกอ้อมค้อมกันเสียทีเขากล่าวพลางวางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะ เจ้านายของผม  จอมมาร  ท่านส่งผมมาทำภารกิจอย่างหนึ่ง  และภารกิจที่ผมว่านั้นก็เกี่ยวกับคุณ  เมอซิเออร์ซิลเวียลูเซียสพูดเสียงนุ่ม

    ท่านต้องการอะไรจากผมเมอซิเออร์ซิลเวียถามขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง  ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าจอมมารส่งนายลูเซียสมาหาเขาโดยเฉพาะ  ในขณะที่ผู้มาเยือนนั้นยังคงยิ้มสบาย  ลูเซียสเอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทีราวกับเขานั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง

     

    คุณเคยรู้มาก่อนไหม  ว่าเจ้านายของผมชอบสะสมสิ่งของที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ลูเซียสกล่าว

    แต่ผมไม่มีมัน!” เมอซิเออร์ซิลเวียแผดเสียงออกมาในทันที  เขาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางตะโกนก้อง ผมไม่มีรัดเกล้าของเรวนคลอ  ผมบอกพวกนั้นไปแล้ว  แต่ไม่มีใครเชื่อผมใบหน้าของเมอซิเออร์ซิลเวียซีดขาว  แววตาของเขาดูตื่นตะหนกราวกับความกลัวทั้งหมดของเขาได้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว  ในขณะที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญของเขายังคงนั่งนิ่ง

     “เจ้านายของผมไม่ได้ต้องการรัดเกล้าของเรเวนคลอเขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย จอมมารจะต้องการรัดเกล้าไปทำไมในเมื่อท่านมีมันสมองที่ฉลาดล้ำยิ่งกว่ามนุษย์ทุกคนอยู่แล้วลูเซียสพูด 

    อีกอย่างพ่อมดในอังกฤษไม่ได้เหมือนศัตรูของคุณที่ฝรั่งเศสนี่หรอกนะ  เราฉลาดพอที่จะรู้ว่ารัดเกล้านั้นหายสาบสูญไปตั้งหลายศตวรรษแล้ว  อาจจะหายไปตั้งแต่สมัยของเรเวนคลอเองด้วยซ้ำ  และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่รัดเกล้าลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม

     

    เมื่อยินคำพูดของนายมัลฟอย  เมอซิเออร์ซิลเวียก็มีท่าทีที่สงบนิ่งลง  เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาตามเดิม  สีหน้าเหม่อลอยระคนประหลาดใจ  แต่เขาก็มีท่าทีโล่งใจอยู่ไม่น้อยที่นายลูเซียสบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการรัดเกล้า

    ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไร  เจ้าแห่งศาสตร์มืดต้องการอะไรจากผมเมอซิเออร์ซิลเวียพูดขึ้นเมื่อเขาตั้งสติได้  เขามองชายตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

    จอมมารต้องการบางสิ่งบางอย่างที่คุณมีอยู่ในครอบครอง  เมอซิเออร์  ไม่ใช่สิ่งที่ศัตรูของคุณค้นหาทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีอยู่จริงลูเซียสพูด

    แต่ผม.....นายลูเซียสยกมือขึ้นในเชิงให้เขาฟังให้จบก่อน

    แม้ว่านายท่านจะเห็นว่ารัดเกล้าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ก็ตาม  แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นแค่สิ่งของชิ้นหนึ่ง  แค่สิ่งของที่แตกหักได้  แม้ว่ามันจะมีค่ามหาศาล  แต่ก็เป็นเพียงสิ่งของเท่านั้น  และแน่นอนว่าสิ่งของไม่สามารถมีคุณค่าไปมากกว่ามนุษย์ที่มีเลือดเนื้อได้  คุณว่าจริงไหม  เมอซิเออร์สีหน้าของเมอซิเออร์ซิลเวียเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่นายลูเซียสพูดนั้นหมายถึงอะไร

    คุณคงไม่ได้หมายความว่า.........ลูเซียสยิ้มมุมปาก

    สิ่งที่จอมมารต้องการก็คือทายาทคนสุดท้ายที่สืบเชื้อสายจากโรวีน่า  เรเวนคลอ  ใช่แล้วเมอซิเออร์ซิลเวีย  ผมหมายถึงลูกสาวของคุณ

     

     

                   

    *************************************************

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×