คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The liar
***Chapter 2 The liar***
หลังจากวันนั้นเดรโกก็แวะมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่หลังเลิกงานทุกวัน จนเวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลมา เดรโกรู้สึกโชคดีที่รอนต้องไปต่างประเทศเพราะเรื่องงาน เขาจึงมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ แต่เดรโกก็ได้เขียนจดหมายบอกถึงอาการของเธอไปให้รอนฟังแล้ว และรอนก็ตอบกลับมาว่าเขาจะพยายามกลับมาอังกฤษให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกก็ไม่รู้ว่าเขาจะพูดกับรอนอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่เขาหลอกลวงเฮอร์ไมโอนี่
เดรโกมาถึงห้องพักของเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับดอกกุหลาบช่อใหญ่ในอ้อมแขนตามปรกติ เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีผู้บำบัดดูแลอยู่
“สวัสดีค่ะคุณมัลฟอย” ผู้บำบัดของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเป็นหญิงสาวผมบลอนด์ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ทักเดรโกอย่างเป็นมิตร “คุณเกรนเจอร์คะ คุณมัลฟอยมาเยี่ยม”
“เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูด ยิ้มให้เขาและหันไปพูดกับผู้บำบัด “ขอบใจนะคะ มารี”
“ค่ะ ฉันจะปล่อยให้พวกคุณคุยกันเงียบ ๆ นะคะ” มารีพูดและเดินออกจากห้องไป เดรโกจึงมานั่งแทนที่เธอ
“เป็นอย่างไรบ้าง” เขาถาม และยื่นช่อดอกไม้ให้เธอ
“ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณ” เธอยิ้มหวาน และรับดอกไม้ไปดม “ความจริงเธอไม่ต้องซื้อมาทุกครั้งก็ได้ รู้ไหมว่ามารีบอกว่าที่นี่จะกลายเป็นร้านดอกไม้อยู่แล้วถ้าเธอไม่หยุดเอามันมาทุกครั้งที่มาเยี่ยมฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด มองไปรอบ ๆ ห้อง บนโต๊ะข้างเตียงมีแจกันที่ใส่ดอกทิวลิปสีชมพูอยู่ อีกมุมหนึ่งมีช่อดอกลิลลี่ตั้งแต่เมื่อวาน และบนโต๊ะอีกตัวก็มีดอกกุหลาบขาวของเมื่อวันก่อน
“ไม่เห็นเป็นไรนี่ ฉันอยากให้เธอ” เขายิ้ม “ดีขึ้นเยอะแล้วใช่ไหม เธอคงจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ ” สีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่สลดลง
“ถ้าฉันออกจากโรงพยาบาลไปแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำฉันอาศัยอยู่ที่ไหน” เธอพูดด้วยท่าทางกังวล
“ไม่เอาน่า ใช่ว่าเธอจะไม่มีที่ไปเสียหน่อย ฉันบอกเธอไปแล้วนี่ว่าเธอมีคอนโดอยู่ที่ในลอนดอน” เดรโกอธิบาย
“แต่เธอบอกว่าพ่อกับแม่ของฉันตายหมดแล้วนี่ แล้วตลอดเวลาที่ฉันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมฉันเลยนอกจากเธอ ฉันไม่รู้ว่าถ้ากลับไปแล้วฉันจะอยู่คนเดียวได้ไหม” เธอพูดอย่างเศร้าสร้อย น้ำตาเริ่มคลอเอ่อดวงตา
“อย่าคิดมาก ถ้าเธอไม่มีใครเธอไปอยู่กับฉันก็ได้นี่ ฉันรับเธอไปอยู่ด้วยก็ได้” เดรโกเสนอ ความจริงที่ไม่มีเพื่อน ๆ คนอื่นมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่เลยตั้งแต่เธอฟื้นก็เพราะว่าเดรโกกลัวว่าแขกที่มาเยี่ยมเธอคนใดคนหนึ่งอาจจะเอ่ยถึงชื่อของแฮร์รี่ออกมาให้เธอได้ยิน หรืออาจจะบอกเธอว่าเขาไม่ใช่คนรักของเธอ ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เดรโกเลยบอกคนอื่น ๆ ไปว่าสภาพจิตใจของเฮอร์ไมโอนี่ไม่สู้ดีนัก และผู้บำบัดไม่อนุญาตให้ใครเยี่ยมยกเว้นคนที่ใกล้ชิดเท่านั้น
“ฉันไปอยู่กับเธอได้หรือ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเหมือนเด็ก ๆ เดรโกยิ้ม
“ได้สิ อย่าลืมสิว่าเราเป็นอะไรกัน” เดรโกพูดและจูบเธอที่หน้าผาก เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง “เธอสัญญาแล้วนะว่าจะไปอยู่กับฉัน” เขากระซิบ หญิงสาวยิ้ม แม้ว่าเธอจะจำไม่ได้สักนิดว่าเขาและเธอเคยรักกัน แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ ๆ เขา เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่ห่วงใยเธอ
“อื้อ ฉันจะไปอยู่กับเธอ” เฮอร์ไมโอนี่รับคำ เดรโกมองเธออย่างรักใคร่
“ฉันรักเธอ” เขาพูด เอามือทั้งสองประคองหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้และก้มลงไปจูบเธอ
.................................................
“คุณ คุณคะ กรุณาอย่าวิ่งบนทางเดินค่ะ!”
“เฮอร์ไมโอนี่อยู่ไหน เธออยู่ที่ไหน!”
“คุณเกรนเจอร์พักอยู่ห้องสามศูนย์ห้าค่ะ คุณคะ ใจเย็น ๆ ก่อน!”
ประตูห้องเปิดออกอย่างแรงเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มแดงคนหนึ่ง เขาหอบหายใจด้วยความเหนื่อย นัยต์ตาของเขาจ้องมองไปยังร่างของหญิงสาวที่อยู่บนเตียง
“เฮอร์ไมโอนี่!” รอนร้องและรีบเข้าไปหาเธอ “เฮอร์ไมโอนี่ เธอปลอดภัย!” เธอมองรอนด้วยแววตาแปลกประหลาด ผู้บำบัดรีบตรงเข้ามาหารอนทันที
“คุณคะ มีบางอย่างที่คุณควรทราบค่ะ” เธอกล่าวอย่างดุ ๆ และดึงแขนรอนไว้ แต่เขาไม่สน
“ผมต้องการพบเพื่อนของผม ไม่เห็นน่ามีอะไรเสียหายนี่” รอนพูด และหันไปหาเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง
“ฉันนึกว่าเธอ... ดีใจจริง ๆ ที่เธอฟื้นขึ้นมาเสียที ความจริงฉันอยากมาเยี่ยมเธอเร็วกว่านี้ แต่เป็นเพราะฉันติดงานอยู่ที่อัลบาเนีย เธอก็รู้ว่าพวกเรานำกำลังคนเข้าค้นหาร่างของแฮร์ร...” รอนพูดอย่างรัวเร็ว
“รอน!” เสียงหนึ่งดังมาจากประตู ทุกคนที่อยู่ในห้องหันไปมอง เดรโกกำลังยืนอยู่ที่นั่น
“เดรโก!”
“นายมาทำอะไรที่นี่” เขาถามเสียงสั่น มองดูเพื่อนของเขาและหญิงสาวที่เขารักอย่างหวาดหวั่น
“ฉันก็มาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่น่ะสิ ฉันอุตส่าห์รีบกลับมาจากอัลบาเนียทีเดียวนะ แต่พวกเราที่เหลือยังคงค้นหาเขาอยู่ แต่เราไม่อยากหวังอะไรมากนัก เพราะนี่ก็ผ่านมาตั้งสิบวันแล้วเรายังไม่พบร่างของเขาเลย” สีหน้าของรอนสลดลง แววตาของเขาดูเศร้าหมองเมื่อต้องเอ่ยถึงเพื่อนรักที่เพิ่งจากไป
“แต่ถึงยังไงเฮอร์ไมโอนี่ก็ฟื้นขึ้นแล้ว นับว่าทุกอย่างก็ไม่เลวร้ายไปเสียหมด” รอนพึมพำและมองเพื่อนรักของเขาอีกคนหนึ่ง แต่แววตาที่เธอจ้องเขากลับมานั้นมันดูไม่เหมือนแววตาของเธอเลยแม้แต่น้อย เธอมองเขาราวกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“รอน ฉันคิดว่ามีเรื่องที่นายควรจะรู้” เดรโกพูดเรียบ ๆ เขามองมาที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างระแวง
“เรื่องอะไรหรือ” รอนถาม มีท่าทีวิตกเล็กน้อย “นายมีอะไรจะคุยกับฉัน”
“เราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” เขาพูด พยายามพารอนออกนอกห้อง
“เดรโก...” เฮอร์ไมโอนี่เรียกเขา เดรโกมองเธอแวบหนึ่ง
“เดี๋ยวฉันกลับมา” เขาบอก “มารีฝากดูแลเธอก่อนนะ” เดรโกพูดและเดินออกจากห้องไป
“นี่มันอะไรกันเดรโก” รอนพูดเมื่อพวกเขาออกมานอกห้องพักของเฮอร์ไมโอนี่ “มีเรื่องอะไรสำคัญมากนักหรือ เมื่อกี๊ผู้บำบัดก็พยายามห้ามฉันเข้าไปเยี่ยมเธอครั้งหนึ่งแล้ว แล้วตอนนี้ก็นาย”
“ฟังนะรอน มันอาจจะยากที่จะยอมรับ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว แล้วฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกนายก่อนหน้านี้” เดรโกเอ่ยอย่างเคร่างเครียดแล้วเล่าเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่สูญเสียความทรงจำให้รอนฟัง
“ไม่จริง!” รอนร้องหลังจากที่เดรโกเล่าจบ “นายว่าเธอจำเราไม่ได้งั้นเหรอ”
“ใช่ เธอจำไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง” เดรโกตอบเรียบ ๆ
“แล้วเรื่องอื่นล่ะ แฮร์รี่ล่ะ” รอนถาม เดรโกนิ่งเงียบ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและหยิบแหวนของแฮร์รี่ขึ้นมา
“ตอนเธอฟื้นขึ้นมาฉันเอานี่มาให้เธอดู” เขาพูด “แต่เธอจำมันไม่ได้” รอนดูหมดแรงทันทีหลังจากที่เดรโกพูดจบ ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ลืมแม้กระทั่งแหวนวงนี้ ก็ไม่มีทางที่เธอจะจดจำเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับคนรักของเธอได้
“แล้วเธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร” รอนถามอีกครั้ง
“ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังไปแล้ว แต่ฉันเลือกเล่าเพียงบางส่วนเท่านั้น” เดรโกตอบเขา
“นายหมายความว่ายังไงเดรโก” รอนถาม เดรโกมีท่าทีกังวล แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังรอน ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรู้เข้าสักวัน
“ฉันไม่ได้บอกเธอเรื่องแฮร์รี่” เดรโกสารภาพ
“นายบ้าไปแล้วหรือ ทำไมนายถึงไม่บอกเธอ!” รอนร้อง
“ก็เพราะฉันไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะบอกเธอว่าเธอเพิ่งสูญเสียคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันน่ะสิ” เดรโกสวน “นายคิดว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะบอกเธอหรือ มันมีแต่จะทำให้เธอเสียใจไปมากกว่าที่เป็นอยู่”
“แต่นายควรบอกความจริงกับเธอนะ” รอนร้อง
“แล้วถ้าเธอเกิดฟุ้งซ่านขึ้นมาล่ะ ถ้าเกิดมันไปกระทบกระเทือนจิตใจของเธอขึ้นมาล่ะ แล้วนายจะทำอย่างไร” เดรโกพูดเสียงดัง
“แต่เธอมีสิทธิ์จะรู้เรื่องทุกอย่าง อย่างน้อยก็ดีกว่าเราปิดบังเธอ” รอนแย้ง
“ถึงบอกไปเธอก็จำเขาไม่ได้ แฮร์รี่ตายไปแล้วนะรอน เขาตายจากเธอไปแล้ว” เดรโกเถียง เขาเน้นย้ำประโยคสุดท้ายอย่างชัดเจน
“แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังอยู่ในใจของเธอ” รอนพูด “ถึงเขาจะตายไปแล้วแต่แฮร์รี่ก็ยังคงอยู่ในใจของเฮอร์ไมโอนี่”
“เธอลืมเขาไปแล้ว” เดรโกพูดเรียบ ๆ
“เธอไม่ได้ต้องการลืมเขาเลย แต่นายต้องการให้เธอจำเขาไม่ได้!” รอนโต้ ใบหน้าของเขาเป็นสีแดง พวกเขาเถียงกันเสียงดังจนผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมามอง
“แต่ถ้าการที่เธอลืมเขาแล้วมันทำให้เธอมีความสุขฉันก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น แฮร์รี่จากไปแล้ว และฉันก็เป็นคนที่จะดูแลเฮอร์ไมโอนี่ต่อจากนี้ ฉันจะทำให้เธอมีความสุข” เดรโกพูดอย่างมุ่งมั่น
“แต่ความสุขของเธอต้องมาจากการหลอกลวงของนายน่ะหรือเดรโก นายคิดอะไรของนายกันแน่” รอนพูดอย่างผิดหวัง เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เพื่อนของเขากลายเป็นแบบนี้ได้
“ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแม้ฉันจะต้องหลอกลวงเธอ แต่ฉันก็จะทำ นายไม่มาเป็นฉัน นายไม่มีวันเข้าใจหรอกรอน นายไม่มีวันเข้าใจฉัน” เดรโกพูดอย่างตัดพ้อ
“ใช่ ฉันอาจจะไม่เข้าใจนาย” รอนพูด เขาทั้งสองจ้องหน้ากันเนิ่นนาน
“ฉันขอเป็นคนดูแลเธอเองได้ไหม ฉันขอนายเท่านี้” เดรโกพูด รอนมีท่าทีครุ่นคิด
“ก็ตามใจนาย แต่ฉันขอเตือนนายไว้อย่างนะ ว่าวันที่เธอรู้ความจริง หรือวันที่ความทรงจำของเธอกลับมา เธอจะเกลียดนายไปชั่วชีวิต” รอนพูดก่อนจะเดินจากเขาไปโดยไม่หันมามอง และไม่กลับเข้าไปเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง เดรโกทรุดตัวลงพิงกำแพงอย่างหมดแรง เขาไม่ได้ทะเลาะกับรอนรุนแรงเท่านี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังจะยืนยันคำพูดเดิม ถึงจะเป็นอย่างไร ถึงจะต้องทำผิดแค่ไหน แต่เขาก็จะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไปเด็ดขาด
.................................................
หลายวันผ่านไปรอนก็ยังคงไม่มาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ เดรโกได้ยินมาว่าเขาเดินทางกลับไปอัลบาเนียอีกครั้งเพื่อค้นหาร่างของแฮร์รี่ โดยไม่บอกกล่าวเดรโกสักคำเดียว
หลังจากวันที่รอนกลับไปนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ถามเดรโกถึงเรื่องของเขา เดรโกจึงต้องจำใจโกหกเธอไปว่าที่รอนรีบกลับไปวันนั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ แต่เพราะว่าเขามีธุระที่ต้องรีบไปทำ เฮอร์ไมโอนี่ก็ดูจะเข้าใจในสิ่งที่เดรโกพูดดี แต่ก็มีหลายครั้งที่เดรโกต้องจำใจเล่าเรื่องของรอนให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังตามที่เธอขอร้อง เพื่อให้หญิงสาวคลายความสงสัย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วชายหนุ่มไม่อยากเอ่ยชื่อของรอนให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากลัวว่าถ้าหากว่าเขาเล่าเรื่องในอดีตให้เธอฟังมากเกินไป เฮอร์ไมโอนี่อาจจะจำเรื่องราวที่ผ่านมาได้
ภายในห้องพักผู้ป่วยที่เซนต์มังก์โก เฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง หลายวันนี้อาการของเธอดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับจนผู้บำบัดพอใจ และคิดว่าน่าจะให้เฮอร์ไมโอนี่กลับบ้านได้ในเร็ววัน
เดรโกเดินเข้ามาบนในห้องพร้อมกับถ้วยที่บรรจุรังนกร้อน ๆ ซึ่งเขาสั่งให้เอล์ฟเตรียมมาจากบ้าน ชายหนุ่มวางมันลงบนโต๊ะข้างเตียงของเฮอร์ไมโอนี่ หญิงสาววางหนังสือในมือและหันมาหาเขา
“ทำไมเธอถึงยกมาเองล่ะเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย เพราะปรกติอาหารหรือยาต่าง ๆ ผู้บำบัดจะเป็นคนเอามาให้เธอทาน “อีกอย่างฉันก็ทานยาไปแล้วนะ”
“เปล่า นี่เป็นรังนกที่เอามาจากบ้าน แล้วไปขอยืมถ้วยชามของโรงพยาบาลเขาน่ะ” เดรโกตอบพลางถือถ้วยไว้ในมือ
“เธอยังไม่หายดี ควรจะบำรุงเยอะ ๆ หน่อย มาทานนี่ก่อนเถอะ” เขาว่าพลางใช้ช้อนตักรังนกป้อนใส่ปากเฮอร์ไมโอนี่ และหญิงสาวก็ยอมทานมันโดยดี เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำอย่างนี้ ทุกครั้งที่มัลฟอยมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ เขาจะเป็นคนป้อนอาหารและยาให้เฮอร์ไมโอนี่เองกับมือ แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะหายดีพอจะทานได้ด้วยตัวเองแล้วก็ตาม
“เป็นยังไงบ้าง” เดรโกถามพลางตักรังนกขึ้นมาอีกคำ
“อร่อยดีนะ เธอทำเองเหรอเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“ก็ทำนองนั้นน่ะ” ชายหนุ่มพูดและป้อนรังนกเข้าปากเธอ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้หรอกว่าเขาต้องเกณท์เอล์ฟมากถึงหกตัวกว่าจะปรุงยาบำรุงสูตรนี้ออกมาได้
“อ้อ จริงสิ ฉันมีเรื่องจะเล่าให้เธอฟังน่ะเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ “เมื่อคืนฉันฝันถึงรอนด้วย” เธอพูดขึ้นมา และหญิงสาวก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าของชายหนุ่มดูซีดเผือดลงทันตา
“เป็นอะไรรึเปล่าเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ถาม เขาส่ายหน้า
“เปล่า เธอฝันว่าอะไรเหรอเฮอร์ไมโอนี่” เดรโกถามขึ้นอย่างหวาดหวั่น แต่เขาก็ยังบังคับน้ำเสียงให้ดูราบเรียบเช่นเดิมได้
“ฉันฝันว่าฉันกับรอน แล้วก็มีคนอื่นๆ ไปทำอะไรในสถานที่หนึ่งน่ะ ฉันก็จำไม่ค่อยได้นะ แต่ฉันจำได้ว่ามันเป็นระเบียงทางเดินยาว ๆ ฉันกับรอนเดินตามเด็กผู้ชายคนหนึ่งไปจนสุดระเบียง ฉันไม่เห็นหน้าเด็กคนที่เดินนำหรอกนะ แต่ฉันจำได้ว่าเขามีผมสีดำ” เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เล่าถึงตรงนั้นเดรโกก็ปล่อยช้อนลงจากมือ
“ตายจริง!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเมื่อช้อนกระเบื้องหล่นลงกับพื้น แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่าเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างเป็นห่วง ในขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มขาวซีดราวกับกระดาษ
“เปล่าไม่เป็นไร” เขาบอกปัด ทั้งที่จริง ๆ แล้วหัวใจของเขาแกว่งวูบยามเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พูดถึงเด็กหนุ่มผมดำ
“แต่ว่าหน้าเธอซีดมากเลยนะ ไปให้ผู้บำบัดตรวจหน่อยดีกว่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้อง!” เดรโกเผลอขึ้นเสียงกับเธอขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก และมองเขาอย่างหวาด ๆ จนกระทั่งเดรโกได้เห็นสายตาของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงรู้ตัวว่าเขาพูดกับเธอแรงเกินไป ทั้ง ๆ ที่เฮอร์ไมโอนี่แค่เป็นห่วงเขาเท่านั้น
“ฉันขอโทษเฮอร์ไมโอนี่” เดรโกพูดพลางคว้าร่างของหญิงสาวมาโอบกอด “ฉันขอโทษ ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ” ชายหนุ่มว่า เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจ
“แล้วเรื่องความฝันของฉันล่ะ เดรโก เธอพอจะรู้บ้างไหมว่ามันคืออะไร ใช่ส่วนหนึ่งของความทรงจำของฉันหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ถาม เดรโกเม้มปาก เขารู้ดีว่าสิ่งที่เธอฝันเห็นนั้นคือทางเดินในกองปริศนาที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ และเพื่อน ๆ ของเขาถูกล่อลวงไปที่นั่น แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่มีวันบอกเธอเรื่องนี้เป็นอันขาด เขาจะไม่มีวันให้เธอจำอะไรได้อย่างทั้งนั้น โดยเฉพาะอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายที่ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์!
“ไม่ใช่หรอก เธอคงฝันไปเองมากกว่า” เดรโกปด เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขา
“แต่ความฝันนั้นมันเหมือนจริงมากเลยนะ และตอนนี้นฉันกับรอนก็น่าจะยังเรียนอยู่ด้วย ฉันเห็นเขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่มีตราคล้าย ๆ กับตราโรงเรียนอยู่” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง ในขณะที่เดรโกมองเข้าไปในแววตาของเธอ
“ฉันไม่เคยได้ยินว่าเธอกับรอนไปทำอะไรในที่แบบนั้น ฉันแน่ใจว่าที่เธอฝันมันไม่ใช่ความทรงจำ แต่คงเป็นเพราะเธอคิดถึงรอนมากเกินไปก็เท่านั้น” เดรโกพูดตัดบท
“แต่เด็กผู้ชายผมดำคนนั้นล่ะ ที่ฉันฝันเห็นน่ะ เขาเป็นใครกัน” เฮอร์ไมโอนี่เถียงอีกครั้ง เดรโกกอดร่างเธอไว้แน่น
“นอกจากฉันกับรอน เธอก็ไม่มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายอีกแล้ว โดยเฉพาะเด็กผู้ชายผมดำที่เธอว่า ฉันมั่นใจว่าเขามีตัวตนแค่ในความฝันของเธอเท่านั้น” เดรโกพูดอย่างหนักแน่น เฮอร์ไมโอนี่ยอมคล้อยตามที่เขาพูด แต่อีกใจหนึ่งหญิงสาวก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมนะ ด้านหลังของเด็กผู้ชายคนนั้นถึงได้ดูคุ้นเคยอย่างประหลาด
.................................................
หลายวันต่อมา อาการของเฮอร์ไมโอนี่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นที่น่าพอใจ และผู้บำบัดก็บอกว่าร่างกายของเธอแข็งแรงพอที่จะกลับบ้านในอีกสองวันได้แล้ว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นเดรโกจึงจัดแจงส่งนกฮูกไปที่คฤหาสน์ของเขา สั่งให้พวกเอล์ฟทำความสะอาดบ้านรอต้อนรับเขาและเฮอร์ไมโอนี่ เพราะตั้งแต่พ่อและแม่ของเดรโกถูกสังหาร และเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาคีนกฟีนิกซ์แล้วเดรโกก็ไม่เคยกลับไปที่คฤหาสน์ของเขาอีกเลย เพราะเขามีความหลังฝังใจกับมัน ซึ่งเป็นที่ ๆ พ่อกับแม่ของเขาสิ้นใจ
เด็กหนุ่มจึงย้ายมาอยู่คอนโดใจกลางลอนดอนแทน เพื่อที่เขาจะได้ไปมาระหว่างที่ทำงานกับที่ตั้งภาคีอย่างสะดวก แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เดรโกส่งจดหมายไปที่บ้านเพื่อเรียกตัวเอล์ฟประจำบ้านมารับใช้และทำความสะอาดคอนโดของเขา แต่เมื่อเขามีเพื่อนรักอย่างเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเกลียดการใช้แรงงานพวกเอล์ฟอย่างไร้ความยุติธรรม เขาจึงเลิกให้เอล์ฟมารับใช้และเปลี่ยนไปทำความสะอาดห้องเองแทน [ โถ เดรโกหมดคราบคุณชายกันพอดี o_O ]
แต่ที่ตอนนี้เขาสั่งให้เอล์ฟทำความสะอาดคฤหาสน์ก็เพราะเขาต้องการจะพาเฮอร์ไมโอนี่กลับไปอยู่ที่นั่น เพราะถ้าเขาพาเธอกลับคอนโดที่ลอนดอน เพื่อน ๆ มือปราบมารคนอื่นๆ อาจจะตามมาที่นั่นได้ โดยเฉพาะรอนที่ดูเหมือนจะไม่พอใจการกระทำของเดรโกในครั้งนี้เสียเท่าไหร่นัก เขาจึงคิดว่าการนำเฮอร์ไมโอนี่กลับไปอยู่ที่คฤหาสน์นั้นเป็นทางที่ดีที่สุด เพราะมีน้อยคนนักที่จะรู้ที่ตั้งของคฤหาสน์มัลฟอย แม้แต่เพื่อนรักของเขาอย่างรอนกับแฮร์รี่ยังไม่เคยมาเหยียบบ้านหลังนี้เลยสักครั้ง
ก่อนที่เดรโกจะพาเฮอร์ไมโอนี่กลับบ้านเขาส่งจดหมายไปหารอนเพื่อนรักของเขา เพื่อบอกเธอว่าเขาจะพาเฮอร์ไมโอนี่กลับบ้านในอีกสองวัน และหลังจากนั้นเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง แม้เดรโกจะไม่อยากบอกรอนเพียงใดว่าเขาจะพาเฮอร์ไมโอนี่ไปไหน แต่จะให้เขาพาเธอออกจากโรงพยาบาลไปเฉย ๆ โดยไม่บอกอะไรมันคงดูไม่ดีสักเท่าไหร่นัก ถึงอย่างไรรอนก็ยังเป็นเพื่อนของเขาอยู่ แม้ว่าตัวรอนเองอาจจะไม่คิดเช่นนั้นอีกแล้วก็ตาม
หลังจากที่เดรโกส่งจดหมายไปหารอนซึ่งรับหน้าที่ค้นหาร่างของแฮร์รี่อยู่ที่อัลบาเนีย โดยใจความในจดหมายที่เดรโกเขียนถึงรอนมีดังนี้
ถึง รอน วีสลีย์
ตอนที่นายได้รับจดหมายนี้ฉันคิดว่านายคงอยู่ที่อัลบาเนียและกำลังระดมกำลังคนค้นหาร่างของแฮร์รี่อยู่ ฉันรู้ดีว่านายคงยังโกรธฉันเรื่องที่ฉันปิดบังเฮอร์ไมโอนี่เรื่องของแฮร์รี่อยู่ และฉันก็ไม่ได้เขียนจดหมายมาเพื่อบอกให้นายยกโทษให้ฉันหรอกนะ เพียงแต่ฉันแค่อยากให้นายรู้ว่าตอนนี้อาการของเฮอร์ไมโอนี่ดีขึ้นมากแล้ว ถึงแม้ว่าความทรงจำของเธอจะยังไม่กลับมาก็ตาม แต่ผู้บำบัดก็อนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ในอีกสองวัน แต่พอพูดถึงเรื่องกลับบ้านเฮอร์ไมโอนี่ก็กังวลขึ้นมาทันที เพราะถ้าเธอกลับไปที่คอนโดของเธอที่ลอนดอนเธอก็ต้องอยู่คนเดียวและถ้าเธออยู่คนเดียวอาจจะคิดฟุ้งซ่านอะไรขึ้นมา ฉันปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้รอน ฉันจะต้องดูแลเธออย่างดีที่สุด เพราะฉะนั้นฉันเลยตัดสินใจว่าฉันจะเอาเธอไปอยู่ที่คฤหาสน์ของฉัน ฉันรู้ดีว่านายจะรู้สึกอย่างไรเมื่ออ่านจดหมายฉบับนี้จบ แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะดูแลเธอเอง และฉันจะไม่ยอมให้เธอเสียใจอีกเป็นอันขาด ฉันคิดว่านายควรจะมาเยี่ยมเธอก่อนเธอออกจากโรงพยาบาลในอีกสองวันนะรอน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากให้นายมาก็เถอะ แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ถามถึงนาย ฉันว่านายควรมาเยี่ยมเธอซักครั้งเพื่อความสบายใจของเธอเองด้วย ฉันหวังว่านายจะมานะ
จาก เดรโก มัลฟอย
หลังจากที่เดรโกส่งจดหมายไปได้ไม่ถึงวัน รอนก็รีบกลับมาที่อังกฤษทันที แต่ไปเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เพราะรอนตรงมาหาเดรโกที่คอนโดในกลางดึกทันทีที่เขากลับมาถึงอังกฤษ
.................................................
เสียงเคาะประตูอย่างรุนแรงดังขึ้นที่หน้าห้องของเดรโก เสียงนั้นปลุกชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล เขางัวเงียขึ้นจากเตียงและเดินโซเซจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่นชายหนุ่มเอามือคลำที่สวิตซ์ข้าง ๆ ประตูห้อง ไฟในห้องสว่างพรึ่บขึ้นมาทันที
เสียงเคาะประตูยังคงดังปึงปังมาจากอีกด้านของประตูอย่างไม่เกรงอกเกรงใจคนข้างห้อง เป็นเหตุให้เดรโกรับรู้ถึงความร้อนใจของผู้มาเยือน ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าคอนโด เขาต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อปรับสายตาที่พร่ามัวให้ชินกับแสงสว่างภายในห้องก่อนทีจะเอื้อมมือไปคว้าลูกบิด
ประตูเปิดออก เผยให้เห็นโฉมหน้าของแขกผู้มาเยือน เขาไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
รอนยืนอยู่หน้าห้องของเดรโกด้วยท่าทีที่มองดูปราดเดียวก็รู้ว่าเขารีบร้อนกลับมาเพียงใด แต่ที่แปลกก็คือหูของชายหนุ่มนั้นกลายเป็นสีแดงเช่นเดียวกับผมของเขาไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันบอกถึงโทสะที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในใจของเขา
“นายหมายความว่ายังไง!” รอนพูดพลางชูจดหมายในมือให้เดรโกดู แน่นอน มันเป็นจดหมายที้เขาส่งให้รอนเมื่อวันก่อน “นายหมายความว่ายังไงเดรโก!” รอนพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงใจใคร เดรโกมองเขาด้วยแววตาสีเงินที่ดูไร้ความรู้สึก
“ฉันว่านายเข้ามาก่อนดีไหม” เดรโกพูดพลางหลีกทางให้รอนเข้ามาในห้อง รอนส่ายศีรษะอย่างหัวเสียก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
ชายหนุ่มผมแดงทิ้งตัวลงบนโซฟาหนานุ่มอย่างหงุดหงิด ในขณะที่เดรโกนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ ชายหนุ่มผมบลอนด์หยิบไม้กายสิทธิ์มาจากด้านในชุดนอน แล้วโบกทีหนึ่งก็เกิดเสียงกุกกักขึ้นมาจากในครัว กาน้ำชาเริ่มรินน้ำชาใส่ถ้วย และในไม่ช้าถ้วยน้ำชาสองถ้วยก็ลอยข้ามห้องมาอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งประจันหน้ากันอยู่
เดรโกผายมือในเชิงเชื้อเชิญ รอนจึงต้องหยิบน้ำชามาจิบอย่างเสียไม่ได้ พลางคิดในใจว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนเดรโกก็ยังคงรักษามาดคุณชายของเขาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
รอนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะข้าง ๆ จดหมายที่เดรโกเขียนมาถึงเขา ซึ่งบัดนี้มันยับยู่ยี่ราวกับถูกขยำอย่างแรง เดรโกมองมาทางรอนอย่างพิจารณา และจากการสังเกตของเขา เดรโกคิดว่ารอนอารมณ์เย็นลงแล้ว
“นายหมายความว่ายังไงที่นายจะเอาเฮอร์ไมโอนี่ไปอยู่ด้วยน่ะ” รอนพูดขึ้น เขาประสานมือทั้งสองไว้ที่เข่า
“ฉันก็หมายความตามนั้น” เดรโกพูด “คือฉันจะเอาเฮอร์ไมโอนี่ไปอยู่ด้วย เพราะว่าตอนนี้ฉันเป็นคนดูแลเธอ ฉันปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้” เขาบอก
“แล้วทำไมนายต้องเอาเธอกลับคฤหาสน์ด้วยล่ะ นายเอาเธอมาอยู่ที่นี่ก็ได้นี่ เว้นแต่ว่า.......” เสียงของรอนขาดหายไปราวกับเขานึกอะไรบางอย่างออก
“เว้นแต่ว่าฉันจะไม่อยากให้ใครเจอเธอใช่ไหม” เดรโกพูดต่อด้วยสีหน้าปรกติที่สุด ทั้ง ๆ ที่รอนเองก็ตกใจไม่น้อยที่ได้ยินเช่นนั้น
“ฉันยอมรับว่าฉันคิดอย่างนั้น ฉันไม่อยากให้ใครเจอเธอ ไม่อยากให้ใครมาพูดเรื่องอดีตของเธอให้ฟัง เพราะฉันกลัวว่าเธอจะจำเรื่องที่ผ่านมาได้” เดรโกสารภาพออกมาตามตรง เขาจ้องมองรอนที่มองมาทางเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาด้วยแววตาที่แลดูเหม่อลอย
“แล้วนายกำลังจะถามฉันว่าทำไมฉันถึงทำอย่างนั้นใช่ไหม ทั้ง ๆ ที่นายเองก็น่าจะรู้ดีนี่” เดรโกพูดขึ้น รอนกลืนน้ำลายด้วยท่าทีหนักใจ ใช่ เขารู้ดีว่าเดรโกหลงรักเฮอร์ไมโอนี่มาตลอด ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองก็ไม่รู้หรอก แต่รอนเพิ่งดูออกหลังจากที่พวกเขาเป็นเพื่อนกับเดรโกมาได้เป็นปีแล้ว และสิ่งที่ทำให้รอนรู้นั้นก็ไม่ใช่สิ่งใดเลย รอนรู้ความในใจของเดรโกก็เพราะเขาสังเกตเห็นว่าสายตาของเดรโกยามมองเฮอร์ไมโอนี่นั้นมันมีความหมายมากเกินกว่าสายตาที่ใช้มองคนที่เป็นเพื่อน โดยเฉพาะตอนที่เธออยู่กับแฮร์รี่ รอนรู้ได้เลยว่าสายตาที่เดรโกใช้มองทั้งสองนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าจนเขายังรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วยเลย แต่จะไม่ให้เจ็บปวดตามได้อย่างไรเล่าในเมื่อตอนนั้นรอนเองก็ตกอยู่ในสถานะที่ไม่ต่างกับเดรโกซักเท่าไหร่เลย!
ใช่แล้ว รอนเองก็เป็นคนหนึ่งที่หลงรักเฮอร์ไมโอนี่ เขารักเธอมานานมากแล้ว นานเสียจนรอนเองก็จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ และดูแล้วบางครั้งเฮอร์ไมโอนี่ก็เหมือนจะมีใจให้เขาบ้าง แต่จนในที่สุดแล้วรอนก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดมาตลอด เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้คิดกับเขาเกินคำว่าเพื่อนเลย หนำซ้ำคนที่เธอหลงรักยังเป็นเพื่อนรักของรอนเองเสียอีก
ความเงียบอันน่าอึดอัดเข้าคลอบคลุมชายหนุ่มทั้งสองคน จนในที่สุดรอนก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดทำลายความเงียบขึ้นมา
“นายบอกเธอไปรึเปล่า” รอนถามขึ้นมา เดรโกตวัดสายตาที่เหม่อลอยมาทางรอนทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น “นายบอกเธอไปรึเปล่า เรื่องความรู้สึกของนาย” รอนพูด
“เปล่า” เดรโกตอบอย่างหนักแน่น รอนเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มอย่างแปลกใจทันที และราวกับเดรโกอ่านความคิดของรอนออกจากสีหน้าของเขา ชายหนุ่มจึงพูดต่อว่า
“แต่ฉันบอกเธอว่าเราเป็นคนรักกัน”
*************************************************
ความคิดเห็น