ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรมิโอกับจูเลียต [เวอร์ชั่นเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย] ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #2 : The Wedding [งานแต่งงาน]

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 53



    ***Chapter 2 The Wedding [งานแต่งงาน]***

     

    ความสุขที่เฮอร์ไมโอนี่ได้รับราวกับลูกโป่งใบใหญ่ ๆ ที่ไม่มีวันแตกสลาย  เธอรู้สึกว่าตัวเธอลอยเหนือพื้นสองสามนิ้วเป็นเวลาหลายวัน  ก่อนที่เธอจะถูกกระชากกลับมายังโลกแห่งความจริงที่ว่างานแต่งงานของเดรโกและแพนซี่ใกล้เข้ามาแล้ว

    แม้จะรู้สึกกลัวอยู่บ้าง  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่าเธอต้องทำใจกับเรื่องนี้ให้ได้  เดรโกรักเธอ ไม่ใช่แพนซี่  เขาแต่งงานกับเธอแค่ในนามเท่านั้นและเดรโกก็สัญญากับเธอแล้วว่าเขาจะไม่แตะต้องหล่อน

    เฮอร์ไมโอนี่  เฮอร์ไมโอนี่!” เสียงของรอนเรียกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์  หลังจากที่เธอเอาแต่คิดเรื่องงานแต่งงานของเดรโก

    อะไรเธอสะดุ้ง  รอนมองเธออย่างแปลกใจ

    ฉันเรียกเธอตั้งหลายรอบแล้วนะ  เธอไม่ได้ยินรึไงรอนว่า  เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้างง ๆ

    อ้อ  เอ่อ  มีอะไรเหรอเธอถามขณะพยายามดึงสติกลับมา

    เราจะมีประชุมกันในอีกสิบนาที  ที่ห้องประชุมใหญ่รอนบอก นั่นเธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะเขามองไปที่มือของเธอ  หญิงสาวรีบกำมือแน่น

    อ้อ  เปล่า  ไม่มีอะไร  ฉันจะรีบเตรียมตัวเข้าประชุม  ขอบใจมากนะรอนเธอบอก  และซ่อนมือของเธอให้พ้นจากสายตาของเขา  ก่อนที่รอนจะเดินออกจากโต๊ะทำงานของเธอไป    

    พอรอนเดินไปไกลจนลับตา  เฮอร์ไมโอนี่คลายมือที่กำออกอยู่  แหวนที่เดรโกให้เธอไว้ปรากฏสู่สายตา  หญิงสาวมองมันและถอนใจเบา ๆ ได้เวลาที่เธอต้องกลับมาสู่โลกแห่งความจริงแล้ว 

    เฮอร์ไมโอนี่เข้าประชุมในเวลาต่อมา  เหล่ามือปราบมารต่างหยิบยกหัวข้อการจับกุมผู้เสพความตายมาพูดกัน  และเรื่องสุดท้ายที่ที่ประชุมหยิบขึ้นมาพูดก็คือ  งานแต่งงานของเดรโก  มัลฟอย  ลูกชายคนเดียวของลูเซียส  มัลฟอย

    ผมคิดว่างานนี้คงเปรียบเสมือนงานเลี้ยงสังสรรค์ของพวกมันหัวหน้ามือปราบมาร  มิสเตอร์เอลลิสพูดขึ้น เพราะทุกคนก็คงรู้กันดีว่าคนอย่างลูเซียส  มัลฟอยนั้นมีฉากหลังเป็นอย่างไร

    แล้วที่สำคัญงานนี้ลูเซียส  มัลฟอยก็ได้ส่งบัตรเชิญมาให้ผมด้วยมิสเตอร์เอลลิสกล่าว  มีเสียงพึมพำดังขึ้นทั่วห้องประชุม

     แสดงว่าเขาต้องการท้าเราแฮร์รี่พูดขึ้น

    ใช่  ดูเหมือนลูเซียส  มัลฟอยจะเปลี่ยนจากการจัดงานที่มีแต่พวกเดียวกัน  มาจัดงานใหญ่โตและเชิญคนมากมากมายมิสเตอร์เอลลิสกล่าว 

    งั้นเราจะทำอย่างไรดีครับหัวหน้ามือปราบมารคนหนึ่งถาม

    เราก็จะส่งคนของเราเข้าไปในงาน  เพื่อสืบข่าวคราวและเก็บรายละเอียดมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้มิสเตอร์เอลลิสพูด รวมทั้งสังเกตแขกที่มางานด้วย  เพราะต้องมีพวกที่เป็นผู้เสพความตายปะปนอยู่ไม่น้อยแน่ ๆ

    แต่หัวหน้าคะเฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้น หัวหน้าบอกว่าลูเซียส  มัลฟอยเปลี่ยนใจไปจัดงานเอิกเกริก  ถ้าอย่างนั้นแขกที่เขาชวนมาคงไม่ใช่ผู้เสพความตายทุกคนสิคะ

    แน่นอนว่าไม่เขาตอบ เขาต้องการทำให้เราสับสน  เพราะถ้าเขาจัดงานที่มีแต่ผู้เสพความตายล้วน ๆ มางานล่ะก็  มันก็ง่ายที่เราจะรู้ใช่ไหมว่าใครเป็นพวกของเขาบ้าง

    แต่การที่เขาชวนแขกมาเยอะแยะ  มันทำให้เราแยกไม่ออกใช่ไหมครับ  ว่ามีใครบ้างที่เป็นผู้เสพความตายแฮร์รี่พูดขึ้น

    ถูกต้อง  พอตเตอร์มิสเตอร์เอลลิสกล่าวอย่างพอใจ ที่เราต้องทำก็คือ  เราจะส่งคนเข้าไปในงาน  สืบมาให้ได้ว่ามีใครถูกเชิญมาเป็นแขกในงานบ้าง  และมีใครที่น่าสงสัย  จากนั้นส่งรายชื่อมาให้ผมตรวจสอบ

    ส่วนคนที่จะทำงานนี้....มิสเตอร์เอลลิสพูด มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างพิจารณาและเขาก็มาหยุดที่  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่ พวกคุณสามคนเคยเรียนที่ฮอกวอตส์รุ่นเดียวกับเดรโก  มัลฟอยใช่ไหมเขาถาม

    ครับ / ค่ะทั้งสามตอบ

    งั้นคงจะดีถ้าพวกคุณมารับหน้าที่นี้มิสเตอร์เอลลิสกล่าว

    แต่หัวหน้าครับรอนพูดขึ้นอย่างเกรง ๆ หัวหน้าของเขาเลิกคิ้ว

    คุณมีปัญหาอะไรในการปฏิบัติหน้าที่นี้หรือ  วีสลีย์หัวหน้ามือปราบมารถามขึ้น  และมองรอนด้วยสายตาเฉียบคม  รอนกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับคำพูดที่เขาเคยคิดว่าจะพูดออกไป

    เปล่าครับเขาพึมพำออกมา

    ดี  งั้นพวกคุณสามคนก็ไปวางแผนงานกันได้แล้ว  งานแต่งงานจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า  เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้มิสเตอร์เอลลิสบอกกับที่ประชุมโดยไม่เหลือบมองรอนอีกเลย

     

    .................................................

     

    หัวหน้าคิดอะไรของเขาอยู่นะ  ที่จะให้เราไปงานแต่งงานของมัลฟอยน่ะรอนพูดกับเพื่อนทั้งสองหลังจากการประชุมจบลง 

    หัวหน้าคงเห็นว่าเราเคยเรียนที่ฮอกวอตส์เหมือนเขาล่ะทั้ง  รอนแฮร์รี่พูดอย่างมีเหตุผลขณะที่รอนเบ้หน้า

    แล้วหัวหน้าไม่รู้เรอะว่าเรากับไอ้หัวทองนั่นน่ะเกลียดกันจนแทบจะฆ่ากันตายไปข้างหนึ่ง  อีกอย่าง  ฉันก็ไม่อยากไปงานแต่งงานบ้า ๆ ของมันกับยายพาร์กินสันนั่นด้วยรอนบ่น แค่มันเสนอหน้ามางานของน้องฉันฉันก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

    แต่ถึงยังไงเราก็ต้องไปนะรอน  มันเป็นหน้าที่เฮอร์ไมโอนี่พูด  ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็หนักใจไม่แพ้รอนเลยสำหรับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้  ยิ่งงานแต่งงานของมัลฟอยใกล้เข้ามาเท่าไหร่  หญิงสาวก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น  แถมตอนนี้เธอต้องไปร่วมงานแต่งงานของผู้ชายที่เธอรักกับผู้หญิงคนอื่นอีกด้วย!

     

    เพราะงานแต่งงานที่ใกล้เข้ามาทำให้มัลฟอยไม่มีเวลามาหาเฮอร์ไมโอนี่ได้บ่อยเท่าเดิม  แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้พ่อของเขาจะเป็นฝ่ายจัดการเตรียมงานให้ทั้งหมด  แต่นายลูเซียสก็สั่งให้เดรโกคอยดูแลแพนซี่ในฐานะคู่หมั้น  เขาต้องพาเธอไปเลือกชุดแต่งงาน  ชิมเค้กรวมทั้งอาหารที่จะเสิร์ฟในงานแต่ง  ซึ่งชายหนุ่มไม่ได้เต็มใจทำเช่นนั้นแม้แต่น้อยเลย

    ในที่สุดวันงานก็มาถึง  พวกเขาจัดงานขึ้นในโบสถ์ที่สามารถจุคนได้เป็นจำนวนมาก  และจะมีงานเลี้ยงมื้อเย็นที่โรงแรมหรู  เฮอร์ไมโอนี่  แฮร์รี่  และรอนก้าวเข้าในโบสถ์อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก   โดยเฉพาะเฮอร์ไมโอนี่ที่รู้สึกว่าลูกโป่งแห่งความสุขที่เธอเคยมีนั้นได้แตกสลายไปเรียบร้อยแล้ว  และตอนนี้เธอต้องมาทนเห็นคนที่ตัวเองรักแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น

    พิธีเริ่มขึ้นในเวลาสองนาฬิกาตรง  เจ้าสาวเดินมาตามทางเดินในโบสถ์พร้อมกับวงดนตรีที่เริ่มบรรเลง  มัลฟอยยืนอยู่ที่แท่นพิธีด้วยชุดเสื้อคลุมสีดำ  ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

    เมื่อแพนซี่เดินถึงแท่นพิธี  ชายหนุ่มก็รับมือเธอมากุม  และพิธีก็เริ่มขึ้น

    เรามาชุมนุมกันที่นี่ก็เพื่อเป็นสักขีพยานในความรักของคนสองคน......เล็บของเฮอร์ไมโอนี่จิกเข้าไปในอุ้งมือทันทีที่บาทหลวงเริ่มทำพิธี

    เจ้าสาวจะรับเจ้าบ่าวเป็นสามี  จะสาบานว่าจะดูแลเขาทั้งในยามทุกข์และยามสุข  จะรักและซื่อสัตย์กับเขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ไหม

    รับค่ะแพนซี่ตอบ  ใบหน้าของเธอดูยินดีเป็นอย่างมาก

    เจ้าบ่าวจะรับเจ้าสาวเป็นภรรยา  จะสาบานว่าจะดูแลเธอทั้งในยามทุกข์และยามสุข  จะรักและซื่อสัตย์กับเธอจนกว่าชีวิตจะหาไม่ไหมหญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น  เธอทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

    ขอตัวก่อนนะเธอพูดและเดินออกจากโบสถ์ไปอย่างเงียบ ๆ แฮร์รี่กับรอนมองเธออย่างแปลกใจ  เช่นเดียวกับมัลฟอย

    เจ้าบ่าว  จะรับเจ้าสาวเป็นภรรยาไหมบาทหลวงถามซ้ำ  มัลฟอยเพิ่งรู้สึกตัว  เขามองไปทางประตูโบสถ์ที่เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งเดินออกไปอย่างเป็นห่วง  ชายหนุ่มไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอจะมางานนี้ด้วย

    เจ้าบ่าว  มีปัญหาอะไรไหมบางหลวงถามเสียงเข้ม  แพนซี่มีสีหน้าสงสัย  ในขณะที่มัลฟอยพยายามเรียกสติกลับมา ลูกจะรับเจ้าสาวเป็นภรรยาไหม

    ไม่ครับเขาตอบ  บาทหลวงเลิกคิ้ว ผมหมายถึง  รับครับ

     

    .................................................

     

    เฮอร์ไมโอนี่หลบออกมาด้านนอกงาน  เธอทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว  เธอทนไม่ได้ที่ต้องเห็นมัลฟอยรับผู้หญิงอื่นเป็นภรรยา  หญิงสาวยกแหวนในมือขึ้นมาดู  ปกติเธอจะไม่ค่อยได้ใส่มันเพราะเธอไม่อยากตอบคำถามของใครต่อใครว่าได้แหวนวงนี้มาอย่างไร  แต่วันนี้เฮอร์ไมโอนี่กลับใส่มันมางาน  เพราะว่ามันเปรียบเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของเธอ  มันเป็นสิ่งเดียวที่แสดงถึงความรักของมัลฟอยที่มีต่อเธอ

    เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นปาดน้ำตา  จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลังเธอ

    เป็นอะไรหรือเปล่า  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่นั่นเอง  เขาเข้ามานั่งข้าง ๆ เธอและมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง

    ฉัน  เอ่อ  ไม่เป็นไรเธอปด

    แล้วทำไมถึงออกมาจากงานก่อนล่ะเขาถามอย่างอ่อนโยน

    ข้างในมันอบน่ะ  ฉันหายใจไม่ค่อยออกเธอโกหกอีกครั้ง  แฮร์รี่มองเธออย่างพิจารณา  แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปแล้วนี่พิธีจบแล้วเหรอเธอถาม 

    ยังชายหนุ่มตอบ แต่ฉันตามเธอออกมาก่อน  เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร

    ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ แฮร์รี่  ขอบใจที่เป็นห่วงเธอพูด  และจู่ ๆ เสียงระฆังก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงแขกเหรื่อที่เดินออกมาจากโบสถ์บอกซึ่งพวกเขาว่าพิธีได้จบสิ้นลงแล้ว

     

    และพวกเขาก็ได้แต่งงานกันแล้ว

     

    ออกไปหน้างานแล้วหาอะไรดื่มกันหน่อยไหมแฮร์รี่เสนอ  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า

    ที่หน้างานคู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูปกันที่ซุ้มดอกไม้  แพนซี่ดูมีความสุขมาก  เธอควงแขนสามีและยิ้มกว้างตลอดเวลา  แต่มัลฟอยนั้นกลับมีสีหน้าเย็นชาที่ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น  จนกระทั่งเขาเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินมากับเพื่อนทั้งสอง

    ฉันคิดว่าเราคงต้องไปอวยพรพวกเขาหน่อยนะแฮร์รี่พูด  รอนทำหน้าขยะแขยง

    นายบ้าไปแล้วหรือแฮร์รี่  ฉันจะไม่ไปอวยพรพวกนั้นเด็ดขาดรอนร้อง  ทำท่าราวกับแฮร์รี่กำลังจะจับเขาไปให้แมงมุมกิน

    แต่เราเป็นแขกในงานนะรอน  เราต้องทำตัวให้ไม่มีพิรุธแฮร์รี่กระซิบเสียงเข้ม

    อ้อ  อย่างกับมันไม่รู้งั้นแหละว่าพวกเราเป็นอะไรน่ะรอนตอบอย่างเซ็ง ๆ ในขณะที่พวกเขาเดินไปหามัลฟอยและแพนซี่

    ยินดีด้วยนะมัลฟอยแฮร์รี่พยายามพูดด้วยท่าทีปกติ  แต่ก็ดูราวกับเขาไม่เต็มใจอยู่ดี

    แน่นอน  พอตเตอร์มัลฟอยตอบด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน  ส่วนรอนนั้นไม่พูดอะไรออกไป

    นี่เป็นของขวัญจากหัวหน้าของเรา  ท่านมางานไม่ได้เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย  และยื่นกล่องของขวัญที่ห่อกระดาษสีทองไปให้เขา  ทั้งสองสบตากับอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนที่สายตาของเฮอร์ไมโอนี่จะเลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่แขนของแพนซี่ที่กำลังเกาะมัลฟอยแน่นราวกับปลาหมึก

    แล้วก็ยินดีด้วยนะเธอพูดและยิ้มอย่างฝืนเต็มที  แต่ในใจของเธอรู้สึกปวดร้าวราวกับใครเอามีดมากรีด

    ขอบใจ  เกรนเจอร์มัลฟอยตอบด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรกับเธอเลย  หลังจากนั้นทั้งสามเดินจากไปเพื่อให้แขกคนอื่นมาอวยพรต่อ  ขณะที่ชายหนุ่มมองตามร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไปจนลับตา

     

    ฉันว่าเราเก็บข้อมูลของแขกในงานมาได้มากพอควรแล้วนะ  มีที่น่าสงสัยอยู่จำนวนหนึ่ง  และที่เรารู้แน่ ๆ ว่าเป็นผู้เสพความตายก็มีเยอะ  แต่เรายังหาหลักฐานไม่ได้แฮร์รี่พูดกับเพื่อนทั้งสองเมื่อพวกเขาเดินเลี่ยงแขกเหรื่อมายังมุมหนึ่งของงานที่ปลอดผู้คน

    งั้นเรากลับกันเลยไหมรอนเสนอ ฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ

    ไม่รู้สิ  เธอว่ายังไงเฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่หันมาถามเธอ

    กลับกันเลยก็ได้  ไหน ๆ พวกเราก็หมดหน้าที่แล้วนี่เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  แต่แววตาของเธอกลับดูเหม่อลอยและหมองเศร้า

     

    .................................................

     

    หลังจากงานเลี้ยงอาหารเย็นจบลงก็ถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาว  โดยแพนซี่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยในฐานะสะใภ้หลังจากแต่งงาน 

    ในเรือนหอของทั้งคู่ซึ่งเดิมเป็นห้องนอนของเดรโก  แพนซี่ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเดินเข้ามาในห้อง  เธอสวมชุดนอนที่ตัดจากผ้าบางเบา  ส่วนสามีของเธอกำลังยืนอยู่ริมหน้าต่างในห้องนอน  เขาสวมชุดคลุมแบบพ่อมดสีเข้ม  มือข้างหนึ่งของเขาถือแก้วบรั่นดีไว้

     แพนซี่เข้าไปโอบกอดเดรโกจากด้านหลัง

    ฉันดีใจมากเลยรู้ไหมที่ได้แต่งงานกับเธอเดรโกเธอพูดเสียงหวานฉ่ำ  แต่ชายหนุ่มไม่ได้มีท่าทีใด ๆ ตอบกลับมา

    ฉันเฝ้าฝันมาตั้งนานแล้วว่าฉันจะได้เป็นเจ้าสาวของเธอหญิงสาวพูด  ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา  มือของแพนซี่ลูบไล้แผ่นอกแข็งแกร่งของชายหนุ่มก่อนที่เธอจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจุมพิตเขา

     

    ฉันฝันว่าฉันได้เป็นเจ้าสาวของเธอ  เดรโก

     

    เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังก้องอยู่ในหูของมัลฟอย 

    หยุดนะ!” เขาพูดเสียงเข้ม  แพนซี่มีท่าทีตกใจ 

    หมายความว่ายังไงเธอถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเขาดึงมือของเธอออก

    อย่าทำอย่างนี้อีกเขาพูดเรียบ ๆ

    แต่เราเป็นสามีภรรยากันนะแพนซี่แย้ง

    เราแต่งงานกันในนามเท่านั้นแพนซี่  และฉันก็ทำอย่างนี้กับเธอไม่ได้  เพราะฉันไม่ได้รักเธอมัลฟอยสารภาพ  แพนซี่ดูตกตะลึง

    แต่การที่พ่อของเธอให้เราแต่งงานกันก็เพราะว่าท่าน...

    ต้องการทายาทของตระกูลมัลฟอยที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ใช่ไหมมัลฟอยต่อให้

    ใช่แพนซี่พูด

    แต่นั่นเป็นความต้องการของพ่อ  ไม่ใช่ของฉันเขาพูด ออกไปซะฉันอยากอยู่คนเดียว

    แต่ฉันรักเธอนะเดรโกแพนซี่โผกอดเขา ฉันไม่สนเรื่องที่เธอจะไม่รักฉัน  ฉันรู้ว่าเธออาจจะยังไม่พร้อมที่จะรักหรือแต่งงานกับฉัน  แต่ถ้าเราอยู่ด้วยกันไปเรื่อย ๆ เธออาจจะ....  แต่มัลฟอยกลับดันร่างของเธอออก

    จะออกไปดี ๆ ไหมเขาถามช้า ๆ แพนซี่ส่ายหัวดิก

    ไม่  เราเป็นสามีภรรยากัน  ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นเธอพูด  ชายหนุ่มมองเธออย่างไม่พอใจ

    ดีเขากระแทกเสียงและเดินไปที่ประตู ถ้าเธอไม่ไป  ฉันไปเอง!” มัลฟอยพูดเสียงดังสนั่นก่อนที่ประตูจะปิดลง

     

    .................................................

     

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าเธอกลับมาที่คอนโดได้อย่างไร  เธอจำได้เพียงแค่ว่าความรู้สึกเจ็บปวดในอกราวกับโดนมีดกรีดยังคงอยู่แม้กระทั่งเธอออกจากงานมาแล้วก็ตาม  เมื่อเฮอร์ไมโอนี่กลับมาถึงห้อง  เธอไขกุญแจพลางเดินเข้าห้องและเปิดสวิตส์ไฟอย่างเลื่อนลอย  แต่สติของเธอก็กลับมาอีกครั้งเมื่อเธอเห็นว่ามีใครคนหนึ่งนั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก

    เฮอร์ไมโอนี่มัลฟอยพูดอย่างดีใจเมื่อเห็นเธอ เธอไปอยู่ไหนมา

    เธอมาทำอะไรที่นี่  เดรโกเฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างตกตะลึง เธอน่าจะอยู่ที่งานแต่งงานของเธอ

    งานแต่งงานเลิกแล้วเขาพูด แล้วเธอล่ะ  ฉันมารอเธอตั้งนาน

    ฉันไปประชุมที่ภาคีมาเธอตอบ กว่าจะเลิกก็ดึกหน่อยหลังจากที่ได้ข้อมูลของคนที่น่าสังสัยมาบ้างแล้วจากงานแต่งงานของมัลฟอย  ภาคีจึงเรียกประชุมเพื่อวิเคราะห์ออกมาว่าใครที่น่าจะเป็นพวกเดียวกับผู้เสพความตาย

    ความจริงเธอน่าจะอยู่กับแพนซี่ไม่ใช่เหรอเธอพูดอย่างน้อยใจ  มัลฟอยเข้ามากอดเธอ

    ฉันจะอยู่กับเธอได้ยังไง  ฉันไม่ได้รักแพนซี่  ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องอยู่กับเธอชายหนุ่มพูดและจุมพิตหญิงสาวที่ใบหู  แต่เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงตัวหลบ

    ตอนนี้เธอเป็นสามีของแพนซี่แล้วนะ  เธอจะมาทำอย่างนี้กับฉันในวันแต่งงานของตัวเองอย่างนั้นเหรอเธอเตือน

    ฉันไม่สนเรื่องนั้น  ถึงแพนซี่จะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉัน  แต่ผู้หญิงที่ฉันรัก  และอยากให้มาเป็นภรรยาของฉันมีเพียง  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  คนเดียวเท่านั้นมัลฟอยพูดและจับมือของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาเพื่อพินิจแหวนที่เธอสวม  ก่อนจะจุมพิตที่มือของหญิงสาวเบา ๆ

    เรากำลังทำผิดอยู่หรือเปล่าหญิงสาวถามอย่างกังวล

    ถ้าเธอคิดว่าที่เราทำอยู่เป็นเรื่องผิด  มันก็คงผิดมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะเขาพูด  และเริ่มจูบเธอโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

     

    .................................................

     

    มัลฟอยกลับมาที่คฤหาสน์ในตอนเช้าอย่างเช่นทุกครั้งที่เขาเคยทำ

    เธอหายไปไหนมาทั้งคืนน่ะเดรโกเสียงของแพนซี่ดังขึ้น  เธอรอเขาอยู่ในห้องตลอดทั้งคืน

    ฉันไม่ได้ไปไหน  ฉันแค่ไปนอนห้องอื่นเท่านั้นมัลฟอยตอบเรียบ ๆ

    เธอโกหกแพนซี่พูดเสียงดัง ฉันไปถามเอลฟ์ประจำบ้านมา  มันบอกว่าเธอแต่งตัวออกไปข้างนอก

    ฉันจะออกไปไหนมามันก็เรื่องของฉันมัลฟอยเริ่มขึ้นเสียงบ้าง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาห้ามฉัน

    แต่ฉันเป็นเมียเธอนะเธอพูด

    เธอเป็นภรรยาฉันแค่ในนามเท่านั้น  และฉันก็ไม่ได้รักเธอ!” เขาย้ำ และไม่มีทางรักเธอได้ด้วย!” มัลฟอยพูดเสียงดัง  แพนซี่ตกตะลึง  น้ำตาของหญิงสาวไหลอาบสองแก้ม  เธอมองมัลฟอยอย่างปวดร้าวก่อนจะวิ่งหนีเขาไป

     

    หลังจากทั้งสองแต่งงานกันไปได้หลายเดือน  ดูเหมือนแพนซี่จะต้องยอมรับกับความจริงที่ว่า  เธอหลอกตัวเองมาตลอด  เพราะที่ผ่านมาแพนซี่เฝ้าบอกตัวเองว่า  เธออาจจะทำให้เดรโกรักเธอขึ้นมาได้ในซักวันหนึ่ง  บางทีเขาอาจจะต้องการเวลา  และการแต่งงานอยู่ด้วยกันจะช่วยทำให้เขารักเธอขึ้นมาได้บ้าง  แต่จริง ๆ แล้วหญิงสาวกลับรู้ว่าเธอคิดผิดมาโดยตลอด  เพราะเดรโกไม่เคยคิดที่จะรักเธอด้วยซ้ำ  ตั้งแต่ทั้งสองแต่งงานกันมาเป็นเวลาสองเดือน  เขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง  แม้ว่าทั้งสองจะนอนเตียงเดียวกันทุกคืนก็ตาม  แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างขากับเธอเลย  เธอเป็นได้แค่ภรรยาในนามของเขาอย่างที่เขาเคยพูดไว้เท่านั้น!

     

    และยิ่งไปกว่านั้นตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาแพนซี่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกติของสามี  มัลฟอยมักหายไปกลางดึกอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง  บางทีเขาก็หายไปทั้งคืนและไม่แม้แต่จะกลับมาทานข้าวเย็นกับเธอ  โดยมัลฟอยมักจะอ้างว่าเขาต้องออกไปทำงานกับพวกผู้เสพความตาย  แต่เมื่อเธอถามว่าเขาได้รับคำสั่งให้ทำอะไร  ชายหนุ่มก็ไม่ยอมตอบ  และทำท่าทีราวกับเขากำลังปิดบังบางอย่างอยู่  และเมื่อแพนซี่ซักไซ้เขามากไปกว่านั้นมัลฟอยก็จะบอกเธอทุกทีว่ามันเป็นเรื่องของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์จะมายุ่ง!

     

    จนกระทั่งคืนหนึ่ง  ความสงสัยของแพนซี่ก็หมดไปหลังจากที่เธอได้รู้ความจริงที่เดรโกพยายามปิดบังเธอมาตลอด  คืนนั้นแพนซี่นอนเตียงเดียวกับเขาตามปรกติ  แต่เธอตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะหิวน้ำขณะที่เดรโกกำลังหลับอยู่  แต่เมื่อเธอกำลังจะลุกขึ้นไปหาน้ำดื่ม  แขนของชายหนุ่มก็กลับตวัดมากอดเธอ  แพนซี่มองเขาอย่างตกใจ

    เดรโกเธอกระซิบ  แต่มัลฟอยไม่ตอบ ปล่อยฉันก่อนเธอบอก  ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธออยากให้เขากอดเธอไปนาน ๆ ด้วยซ้ำ  แต่ขณะที่แพนซี่กำลังจะยกแขนหนักอึ้งของเขาออกจากตัวเธอ  เดรโกก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมา

    ฉันรักเธอ....แพนซี่นิ่งอึ้ง  เธอมองเดรโกอย่างแปลกใจ  แต่เธอก็แทบช็อกเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดต่อมา

    เฮอร์ไมโอนี่

    อะไรนะแพนซี่พูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง  

    ชั่วขณะนั้นเธอยอมรับว่าตัวเองหูฝาดหรือสมองฟั่นเฟือนยังเป็นไปได้มากกว่าที่จะยอมรับว่ามัลฟอยรักคนอย่างเฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์!  มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะรักคนอย่างเธอ  ยายเลือดสีโคลนชั้นต่ำ  เพื่อนรักของศัตรูตัวฉกาจของชายหนุ่ม  แต่ถ้าลองเอาเรื่องทั้งหมดมาปะติดปะต่อกัน  มันก็สามารถอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่แพนซี่สงสัยได้ทั้งหมด

     

    ทำไมเดรโกถึงหายไปกลางดึกเป็นประจำ 

    ก็เพราะเขาไปเจอเฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์

    ทำไมเดรโกถึงบอกเธออย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขาไม่มีวันรักเธอได้ 

    เพราะเขามีผู้หญิงที่เขารักอยู่แล้ว

    ทำไมเดรโกถึงยอมแต่งงานกับเธอทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รัก 

    เป็นเพราะว่าผู้หญิงที่เขารักนั้นไม่มีวันแต่งงานกับเขาได้

    แพนซี่คิดอย่างว้าวุ่นใจ  เธอล้มตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรง  น้ำตาไหลอาบแก้มของหญิงสาวโดยที่เธอไม่รู้ตัว  แพนซี่หลับตาลงอย่างช้า ๆ และขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

     

    .................................................

     

    ยิ่งนานวันสงครามระหว่างผู้เสพความตายกับมือปราบมารก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกที  มือปราบมารและสมาชิกภาคีถูกฆ่าสังหารเป็นจำนวนมาก  เช่นเดียวกับผู้เสพความตายที่ถูกจับและถูกส่งไปเข้าคุกอัซคาบัน  ดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดกำลังดำเนินเข้าไปใกล้จุดจบมากขึ้นทุกที  และยิ่งมันเข้าใกล้จุดหมายมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น  โดยเฉพาะภาคีที่ตอนนี้ตกเป็นฝ่ายเปรียบพวกผู้เสพความตายมาตลอดในระยะหลัง ๆ  แต่ถึงกระนั้นพวกเขาทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อพวกเขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของภาคีแล้ว  นั่นหมายความว่าชีวิตของพวกเขากำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย  ถ้าพลาดเพียงนิดเดียวก็เท่ากับจบสิ้น  เช่นเดียวกับพวกผู้เสพความตายที่ได้ปฏิญาณตนว่าจะรับใช้เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมันจนกว่าชีวิตจะหาไม่  และเพราะเหตุผลที่ทั้งสองฝ่ายต่างทุ่มเททั้งชีวิตของพวกเขาให้กับสิ่งที่ตนศรัทธามันจึงทำให้ฝ่ายภาคีและฝ่ายผู้เสพความตายต้องห่ำหั่นและทำสงครามกันจนกว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับชัยชนะ  หรือจนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะปราชัยและสูญสิ้นไปในที่สุด

     

    ถ้าสักวันหนึ่งฉันตายจากเธอไปล่ะ  เดรโก เฮอร์ไมโอนี่ถาม  ขณะที่พวกเขากำลังนอนกอดกันบนเตียง  มัลฟอยมีท่าทีแปลกใจ

    ทำไมเธอถึงถามอย่างนั้น เขาพูดและลูบผมของหญิงสาว

    ฉันแค่ถามดูเท่านั้นเธอตอบ  แต่ก็ไม่อาจปกปิดน้ำเสียงกังวลนั้นได้  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ตรึงเครียดแค่ไหน  มีคนตายทุกวัน  ถ้าไม่ใช่มือปราบมารก็เป็นผู้เสพความตาย  และที่เธอกังวลก็เพราะว่าเธอกลัวว่าเธอจะต้องตายเช่นเดียวกับคนพวกนั้น  แต่ที่เธอกลัวมากกว่านั้นก็คือการที่คนที่เธอรักต้องตายจากไป  และทิ้งให้เธอมีชีวิตอยู่ตามลำพัง

    เธอกังวลอะไรรึเปล่ามัลฟอยถามอย่างเป็นห่วง

    เปล่าเฮอร์ไมโอนี่โกหกพลางซบใบหน้าเข้ากับอกของชายหนุ่ม แค่คิดเฉย ๆ น่ะ  ว่าถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา  แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปเสียงของเธอเริ่มสั่น

    ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่ายายโง่มัลฟอยพูดและขยี้ผมฟองฟูของเธอ

    ฉันแค่คิดน่ะ  แต่ถ้าฉันเลือกได้นะ  ฉันก็ไม่อยากเห็นเธอเป็นอะไรไป  เดรโกเฮอร์ไมโอนี่พูด  พลางมองหน้าคนรักที่กำลังกอดเธออยู่  หญิงสาวรู้สึกว่าขอบตาของเธอร้อนผ่าว ฉันอยากเป็นคนจากเธอไปก่อนมากกว่าเธอสะอื้นออกมาเบา ๆ ขณะที่มัลฟอยกอดเธอไว้แน่น

    อย่าคิดมากน่า  เฮอร์ไมโอนี่  จะไม่มีใครตายหรอก ทั้งฉันและเธอชายหนุ่มพูดขณะที่เขากอดร่างที่สั่นเทาของหญิงสาวไว้แน่น

    ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่  ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไร  รวมทั้งตัวฉันเองด้วย เขาพูดอย่างหนักแน่น  แต่แววตาของมัลฟอยกลับเต็มไปด้วยความกังวล

     

    มัลฟอยกลับไปถึงคฤหาสน์ก่อนเช้า  เขาเข้าไปในห้องนอนอย่างเงียบเชียบ  แต่ชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าไฟในห้องนอนยังคงเปิดอยู่

    สวัสดีเดรโกแพนซี่ทักเสียงหวาน หายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ

    ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันเขาพูดเรียบ ๆ และกำลังจะเดินหนีเธอ

    ออกไปข้างนอกกลางดึก  กลับมาก่อนเช้า  การกระทำแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามีควรทำเลยนะเดรโกแพนซี่พูด

    ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันมัลฟอยพูดอย่างหงุดหงิด ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด  อย่าลืมสิว่าเราแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้นเขาย้ำให้เธอฟัง  แต่แพนซี่กลับยิ้มหวาน

    อ้อ  อย่างนั้นหรือ  ถ้าแม้แต่ฉันที่เป็นภรรยาห้ามพฤติกรรมที่ไม่สมควรของสามีไม่ได้  ฉันก็เห็นว่าต้องให้พ่อของเธอมาจัดการแล้วสินะเธอพูดอย่างเป็นต่อ ดูซิว่าตอนที่ท่านได้ยินคำว่าแต่งงานแค่ในนามท่านจะว่ายังไง

    เธอจะขู่ฉันหรือแพนซี่มัลฟอยพูดอย่างโมโห  เขาเข้าไปคว้าร่างของหญิงสาวไว้  แต่แพนซี่กลับหัวเราะ

    แค่นี้ยังไม่เรียกว่าขู่หรอกเดรโกเธอบอก

    อย่าคิดมาลองดีกับฉันเขาพูดรอดไรฟัน  แต่แพนซี่กลับยิ้มและสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา

    ฉันไม่ได้คิด  แต่ฉันเอาจริงต่างหากเธอพูดเสียงแข็ง  และถ้าเธอยังไม่ยอมฟังคำพูดของฉันบ้างล่ะก็  ฉันก็จะไปบอกพ่อเธอว่าเธอหายออกไปไหนกลางดึกเป็นประจำเธอขู่  หน้าของชายหนุ่มซีดเผือด

    เธอไม่รู้หรอกว่าฉันไปไหนมาเขาว่า

    แน่นอนว่าฉันไม่รู้แพนซี่พูดสบาย ๆ แต่ฉันรู้ว่าเธอไปพบใครมามัลฟอยดูตกใจ

    ที่เธอออกไปกลางดึกทุกคืนก็เพื่อพบยายเลือดสีโคลนเกรนเจอร์ใช่ไหม  เดรโก  และฉันคิดว่าพ่อของเธอคงไม่ชอบแน่ ๆ ถ้าท่านรู้เรื่องนี้เข้าน่ะแพนซี่บอก  ชายหนุ่มมีท่าทีตกใจ

    เธอคิดว่าพ่อจะเชื่อเรื่องไม่มีมูลของเธอรึไงเขาย้อน

    งั้นเธอจะลองให้ฉันบอกท่านดูไหมล่ะเธอพูด  มัลฟอยกัดริมฝีปากแน่น

    เธอต้องการอะไรเขาถามเสียงดัง

    ที่ฉันต้องการมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแพนซี่พูด  เธอมองมัลฟอยอย่างหลงใหล คือให้เธอรักฉันหญิงสาวเอามือปัดผมบลอนด์ที่ปรกหน้าของเขาออก

    ไม่มีทางเขาตอบอย่างหนักแน่น

    ข้อนั้นฉันรู้เธอพูดอย่างไม่ยี่หระ แต่ความต้องการของฉันตอนนี้  คือให้เธอกอดฉัน

    อย่างคนรักมัลฟอยกัดฟันกรอด

    หรือไม่ก็....แพนซี่ลากเสียง เตรียมตัวบอกลาคนรักของเธอได้เลยเดรโก  เพราะเมื่อพ่อของเธอรู้เรื่องนี้แล้ว  เธอก็คงรู้ดีว่าเขาจะจัดการกับมันยังไงหญิงสาวพูดเอามือโอบรอบคอชายหนุ่ม  ดวงตาสีเงินของเขาดูสับสน

     

    [i]ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น[/i] 

     

    มัลฟอยไม่ได้ตอบอะไรออกมาเป็นคำพูด  เขาหลับตาลงอย่างปวดร้าวก่อนที่จะเหวี่ยงร่างของแพนซี่ลงบนเตียง!

     

                    ************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×