คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้น: The beginning +++มีการแก้ไขเนื้อหา+++
คุยกันก่อนอ่านนะคะ
พิกได้แก้ไขเนื้อหาในตอนที่ 1 นี้ให้เข้ากับเนื้อเรื่องในหนังสือและตอนจบที่วางไว้แล้วนะคะ โดยเนื้อหาที่มีการแก้ไขจะเป็นตัวหนังสือสีเขียวเข้มนะคะ ใครที่อ่านตอนที่ 1 นี้ไป [นาน] แล้ว ลองเข้าอ่านเฉพาะตอนที่มีการแก้ไขใหม่นะคะ จะได้เข้าใจค่ะ ขอบคุณค่ะ
***Chapter 1 การเริ่มต้น: The Begining***
เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาเพื่อจะเผชิญโลกแห่งความจริงที่แสนโหดร้าย โลกที่ต่างกับโลกที่เธอเคยอยู่จากหน้ามือเป็นหลังมือ โลกที่เปรียบเหมือนนรกสำหรับเธอ เด็กสาวมองไปรอบ ๆ ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ซึ่งตอนนี้เป็นที่อยู่ของเธอ วอลเปเปอร์ที่ติดกำแพงลอกล่อนออกมา รูปภาพที่มีฝุ่นจับเขรอะแขวนอยู่บนผนังที่เต็มไปด้วยรอยตะปู โคมไฟสีทองขึ้นสนิมห้อยมาจากเพดานห้องต่ำ ๆ ตู้เสื้อเก่า ๆ เปิดอ้าทิ้งไว้
เด็กสาวมองภาพกายอย่างอ่อนล้า ก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนแข็ง ๆ ที่เต็มไปด้วยรอยปะอีกครั้ง เธอเงยหน้ามองเพดานสีเทาหม่น ก่อนที่จะเหลือบไปมองประตูที่ถูกล็อคมาจากด้านนอก
เธออยู่ที่นี่มาเจ็ดวันแล้ว เจ็ดวันที่ทรมานราวกับตกนรกของเธอ เธอถูกพรากจากครอบครัว เพื่อน ๆ และคนที่รัก
‘ป่านนี้พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ’ เด็กสาวคิด ‘พวกเขาจะรู้รึเปล่าว่าเธอหายตัวไป แฮร์รี่กับรอนจะรู้ไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน และพวกเขาจะคิดมาช่วยเธอไหมนะ’
น้ำตาใส ๆ ไหลอาบแก้มของเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่สนใจที่จะปาดมันออก
‘พวกเขาต้องมาช่วยเธอสิ’ เธอคิดอย่างเข้มแข็ง
‘พวกเขาต้องมาช่วยเธอออกจากขุมนรกนี่!’
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นหลังจากการศึกษาปีที่หกที่ฮอกวอตส์ของเด็กทั้งสามจบลงพร้อมกับการเสียชีวิตของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์และเป็นผู้นำของภาคีนกฟินิกซ์ ดัมเบิลดอร์ถูกสังหารโดยฝีมือของคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดซึ่งก็คือ เซเวอร์รัส สเนป โดยอาศัยความช่วยเหลือของเดรโก มัลฟอยในการนำผู้เสพความตายเข้ามาในโรงเรียน
หลังจากการตายของดัมเบิลดอร์ซึ่งทั้งโลกเวทย์มนต์ต่างรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ลอร์ดโวลเดอมอร์กลัว อำนาจมืดก็แผ่ขยายไปอย่างไพศาลเกินกว่าที่ทุกคนจะสามารถจินตนาการได้ สมุนของจอมมารแหกคุกอัซคาบันออกมาอย่างง่ายดายเพื่อไปสมทบกับเจ้านายของพวกมัน กระทรวงถูกแทรงแซงโดยผู้เสพความตายและพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นผลงานมากไปกว่าจับผู้บริสุทธิ์ไปขังคุก และพยายามตบตาชุมชนผู้วิเศษว่าพวกเขายังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่ทุกคนในโลกผู้วิเศษต่างรู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นเริ่มกลับไปเหมือนยุคมืดเมื่อ 17 ปีก่อนอย่างไม่มีผิด หนำซ้ำมันอาจจะเลวร้ายกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ดังที่ศาสตราจารย์ทวีลอนีย์ได้เคยทำนายไว้เมื่อตอนที่แฮร์รี่อยู่ปีสาม ว่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะกลับมาอีกครั้ง จะยิ่งใหญ่และโหดร้ายกว่าที่ผ่านมา และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะลูกสมุนของโวลเดอมอร์เพิ่มจำนวนขึ้นราวกับดอกเห็ด ทุกอย่างตกอยู่ในความมืด ผู้คนต่างหวาดกลัวและไม่กล้าไว้ใจใคร ผู้เสพความตายทำการอุกอาจกว่าเดิม มันฆ่าเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและผู้ที่มาขัดขวางมากมาย ตรามารถูกยิงขึ้นฟ้าเป็นจำนวนมากพอ ๆ กับจำนวนของพ่อมดแม่มดที่หายตัวไปแต่ละวัน
และก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่านี้สามสหายซึ่งประกอบด้วย แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจว่าพวกเขาจะไม่กลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์อีก ตรงกันข้ามแฮร์รี่ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปตามหาฮอครักซ์ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ดัมเบิลดอร์ทิ้งไว้ให้กับเขา และเป็นหนทางเดียวที่จะทำลายโวลเดอมอร์ได้ และแน่นอนว่าเพื่อนรักทั้งสองของเขาซึ่งก็คือเฮอร์ไมโอนี่กับรอนตกลงว่าจะเดินทางไปกับเขาด้วย เด็กทั้งสามนัดแนะว่าจะพบกันที่บ้านโพรงกระต่าย และร่วมงานแต่งงานของบิลกัลเฟลอร์ก่อนจึงค่อยออกเดินทาง เพราะพวกเขาต้องรอให้แฮร์รี่อายุครบสิบเจ็ดเต็มเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเขาก็จะมีร่องรอยทางเวทย์มนต์ติดไปกับเขาด้วย ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ที่เห็นด้วยการแผนการนี้ก็รีบวางแผนการเดินทางในครั้งนี้ทันทีหลังจากที่เธอกลับมาถึงบ้านในช่วงฤดูร้อน
หลังจากผ่านการไตร่ตรองไม่นานนักเด็กสาวก็ตัดสินใจจะร่ายคาถาแปลงความทรงจำของพ่อแม่ของเธอ โดยลบความทรงจำเกี่ยวกับตัวเธอเองออกจากพวกเขาจนหมด และทำให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาชื่อเวนเดลและโมนิกา วิลคินส์ รวมทั้งทั้งคู่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียซึ่งมันเป็นทางเดียวที่เธอจะทำเพื่อปกป้องพ่อแม่จากผู้เสพความตายได้ แต่เด็กสาวกลับมารู้ทีหลังว่าเธอคิดผิดโดยสิ้นเชิง!
เฮอร์ไมโอนี่จำได้ดีว่าก่อนที่เธอจะลงมือร่ายคาถาเพื่อปรับเปลี่ยนความทรงจำของพวกท่านนั้น เธอต้องออกไปธนาคารแต่เช้าเพื่อถอนเงินในบัญชีทั้งหมดที่มีสำหรับใช้ในระหว่างการเดินทาง เฮอร์ไมโอนี่ตั้งใจว่าจะกลับมาร่ายคาถาปรับเปลี่ยนความทรงจำของพ่อกับแม่และรีบออกจากบ้านไปที่บ้านโพรงกระต่ายในทันที แต่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านเด็กสาวกลับเห็นตรามารลอยอยู่เหนือน่านฟ้าในย่านที่เธออาศัยเสียก่อน!
เฮอร์ไมโอนี่รีบรุดไปที่บ้านของเธอทันที และที่เธอพบก็คือร่างไร้วิญญาณของพ่อและแม่ของเธอที่กำลังนอนนิ่งอยู่ที่พื้น ดวงตาของทั้งสองเบิกกว้างด้วยความกลัว เหนือร่างของพวกเขาผู้เสพความตายในชุดคลุมสีดำกำลังยืนอยู่ มันเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มฉายแววเย้นหยันยังคงตรึงอยู่ในความทรงจำของเธอจนถึงทุกวันนี้
รอยยิ้มของลูเซียส มัลฟอย!
เฮอร์ไมโอนี่ทำอะไรไม่ถูก เธอพยายามเสกคาถาใส่เขา แต่ลูเซียสหลบได้ไม่ยาก เขามีฝีมือเหนือกว่าเธอมากนัก และในไม่ช้าเด็กสาวก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา
“ฆ่าฉันซะสิ!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน เธอจ้องมองเขาอย่างเคียดแค้น ไม้กายสิทธิ์ของนายลูเซียสจ่ออยู่ที่คอของเธอ
“ถึงแม้ว่าการฆ่าเลือดสีโคลนสักคนจะเป็นรายการที่บันเทิงใจสำหรับฉัน” ลูเซียส มัลฟอยพูดพร้อมกับเหยียดยิ้ม “แต่ฉันคิดว่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าถ้าฉันจะยังไม่ฆ่าเธอ........ตอนนี้”
นายลูเซียสชี้ไม้กายสิทธ์มาที่เธอพร้อมกับพึมพำคาถา และเฮอร์ไมโอนี่ก็ถูกพามายังสถานที่ที่หนึ่งที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เมื่อรู้สึกตัวเด็กสาวก็มาอยู่ในห้องโถงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กว้างใหญ่หากแต่มืดทึม ที่สุดปลายห้องร่างทะมึนในชุดคลุมสีดำกำลังยืนล้อมรอบคบไฟสีเขียวอันใหญ่ ซึ่งเป็นแสงสว่างอย่างเดียวภายในห้องนี้ เด็กสาวกวาดสายตาของเธอไปเบื้องหน้า
ถัดจากคบไฟร่างหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำจากหินสีดำแกะสลักสายวิจิตรราวกัลบัลลังค์ ข้าง ๆ เขามีชายร่างเล็กอ้วนเตี้ยยืนขนาบอยู่ข้าง ๆ อย่างเกรงกลัว ถึงแม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้วที่เธอได้เจอหน้าเขา แต่เฮอร์ไมโอนี่จำได้ดีว่าร่างนั้นก็คือชายผู้ทรยศเพื่อนรักและนำความตายมาให้เพื่อนของเขา และเขาก็เป็นผู้ที่ช่วยเหลือให้จอมมารพื้นคืนพลังอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง หางหนอนนั่นเอง !
และร่างในชุดคลุมที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังค์อย่างสงบนิ่งนั้นก็ไม่ใช่ใคร นอกเสียจากลอร์ดโวลเดอมอร์!!!
ลูเซียส มัลฟอยยึดไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ เขาเสกเชือกเวทย์มนตร์มารัดตัวเธอและพาเธอเดินไปจนสุดห้องโถง ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบจากผู้เสพความตายรอบ ๆ พร้อมกับสายตาที่จ้องมองเธอราวกับสัตว์ป่าเห็นเหยื่ออันโอชะ จนกระทั่งถึงสุดปลายโถง ลูเซียสทำความเคารพโวลเดอมอร์และผลักร่างของเฮอร์ไมโอนี่ให้คุกเข่าลง
“ของบรรณาการของเจ้าอย่างนั้นหรือลูเซียส” ลอร์ดโวลเดอมอร์พูด จ้องมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ ดวงตาเหมือนงูฉายแววพิจารณา
“รู้หรือไม่ว่าการทำให้พื้นหน้าบัลลังค์ของข้าแปดเปื้อนโคลนจากตัวนังเด็กนี่มีความผิดมากแค่ไหน”
“ข้าไม่บังอาจเช่นนั้นเจ้านาย” ลูเซียส มัลฟอยพูด “ข้าแค่ต้องการนำตัวเด็กนี่มาให้ท่าน เผื่อว่าหล่อนจะมีข้อมูลที่ท่านต้องการ” จอมมารมองลูเซียสด้วยแววตาสีแดงราวกับสัตว์ร้าย นายลูเซียสรีบพูดต่อทันที
“นังเด็กนี่เป็นเพื่อนสนิทของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และเป็นคนของภาคีด้วย” เขารายงาน
“ภาคีอย่างนั้นหรือ” โวลเดอมอร์พึมพำ ใบหน้าฉายแววพอใจ
นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาหาทางแทรกแซงภาคีนกฟินิกซ์ กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องการฆ่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ เสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ที่ขวางกั้นการไปสู่อำนาจของเขาไว้ แต่มันก็หนีรอดไปได้ทุกครั้งไป แต่ตอนนี้สมุนของเขากลับนำของขวัญชิ้นสำคัญมาให้เขา กุญแจที่จะทำลายภาคีนกฟินิกซ์ให้ย่อยยับ รวมทั้งเป็นหนทางสู่ตัวของแฮร์รี่ พอตเตอร์เด็กชายผู้รอดชีวิตเสียด้วย!
“ดีมากลูเซียส” โวลเดอมอร์พูด รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางซีดของเขา
“ข้าเองก็หวังให้เจ้านายพอใจ” ลูเซียสพูดอย่างนอบน้อม
“ไหนลองบอกฉันสินังเลือดสีโคลน ตอนนี้ภาคีกำลังวางแผนอะไรอยู่” จอมมารเอ่ย “พวกแกกำลังวางแผนการอะไรเพื่อจะกำจัดฉัน” โวล์เดอมอร์พูด แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับปิดปากเงียบ
เธอจะไม่ยอมพูดอะไรออกไปทั้งนั้น แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะถ้าเธอยอมบอกข้อมูลอะไรกับเขาไปล่ะก็ ภาคีต้องถึงกาลอวสานแน่นอน
“จอมมารถามทำไมถึงไม่ตอบ!” ลูเซียสตะคอก ไม้เท้าในมือของเขายกขึ้นสูง หมายจะฟาดเข้าที่หน้าของเด็กสาว แต่โวลเดอมอร์กลับยกมือขึ้นห้ามเขาไว้
“เจ้านาย?” ลูเซียสพูดเสียงแผ่ว ลดไม้เท้าในมือลงโดยดี โวลเดอมอร์หันมาสนใจเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง
“ถ้าเธอไม่อยากตอบ ฉันจะเปลี่ยนคำถามแล้วกัน” เขาพูด “แฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่ที่ไหน”
เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันนิ่ง จอมมารต้องการที่อยู่ของแฮร์รี่เพื่อที่จะฆ่าเขา และเธอจะไม่มีวันบอกที่อยู่ของเพื่อนรักให้กับเขาเด็ดขาด เพราะนั่นก็เปรียบเสมือนเธอส่งเขาไปหาความตาย
“จะไม่ยอมตอบรึ” โวลเดอมอร์กล่าว เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบ
“เห็นทีเธอคงต้องได้รับการสั่งสอนบ้างแล้วนะ” จอมมารพูด “ว่าการบังอาจมาอวดดีกับลอร์ดโวลเดอมอร์จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร” เขาพูดก่อนที่จะพยักหน้าไปทางนายลูเซียสที่กำลังยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา
“บางทีคำสาปกรีดแทงมันคงจะทำให้ลิ้นของเธอทำงานขึ้นมาบ้างนะเกรนเจอร์” ลูเซียส มัลฟอยพูดพร้อมกันยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาชี้ที่เธอ ผู้เสพความตายที่เหลือต่างจ้องมองภาพตรงหน้าราวกับมันเป็นรายการโชว์ที่ไม่ควรจะพลาด
“ครูซิโอ!”
ความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนแล่นผ่านร่าง เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องสุดเสียง เธอรู้สึกราวกับมีแส้มาหวดทุกตารางนิ้วของร่างกาย กระดูกของเธอเหมือนถูกไฟลน เด็กสาวขดตัวงอด้วยความทรมาน ผู้เสพความตายต่างพากันกรีดเสียงหัวเราะ ในไม่ช้านายลูเซียสก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น
เฮอร์ไมโอนี่นอนขดตัวอยู่บนพื้น เด็กสาวหอบหายใจ โวลเดอมอร์ยิ้มบาง ๆ หากแต่ดูโหดเหี้ยม
“ทีนี้เธอจะตอบคำถามได้หรือยัง” โวลเดอมอร์เอ่ย เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมามองเขา แววตาสีน้ำตาลอันเด็ดเดี่ยวจ้องมองจอมมารอย่างไม่เกรงกลัว เธอไม่ปริปากพูดแต่อย่างใด
เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอตัดสินใจเดินทางไปตามหาฮอครักซ์แล้วว่ามันเปรียบเสมือนเธอกำลังเดินไปหาความตาย แน่นอนนว่าเธอรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน และเหตุผลที่ทำให้เธอยังคงดึงดันที่จะร่วมเดินทางไปกับแฮร์รี่ก็เพราะเขาเป็นเพื่อนรักของเธอ! และเขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสังหารจอมมารได้ตามคำทำนาย! แม้เด็กสาวจะรู้ดีว่าแฮร์รี่ไม่อยากให้เพื่อนคนไหนต้องมาเสี่ยงชีวิตเพื่อเขาและเขาต้องการเดินทางไปตามลำพังมากกว่าอะไรทั้งหมด แต่เธอก็ไม่อาจปล่อยเพื่อนรักให้ออกไปเสี่ยงอันตรายอยู่ข้างนอกนั่นเพียงลำพังได้ ขณะที่เธองอมือองอเท้าอยู่ที่บ้านของพ่อแม่หรือไม่ก็กลับไปเรียนฮอกวอตส์น่ะหรือ แน่นอนว่าเธอจะไม่ทำเช่นนั้นแน่
อีกอย่างเด็กสาวก็รู้ดีว่าตอนนี้ฮอกวอตส์ไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว เพราะผู้เสพความตายเข้าแทรงแซงฮอกวอตส์พอ ๆ กับที่พวกมันเข้าแทรงแซงกระทรวงเวทย์มนต์เสียแล้ว!
ขณะที่หน่วยงานที่โง่เง่าของกระทรวงนำโดยอัมบริดจ์ออกกฏหมายใหม่เพื่อสอบสวนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ลและพวกครึ่งพันธุ์ทั้งหลาย รวมทั้งดำเนินการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและส่งคนบริสุทธิ์มากมายเข้าคุกเพียงเพราะพวกเขาไม่มีสายเลือดผู้บริสุทธิ์ สมุนของจอมมารก็เปิดเกมส์ล่ามักเกิ้ลอันเป็นที่นิยมของเหล่าผู้เสพความตายขึ้นอีกครั้ง พวกมันจับมักเกิ้ลมาฆ่าเพื่อความสุขโดยไม่รู้สึกผิด เฉกเช่นที่ลูเซียส มัลฟอยฆ่าพ่อกับแม่ของเธอโดยที่ท่านทั้งสองไม่มีความผิด และเหตุใดเธอจึงต้องก้มหัวให้กับพวกมันและเปิดเผยข้อมูลที่เพื่อน ๆ ของเธอ รวมทั้งคนอื่น ๆ ในภาคีสู้รักษาด้วยชีวิต เหตุใดเธอต้องเอาเพื่อนรักไปขายเพื่อแลกกับชีวิตของเธอด้วยเล่า
ไม่มีทางเสียหรอก !!!
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นสบตาจอมมารจัง ๆ อย่างไม่เกรงกลัว ริมฝีปากบางเริ่มขยับ
“ถึงจะทรมานฉันหรือจะฆ่าฉันก็ตาม ฉันก็จะไม่บอกที่อยู่ของแฮร์รี่ให้พวกแกหรอก ไม่มีวัน!” เด็กสาวแผดเสียง ใบหน้าขาวซีดของโวลเดอมอร์แฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยว ไม่เคยมีใครกล้ามาอวดดีกีบเขาอย่างนี้นานแล้ว
“ลูเซียส” จอมมารพึมพำ นายลูเซียสพยักหน้ารับก่อนจะชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ร่างของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง
เสียงกรีดร้องของเธอดังขึ้นพร้อมกับเหล่าผู้เสพความตายที่พากันประสานเสียงหัวเราะ โวลเดอมอร์มองภาพเธอกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างพอใจ แววตาสีแดงทอประกายโหดเหี้ยม แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีโอกาสได้เห็นมัน เพราะเธอกำลังกรีดร้องอย่างทรมาน เด็กสาวกัดฟันแน่น ความเจ็บปวดดูเหมือนจะท่วมท้นร่างของเธอ มันมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว ตอนนี้เธอรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือเธอจะไม่มีวันยอมขายเพื่อนเพื่อเอาตัวรอดเด็ดขาด ไม่มีวัน!
ลูเซียส มัลฟอยชี้ไม้กายสิทธิ์ไว้ที่ร่างของเธออย่างไม่ยอมละไปไหน เด็กสาวกรีดร้องจนเกือบจะหมดเสียง ผู้เสพความตายที่เหลือยังคงดูสนุกสนานทีได้เห็นเธอทรมาน แต่ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถรับรู้อะไรได้แล้ว สติของเธอพร่าเลือนเต็มที ร่างดำทะมึนรอบ ๆ ที่กำลังกรีดเสียงหัวเราะก็เริ่มพร่าเลือน บางทีเธออาจกำลังจะตายแล้วก็ได้ เด็กสาวคิด แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี เธอจะได้พ้นกับความทรมานเสียที ขอให้ความตายมาช่วยเธอให้พ้นไปจากความทรมานนี้เสียทีเถอะ
ลูเซียส มัลฟอยละไม้กายสิทธิ์ออกจากร่างหมดสติของเฮอร์ไมโอนี่ เขาหันไปปรึกษาเจ้านาย
“เธอหมดสติไปแล้วครับเจ้านาย” เขารายงาน โวลเดอมอร์มองดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าปราศจากอารมณ์ใด ๆ
“ใจแข็งมากทีเดียวนะ นังเด็กนี่” เสียงของผู้เสพความตายคนหนึ่งดังขึ้น “พอ ๆ กับพวกลองบอตท่อมทีเดียว” เบลลาทริกซ์ เลสแสตรงค์พูด
“ท่านต้องการให้ข้าทำเช่นไร” ลูเซียสเอ่ย
“ได้โปรดส่งหล่อนให้ดิฉันเถอะเจ้านาย” เบลลาทริกซ์เอ่ยขอ มองไปที่ร่างของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับเธอเป็นของเล่นชิ้นใหม่
“ท่านก็รู้ว่าดิฉันถนัดในการใช้คาถานี้เพียงไร” เธอพูด แต่โวลเดอร์มอร์กลับยกมือห้าม
“ถ้าข้าทำเช่นนั้นหล่อนก็คงจะเสียสติไปก่อนที่ฉันจะได้ข้อมูลอะไรน่ะสิ เบลลา” โวลเดอร์มอร์พูดอย่างรู้ทัน
“ที่ข้าต้องการจากนังเด็กนี่ก็คือข้อมูลที่มันคายออกมา ไม่ใช่ร่างเสียสติหรือไร้วิญญาณ”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้านายต้องการให้พวกเราทำอย่างไรกับหล่อน ท่านก็เห็นว่าหล่อนไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย” ลูเซียสถามขึ้น จอมมารมองไปที่ร่างของเฮอร์ไมโอนี่อย่างพิจารณา
“ถึงจะทรมานเธออย่างไร นังเด็กนี่ก็คงไม่ยอมเปิดปากเป็นแน่” โวลเดอมอร์เอ่ย
“ถ้าเช่นนั้นก็ฆ่ามันเสียเลยสิ” ผู้เสพความตายนามแครบพูดขึ้น แต่เสียงของเขาก็เงียบลงเมื่อจอมมารปรายตาไปมอง
“เจ้าก็เห็นมิใช่หรือแครบ ว่านังเด็กนี่ยอมถูกทรมานมากกว่าจะยอมเปิดเผยข้อมูล และแน่นอนว่าหล่อนยอมตายดีกว่าจะทรยศเพื่อนตัวเอง” เจ้าแห่งศาสตร์มืดกล่าว
“แล้วถ้าข้าฆ่าหล่อน ก็เท่ากับข้าเปิดโอกาสให้หล่อนสมหวัง และข้าก็จะไม่มีวันได้ข้อมูลของแฮร์รี่ พอตเตอร์ตลอดไป!” จอมมารพูด แครบนิ่งเงียบ โวลเดอมอร์กราดตามามองร่างของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง เขามีสีหน้ารังเกียจ
“น่าประหลาด พวกเลือดสีโคลนกลับมาความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ ผิดกับพวกเลือดบริสุทธิ์บางคนที่ยอมทรยศเพื่อนรักและส่งเขาไปเผชิญความตายได้ลงคอ” จอมมารพูด ปรายตาไปมองหางหนอนที่กำลังครางหงิง ๆ เมื่อถูกพูดถึง
“แต่เจ้านาย ถ้าท่านไม่ยอมทรมานหรือฆ่านังเด็กเลือดสีโคลนนี่ แล้วท่านจะทำอย่างไร” ลูเซียสเอ่ย โวลเดอมอร์มีสีหน้าครุ่นคิด
“ข้าจะเก็บมันไว้” เขาเอ่ยขึ้นมาในที่สุด
“เจ้านาย” เสียงของผู้เสพความตายดังขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน ต่างไม่เข้าใจว่าทำไมจอมมารถึงอยากไว้ชีวิตเลือดสีโคลนคนนี้
“ข้าจะเก็บเธอไว้เป็นเหยื่อล่อ ให้แฮร์รี่ พอตเตอร์มาติดกับของข้า” ลอร์ดโวลเดอมอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยม
เพราะเรื่องราวทั้งหมดนี้จึงทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องมาอยู่ที่นี่ เท่าที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของศาสตร์มืดที่โวลเดอมอร์จัดตั้งขึ้น เขาเลือกคฤหาสน์เก่า ๆ ของพ่อผู้เป็นมักเกิ้ลของเขามาทำเป็นกองบัญชาการและปรับปรุงมันให้กว้างใหญ่และสะดวกสบายพอที่จะซ่องสุมกำลังคนของเขาไว้ได้ไม่ยาก ส่วนบริเวณรอบ ๆ นี้ซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านมักเกิ้ลนั้นไม่มีอีกแล้ว โวลเดอมอร์อนุญาตให้ลูเซียส มัลฟอยนำพรรคพวกผู้เสพความตายที่เหลือล่ามักเกิ้ลบริเวณใกล้เคียงกับศูนย์บัญชาการ แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีมักเกิ้ลคนไหนกล้าอาศัยอยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่นี้ในระยะเป็นไมล์ ๆ เลยทีเดียว
เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจและพลิกตัวนอนตะแคง หลังจากวันนั้นเธอก็ถูกนำมาที่ห้องนี้และโดนขังไว้เกือบตลอดทั้งวัน แต่เพราะเธอเป็นเชลยที่ยังมีประโยชน์ โวลเดอมอร์จึงไม่ปฏิบัติกับเธอด้วยการกระทำที่ทารุณ พวกเขาไม่ได้ทรมานเธอ ไม่ได้พยายามจะฆ่าเธอ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเธอเลย เพียงแต่ขังเธอไว้ในห้องเล็ก ๆ เหม็นอับห้องนี้เท่านั้น
ตั้งแต่เธอถูกขังอยู่ที่นี่พวกเขาให้เธอทานอาหารวันละสามมื้อ โดยจะมีเอลฟ์ประจำบ้านนำมาให้เมื่อถึงเวลา แม้ว่ารสชาติของมันจะแทบกระเดือกไม่ลงก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ฝืนกินลงไปหลังจากที่เธอคิดว่าการรอดอาหารไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่การมีชีวิตอยู่สิสำคัญกว่า เธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อรอวันที่จะออกจากที่นี่ถึงแม้ว่าโอกาสที่เธอจะหนีออกไปนั้นมันจะเท่ากับศูนย์ก็ตาม
แต่เธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอจะไม่ยอมตายง่าย ๆ อย่างเด็ดขาด เด็กสาวคิดอย่างเข้มแข็ง
มีเสียงกุญแจดังกริ๊กมาจากประตูห้องที่เฮอร์ไมโอนี่หันหลังให้อยู่ พร้อมกับเสียงประตูเปิดออก
‘ คงเป็นเอลฟ์ประจำบ้านหรือไม่ก็ผู้เสพความตายสักคนล่ะสินะ ’ เฮอร์ไมโอนี่คิด แต่เด็กสาวก็รู้ว่าเธอคิดผิดเมื่อมีเสียงหนึ่งดังมาทางประตู
“ลุกขึ้น!” เสียงยานคางที่เธอคุ้นเคยดังขึ้น ไม่ใช่เสียงของนายมัลฟอยผู้พ่อ แต่กลับเป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่เธอจำได้ดี เสียงที่เคยพูดถากถางเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
เฮอร์ไมโอนี่หันหลังกลับไป เดรโก มัลฟอยกำลังยืนอยู่ที่ประตูห้อง ดวงตาสีซีดของเขาจ้องมองมาที่เธอ
*************************************************
คุยกันหลังอ่านนะคะ
ไม่มีอะไรมากนอกจากถ้าอ่านแล้วชอบก็ช่วยคอมเม้นให้หน่อยนะคะ คนเขียนอยากฟังความคิดเห็นจากรีดเดอร์ทุกคนค่ะ ^^
ความคิดเห็น