คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : The Final Test: การสอบรอบสุดท้าย
***Chapter 1 The Final Test: การสอบรอบสุดท้าย***
“อย่า!” เด็กสาวผมสีน้ำตาลคนหนึ่งร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าต้องการอะไร เธอกระเถิบตัวหนีไปทางหัวเตียง แต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อเขาคว้าข้อเท้าของเธอด้วยมือที่แข็งแรง แล้วลากเธอให้ลงมานอนกับเตียงตามเดิม
ชายผมบลอนด์เคลื่อนกายเข้ามาคร่อมร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้และเริ่มซุกไซร้ซอกคอเธอ เด็กสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เธอพยายามพลักร่างของเขาออกด้วยแรงที่มีอยู่น้อยนิด
“ได้โปรด อย่าทำแบบนี้!” เธออ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม้จะรู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์ก็ตาม
ร่างใหญ่ที่กำลังคร่อมร่างของเธออยู่เงยหน้าขึ้นจากมองเธอ เขากระซิบขึ้นมา
“เธอไม่อยากให้ฉันทำแบบนี้ แล้วจะให้ฉันทำแบบไหน เกรนเจอร์” เขายังคงเรียกนามสกุลของเด็กสาวอยู่
“ปล่อยฉันไป.......ได้โปรดอย่าทำอะไรฉัน” เธอขอ ร่างเล็ก ๆ นั้นสั่นเทาอย่างน่าสงสารแต่กลับไม่มีแววปราณีอยู่ในดวงตาสีเงินที่กำลังจ้องมองเธออยู่เลย
“ปล่อยเธอไปงั้นหรือ” เขาทวนคำด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “ตอนนี้เธอแต่งงานกับฉันแล้ว ขืนฉันปล่อยเธอไปฉันก็ได้กลายเป็นไอ้งั่งน่ะสิ” ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่เบิกกว้าง เธอทำท่าจะร้องแต่ร่างใหญ่นั้นเข้ามาจูบปิดปากเธอเสียก่อน
“อือ!” เด็กสาวคราง พยายามดิ้นรน แต่เธอไม่อาจสู้แรงเขาได้เลย เธอทำได้เพียงดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาเท่านั้น
“อย่าขัดขืนไปเลยเกรนเจอร์ เพราะเธอไม่มีวันหนีฉันพ้น” มัลฟอยพูดอย่างไร้ความปราณี เขาถอดเสื้อคลุมออก เด็กสาวหน้าซีดเมื่อเห็นแผ่นอกเปลือยเปล่าของชายตรงหน้า เธอรู้ดีว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเธอต่อไปนั้นคืออะไร.........................
.................................................
ย้อนกลับไปหนึ่งอาทิตย์ก่อน
“เธอคือคนพิเศษ”
“เธอคือคนที่ถูกเลือก”
“เพื่อที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของฉัน”
“เธอคือผู้กุมชะตาของมนุษย์ทุกคนเอาไว้”
“เธอคือ.................เจ้าหญิงแห่งความมืด!!!”
เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่นขึ้นในยามดึกพร้อมกับหอบหายใจ หญิงสาวมองไปรอบตัวและก็พบว่าเธออยู่ในห้องนอนของเธอในบ้านของพ่อกับแม่
‘ ฝันอีกแล้วรึนี่ ’ เธอคิดพลางยกมือขึ้นปาดเหงื่อบริเวณหน้าผาก ตลอดเวลาหลายเดือนมานี่เธอฝันแบบเดิมซ้ำกันมาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งความในฝันเธอจะได้ยินเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่อาจบอกอายุได้พูดซ้ำไปซ้ำมา แม้เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจจะจดจำข้อความที่เขาพูดทุกประโยคได้ แต่ที่เธอจำได้เพียงอย่างเดียวก็คือคำพูดสุดท้ายที่ดูหนักแน่นมากและน่ากลัวที่สุด
“เธอคือ เจ้าหญิงแห่งความมืด!”
เฮอร์ไมโอนี่สะบัดศีรษะเพื่อไล่ถ้อยคำนั้นออกจากหัวและลุกขึ้นจากเตียงไปยังโต๊ะเพื่อรินน้ำมาดื่ม ในขณะที่เธอยกแก้วน้ำขึ้นจิบ สายตาของเฮอร์ไมโอนี่ก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ซึ่งวันบอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
เด็กสาวตัวชา เพราะเธอกำลังจะอายุสิบเก้า*ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า!
[หมายเหตุ : เฮอร์ไมโอนี่เกิดวันที่ 19 กันยายน 1979 เธออายุมากกว่ารอนและแฮร์รี่เกือบ 1 ปี เธอเริ่มเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์เมื่ออายุ 12 ปี เพราะฉะนั้นหลังจากจบมาจากฮอกวอตส์ปีหนึ่งเธอจึงต้องมีอายุ 19 ปีค่ะ]
ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่จบการศึกษาโรงเรียนคาถาเวทย์มนต์ฮอกวอตส์ด้วยคะแนนสูงที่สุดในรุ่น และทันทีที่เรียนจบเธอและเพื่อนรักทั้งสอง แฮร์รี่และรอนได้เข้าเป็นสมาชิกภาคีนกฟินิกซ์ทันที เพื่อช่วยภาคีต่อต้านลอร์ดโวลเดอมอร์ที่เรืองอำนาจขึ้นทุกวัน นอกจากนี้พวกเขาทั้งสามยังสมัครเป็นมือปราบมารด้วย แต่เด็กทั้งสามยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นมือปราบมารของกระทรวงแต่อย่างใด พวกเขาต้องเข้าอบรมวิชาการเป็นมือปราบมารรวมทั้งผ่านการทดสอบนานับประการ และด้วยความพยายามและทุ่มเทของเด็กทั้งสามทำให้พวกเขาทุกคนผ่านการทดสอบมาจนถึงรอบรองสุดท้าย แม้ว่ารอนจะผ่านมันมาได้อย่างเฉียดฉิวมากก็ตาม และในวันพรุ่งนี้ แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ก็จะเข้ารับการทดสอบรองสุดท้าย ถ้าพวกเขาสอบผ่านพวกเขาก็จะได้รับการบรรจุเป็นมือปราบมารฝึกหัด ซึ่งถือว่าอนาคตการเป็นมือปราบมารนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
ดังนั้นการทดสอบครั้งนี้จึงเป็นตัวตัดสินว่าพวกเขาจะได้รับตำแหน่งมือปราบมารหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเกิดของเฮอร์ไมโอนี่พอดี!
เด็กสาวหยิบนาฬิกาตั้งโต๊ะมาไว้ในมือ หน้าปัดเรืองแสงของมันบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มห้าสิบเก้านาทีแล้ว และเข็มวินาทีก็กำลังจะเดินครบรอบอยู่แล้ว
‘ 5……………4………………3…………….2…………….1 แฮปปี้เบิร์ดเดย์เฮอร์ไมโอนี่ ’ เธอคิดในใจพลางหลับตาอธิฐาน
‘ ขอให้การสอบในวันพรุ่งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ’ เธอคิดพลางลืมตาขึ้น และสิ่งแรกที่เธอสังเกตุเห็นคือแสงสว่างเจิดจ้าที่สว่างวาบขึ้นมาจากตรงลิ้นชัก
.................................................
เฮอร์ไมโอนี่เดินตรงไปยังลิ้นชักหัวเตียงและเปิดมันออก และสิ่งที่เด็กสาวพบแอบซ่อนอยู่ในกองหนังสือของเธอก็คือสร้อยเงินที่มีจี้รูปนกอินทรีห้อยอยู่
สร้อยเส้นนี้เป็นของที่ติดตัวเฮอร์ไมโอนี่มาตั้งแต่ที่เธอจำความได้ เมื่อเธอถามพ่อกับแม่ว่าสร้อยเส้นนี้มาจากไหนท่านทั้งสองก็จะมองหน้ากันและตอบว่าเป็นของขวัญจากคุณปู่คุณย่าที่ให้เธอมาตั้งแต่เล็ก ๆ
เฮอร์ไมโอนี่หยิบสร้อยในมือมาทาบกับคอของตัวเอง และดูภาพที่สะท้อนมาจากกระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เธอเห็นว่าสร้อยเส้นนี้ดูรับกับลำคอของเธออย่างประหลาด ความยาวของสร้อยนั้นทำให้จี้ห้อยอยู่เหนือร่องอกพอดี
เธอคงโตพอแล้วสินะ เฮอร์ไมโอนี่คิด เด็กสาวจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เธอมักพกสร้อยเส้นนี้ติดตัวตลอด แม้ว่ามันจะยาวเกินกว่าที่เธอจะใส่เองก็ตาม เธอก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะโตพอที่จะใส่สร้อยนี้ได้พอดี และเฮอร์ไมโอนี่อาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่เธอมักพบว่าสร้อยเส้นนี้นำโชคมาให้เธอ มันทำให้เธอโชคดี และหลายครั้งที่เธอรอดพ้นมาจากอันตรายต่าง ๆ ได้อย่างหวุดหวิดเมื่อเธอใส่มันในตอนเด็ก
เฮอร์ไมโอนี่มองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ก่อนจะเลิกผมข้างหลังขึ้นและบรรจงใส่สร้อยเส้นนี้เข้ากับลำคอของตัวเอง ในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอและก็เป็นวันที่เธอต้องรับการทดสอบครั้งใหญ่อันเป็นการตัดสินอนาคตในการเป็นมือปราบมารของเธอด้วย และในการสอบที่สำคัญเช่นนี้เฮอร์ไมโอนี่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ว่ามันอาจจะเป็นความเชื่อที่ไร้สาระก็ตาม
เด็กสาวเดินกลับมายังที่นอน เธอซุกตัวลงในผ้านวมผืนนุ่มและหลับไปในเวลาไม่นานนัก ทั้ง ๆ ที่ยังสวมสร้อยเส้นนั้นอยู่ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจของเธอในครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล!
................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น
“เฮอร์ไมโอนี่เสร็จหรือยังลูก” เสียงของโรเบิร์ต เกรนเจอร์ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงตึงตังที่ดังมาจากบันได ในไม่ช้านายเกรนเจอร์ก็เห็นร่างของลูกสาวคนเดียวกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงบันได้มา เธอสวมเสื้อคลุมของแม่มดทับชุดของมักเกิ้ล
“สุขสันต์วันเกิดจ๊ะลูก ทีหลังเดินเบา ๆ หน่อยนะจ๊ะ” เฮเลน เกรนเจอร์ตรงเข้ามาโอบกอดลูกสาว
“ขอบคุณค่ะแม่” เฮอร์ไมโอนี่กอดนางเกรนเจอร์ตอบ ก่อนจะหันไปทางพ่อของเธอ
“สุขสันต์วันเกิดนะลูก” โรเบิร์ต เกรนเจอร์กล่าวพลางโอบกอดลูกสาวต่อจากภรรยา
“ตื่นสายรึไงเราน่ะ มาทานอะไรก่อนเร็ว” นายเกรนเจอร์พูดพลางพาลูกสาวมานั่งที่โต๊ะทานอาหาร ซึ่งนางเกรนเจอร์เตรียมขนมปังปิ้งกับกาแฟไว้ให้แล้ว
“ทำนองนั้นค่ะพ่อ หนูนอนไม่ค่อยหลับน่ะค่ะ” เธอพูดพลางจิบกาแฟ เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเล่าเรื่องความฝันประหลาดนั่นให้พ่อกับแม่เธอฟังเลย
“ตื่นเต้นเหรอลูก” นายเกรนเจอร์ถาม เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ “เอาน่า พ่อเชื่อว่าลูกทำได้”
“ค่ะ หนูก็หวังอย่างนั้น” เธอบอก
“ว่าแต่วันนี้ลูกใส่สร้อยเส้นนี้มาด้วยเหรอ ท่าทางลูกจะกังวลกับการสอบมากจริง ๆ “ นายเกรนเจอร์ทักขึ้นเมื่อเห็นสวมสร้อยรูปนกอินทรีที่เป็นของคู่กายเธอมาตั้งแต่เล็ก
“พ่อก็รู้นี่คะว่าการสอบครั้งนี้สำคัญกับหนูแค่ไหน” เด็กสาวพูดขึ้น “หนูคงทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าจะมาสอบตกเอารอบสุดท้ายแบบนี้” เมื่อเธอพูดเช่นนั้นโรเบิร์ตก็คว้าไหล่ของลูกสาวไว้
“พ่อเชื่อว่าลูกทำได้ เฮอร์ไมโอนี่ ลูกเคยกังวลแบบนี้ออกบ่อย แล้วลูกก็ผ่านมันไปได้” นายเกรนเจอร์พูดพลางบีบไหล่ลูกสาวแน่น
“แล้วก็ผ่านไปได้ดีด้วยจ๊ะ” นางเกรนเจอร์เสริม เธอตักไข่ดาวที่เพิ่งทอดเสร็จใส่จานของเฮอร์ไมโอนี่
“แม่คะ หนูไม่หิวเลย” เธอบอก
“ไม่หิวก็ต้องทานจ๊ะ ขนมปังซักแผ่นก็ยังดีเดี๋ยวก็ไม่มีแรงสอบกันพอดี” เมื่อแม่ของเธอเตือน เฮอร์ไมโอนี่จึงฉีกขนมปังเข้าปากชิ้นหนึ่ง แล้วจิบกาแฟตามอีกนิด
“หนูต้องไปแล้วค่ะ” เด็กสาวพูดหลังจากเหลือบมองนาฬิกา
“ไม่ทานอีกหน่อยหรือจ๊ะ” นางเกรนเจอร์พูดอย่างเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ หนูไปแล้วนะคะ พ่อแม่” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางโอบกอดนายและนางเกรนเจอร์อีกรอบหนึ่ง
“โชคดีนะลูก” สองสามีภรรยาต่างให้กำลังใจเธอ
“ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะแม่” เฮอร์ไมโอนี่พูด “หนูไปนะคะ”
“จ๊ะ แล้วหนูจะกลับมาเมื่อไหร่จ๊ะ” นางเกรนเจอร์ถาม
“ไม่รู้ค่ะแม่ แต่คงจะเย็นหน่อยน่ะค่ะ หนูอาจจะไปฉลองวันเกิดกับแฮร์รี่กับรอนต่อด้วยค่ะ” เธออธิบาย นางเกรนเจอร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ไปเถอะลูก แต่อย่ากลับดึกนักนะ” นายเกรนเจอร์บอก เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับก่อนที่จะหายตัวไป
.................................................
ปลายทางของเฮอร์ไมโอนี่คือกระทรวงเวทย์มนต์ที่มีผู้คนคลาคล่ำ โดยเฉพาะสำนักงานใหญ่มือปราบมารที่ดูเหมือนจะกลายเป็นแผนกที่ไม่มีวันหลับไปเสียแล้ว เพราะมือปราบมารส่วนมากเข้าออกที่นี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพื่อประชุม วางแผน และทำการยับยั้งการกระทำที่อุกอาจของผู้เสพความตาย และที่นั่นเฮอร์ไมโอนี่ได้พบกับเพื่อนรักสองคนท่ามกลางผู้เข้าสอบอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังยืนออกันอยู่หน้ากอง
“แฮร์รี่ รอน!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องพลางเดินไปหาเพื่อนทั้งสอง
“เฮ้ เรานึกว่าเธอจะไม่มาเสียแล้ว แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ” รอนพูดขึ้นพลางกอดเธอเสียเต็มแรง เด็กสาวกอดตอบ เมื่อเธอปล่อยรอนออก แฮร์รี่ก็เข้ามาอวยพรวันเกิดเธออีกคน
“ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ นี่เป็นสอบครั้งสำคัญทีเดียวนะ” เธอว่า
“ใช่ สำคัญมากทีเดียว แปลกนะที่เราไม่เห็นเธอหนีบหนังสือติดมือมาด้วยน่ะ” รอนแซว เฮอร์ไมโอนี่หน้างอ
“แน่นอนว่าฉันไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือหรอก เพราะฉันจำคาถาต่าง ๆ ได้ขึ้นใจแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับสีหน้าตะลึงงันของรอน เด็กหนุ่มผมแดงหันไปกระซิบกับแฮร์รี่เบา ๆ ว่า ‘ ฉันบอกนายแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอก ’
“แต่ฉันก็ไม่รู้จะใช้มันได้ดีอย่างที่จำได้รึเปล่านี่สิ” เธอเสริมเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนทั้งสองพูดกัน
“เธอทำได้อยู่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ เธอเก่งจะตายไป” แฮร์รี่พยายามปลอบใจเธอ
“แต่ก็คงไม่มากไปกว่าเธอหรอกแฮร์รี่ เธอก็รู้นี่ว่าฉันได้แค่เกินความคาดหมายจากป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเท่านั้น ส่วนเธอน่ะได้ตั้งดีเยี่ยมนะ”
“นั่นมันแค่การสอบ ส.พ.บ.ส. นะเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่แย้ง
“แต่ครั้งนี้ก็เป็นการสอบเหมือนกัน” เด็กสาวว่า
“เฮ้ พวกเธอสองคนจะเครียดอะไรกัน ฉันน่ะเกือบสอบไม่ผ่านมาตั้งหลายรอบฉันยังไม่เครียดเลย” รอนพูดขึ้นบ้าง แม้ว่าสีหน้าของเขาดูจะไม่เข้ากับคำพูดเลยก็ตาม
“พวกเธอสองคนน่ะสอบผ่านได้สบาย ๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะนายแฮร์รี่ แต่ฉันนี่สิ” เสียงของรอนอ่อยลง
“ไม่เอาน่ารอน พวกเราต้องผ่านด้วยกันทั้งหมด แล้วเราก็จะได้เป็นมือปราบมารด้วยกัน ฉันเชื่อว่านายทำได้” แฮร์รี่ตบไหล่รอนเบา ๆ อย่างปลอบใจ
“ใช่ พวกเราจะต้องผ่านด้วยกันทั้งหมด รวมทั้งเธอด้วยรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมาบ้าง
“อืม” เด็กหนุ่มผมแดงพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสอง แต่ก็ยังคงดูกังวลอยู่
เสียงกระแอมดังมาจากทางประตูบานใหญ่ของแผนกมือปราบมารที่เด็กทั้งสามรวมถึงผู้ที่มาเข้าสอบทุกคนยืนรอกันอยู่ ทั้งหมดหันไปทางต้นเสียงและก็พบว่ามีร่างสูงใหญ่ของชายผิวดำคนหนึ่งปรากฏขึ้น คิงสลีย์นั่นเอง
“สวัสดีทุก ๆ คน ยินดีต้อนรับเข้าสู่การสอบคัดเลือกรอบสุดท้าย” คิงสลีย์ที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์กล่าวขึ้น “ผมดีใจมากที่พวกเธอผ่านการทดสอบขั้นต้นมาได้อย่างดีเยี่ยม” เขาแอบหลิ่วตาให้แฮร์รี่หลังพูดจบ
“ก่อนจะเริ่มการสอบซึ่งหวังว่าพวกเธอคงเตรียมตัวกันมาอย่างดีแล้ว” รอนครางขึ้นหลังจากคิงสลีย์พูดถึงการเตรียมตัว “ผมจะขออธิบายกฎและขั้นตอนในการทดสอบครั้งนี้ก่อนนะ หากพวกเธอมีข้อข้องใจหรือสงสัยก็ช่วยยกมือถามเมื่อผมอธิบายเสร็จแล้วละกัน”
“การสอบครั้งนี้จะเป็นการสอบภาคปฏิบัติล้วน ๆ” เขาเริ่มพูด “หลังจากที่พวกเธอผ่านการสอบทั้งปฏิบัติและทฤษฎีมามากแล้ว” คิงสลีย์กล่าว
“สถานที่สำหรับสอบนั้นเราได้กำหนดไว้หลายที่ด้วยกัน อีกซักครู่พวกเธอจะได้เข้ามาจับฉลากกุญแจเดินทางพวกนี้” เขาชี้ไปยังเศษขยะมากมายที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะห่างจากเขาไปสามเมตร
“ซึ่งมันจะพาเธอไปยังสถานที่ที่เธอจะได้รับการทดสอบ ในแต่ละสถานที่นั้นเราได้จัดวางด่านสำหรับทดสอบเธอไว้ตามความเหมาะสม นอกจากนั้นทางเราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของเราไปประจำที่นั่นด้วย กติกาก็ไม่มีอะไรมาก แค่เธอต้องเอาตัวรอดจากกับดักที่เราวางไว้และผ่านเจ้าหน้าที่ของเราออกมา และเมื่อเธอผ่านด่านมาได้แล้วเธอก็จะพบกับลูกแก้วสีทอง ซึ่งเป็นกุญแจนำทางกลับมายังที่นี่”
“ส่วนการให้คะแนนนั้นเราจะแบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ใช้ในการผ่านด่าน การบาดเจ็บ และความเหมาะสมของคาถาที่ใช้ แต่ผมเสียใจที่จะต้องบอกว่าเรามีเวลาให้พวกเธอแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น และถ้าเธอยังไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้ภายใน 1 ชั่วโมงจะถือว่าเธอสอบตกทันที” คิงสลีย์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“เอาล่ะมีใครมีคำถามไหม”
เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นเป็นคนแรก รวดเร็วกว่าใครทั้งหมด
“เชิญ มิสเกรนเจอร์”
“ฉันสงสัยในข้อที่คุณบอกให้เราสู้กับเจ้าหน้าที่ในกระทรวงน่ะค่ะ คุณหมายความว่าเราต้องสู้กันจริง ๆ ใช่ไหมคะ” เด็กสาวถาม
“นั่นเป็นคำถามที่ดีมาก และผมก็ขอตอบว่าจริง พวกเธอต้องสู้กับเจ้าหน้าที่ที่เราวางไว้ตามด่านจริง ๆ และต้องชนะพวกเขาด้วยเธอถึงจะผ่านไปถึงลูกแก้วสีทองได้” เมื่อเขาพูดจบเสียงโอดโอยดังขึ้นมาจากบรรดาผู้มาสอบ
“แต่การต่อสู้อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นนะคะ” เด็กสาวถามต่อ
“ผมแน่ใจนะว่าอาชีพมือปราบมารเป็นอาชีพที่ถือว่าอันตรายที่สุดเลยทีเดียว และผมคิดว่าทุกคนในห้องนี้คงรู้ดีอยู่แล้ว แต่ผมอยากให้พวกเธอวางใจได้ว่าจะไม่มีการใช้คาถาโทษผิดสถานเดียวกับผู้เข้าสอบเด็ดขาด รวมทั้งพวกเธอเองก็เช่นกัน.....” เขามองผู้เข้าสอบที่มีจำนวนประมาณ 10 คนเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ในการสมัครครั้งแรกมีคนเข้ามาสมัครประมาณครึ่งร้อยเห็นจะได้
“เราไม่อนุญาตให้พวกเธอทำอันตรายเจ้าหน้าที่ของเราด้วยคำสาปโทษผิดสถานเดียว เธออาจจะสะกดนิ่งเขาได้ระหว่างการสอบ แค่ครูซิโอ อะวาดาเคดาฟ-รา หรือแม้แต่อิมเปริโอ นั้นเป็นคาถาต้องห้ามสำหรับการสอบ เข้าใจไหมทุกคน” ผู้เข้าสอบต่างพยักหน้ากันหงึกหงัก
“เอาล่ะ มีใครมีคำถามอีกไหม”
มือของรอนค่อย ๆ ยกขึ้นอย่างเกรง ๆ
“เชิญ มิสเตอร์วีสลีย์” คิงสลีย์ว่า “ถ้าหากว่า พวกเราบาดเจ็บระหว่างการทดสอบล่ะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเขาคาดไปแล้วว่าเขาจะต้องบาดเจ็บในการสอบแน่ ๆ
“ถ้าหากว่าเกิดการบาดเจ็บแต่ไม่หนักหนาอะไร ผู้เข้าสอบสามารถใช้คาถารักษาแผลให้ตัวเองได้ และถ้าเธอไปถึงลูกแก้วทันเวลาเธอก็อาจจะโดนหักคะแนนเรื่องแผล แต่ถ้าหากว่าผู้เข้าสอบบาดเจ็บระหว่างการแข่งขันจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เจ้าหน้าที่ของเราก็จะเข้าไปช่วยเหลือทันที ในกรณีที่อาการหนักจริง ๆ น่ะนะ ซึ่งมันก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอก แต่สำหรับผู้เข้าสอบท่านใดที่ต้องการออกจากการสอบอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเพราะจากสาเหตุอะไรก็ตาม ให้ยิงพลุสีแดงขึ้น เจ้าหน้าที่ของเราจะเข้าไปรับตัวเธอกลับมาทันที แต่เมื่อเธอทำเช่นนั้นเราก็ถือว่าเธอสละสิทธิ์ในการสอบครั้งนี้ไปแล้ว เพราะทางเราตั้งกฎไว้ว่า ผู้ที่กลับมาโดยไม่ได้ผ่านกุญแจนำทางที่เป็นลูกแก้วสีทองนั้นไม่สามารถให้ผ่านการทดสอบได้” คิงสลีย์อธิบายยืดยาว รอนพยักหน้าอย่างเข้าใจและแอบหันไปกระซิบถามเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนข้าง ๆ ว่า เวลาจะยิงพลุสีแดงนั้นต้องร่ายคาถาว่าอะไร
“เอาล่ะ มีคำถามอีกไหม” คิงสีลย์ถามเป็นครั้งสุดท้าย และคราวนี้แฮร์รี่เป็นคนยกมือขึ้น
“เชิญ มิสเตอร์พอตเตอร์”
“ผมอยากทราบครับว่าถ้าผมผ่านด่านสำเร็จและกลับมาทันเวลา ผมจะสอบผ่านเลยหรือเปล่าครับ หรือคุณต้องมาพิจารณาเรื่องคะแนนอีกทีหนึ่ง”
“เป็นคำถามที่ดีอีกคำถามหนึ่งทีเดียว และผมเกรงว่าการกลับมาทันเวลานั้นไม่ได้หมายความว่าเธอสอบผ่าน เพราะเธออาจจะกลับมาทันเวลาในสภาพร่อแร่ก็ได้ แต่การกลับมาทันเวลาหมายถึงว่าเธอสอบผ่านไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะกรรมการจะไม่นำคะแนนของคนที่กลับมาไม่ทันเวลามาพิจารณา หลังจากเธอกลับมาแล้วกรรมการของเราจะพิจารณาและให้คะแนนเธออีกรอบ โดยดูการผ่านด่านของเธอที่แล้วมา เวลาที่ใช้ คาถาที่เสก ไหวพริบ แล้วก็อื่น ๆ ด้วย” คิงสลีย์ตอบ
“และถ้ากรรมการใช้คะแนนเธอเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ก็คือเธอผ่านการทดสอบครั้งนี้ แต่ถ้าน้อยกว่านั้นทางเราก็เสียใจด้วย” เขาบอก
“เอาล่ะทุกคน มีคำถามอีกไหม” คิงสลีย์ถามขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่มีใครยกมือขึ้นแล้ว
“เอาล่ะ งั้นมาทุกคนมาทางขึ้น รอฟังเรียกชื่อเข้าไปจับฉลากนะ สำหรับผมนั้น เกรงว่าจะอยู่กับพวกเธอตลอดการสอบครั้งนี้ไม่ได้ แต่ผมก็อวยพรให้ทุกคนโชคดี ขอตัวก่อนล่ะ” คิงสลีย์กล่าวพลางส่งยิ้มอย่างเจาะจงมาที่เด็กทั้งสาม ก่อนจะเดินไปตรงไปลิฟท์ ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคิงสลีย์ก็ไม่เคยว่างเลย แต่เขาก็ยังเจียดเวลามาช่วยเหลือการสอบในครั้งนี้
“พวกเราไปกันเถอะ” แฮร์รี่พูด เมื่อทุกคนเริ่มไปรวมตัวที่หน้าแม่มดผมดำคนหนึ่งซึ่งเขาจำได้ว่าเป็นมือปราบมารแต่ไม่ได้อยู่ในภาคี หล่อนกำลังเรียกชื่อผู้เข้าสอบเพื่อไปจับฉลาก
“แฮร์รี่ฉันกลัวจังเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางบีบมือที่เย็นเฉียบของเธอ
“ฉันเองก็รู้สึกคลื่นไส้น่าดูเลยเพื่อน” รอนว่าพลางทำหน้าพะอืดพะอม
“เอาน่าเราต้องผ่านไปได้ กุญแจสำคัญคือมีสมาธิเท่านั้น อย่าตกใจอะไรง่าย ๆ มีสติอยู่ตลอดเวลา” แฮร์รี่บอกเพื่อนทั้งสองก่อนจะโอบกอดพวกเขาเบา ๆ เด็กทั้งสามกอดกันอยู่พักใหญ่จนกระทั่งแม่มดผมดำคนนั้นเรียกชื่อเฮอร์ไมโอนี่
“เกรนเจอร์, เฮอร์ไมโอนี่”
“ฉันต้องไปแล้ว” เธอหันไปยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง
“โชคดี เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่และรอนพึมพำบอกเธอ เด็กสาวเดินไปยังแม่มดผมดำคนนั้น เธอเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะข้าง ๆ หล่อนมีอ่างทำด้วยหินวางอยู่
“มิสเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ใช่ไหมจ๊ะ” หล่อนพูดเสียงหวาน ท่าทางดูใจดี
“ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างประหม่า
“เธอไม่ได้พกอะไรมานอกจากไม้กายสิทธิ์ใช่ไหม” แม่มดสาวหรี่ตามมอง
“ค่ะ ไม่ได้พกค่ะ”
“งั้นฉันขอตรวจหน่อยนะ” หล่อนพูดพลางชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เด็กสาวแล้วก็พึมพำคาถา ซักครู่หล่อนก็ยิ้มอย่างพอใจ
“ดีมากเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่ได้พกอะไรมานอกจากไม้กายสิทธิ์จริง ๆ เอาล่ะ ช่วยจับแผ่นไม้ในอ่างนั่นหน่อยจ๊ะ แล้วก็รบกวนอย่ามองมันด้วย” แม่มดผมดำว่า เฮอร์ไมโอนี่ทำตาม เธอล้วงมือเข้าไปในอ่างหินและทันทีที่เธอทำเช่นนั้นสร้อยรูปนกอินทรีที่เธอซ่อนไว้ในคอเสื้อก็ห้อยออกมาข้างนอก
“สร้อยสวยดีนะจ๊ะ” แม่มดคนดังกล่าวพูดเมื่อเด็กสาวหยิบแผ่นไม้รูปวงรีอันหนึ่งขึ้นมา
“ขอบคุณค่ะ”
“คงเป็นของเก่าแก่สินะ ถ้าให้ฉันทาย ว่าแต่มันเขียนว่าเลขอะไรจ๊ะ” หล่อนถาม
“เลขเก้าค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบหลังพลิกแผ่นไม้ขึ้นมาดู
“ดีจ๊ะ เลขสวยมากทีเดียว เอาล่ะ เธอเอาป้ายนี่ไปให้แม่มดผมบลอนด์ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะตรงนู้นเลยนะจ๊ะ หล่อนจะให้กุญแจนำทางกับเธอ แล้วก็ขอให้โชคดีนะจ๊ะ” แม่มดผมดำพูดอย่างใจดี
“ขอบคุณค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวก่อนจะเดินไปหาแม่มดผมบลอนด์วัยกลางคนที่ดูหงุดหงิดง่ายกว่าคนผมดำเยอะ เมื่อเด็กสาวเดินไปถึงโต๊ะ หล่อนก็ถามเสียงหงุดหงิดว่า
“เลขอะไร!”
“เก้าค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางแบป้ายในมือให้ดู
“เลขเก้า ๆ “ หญิงผมทองไล่มือไปตามโต๊ะที่วางขยะต่าง ๆ ไว้ จนกระทั่งถึงอันที่ติดเลขเก้าไว้ มันเป็นปากกาขนนกที่ชำรุดแล้ว
“อยู่นี่เอง หยิบมันไปซะ มันเป็นกุญแจนำทางของเธอ อ้อเดี๋ยวก่อนๆๆๆ เอานี่ไปก่อน” หล่อนยื่นนาฬิกาแบบห้อยคอให้เฮอร์ไมโอนี่
“รับไปซะ มันใช้บอกเธอว่าเธอเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ในการผ่านด่านนั่น อ้อ แล้วก็ขอให้โชคดีกับการสอบนะ” หล่อนพูดพลางแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันเหลือง ๆ น่าเกลียด เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกไม่ชอบเธอขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่เด็กสาวก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอหยิบปากกาขนนกนั่นมา แรงดูดมหาศาลแล่นผ่านตั้งแต่นิ้วจรดปลายเท้าของเธอ เมื่อเด็กสาวรู้สึกตัวอีกครั้งเธอก็มายืนอยู่ในอีกที่หนึ่งแล้ว
สิ่งแรกที่เด็กสาวสัมผัสได้ก็คือ ความมืด เธอจุดไฟที่ปลายไม้กายสิทธิ์ขึ้นทันที และเมื่อทำเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าเธออยู่ในห้อง ๆ หนึ่งที่มีประตูมากมายขวางกั้นอยู่ แต่ทำไมนะเด็กสาวถึงรู้สึกว่าห้อง ๆ นี้และประตูเหล่านี้ดูคุ้นตายิ่งนัก เมื่อผ่านการคิดไปสองสามวินาที เฮอร์ไมโอนี่ก็หาคำตอบได้ว่าที่ที่เธอกำลังยืนอยู่นี่คือกองปริศนา และประตูใดประตูหนึ่งข้างหน้านี่ก็นำไปยังห้องเก็บคำพยากรณ์ที่เธอ แฮร์รี่ และรอนเคยเข้าเมื่อตอนปีห้า!
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้นี่สิ เพราะเธอควรจะไปอยู่ที่สนามสอบของเธอมากกว่า แล้วเด็กสาวก็ไม่คิดว่ากระทรวงอยากจะใช้กองปริศนาเป็นสถานที่สำหรับทดสอบเธอด้วย แล้วทำไมกุญแจนำทางถึงพาเธอที่นี่ซึ่งน่าจะเป็นที่สุดท้ายที่กระทรวงอยากจะให้เธอมาได้!
*************************************************
ความคิดเห็น