คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : The Beginning
ใครบางคนก็เคยทำอะไรเลวร้ายกันมาบ้างใช่ไหม แล้วคุณเคยเสียใจไหมที่ทำมันลงไป และถ้าคุณย้อนเวลากลับไปได้ล่ะ คุณจะยังต้องการให้มันเกิดขึ้นไหม
แล้วถ้ามีทางเลือกหนึ่งล่ะ ทางเลือกที่ว่าคุณจะต้องทำสิ่งที่เลวร้ายมาก คุณจะต้องหลอกลวงคนที่คุณรัก คุณจะต้องทรยศเพื่อนที่เชื่อใจคุณมากกว่าสิ่งใดเพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการมาล่ะ สิ่งเดียวที่คุณต้องการมาตลอดชีวิต แล้วคุณจะทำมันลงไปไหม
.................................................
***Chapter 1 The Beginning***
ลอนดอน 8 นาฬิกาตรง
“เกิดเรื่องแล้ว หลีกทางหน่อยคนไข้ด่วน”
“เลือดออกมากเลยนะนี่”
“เฮอร์ไมโอนี่เข้มแข็งไว้นะ!”
“.....”
“เตรียมการผ่าตัดด่วน!”
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอต้องไม่เป็นอะไรนะ เฮอร์ไมโอนี่!”
“ญาติกรุณารออยู่ข้างนอกก่อนนะคะ”
“เธอต้องปลอดภัยนะ เฮอร์ไมโอนี่!!!”
“กรุณารอด้านนอกค่ะ!”
ผมมองภาพร่างของเธอถูกนำเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยความรู้สึกที่ทุกทรมาน ถ้าเป็นผมได้ก็คงดีสินะ ถ้าเป็นผมได้น่ะ
...............................................................................
...........................................................
เดรโก มัลฟอย กำลังนั่งอยู่ด้านนอกห้องผ่าตัดเป็นเวลานานกว่าสามชั่วโมงแล้ว สามชั่วโมงที่ทุกข์ทรมานราวกับตกนรกของเขา เมื่อผู้หญิงคนสำคัญของเขากำลังได้รับการผ่าตัดอยู่โดยที่เขาทำได้เพียงแต่รอโดยไม่มีโอกาสรู้ถึงชะตากรรมของเธอเลย
ชายหนุ่มผมแดงวิ่งกระหืดกระหอบมาจากลิฟต์ เขาวิ่งไปตามระเบียงทางเดินอย่างรีบร้อนโดยไม่สนใจสายตาดุ ๆ ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลายคนที่จ้องมองมาที่เขา รอน วีสลีย์ เพื่อนรักอีกหนึ่งคนของเฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปตามทางเดินจนกระทั่งถึงห้องผ่าตัด รอนหยุดทันทีเมื่อเห็นร่างของเดรโกที่หน้าห้อง
“เดรโก” รอนพูดกับเพื่อนสนิทซึ่งเคยเป็นศัตรูกันมาก่อน เขาหอบน้อย ๆ เพราะความเหนื่อย เดรโกเงยหน้ามองเขา มือคีบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดเอาไว้ เนื้อตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด
“เธออยู่ในห้องผ่าตัด” เดรโกพูดทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อน “สามชั่วโมงแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าเป็นยังไง”
“แล้ว แล้ว......” รอนพูดด้วยน้ำเสียงติด ๆ ขัด ๆ
“เราไม่พบร่างของเขา คิดว่าคงตกไปอยู่ก้นหน้าผา” เดรโกตอบเรียบ ๆ
“ไม่จริง!!!” รอนร้องเสียงดังจนคนในบริเวณนั้นหันมามองเขาเป็นตาเดียว “ไม่จริงใช่ไหมเดรโก นายบอกฉันสิว่าไม่จริง” รอนพูดพลางเขย่าตัวเดรโกที่มีท่าทีไม่ต่างกับตุ๊กตาที่ไร้วิญญาณเท่าไหร่นัก ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่เขากลับล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบบางสิ่งมาให้รอนดู
มันคือแหวนวงหนึ่ง แหวนที่รอนจำได้ดีว่ามันเป็นของเพื่อนรักของเขา เพื่อนรักที่รอนร่วมสุขร่วมทุกข์ร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งแต่ครั้งยังอยู่ที่ฮอกวอตส์
แหวนของแฮร์รี่ พอตเตอร์
รอนยื่นมืออันสั่นเทาไปหยิบมันมาสัมผัส ขนาดของแหวนเท่า ๆ กับแหวนของผู้ชายทั่ว ๆ ไป รอนจำได้ดีว่ามันเป็นแหวนหมั้นของแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ที่เขามันใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา
“เธอกำมันไว้แน่นตอนที่เราไปถึง และไม่ยอมปล่อยมันแม้ตอนที่ไม่ได้สติ พวกผู้บำบัดต้องช่วยกันแงะมันออกมาจากมือของเธอก่อนการผ่าตัด” เดรโกอธิบายกับรอนที่เหมือนจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นแล้ว น้ำตาของรอนไหลอาบแก้ม เขาเพิ่งสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาไปอย่างไม่มีวันหวนคืนกลับมา
*************************************************
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นตรงที่คนที่คุณก็รู้ว่าใครกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเขาพยายามจะเรียกลูกน้องที่ภักดีกับเขากลับมาเป็นพวกเขาให้ได้มากที่สุด เดิมทีพ่อของเดรโกก็เป็นหนึ่งในผู้เสพความตายที่กลับมารับใช้เขาอีกครั้ง แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ก็เพราะว่าคนไม่ควรเอ่ยนามได้เรืองอำนาจจนถึงขีดสุด เขามีพลังอำนาจมากขึ้นและโหดร้ายกว่าที่ผ่านมา คนที่ขัดขวางเขาก็ได้รับความตายเป็นการตอบแทนเช่นเดียวกับลูกน้องที่ทำงานผิดพลาดก็ต้องถูกสังหารด้วยเช่นกัน
เดรโกยังคงจำได้ดีถึงวันที่เขากลับมาที่บ้านหลังจากจบการศึกษาที่ฮอกวอตส์และพบว่าพ่อกับแม่ของเขาถูกจอมมารสังหารเพราะว่าพ่อทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเดรโกก็เลยมาเข้าร่วมกับดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟินิกซ์เพื่อแก้แค้นให้พ่อกับแม่ของเขา และที่นั่นเขาก็ได้พบกับศัตรูตัวฉกาจอย่างแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน อาจจะเป็นเพราะว่าเดรโกกับแฮร์รี่ได้อยู่ในสถานะเดียวกันแล้วในตอนนั้น ก็คือพวกเขาเป็นเด็กกำพร้า และคนที่ฆ่าพ่อและแม่ของเขาก็เป็นคน ๆ เดียวกัน พวกเขาทั้งสี่ใช้เวลาสามปีคร่ำเคร่งเรียนการเป็นมือปราบมาร จนเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็ได้เข้ารับตำแหน่งมือปราบมารทั้งสี่คน และตั้งแต่นั้นพวกเขาก็ทำงานให้ภาคีอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อต่อต้านคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
หลังจากที่พวกเขาได้อยู่ร่วมกันมานาน เดรโกก็ได้พบว่าเขาหลงรักเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ซึ่งตอนนี้เป็นเพื่อนรักของเขา และเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องสายเลือดของเธออีกต่อไป แต่เขาหลงรักที่ตัวตนของเธอมากกว่า แต่น่าเสียดายที่เฮอร์ไมโอนี่นั้นได้เป็นคนรักของแฮร์รี่เพื่อนสนิทของเขาไปแล้ว เดรโกเลยทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าจะยินดีให้กับเขาทั้งสอง
หลังจากที่สมาชิกภาคีตรากตรำทำงานกันมานาน คนที่คุณก็รู้ว่าใครก็เริ่มอ่อนกำลัง เขาและลูกน้องหลบหนีไปซ่อนตัวที่ป่าแห่งหนึ่งในอัลบาเนีย คนไม่ควรเอ่ยนามบาดเจ็บสาหัส มือปราบมารถูกระดมกำลังให้ไปตามล่าเขา รวมทั้งแฮร์รี่ด้วย ซึ่งตอนนั้นเขาหมั้นกับเฮอร์ไมโอนี่แล้ว และพวกเขากำลังจะแต่งงานกันในปีหน้าหลังจากเรื่องทั้งหมดยุติลง แต่การที่แฮร์รี่ถูกส่งไปในภารกิจอันตรายเช่นนี้จึงทำให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นห่วงและแอบติดตามเขาไป ผลที่ตามมาก็คือแฮร์รี่ฆ่าคนไม่ควรเอ่ยนามได้ แต่ผู้เสพความตายที่เหลือก็ตามมาแก้แค้นเขา แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ถูกเล่นงานที่ชายป่าโดยผู้เสพความตายจำนวนหนึ่ง แฮร์รี่พลัดตกจากหน้าผาโดยที่มือของเฮอร์ไมโอนี่คว้าได้เพียงแค่แหวนของเขา ในขณะที่เธอเองก็บาดเจ็บ เดรโกและมือปราบมารคนอื่น ๆ ไปพบเธอเข้าในสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลฉกรรจ์ เขาจึงรีบนำร่างของเธอที่มีลมหายใจรวยรินส่งไปยังโรงพยาบาลโดยด่วน
และนั่นคือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้องผ่าตัดมาร่วมสี่ชั่วโมงแล้วแต่เขาก็ยังไม่รู้อาการของเธอเลยว่าเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าเป็นเขาก็ดีสินะ ถ้าตอนนั้นเขาห้ามแฮร์รี่ไม่ให้ไปตามล่าโวลเดอร์มอร์ก็ดีสินะ
“นายรู้ว่ามันอันตรายแล้วนายยังจะไปอีกหรือ” เดรโกพูดเมื่อรู้ว่าแฮร์รี่กำลังจะออกไปตามล่าโวลเดอมอร์
“แต่มันเป็นหน้าที่นี่เดรโก อีกอย่างถ้าฉันเองก็ต้องการกำจัดมันเสีย นายก็รู้ว่ามันฆ่าพ่อแม่ของฉัน” แฮร์รี่พูด
“แต่มันก็ฆ่าพ่อแม่ของฉันเหมือนกันนะ!” เดรโกเถียง “ถ้ายังไงนายให้ฉันไปแทนนายเถอะนะ นายอย่าลืมสิว่าถ้านายไปเฮอร์ไมโอนี่จะเป็นห่วงนายแค่ไหน นายหมั้นกับเธอแล้วนะ แล้วถ้านายไม่กลับมาเธอจะเป็นยังไง”
“ถ้าฉันไม่กลับมานายก็ช่วยดูแลเธอแทนฉันด้วยแล้วกัน” แฮร์รี่พูดเรียบ ๆ
“นายจะทิ้งเธอไปอย่างนี้น่ะหรือแฮร์รี่”
“ฉันไม่ได้ต้องการจะทิ้งเธอนะเดรโก นายก็รู้นี่ว่าฉันรักเธอแค่ไหน แต่ถ้าฉันไม่ไปโวลเดอมอร์ก็จะหนีรอดไปได้อีก จำได้ไหมว่าฉันคนเดียวที่จะฆ่าเขาได้ นายจำคำพยากรณ์ที่ฉันเคยบอกนายได้ไหม เราสองคนจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ คนใดคนหนึ่งต้องฆ่าอีกคนให้ตาย!” แฮร์รี่ระเบิดถ้อยคำมาอย่างอัดอั้น
“เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องไป” แฮร์รี่พูด เดรโกนิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าจะโต้เถียงอะไร “แต่ฉันจะไปอย่างสบายใจถ้านายสัญญาว่านายจะดูแลเฮอร์ไมโอนี่ถ้าฉันไม่กลับมา สัญญากับฉันสิเดรโกว่านายจะดูแลเธอแทนฉัน”
“ได้สิแฮร์รี่ ฉันสัญญา”
แต่ทั้ง ๆ ที่เขาได้สัญญาไว้กับแฮร์รี่อย่างนั้น แต่เดรโกกลับดูแลเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ เขากลับปล่อยเธอให้หนีไป เขาปล่อยเธอให้ไปตามแฮร์รี่ไปที่นั่น และถ้าเธอเป็นอะไรไป ทั้งหมดก็เพราะเป็นเขาคนเดียว
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก เดรโกและรอนสะดุ้ง ผู้บำบัดสวมชุดสีขาวเดินออกมาด้วยหน้าตาเคร่งเครียด
“เธอเป็นอย่างไรครับ เฮอร์ไมโอนี่เป็นยังไงบ้าง” เดรโกถามอย่างร้อนรน ผู้บำบัดส่ายหน้าเบา ๆ
“เราได้พยายามช่วยเธอแล้ว และเธอก็รอดขีดอันตรายมาได้” ผู้บำบัดกล่าว เดรโกและรอนยิ้มอย่างดีใจ “ที่เหลือก็คงต้องรอเธอฟื้นเท่านั้นซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่”
“คุณหมายความว่ายังไง” เดรโกถาม
“คุณเกรนเจอร์พ้นขีดอันตรายแล้วก็จริง แต่เธอก็ยังไม่ได้สติ ซึ่งเราคงได้แต่ภาวนาให้เธอพื้นขึ้นมาอย่างเร็วที่สุดน่ะครับ” ผู้บำบัดตอบ
“เฮอร์ไมโอนี่” รอนคราง
“คุณสองคนจะเข้าไปเยี่ยมเธอก็ได้ แต่ผมอนุญาตแค่สิบนาทีเท่านั้นนะครับ” ผู้บำบัดบอกก่อนจะเดินออกไป เดรโกกับรอนเข้าไปในห้องเพื่อเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังหลับไหลไม่ได้สติ ที่ศีรษะและลำตัวมีผ้าพันแผลพันไว้รอบด้าน และเธอต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
“เฮอร์ไมโอนี่” เดรโกพูดพลางลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างทนุถนอม แต่หญิงสาวไม่อาจรับรู้ถึงความห่วงใยของเขาเลยแม้แต่น้อย
*************************************************
สามวันผ่านไปเฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่ได้สติ เธอย้ายเข้ามาอยู่ให้พักพิเศษแทนแล้วในตอนนั้น ซึ่งเดรโกและรอนรวมทั้งสมาชิกภาคีอื่น ๆ ต่างเข้ามาเยี่ยมเธออย่างไม่ขาดสาย จนในวันที่สี่เดรโกมาหาเธอในตอนเช้าพร้อมกับดอกลิลลี่ช่อใหญ่
เดรโกวางดอกไม้ลงบนโต๊ะข้างเตียงและเฝ้ามองผู้หญิงที่เขารักด้วยความห่วงใย เขานั่งลงบนเก้าอี้และกุมมือเธอเอาไว้
“เฮอร์ไมโอนี่ ได้โปรดตื่นขึ้นมาเถิด ได้โปรดตื่นขึ้นมาพบฉัน” เดรโกวิงวอนกับร่างไร้สติของเธอ และจู่ ๆ ริมฝีปากของหญิงสาวก็ขยับน้อย ๆ
“แฮร์รี่....แฮร์รี่.....” เธอพึมพำ มีท่าทีทรมาน ตาสองข้างปิดสนิท มือน้อย ๆ บีบมือของเดรโกแน่น
“เฮอร์ไมโอนี่!”
“แฮร์รี่ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป แฮร์รี่ อย่าทิ้งฉันไป อย่าเดินไปทางนั้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร่ำในขณะที่ยังไม่ได้สติ หยาดน้ำตาไหลรินมาจากดวงตาที่ยังปิดสนิท หญิงสาวดิ้นรนอย่างทรมาน ปากก็ร้องเรียกหาชายคนที่เธอรัก เดรโกมองเธออย่างรู้สึกสงสารจับใจ จนเขาต้องมาคว้าร่างของเธอไปโอบกอด
“แฮร์รี่ อย่าทิ้งฉันไปนะ เอาฉันไปด้วย เอาฉันไปด้วย อย่าทิ้งฉันไป” หญิงสาวพูด พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรู เดรโกกอดร่างของเธอไว้แน่น
“ได้โปรด เฮอร์ไมโอนี่ อย่าไป เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ ได้โปรด เธอต้องไม่เป็นไร” เขาพูดแข่งกับเสียงครวญครางด้วยความเศร้าของหญิงสาวในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวที่เขารักมากกว่าชีวิตของตัวเอง
“นายเคยบอกฉันไม่ใช่หรือแฮร์รี่ ว่านายให้ฉันเป็นคนดูแลเธอ นายเคยบอกฉันไม่ใช่หรือว่าฉันต้องเป็นคนดูแลเธอแทนนายถ้านายไม่กลับมา เพราะฉะนั้นอย่าเอาเธอไปกับนาย แฮร์รี่ ให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ ให้ฉันเป็นคนดูแลเธอแทนนาย ได้โปรดเถอะ” เดรโกพูดอย่างหมดทนทาง สิ่งที่เขาต้องการมากกว่าสิ่งใดในตอนนี้ก็คือได้เห็นหญิงสาวที่เขารักฟื้นคืนสติเท่านั้น แต่ไม่นานนักเฮอร์ไมโอนี่ก็สงบลง เธอไม่ได้เพ้อถึงชื่อของแฮร์รี่อีกต่อไป เธอยังคงหลับไหลอย่างสงบนิ่ง
เดรโกค่อย ๆ วางเธอลงกับเตียงช้า ๆ เขาเอามือเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ
“ขอบใจเพื่อน”
.................................................
ในคืนวันนั้นที่โรงพยาบาลวิเศษเพื่อผู้บาดเจ็บเซนต์มังโก ร่างสองร่างปรากฏขึ้นในเงามืดตามทางเดิน มันเคลื่อนไหวอย่างว่องไวและหลบเร้นสายตาของผู้บำบัดไปได้ไม่ยาก มันลัดเลาะไปตามทางเดินจนกระทั่งถึงที่หมาย ซึ่งก็คือห้องผู้ป่วยหมายเลย 305
ร่างลึกลับร่างหนึ่งหยิบไม้กายสิทธ์ออกมาและร่ายคาถาปลดล็อค พวกเขาสองคนเข้าไปในห้องพักที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังหลับไหลอย่างไม่ได้สติอยู่ สองร่างนั้นมองร่างของเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่แน่ใจ ร่างหนึ่งจุดไฟที่ปลายไม้กายสิทธิ์ออกมา
“ใช่เธอจริง ๆ ด้วย”
“ดี อย่างนั้นก็ลงมือเสียสิ”
“ทำไมเราไม่ฆ่าเธอไปเลยล่ะ จะเก็บเธอไว้ทำไมกัน เธอรู้ที่หลบซ่อนของพวกเราแล้วนะ”
“ถ้าเราฆ่าเธอมันก็ต้องเป็นข่าวใหญ่น่ะสิ ทีนี้พวกกระทรวงคงไม่อยู่เฉยแน่ แต่ถ้าเราลบความทรงจำเธอซะ คนอื่น ๆ ก็จะคิดว่ามันเป็นผลกระทบมาจากอุบัติเหตุ”
“เยี่ยม ฉันไม่คิดว่าเธอจะฉลาดขนาดนี้”
“งั้นก็ลงมือซะสิ จะรอให้เราโดยจับก่อนรึไง”
“ได้”
ร่างหนึ่งชักไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและชี้ไปที่เฮอร์ไมโอนี่
“อ็อบวิเลียต!”
.................................................
เช้าวันต่อมาเดรโกมาเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่เช่นเดิม แต่วันนี้เขามาพร้อมกับกุหลาบสีขาว เขาทักผู้บำบัดสองสามคน ระหว่างทางเดินและถามถึงอาการของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเดรโกได้รับคำตอบว่าเธอยังคงหลับไหลเหมือนเดิม
“ผมเพิ่งไปตรวจเธอเมื่อเช้านี้เองครับ ร่างกายของเธอเกือบเป็นปรกติแล้ว รอเพียงแค่เธอฟื้นขึ้นมาเท่านั้น” ผู้บำบัดบอกเดรโก ชายหนุ่มเข้าไปเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ในห้องพัก เธอกำลังหลับอยู่ที่เตียงตามเดิม เดรโกวางดอกกุหลาบช่อใหญ่ไว้ข้าง ๆ แจกันที่ใส่ดอกลิลลี่ทีเขาซื้อมาเมื่อวาน ก่อนจะเข้ามากุมมือเธอไว้
เดรโกลูบแก้มของเฮอร์ไมโอนี่อย่างทนุถนอม แววตาสีเทาเต็มไปด้วยความเศร้า เขามองผู้หญิงที่เขารักที่สุดด้วยความห่วงใย เมื่อไหร่หนอเธอถึงจะลืมตาขึ้นมาพบเขา เมื่อไหร่ที่เธอจะตื่นขึ้นมาเจอหน้าเขา
“ฉันจะรอ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันจะรอเธอจนกว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา” เดรโกพูดอย่างหมองเศร้า เขาซบศีรษะเข้ากับมือของเฮอร์ไมโอนี่ และเมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบว่าเฮอร์ไมโอนี่เริ่มขยับตัว
เธอคงจะละเมอเป็นชื่อของแฮร์รี่อีกสินะ
เดรโกคิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่เลย เพราะตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมา ในไม่ช้าเธอก็ลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลกระพริบสู้แสง เธอมองไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ และมาหยุดที่เดรโก
“เฮอร์ไมโอนี่!” เดรโกพูด เขายังดูตกตะลึงไม่หาย “เฮอร์ไมโอนี่ เธอฟื้นแล้วหรือ ฉันจะไปตามผู้บำบัดมานะ”
เฮอร์ไมโอนี่มองเดรโกด้วยท่าทีที่แปลกประหลาด ในขณะที่ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจับไว้แน่น เธอมองเขาและทำท่าราวกับครุ่นคิดอยู่นาน
“คุณเป็นใคร?”
*************************************************
“อะ...อะไรนะ” เดรโกพูดด้วยท่าทีตกใจ เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาและมองรอบ ๆ อย่างมึน ๆ
“คุณเป็นใคร ฉันรู้จักคุณอย่างนั้นหรือ” เธอถามช้า ๆ และมองเขาราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เดรโกรู้สึกราวกับเขาเพิ่งดึ่งลงเหวลึกนับพันฟุต มันไม่จริงใช่ไหม เธอจำเขาไม่ได้หรือนี่
“ฉันเดรโกไง เดรโก มัลฟอย เธอจำฉันไม่ได้หรือ” เดรโกพูดเสียงสั่น ความหวาดกลัวที่สุดเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจ เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาแล้วครุ่นคิด
“ฉันจำคุณไม่ได้ ฉัน....” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ขาดหายไปเมื่อความเจ็บปวดเริ่มจู่โจม เธอยกมือกุมแผลที่ศีรษะ
“ปวดหัว ฉันปวดหัว” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างทรมาน
“เดี๋ยวฉันจะเรียกผู้บำบัดให้นะ มีใครอยู่บ้างไหม! มีใครอยู่บ้างไหมครับ!” เดรโกตะโกนและรีบรุดออกไปจากห้อง ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับผู้บำบัดสองสามคน
“อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ เธอจำผมไม่ได้ พอเธอพยายามคิดเธอก็ปวดหัว” เดรโกพูดกับผู้บำบัดอย่างร้อนรน พวกเขารีบรุดเข้ามาดูอาการของเฮอร์ไมโอนี่
“บางทีอาจจะมีความผิดปรกติที่สมอง ซึ่งเกิดจากการกระทบกระเทือน” ผู้บำบัดคนหนึ่งกล่าว “ผมจะรักษาเธอเอง แต่คุณกรุณาไปรอข้างนอกก่อน”
เดรโกยอมออกไปนอกห้องโดยดี เขานั่งรออยู่นอกห้องอย่างเป็นห่วง ชายหนุ่มไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าเขาต้องรอจนกว่าผู้บำบัดจะออกมาบอกอาการของเฮอร์ไมโอนี่
ประตูห้องพักเปิดออกในเวลาต่อมา เดรโกลุกพรวดขึ้นทันที
“เธอเป็นอย่างไรบ้างครับ” เขาถาม
“สมองของเธอได้รับความกระทบกระเทือน เธอก็เลยสูญเสียความทรงจำ” ผู้บำบัดตอบ
“อะไรนะครับ!”
“เธอสูญเสียความทรงจำ คุณมัลฟอย เธอจำไม่ได้เลยว่าเธอเป็นใคร เคยทำอะไรมาบ้าง เธอจำอดีตไม่ได้เลย” ผู้บำบัดตอบเสียงเครียด เดรโกรู้สึกราวกับเขาจมดิ่งลงไปในทะเลสาบกลางเดือนธันวาคม เฮอร์ไมโอนี่สูญเสียความทรงจำอย่างนั้นหรือ
“แล้วคุณมีทางรักษาเธอให้หายได้ไหมครับ” เดรโกถาม ผู้บำบัดส่ายหน้า
“ไม่มีทางใดที่จะนำความทรงจำของเธอกลับมาได้ในทันที มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พูดตามตรงก็คือ เราได้แค่ภาวนาเท่านั้น”
“แต่...ผมนึกว่าคุณสามารถรักษาเธอได้” เดรโกเสียงสั่น
“ไม่มีใครสามารถรักษาคุณเกรนเจอร์ให้หายขาดได้ แต่เธอต้องรักษาตัวเอง และเมื่อเธอสามารถทำให้ความทรงจำกลับมาประติดประต่อกันได้อีกครั้ง ความทรงจำของเธอก็จะกลับมา” เขากล่าวและเอามือตบไหล่มัลฟอย “ผมช่วยคุณได้เพียงเท่านี้ ผมคิดว่าคุณคงอยากไปเข้าไปเยี่ยมเธอ” ผู้บำบัดพูด
“อ้อ แต่คุณต้องระวังหน่อยนะ อย่าพยายามพูดอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจของเธอมาก ตอนนี้จิตใจของเธอกำลังอยู่ในภาวะย่ำแย่ทีเดียว” เขาบอกกับเดรโกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป ส่วนเดรโกนั้นค่อย ๆ ลากขาหนักอึ้งไปที่ห้องของเฮอร์ไมโอนี่อย่างลำบาก
เฮอร์ไมโอนี่กำลังนอนอยู่บนเตียง เธอหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด
“เธอเป็นยังไงบ้าง” เดรโกถามและเข้าไปนั่งที่โต๊ะข้างเตียง
“ก็ดีค่ะ คนพวกนั้น ผู้บำบัด เอายามาให้ฉันทานแล้วบอกว่าฉันสูญเสียความทรงจำ” เฮอร์ไมโอนี่พูดค่อย ๆ เดรโกมีสีหน้าเจ็บปวด “เขาบอกฉันอย่างนั้น ฉันจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นใคร พอฉันถามพวกเขา เขาก็บอกว่าคุณจะบอกฉันเอง พวกเขาบอกว่าฉันรู้จักคุณ” เฮอร์ไมโอนี่มองมาที่เดรโก เขากลืนน้ำลาย
“เธอชื่อ เฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” เขาเริ่มพูด “เธอทำงานเป็นมือปราบมารที่กระทรวง แล้วเธอก็ประสบอุบัติเหตุจึงได้รับบาดเจ็บและสูญเสียความทรงจำ” เดรโกเล่า
“เหรอคะ ฉันนึกไม่ออกเลย” เธอพูดก่อนจะเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง “แล้วคุณล่ะคะ ฉันก็จำคุณไม่ได้”
“ฉันชื่อเดรโก เดรโก มัลฟอย พอนึกออกไหม” เดรโกถาม เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าครุ่นคิด แต่ก็ส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ จำไม่ได้เลย เราเป็นอะไรกันหรือคะ” เธอถามตามตรง
“เราเป็น...” เดรโกหยุดชะงัก ตอนนี้เธอจำอะไรไม่ได้เลย จำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง และเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา รวมทั้งเรื่องของแฮร์รี่
ถ้าเขาบอกเธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันจะทำให้เธอโศกเศร้าเสียใจขึ้นมาอีกหรือเปล่านะ ถ้าเขาเล่าให้เธอฟังเรื่องแฮร์รี่ จะมีอะไรกระทบกระเทือนต่อจิตใจของเธอไหม
อย่าพยายามพูดอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจของเธอมาก ตอนนี้จิตใจของเธอกำลังอยู่ในภาวะย่ำแย่ทีเดียว
เสียงของผู้บำบัดดังก้องอยู่ในหัวของเดรโก เขามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างครุ่นคิด ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าเขาไม่บอกเธอเรื่องแฮร์รี่ เธอก็จะไม่รู้ และถ้าเธอไม่รู้ เธอก็จะเป็นอิสระจากเขา ไม่ต้องมานั่งเศร้าโศกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเธอจำเขาไม่ได้ เธอก็จะไม่ต้องเสียใจ
เดรโกเม้มปาก ‘ แต่ถ้าเกิดเธอจำได้ขึ้นมาล่ะ ’ เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นในหัวเขา ‘ ถ้าความทรงจำของเธอกลับมาล่ะ ’ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แล้วล้วงไปในกระเป๋า เอาแหวนทองคำขาวเกลี้ยง ๆ ออกมา และยื่นมันให้เฮอร์ไมโอนี่
“เธอจำนี่ได้ไหม” เขายื่นแหวนให้เธอ เธอรับมันมาพิจารณาแล้วส่ายหัว
“จำไม่ได้ แหวนวงนี้มีอะไรหรือ” เธอถามและหมุนมันในมือ
“เปล่า ไม่มีอะไร” เขาตอบ เธอจำแหวนนี่ไม่ได้ก็เท่ากับว่าเธอลืมเรื่องราวทั้งหมดแล้วจริง ๆ เธอลืมแฮร์รี่แล้วจริง ๆ และคนที่จะต้องดูแลเธอต่อจากนี้ก็คือเขา
หัวใจของเดรโกเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้น ถ้าเธอลืมความรักระหว่างเธอกับแฮร์รี่ไปจนหมดสิ้นแล้ว เขาก็อาจจะมีหวังใช่ไหม ความฝันของเขาอาจจะมีโอกาสเป็นจริงใช่ไหม ความฝันเพียงหนึ่งเดียวของเขาที่จะได้เธอมาเป็นคนรักของเขา
“เป็นอะไรไปหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย มองเดรโก เขาเงยหน้าขึ้นดวงตาสีน้ำตาลของเธอ ไม่มีอะไรจะหยุดเขาได้อีกแล้ว
ฉันจะไปอย่างสบายใจถ้านายสัญญาว่านายจะดูแลเฮอร์ไมโอนี่ถ้าฉันไม่กลับมา สัญญากับฉันสิเดรโกว่านายจะดูแลเธอแทนฉัน
เสียงของแฮร์รี่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเดรโก แน่นอนว่าเขาต้องดูแลเธอ เขาต้องดูแลเธออย่างดีแน่นอน
“เธอถามฉันใช่ไหมว่าเราเป็นอะไรกัน” เดรโกพูดขึ้น เขาคว้ามือของเฮอร์ไมโอนี่มากุม และจ้องเข้าไปในแววตาของเธอ “เราเป็นคนรักกัน”
.................................................
สีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอดูตกใจ
“เราเป็นคนรักกันหรือคะ” เธอถาม
“ใช่ เราเป็นคนรักกัน เธอกับฉัน” เขาพูดอย่างหนักแน่น และหวังว่าเธอจะเชื่อคำพูดนั้น เขารู้ดีว่าการทำเช่นนี้เป็นการเห็นแก่ตัว แต่เขาไม่อาจเล่าความจริงทั้งหมดให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังได้ เพราะเขารู้ดีว่ามันจะทำร้ายจิตใจเธอ และเขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้เธอเสียใจอีกแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะดูแลเธออย่างดีที่สุด
“ฉันจำไม่เห็นได้เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด สีหน้าเศร้าหมอง “ฉันจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าฉันเป็นใคร จำไม่ได้แม้กระทั่งคุณ” เธอพูด
“อย่าโทษตัวเองเฮอร์ไมโอนี่” เดรโกปลอบ “อย่าโทษตัวเองอย่างนั้น เธอไม่ผิดเลยสักนิด”
“แต่ฉัน...” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ขาดหายไป เธอดูกังวลและสับสน “ถ้าเรารักกันอย่างน้อยฉันก็น่าจะจำคุณได้บ้างสิ” เธอพูด เดรโกชะงักกับคำพูดนั้น
“จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถึงเธอจะจำอดีตไม่ได้ตลอดไปฉันก็จะดูแลเธอเอง” เดรโกบอกอย่างอ่อนโยน
“คุณช่วยเล่าเรื่องของฉันให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมคะ” เฮอร์ไมโอนี่ขอ “เล่าอดีตให้ฉันฟังหน่อย เผื่อฉันจะนึกอะไรออกบ้าง” เดรโกมีสีหน้าลำบากใจ ตอนนี้เขากลับไม่อยากให้เธอนึกอะไรได้แม้แต่น้อย
“นอนลงก่อนเถอะ แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง” เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่นอนลงบนเตียงอย่างว่าง่าย
“ฉันบอกเธอไปแล้วใช่ไหมว่าเธอเป็นมือปราบมาร” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า “ก่อนหน้านั้นเธอเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ ฉันเองก็เหมือนกัน หลังจากจบมา ฉันและเธอก็เข้าทำงานที่กระทรวงเวทย์มนตร์...”
“แล้วฉันมีครอบครัวไหมคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“มี เธอมีพ่อกับแม่ แต่พวกท่านเสียไปแล้ว” เดรโกเล่าด้วยท่าทีเห็นใจ พ่อกับแม่ของเฮอร์ไมโอนี่ถูกผู้เสพความตายสังหารเมื่อหลายปีก่อน สีหน้าของเธอสลดลง
“เหรอคะ แล้วฉันมีเพื่อนไหม” เธอถาม
“มี...” เดรโกดูกังวลขึ้นมาชั่วขณะ เขาลืมไปว่ายังมีรอนอีกคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเขาได้ข่าวว่าเฮอร์ไมโอนี่ฟื้นแล้วเขาคงต้องมาเยี่ยมเธอแน่ และถ้ารอนพูดเรื่องแฮร์รี่ให้เธอฟังล่ะก็
“ฉันคิดว่าเราน่าจะคุยกันวันหลังนะ วันนี้เธอต้องพักผ่อน” เดรโกพูดอย่างเป็นห่วง และดึงผ้าห่มมาห่มเธอ
“คุณจะไปแล้วหรือ” เธอถามอย่างเศร้าสร้อย
“ยังหรอก ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอจนกว่าเธอจะหลับ” เดรโกพูด “แล้วอีกอย่างนะ เรียกฉันว่าเดรโกเถอะ เราเป็นคนรักกันนะ”
“ค่ะ เอ่อ เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเขิน ๆ
“ดีมาก” เขาพูดพลางเอามือลูบศีรษะเธอ “ฝันดีนะ” เดรโกก้มลงไปจูบหน้าผากเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับตาลง ในไม่นานหญิงสาวก็หลับไปอย่างว่าง่าย ในขณะที่เดรโกถอนใจและเริ่มเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
เขารู้ดีว่ามันผิด เขารู้ดีว่าเขาเห็นแก่ตัว แต่ถ้าเทียบกับการได้เธอมาเป็นของเขาแล้ว เทียบกับการได้เป็นคนรักของเธอซึ่งเขาฝันอยากเป็นมานาน เขาก็ยอมทำสิ่งที่เลวร้ายกว่านี้เพื่อให้ได้เธอมาครอง บางทีความเป็นสลิธีรินในตัวของเขายังคงเรียกร้องให้เขาทำสิ่งชั่วร้ายอยู่ก็ได้
เดรโกเดินมาหยุดที่หน้าต่าง เขามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับอย่างเป็นสุขก่อนจะเหม่อออกไปข้างนอกอีกครั้ง ในมือของเขาถือแหวนของแฮร์รี่ไว้
แม้ต้องทำเรื่องชั่วร้าย แม้ต้องเป็นคนหลอกลวง แต่ถ้านั่นทำให้เขาได้เธอมาล่ะก็เขาก็ยอม
“ขอโทษนะแฮร์รี่” เดรโกพึมพำ มองแหวนในมือ “แต่ฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลเธอแทนนาย”
*************************************************
ความคิดเห็น