ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้นของเรื่องราว
ตอนที่ 1  การเริ่มต้นของเรื่องราว
    หลังจากวันหยุดยาวในช่วงคริสต์มาสจบสิ้นลงไป  นักเรียนที่กลับบ้านไปก็เริ่มทยอยกันมาที่โรงเรียน  ทำให้ฮอกวอตศ์ดูคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  และเหมือนกับว่าหลังจากเหตุการณ์วันคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านไป  มันได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของ  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  เด็กสาวผมสีน้ำตาลฟูฟ่องจากบ้านกริฟฟินดอร์  และ  เดรโก  มัลฟอย  เด็กชายผมบลอนด์  ผิวซีด  จากบ้านสลิธีรินไปโดยสิ้นเชิง
“ฉันล่ะเบื่อจริง ๆ เลย  ทำไมวันหยุดถึงสั้นนักนะ”  รอนบ่น  ตอนนี้พวก  แฮร์รี่  และเฮอร์ไมโอนี่  อยู่ในห้องโถง  กำลังทานอาหารเช้าอยู่
“เธอจะบ่นเรื่องควิดดิชอีกล่ะสิ  รอน” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงดุ  เธอกำลังนั่งอ่านเดลี่พรอเฟ็ตอยู่ 
“ก็ฉันเบื่อนี่  ที่เราต้องซ้อมควิดดิชจนแทบจะ ..”  รอนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเถียง  แต่เขากลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอุทานของเฮอร์ไมโอนี่
“ตายแล้ว  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา  ตามองหนังสือพิมพ์อย่างใจจดใจจ่อ
“นี่เธอยังไม่เลิกรับอีกเหรอ  เดลี่พรอเฟ็ตน่ะขยะดี ๆ เลยนะ”  รอนพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“พวกเธอลองอ่านนี่สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างร้อนรน  และเอาหนังสือพิมพ์ยื่นให้พวกเขา  ซึ่งพาดหัวว่า
‘ แหกคุกหมู่จากอัซคาบัน ’ ( เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเล่ม 5  )
รายละเอียดของข่าวก็บรรยายที่ไว้เกี่ยวกับการแหกคุกหมู่ของพวกผู้เสพความตายจำนวนสิบคน  โดยที่ทางกระทรวงเวทย์มนตร์เชื่อว่าเป็นฝีมือของแบล็ก  ที่ช่วยเหลือพวกนักโทษเหล่านั้นออกมา
“พวกกระทรวงนี่ยังงี่เง่าเหมือนเดิมเลย”  รอนบ่นหลังจากอ่านข่าวจนจบและโยน ‘ เดลี่พรอเฟ็ต ’  ลงบนโต๊ะอาหาร “พวกเขาคิดว่าซีเรียสเป็นคนทำ  ปัญญาอ่อนสิ้นดี”  รอนพูดต่อจนจบและหันไปจัดการกับอาหาร
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือของโวลเดอร์มอร์”  แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ  แต่รอนถึงกับสะอึกจนขนมปังเกือบติดคอ
“แล้วพวกที่กระทรวงทำงานกันยังไง  ฉันหมายถึงพวกเขาไม่น่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดสีหน้าร้อนรน
“แต่เธอก็รู้ว่าโวลเดอร์มอร์กลับมาแล้ว” ( รอนสะอึกอีกครั้งหนึ่ง )  “และเขาก็ต้องการรวบรวมพรรคพวกของเขาให้ได้มากที่สุด”  แฮร์รี่พูด  เอาส้อมจิ้มเบคอน
“เพื่อจะได้กลับมาเป็นจ้าวแห่งศาสตร์มืดอีกครั้ง” เฮอร์ไมโอนี่พูดตามองไปที่แฮร์รี่
“และทันทีที่เขากลับมามีอำนาจดังเดิม  เขาก็จะ”  รอนพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และรอนมองตากัน
“ส่งคนมาตามล่าฉัน  แล้วก็ฆ่าฉันซะ”  แฮร์รี่พูดขึ้นเรียบ ๆ ดูท่าทีไม่ทุกข์ร้อน
“ฉันรู้มาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าเขาจะทำอย่างนี้  รู้ตั้งแต่เขากลับมาแล้ว”  แฮร์รี่เอ่ย  ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรใส่ใจแต่อย่างใด
“แฮร์รี่  เธอ ”  เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างลังเล  แต่แฮร์รี่ไม่ให้โอกาสเธอพูดจนจบ
“ไม่เป็นไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่  ฉันว่าฉันคงมีชีวิตได้ยาวนานตราบเท่าที่ดัมเบิลดอร์อยู่ที่นี่น่ะแหละ”  แฮร์รี่พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาพอ ๆ กับการได้ ‘ ล ’ ในการบ้านวิชาปรุงยาของเสนป
“ถึงยังไงเธอก็ต้องระวังตัวนะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงเป็นห่วง
“อืม  ขอบใจนะเฮอร์ไมโอนี่”  แฮร์รี่กล่าวพลางส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เธอ
ไม่ทันที่ทั้งสามจะลุกจากโต๊ะอาหาร  เสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแองเจลิน่าหรอก  และเมื่อรอนได้ยินเสียงเธอเขาก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นเป็นครั้งที่สาม  พร้อม ๆ กับฝาแฝดเฟร็ดกับจอร์จ  พี่ชายของเขา
“ซ้อมควิดดิช”  ทั้งหมดพึมพำพร้อมกัน ( รวมทั้งแฮรี่ด้วย )
“ดี  งั้นฉันจะลงไปรอที่สนามนะ  พวกนายต้องลงมาก่อน 9 โมง เข้าใจมั้ย”  แองเจลิน่าพูดอย่างรวดเร็ว  และไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบอะไร  เธอก็หมุนตัวและเดินออกจากห้องโถงโดยที่มีเคตี้และอลิเซีย  เดินตามไปติด  ๆ
“จะมีวันไหนที่หล่อนทักฉันอย่างอื่นบ้างไหมนะ”  รอนบ่นอุบ  พยายามยัดขนมปังครัมเบ็ตลงในกระเป๋าอย่างยากเย็น  “วันอาทิตย์แท้ ๆ ”
“โถ่  รอนอย่าบ่นไปเลยน่า  ฉันว่ามันน่าสนุกออก”  เฮอร์ไมโอนี่พูดให้กำลังใจเขา  แต่มันดูเหมือนว่าจะได้ผลเป็นตรงกันข้าม
“ฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่า  นายคงนึกหน้าของแองเจลิน่าออกใช่มั้ยถ้าเราไปสายน่ะ”  แฮร์รี่เตือน  ส่วนรอนทำท่าขนลุก
“แล้วเธอล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะไปอยู่ไหน”  แฮร์รี่ถาม  เขาเพิ่งดื่มน้ำฟักทองไปอึกใหญ่
“ฉันกะว่าจะไป ”  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าครุ่นคิด  ตอนแรกเธอคิดว่าจะไปห้องสมุด  แต่พอคิดไปคิดมา
“ฉันจะไปดูพวกเธอซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด
“เธอเนี่ยนะ  ฉันนึกว่าเธอจะไปห้องสมุด  หรืออยู่อ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นรวมซะอีก”  รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันก็  เอาหนังสือไปอ่านด้วยก็ได้นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมยิ้มกว้าง
“ไปกันเถอะ”  เธอเดินนำพวกทั้งสองออกจากห้องโถงไป
“นายว่าหมู่นี้เฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีเกินเหตุไปไหม  เมื่อวันยังไม่เป็นอย่างนี้เลย”  รอนพูดกับแฮร์รี่
ใช่  อย่างที่รอนคิดน่ะถูกแล้วเฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีขึ้นแน่  ก็เธอกำลังมีความรักนี่  เธอกำลังรักอยู่กับ เดรโก  มัลฟอย  ผู้ชายที่เธอคิดว่าชาตินี้จะไม่มีวันญาติดีด้วย  แต่เธอกลับมารักเค้าซะอย่างนั้น  แต่อย่างว่าแหละนะ  หัวใจคนเรานี่มันห้ามยาก  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮอร์ไมโอนี่คิดถึงแต่เขามาตลอด  ตั้งแต่ที่เขาทั้งสองเป็นศัตรูกัน  จนมารักกันในวันนี้  แต่เธอจะรู้ไหมนะว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้าคนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่  ในแค่ไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมื่อทั้งสามเดินเข้ามาในสนามควิดดิช  พวกเขาก็แปลกใจตรงที่ว่าในสนามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ทีมควิดดิชกริฟฟินดอร์ที่สวมเสื้อคลุมสีแดง  แต่มีอีกกลุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีเขียว  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพวกสลิธีริน
“ฉันว่าเรามีปัญหาแล้วล่ะ”  แฮร์รี่บอกเพื่อนทั้งสอง  พวกเขารีบวิ่งไปที่สนามทันที  ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ  แองเจลิน่ากำลังพูดอะไรสักอย่างกับกัปตันทีมสลิธีริน  สีหน้าตึงเครียด
“เฮ้  มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ”  รอนถามเฟร็ดและจอร์จที่มาถึงก่อนเขา
“ก็พวกสลิธีรินน่ะสิ  มาอ้างว่าจะใช้สนามสำหรับฝึกซ้อมวันนี้  ทั้ง ๆ ที่แองเจลิน่าจองสนามนี้มาก่อนตั้งเดือนนึง”  เฟร็ดอธิบาย  ส่วนแองเจลิน่าเริ่มขึ้นเสียงกับอีกฝ่าย  เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เสีย
“ทำอย่างนี้มันเกินไปแล้วนะ”  รอนพูด  หน้าเริ่มแดง
“แต่พวกเขามีใบอนุญาติจากเสนป  เขาอ้างว่าทีมเขามีเวลาซ้อมไม่พอ”  จอร์จเสริมอย่างไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกับรอน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่หันไปดูทางแองเจลิน่า  และเขาก็เห็นมัลฟอยที่ยิ้มให้เธออย่างกวน ๆ
“ฉันคิดว่าฉันมีสิทธ์ที่จะซ้อมในสนามที่ฉันเป็นคนจองก่อน!”  แองเจลิน่าระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด
“แต่พวกเรามีใบอนุญาตินะ  อย่าลืมสิ”  อีกฝ่ายพูดอย่างมีชัย 
“แต่ฉันเป็นคนที่จองสนามก่อน  และทีมของฉันก็สมควรจะได้เล่น”  แองเจลิน่าพูดอย่างหัวเสีย
“ถ้าพวกนายต้องการสนามสำหรับซ้อมล่ะก็  ฉันขอแนะนำนะว่าให้ไปจองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่เอาแต่อาศัยอภิสิทธิ์จากใบอนุญาติของอาจารย์ประจำบ้าน!!!”  เธอตะโกนเสียงดังลั่น  และเมื่อแองเจลิน่าพูดจบก็มีเสียงสนับสนุนจากฝ่ายกริฟฟินดอร์
“ดี”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบยิ้ม ๆ “งั้นฉันก็จะไปรายงานอาจารย์ว่าทีมของเธอไม่ให้ความร่วมมือ”
“ดูซิว่าคะแนนบ้านของพวกนายจะเป็นไง”  พอเขาพูดจบก็มองมาทางพวกแฮร์รี่อย่างเหยียด ๆ  และไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูเสนปล่ะก็  เขาจะต้องหาโอกาสหักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์มากแค่ไหน
แต่ก่อนที่พวกสลิธีรินจะเดินกลับไปที่ปราสาท  ก็มีเสียง ๆ นึงเรียกพวกเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน”  เฮอร์ไมโอนี่นั่นเอง  เธอตะโกนออกมาจนทุกคนในสนามมองเธอเป็นตาเดียวกัน
“ฉันว่าพวกเราน่าจะซ้อมด้วยกันได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมานั่นทำเอาหลายคนอึ้งไปกับคำพูดของเธอ
“เธอจะบ้าเหรอเฮอร์ไมโอนี่  ให้ฉันซ้อมกะไอ้พวกนี้เนี่ยนะ”  รอนร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ  แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาที่หมายความว่า ‘ เธอเงียบก่อนได้ไหม  รอน ’ ไปให้เขา
“เอ่อ  ฉันหมายถึงว่าพวกเราเป็นคนจองสนามก่อน  และมันก็ไม่ยุติธรรมที่พวกเราจะไม่ได้ซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอก้าวขึ้นมายืนข้าง ๆ แองเจลิน่า   
“ดังนั้นก็ไม่สมควรที่เราจะต้องหลีกทางให้พวกนายเมื่อ  เรามาจองก่อน”  เมื่อเธอพูดจบก็มีเสียงพึมพำมาจากทีมสลิธีรินว่า  “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง  ยัยเลือดสีโคลน”  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจ
“ถ้านายอยากไปฟ้องอาจารย์ประจำบ้านของพวกนายก็เชิญ”  เธอบอกอย่างไม่แคร์  “แต่อย่าลืมนะว่าไม่ใช่แค่เสนปเท่านั้นนะที่จะหักคะแนนจากบ้านต่าง ๆ ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ  ถึงแม้ว่า ศ. มักกอนนากัลจะไม่ลำเอียงเหมือนที่เสนปทำก็ตาม  แต่เธอก็คงไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบง่าย ๆ หรอก
“แล้วจะเอายังไง”  กัปตันทีมสลิธีรินพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ 
“ฉันว่าพวกเราควรซ้อมด้วยกัน  ซ้อมเหมือนกับเราแข่งกันจริง ๆ น่ะ  ทั้งสองทีมก็สามารถซ้อมได้พร้อมกัน  โดยที่ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  มองไปที่นักกีฬาควิดดิชทั้งสองทีมที่กำลังปรึกษากัน
“เธอคิดอะไรอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่  เธออยากให้ไอ้พวกนั้นมันชนฉันตกไม้กวาดก่อนวันแข่งหรือไง” รอนบ่น
“โถ่รอน  เธออย่าลืมสิว่าเธอยังไม่เคยแข่งกับสลิธีรินเลยนะ  เธอก็จะได้ลองเล่นก่อนวันจริงไม่ดีเหรอไง”
“ดีสิ  เธอจะให้ฉันลองเล่นไปทำไม  หรือจะให้ฉันพยายามที่จะไม่สาปไอ้มัลฟอยเป็นตัวเฟเร็ตระหว่างแข่งงั้นเหรอ”  รอนตอบอย่างประชด  เขาไม่เข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่คิดอะไรอยู่ แต่ก่อนที่เธอจะได้อธิบาย
“เอาเป็นว่า  ตกลงก็ได้”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบ  และทั้งสองทีมก็เตรียมตัวซ้อม ( แข่งนั่นแหละ )
    หลังจากวันหยุดยาวในช่วงคริสต์มาสจบสิ้นลงไป  นักเรียนที่กลับบ้านไปก็เริ่มทยอยกันมาที่โรงเรียน  ทำให้ฮอกวอตศ์ดูคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  และเหมือนกับว่าหลังจากเหตุการณ์วันคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านไป  มันได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของ  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  เด็กสาวผมสีน้ำตาลฟูฟ่องจากบ้านกริฟฟินดอร์  และ  เดรโก  มัลฟอย  เด็กชายผมบลอนด์  ผิวซีด  จากบ้านสลิธีรินไปโดยสิ้นเชิง
“ฉันล่ะเบื่อจริง ๆ เลย  ทำไมวันหยุดถึงสั้นนักนะ”  รอนบ่น  ตอนนี้พวก  แฮร์รี่  และเฮอร์ไมโอนี่  อยู่ในห้องโถง  กำลังทานอาหารเช้าอยู่
“เธอจะบ่นเรื่องควิดดิชอีกล่ะสิ  รอน” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงดุ  เธอกำลังนั่งอ่านเดลี่พรอเฟ็ตอยู่ 
“ก็ฉันเบื่อนี่  ที่เราต้องซ้อมควิดดิชจนแทบจะ ..”  รอนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเถียง  แต่เขากลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอุทานของเฮอร์ไมโอนี่
“ตายแล้ว  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา  ตามองหนังสือพิมพ์อย่างใจจดใจจ่อ
“นี่เธอยังไม่เลิกรับอีกเหรอ  เดลี่พรอเฟ็ตน่ะขยะดี ๆ เลยนะ”  รอนพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“พวกเธอลองอ่านนี่สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างร้อนรน  และเอาหนังสือพิมพ์ยื่นให้พวกเขา  ซึ่งพาดหัวว่า
‘ แหกคุกหมู่จากอัซคาบัน ’ ( เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเล่ม 5  )
รายละเอียดของข่าวก็บรรยายที่ไว้เกี่ยวกับการแหกคุกหมู่ของพวกผู้เสพความตายจำนวนสิบคน  โดยที่ทางกระทรวงเวทย์มนตร์เชื่อว่าเป็นฝีมือของแบล็ก  ที่ช่วยเหลือพวกนักโทษเหล่านั้นออกมา
“พวกกระทรวงนี่ยังงี่เง่าเหมือนเดิมเลย”  รอนบ่นหลังจากอ่านข่าวจนจบและโยน ‘ เดลี่พรอเฟ็ต ’  ลงบนโต๊ะอาหาร “พวกเขาคิดว่าซีเรียสเป็นคนทำ  ปัญญาอ่อนสิ้นดี”  รอนพูดต่อจนจบและหันไปจัดการกับอาหาร
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือของโวลเดอร์มอร์”  แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ  แต่รอนถึงกับสะอึกจนขนมปังเกือบติดคอ
“แล้วพวกที่กระทรวงทำงานกันยังไง  ฉันหมายถึงพวกเขาไม่น่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดสีหน้าร้อนรน
“แต่เธอก็รู้ว่าโวลเดอร์มอร์กลับมาแล้ว” ( รอนสะอึกอีกครั้งหนึ่ง )  “และเขาก็ต้องการรวบรวมพรรคพวกของเขาให้ได้มากที่สุด”  แฮร์รี่พูด  เอาส้อมจิ้มเบคอน
“เพื่อจะได้กลับมาเป็นจ้าวแห่งศาสตร์มืดอีกครั้ง” เฮอร์ไมโอนี่พูดตามองไปที่แฮร์รี่
“และทันทีที่เขากลับมามีอำนาจดังเดิม  เขาก็จะ”  รอนพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และรอนมองตากัน
“ส่งคนมาตามล่าฉัน  แล้วก็ฆ่าฉันซะ”  แฮร์รี่พูดขึ้นเรียบ ๆ ดูท่าทีไม่ทุกข์ร้อน
“ฉันรู้มาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าเขาจะทำอย่างนี้  รู้ตั้งแต่เขากลับมาแล้ว”  แฮร์รี่เอ่ย  ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรใส่ใจแต่อย่างใด
“แฮร์รี่  เธอ ”  เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างลังเล  แต่แฮร์รี่ไม่ให้โอกาสเธอพูดจนจบ
“ไม่เป็นไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่  ฉันว่าฉันคงมีชีวิตได้ยาวนานตราบเท่าที่ดัมเบิลดอร์อยู่ที่นี่น่ะแหละ”  แฮร์รี่พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาพอ ๆ กับการได้ ‘ ล ’ ในการบ้านวิชาปรุงยาของเสนป
“ถึงยังไงเธอก็ต้องระวังตัวนะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงเป็นห่วง
“อืม  ขอบใจนะเฮอร์ไมโอนี่”  แฮร์รี่กล่าวพลางส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เธอ
ไม่ทันที่ทั้งสามจะลุกจากโต๊ะอาหาร  เสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา
“พอตเตอร์  วีสลีย์”  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแองเจลิน่าหรอก  และเมื่อรอนได้ยินเสียงเธอเขาก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นเป็นครั้งที่สาม  พร้อม ๆ กับฝาแฝดเฟร็ดกับจอร์จ  พี่ชายของเขา
“ซ้อมควิดดิช”  ทั้งหมดพึมพำพร้อมกัน ( รวมทั้งแฮรี่ด้วย )
“ดี  งั้นฉันจะลงไปรอที่สนามนะ  พวกนายต้องลงมาก่อน 9 โมง เข้าใจมั้ย”  แองเจลิน่าพูดอย่างรวดเร็ว  และไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบอะไร  เธอก็หมุนตัวและเดินออกจากห้องโถงโดยที่มีเคตี้และอลิเซีย  เดินตามไปติด  ๆ
“จะมีวันไหนที่หล่อนทักฉันอย่างอื่นบ้างไหมนะ”  รอนบ่นอุบ  พยายามยัดขนมปังครัมเบ็ตลงในกระเป๋าอย่างยากเย็น  “วันอาทิตย์แท้ ๆ ”
“โถ่  รอนอย่าบ่นไปเลยน่า  ฉันว่ามันน่าสนุกออก”  เฮอร์ไมโอนี่พูดให้กำลังใจเขา  แต่มันดูเหมือนว่าจะได้ผลเป็นตรงกันข้าม
“ฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่า  นายคงนึกหน้าของแองเจลิน่าออกใช่มั้ยถ้าเราไปสายน่ะ”  แฮร์รี่เตือน  ส่วนรอนทำท่าขนลุก
“แล้วเธอล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะไปอยู่ไหน”  แฮร์รี่ถาม  เขาเพิ่งดื่มน้ำฟักทองไปอึกใหญ่
“ฉันกะว่าจะไป ”  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าครุ่นคิด  ตอนแรกเธอคิดว่าจะไปห้องสมุด  แต่พอคิดไปคิดมา
“ฉันจะไปดูพวกเธอซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด
“เธอเนี่ยนะ  ฉันนึกว่าเธอจะไปห้องสมุด  หรืออยู่อ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นรวมซะอีก”  รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันก็  เอาหนังสือไปอ่านด้วยก็ได้นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมยิ้มกว้าง
“ไปกันเถอะ”  เธอเดินนำพวกทั้งสองออกจากห้องโถงไป
“นายว่าหมู่นี้เฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีเกินเหตุไปไหม  เมื่อวันยังไม่เป็นอย่างนี้เลย”  รอนพูดกับแฮร์รี่
ใช่  อย่างที่รอนคิดน่ะถูกแล้วเฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีขึ้นแน่  ก็เธอกำลังมีความรักนี่  เธอกำลังรักอยู่กับ เดรโก  มัลฟอย  ผู้ชายที่เธอคิดว่าชาตินี้จะไม่มีวันญาติดีด้วย  แต่เธอกลับมารักเค้าซะอย่างนั้น  แต่อย่างว่าแหละนะ  หัวใจคนเรานี่มันห้ามยาก  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮอร์ไมโอนี่คิดถึงแต่เขามาตลอด  ตั้งแต่ที่เขาทั้งสองเป็นศัตรูกัน  จนมารักกันในวันนี้  แต่เธอจะรู้ไหมนะว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้าคนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่  ในแค่ไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมื่อทั้งสามเดินเข้ามาในสนามควิดดิช  พวกเขาก็แปลกใจตรงที่ว่าในสนามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ทีมควิดดิชกริฟฟินดอร์ที่สวมเสื้อคลุมสีแดง  แต่มีอีกกลุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีเขียว  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพวกสลิธีริน
“ฉันว่าเรามีปัญหาแล้วล่ะ”  แฮร์รี่บอกเพื่อนทั้งสอง  พวกเขารีบวิ่งไปที่สนามทันที  ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ  แองเจลิน่ากำลังพูดอะไรสักอย่างกับกัปตันทีมสลิธีริน  สีหน้าตึงเครียด
“เฮ้  มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ”  รอนถามเฟร็ดและจอร์จที่มาถึงก่อนเขา
“ก็พวกสลิธีรินน่ะสิ  มาอ้างว่าจะใช้สนามสำหรับฝึกซ้อมวันนี้  ทั้ง ๆ ที่แองเจลิน่าจองสนามนี้มาก่อนตั้งเดือนนึง”  เฟร็ดอธิบาย  ส่วนแองเจลิน่าเริ่มขึ้นเสียงกับอีกฝ่าย  เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เสีย
“ทำอย่างนี้มันเกินไปแล้วนะ”  รอนพูด  หน้าเริ่มแดง
“แต่พวกเขามีใบอนุญาติจากเสนป  เขาอ้างว่าทีมเขามีเวลาซ้อมไม่พอ”  จอร์จเสริมอย่างไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกับรอน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่หันไปดูทางแองเจลิน่า  และเขาก็เห็นมัลฟอยที่ยิ้มให้เธออย่างกวน ๆ
“ฉันคิดว่าฉันมีสิทธ์ที่จะซ้อมในสนามที่ฉันเป็นคนจองก่อน!”  แองเจลิน่าระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด
“แต่พวกเรามีใบอนุญาตินะ  อย่าลืมสิ”  อีกฝ่ายพูดอย่างมีชัย 
“แต่ฉันเป็นคนที่จองสนามก่อน  และทีมของฉันก็สมควรจะได้เล่น”  แองเจลิน่าพูดอย่างหัวเสีย
“ถ้าพวกนายต้องการสนามสำหรับซ้อมล่ะก็  ฉันขอแนะนำนะว่าให้ไปจองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่เอาแต่อาศัยอภิสิทธิ์จากใบอนุญาติของอาจารย์ประจำบ้าน!!!”  เธอตะโกนเสียงดังลั่น  และเมื่อแองเจลิน่าพูดจบก็มีเสียงสนับสนุนจากฝ่ายกริฟฟินดอร์
“ดี”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบยิ้ม ๆ “งั้นฉันก็จะไปรายงานอาจารย์ว่าทีมของเธอไม่ให้ความร่วมมือ”
“ดูซิว่าคะแนนบ้านของพวกนายจะเป็นไง”  พอเขาพูดจบก็มองมาทางพวกแฮร์รี่อย่างเหยียด ๆ  และไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูเสนปล่ะก็  เขาจะต้องหาโอกาสหักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์มากแค่ไหน
แต่ก่อนที่พวกสลิธีรินจะเดินกลับไปที่ปราสาท  ก็มีเสียง ๆ นึงเรียกพวกเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน”  เฮอร์ไมโอนี่นั่นเอง  เธอตะโกนออกมาจนทุกคนในสนามมองเธอเป็นตาเดียวกัน
“ฉันว่าพวกเราน่าจะซ้อมด้วยกันได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมานั่นทำเอาหลายคนอึ้งไปกับคำพูดของเธอ
“เธอจะบ้าเหรอเฮอร์ไมโอนี่  ให้ฉันซ้อมกะไอ้พวกนี้เนี่ยนะ”  รอนร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ  แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาที่หมายความว่า ‘ เธอเงียบก่อนได้ไหม  รอน ’ ไปให้เขา
“เอ่อ  ฉันหมายถึงว่าพวกเราเป็นคนจองสนามก่อน  และมันก็ไม่ยุติธรรมที่พวกเราจะไม่ได้ซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอก้าวขึ้นมายืนข้าง ๆ แองเจลิน่า   
“ดังนั้นก็ไม่สมควรที่เราจะต้องหลีกทางให้พวกนายเมื่อ  เรามาจองก่อน”  เมื่อเธอพูดจบก็มีเสียงพึมพำมาจากทีมสลิธีรินว่า  “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง  ยัยเลือดสีโคลน”  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจ
“ถ้านายอยากไปฟ้องอาจารย์ประจำบ้านของพวกนายก็เชิญ”  เธอบอกอย่างไม่แคร์  “แต่อย่าลืมนะว่าไม่ใช่แค่เสนปเท่านั้นนะที่จะหักคะแนนจากบ้านต่าง ๆ ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ  ถึงแม้ว่า ศ. มักกอนนากัลจะไม่ลำเอียงเหมือนที่เสนปทำก็ตาม  แต่เธอก็คงไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบง่าย ๆ หรอก
“แล้วจะเอายังไง”  กัปตันทีมสลิธีรินพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ 
“ฉันว่าพวกเราควรซ้อมด้วยกัน  ซ้อมเหมือนกับเราแข่งกันจริง ๆ น่ะ  ทั้งสองทีมก็สามารถซ้อมได้พร้อมกัน  โดยที่ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  มองไปที่นักกีฬาควิดดิชทั้งสองทีมที่กำลังปรึกษากัน
“เธอคิดอะไรอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่  เธออยากให้ไอ้พวกนั้นมันชนฉันตกไม้กวาดก่อนวันแข่งหรือไง” รอนบ่น
“โถ่รอน  เธออย่าลืมสิว่าเธอยังไม่เคยแข่งกับสลิธีรินเลยนะ  เธอก็จะได้ลองเล่นก่อนวันจริงไม่ดีเหรอไง”
“ดีสิ  เธอจะให้ฉันลองเล่นไปทำไม  หรือจะให้ฉันพยายามที่จะไม่สาปไอ้มัลฟอยเป็นตัวเฟเร็ตระหว่างแข่งงั้นเหรอ”  รอนตอบอย่างประชด  เขาไม่เข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่คิดอะไรอยู่ แต่ก่อนที่เธอจะได้อธิบาย
“เอาเป็นว่า  ตกลงก็ได้”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบ  และทั้งสองทีมก็เตรียมตัวซ้อม ( แข่งนั่นแหละ )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น