โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่น เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย - โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่น เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย นิยาย โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่น เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย : Dek-D.com - Writer

    โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่น เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    เธอเป็นเลือดสีโคลน เขาเป็นเลือดบริสุทธิ์ เธอเป็นกริฟฟินดอร์ เขาเป็นสลิธีริน เธอและเขาต่างเป็นศัตรูกัน ความรักต้องห้ามที่ไม่สมควรเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป...?

    ผู้เข้าชมรวม

    26,004

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    30

    ผู้เข้าชมรวม


    26K

    ความคิดเห็น


    185

    คนติดตาม


    367
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ม.ค. 53 / 09:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    ***พิกเข้ามาแปะแบนเนอร์ใหม่กับเพิ่มเพลงประกอบฟิคนะคะ*** 


    โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่นเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย


    ขออวดแบนเบอร์ใหม่ [ ที่เพิ่งมาทำ ] ค่ะ
     






    อันนี้รูปเต็ม ๆ ค่ะ ใช้เวลาตัดนานมาก

    สวัสดีค่ะ  ยินดีต้อนรับสู่

    โรมิโอกับจูเลียต เวอร์ชั่น  เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่า คำเตือนว่า  

    นิยายเรื่องนี้จบในตอน  และมันเศร้ามาก ๆ ด้วยค่ะ

    มีตัวเอกก็คือ  เฮอร์ไมโอนี่  กับ  เดรโก

    ที่จู่ ๆ มารักกันได้ยังไงก็ไม่รู้  แต่ถ้าอยากรู้ต้องติดตามคร่า


    อย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจพิกด้วยนะคะ  ทุกคน  

    อ้อ  สำหรับภาค 2 กะลังปั่นนะคะ แต่กะว่าจะรอให้เสร็จก่อนค่อยเอามาลง

    คนอ่านจะได้ไม่ค้างคานะคะ  ยังไงก็รอกันนิดนะคะ  ขอบคุณค่ะ


    ส่วนข้างล่างนี่เป็น MV ของภาพยนตร์เรื่องโรมิโอแอนด์จูเลียตค่ะ

    เห็นว่าเพลงประกอบเหมาะดีเลยเอามาให้ดูกันนะคะ




    โพล47712

    โพล44248

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      โรมิโอกับจูเลียต
      [ เวอร์ชั่นเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ]

       

      ใครหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการมีชีวิตที่เหมือนในนิยายนั้นเป็นเรื่องดี  แต่พวกคุณไม่รู้หรอกว่า  การมีชีวิตของเราเองโดยไม่ต้องไปเหมือนกับหนังสือเรื่องไหนเลยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว  ถึงแม้ว่าเรื่องราวของคุณจะบังเอิญไปเหมือนนิยายที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักประพันธ์ชื่อดังก็ตาม

       

      *************************************************

       

      นั่นเธอกำลังอ่านอะไรอยู่น่ะ  เฮอร์ไมโอนี่เสียงของรอน  วีสลีย์ดังขึ้นแข่งกับเสียงของรถจักรไอน้ำสีแดงที่กำลังแล่นผ่านทุ่งหญ้าด้วยความเร็ว 

      เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองรอน  ส่วนแฮร์รี่กำลังนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งข้าง ๆ เขา  เด็กทั้งสามกำลังจะเดินทางไปสู่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทย์มนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ด้วยรถไฟคันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

      โรมิโอกับจูเลียตเฮอร์ไมโอนี่ตอบเรียบ ๆ

      โรมิโอกับจูเลียตรอนทวนคำอย่างงง ๆ เขานึกว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังอ่านตำราคาถามาตรฐานของปีเจ็ดเสียอีก

      ใช่เด็กสาวพูดและหันไปสนใจหนังสืออีกครั้ง

      ไม่นึกว่าเธอจะอ่านนิยายกับเขาด้วยรอนพูดอย่างสงสัย  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นจากหนังสืออีกครั้ง

      มันไม่ใช่นิยายนะรอน!” เธอร้อง แต่มันเป็นบทประพันธ์ที่แต่งโดยนักประพันธ์ชื่อก้องโลกอย่างวิลเลี่ยม  เชคสเปียร์เชียวนะเฮอร์ไมโอนี่พูด 

      เหรอ  ฉันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเขาเลยรอนพูดสบาย ๆ และยกขายาว ๆ ของเขาขึ้นพาดเบาะฝั่งที่ว่าง

      เธอคงไม่เคยได้ยินหรอก  ก็เพราะว่าเธอไม่ได้ลงเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษานี่เฮอร์ไมโอนี่สวน  รอนขมวดคิ้ว

      อย่าบอกนะว่าปีนี้เธอลงวิชามักเกิ้ลศึกษาด้วยน่ะรอนพูดดักคอ  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง

      ใช่แล้ว  ฉันลงเธอยอมรับ

      แต่ตารางของเธอเต็มไปแล้วไม่ใช่เหรอ  ก็เธอลงวิชาอื่น ๆ อีกตั้งเยอะนี่แฮร์รี่แทรกขึ้นมา

      ใช่  แฮร์รี่

      แล้วเธอจะทำยังไง  กลับไปใช้นาฬิกาย้อนเวลาแบบเดิมน่ะหรือรอนถามถึงนาฬิกาย้อนเวลาที่เคยช่วยให้เฮอร์ไมโอนี่เข้าเรียนได้ครบทุกวิชาเมื่อตอนปีสาม

      เปล่า  ฉันจะไม่ใช้มัน  แต่ฉันตกลงกับอาจารย์ไว้แล้วว่าฉันจะไม่ต้องเข้าเรียนวิชานี้  แต่ฉันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองได้  และทำงานมาส่งอาจารย์เฮอร์ไมโอนี่พูดยาวเหยียด

      และที่ฉันได้รับสิทธิพิเศษนี้ก็เพราะว่าฉันทำข้อสอบวิชานี้ได้เกินสามร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนปีสามเธออธิบาย  แฮร์รี่และรอนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

      ฉันล่ะเชื่อเธอเลย  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะไปหาเรื่องเรียนมันทำไมในเมื่อเธอก็รู้เรื่องมักเกิ้ลหมดทุกอย่างแล้วรอนพูดอย่างไม่เข้าใจ 

      ที่ฉันลงเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษาในปีนี้ก็เพราะว่าฉันต้องการมีสิทธิ์เข้าสอบส.พ.บ.ส.น่ะสิ  เธอรู้ไหมว่าในการทำงานบางอย่างคะแนนวิชานี้ก็สำคัญพอ ๆ กับวิชาหลัก ๆ วิชาอื่นเชียวนะเฮอร์ไมโอนี่เริ่มอธิบายเกี่ยวกับเรื่องคะแนนส.พ.บ.ส.  และเรื่องอาชีพการงานอย่างไม่มีสิ้นสุด  แฮร์รี่และรอนสังเกตเห็นสัญญาณอันตรายได้อย่างชัดเจน

      และมันคงจะแย่มาก ๆ แน่  ถ้าฉันต้องพลาดงานดี ๆ ไปหลายงานเพราะไม่มีคะแนนวิชานี้...เฮอร์ไมโอนี่พูด  และมันคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่ถ้าแฮร์รี่ไม่มาขัดจังหวะเธอเสียก่อน

      เอ่อ  เธอไม่ต้องไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัลหรือ  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถามขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งโหยงราวกับเพิ่งนึกได้

      ตายจริง  ฉันลืมไปได้ไงเนี่ยเธอร้อง  และดีดตัวจากเก้าอี้ 

      เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานนักเรียนหญิงของโรงเรียนเมื่อไม่นานมานี้  เธอดูตื่นเต้นและดีใจมากกับหน้าที่ที่ได้รับ  แต่แฮร์รี่กับรอนนั้นรู้อยู่แล้วว่าตำแหน่งนี้ต้องตกเป็นของเธอ

      แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าใครได้เป็นประธานนักเรียนชายแฮร์รี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

      คงไม่ใช่มัลฟอยหรอกนะรอนพูดพลางทำท่าสยองขวัญ

      ฉันว่าคนอย่างมัลฟอยคงไม่ได้เป็นประธานหรอก  รอน  ตราบใดที่ดัมเบิลดอร์ยังสติดีอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่พูดไปตามเนื้อผ้า  แต่ในใจหนึ่งเธอก็นึกกลัวอยู่เหมือนกันว่าเธอต้องทำงานร่วมกับเขา

      ฉันไปดีกว่า  ถ้าฉันคุยธุระกับอาจารย์เสร็จแล้วฉันจะแวะมาหานะเฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนจะออกจากตู้ไป

      เธอเดินไปที่ขบวนแรกซึ่งเป็นตู้ของพวกประธานนักเรียนและพรีเฟ็ค  แต่เธอก็ไม่ได้เห็นศาสตราจารย์มักกอนนากัลอยู่ที่นั่น  เด็กสาวจึงตัดสินใจเข้าไปนั่งรอในตู้ประธาน

      ภายในตู้ประธานนั้นกว้างขวางและหรูหรากว่าตู้ของนักเรียนปรกติ  เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเบาะสีแดงเข้มอันใหญ่และหยิบหนังสือที่ติดมือมาอ่าน  เวลาผ่านไปไม่นานนัก  เสียงเปิดประตูดังครืดก็ดังขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าไปมอง  และเธอก็เห็นเด็กหนุ่มผมบลอนด์คนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงนั้น  เดรโก  มัลฟอยนั่นเอง !

      มัลฟอยมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างแปลกใจไม่น้อย เช่นเดียวกับเธอ

      นายเข้ามาทำไมที่นี่เธอถาม  มัลฟอยทำหน้างง ๆ

      ถามแปลก ๆ ถ้าฉันไม่ได้มีตำแหน่งฉันจะเข้ามาที่นี่หาสวรรค์อะไรล่ะเขาตอบ 

      เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นตราสีเงินที่มีตัวอักษร ป.น.กลัดอยู่บนอกเขาและอ้าปากค้าง  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดัมเบิลดอร์ยังสติดีอยู่หรือเปล่า  มัลฟอยเดินเข้ามานั่งที่เบาะตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่และมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า  ใบหน้าของเด็กสาวเป็นสีชมพู

      พวกอาจารย์คิดอะไรอยู่นะถึงให้ฉันมาทำงานร่วมกับเธอเขาพูด

      ฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมพวกอาจารย์ถึงเอาคนที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมมารับตำแหน่งนี้เฮอร์ไมโอนี่สวนทันควัน

      เธอว่าฉันหรือเกรนเจอร์มัลฟอยพูด  เขาลุกขึ้นยืนทันที  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าทีสบาย ๆ ราวกับว่าเธอไม่รู้เรื่องรู้ราว  แม้ว่าตอนนี้มัลฟอยจะตัวสูงกว่าเธอเกือบฟุต  และดูแข็งแรงพอที่จะหักข้อมือเล็ก ๆ ของเธอได้ด้วยมือเปล่าของเขาก็ตาม

      อย่าคิดว่าฉันจะอยากทำงานร่วมกับเธอนะยายเลือดสีโคลน!” เขาพูด แค่ต้องมาทนสูดอากาศร่วมโลกกับคนอย่างเธอฉันก็แทบหายใจไม่ออกแล้ว!” เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาอย่างโมโห  เธอลุกจากเบาะขึ้นมาประชันหน้ากับเขา

      ถึงฉันจะไม่ได้มีสายเลือดบริสุทธิ์อย่างนายนะมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด แต่ฉันก็ไม่ได้มีพ่อเป็นนักโทษอัซคาบัน!” เฮอร์ไมโอนี่แผดเสียงดังลั่น  มัลฟอยชะงัก  ใบหน้าเขาขาวซีดด้วยความโกรธ

      ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เกรนเจอร์เขาตวาด  ผลักเฮอร์ไมโอนี่ลงไปเบาะสีแดง  ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะ

      ก็ที่ฉันพูดมันเป็นความจริงไม่ใช่หรือ เธอพูดอย่างไม่เกรงกลัว  แต่เธอก็แทบอยากตบปากตัวเองเมื่อเห็นสีหน้าต่อไปของมัลฟอย  ใบหน้าของเขาขาวซีดกว่าเดิม  ดวงตาสีซีดกำลังลุกเป็นไฟ

      อย่ามาอวดเก่งกับฉันเกรนเจอร์  กับใครก็ได้แต่ยกเว้นกับฉัน มัลฟอยคำราม  กดร่างของเธอเข้ากับเบาะ  มือของเฮอร์ไมโอนี่ควานหาไม้กายสิทธิ์อย่างร้อนรน  แต่เด็กสาวก็แทบช็อคเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมหยิบมันมาจากตู้!

      เป็นอะไรไปเกรนเจอร์  เกิดกลัวขึ้นมาหรือไง มัลฟอยพูดเยาะ ๆ เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวเชิดหน้า

      ฉันไม่เคยกลัวนายเลย  สักนิดเดียวเธอพูดอย่างท้าทาย  แม้ในใจจะนึกกลัวอยู่มากก็ตาม

      โอ้  อย่างนั้นรึ  ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดูกันหน่อยดีไหมว่าเธอจะกล้าอย่างที่พูดจริง ๆ หรือเปล่ามัลฟอยยิ้มและหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาเมื่อฉันสาปเธอเป็นคางคกน่าเกลียดน่ะเฮอร์ไมโอนี่หน้าซีดเผือด

      เธอไม่อยากสาปฉันหรอกมัลฟอยเธอพูดเสียงเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยว

      แน่นอนว่าฉันอยาก  เสียใจด้วยนะเขาตอบ

      แล้วถ้ามีใครผ่านมาเห็นล่ะเฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเป็นต่อ มัลฟอยชะงัก ถ้ามีใครมาเห็นนายสาปฉันแล้วเรื่องไปถึงหูอาจารย์ล่ะก็.....เธอแกล้งลากเสียง

      บางทีนายอาจจะโดนปลดจากตำแหน่งตั้งแต่ยังไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ก็ได้นะเฮอร์ไมโอนี่ว่า

      เธอขู่ฉันหรือเกรนเจอร์มัลฟอยพูดรอดไรฟัน

      หรือที่ฉันพูดมันไม่จริงเธอโต้  มัลฟอยมีท่าทีครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่  แล้วเขาก็แสยะยิ้มที่มุมปาก

      ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องเปลี่ยนมาทำอย่างอื่นแทนน่ะสินะ  อย่างอื่นที่ฉันไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นมัลฟอยพูดอย่างเจ้าเล่ห์  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว  แต่ก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป  มัลฟอยก็ดึงร่างของเธอเข้าไปใกล้และจูบเธอ

      อื้อ...............!”  เฮอร์ไมโอนี่ร้อง  เธอดิ้นรนในขณะที่อ้อมแขนของมัลฟอยบีบรัดร่างของเธอไว้  เด็กหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างพอใจ  เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาจนกระทั่งมัลฟอยเป็นฝ่ายปล่อยเธอออกมา

      นายทำอย่างนี้ทำไมกันเธอร้อง  เอาหลังมือเช็ดริมฝีปาก

      อย่าคิดว่าฉันอยากจะทำแบบนี้กับคนอย่างเธอเกรนเจอร์มัลฟอยพูดอย่างถือตัว แต่ที่ฉันทำแบบนี้เพราะว่ามันเป็นทางเดียวที่จะหยุดความอวดเก่งของเธอได้!” เขาบอกเธอ 

      เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง  เธอรู้สึกโกรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  และเมื่อเธอรู้สึกตัวฝ่ามือของเธอก็เหวี่ยงไปกระทบใบหน้าของมัลฟอยเต็ม ๆ

      เพี๊ยะ!” หน้าของมัลฟอยหันตามแรงตบ  เด็กหนุ่มดูงงงวยปนตกใจ 

      คำว่าเลวอาจจะน้อยไปสำหรับนายมัลฟอย!” เด็กสาวพูด  น้ำตาคลอเบ้าด้วยความโกรธ  ก่อนเธอจะหันหลังและเดินออกจากตู้ ตามด้วยเสียงปิดประตูดังโครม

      มัลฟอยเอามือลูบแก้มข้างที่โดนตบด้วยท่าทีกึ่งโกรธกึ่งตกใจ  แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ขณะที่เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ลับตาไป 

      เฮอร์ไมโอนี่เดินจากไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอลืมหนังสือเล่มสำคัญไว้ !

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากตู้ประธานโดยไม่แม้แต่จะหันมามองข้างหลังเลย  เธอกระแทกเท้าปึงปังไปตลอดทางจนกระทั่งถึงตู้ที่เพื่อนทั้งสองนั่งอยู่  เด็กสาวกระชากประตูออก  และปิดมันอย่างแรงก่อนจะนั่งลงบนเบาะซึ่งครุกแชงค์นอนอยู่พอดี  เจ้าแมวสีส้มส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจและกระโดดหนีไปทางแฮร์รี่

      แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเจ้าแมวขนดกสีส้มแม้แต่น้อย  เด็กสาวกอดอก  ใบหน้าบูดบึ้ง  แฮร์รี่กับรอนหันมาสบตากัน

      เธอเป็นอะไรไปหรือเฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถามอย่างหวาด ๆ

      ก็มัลฟอย...เธอเกือบจะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมา  แต่เด็กสาวกลับหยุดปากตัวเองไว้ทัน  ถึงอย่างไรเธอก็คงไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองรู้เรื่องที่มัลฟอยได้ทำกับเธอ  แม้ว่าแฮร์รี่กับรอนจะขยี้เขาให้เป็นปุยผงหลังจากรู้เรื่องนั้นแล้วก็ตาม

      มัลฟอยทำไมเหรอ  มันมาหาเรื่องเธองั้นรึรอนถามด้วยท่าทีเป็นห่วง  แต่น้ำเสียงของเขากลับดูเคียดแค้น  เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลาย

       เปล่า  มัลฟอยเขา....” เธออึกอัก มัลฟอยเขาเพิ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานนักเรียนน่ะ

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้กลับไปที่ตู้ประธานอีกเลยตลอดการเดินทางที่เหลือ  จนกระทั่งการเดินทางสิ้นสุดลง  นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องโถงก่อนการคัดสรรจะเริ่มขึ้นเหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา  หลังจากที่หมวกคัดสรรได้ร้องเพลงที่แต่งขึ้นใหม่สำหรับปีนี้ ( เกี่ยวกับมิตรภาพและความผูกพันระหว่างบ้านทั้งสี่ ) มันก็ได้จัดการส่งเด็กปีหนึ่งเข้าบ้านที่เหมาะสมกับพวกเขาทีละคน  จนกระทั่งหมวกคัดสรรได้ส่งเด็กคนสุดท้ายเข้าบ้านของเขา ( สลิธีริน ) ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็จัดแจงเก็บหมวกคัดสรรและแป้นสูงไป  รอนแปลกใจว่าทำไมจานทองจึงยังว่างเปล่า  แต่แล้วศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้น

      ฉันขอกล่าวอะไรสักหน่อยก่อนพวกเธอจะได้อิ่มหนำกับอาหารชั้นเลิศของเราดัมเบิลดอร์พูด  รอนทำหน้ามุ่ย ฉันคงต้องแจ้งพวกเธอว่าปีนี้จะเป็นปีที่พิเศษว่าเดิมเล็กน้อย

      จะมีควิดดิชเวิล์ดคัพมาแข่งที่โรงเรียนรึไง รอนประชดเสียงดัง  จนเมื่อดัมเบิลดอร์มองมาทางเขาผ่านลอดแว่นรูปจันทร์เสี้ยว  รอนก็หยุดพูดทันที  เมื่อเป็นเช่นนั้นดัมเบิลดอร์ก็กระแอมน้อย ๆ แล้วเริ่มพูดอีกครั้ง

      เพราะว่าปีนี้ทางโรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำขึ้นอีกครั้ง  หลังจากห่างหายไปนานหลายปี  ในวันฮาโลวีนนี้ดัมเบิลดอร์กล่าว  รอนอ้าปากค้าง  ( ไม่นะ!” )  และก็เกิดเสียงพึมพำดังขึ้นทั่วทั้งห้องโถง

      เอาล่ะ  เงียบ ๆ หน่อยเสียงของศาสตราจารย์มักกอนนากัลดังขึ้น  เสียงซุบซิบเงียบลงทันที

      ทางโรงเรียนคิดว่าคงจะดีถ้าเรามีการจัดการเลี้ยงเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนต่างบ้านดัมเบิลดอร์เริ่มอธิบาย เพราะฉะนั้นงานเลี้ยงที่จะมีขึ้นนี้จะเป็นงานที่ต้องแต่งกายแฟนซี  และนักเรียนไม่จำเป็นต้องหาคู่ไปงาน  แต่เราต้องการให้พวกเธอได้รู้จักเพื่อน ๆ ในงานภายใต้หน้ากากที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใครเขาพูด  ดวงตาของดัมเบิลดอร์มีแววสนุกสนาน

      จนกระทั่งเที่ยงคืน  เราถึงจะอนุญาติให้ถอดหน้ากากออกได้พอเขาพูดจบก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง  ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนหญิงจะตื่นเต้นเป็นพิเศษกับงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง  ส่วนพวกผู้ชายต่างทำหน้าสยดสยองไปตาม ๆ กัน

      ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของงานนั้นฉันจะแจ้งให้พวกเธอทราบทีหลัง  เพราะตอนนี้ฉันได้ยินเสียงครวญครางของกระเพาะของพวกเธอหลายคนกำลังดังอย่างมโหฬารทีเดียวล่ะ  เอาล่ะ ลงมือทานได้เขาส่งยิ้มให้รอน  และเมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบก็มีเสียงเฮดังลั่นพร้อมกับเสียงส้อมกับมีดกระทบกันทั่วห้องโถง

       

      *************************************************

       

      ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากวันเปิดเรียน  ทุกคนยังคงพูดถึงงานเลี้ยงเต้นรำที่จะมีขึ้นในสิ้นเดือนหน้าอย่างไม่หยุด  นักเรียนหญิงบางคนต่างกระซิบกระซาบกันเรื่องชุดที่จะใส่ไปงาน  แต่บางคนก็ปิดเป็นความลับ  เพราะว่าการแต่งกายแฟนซีนั้นถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งทีเดียว

       

      เธอจะแต่งเป็นอะไรเฮอร์ไมโอนี่รอนถามขึ้นขณะที่พวกเขาทั้งสามกำลังอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมที่มีผู้คนคับคั่ง

      ไม่รู้เธอตอบห้วน ๆ เพราะกำลังวุ่นอยู่กับหนังสือกองโตตรงหน้า

      ฉันว่าจะแต่งเป็นมัมมี่ดีไหม  จะได้ไปหลอกปาราวตีรอนหันไปปรึกษาแฮร์รี่  เขายังจำได้ว่าบ็อกการ์ตเปลี่ยนเป็นมัมมี่เมื่อเจอเธอ

      ถ้างั้นฉันแต่งเป็นแมงมุมแล้วกันแฮร์รี่แหย่  รอนทำหน้าประมาณว่า ฉันฆ่านายแน่ถ้านายทำอย่างนั้น

      เธอเห็นโรมิโอกับจูเลียตของฉันไหม เธอถามเพื่อนทั้งสอง  รอนกับแฮร์รี่ส่ายหน้า

      เราไม่เห็นนิยายของเธอเลยรอนตอบพลางมองกองหนังสือตรงหน้าของเธอด้วยสีหน้าสยดสยอง

      ฉันต้องเอามันไว้ที่ไหนสักแห่งนี่นา  อ้อ  แล้วมันก็ไม่ใช่นิยายนะรอนเฮอร์ไมโอนี่พูดและลองรื้อกองหนังสือที่อยู่บนโต๊ะดู 

      ในสายตาของเพื่อนทั้งสองนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดูวุ่นวายมากทีเดียว  ความจริงเธอวุ่นมาตั้งแต่ตอนเปิดเทอมแล้ว  นั่นก็เพราะเฮอร์ไมโอนี่เป็นประธานนักเรียนหญิงของโรงเรียน  เธอต้องเดินตรวจบริเวณและปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ มากกว่าคนอื่น  เธอต้องนอนดึกและตื่นเช้ากว่าทุกคน  เฮอร์ไมโอนี่ลงเรียนเก้าวิชา  และต้องเรียนด้วยตัวเองอีกหนึ่ง  นอกจากนี้เธอยังคร่ำเคร่งอ่านหนังสือสอบส.พ.บ.ส.ที่กำลังจะมีขึ้นในเจ็ดเดือนข้างหน้าอีกด้วย 

      รู้ไหมความจริงเธอน่าจะขอยืมนาฬิกาย้อนเวลามาอีกครั้งนะ  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่แนะเมื่อเห็นว่าเด็กสาวแทบไม่มีเวลาได้กินได้นอน  แต่จู่ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็ชะงัก

      นี่กี่โมงแล้วเธอพูดเสียงดังจนเพื่อนทั้งสองสะดุ้ง

      สองทุ่มครึ่งรอนตอบ

      ตายล่ะ  ฉันลืมไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัล!” เธอโพล่งและรีบผลุนผันออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป  รอนกับแฮร์รี่มองเธองง ๆ ก่อนที่จะหันมาสบตากัน

      เธอน่าจะหาเวลาว่างบ้างจริงไหมรอนพูดกับแฮร์รี่

       

      เฮอร์ไมโอนี่เดินไปตามทางเดินอย่างรีบร้อน  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลนัดเธอมาพบเพื่อปรึกษาเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำตอนสองทุ่ม  และตอนนี้เธอกำลังทำให้อาจารย์รอ  เด็กสาวหยุดอยู่ที่ประตูห้องทำงานของอาจารย์และเปิดมันออก  ภาพที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นเป็นอย่างแรกก็คือมัลฟอย  เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของศาสตราจาร์มักกอนนากัล

      นั่งลงสิมิสเกรนเจอร์  เธอมาสายไปหน่อยนะ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเตือนเธอด้วยน้ำเสียงเฉียบคม

      ขอโทษค่ะ เฮอร์ไมโอนี่พูด  และเลื่อนเก้าอี้ข้าง ๆ มัลฟอยออกแล้วจึงนั่งลง

       

      ศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้มอบหน้าที่สำคัญในงานให้กับประธานนักเรียนทั้งสองและบอกพวกเขาถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงานเลี้ยงเต้นรำ  เธอบอกว่าอาจารย์ใหญ่ได้จ้างโครงกระดูกเต้นรำ  ฝูงค้างคาว  และมัมมี่จากอียิปต์มาจัดการแสดงด้วย  ซึ่งศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ไม่ลืมที่จะชวนบรรดาผีของฮอกวอตส์มาร่วมงาน  แต่พวกผีกลับปฏิเสธเพราะว่าเขาต้องไปงานเลี้ยงวันตายของนิกหัวเกือบขาดในวันเดียวกัน ( ซึ่งดูเหมือนปีนี้นิกจะไม่ยอมชวนกลุ่มนักรบหัวขาดมาร่วมงานแล้ว ) ดัมเบิลดอร์จึงเสนอให้นิกมาจัดงานรวมกับงานเลี้ยงของโรงเรียนด้วยเลย  โดยตัวเขาสัญญาว่าจะประกาศให้นักเรียนทุกคนทราบว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับผีประจำบ้านกริฟฟินดอร์อย่างไร   

                      หลังจากหมดธุระศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็ปล่อยเด็กทั้งสองกลับหอนอน  เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาที่ระเบียงพร้อมกับมัลฟอย  เธอแทบไม่ได้พูดกับเขาเลยตั้งแต่เกิดเรื่องบนรถไฟยกเว้นแค่ตอนที่ต้องทำงานด้วยกันเท่านั้น  และมัลฟอยเองก็ไม่ได้มาหาเรื่องเธอและเพื่อนทั้งสองอีกเลยนับตั้งแต่เปิดเทอมมา

       

      ทำไมฉันต้องมาทำงานงี่เง่านี่ด้วยนะมัลฟอยบ่นขณะเขาเดินอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่

      มันไม่ใช่งานงี่เง่านะมัลฟอย  แต่มันเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของนักเรียนต่างบ้านต่างหากล่ะเฮอร์ไมโอนี่อธิบาย  เด็กหนุ่มไหวไหล่

       ใครสนกันล่ะ  ฉันไม่ต้องการสร้างสัมพันธ์งี่เง่านั่นหรอกนะเขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ

      แต่เธอต้องทำ  อย่าลืมสิว่าเธอเป็นประธานนักเรียน!” เฮอร์ไมโอนี่เตือน 

      อ้อ  เธอคงดีใจมากสินะที่อาจารย์จัดงานนี้ขึ้นน่ะมัลฟอยพูด

       เธอจะไปแต่งตัวสวย ๆ แล้วก็ไปเต้นรำกับผู้ชายโง่ ๆ ที่ไม่รู้ว่าคนที่เขากำลังเต้นรำอยู่ด้วยเป็นพวกเลือดสีโคลน!” มัลฟอยว่า  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ

      อย่าดีแต่ว่าคนอื่นเขามัลฟอย!” เธอพูดเสียงเขียว  แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ฟัง

      แต่ฉันว่าอย่างเธอน่าจะแต่งเป็นเจ้าหญิงก็ดีนะ  แล้วให้พอตตี้กับวีเซิ่ลเป็นองค์รักษ์ของเธอ  ใช่ไหม  เจ้าหญิงมักเกิ้ลมัลฟอยพูดราวกับมันเป็นเรื่องสนุกสนาน  เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาอย่างโกรธเคือง

      แล้วทำไมถึงไม่บอกให้แพนซี่แม่หวานใจของนายแต่งเป็นปีศาจแบนชีล่ะ  ฉันว่าเหมาะกับเธอดีออกเฮอร์ไมโอนี่สวน  มัลฟอยมีสีหน้างงงวย

      เธอพูดอะไรของเธอน่ะเกรนเจอร์เขาถาม

      เธอก็ได้ยินแล้วนี่มัลฟอย   ฉันบอกว่าให้เธอไปบอกแม่แพนซี่สุดที่รักของเธอว่า...

      ใครบอกเธอว่าแพนซี่เป็นสุดที่รักของฉันกันมัลฟอยพูดอย่างสงสัย 

      แล้วไม่ใช่รึเฮอร์ไมโอนี่โต้

      ไม่ใช่  แพนซี่ไม่ใช่หวานใจฉัน  ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนกันเกรนเจอร์มัลฟอยหัวเราะกับเรื่องที่เด็กสาวพูด  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสียหน้า  แต่เธอพยายามทำท่าทีเรียบเฉย

      ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่เธอพูดเพื่อกลบเกลื่อนความอาย  และกำลังจะเดินหนีเขาไป  แต่มัลฟอยรั้งแขนของเธอไว้ก่อน

      จะรีบไปไหนเหรอเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่สะบัดแขน

      ปล่อยฉันนะ!” เธอร้อง นายไม่กลัวตัวของนายจะเปื้อนโคลนหรือไงเธอประชด

      โอ้...  จริงสิ  ฉันลืมไปได้ไงนะมัลฟอยพูดด้วยท่าทียียวน  และปล่อยมือเธอ

      นาย...!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง    

      ฉันคิดว่าเธอยังไม่อยากไปไหนหรอกจริงไหมมัลฟอยพูด 

      แน่นอนว่าฉันอยากไป  ไปที่ไหนก็ได้ที่ไกลจากนาย!” เธอกระแทกเสียง  มัลฟอยแกล้งทำสีหน้าเจ็บปวด

      ถ้าเธอทำอย่างนั้น  งั้นเธอก็คงไม่ต้องการสิ่งนี้อีกแล้วสินะเขาพูด  แล้วชูหนังสือเรื่องโรมิโอกับจูเลียตของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมา  หนังสือที่เธอลืมไว้บนรถไฟที่ตู้ประธาน!

      หนังสือของฉันนี่  เอาคืนมานะ!” เธอร้องและกำลังจะคว้ามันไปจากมือของเขา  แต่มัลฟอยกลับไม่ยอมคืนให้เธอ  เขายกหนังสือไว้สูงเหนือหัว

      ของเธองั้นหรือเขาถาม

      ก็ใช่น่ะสิ  เอาคืนมานะ  มัลฟอย  ฉันต้องใช้มันทำงานส่งอาจารย์เฮอร์ไมโอนี่พูด

      มันคงสำคัญมากสินะเขาพูดและเอาหนังสือมาพิจารณา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยิ่งคืนให้เธอไม่ได้ 

      นาย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง 

      เธอไม่น่าหลุดปากบอกมัลฟอยไปเลยว่ามันเป็นของสำคัญ  แน่นอนว่ามันสำคัญ  เพราะมันเป็นหนังสือที่ไม่มีในห้องสมุด  เฮอร์ไมโอนี่ซื้อมันมาจากร้านหนังสือแถวบ้านของเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ต้องใช้มันทำรายงานเรื่องวรรณกรรมคลาสสิกของมักเกิ้ลส่งอาจารย์  เพราะว่าเธอไม่ได้เข้าเรียนจึงต้องทำงานส่งแทน  และถ้าไม่มีมันเธอก็ไม่สามารถทำงานนั้นได้

       

      ฉันควรจะทำอย่างไรดีนะ  ควรจะทำอย่างไรดีเขาพูดและแสร้งทำท่าทีใช้ความคิด  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง

      คืนมันมาให้ฉันมัลฟอย  ไม่อย่างนั้นฉันจะไปฟ้องอาจารย์เธอขู่ฟ่อ

      งั้นก็ดี  ฉันจะได้โยนมันทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เลยเขาพูด แต่เธอคงไม่อยากให้ฉันทำหรอกใช่ไหมเขาพูดอย่างถือไพ่เหนือกว่า

      นายจะให้ฉันทำยังไงเฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างจนหนทาง  มัลฟอยเลิกคิ้ว

      ขอร้องฉันสิเกรนเจอร์  แล้วฉันจะคืนหนังสือให้เธอมัลฟอยพูดอย่างเป็นต่อ

      ได้โปรดคืนหนังสือให้ฉันด้วย  มัลฟอยเขาดัดเสียงเลียนแบบเสียงของเธอ  เฮอร์ไมโอนี่โกรธจัด

      ไม่มีทาง!” เธอตอบอย่างหนักแน่น 

      เหรอ  งั้นก็ดีมัลฟอยพูด  เขาหันออกไปทางระเบียง  แล้วโยนหนังสือออกไปอย่างสุดแรง  หนังสือของเฮอร์ไมโอนี่ลอยออกไปเหนือบริเวณสนามก่อนจะตกลงไปในพุ่มไม้

      นาย! นายโยนมันทำไมน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจ

      ก็เธอไม่ยอมพูดเองนี่เขาพูดอย่างไม่ยี่หระที่ได้เห็นสีหน้าตระหนกตกใจของเด็กสาว  แต่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยสายตาเกลียดชังเป็นแวบแรก  มัลฟอยถึงกับชะงักไปชั่วครู่

      นายมันทุ เรศที่สุด  นายจงใจแกล้งฉัน นายมันชั่วร้าย!” เธอด่าเขาเสียงดังก่อนจะวิ่งลงบันไดไป

      เธอจะไปไหนน่ะ  เกรนเจอร์มัลฟอยตะโกน  แต่เด็กสาวกลับไม่ฟัง  เธอกระโจนลงบันไดไปสู่สนามเบื้องล่างก่อนที่เขาจะทันรั้งตัวเธอไว้ทัน               

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่กลับมาที่หอพักในเวลาต่อมาด้วยความผิดหวัง  เธอลงไปหาหนังสือในความมืด  แต่เธอหามันไม่เจอแม้แต่เงา  เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไปตกอยู่ที่พุ่มไม้ตรงไหน  หลังจากที่แฮร์รี่และรอนเห็นเธอกลับมาในสภาพที่มีเศษใบไม้ติดผมและเสื้อผ้า  ทั้งสองก็ซักถามเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แน่นอนว่าครั้งนี้เธอบอกพวกเขาทั้งสองจนหมดว่ามัลฟอยทำอะไรลงไปบ้าง

       

      ไอ้คนทุเรศ  ฉันจะไปจัดการกับมัน!” รอนร้องและเตรียมพุ่งออกจากห้องนั่งเล่นรวม

      อย่ารอน  ใจเย็น ๆ !” แฮร์รี่เตือนและรั้งเขาไว้ก่อนที่จะหันไปพูดกับเฮอร์ไมโอนี่

      ทำไมเธอถึงไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์เรียกมันออกมาล่ะแฮร์รี่ถาม  ในขณะที่มือหนึ่งของเขาต้องคอยยึดเสื้อคลุมของรอนไว้  ไม่ให้เขาไปหาเรื่องมัลฟอย

      ฉันลืมหยิบไปจากหอเธอพูดเสียงเศร้า และฉันต้องใช้มันทำรายงานแฮร์รี่  ฉันอาจจะไม่ผ่านวิชานี้ก็ได้ถ้าฉันไม่ได้มันกลับมา  เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้เข้าเรียนด้วย

      เธอต้องหามันเจอ  เฮอร์ไมโอนี่  พรุ่งนี้พวกเราจะไปช่วยเธอหามันกันดีไหมแฮร์รี่พูดอย่างปลอบโยน  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มและรู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างมาก

                     

      *************************************************

       

                     

      แต่พอถึงวันรุ่งขึ้นทั้งสามกลับไม่ต้องไปตามหาหนังสือของเฮอร์ไมโอนี่อีกต่อไป  เพราะว่าในตอนเช้าเมื่อมีไปรษณีย์นกฮูกมาส่ง  นกฮูกนาของโรงเรียนตัวหนึ่งก็หย่อนพัสดุชิ้นหนึ่งลงบนตักของเฮอร์ไมโอนี่  และเมื่อเธอเปิดมันเธอก็พบว่ามันเป็นหนังสือของเธอที่มัลฟอยโยนทิ้งไป

       

      ใครเป็นคนส่งมากันนี่เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างดีใจ  มีโน๊ตอันหนึ่งหล่นมาจากหนังสือ

       

      ผมเก็บหนังสือของคุณได้  และคิดว่าคุณคงต้องการมันคืน  รักษามันให้ดีด้วยล่ะ

       

      โน๊ตของใครน่ะแฮร์รี่ถาม  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศีรษะ 

      ไม่ได้ลงชื่อไว้ เธอพูดพอเธอเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษโน๊ต  สายตาของเธอสบเข้ากับสายตาของมัลฟอยที่มองมาจากโต๊ะสลิธีรินพอดี  แต่ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็แสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น

      เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าใครก็ตามที่เก็บหนังสือของเธอได้และส่งกลับมาให้เธอต้องรู้ว่ามันตกอยู่ที่ไหน  เพราะคงไม่มีใครบังเอิญไปเจอหนังสือในพุ่มไม้ภายในช่วงเวลาข้ามคืนที่เธอทำมันหายแน่  และอีกอย่างเขาก็ต้องรู้ด้วยว่าใครเป็นเจ้าของ ๆ มัน

      ซึ่งคนที่เป็นเช่นนั้นก็มีเพียงคนเดียวก็คือ  มัลฟอย

      ไม่ใช่หรอก  เฮอร์ไมโอนี่คิด  ไม่มีทางจะเป็นเขาไปได้  ไม่มีทางหรอก

       

      *************************************************

       

      งานเลี้ยงเต้นรำวันฮาโลวีนใกล้เข้ามา  นักเรียนต่างพูดถึงแต่เรื่องงานนี้  นักเรียนหญิงมักจะคุยกันแต่เรื่องชุด  และก็มีหลายคนที่ยังหาชุดแต่งตัวไปงานไม่ได้  เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่

      ฉันได้ข่าวว่าร้านเช่าชุดที่ฮอกมี้ดส์น่ะเอาชุดให้นักเรียนเช่าหมดแล้ว  และร้านตัดชุดร้านอื่นก็รับออร์เดอร์เข้ามาจนแทบตัดไม่ทันเชียวลาเวนเดอร์พูดกับปาราวตีที่โต๊ะอาหารตอนเช้า

      แล้วเธอจะแต่งเป็นอะไรล่ะปาราวตีถาม  ลาเวนเดอร์ส่ายหน้า

      ไม่รู้สิ  แต่แม่ฉันบอกให้แต่งเป็นเงือกล่ะ  เพราะเรามีชุดอยู่ที่บ้านแล้วเธอตอบ

      แล้วเธอล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะแต่งเป็นอะไรรอนถามเธออีกครั้ง

      ไม่รู้เฮอร์ไมโอนี่ขณะกำลังอ่านโรมิโอกับจูเลียตให้จบเป็นรอบที่สาม

      แต่เธอต้องรู้ได้แล้วสิ  นี่ใกล้จะถึงวันงานแล้วนะรอนร้อง  แม้ว่าตัวเขาเองก็ยังไม่รู้จะแต่งเป็นอะไรก็เถอะ

      ก็ฉันไม่รู้จริง ๆ นี่รอน  ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย  และถ้าเธอไม่ว่าอะไรนะช่วยหยุดกวนใจฉันสักประเดี๋ยวเถอะ!” เฮอร์ไมโอนี่เหวก่อนที่จะกระแทกหนังสือปิดอย่างหงุดหงิด  สักครู่เด็กสาวก็เก็บของเข้ากระเป๋าและเอาสายกระเป๋าขึ้นคล้องบ่า

      ฉันมีเรียนอักษรรูนตอนเช้า  แล้วเจอกันนะเธอพูดและเดินออกจากห้องโถงไป  รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากันงง ๆ

      ฉันว่าเธอต้องแต่งเป็นหนังสือแหง ๆ เลยรอนพูดขณะกำลังเคี้ยวเบคอนอยู่

       

      หลายวันต่อมา  เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังหาชุดไปงานไม่ได้  และเธอก็ไม่ได้มีความพยายามที่จะหามันเท่าไหร่นัก  เพราะเธอมีเรื่องอื่นที่ต้องทำมากกว่า  เธอมีการบ้านจำนวนมากที่ต้องทำ  ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามอย่างไม่ลดละที่จะอ่านหนังสือสำหรับสอบส.พ.บ.ส.และทำเลคเชอร์ไว้  รอนเริ่มล้อเธอเรื่องเธอกำลังจะกลายร่างเป็นหนังสือเดินได้  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ก็อารมณ์เสียใส่ทุกคนที่มากวนใจเธอ 

      จนกระทั่งเช้าวันอาทิตย์  หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันงานนกฮูกนาสองสามตัวช่วยกันแบกห่อพัสดุขนาดเท่าหนังสือเล่มใหญ่ ๆ หลายเล่มมา  และส่งมันให้เฮอร์ไมโอนี่

      นี่เธอสั่งหนังสือมาอ่านอีกหรือไงรอนแขวะ  ขณะมองพัสดุที่น่าจะบรรจุหนังสือแปลงร่างเล่มยักษ์ได้สักสองสามเล่มอย่างทึ่ง ๆ

      ฉันเปล่าสั่งมันมาเสียหน่อยเธอพูดอย่างงง ๆ และหยิบโน๊ตที่แปะอยู่ที่กล่องขึ้นมาดู

       

      อย่าเปิดที่โต๊ะอาหาร

      ผมเป็นคนที่เคยส่งหนังสือให้คุณคราวก่อน  คราวนี้ผมอยากให้คุณตอบแทนผมบ้าง  โดยการใส่ชุดที่ผมส่งมาให้และมาเจอผมที่หน้างานตอนสองทุ่มตรง

       

      ใครส่งมาน่ะรอนถามอย่างอยากรู้

      ไม่มีอะไรเฮอร์ไมโอนี่รีบพูด  เธอหนีบพัสดุไว้ในอ้อมแขนและลุกจากโต๊ะ

      เธออิ่มแล้วหรือ  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถาม

      อื้อ  เจอกันที่ห้องนั่งเล่นรวมนะเธอพูดกับเพื่อนทั้งสองและตรงกลับห้องไป

       

      เฮอร์ไมโอนี่กลับขึ้นหอนอนและไปเปิดพัสดุที่นั่น  เมื่อเธอแกะมันออกเธอตะลึงเมื่อรู้ว่ามันเป็นอะไร  มันเป็นชุดราตรีที่ทำให้เธอต้องทึ่งความงามของมัน  และความเบาบางของเนื้อผ้า  มันช่างเป็นชุดราตรีที่สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา  มันเป็นชุดเกาะอกสีชมพูจับระบายในตัว  และมันถูกประดับประดาด้วยลูกปัดเม็ดเล็ก ๆ และคริสตัลที่สะท้อนแสง  มีหน้ากากสีชมพู  และมงกุฎเพชรอันหนึ่งแนบมากับชุดด้วย

      โอ้โห  ชุดของเธอสวยจังลาเวนเดอร์พูดเมื่อเธอเข้ามาในห้อง ฉันว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นชุดไปงานแน่ ๆ

      ใช่  มันวิเศษเลยล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะเป็นเจ้าหญิงในงานเลยรู้ไหมปาราวตีพูดและลูบชุดของเธออย่างชื่นชม เธอสั่งตัดชุดนี้จากที่ไหนหรือเธอถาม  เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบ

      ฉัน...สั่งมาจากร้านแถวบ้านน่ะ  แล้วก็ขอให้แม่ส่งไปรษณีย์มาให้เธอโกหกเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องบุคคลลึกลับที่ส่งชุดมาให้เธอ

      เธอต้องสวยที่สุดในงานแน่ ๆ เฮอร์ไมโอนี่  เชื่อฉันสิลาเวนเดอร์พูด

       

      *************************************************

       

      เธอจะแต่งเป็นอะไรหรือเดรโก แพนซี่ถามเขาขณะที่พวกเขากำลังทำรายงานอยู่ในห้องสมุด 

      ไม่รู้ เขาตอบเรียบ ๆ และกลับไปสนใจแผ่นกระดาษตรงหน้า

      งั้นเรามาแต่งเป็นอะไรที่คู่กันดีไหม  อย่างเช่น... แพนซี่เริ่มพูด  มัลฟอยมีท่าทีรำคาญ  เขากำลังลุกจากโต๊ะ

      เดี๋ยวสิเดรโก  เดี๋ยวก่อน แพนซี่ร้องและเดินตามเขา  เป็นเวลาเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนี่  เดินผ่านมาพอดี  เธอกับมัลฟอยมองหน้ากันแวบหนึ่งก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะหลบสายตาของเขาไปทางอื่น

      เดรโก  อ้อ  ว่าไงยายเลือดสีโคลนเธอทักเฮอร์ไมโอนี่  และเกาะแขนมัลฟอยอย่างสนิทสนม  เด็กสาวมองทั้งสองแล้วฝืนยิ้ม

      หวัดดีแพนซี่  พยายามทำตัวเป็นปลิงอยู่หรือเฮอร์ไมโอนี่ย้อน  แพนซี่ชะงัก

      แกว่าฉันหรือยายเลือดสีโคลน!” แพนซี่ร้อง  ชี้หน้าเฮอร์ไมโอนี่

      ก็คงอย่างนั้นมั้ง  ฉันพูดตามที่ฉันเห็นน่ะเธอพูดเรียบ ๆ ในขณะที่แพนซี่เริ่มกรีดกร๊าดขึ้นมา

      แก  ยายเลือดชั้นต่ำ!” แพนซี่พูด  ในขณะที่มัลฟอยกรอกตาอย่างรำคาญ

      ระวังคำพูดด้วยนะแพนซี่  อย่าให้คนอื่นเขาแปลกใจล่ะว่าทำไมถึงมีคำพูดต่ำ ๆ หลุดออกมาจากปากของพวกชั้นสูงอย่างเธอ  หรือว่ามันเป็นสิ่งที่เธอเคยชินอยู่แล้วเฮอร์ไมโอนี่โต้ 

      แพนซี่ชะงักก่อนจะกรีดร้องเสียงดังลั่น  เธอพยายามจะสาปเฮอร์ไมโอนี่  และเธอก็เกือบทำสำเร็จเสียด้วย  ถ้าไม่ใช่ว่ามาดามพินซ์เข้ามาลากตัวแพนซี่ไปตักเตือนเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเธอเสียก่อน  แถมเธอยังโยนเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยออกไปจากห้องสมุดแทบจะในทันที  และตอนนี้พวกเขาทั้งสองก็กำลังยืนอยู่หน้าห้องสมุดเพียงสองคน

      เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ามัลฟอยอย่างไม่พอใจที่ทำให้เธอต้องพลอยโดนไล่ออกมาจากห้องสมุดด้วย 

      เธอจะแต่งเป็นอะไร  เกรนเจอร์มัลฟอยถามลอย ๆ

      นั่นมันเรื่องของฉัน  มัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่ตอบ

      งั้นฉันเดาว่าเธอจะแต่งเป็นเจ้าหญิงใช่ไหมเฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างแปลกใจ  เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอได้รับชุดเจ้าหญิงมา

      เจ้าหญิงเลือดสีโคลนมัลฟอยพูดต่อ  เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก  ใบหน้าเป็นสีแดง

      ถ้าความสามารถพิเศษของนายคือการดูถูกคนอื่นล่ะก็  เก็บมันไปใช้ไกล ๆ ฉันดีกว่านะเฮอร์ไมโอนี่สวนอย่างโกรธเคือง  ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าใส่เขาและกระแทกเท้าปึง ๆ จากไป  มัลฟอยมองเธอแล้วถอนใจ

      ถ้าเธอยอมแต่งเป็นเจ้าหญิงจริง  ฉันก็จะขอเป็นเจ้าชาย

                     

      *************************************************

       

      ในที่สุดก็มาถึงวันงาน  ห้องโถงถูกตกแต่งด้วยฟักทองขนาดยักษ์ของแฮกริดและค้างคาวเป็น ๆ จำนวนมาก  ภายในห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คนที่แต่งตัวแฟนซี  พวกผีของฮอกวอตส์ต่างมางานกันแทบทุกคน  แม้แต่เมอเทิร์ลจอมคร่ำครวญที่โผล่ออกมาจากน้ำพุหน้างานจนเกือบทำนักเรียนช็อกตาย  พีฟส์ผีโพสเตอร์ไกต์สร้างความปั่นป่วนในงานด้วยการไล่เอาเค้กป้ายหน้านักเรียน  ทำไวน์หกลงพื้น  ขโมยหน้ากากของผู้มาร่วมงานและเอามันไปแขวนไว้กับโคมระย้า  และพีฟส์คงสร้างความวุ่นวายอีกไม่รู้จักจบแน่ถ้าหากว่าบารอนเลือดไม่เข้ามาปรามเสียก่อน

      ในวันงานเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจสวมชุดที่เธอได้รับมาจากชายหนุ่มลึกลับ  คราวนี้เธอไม่ได้ยืดผมให้ตรงเหมือนก่อน  แต่เธอจัดทรงผมของเธอไม่ให้มันดูฟูฟ่อง  แต่กลับหยิกเป็นลอนสวยและติดเครื่องประดับเล็ก ๆ เข้าไป  และยิ่งเมื่อเธอสวมหน้ากากแล้วก็แทบไม่มีใครจำเธอได้เลย

      เด็กสาวตัดสินใจจะไปพบผู้ชายที่ส่งชุดมาให้เธอในวันงานตามที่เขาบอก  ด้วยเหตุผลเพราะว่าเธอต้องการขอบคุณเขาเรื่องหนังสือ  และอีกอย่างเธอก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร  แม้ว่าวิธีการขอเธอไปงานของเขามันจะออกจะแปลกประหลาดไปบ้างก็ตาม  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ชอบชุดที่เขาส่งมาให้เธอมาก  เธอรู้สึกราวกับเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ

      เฮอร์ไมโอนี่  นั่นเธอหรือนี่!” ลาเวนเดอร์ร้องเมื่อเห็นที่เด็กสาวแต่งตัวพร้อมจะไปงานเลี้ยง

      เธอสวยมากจริง ๆ ปาราวตีพูดและเริ่มสำรวจรอบ ๆ ตัวเธอ นัดใครไว้หรือเปล่านี่เธอแซว

      เปล่าซะหน่อยเฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธ พวกเธอก็สวยเหมือนกัน  ไปกันเถอะ

      เพคะ  เจ้าหญิง ลาเวนเดอร์แกล้งค้อมศีรษะลงต่ำ  เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ

      ไม่เอาน่า เธอว่า

      ฉันรับรองว่าผู้ชายทั้งงานต้องคลั่งเพราะเธอแน่ ปาราวตีรับประกัน  และทั้งหมดก็เดินออกจากหอไปด้วยกัน

       

      เฮอร์ไมโอนี่แยกกับลาเวนเดอร์และปาราวตีตรงทางเข้างานโดยเธออ้างว่าเธอนัดรอนกับแฮร์รี่ไว้ที่นี่  แต่เธอได้บอกเพื่อนทั้งสองไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไปเจอพวกเขาในงาน 

      ด้านหน้างานถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยซุ้มฟักทองฝีมือแฮกริด  และมัมมี่ของอียิปต์ที่ประจำอยู่ตรงทางเข้า  เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นปาราวตีตัวสั่นเมื่อเธอต้องเดินผ่านมัน  โดยมันจะยื่นมือมาหลอกคนที่เดินผ่านให้ตกใจ  แล้วก็ยังมีเสื้อเกราะของโรงเรียนที่มายืนเวรหน้างานด้วย  เด็กสาวพยายามมองหาคนที่นัดเธอไว้แต่เธอก็ไม่พบใคร 

      บางทีเขาอาจจะยังไม่มา  เฮอร์ไมโอนี่คิดเช่นนั้นและพยายามมองหาคนที่ว่า  เขาไม่ได้บอกเธอเลยว่าเขาจะแต่งตัวอย่างไร  เธอจึงไม่กล้าเข้าไปถามเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่แถวนั้นว่าใช่คนที่ส่งชุดมาให้เธอหรือเปล่า  ความจริงแล้วเธอไม่ควรจะมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ  มันอาจจะเป็นแค่เพียงเรื่องตลกร้ายกาจของใครบางคน

                      เฮอร์ไมโอนี่รออยู่สักพักหนึ่งก็ไม่มีใครมาทักเธอ  เด็กสาวกำลังจะหันหลังกลับและเดินเข้าไปในงาน  แต่เธอกลับชนเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านมาพอดี

      ขอโทษค่ะเฮอร์ไมโอนี่พูด 

      ไม่เป็นไรครับเธอสังเกตว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่สวมชุดราชวงค์อังกฤษ  และสวมหน้ากากขนนกอันใหญ่  หน้ากากแบบเดียวกับเธอเพียงแต่ของเขาเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น

      คุณคือ.....?”

      อ้อ  ครับ  ผมเป็นคนที่นัดคุณออกมาเขาตอบ

      งั้นคุณก็เป็นคนส่งหนังสือนั้นกลับมาให้ฉันน่ะสิเฮอร์ไมโอนี่ถาม

      ครับ

      ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ  คุณหามันเจอได้ยังไงคะเธอถาม  เขามีท่าทีอ้ำอึ้ง

      เอ่อ  ผมเจอมันในพุ่มไม้น่ะครับเขาตอบ

      เหรอคะ  แล้วคุณเข้าไปหาอะไรในนั้นล่ะเธอถาม 

      เอ้อ  ผมคิดว่าเราเข้าไปในงานกันดีไหมครับเขาเสนอ  และยื่นมือมาให้เฮอร์ไมโอนี่จับ  เด็กสาวพยักหน้าและเดินเข้าไปในงานพร้อมกับเขา

       

      เหนือขึ้นไปบนเพดานเนรมิตร  ฝูงค้างคาวเป็น ๆ กำลังบินอยู่เหนือรอบ ๆ ห้องโถงไป  ภายในห้องไม่ได้อาศัยแสงใดเลยนอกจากแสงเทียนที่วางอยู่ในปากของลูกฟักทองแกะสลัก  มันถูกนำไปวางไว้รอบ ๆ งานและในทุก ๆ โต๊ะอาหาร  ซึ่งเป็นโต๊ะกลมเล็ก ๆ พอที่จะนั่งได้เพียงสามสี่คนเท่านั้น  ตรงกลางห้องโถงเป็นฟลอร์เต้นรำ  และมีฟักทองลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่เคยเห็นวางอยู่กลางงาน  ถัดจากพักทองไปก็เป็นเค้กรูปสุสานอันเท่าของจริงที่มีข้อความอวยพรการครบรอบวันตายของนิกหัวเกือบขาดสลักอยู่  โต๊ะอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่มุมห้อง  เฮอร์ไมโอนี่พยายามมองหาเพื่อน ๆ ของเธอ  แต่แสงไฟสลัว ๆ ในงานประกอบกับการแต่งกายแฟนซีทำให้เธอดูไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร

      ชายหนุ่มพาเฮอร์ไมโอนี่เดินไปที่โต๊ะเครื่องดื่ม  และสั่งเครื่องดื่มมาสองแก้ว 

      ทำไมคุณถึงส่งชุดนี้มาให้ฉันล่ะคะเฮอร์ไมโอนี่ถาม  และจิบเครื่องดื่ม

      เพราะผมเห็นว่าคุณกำลังต้องการมันน่ะสิเขาตอบและยิ้มอย่างมีเลศนัย

      เหรอคะ  คุณรู้หรือคะว่าฉันยังหาชุดไม่ได้เธอถาม

      ผมแค่เดาเอา เขาโบกมือที่ถือเครื่องดื่ม

      แล้วคุณเป็นใครกัน  ถึงรู้เรื่องของฉันดีอย่างนี้เธอพูด  หรี่ตาลงอย่างสงสัย   เขามีท่าทีครุ่นคิด

      ในงานนี้มีกฎว่าห้ามเปิดเผยตัวจริงจนกว่าจะเที่ยงคืนไม่ใช่เหรอเขาพูดอย่างอารมณ์ดี 

      มันเป็นเพราะกฎหรือเพราะว่าคุณพยายามจะปิดปังมันกันแน่เธอถาม 

      ทั้งสองอย่างมั้ง  ทำไมคุณถึงสงสัยอะไรผมนักล่ะ  ทำไมไม่คิดว่าผมก็แค่คนที่เจอหนังสือของคุณแล้วก็หยิบมันขึ้นมา  จากนั้นก็ต้องการเอามันไปคืนเจ้าของเขาพูด

      แล้วก็อยากนัดเธอออกมาเจอ  โดยไม่ให้เธอรู้ว่าคุณเป็นใครใช่ไหมคะเฮอร์ไมโอนี่ท้วง คุณรู้ได้ยังไงคะว่าหนังสือนั่นเป็นของฉัน

      ก็เพราะผมเห็นชื่อของคุณในนั้นน่ะสิเขาตอบ

      เหรอคะ  คุณแอบเปิดมันด้วยเธอพูด 

      ถ้าผมไม่เปิดมัน  ผมจะรู้ได้ยังไงว่าผมควรจะคืนมันให้ใครเขาย้อนถาม  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขา

      แล้วคุณได้อ่านมันไหมคะเธอถามและจิบเครื่องดื่ม

      อ่าน  ผมอ่านแล้ว  เป็นนิยายที่มหัศจรรย์จริง ๆ เขาตอบ

      คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่บอกว่ามันเป็นนิยาย  มันไม่ใช่เสียหน่อยค่ะ  แต่รอนเพื่อนของฉันก็เคยคิดอย่างนั้นเธอพูดอย่างลืมตัว  เขาหรี่ตาลง

      วีสลีย์น่ะหรือ

      รู้จักรอนด้วยหรือคะเธอพูด อ้อ  แต่ยังไงก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว  ก็เพราะเราอยู่โรงเรียนเดียวกันนี่เธอว่า

      ใช่เขาตอบ  มือของเขากำแก้วและเริ่มบีบมัน

      เป็นอะไรหรือเปล่าคะเฮอร์ไมโอนี่ถาม

      อ้อ  เปล่าเขาปฏิเสธและยกแก้วขึ้นจิบ ผมอ่านหนังสือเล่มนั้นจบแล้ว  ก่อนที่จะส่งมันคืนคุณ  คงไม่ว่านะเฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

      ไม่ค่ะ  ความจริงฉันก็อ่านมันจบแล้ว  เพียงแต่ว่าฉันต้องเอามันทำรายงานส่งอาจารย์น่ะค่ะเฮอร์ไมโอนี่พูดและเริ่มหมุนแก้วในมือ  ฉันตกใจมากเลยตอนมัลฟอยโยนมันออกไปนอกระเบียง  เดรโก  มัลฟอยน่ะค่ะ  เขาอยู่บ้านสลิธีรินเธอเล่า

      ตกใจมากเลยหรือครับ  แล้วคุณโกรธเขาหรือเปล่าชายหนุ่มถาม

      โกรธค่ะเธอตอบตามตรง แต่มันก็เป็นเรื่องปรกติของมัลฟอย  เขาชอบหาเรื่องมาแกล้งฉัน  เขาคงมีความสุขที่เห็นฉันเดือดร้อน  เขารังเกียจพวกเลือดสีโคลนอย่างฉันน่ะค่ะ

      แล้วคุณก็รังเกียจเขาชายหนุ่มถาม  เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าครุ่นคิด

      ฉันจะไม่รังเกียจเขาหรอกค่ะถ้าเขาไม่ทำเรื่องต่าง ๆ นั่น  ถ้าเขาไม่มาหาเรื่องพวกฉันก่อนเฮอร์ไมโอนี่ตอบ  ชายหนุ่มกลืนน้ำลายและยกแก้วขึ้นจิบอีกครั้ง 

      แล้ว....ถ้าผมเป็นเขาล่ะเขาถาม  เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าตกใจ  แต่ก็เปลี่ยนไปเป็นขบขัน

      คุณเป็นเขาไม่ได้หรอกค่ะ  คุณสุภาพกว่าเขาเยอะเฮอร์ไมโอนี่พูด ถ้าคุณเป็นเขาจริง ๆ คุณคงไม่มานั่งคุยกับฉันอย่างนี้หรอกค่ะเธอหัวเราะ

      แล้วถ้ามัลฟอยมานั่งคุยกับคุณอย่างนี้  คุณจะแปลกใจไหมครับเขาถาม  เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด

      คงแปลกใจมาก ๆ เลยค่ะ  คุณมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขาหรือเปล่าคะเธอถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์  ชายหนุ่มยักไหล่

      เปล่าครับเขาตอบ คุณรู้ไหมว่าผมอยากพูดอะไร

      อะไรคะเฮอร์ไมโอนี่ถาม  ชายหนุ่มเรียกให้เธอโน้มศีรษะมาใกล้ ๆ

      ผมอยากเต้นรำกับคุณ  ได้ไหมครับเขาถาม  และจับมือของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาจูบเชา ๆ  เด็กสาวรู้สึกขนลุกซู่

      ได้ค่ะ  ยินดีค่ะเธอตอบ  ชายหนุ่มลุกขึ้นและส่งมือให้เธอจับ

      เชิญ  คุณผู้หญิงเขาพูด  และทั้งสองก็เดินไปสู่ฟลอร์เต้นรำด้วยกัน

       

      *************************************************

       

      อีกด้านหนึ่งของงาน  แฮร์รี่กำลังนั่งอยู่กับรอนที่โต๊ะ ๆ หนึ่ง  แฮร์รี่แต่งตัวเป็นทหารอียิปต์โบราณ  ขณะที่รอนแต่งเป็นมัมมี่  โดยทั้งสองปฏิเสธคำแนะนำของ  ดีน  โทมัส  ที่บอกให้พวกเขาคนหนึ่งแต่งเป็นคลีโอพัตรา  และคนหนึ่งแต่งเป็นจูเลียต  ซีซาร์  ส่วนดีนนั้นแต่งเป็นเบลดนักฆ่าแวมไพร์จากหนังเรื่องเบลด  ส่วน เชมัส  ฟินนิกันแต่งเป็นเคาท์แดร็กคิวล่า 

      ปาราวตีกับลาเวนเดอร์เดินเข้ามาสมทบกับพวกเด็กกริฟฟินดอร์ทีหลัง  ปาราวตีแต่งเป็นเจ้าสาวผีดิบที่มีเขี้ยวยาว  เธอสวมชุดแต่งงานที่มีเลือดเปรอะเปื้อน  ส่วนลาเวนเดอร์แต่งเป็นนางเงือก  เธอสวมชุดกระโปรงสีเขียวยาวจรดพื้น

      หวัดดี  ปาราวตีรอนพูดพร้อมกับยกแขนขึ้นสูงและตั้งใจจะหลอกเธอ  ปาราวตีตีเขา

      ฉันไม่ตลกด้วยนะรอนเธอพูดและเอามือกุมอก 

      พวกเธอเห็นเฮอร์ไมโอนี่ไหมแฮร์รี่ถามขณะที่แบกโล่หนัก ๆ เอาไว้ในมือ

      ก็เฮอร์ไมโอนี่บอกว่านัดพวกเธอสองคนไว้ที่หน้างานนี่ลาเวนเดอร์พูด  แฮร์รี่กับรอนมีท่าทีงุนงง

      เธอไม่ได้นัดเราไว้ซะหน่อยรอนพูดอย่างงุนงงไม่แพ้กัน  ในขณะแฮร์รี่หันไปทักที่น้องควีฟวีย์ที่แต่งตัวเป็นเขาอย่างเสียไม่ได้  คอลินและเดนิสต่างสวมเครื่องแบบฮอกวอตส์  และเอาสีมาวาดเป็นรูปสายฟ้าที่หน้าผาก  รวมทั้งถือไม้กวาดและใส่แว่นทรงกลมเหมือนเขาเปี๊ยบเลย 

      ฉันว่านายไม่ดีใจเท่าไหร่ใช่ไหมรอนกระซิบ

      ไม่เลยแฮร์รี่พูดอย่างหนักแน่น

      แล้วตกลงเฮอร์ไมโอนี่ไปอยู่ที่ไหนนี่รอนพูดอย่างสงสัยแล้วจึงหันไปถามปาราวตี  เธอแต่งเป็นอะไรปาราวตีกับลาเวนเดอร์ยิ้ม

      เธอต้องเห็นเองรอน  มันน่าทึ่งมาก ๆ เลยล่ะเธอตอบและหัวเราะคิกคัก

       

      ในขณะนั้นเองเฮอร์ไมโอนี่กำลังเต้นรำอยู่กับชายหนุ่มที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใครใจกลางฟลอร์  แม้เธอจะดูเคอะเขินอยู่บ้าง  แต่เด็กสาวก็ยอมรับว่าชายหนุ่มที่เธอเต้นรำด้วยนั้นเต้นได้ดีทีเดียว  แถมเขายังนำเฮอร์ไมโอนี่ในการเปลี่ยนท่าและออกสเตปต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม 

      ฉันลืมถามไปว่า  คุณแต่งเป็นอะไรคะเฮอร์ไมโอนี่พูด

      ลองเดาสิเขาตอบและยิ้มกวน ๆ

      คุณดูเหมือนทหารเฮอร์ไมโอนี่มองชุดเขาแล้วตอบ ทหารอังกฤษอะไรทำนองนั้นน่ะ

      แล้วคุณคิดว่าคุณแต่งเป็นอะไรล่ะเขาถามกลับ  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว

      เท่าที่ฉันรู้คือฉันแต่งเป็นผู้หญิงเธอตอบ

      ถ้าคุณแต่งเป็นผู้หญิง  ผมก็แต่งเป็นผู้ชายเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม

      คุณจะตอบคำถามของฉันตรง ๆ ไม่ได้หรือคะเธอว่า  ชายหนุ่มมีท่าทีครุ่นคิด

      ก็ได้ครับ  งั้นผมจะบอกว่าชุดที่ผมส่งให้คุณเป็นชุดของเจ้าหญิงเขาตอบ แล้วลองทายสิว่าผมจะแต่งเป็นอะไรเฮอร์ไมโอนี่ทำท่าคิด  เธอยิ้ม

      เจ้าชายหรือคะเฮอร์ไมโอนี่ทาย  ชายหนุ่มยิ้มให้เธอแทนคำตอบ  ทั้งสองโดดเด่นอยู่กลางฟลอร์จนกระทั่งลาเวนเดอร์สังเกตเห็นเธอ  เพราะเธอจำชุดของเฮอร์ไมโอนี่ได้

      นั่นมันเฮอร์ไมโอนี่นี่ลาเวนเดอร์บอก  และชี้ให้เพื่อน ๆ ที่เหลือดู  ทุกคนมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ  รอนอ้าปากค้าง

      เธอเต้นรำอยู่กับใครน่ะรอนพูด  เพ่งตามองไปกลางฟลอร์

      ไม่รู้สิ  เธอบอกว่าเธอไม่ได้นัดใครไว้นี่ปาราวตีพูดพลางขมวดคิ้ว  แต่เธอแน่ใจว่านั่นคือเฮอร์ไมโอนี่แน่ ๆ

      บางทีเธออาจจะเจอเขาในงานก็ได้  เฮอร์ไมโอนี่แต่งตัวสวยขนาดนั้นคงต้องมีคนมาขอเต้นรำอยู่แล้วแฮร์รี่พูดอย่างมีเหตุผล  แต่รอนกลับดูโกรธเคือง

      แต่เธอจะไปเต้นรำกับคนที่เธอไม่รู้จักได้ยังไงกันเขาพูด

      แต่เขาอาจจะเป็นคนที่เรารู้จักก็ได้  อย่าลืมสิว่าเขาอยู่โรงเรียนเดียวกับเราแฮร์รี่เตือนแต่รอนดูจะไม่ฟังเขาเลย 

      ฉันจะไปหาเฮอร์ไมโอนี่ เขาพูดเพียงเท่านั้นแล้วจึงรีบผลุนผลันออกจากโต๊ะไป

       

      เฮอร์ไมโอนี่กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานแต่จู่ ๆ รอนก็โผล่มาเสียก่อน

      เฮอร์ไมโอนี่เขาเรียก  เด็กสาวหันไป

      รอน...เธอร้องอย่างงง ๆ และเริ่มสำรวจชุดของเขา เธอแต่งเป็นมัมมี่เหรอเธอพูด  รอนทำหน้าบึ้ง

      ฉันมาตามเธอกลับโต๊ะเขาพูดพยักเพยิกไปที่โต๊ะที่เขาและเพื่อน ๆ นั่ง 

      แต่นี่ยังไม่จบเพลงเลยนะเธอพูด  แต่รอนไม่ฟัง

      ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเต้นกับคนที่เธอไม่ได้รู้จักนี่รอนส่งสายตาไม่ปรารถนาดีไปให้คู่เต้นของเธอ

      ทำไมเธอพูดอย่างนี้ล่ะรอน  เขาก็อยู่โรงเรียนเดียวกับเรานะเฮอร์ไมโอนี่พูด  รอนดึงเธอออกไปจากฟลอร์

       แต่เธอรู้เหรอว่ามันเป็นใคร เขาถาม

      ฉันไม่รู้เธอพูด  รอนทำหน้าประมาณว่า นั่นไง! ’ 

      แต่ดัมเบิลดอร์จัดงานนี้ขึ้นเพื่อต้องการให้เราเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านนะ  แล้วอาจารย์ก็ห้ามเราเปิดเผยตัวจริงก่อนเที่ยงคืนเธอพูดอย่างมีเหตุผล

      แต่ถ้าไอ้คนที่เธอเต้นรำอยู่มันเป็นพวกสลิธีรินล่ะ  มันเป็นศัตรูกับเรานะเขาเถียง  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว

      เขาไม่ได้เป็นสลิธีรินหรอก  รอน  เขาสุภาพกว่าพวกนั้นเยอะเธอพูด

      เขาบอกเธอหรือว่าเขาอยู่บ้านไหนรอนท้วง  พนันได้เลยว่าเขาต้องหลอกเธอแน่ ๆ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหมดความอดทน

      ฟังนะรอน  ที่ฉันเต้นรำกับเขาฉันไม่ได้สนว่าเขาต้องอยู่บ้านไหน  ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย  ฉันแค่อยากจะทำความรู้จักกับเขาก็เท่านั้น  และฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไรด้วย  แต่ถ้าเธอคิดว่ามันเป็นความผิดอะไรล่ะก็  ฉันก็ช่วยไม่ได้นะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโมโห 

      ก่อนจะสะบัดหน้าใส่เขาและเดินปึงปังกลับไปที่ฟลอร์อีกครั้ง  โดยมีคู่เต้นของเธอรออยู่ที่นั่น

      มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเขาถาม  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

      ไม่มีหรอก...เธอตอบ  และมองไปที่รอนที่กำลังมองมาทางพวกเขา 

      จะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยากออกไปข้างนอกหน่อยน่ะเฮอร์ไมโอนี่พูด  ชายหนุ่มพยักหน้า

      ได้สิ  ไปกันเลยดีไหมเขาพูดและจูงมือเธอเดินออกไปจากงาน  ในขณะที่รอนมองตามพวกเขาไปอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่กับคู่เต้นของเธอเดินออกมาที่สนามหญ้า  ทั้งสองทรุดตัวลงบนพื้นหญ้าและมองออกไปที่ทะเลสาบสีดำสนิท  ก่อนที่จะทอดสายตาไปบนท้องฟ้าสีกำมะหยี่ที่มีดวงดาวนับพันประดับอยู่ราวกับอัญมณี

      ท้องฟ้าสวยนะเฮอร์ไมโอนี่พูด  เงยหน้ามองหมู่ดาว

      ใช่  สวย  แต่ไม่เท่าคุณรู้ไหมชายหนุ่มพูด  เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขา

      อย่ามาพูดเล่นกับฉันเลยเธอบอก  แต่ใบหน้ากลับเป็นสีชมพู

      ผมไม่ได้พูดเล่นนะ  คืนนี้คุณสวยจริง ๆ เขาบอก  และยกมือขึ้นลูบแก้มของเธอเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกไป 

      เด็กสาวใจเต้นแรงเมื่อเขายื่นหน้ามาใกล้  เสียงเพลงจากงานเลี้ยงแว่วมาราวกับเสียงกระซิบ  สายลมเย็น ๆ พัดมาจากทางทะเลสาบ  ชายหนุ่มตรงหน้ามองเธอด้วยแววตาที่มีความหมายก่อนจะตัดสินใจประทับริมฝีปากกับเธอ

      มันเป็นจูบที่นุ่มนวลและอ่อนโยนมากเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึก  แต่เธอกลับเบี่ยงตัวหลบในเวลาต่อมา  ชายหนุ่มมองเธออย่างไม่เข้าใจ

      ขอโทษ  ฉัน....เธอพูด 

      ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ  จูบแรกอย่างนั้นหรือเขาถาม

      เอ่อ...เฮอร์ไมโอนี่นึกในใจ  ภาพที่มัลฟอยจูบเธอบนรถไฟปรากฏขึ้นในหัวสมอง  เด็กสาวกัดริมฝีปาก

      ใช่  เป็นจูบจริง ๆ ครั้งแรกของฉันเธอตอบ  ชายหนุ่มมองเธออย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป

      งั้นก็ขอโทษด้วยชายหนุ่มพูด

      ไม่เป็นไรเธอตอบ  รู้สึกเคอะเขิน  เธอคิดว่ามันไม่ถูกต้องเท่าไหร่นักที่เธอไปจูบกับคนที่เธอไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นใคร  แต่อีกใจหนึ่งเธอก็กลับต้องการให้เขาทำเช่นนั้น

       

      สายลมเย็น ๆ ผัดผ่านเด็กทั้งสอง  เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้า  ดวงดาวจำนวนมากมายกำลังทอแสงสีเงิน  ชายหนุ่มเหยียดแขนออกและล้มตัวลงบนพื้นหญ้า  เขาเอาแขนทั้งสองหนุนหัว

      นอนลงซิ  จะได้เห็นท้องฟ้าชัดขึ้น เขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวลงอย่างเกรง ๆ 

      ไม่ต้องกลัวหรอก เขาพูดยิ้ม ๆ และชี้ให้เธอดูกลุ่มดาวรูปต่าง ๆ

      ทำไมคุณถึงชวนฉันมางานหรือคะ เฮอร์ไมโอนี่ถาม

      ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะเขาพูด

      ฉันอยากรู้เธอพูดตามตรง  เขาถอนใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

      ที่ฉันชวนเธอมางานก็คงเป็นเพราะเหตุผลเดียวกับที่ผู้ชายหลาย ๆ คนอยากชวนเธอ  เหมือนกับที่ครัมชวนเธอไปงานเต้นรำตอนปีสี่ไงเขาพูด

      คุณรู้เรื่องวิคเตอร์ด้วยหรือคะ เฮอร์ไมโอนี่อึ้ง

      แน่นอนว่าทุกคนที่ชอบควิดดิชรู้เรื่องของเขาเขาตอบ

      แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใครเฮอร์ไมโอนี่พูดตามตรง 

      เดี๋ยวเธอก็คงได้รู้เขาตอบ แต่เมื่อถึงตอนนั้นเธอยังอยากจะคุยกับฉันอย่างนี้หรือเปล่าก็เท่านั้นชายหนุ่มตอบเรียบ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว

      หมายความว่ายังไงคะเธอถาม  เขาโบกมือ

      ช่างมันเถอะ  เธอเห็นกลุ่มดาวนั่นไหมเขาพูดและชี้มือไปบนท้องฟ้า

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาเพราะเธอได้ยินเสียงนาฬิกาที่ดังขึ้น  เด็กสาวงัวเงียและลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ เมื่อเธอมองไปข้าง ๆ ก็เห็นชายหนุ่มกำลังนอนหลับอยู่บนพื้นหญ้า  หัวของเขาหนุนมือทั้งสองอยู่

      เที่ยงคืนแล้วหรือนี่  เธอคิดและถอดหน้ากากออกเพื่อขยี้ตา  เธอมองไปยังร่างที่อยู่ข้าง ๆ และก็นึกอะไรบางอย่างได้

       

      จนกระทั่งเที่ยงคืน  เราถึงจะอนุญาตให้ถอดหน้ากากออกได้

       

      เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงนาฬิกาดังขึ้นอีกจนกระทั่งครบสิบสองครั้ง  แสงไฟสว่างจ้าส่องมาจากทางงานเลี้ยงและมีเสียงเฮลั่นตามมา  พร้อมกับเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่  นี่คงเที่ยงคืนแล้วจริง ๆ และตอนนี้ก็คงถึงเวลาถอดหน้ากากเพื่อเปิดเผยตัวจริงแล้ว 

      เธอมองไปที่ชายหนุ่มข้าง ๆ เขากำลังหลับอย่างมีความสุข  เฮอร์ไมโอนี่เข้าไปใกล้เขา  ริมฝีปากเรียวบางนั้นดูคุ้นตาอย่างประหลาดเมื่อเธอเห็นมันอย่างชัดเจนเพราะแสงไฟที่ส่องมาจากงาน  เด็กสาวเอื้อมมือไปแกะหน้ากากของเขาช้า ๆ รู้สึกอยากรู้เป็นอย่างมากว่าเขาเป็นใครกัน

       

       ใครนะที่เป็นคนเก็บหนังสือของเธอมาคืน  ใครที่เป็นคนส่งชุดแสนสวยนี้มาให้เธอ  และใครที่เป็นคนมอบจูบที่แสนโรแมนติกให้กับเธอในค่ำคืนนี้

       

      เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ หยิบหน้ากากออกจากใบหน้าที่หลับใหลของเขา  เธอกลั้นใจอย่างตื่นเต้นก่อนจะตัดสินใจดึงมันออกมา  แต่เมื่อใบหน้าของเขาปรากฏสู่สายตา  สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นตกตะลึง

      เพราะมันเป็นใบหน้าของ  เดรโก  มัลฟอย!

      ชั่วครู่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับเธอได้เป็นซินเดอเรล่าและได้เต้นรำกับเจ้าชาย  เธอได้มีค่ำคืนที่แสนโรแมนติกกับชายหนุ่มลึกลับที่เธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้รู้ว่าเขาเป็นใคร  แต่เมื่อถึงตอนนี้เธอก็ได้รู้เพียงแค่ว่า  เธอเป็นแค่เพียงผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งที่ถูกหลอกเท่านั้น

      มัลฟอยเริ่มรู้สึกตัว  เขากระพริบตาสู้แสงและค่อย ๆ ลืมมันขึ้น  เมื่อเขาเห็นภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่ถอดหน้ากากออกแล้ว  สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตกใจ 

      เกรนเจอร์มัลฟอยพึมพำพร้อมกับคลำหน้าตัวเอง  และพบว่าเขาไม่ได้ใส่หน้ากากเช่นกัน

      นี่ใช่ไหมโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโมโห  ก่อนจะเหวี่ยงหน้ากากในมือใส่เขาและลุกขึ้นจากพื้น  มัลฟอยรีบลุกตาม

      เดี๋ยวก่อนสิเกรนเจอร์  ฟังฉันอธิบายก่อนมัลฟอยพูด  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจ้ำพรวด ๆ ไปที่ปราสาท

      คงสนุกมากสินะที่ได้หลอกฉันน่ะ  ฉันคงเป็นตัวตลกให้นายหัวเราะเล่นใช่ไหมเธอพูดอย่างโกรธเคือง  น้ำตาคลอเบ้า  มัลฟอยรั้งแขนเธอไว้

      ไม่ใช่อย่างนั้นเลย  ได้โปรดฟังฉันก่อนเกรนเจอร์  ได้โปรดเขาพูด  พยายามรั้งตัวเด็กสาวไว้  แต่เธอไม่ยอมฟัง

      ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว  ฉันจะไม่ยอมเป็นคนโง่ให้เธอหลอกอีกหรอกนะ  ปล่อยฉันมัลฟอย!” เธอพูดเสียงดังราวกับว่ามันเป็นคำขาด  เฮอร์ไมโอนี่สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขาและวิ่งขึ้นบันไดปราสาทไป

       

      เด็กสาวตรงกลับหอนอนทันที  เธอพบแฮร์รี่กับรอนที่ห้องนั่งเล่นรวม 

      เธอหายไปไหนมาน่ะ  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถาม 

      คงไปอยู่กับคู่เต้นของเธอน่ะสิใช่ไหมรอนพูด แล้วตกลงเธอรู้แล้วใช่ไหมว่าเขาเป็นใครน่ะ

      เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ  เธอเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา 

      เธอเป็นอะไรรึเปล่า  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถาม  เด็กสาวส่ายหน้าและเอามือปาดน้ำตา

      ไงล่ะ  เป็นอย่างที่ฉันพูดไหม  ตกลงมันอยู่บ้านไหนล่ะ  ใช่สลิธีรินหรือเปล่ารอนกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ  แฮร์รี่มองเขาดุ ๆ

      เงียบก่อนน่ารอนเขาหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่  เกิดอะไรขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่ถาม  เด็กสาวกัดริมฝีปากแน่น  รู้สึกกดดันเป็นที่สุด  แต่สักครู่เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม

      ไม่มีอะไรแฮร์รี่  ขอบคุณนะที่เป็นห่วงเธอบอกด้วยท่าทีฝืน ๆ แล้วจึงเดินขึ้นหอนอนไป

       

      เฮอร์ไมโอนี่เดินขึ้นหอนอนมาด้วยท่าทีหมองเศร้า  เด็กสาวพยายามปาดน้ำตาที่ไหลริน  ในชั่วขณะหนึ่งเธอคิดว่าเธอกำลังตกหลุมรัก  กับผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยน  แต่ในเวลาต่อมา  ความรู้สึกนั้นกลับพังทลายไปในพริบตา  เฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวลงบนเตียงโดยไม่สนใจเสียงเรียกของปาราวตี  เธอหลับตาลงและขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ฝัน

       

      *************************************************

       

      หลายวันต่อมา  เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย  ความจริงมัลฟอยก็พยายามหาโอกาสที่จะได้คุยกับเธอ  แต่ติดตรงที่เฮอร์ไมโอนี่มีแฮร์รี่กับรอนขนาบข้างอยู่ในทุก ๆ ที่ที่เธอไป  และคงเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าไปคุยกับเธอโดยมีทั้งสองอยู่ด้วย

       

      จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งสัปดาห์นับจากวันงาน  มัลฟอยก็ยังพยายามจะหาทางอธิบายเฮอร์ไมโอนี่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น  เขาส่งจดหมายมาให้เธอหลายฉบับ  แต่เธอไม่ยอมเปิดอ่านเลยแม้แต่ฉบับเดียว 

      จนกระทั่งคืนหนึ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องเดินตรวจบริเวณตามหน้าที่ของเธอ  ขณะเด็กสาวกำลังเดินตรวจชั้นสามอยู่  จู่ ๆ ก็มีมือลึกลับเข้ามาปิดปากเธอจากด้านหลังและลากเธอเข้าไปในห้องเรียนที่ไม่มีคน

      เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรน  จนกระทั่งเธอได้เห็นหน้าของคนที่กำลังทำร้ายเธอ

       

      มัลฟอย!” เธอพึมพำทำอะไรของนายน่ะ

      ฉันแค่อยากคุยกับเธอมัลฟอยพูด  อยากอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น

      ไม่มีอะไรต้องอธิบายแล้ว  หลีกไปฉันจะกลับหอเธอพูดเสียงเข้ม  แต่มัลฟอยกลับมายืนขวางประตูไว้

      ถอยไป  มัลฟอย!” เธอพูด  เขาส่ายหน้า

      ฉันจะไม่ยอมให้เธอไปไหนจนกว่าเธอจะยอมฟังฉันมัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีรำคาญ  เธอชักไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา

      ถ้านายไม่ถอยไปฉันจะสาปนายนะเธอขู่  แต่เขาไม่หลบเธอเลยแม้แต่น้อย  เขาดูไม่เกรงกลัวด้วยซ้ำ  เฮอร์ไมโอนี่เอาไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่คอของมัลฟอย  แต่เขากลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน

      เธออยากจะสาปฉันก็ได้  แต่ได้โปรด  ฟังฉันพูดบ้างเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสับสน  ในที่สุดเธอก็ยอมลดไม้กายสิทธิ์ลง

      อยากพูดอะไรก็ตามใจเธอบอก แต่บอกไว้ก่อนนะว่าที่ฉันยอมฟังนายไม่ได้หมายความว่าฉันจะเชื่อนายนะ

      แค่เธอยอมฟังก็พอมัลฟอยพูด  และเริ่มอธิบายเรื่องทั้งหมด

      อย่างแรกฉันอยากจะขอโทษเธอที่ฉันหลอกเธอ  แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น  ฉันแค่อยากจะชวนเธอไปงานเท่านั้น  แต่ถ้าเธอรู้ว่าเป็นฉันเธอคงไม่ยอมไปแน่มัลฟอยเริ่มพูด

       

      ในวันนั้น  วันที่ฉันจูบเธอบนรถไฟ  พอเธอตบฉัน  ฉันก็รู้สึกผิดขึ้นมา  แต่ฉันก็ปล่อยมันไว้และไม่ได้ไปขอโทษเธอ  จนกระทั่งฉันเจอหนังสือที่เธอทำหล่นไว้  ฉันเก็บมันไว้และคิดว่าจะเอาไปคืน  แต่พอเจอหน้าเธอฉันก็กลับพูดไม่ดีกับเธอไปจนได้  ตอนนั้นฉันคิดว่าจะแกล้งเธอนิด ๆ หน่อย ๆ  แต่ตอนที่ฉันเห็นเธอลงไปเก็บหนังสือนั่น  ฉันเลยรู้ว่ามันสำคัญกับเธอมาก  และฉันก็รู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้งเขาบอก  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากเป็นเส้นบางเฉียบ

      พอเธอกลับหอนอนไป  ฉันก็เลยใช้คาถาเรียกของเรียกมันขึ้นมาและส่งมันคืนให้เธอ  หลังจากนั้นฉันก็เริ่มคิดว่าคงดีมากถ้าเธอไปงานกับฉัน  และฉันก็ได้ยินมาว่าเธอยังไม่ได้เตรียมชุดไว้  ฉันจึงส่งชุดไปให้เธอ  และหวังว่าเธอคงจะชอบมันและใส่มันมาพบฉัน

      เมื่อถึงวันงาน  ฉันดีใจมากที่เธอยอมมา  เธอดูสวยมากในชุดที่ฉันเลือก  และฉันก็รู้สึกดีมากที่ได้ไปงานกับเธอ  แต่ใจหนึ่งฉันก็กังวลว่าเธอจะรู้ว่าฉันเป็นใคร  ฉันกลัวว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืน  ฉันอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นตอนที่เราอยู่ด้วยกัน  เพราะกลัวว่าเมื่อเธอรู้ว่าที่จริงฉันเป็นใครแล้วเธอก็จะโกรธฉัน  แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาพูดอย่างเศร้าสร้อย  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสับสน  เธอไม่คิดว่าคนอย่าง  เดรโก  มัลฟอย  จะมาพูดเรื่องนี้กับเธอ

       

      นั่นเป็นทั้งหมดที่ฉันต้องการพูด  แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอเสียใจหรือตั้งใจจะหลอกเธอจริง ๆ มัลฟอยพูดอย่างหนักแน่น  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างไม่เข้าใจ

      แล้วทำไมเธอต้องทำทั้งหมดนี่เพื่อฉันด้วยล่ะมัลฟอยเธอถาม  มัลฟอยเม้มปาก

      เพราะฉันคิดว่าฉันรักเธอ  เกรนเจอร์เขาสารภาพ  เฮอร์ไมโอนี่ดูตกใจ

      แล้วนี่เป็นเรื่องโกหกเรื่องหนึ่งของเธอหรือเปล่าเฮอร์ไมโอนี่พูด  มัลฟอยส่ายหน้า

      เปล่าเขาบอก  เธอมองเขาอย่างครุ่นคิดและหลับตาลง

       ถ้าอย่างนั้น  ตอนที่นายอยู่กับฉันในงาน  ตอนที่ฉันยังไม่รู้ว่านายเป็นใคร  สิ่งที่นายทำทั้งหมดในตอนนั้นเป็นการเสแสร้งหรือเปล่าเธอถาม

      เธอคิดว่าฉันแกล้งทำหรือเขาถามกลับ

      ฉันแค่อยากรู้เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

      ฉันไม่ได้แกล้งทำอะไรเลยในวันนั้น  ฉันแค่ทำไปตามความรู้สึกเท่านั้นมัลฟอยบอกเธอ

      รวมทั้งเรื่องจูบด้วยหรือเปล่าเธอถาม 

      ทุก ๆ อย่าง  เกรนเจอร์

      งั้นความจริงนายก็ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกอะไรฉันใช่ไหมเธอพูดยิ้ม ๆ

      ใช่มัลฟอยตอบ เธอเข้าใจฉันแล้วหรือยังเขาถาม

      ก็ไม่เชิงเฮอร์ไมโอนี่ตอบ

      งั้นเธอรู้สึกอย่างไรกันฉันตอนนี้มัลฟอยถามอีกครั้ง

      ความจริง  ฉันชอบตอนที่เธอเป็นคู่เต้นรำของฉันมากกว่านะ  แต่เมื่อมารู้ว่านายเป็นคนเดียวกับเขามันก็ช่วยไม่ได้เธอพูดเบา ๆ

      ถ้าอย่างนั้นเธอก็ชอบฉันขึ้นมาบ้างแล้วล่ะสิเกรนเจอร์เขาพูด

      ฉันแค่ชอบด้านหนึ่งของเธอต่างหากล่ะเฮอร์ไมโอนี่แย้ง

      ก็เหมือน ๆ กันแหละมัลฟอยพูดและดึงร่างของเด็กสาวไปกอด ขอโทษที่ขโมยจูบแรกของเธอไปมัลฟอยบอกเธอ  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก

      แล้วเธอต้องโกรธแน่  ถ้าฉันบอกว่าฉันอยากจะขโมยจูบเธออีกรอบมัลฟอยพูดพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์  เฮอร์ไมโอนี่พยายามขืนตัวเพื่อออกจากอ้อมแขนของเขา  แต่มัลฟอยไม่ยอมปล่อยเธอออกมา

      มัลฟอยยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ  ในขณะที่เด็กสาวหลับตาลง

      มัลฟอย...เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นเมื่อริมฝีปากของเธอและเขากำลังจะสัมผัสกัน

      อะไร?” เขาถาม  ดู ตกใจนิด ๆ

      เธอรักฉันอย่างนั้นหรือเฮอร์ไมโอนี่ถามลอย ๆ

      ฉันก็บอกเธอไปแล้วนี่เขาว่า

      ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ว่าเราเป็นศัตรูกันนี่นะเธอท้วง  มัลฟอยขมวดคิ้ว

      ช่างเรื่องนั้นเถอะ  คนที่เป็นศัตรูกับฉันก็คือพอตเตอร์กับวีสลีย์ไม่ใช่เธอเขาพูด

      แต่ถึงอย่างไรเราก็อยู่คนละฝ่ายกัน  ฉันเป็นกริฟฟินดอร์  เธอเป็นสลิธีริน  ฉันเป็นเลือดสีโคลน  เธอเป็นเลือดบริสุทธิ์  เราเป็นศัตรูกัน...เฮอร์ไมโอนี่พูด  มัลฟอยยกมือห้าม

      อย่าพูดถึงเรื่องนั้นได้ไหมเขาขอ  เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีกังวล

      มันเป็นไปไม่ได้มัลฟอยเธอพูดเบา ๆ

      เป็นไปได้สิ  ก็ฉันรักเธอนี่เขาพูดอย่างมาดมั่น  เฮอร์ไมโอนี่ดูแปลกใจ

      เธอรักฉันทั้ง ๆ ที่....ทั้ง ๆ ที่  เธอก็รู้ว่าฉัน....เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก

      แล้วเธอคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่เธอเป็นเลือดสีโคลนรึไงมัลฟอยพูดอย่างรำคาญนิด ๆ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มออกมา

      ฉันรู้  แต่เธอก็รู้ดีนี่ว่ามันผิด  สายเลือดของเราเธอเริ่มพูดอีกครั้ง  คราวนี้มัลฟอยดูรำคาญจริง ๆ ขึ้นมา

      หยุดพูดเรื่องพวกนั้นเถอะเกรนเจอร์  มันไม่เกี่ยวเลยสักนิด  แค่เพียงว่าฉันรักเธอก็พอเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบาง ๆ และซบศีรษะเข้ากับอกของมัลฟอย

      งั้นเราคงเหมือนโรมิโอกับจูเลียตเธอพูดลอย ๆ พบกันในงานเลี้ยงเต้นรำ  รักกันทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเธอเอ่ย

      อ้อ  ไอ้นิยายเรื่องนั่นนี่เองมัลฟอยเพิ่งนึกได้

      เธออ่านมันแล้วใช่ไหม  อ้อ  แล้วมันก็ไม่ใช่นิยายนะมัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่เตือน

      จะอะไรก็ช่างเถอะ  ถึงเริ่มต้นของเราจะไปเหมือนกันในหนังสือนั่น  แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือชีวิตของเรา  เธอก็คือเธอ  ไม่ใช่จูเลียต  และฉันก็ไม่ใช่โรมิโอบ้าอะไรนั่นด้วยมัลฟอยพูดอย่างมีโทสะ

      เพราะฉะนั้นตอนจบของพวกเราจึงต้องไม่เหมือนกับพวกเขาเฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม

      แปลกจังที่ได้ยินเธอพูดอย่างนั้นเฮอร์ไมโอนี่พูด  มัลฟอยเลิกคิ้ว

      แปลกเหรอ  แล้วถ้าฉันเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นล่ะเขาว่า  ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนเป็นสีชมพู  และเมื่อเด็กสาวหลับตาลง  มัลฟอยก็ประทับริมฝีปากของเธอเข้ากับเขาอย่างนุ่มนวลที่สุด

      ทั้งสองมีช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกันโดยทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้างในวันข้างหน้า

       

      *************************************************

       

      หลังจากเหตุการณ์วันนั้น  ความรักของเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็ก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครรู้  พวกเขาพบกันตามที่ต่าง ๆ ทั่วโรงเรียน  แม้ว่าต่อหน้าทั้งสองต้องแกล้งทำเป็นศัตรูกันตามปรกติ  แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากลับมีความรักลับ ๆ ขึ้นโดยไม่มีใครรู้

      เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยใช้เวลาอยู่กันตามลำพังที่หอประธาน  ซึ่งไม่มีใครนอกจากพวกเขาทั้งสองที่เป็นประธานนักเรียน  ในขณะที่พวกเขามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน  แต่ในใจหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่ก็กลับกลัวว่าสักวันเธอต้องแยกจากชายที่เธอรัก  เพราะยิ่งนับวันเธอก็ยิ่งเข้าใจว่าเรื่องราวของเขาและเธอเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้พอ ๆ กับที่เธอพบว่าตัวเองรักเขามากขึ้นทุกวัน

      บวกกับข่าวเรื่องลอร์ดโวลเดอมอร์ที่กำลังเรืองอำนาจมากขึ้นทุกที  ผู้เสพความตายต่างกลับไปรับใช้เจ้านายของพวกมันเหมือนเดิม  รวมทั้งมีคนอีกจำนวนมากที่สมัครใจเข้ารับใช้เขา  นับวันสถานะการณ์ก็ยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

      เมื่อเป็นเช่นนั้น  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่เจียดเวลาที่มีอยู่น้อยนิดตั้งชมรมป้องกันตัวจากศาสตร์มืดขึ้นมาใหม่  ซึ่งคราวนี้พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากดัมเบิลดอร์  และก็ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ฝึกซ้อมกันอีกต่อไป  แฮร์รี่อาสาฝึกคาถาป้องกันตัวต่าง ๆ ในกับสมาชิก  ในขณะที่เขาเองก็จะได้มีโอกาสทบทวนความรู้เหล่านั้นไปในตัวด้วย

       

      หลังจากผ่านการสอบส.พ.บ.ส.ไปได้โดยดี ( สำหรับเฮอร์ไมโอนี่ ) ส่วนรอนกับแฮร์รี่นั้นก็พอมั่นใจว่าเขาจะสอบผ่าน  จนกระทั่งในวันสุดท้ายที่พวกเขาจะได้อยู่ที่ฮอกวอตส์  เด็กทั้งสามต่างเดินเล่นไปรอบ ๆ ปราสาท  ซึบซับบรรยากาศของฮอกวอตส์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจากมันไป  และหลังจากงานเลี้ยงวันปิดภาคเรียน  แฮร์รี่  รอน  และเฮอร์ไมโอนี่  ก็มานั่งคุยกันเงียบ ๆ ที่ห้องนั่งเล่นรวม

       

       ฉันคิดว่าฉันจะเป็นมือปราบมารหลังจากจบไปแฮร์รี่พูดอย่างมุ่งมั่น และแน่นอนว่าฉันจะเข้าเป็นสมาชิกภาคีทันทีที่อายุครบรอนกับเฮอร์ไมโอนี่มองหน้ากัน

      แต่ว่านั่นมันอันตรายนะแฮร์รี่เฮอร์ไมโอนี่พูดขลาด ๆ

      ฉันว่าเธอควรรอให้เธอได้เป็นมือปราบมารก่อนดีกว่าเด็กสาวแนะนำ

      แต่ฉันจะไม่งอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ ในขณะที่คนอื่นต่างมาปกป้องฉันหรอกนะแฮร์รี่พูดเสียงดัง

      ฉันจะเข้าร่วมกับภาคีเพื่อช่วยเหลือดัมเบิลดอร์  อย่าลืมสิว่าโวลเดอมอร์ฆ่าพ่อแม่ฉันนะรอนสะดุ้งเมื่อแฮร์รี่เอ่ยชื่อโวลเดอมอร์

      เรารู้เรื่องนั้น  แฮร์รี่เขาพูด  แล้วก็อย่าพูดชื่อนั้นด้วย

      บางทีพวกนายอาจจะไม่อยากไปเสี่ยงอันตรายอย่างนั้นแฮร์รี่พูดเรียบ ๆ

      ใครว่าล่ะรอนสวนขึ้นมาในทันที  แฮร์รี่หันไปมองเขา

      ถ้าเธอไปเราก็ไปแฮร์รี่เฮอร์ไมโอนี่พูด เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือ

      ใช่  อีกอย่างครอบครัวของฉันก็เป็นสมาชิกภาคีเกือบทั้งหมด  ถ้าฉันไม่เป็นด้วย  ก็ไม่รู้ว่าพวกพี่ ๆ จะว่ายังไงรอนพูดอย่างอารมณ์ดี  แฮร์รี่มองเพื่อนทั้งสองอย่างซาบซึ้ง

      ขอบคุณพวกนายมากนะ

       

      *************************************************

       

      หลังจากที่แฮร์รี่กับรอนขึ้นหอนอนไปแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ก็แอบออกมาที่หอประธานเพื่อพบมัลฟอยเป็นคืนสุดท้าย

      เธอจะเป็นมือปราบมารหรือเกรนเจอร์มัลฟอยถามหลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่เล่าให้เขาฟัง  พวกเขากำลังอยู่ด้วยกันสองคนในห้องนอนของมัลฟอย  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าช้า ๆ

      พนันได้เลยว่าเธอต้องเข้าร่วมภาคีอะไรนั่นด้วยใช่ไหมมัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่ดูตกใจ

      เธอรู้เรื่องภาคีเหรอ  มัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่ถาม

      ฉันรู้มากจากพ่อเขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

      แล้วเธอก็ไม่ใช่คนเดียวด้วยที่รู้ว่าต้องเป็นอะไรหลังจากเรียนจบไป!” มัลฟอยพูดอย่างกลัดกลุ้ม  เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะดังปัง  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างตกใจ

      เธอเป็นอะไรไปน่ะ  มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่ถาม  เขาไม่ยอมตอบ  เด็กสาวสังเกตเห็นแผ่นกระดาษบนโต๊ะหนังสือของเขา  เธอหยิบมันขึ้นมาดูโดยที่มัลฟอยไม่ทันห้ามเธอทัน 

      เด็กสาวอ่านมัน  เธอรู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก 

       

      ฉันจะให้แกเข้าร่วมกับผู้เสพความตายหลังจากที่แกเรียนจบ  ไม่มีคำว่าแต่ทั้งนั้น  ส่วนวันที่แกต้องเข้าพิธีของพวกเราฉันจะบอกแกทีหลัง

       

      พระเจ้าเฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างตกใจ  เธอปล่อยกระดาษหลุดมือ นี่หมายความว่า

      ฉันต้องไปเป็นผู้เสพความตาย  ส่วนเธอก็ต้องไปเป็นมือปราบมารมัลฟอยกัดฟันพูด  เขาดูทุกข์ทรมานกับความจริงที่ยากจะยอมรับ

      เธอ...ปฏิเสธมันไม่ได้หรือเฮอร์ไมโอนี่พูดทั้งน้ำตา

      ฉันไม่มีทางปฏิเสธคำสั่งของพ่อได้  เธอก็รู้!” เขาบอก  สีหน้าของเขาดูปวดร้าว  เฮอร์ไมโอนี่เองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

       และเธอก็ต้องไปเป็นมือปราบมารอย่างที่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันมัลฟอยพูดอย่างรู้ทัน  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าเธอสามารถปฏิเสธและไม่ทำอาชีพนี้ได้  แต่เธอไม่อาจทรยศเพื่อนรักอย่างแฮร์รี่กับรอนได้  เธอทำอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ

       

      เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเตียงข้าง ๆ มัลฟอยและโอบกอดเขาไว้  เธอเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้เขา  ความเสียใจของทั้งสองมากเกินที่จะกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้  แต่มันแสดงออกได้จากน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่ไหลริน

      ฉันรักเธอ  มัลฟอยเธอพูด  สะอื้นเบา ๆ

      ฉันเองก็รักเธอ  เกรนเจอร์เขาพูดและกอดเด็กสาวแน่น  เฮอร์ไมโอนี่ซบอกของเขาและร้องไห้ออกมา  เธอไม่รู้จริง ๆ เลยว่าจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ดี  มัลฟอยต้องไปเป็นผู้เสพความตายในขณะที่เธอกำลังจะเข้าเป็นสมาชิกภาคีและกำลังจะไปสอบเป็นมือปราบมารกับแฮร์รี่และรอน  ทำไมโลกถึงต้องเล่นตลกกับเธอเช่นนี้ด้วย  และนี่ก็ยังไม่รวมเรื่องที่เธอต้องจากเขาไปหลังจากจบจากฮอกวอตส์ไปอีก 

       

      เฮอร์ไมโอนี่สะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  มัลฟอยลูบศีรษะเธออย่างปลอบโยน

      อย่าเสียใจเกรนเจอร์เขาปลอบ  แต่ในขณะเดียวกับเด็กหนุ่มก็กลับรู้สึกเป็นทุกข์ไม่แพ้เธอเลย

      ฉันกลัว  มัลฟอย  ฉันกลัวเฮอร์ไมโอนี่สะอื้น ฉันกลัวว่าเธอจะต้องจากฉันไป  ตลอดเวลาที่เราคบกันมาฉันกลัวมาตลอดว่าจะต้องมาถึงวันนี้  แล้วเธอยังต้องไปเป็นผู้เสพความตายอีก

      แต่ฉันก็ยังรักเธอไม่ใช่หรือมัลฟอยพูด  เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ

      แต่เธอรู้ไหมว่าทุกวันนี้สงครามระหว่างผู้เสพความตายกับมือปราบมารรุนแรงแค่ไหน เฮอร์ไมโอนี่พูด มีผู้เสพความตายถูกจับกุมทุกวัน หรือไม่ก็โดนมือปราบมารฆ่าตาย  ฉันกลัว  มัลฟอย  กลัวว่าเธอจะ...

      แต่ก็มีมือปราบมารไม่น้อยถูกฆ่าตาย  แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นห่วงฉันแค่ฝ่ายเดียวเหรอ มัลฟอยพูด

      อย่าห่วงไปเลย  เกรนเจอร์  ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก  เธอเองก็เหมือนกัน

      แล้วถ้าเรา  เราต้อง... เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก  มัลฟอยรู้ดีว่าเธอกำลังจะพูดว่าอะไร 

      ถ้าเราต้องเผชิญหน้ากัน  ฉันก็จะไม่มีวันทำร้ายเธอ  ฉันสัญญา เขาพูดอย่างหนักแน่น  เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าลงบนอกของเขาอีกครั้ง  และกอดเด็กหนุ่มไว้แน่นราวกับเธอกลัวว่าเขาจะละลายหายไปกับอากาศ

      ทำไมเราสองคนต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ  ทั้ง ๆ ที่เราแค่รักกันแท้ ๆ เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นลอย ๆ

      ทั้ง ๆ ที่ฉันแค่รักเธอ  แต่เรากลับต้องเป็นศัตรูกัน  ต้องแยกจากกัน เธอร้องไห้ออกมา

      ทั้ง ๆ ที่ฉันแค่รักเธอเท่านั้น มัลฟอยมองเธออย่างสงสาร

      เงียบเถอะ  เฮอร์ไมโอนี่ เขาพูดชื่อของเธอเป็นครั้งแรกและค่อย ๆ ใช้ริมฝีปากของเขาเช็ดน้ำตาให้เธอ 

      แต่เราจะจากกันแล้วนะ  มัลฟอย  นี่เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน เธอพูด

      ไม่ใช่คืนสุดท้ายหรอก เขาว่า  พร้อมกับมองเด็กสาวอย่างมีความหมาย 

      มัลฟอย

      เรียกเดรโกสิ เขาพูดและหยิบปอยผมของเธอขึ้นมาจูบ ฉันอยากให้เธออยู่กับฉันที่นี่  เฮอร์ไมโอนี่  ตลอดทั้งคืนนี้  เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตามัลฟอย

      เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่ามัลฟอยต้องการบอกอะไรเธอ  แต่เธอกลับไม่ได้ขัดขืนอะไร  เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ใจเธอต้องการ  มัลฟอยรั้งร่างของเธอลงบนเตียงของเขาและจูบซับน้ำตาอย่างปลอบประโลม  ก่อนที่ไฟของทั้งห้องจะดับลง

       

       

      The best thing about tonight's that we're not fighting
      Could it be that we have been this way before
      I know you don't think that I am trying
      I know you're wearing thin down to the core

      But hold your breathe
      Because tonight will be the night
      That I will fall for you
      Over again
      Don't make me change my mind
      Or I won't live to see another day
      I swear it's true
      Because a girl like you is impossible to find
      You're impossible to find

      This is not what I intended
      I always swore to you I'd never fall apart
      You always thought that I was stronger
      I may have failed but I have loved you from the start

      Oh, But hold your breathe
      Because tonight will be the night
      That I will fall for you
      Over again
      Don't make me change my mind
      Or I won't live to see another day
      I swear it's true
      Because a girl like you is impossible to find
      It's impossible
      So breathe in so deep
      Breathe me in
      I'm yours to keep
      And hold on to your words
      Cause talk is cheap
      And remember me tonight
      When you're asleep

      Because tonight will be the night
      That I will fall for you
      Over again
      Don't make me change my mind
      Or I won't live to see another day
      I swear it's true
      Because a girl like you is impossible to find

      Tonight will be the night
      That I will fall for you
      Over again
      Don't make me change my mind
      Or I won't live to see another day
      I swear it's true
      Because a girl like you is impossible to find
      You're impossible to find

       

      *************************************************

       

      เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น  เธอพบว่ามัลฟอยกำลังหลับอยู่  และเด็กสาวรู้ดีว่าเธอไม่ควรจะปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา  เธอมองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่เธอรักอย่างเศร้าสร้อย  ในที่สุดก็เช้า  ในที่สุดเวลาแห่งการลาจากของพวกเขาทั้งสองก็มาถึง  เฮอร์ไมโอนี่ยังจำได้ดีว่ามัลฟอยพูดอะไรกับเธอเมื่อคืนนี้

       

      เฮอร์ไมโอนี่กำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนเปลือยเปล่าของมัลฟอย  เขาจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ อย่างรักใคร่ 

      ฉันกลัวเดรโก  กลัวว่าเมื่อพรุ่งนี้มาถึง  เราจะต้องจากกันเฮอร์ไมโอนี่พูด

      ไม่ต้องกลัวหรอกเดรโกและกอดเธอเบา ๆ ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร  ฉันก็จะยังรักเธอเขาพูดอย่างหนักแน่น

      ฉันเองก็รักเธอเฮอร์ไมโอนี่พูด

      และแม้ว่าในวันต่อไป  เธอจะได้พบใคร  หรือเธอจะรักใครคนอื่น  แต่ความจริงที่เธอเป็นของฉันก็ไม่มีวันลบเลือนไปเขาพูด

      ฉันไม่มีวันรักใครนอกจากเธอ  และฉันจะไม่มีวันเป็นของคนอื่น  เดรโกเธอพูด

      ฉันเองก็จะไม่มีวันรักใครเหมือนกัน  เธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรัก  จากนี้และตลอดไป  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

       

      เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าน้ำตาของเธอจะไหลมาอีกรอบด้วยความเศร้า  หลังจากนี้ไปเธอต้องออกไปสู่โลกภายนอก  เพื่อเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายที่ว่า  เธอกับเขาไม่ได้เป็นคู่อริกันแค่ในโรงเรียน  หรือไม่ถูกกันเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อเธอก้าวออกจากตรงนี้ไป  เธอและ  เดรโก  มัลฟอย  จะกลายเป็นศัตรูกันอย่างถาวร  ศัตรูที่ต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง

      เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงจูบมัลฟอยเบา ๆ เพื่ออำลาเขา  น้ำตาของเธอเปรอะแก้มขาวซีดของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหล  ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแต่งตัวและออกจากห้องไป

       

      ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ฉันก็จะยังรักเธอเดรโก 

       

      และแล้วพวกเขาทั้งสองก็ได้ออกไปสู่โลกของเวทย์มนตร์อย่างเต็มรูปแบบ  พร้อมกับความรักที่ไม่อาจบอกให้ใครรู้ได้  แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้หรือวันต่อ ๆ ไป  ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวความรักของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร  แต่พวกเขารู้อยู่เพียงอย่างเดียว  คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  พวกเขาจะยังรักอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

       

      *************************************************

       

      THE END OF PART I

      PART II IS BE COMING SOON

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×