ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] TaoKacha ::〖My Status's เมียแต่ง〗

    ลำดับตอนที่ #4 : [Fic] TaoKacha ::〖My Status's เมียแต่ง〗► Chapter 3◄

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 55


    ► CHAPTER 3 ◄
     



    “ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็เล่นเปียโนไฟฟ้าไปก่อนนะหนูคชา   ไว้พร้อมย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านลุงเมื่อไหร่ค่อยเล่น”คุณลุงพูดหลังจากพาคู่แต่งงานใหม่กลับมาที่คอนโดส่วนตัวของร่างสูง   กระเป๋าสัมภาระไม่กี่อย่างถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปไว้ในห้องนอนส่วนตัวโดยที่ร่างสูงยืนทำหน้าบึ้งมองการขนย้ายอย่างไม่สบอารมณ์

    “ไม่เป็นไรครับ  แต่ว่าอีกนานไหมถึงจะย้ายไปที่บ้านคุณลุงได้ ....”เอ่ยถามขณะเดินไปสัมผัสเปียโนไฟฟ้าที่ตั้งอยู่มุมห้อง   ร่างเล็กหย่อนกายนั่งลงที่เก้าอี้เปียโน   เปิดฝาคีย์ขึ้นแล้วบรรจงกดนิ้วลงไปเพื่อเช็กคีย์เสียง

    แต๊ง~

    “อีกไม่นานหรอก .... ว่าแต่ชอบเครื่องนี้ไหม?”เอ่ยถามทำให้ใบหน้าเรียวหันกลับมามองแล้วพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะหันไปสนใจเปียโนไฟฟ้าเครื่องนั้นต่อ   ทำนองเศร้าที่ร่างสูงเคยได้ฟังมาครั้งหนึ่งเมื่อ 3 วันก่อนดึงขึ้นให้ได้ยินอีกครั้ง   เสี้ยวหน้าที่ได้เห็นจากด้านข้างทำให้ร่างสูงมองอย่างแปลกใจ   เปลือกตาบางปิดลงแล้วนิ้วเรียวก็บรรจงเล่นเพลงนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในมนต์สะกดของเสียงดนตรี

    แสงแดดสว่างจ้าลอดผ่านม่านโปร่งสีขาวเข้ามากระทบเรือนหน้าเรียวเล็กทำให้ใบหน้าเรียวดูมีเสน่ห์น่ามองขึ้นมาอย่างประหลาด   ใบหน้าหล่อขาวมองภาพตรงหน้าอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจนบทเพลงเศร้าจบลงด้วยโน้ตตัวสุดท้าย   ใบหน้าเรียวเล็กหันกลับมาร่างสูงจึงได้รู้ตัวว่าเผลอมองนานไป

    “เอ่อ อะ .. อะแฮ่ม! พ่อ ... พ่อจะให้เขาย้ายไปอยู่กับพ่อก็ไม่บอก  นึกว่าจะมาอยู่ที่นี่ถาวรซะอีก”ร่างสูงแสร้งกระแอมไอแล้วหันไปพูดกับบิดา

    “ที่พ่อให้เขามาอยู่กับแกที่นี่ก่อนก็เพื่อให้เรียนรู้กันและกันไว้   พอจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ”

    “ทั้งคู่ ...? หมายความว่าไง  ผมบอกตอนไหนว่าจะไปอยู่ที่บ้าน!!?”ร่างสูงโพล่งถามอย่างแปลกใจ

    “ไม่ต้องรอให้แกบอกหรอกฉันจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว  ขืนแกยังอยู่แบบนี้มีหวังได้หาเรื่องมาแกล้งหนูคชาทุกวันแน่   เออ! แล้วก็ฉันจะแวะเข้ามาที่นี่บ่อยๆ  อย่าคิดอะไรพิเรนๆแกล้งหนูคชาเชียวนะ”คนอายุมากกว่าใช้สายตาปรามลูกชายหากแต่ใบหน้าหล่อขาวกลับแสร้งเมินไปทางอื่นแล้วเดินหน้ากวนๆเข้าห้องนอนไป

    “พ่อออออออออออออออ! ทำไมที่นอนผมแบบนี้  หมายความว่าไงเนี่ย!!”เข้าห้องไปไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงโวยวายดังมาให้ได้ยินก่อนจะเห็นเจ้าตัวเดินหน้าบึ้งกลับออกมาอีกรอบ

    “หมายความตามที่เห็นนั่นแหล่ะ  แต่งงานแล้วจะนอนคนเดียวได้ไงเจ้าเต๋าเรื่องแค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรอ  ปลดออกจากตำแหน่งเลยดีไหมเนี่ย”บิดาของร่างสูงแสร้งบ่นทั้งที่ใบหน้ากำลังบ่งชัดว่าพอใจกับท่าทางบึ้งตึงของลูกชาย

    “พ่อ .... คือ ... โอ้ย! พูดไรไม่ออกเลย  พ่ออย่าแกล้งผมอย่างงี้นะ”บ่งชัดว่าร่างสูงอึดอัดจนพูดอะไรไม่ออก  หันรีหันขว้างกระสับกระส่ายไปมา

    “งั้นแกก็ย้ายมานอนโซฟา  มาทีไรก็เห็นแกนอนประจำ”

    “เรื่องไร!!”ตอบอย่างไวแล้วเหล่มองคนตัวเล็กกว่าที่นั่งมองเขากับพ่อเถียงกันตาไม่กระพริบ  ถึงใบหน้าจะเฉยชาแต่ดูก็รู้ว่าตื่นเต้นที่เห็นพ่อลูกทะเลาะกัน

    “ไอ้ตัวเล็กมานี่ดิ้”กวักมือเรียกร่างเล็กทันที

    “.......”ไม่มาแถมยังไม่ขยับ  ดวงตาเรียวเล็กหรี่ลงทันทีที่ถูกเรียกอย่างนั้น

    “น้องเขามีชื่อเรียกอย่างนั้นได้ไง”บิดาพูดบอก

    “พ่อกลับบ้านไปเลยไป  อยู่ทำไมนานๆเนี่ย”ร่างสูงว่าอย่างนั้นแล้วดันบิดาให้เดินตรงไปที่ประตูทางออก

    “ฉันไปแล้วแกจะทำอะไรน้องหะ!!?

    “ทำอย่างที่ผัวเมียเขาทำกันไง  ....... กลับดีๆละพ่อ”ดันบิดาจนออกจากห้องได้ก็โบกมือลาด้วยหน้ากวนๆก่อนจะรีบปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ

    “................”

    “ย้ายออกมานอนที่โซฟา”ร่างสูงบอกแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน  ร่างเล็กเดินตามหลังเข้ามาแล้วรีบคว้ามือหนาที่หยิบกระเป๋าของเขาเพื่อจะเอาออกไปไว้ข้างนอก

    “จะเอาไปไหน”ถามด้วยหน้าเรียบนิ่งจนคนมองรู้สึกหงุดหงิด

    “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าให้นายนอนข้างนอก”

    “ไม่นอน”

    “ต้องนอน!

    “ไม่งั้นจะโทรบอกคุณลุง”ปล่อยมือที่จับมือหนาไว้แล้วทำท่าจะล้วงหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกง  หากแต่อีกคนกลับไวกว่าคว้าข้อมือเรียวเล็กไว้แล้วหยิบมือถือไปซ่อนไว้ข้างหลัง

    “โอเคๆ  แล้วจะเอายังไงเตียงก็ไม่ใช่จะใหญ่อะไรมาก”ร่างสูงโพล่งบอกทันทีด้วยสีหน้าบึ้งที่คนมองคิดว่านี่คงเป็นโลโก้หน้าประจำของร่างสูงไปแล้ว  

    “ยังไงก็ต้องแบ่งครึ่งกันนอน”คำตอบเรียบๆไม่ได้ช่วยให้ใบหน้าหล่อขาวพอใจขึ้นเลย

    “จะรับประกันได้ไงว่าตอนกลางคืนนายจะไม่ทำอะไรฉัน”

    O_O!!”ใบหน้าเรียบนิ่งเบิกตาโพรงทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น

    “นายยอมแต่งกับฉันเพราะนายแอบหลงรักฉันไม่ใช่หรอ  ถ้าตอนฉันกำลังเคลิ้มๆแล้วนายคิดทำอะไรมิดีมิร้ายขึ้นมา ....”

    “อ่านนิยายมากไปรึเปล่า”คำตอบเรียบๆแล้วการส่ายหน้าหน่ายๆทำให้ร่างสูงหน้าเหวอทันที

    “..............”

    “เอาอย่างนี้แล้วกัน ....”ร่างบางว่าแล้วก้มลงเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสก็อตเทปเส้นหนาขึ้นมาแล้วชูให้ร่างสูงดูก่อนจะปีนขึ้นเตียงพร้อมกับแปะสก็อตเทปลงบนหัวเตียงและเรื่อยยาวลงมาจนถึงปลายเตียง 

    “นี่คือเส้นอาณาเขต .... จะไม่มีใครล้ำเส้นนี้ของใครได้  พอใจรึยัง ....”

    “ไม่!”ตอบด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ   คิ้วมนของร่างเล็กขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ฟังคำตอบ

    “จะเอายังไงกันแน่”

    “ในเมื่อมันเป็นเตียงฉัน   ทำไมฉันต้องแบ่งครึ่งให้นอนไม่สบายตัวด้วย   นายลงไปนอนข้างล่างอย่างนี้สิถึงเรียกว่ายุติธรรม”

    “นั่นไม่ได้เรียกว่ายุติธรรม”ร่างเล็กเถียง

    “สำหรับฉันมันคือความยุติธรรมที่สุดแล้ว”บอกด้วยใบหน้าแห่งชัยชนะก่อนจะเดินไปดึงสก็อตเทปที่แบ่งอาณาเขตไว้ออกจากเตียง   ถือชูกวนประสาทร่างเล็กแล้วบรรจงทิ้งมันลงถังขยะใบเล็กอย่างสะใจ

    “ทำตัวเป็นเด็กไปได้”พ่นคำพูดใส่ร่างสูงอย่างไม่พอใจทันทีแล้วเดินหนีออกมาจากห้อง   ใครจะไปคิดว่าผู้บริหารระดังสูงที่เป็นเพลย์บอยอันดับต้นๆของเมืองไทยจะนิสัยเด็กและเอาแต่ใจขนาดนี้

    “หรือนายจะนอนกับเปียโนสุดที่รักของนายก็ได้นะ ฉันไม่ถือ”เดินตามออกมาพูดใส่   ร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงเปียโนจึงหันหน้ากลับมามองแล้วเม้มปากก่อนจะลุกเดินตรงมาหาร่างสูง

    “อยากนอน ... ก็นอนไปเองแล้วกัน!”พูดจบก็เตะแรงๆเข้าที่หน้าแข็งของคนตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเร็วจี๋เข้าไปในห้องนอน  กดล็อกประตูแล้วก็ต้องหอบหายใจรัวอย่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป

    “ตายแน่ ... ทำอะไรลงไปเนี่ยเรา”บ่นกับตัวเองเสียงเบาอย่างหน้าเสีย

    ปัง ปัง

    เสียงทุบประตูรัวจากด้านนอกทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮีอกเอามือกุมหน้าอกไว้แน่น  ถอยหลังมองประตูราวกับกลัวว่ามันจะเปิดออกมาหากเขาละสายตาจากมัน   ถอยร่นกายแล้วค่อยๆนั่งลงที่ปลายเตียงมองที่ประตูอย่างหวาดระแวง

    “ไอ้ตัวเล็ก  ออกมาเดี๋ยวนี้นะนี่นายกล้าทำร้ายร่างกายฉันหรอ  หะ! บอกให้ออกมาไงเล่า”

    “ออกไปก็ตายสิ”พูดกับตัวเองเบาๆ

    “จะไม่ออกมาใช่ไหม!!  ด้ายย .... อย่าออกมาให้ฉันเห็นหน้าเชียวนะไม่งั้นนายโดนดีแน่  ฉันจะนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูเนี่ยละ จะไม่ไปไหนเลยคอยดู!”สิ้นคำพูดก็ไม่ได้ยินเสียงโวยวายให้ได้ฟังอีก   แต่ร่างเล็กก็รับรู้ได้ทันทีว่าเสือที่เกรี้ยวกราดอยู่ข้างนอกเมื่อกี้กำลังนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องจริงแท้แน่นอน   ก็แรงเตะทำลายร่างสูงไปมันไม่ได้เบาเลยนี่นา  ไม่คิดว่าจะเตะไปแรงขนาดนั้นด้วย  เห็นทำหน้านิ่งๆอย่างนี้ก็โมโหเป็นเหมือนกันนะ TT 

    ร่างเล็กขดตัวอยู่ปลายเตียง  นั่งชันเข่าขึ้นมาแล้วกอดไว้พร้อมกับวางปลายคางลงบนเข่า   ดวงตาเล็กๆมองจ้องที่ประตูไม่วางตาด้วยกลัวว่ามันจะเปิดหรือถูกงัดเข้ามาตามแรงโกรธของใครบางคน   นั่งหดตัวรอแล้วรอเล่าก็ไร้วี่แววจนดวงตาเล็กค่อยๆหรี่ปรือปรอยจนผล็อยหลับไปในที่สุด .......

     


     

    ความมืดคืบคลานเข้ามาภายในห้องที่เงียบสนิท   ร่างที่ขดตัวนอนหลับอยู่ปลายเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงงก่อนจะค่อยๆปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด   มือเรียวคลำไปตามพื้นแล้วคลานไปที่ประตูก่อนจะบรรจงปลดล็อกเสียงเบาแล้วโผล่หน้าออกไปดูลาดเลา   ร่างสูงของใครบางคนกำลังนั่งหลับคอตกพิงโซฟาหน้าห้องอยู่   ตกใจในแวบแรกที่เห็นแต่พอคิดๆดูแล้วใบหน้าเรียบนิ่งก็เปื้อนรอยยิ้มขึ้นมาทันที

    “เด็กจริงๆ”ว่าอย่างนั้นแล้วค่อยๆย่องเบาผ่านหน้าคนที่หลับสนิทตรงไปที่ห้องครัว   เปิดตู้เย็นก็พบแต่กระป๋องเครื่องดื่มที่ร่างเล็กไม่ชอบดื่มเต็มไปหมด   มองหาอะไรบางอย่างที่น่าจะทำเป็นอาหารได้แต่ก็ไม่พบ ....

    “สมกับที่คุณลุงฝากให้ดูแลจริงๆ”บ่นเบาๆแล้วปิดตู้เย็นพร้อมกับเดินย่องกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบกระเป๋าเงินและกุญแจห้องก่อนจะออกจากห้องนี้ไป  ทิ้งร่างสูงที่หลับเป็นตายไว้ข้างหลังคนเดียว

    ร่างเล็กเดินออกจากคอนโดหรูใจกลางเมืองได้ไม่ทันไรก็ต้องทำหน้างงกับสถานที่ๆไม่คุ้นเคย   เพราะว่าเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกและส่วนมากไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนคนเดียว   สถานที่ๆไม่คุ้นชินอย่างนี้ .... เดินไปมั่วๆได้หลงแน่ๆ  ดังนั้นจึงตั้งหลักใหม่ด้วยการเดินกลับไปที่คอนโด   หยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออกหาคุณลุง

    “ว่าไงหนูคชา  เจ้าเต๋ามันแผลงฤทธิ์ใส่น่าดูล่ะสิ”ปลายสายกดรับแล้วพูดถามไถ่

    “ก็พอดูครับ  แต่ว่า ....”

    “หืมมันทำอะไร  เดี๋ยวลุงจะไปเผ่นกบาลมัน!”น้ำเสียงโกรธเคืองทำให้ร่างเล็กรีบอธิบาย

    “ผมจะออกมาซื้อของทำอาหารเย็นแต่ว่าไม่รู้ว่าจะไปซื้อได้ที่ไหนเลยโทรมาถามคุณลุงน่ะครับ  ส่วนเต๋าเขาหลับอยู่ข้างบน”

    “อ้าวหรอ ....”เสียงดูสงบลงก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง “จะทำอาหารให้เต๋าทานหรอลูก ....”

    “ครับ  ในตู้เย็นไม่เห็นมีอะไรที่ทำอาหารได้ก็เลยว่าจะซื้อไปทำให้น่ะครับ”

    “อืม .... ออกจากคอนโดแล้วมองทางขวาเดินไปนิดหน่อยก็จะเจอฟู้ดแลนด์แล้ว   มีอะไรให้ลุงช่วยไหมลุงจะได้ไปหา”

    “ไม่ต้องหรอกครับ ..... ผมเลือกแล้วยังไงผมจะแก้ปัญหาทุกอย่างเอง”

    “อย่างนั้นหรอ ..... ขอบใจที่เลือกเต๋านะ   เปลี่ยนมันให้ลุงหน่อยก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้”

    “........... ครับ ..... เท่านี้นะครับ”หลังจากวางสายร่างเล็กก็ทำตามที่คนมีอายุบอก   เดินไปที่ฟู้ดแลนด์แล้วตัดสินใจลงมือทำอาหารให้ร่างสูงกินมื้อแรก

     


     

    กลิ่นอาหารและเสียงเครื่องสแตนเลสกระทบกันดังก๊องแก๊งทำให้ร่างสูงที่นอนหลับสนิทค่อยๆลืมตาขึ้น   มองไปรอบๆบริเวณห้องอย่างมึนงงก่อนจะลุกพรวดขึ้นโดยไม่ทันสังเกตเห็นผ้าห่มผืนบางที่ใครบางคนเอามาคลุมกายให้

    “จะวางระเบิดห้องนี้รึไง”เสียงทุ้มดุดังขึ้นทำเอาคนกำลังเพลินกับการทำอาหารสะดุ้งตกใจจนน้ำมันร้อนๆกระเด็นมาใส่มือ

    “อ่ะ!”ตกใจร้องออกมาเบาๆแต่ร่างสูงกลับไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

    “ฉันถามว่าจะวางระเบิดรึไงกลิ่นคลุ้งไปทั่วห้อง!”ร่างสูงย้ำเสียงเข้ม

    “เปล่า  ฉันจะทำกับข้าว .....”ตอบอ้อมแอ้มรู้สึกผิดแล้วเหลือบมองหน้าแข้งที่เหมือนจะขึ้นสีช้ำให้เห็น

    “อย่ามาเล็งหน้าแข้งนะ!!”เห็นสายตาคนมองก็ต้องยกขาข้างที่โดนเตะหลบไว้ข้างหลังอย่างหวาดระแวง 

    “ขอโทษ”เอ่ยออกมาเบาๆอย่างรู้สึกผิด

    “นายได้โดนทำโทษแน่ .... เห้ย!! กระทะไหม้แล้ว  ทำอาหารเป็นไหมเนี่ย  มันไหม้ใหญ่แล้ว เห้ย!!”ร่างสูงร้องโวยวายอย่างตกใจขณะที่ควันโขมงขึ้นจากการที่ร่างเล็กลืมดูอาหาร

    “ทะ  ทำ ทำไงดี!!?”ตกใจไปกับร่างสูงที่เอาแต่โวยวายเสียงดัง

    “เอาน้ำลาดๆ เดี๋ยวไฟไหม้”

    “อย่านะ!”ร้องห้ามร่างสูงที่จะเอาน้ำสาดแล้วรีบเข้าไปปิดแก๊สอย่างทันท่วงที   สถานการณ์จึงค่อยๆเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง

    ร่างสองร่างที่อยู่ในสภาพมอมแมมแทบจะร่วงกราวเป็นใบไม้ปลิวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว   ใบหน้าเรียวเล็กมอมแมมจากการเก็บกู้ซากอาหารที่ดำเป็นตอตะโก   ร่างสูงที่เนื้อตัวเลอะเทอะจากการเข้าไปสำรวจห้องครัวพร้อมกับแหย่คนตัวเล็กให้โมโหก็เลยเกิดมวยเล็กๆขึ้นในห้องครัวอีกรอบ   คนหนึ่งพยายามจะทำความสะอาดให้แต่อีกคนหนึ่งก็คอยแต่จะก่อกวน  ผลสุดท้ายฟองน้ำที่เอาไว้ขัดทำความสะอาดจึงลอยละล่องไปมาเมื่อคนทั้งคู่ต่างก็ไม่ยอมกัน

    “เห้อออออ /  เห้ออ”ถอนหายใจออกมาพร้อมกันทำให้ทั้งคู่หันมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วก่อนร่างสูงจะสะบัดหน้าหนีไปอย่างเด็กเอาแต่ใจ

    “แล้วจะกินอะไรละทีนี้”ร่างเล็กบ่นออกมาเบาๆ

    “ใครจะกิน   ฉันจะออกไปข้างนอก”

    “ไปไหน ...”ถามทันทีอย่างสงสัย

    “ออกตอนกลางคืนก็ไปเที่ยวกลางคืนสิ”ร่างสูงว่าอย่างนั้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    “แต่ว่า ....”

    “ถึงจะแต่งงานแล้วแต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผู้ใหญ่บังคับ .... แต่ก็เท่านั้นแหละ  บังคับให้ฉันเลิกเที่ยวไม่ได้หรอก  หึหึ”

    “แล้วจะกลับกี่โมง ....”

    “ถามเหมือนเป็นเมียเข้าไปทุกทีเลยนะนายน่ะ”ร่างสูงพูดอย่างนั้นทำเอาใบหน้าเรียวเหวอไปทันที

    “แต่ว่าคุณลุงบอกว่าจะมาหานายนะ”ร่างเล็กรีบพูดปดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

    “พ่อบอกตอนไหน”

    “ก็ ... ตอนฉันออกไปซื้อของพอดีโทรถามคุณลุงน่ะเห็นบอกว่าอาจจะ ... เข้ามา”หลบสายตาแล้วก้มมองเท้าขณะพูดบอก

    “จึ๊!”ท่าทางและเสียงฟึดฟัดไม่พอใจทำให้ร่างเล็กแอบเกร็งเบาๆ  ร่างสูงหายตัวเข้าไปในห้องนอนไม่นานก็ได้ยินอาบน้ำทำเอาคนรออยู่ด้านนอกลุ้นแทบตายว่าอีกคนจะอาบน้ำนอนหรือเตรียมตัวไปข้างนอก  และ ..... ชุดนักท่องราตรีพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมฟุ้งก็ทำให้ร่างเล็กเข้าใจว่าร่างสูงไม่ฟังคำโป้ปดของตนเองเลย  ใบหน้าหล่อขาวยียวนกวนประสาทที่ได้เห็นว่าร่างเล็กมองตนอย่างเคืองๆ

    “ถ้าพ่อมาก็บอกพ่อให้ด้วยนะว่าลูกชายสุดที่รักออกไปข้างนอก  พูดเท่านี้พ่อก็รู้แล้วว่าฉันไปไหน หึหึ”พูดอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินผิวปากจะออกจากห้องไป   หากแต่อยู่ดีๆก็ชะงักขาแล้วเดินกลับเข้ามา

    “ไม่ไปแล้วหรอ”ร่างเล็กเอ่ยถามน้ำเสียงเจือความดีใจ

    “เปล่า   ฉันแค่จะมาล็อกห้อง บอกไว้แล้วนะนี่มันห้องส่วนตัวของฉันถึงนายจะอยู่ที่นี่ก็มีสิทธิได้แค่โซฟากับพื้นที่ข้างนอกเท่านั้น”ว่าอย่างนั้นแล้วมือหนาก็กดล็อกห้องนอนจากด้านในแล้วเดินหมุนกุญแจห้องออกไปด้วยใบหน้าระรื่นจนน่าหมั่นไส้

    “ทุเรศที่สุดเลย”ว่าใส่ร่างสูงลับหลังอย่างหงุดหงิดแล้วก็ยกเสื้อตัวเองขึ้นมาดมๆก่อนจะทำหน้าแหย  เนื้อตัวมีกลิ่นคาวอาหารแถมยังเข้าไปอาบน้ำในนั้นไม่ได้อีก  เสื้อผ้าที่จะต้องเปลี่ยนก็อยู่ในห้องนั้น .... ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากนั่งตัวเหม็นอยู่ตรงนี้    ใบหน้าหวานงอง้ำอย่างไม่ชอบใจและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

    อยู่ๆคำพูดที่ร่างสูงเคยพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนแต่งงานก็ผุดขึ้นมาเตือนใจ .....

    คชา  นนทนันท์ .... นายจำไว้เลยนะว่าการแต่งงานครั้งนี้มันก็คือนรกดีๆของนาย   ในเมื่อฉันถูกบังคับให้แต่งงาน .... ฉันก็จะทำให้นายรู้สึกเหมือนตกนรกอย่างที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้  จำไว้เลย ......

    การเปลี่ยนแปลงใครสักคนมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว ..... 

     


     

     TBC.

    Me   สำหรับเมียแต่งเนี่ยตอนแรกกะไว้ว่าจะเอาดราม่าจัดหนัก  แต่แต่งไปแต่งมา ... เอาหวานๆน่ารักๆผสมคละเคล้ากันไปแล้วกัน  สำหรับเรื่องนี้ ตพพ.จะเอาแต่ใจสักหน่อยนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×