ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] TaoKacha ::〖My Status's เมียแต่ง〗

    ลำดับตอนที่ #2 : [Fic] TaoKacha ::〖My Status's เมียแต่ง〗► Chapter 1 ◄

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 55



    ► CHAPTER 1 ◄


     

    #Flash Back : 1 ปีก่อน

     

    ทั้งชีวิตแกล่องลอยไปมายังกับสายลม  จะมีสักวันบ้างไหมที่แกจะหยุดสร้างข่าวฉาวโฉ่ทำลายภาพลักษณ์ของตระกูลน่ะไอ้เจ้าเต๋า!!  พ่อพูดกับแกอยู่นะหัดฟังบ้างสิไอ้เด็กดื้อด้านนี่!!”คำสรรเสริญจากบุพการีที่เคารพไม่ได้เข้าหูร่างสูงที่นอนหลับเป็นตายบนโซฟาตัวยาวเลยสักนิด   นิตยสารกอซซิบบันเทิงที่ถูกม้วนไว้อย่างดีถูกฟาดลงตามร่างที่ส่งกลิ่นแอลกอฮอร์บ่งชัดว่าเมื่อคืนคงดื่มหนักมาไม่น้อยทีเดียว

    “โอ๊ยๆ อะไรแต่เช้าเนี่ยพ่อ!”โดนฟาดไม่ยั้งมือไปหลายทีทำให้คนหลับสนิทเรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

    “ดูซะให้เต็มตาภาพมั่วๆของแกกับสาวข้างทางที่ไหนอีกวะเนี่ย!?”คำว่า อีกบ่งชัดว่าไม่ใช่ครั้งแรกและหน้าปกนิตยสารฉบับนั้นที่อยู่ในสภาพยับยู่ยี่ถูกยื่นมาตรงหน้า   มือขาวจัดจึงหยิบมาดูพร้อมกับขยี้ตาแล้วหาวหวอดๆ   มองๆนิตยสารในมืออย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้บิดาที่ยืนอยู่

    “ลูกพ่อนี่โคตรหล่อเลยเนอะ”พูดอย่างไม่สะท้านแถมยังทำหน้าทะเล้นใส่   บาทาผู้สูงอายุจึงง้างขึ้นเตรียมเล็งหามุมจอดแต่ก็ช้าเกินกว่าเจ้าลูกชายตัวแสบที่ตอนนี้จรลีวิ่งตัวปลิวตรงไปที่ห้องนอนเรียบร้อยแล้ว

    “เจอกันที่บริษัทนะพ่อ   ไปทำงานได้แล้ว  สายแล้ว ...  อ้อ! ขอบคุณที่มาปลุกค้าบบบบ”ใบหน้าขาวจัดที่โผล่พ้นขอบประตูนั้นฉายแววทะเล้นกวนโอ๊ยก่อนจะรีบหลบเข้าหลังประตูเพื่อหลบหนังสือและหมอนรองที่ลอยตามแรงขว้างได้อย่างฉิวเฉียด

    หลังจากประตูห้องนอนภายในคอนโดใจกลางเมืองของลูกชายตัวดีปิดลงไปแล้ว  ห้องทั้งห้องก็กลับคืนสู่สภาพเงียบสงบดังเดิม  ชายมีอายุที่มีศักดิ์เป็นพ่อจึงหย่อนกายลงนั่งพร้อมทั้งกุมขมับอย่างเบื่อหน่าย ..... ทำอะไรเจ้าสายลมแห่งความเจ้าชู้นี้ไม่ได้เลย  เจ้าเต๋า  เศรษฐพงศ์  เพียงพอ ... ทายาทโดยชอบธรรมของบริษัท T กรุ๊ป  ขึ้นชื่อเป็นอันดับหนึ่งทั้งเรื่องการงานและเรื่องข่าวฉาวคาวโลกีย์ .... เป็นยิ่งกว่าสายลมหรือกระแสน้ำที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง   จนบิดาที่เฝ้าคอยเตือนและหวังดีมาตลอดต้องหาทางแก้ปัญหาที่อาจผูกปมจนแก้ไม่ได้นี้ให้เร็วที่สุด

    ยิ่งปล่อย ... ไม่สิไม่ใช่ว่าชายมีอายุคนนี้ไม่เคยกำราบ ไม่เคยดุด่า   แต่จะว่าจะเตือนก็แล้ว  การเที่ยวผู้หญิงหรือสร้างข่าวฉาวโฉ่ก็ยังมีมาให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน .... จนตอนนี้จะทนอยู่เฉยแล้วปล่อยเลยตามเลยอีกต่อไปไม่ได้   ต้องหาวิธีมาหยุดเจ้าลูกตัวแสบคนนี้ให้ได้!

     

     

    เสียงเปียโนแสนเศร้าดังขึ้นในเช้าวันใหม่ที่ควรจะสดใส  ภายในห้องกระจกใสในบ้านหลังใหญ่หรูหรามีร่างเล็กของใครบางคนนั่งอยู่เพียงลำพังในนั้น   มือเรียวกดนิ้วพรมจังหวะแสนเศร้าครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ   ดวงตาเล็กๆเอาแต่มองเหม่อไปยังผ้าม่านสีขาวที่ปลิวไสวเผยชัดถึงความอาวรณ์ในบางสิ่งบางอย่าง   มือเรียวที่พรมนิ้วลงบนแกรนด์เปียโนในขณะนี้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาดีจนเป็นเสียงโน้ตที่เศร้าจับใจดังก้องไปทั่วบริเวณ

    “เล่นเพลงนี้อีกแล้วนะคชา ....”เสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายบรรยากาศอึมคลึมในยามเช้า  เสียงเปียโนหยุดลง ....

    “............”ไม่มีคำใดเอ่ยตอบกลับไป  มีเพียงรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากที่ราวกับเป็นการทักทายในเช้าที่สดใส   ร่างเล็กขยับลุกออกจากเก้าอี้เปียโนแล้วเดินตรงไปหามารดาที่ยืนจับประตูห้องอยู่

    “ขอได้ไหม .... เลิกเล่นเพลงเศร้าๆพวกนี้ได้แล้ว”มารดามองหน้าลูกชายพร้อมกับเอ่ยขอออกไปตรงๆ

    “..............”ไม่ได้รับการตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ  แขนเรียวเข้าคล้องแขนมารดาไว้หลวมๆก่อนจะพาเดินออกไปนอกห้องกระจกใส 

    “ไปทานข้าวเช้ากันดีกว่า .....”ไม่ใช่คำตอบของสิ่งที่ถามแต่เป็นการชวนไปทำอย่างอื่น   นี่คือคำปฏิเสธทางอ้อมจากลูกชายที่เธอรักมากที่สุด

    “เอาเถอะแม่คงห้ามเราไม่ได้ .... เช้านี้ต้องทานเยอะๆนะเจ้าเด็กดื้อของแม่”ตัดใจยอมเลิกขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในที่สุด  มารดาจึงเปลี่ยนมาคล้องแขนลูกชายแทนแล้วตรงไปที่ห้องอาหารพร้อมรอยยิ้มสดใสราวสาวแรกรุ่น   เพราะเธอมีลูกชายเพียงคนเดียว  สมบัติมากมายที่มีอยู่ในตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น   สิ่งเดียวที่เธออยากรับรู้ก่อนตายนั่นก็คือได้รู้ว่าลูกของเธอมีความสุขและมีคนอยู่เคียงข้างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม  

     

    “ใช้ชีวิตอย่างที่คิดว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้”

     

    นี่คือคำกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ จากใครบางคนที่เธอพูดบอกกับเธอทำให้หญิงมีอายุคนนี้ตัดสินทำอะไรบางอย่าง ...... บางอย่างที่คิดว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเธอจะต้องมีความสุขในวันที่เธอไม่ ได้อยู่ดูแลกล่องดวงใจดวงนี้แล้ว .....

    “ถ้าแม่ให้คชาแต่งงาน ..... คชาจะแต่งให้แม่ไหม ?”เอ่ยถามลูกชายตรงๆอีกครั้งระหว่างมื้ออาหาร   มือเรียวที่จับช้อนส้อมอยู่ถึงกับชะงักค้างไป

    “ทำไมวันนี้ถึงถามอะไรแปลกๆครับ ....”ถามกลับไปบ้าง

    “รู้ไหมว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้ยืนยาวอย่างที่คิดนะคชา   แม่มีความสุขเมื่อรู้ว่าลูกของแม่มีความสุข .... แต่ถ้าแม่ไม่ได้อยู่ดูแลเราแล้ว   ก่อน ที่จะเป็นอย่างนั้นแม่ก็แค่อยากจะรับรู้ว่าเราจะอยู่สุขสบายและอยู่กับคนที่ ลูกต้องการจะอยู่ด้วย .... พอเข้าใจที่แม่พูดไหม ...”คำพูดยาวๆที่ดูวกวนทำให้คนฟังขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

    “แม่ก็ยังอยู่นี่นา ..... แล้วคนที่ผมอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต .....” เกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่ง  ดวงตาเล็กๆหม่นแสงลงก่อนจะกลบด้วยความนิ่งเฉยตามเดิม “เขาไม่อยู่แล้ว ......”

    มองรอยยิ้มที่แสร้งปั้นส่งมาให้เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร  แต่มันยิ่งทำให้เธอรู้ว่าลูกชายเธอยังไม่ลืม    ไม่ เคยคิดจะลืมเลยด้วยซ้ำ .... เสียงเปียโนแสนเศร้าทุกๆเช้าที่เธอตื่นมาฟังมันยิ่งย้ำว่าลูกชายคนนี้ยังจม ปลักอยู่กับอดีตโดยที่ไม่คิดจะปล่อยวางเลยสักนาทีเดียว

    “แต่งงานนะคชา .... แม่จะได้สบายใจ”

    “ไม่แต่งครับ”ตอบกลับโดยทันทีพร้อมกับทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะอาหาร

    “ถ้าอย่างนั้น ..... เช้านี้ไปนั่งรถเล่นกับแม่หน่อยได้ไหม ......”อยู่ๆมารดาก็เปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อๆทำเอาร่างเล็กมองอย่างแปลกใจ   คิ้วมนขมวดเข้าหากันน้อยๆอย่างใช้ความคิด  มารดาเพียงแต่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้อย่างที่เคยทำประจำเท่านั้น   แต่รับรู้ได้เป็นอย่างดี ..... รอยยิ้มครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกวัน

     

     

    “อ้าว! พ่อยังไม่เข้าบริษัทอีกหรอ ....”หลังจากร่างสูงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเข้าบริษัทก็เดินออกมานอกห้องนอนแล้วก็เห็นบิดายังคงนั่งอยู่จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

    “ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแก”น้ำเสียงเรียบๆและท่าทางจริงจังทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วสงสัย  

    “เรื่องอะไรครับ ....”เอ่ยถามพร้อมกับจัดเนกไทด์ให้เข้าที่เข้าทาง

    “ฉันจะให้แกแต่งงาน”

    “แต่งงาน!  พ่อพูดเล่นใช่ไหมเนี่ย ฮ่าๆๆ  ผมขำให้ก็ได้นะ”ร่างสูงปล่อยขำพรืดออกมาเมื่อได้ฟังคำพูดของบิดาที่มองตรงมาที่เขาด้วยท่าทีเรียบเฉย

    “ฉันพูดจริงและจะทำจริงด้วย  ถ้าไม่เชื่อ ..... เชิญแกหัวเราะสบายใจต่อไปได้เลยแล้วอีกสองอาทิตย์แกจะได้มีเมียเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที”

    “พ่อ!!  แต่งงานนะไม่ใช่เล่นพ่อแม่ลูก   อย่าพูดง่ายๆผมไม่เอาด้วยหรอก”ยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง

    “ไม่เอาก็ต้องเอา  ฉันหาเมียให้แกได้แล้ว”คำพูดที่ไม่ได้ใส่อารมณ์ใดๆแต่ทำให้ร่างสูงนึกหวั่นกว่าตอนพูดด้วยน้ำเสียงโมโหมากกว่าอีก  

    “ไม่เอา!!!!”ร่างสูงพูดอะไรไม่ออกได้แต่ปฏิเสธด้วยคำพูดนั้นอย่างเดียว   ส่งสายตาไม่ชอบใจและแสดงออกอย่างเด่นชัดว่าต่อต้านคำสั่งนั้นของบิดาอย่างหัวชนฝา    แต่ปฏิกิริยาเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คนมีอายุสั่นคลอนความคิดแต่อย่างใด

    “เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม   ถ้าแกไม่ยอมรับหรือหนีงานแต่ง  เตรียมเก็บข้าวของออกไปจากคอนโดและเซ็นจดหมายลาออกจากบริษัทได้เลย  ......  แล้วก็ลืมชื่อนามสกุลของแกด้วย   ฉันจะลบแกออกจาตระกูลเพียงพอเลยคอยดูอย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะเจ้าเต๋า   ฉันทนความเสเพลของแกมามากพอแล้ว”ประกาศิตขั้นเด็ดขาดลั่นออกจากปากบิดาพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำเอาคนฟังถึงกับตะลึงงันกับส่งที่ได้ยิน   รับรู้ได้เลยว่าครั้งนี้บิดาเอาจริงและดูจะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆด้วย ......

    ยืนอึ้งอยู่สักพักร่างสูงก็เริ่มใช้หัวสมองที่คิดบริหารธุรกิจอยู่ทุกวันอย่างกรั่นกรอง   แต่เพราะว่าเมื่อคืนดื่มมาเยอะไม่น้อยเลยทำให้ความคิดของเขารวนไม่เป็นท่า  คิดออกแค่ว่าจะต้องหาทางล้มเลิกความตั้งใจของบิดาครั้งนี้ให้ได้!

     

     

    Mercedes Benz C-Class  สีดำคันงามจอดแช่อยู่หน้าตึกบริษัท T กรุ๊ป  ภายในรถมีคนขับรถพร้อมทั้งมารดาและคชานั่งอยู่    ร่างเล็กมองหน้ามารดาสลับไปมากับทางเข้าบริษัท   ไม่ได้เอ่ยถามอะไรที่ตนเองสงสัยออกไปหากแต่รอเวลาที่มารดาจะเป็นฝ่ายเอ่ยบอกก่อนเอง

    หลังจากนั่งรอได้ไม่นานก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหรูเข้ามาจอดที่ทางเข้าด้านหน้าตัวตึก   พนักงานบริเวณนั้นรีบกุลีกุจอเข้าไปต้อนรับและเปิดประตูให้เจ้าของรถคันนั้นลงมา   โค้งงามๆจากพนักงานที่มีตำแหน่งน้อยกว่าถูกส่งไปให้คนในชุดสูทแบรนด์ดังอย่างอาร์มานี่   หากแต่ร่างสูงปัดมือผ่านๆไม่ได้คิดจะใส่ใจการทักทายจากคนผู้น้อยแต่อย่างใด   หันกลับมาที่พนักงานขับรถและโยนกุญแจไปให้เพียงเท่านั้นก่อนจะเร่งรุดฝีเท้ารีบเดินเข้าตัวตึกไป

    “นั่นไง .... คนที่แม่จะให้คชาแต่งงานด้วย”มารดาเอ่ยบอกลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ   ไม่มีคำพูดใดตอบกลับมามีเพียงใบหน้าเรียวเล็กที่นิ่งค้างไป  และก่อนจะทันได้คิดอะไร   ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กรีบรุดตรงไปที่ทางเข้าของบริษัท  ขาเรียวก้าวเร็วๆจนคล้ายกับวิ่งผ่านพนักงานเข้าไปจนเห็นร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่หน้าลิฟต์

    “เข้าไม่ได้นะคุณต้องมีบัตรผ่านนะครับถึงจะเข้าได้  คุณครับๆ”ไม่ได้สนใจเสียงค้านของคนโดยรอบ   ร่างเล็กมองตรงไปแค่ข้างหน้าที่ใครบางคนยืนอยู่แต่เพียงเท่านั้น  ฝีเท้าใกล้เข้าไปเรื่อยๆ  แต่คนๆนั้นกลับก้าวเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างเร่งรีบ

    “เชน!!!”ตะโกนเรียก  ใครคนนั้นชะงักฝีเท้า  ใบหน้าขาวจัดที่คุ้นเคยหันกลับมามองหากแต่ก็ไม่เห็นต้นตอของเสียงนั้นแต่อย่างใด   ขายาวๆจึงก้าวเข้าลิฟต์ไปในที่สุด

    “เข้ามาไม่ได้นะครับคุณ   ไม่มีบัตรจะเข้ามาก่อนเวลาบริษัทเปิดไม่ได้  เชิญข้างนอกครับ”ร่างเล็กถูก รปภ.มาล้อมจับตัวไว้และถูกดึงตัวออกมาข้างนอกโดยที่ไม่ได้ต่อต้านหรือขัดขืนแต่อย่างใด  เพราะกำลังมึนงงกับสิ่งที่ได้เจอมา  ....

    “มะ .... ไม่จริง”หลังจากถูกลากตัวออกมาเรียบร้อยก็ได้แต่พร่ำพูดเบาๆอยู่อย่างนั้น

    “คชา ....”เสียงของมารดาเรียกสติให้คนที่กำลังมึนงงหลุดออกจากภวังค์ความคิด   รีบรุดเข้าไปหามารดาแล้วเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยทันที

    “นั่นเชนใช่ไหมครับ  นั่นเชนหรอ .... ใช่เชนไหม  แม่ครับ .... เชนยัง ... ยังอยู่ใช่ไหม   กลับมาแล้วใช่ไหม ... แม่ .... ต้องเป็นเชนแน่ๆ ... ก็นั่นมันเชน  จะเป็นคนอื่นได้ยังไง .....”พูดรัวเร็วราวกับบอกกับตัวเองด้วยท่าทางมึนงง

    “คชา ..... ฟังแม่นะ  นั่นไม่ใช่เชน ..... เขาไม่ใช่เชน”คำตอบและท่าทางเห็นใจของมารดาที่มองตรงมาทำเอาร่างเล็กปล่อยน้ำตาให้ไหลพรั่งพรู    ใบหน้าเรียวอาบทอไปด้วยน้ำใสๆเมื่อได้ฟังคำพูดของมารดา

    เฝ้ารอใครบางคนมาตลอด ..... เฝ้ารอเพราะหวังว่าสักวันเขาอาจจะกลับมา .....

    รอเพราะเชื่อในปาฏิหาริย์ ...... ปาฏิหาริย์ที่เชื่อมั่นว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งแน่ๆ ......

     

     

    “ขอพบท่านประธาน”ร่างสูงเอ่ยบอกกับเลขาหน้าห้องของประธานบริษัท T กรุ๊ปอย่างร้อนรน

    “เอ่อ .... เชิญค่ะ  ท่านบอกให้คุณเศรษฐพงศ์เข้าไปได้เลย”เลขาหน้าห้องเอ่ยบอกด้วยท่าทางหวั่นๆ   ปกติแล้วผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อคนนี้จะเข้ามาพร้อมใบหน้าทะเล้นอารมณ์ดี   หากแต่วันนี้ราวกับพายุทอร์นาโดกำลังก่อตัวขึ้นตรงหน้าเป็นเหตุให้คิดว่ารีบเปิดทางให้เร็วที่สุดยิ่งดี .....

    “พ่อ!!”ประตูเปิดมาได้ยังไม่ทันปิดดีร่างสูงก็โพล่งด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

    “ถึงฉันจะเป็นพ่อแกนะเจ้าเต๋า  แต่ที่นี่บริษัททุกคนต้องเรียกฉันว่าท่านประธาน .....”ชายมีอายุเอ่ยบอกเรียบๆโดยไม่เงยหน้ามามองเลยด้วยซ้ำ   ก้มหน้าอ่านเอกสารในมือราวกับมันสำคัญกว่าหน้าของลูกชายตนเอง

    “เรื่องแต่งงานน่ะ .....”พูดยังไม่ทันจบ

    “ฉันคุยเรื่องนี้จบไปแล้วตั้งแต่ที่ห้องแกนะ   เลือกเอาว่าจะเลือกทำตามที่ฉันบอกหรือจะเซ็นจดหมายลาออกแล้วไสหัวของแกออกไปให้พ้นจากหน้าฉันซะ”

    “พ่อทำแบบนี้ทำไม   นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้วนะจะมาจับผมคลุมถุงชนไม่ได้!!

    “แล้วไง .... ต่อให้ศตวรรษที่ 40 ตราบใดที่ฉันยังเป็นพ่อแกนะเจ้าเต๋า   ฉันก็ยังจะสั่งให้ไอ้เพลย์บอยไม่มีสามัญสำนึกอย่างแกแต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้อยู่ดี”ในที่สุดก็ยอมผละมือและเงยหน้าขึ้นมาสนใจลูกชายที่กำลังดิ้นพล่านๆเพราะถูกสั่งให้แต่งงงาน

    “พ่อต้องการอะไร   อยากให้ผมเลิกเที่ยวกลางคืนใช่ไหม ...?  ได้! ผมไม่เที่ยวก็ได้  พอใจพ่อรึยังล่ะ ...”ยอมงอให้กับไม้แข็งของบิดาในที่สุด  แต่คนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างท่านประธาน T กรุ๊ปน่ะหรือจะไม่รู้แจ้งในสันดรของลูกชาย

    “อย่างมากแกก็จะงดเที่ยวเตร่ได้มากที่สุดแค่ 1 เดือน แต่หลังจากนั้นแกก็กลับไปมั่วผู้หญิงและมีข่าวขึ้นหน้า 1 ให้ไอ้นักข่าวมันใส่ไข่ทำลายชื่อเสียงที่ฉันสร้างมาอยู่ดี ...... แล้วดูแม่นางแบบคนล่าสุดของแกนะเจ้าเต๋า!”โยนหนังสืออีกฉบับใส่หน้าลูกชาย

    “...................”ร่างสูงไล่สายตาอ่านดูแล้วก็ถึงกับเบิกตาโพรง

    “ฉันไม่รู้ว่าท้องกับแกจริงๆรึเปล่านะ  แต่นักข่าวก็เขียนอักษรย่อที่คนทั้งประเทศเขาต้องคิดว่าเป็นแกแน่ๆ   มันน่าไหมห้ะ!!  ถึงแกจะไม่ใช่พ่อของเด็กจริงๆแต่ฉันก็รับไม่ได้กับข่าวคาวๆพวกนี้อยู่ดี  ฉันทนมามากจนไม่คิดจะทนให้แกมาทำลายตระกูลเพียงพอให้มันป่นปี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ...... เลือกเอาจะแต่งหรือจะออกไปจากตระกูล!!!”น้ำเสียงครั้งนี้ไม่ได้ราบเรียบอีกแล้วหากแต่ท่านประธานกำลังใส่อารมณ์กับมันมากและมากเสียจนตัวสั่นขณะพูด   ร่างสูงมองบิดาที่โกรธจัดขนาดนี้เป็นครั้งแรกอย่างหวาดหวั่น   ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าการจะปฏิเสธการแต่งงานในครั้งมีท่าทีว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย

    “พ่อ .....”เรียกบิดาเสียงอ่อน

    “................”ไม่มีคำใดตอบรับกลับมามีเพียงเสียงหายใจฟึดฟัดที่แสดงความไม่พอใจเพียงเท่านั้นเป็นคำตอบ

    “ผมไม่ได้ทำลีน่าท้อง   ผมรู้ว่าผมทำอะไรนะ  ผมไม่พลาดเรื่องนี้ง่ายๆหรอก”พยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงหวั่นเกรงอารมณ์ของบิดา

    “ฉันก็ไม่คิดว่าเสือผู้หญิงอย่างแกจะพลาด ..... แต่แกไม่คิดว่าเพราะหน้าตาและฐานะทางสังคมของแกมันเป็นตัวล่อให้ผู้หญิงพวกนั้นคิดจะจับแกรึไง!!  ถ้าแกไม่ใช่คนในตระกูลเพียงพอและเป็นแค่ไอ้จิ๊กโก๋ข้างถนน  ฉันรับประกันได้เลยว่าแม่ลีน่าของแกจะไม่โทรมาหาฉันแล้วบอกให้ฉันรีบจัดงานแต่งให้ก่อนท้องเธอจะป่องไปมากกว่านี้หรอก”

    !!!!”ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่เขาคั่วอยู่ติดต่อมาหาบิดาตนเองอย่างถือวิสาสะ

    “เข้าใจแล้วใช่ไหม ...... แกเลือกเอาได้เลย  ผู้หญิงที่แกไปมั่วด้วยกับคนแก่ๆอย่างฉัน   แกเลือกเลยว่าแกจะเลือกใคร!! ถ้าไม่โง่ก็แต่งงานตามที่ฉันบอกซะแล้วปัญหานี้ฉันจะจัดการให้มันจบเอง ....”

    “ทำไมต้องแก้ปัญหาด้วยการแต่งงานด้วยพ่อ .... เดี๋ยวรอตรวจ DNA ก็รู้แล้วว่าใช่หรือไม่ใช่”พยายามค้านด้วยน้ำเสียงเหมือนคนมีชนักติดหลัง

    “อีกตั้ง 9 เดือนกว่าจะคลอด   ถึงตอนนั้นชื่อเสียงฉันคงไม่เหลือไปบากหน้าเจอใครแล้วแต่งงานแล้วทำตัวเป็นสามีที่ดีซะ   ฉันจะได้ใช้ชีวิตแก่ๆที่เหลือของฉันอย่างสงบสุขสักที”

    “พ่อค้าบบบบ   อะไรก็ได้นะแต่ต้องไม่ใช่การแต่งงาน   ผมอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไม่ได้หรอก”พยายามหาเหตุผลมาค้านเต็มกำลัง

    “แล้วแม่ดารานางแบบพวกนี้ล่ะ   รักเขาหรอหะ!?  ทำไมถึงมีภาพนัวเนียทุเรศๆออกมาได้”หนังสือพิมพ์และหนังสือกอซซิบอีกหลายเล่มที่วางกองอยู่บนโต๊ะถูกผลักมาตรงหน้าร่างสูงให้ยอมจำนน

    “ก็ตอนแรกคิดว่ารักแต่พอสักพักมันไม่ใช่นี่พ่อ .....”

    “อ้อ   สักพักของแกนี่แค่ชั่วข้ามคืนใช่ไหม .....” พยายามสูดหายใจสงบอารมณ์ที่เริ่มเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง “แต่งงานซะ  ฉันจะไม่พูดอะไรกับแกไปมากกว่านี้อีกแล้ว  คนที่ฉันเลือกให้ ..... ฉันตัดสินใจเป็นอย่างดีแล้ว”

    “พ่อออออออ”เสียงอ่อยและท่าทางที่แทบจะก้มลงขอร้องกราบกราน

    “ไม่แต่งก็ได้ ..... ฉันมีตัวเลือกให้แกสองทางอยู่แล้วนี่”

    “พ่อออออออออออออออออออ”  

     
     


    TBC.

      

    Me ขึ้นแชปแรกสักทีหลังจากทิ้งห่างไปพอควร (หรอ?) 555  ยังไงช่วงนี้ฝนตกหนักและตกบ่อยนะ  รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะรีดเดอร์ :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×