คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 37
บทที่ 37
ฟิ้ว ๆ ๆ!!! ตูมม!!!
ตึก ๆ ๆ ๆ
เฟร่ากับดารัลวิ่งหนีเต็มฝีเท้า (จริง ๆ แล้วดารัลนั้นเร็วกว่า แต่วิ่งเคียงคู่กับเฟร่า) สองคนวิ่งหนีอะไรบางอย่างที่วิ่งตามสองคน มันคือสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขนาดที่เดมอสยังไม่มีเลย
สัตว์ประหลาดที่ว่า มันมีรูปร่างที่แสนประหลาดเสียเหลือเกิน เหมือนกันว่าเอาสัตว์หลาย ๆ ชนิดมาผสมกัน (แต่ไม่ใช่คิเมร่า ที่มีหัวเป็นสิงโต ตัวเป็นแพะ หางเป็นงู) มันมีหัวเป็นเสือ แต่มีหูเหมือนค้างคาว มีนอเหมือนแรด ลำตัวครึ่งแรกคล้ายช้าง ครึ่งหลังคล้ายม้า รูปร่างใหญ่ มันสามารถเดินได้ด้วยสองขาหรือวิ่งก็ได้ แต่ถ้าวิ่งด้วยสี่ขาด้วยจะเร็วหยิ่งกว่า
มันอ้าปากแล้วพ่นยิงเป็นลูกกลม ๆ สีแดง เมื่อมันกระทบโดนอะไรก็แล้วแต่มันจะระเบิดทันที
“ฉันจะจัดการมัน!!” เฟร่าโพล่งขึ้นมา แต่ดารัลค้านทันที
“อยากจะให้พวกมันมาเยอะกว่านี้หรือไง?” ก่อนหน้านี้มันมีแต่ตัวเดียว เฟร่าจึงร่ายเวทย์จัดการได้ภายในพริบตา แต่พอมันตาย ต่อมาก็มีพวกพ้องของมันตามมาเป็นฝูงงง!!!
“ฆ่ามันให้หมดนี่แหละ!” เฟร่าพูด
“คงจะไม่หมดหรอก มีแต่จะออกมาสมทบให้มากกว่าเดิมนะซิ!” ดารัลบอก ตอนที่พวกมันออกมาหลายตัว ดารัลเองก็จัดการมันไปบ้างเหมือนกัน เลยกลายเป็นว่าต้องหนีกองทัพมันซึ่งมีไม่ต่ำกว่าร้อยแน่ ๆ
“คทาพิพากษา!!” เฟร่าเอ่ยนาม แต่ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คทาพิพากษา!!” เฟร่าเรียกอีกครั้ง
“ทำไมถึงไม่มา เป็นไปได้ยังไง?”
“คงจะอยู่คนละมิติจริง ๆ นั่นแหละ หรือไม่ก็มันอยู่ไกลเกินกว่าจะเรียกได้ แต่ฉันว่าน่าจะเป็นกรณีแรกมากกว่า ไกลแค่ไหนอย่างเธอน่าจะเรียกได้” ดารัลคิดว่าเป็นอย่างนั้น
“ไม่ต้องใช้คทาพิพากษาก็ได้ ฉันเบื่อที่จะวิ่งหนีแล้ว” เฟร่าตัดสินใจ แล้วกลับหลังหันเผชิญหน้ากับมัน เฟร่าพึมพำร่ายคาถา แล้วมือทั้งสองข้างแตะพื้น ทันใดนั้นแผ่นดินสั่นไหว แล้วมีกองทัพโกเลมปรากฏขึ้น แล้วพวกโกเลมมันเดินเข้าไปหาพวกสัตว์ประหลาด เมื่อเฟร่าร่ายเวทย์จบ ดารัลลากเฟร่าให้วิ่งต่อ
“เฮ้ย!!” เฟร่าร้อง
“กองทัพโกเลมของเธอคงถ่วงเวลาได้ก็ดีเหมือนกัน” ดารัลตอบ
“แล้วทำไมนายเรียกดาบได้ล่ะ? คทาด้วย!!” เฟร่าข้องใจ
“ก่อนที่จะหลุดมาที่นี่ ฉันถือดาบ กับคทาอยู่ไง? มันก็เลยลอยติดเข้ามาด้วย” ดารัลบอก
แฮ่ก ๆ ๆ ๆ
“เหนื่อยชะมัดเลย!” เฟร่าบ่น เมื่อดารัลเห็นว่าพวกเขาวิ่งหนีพ้นจากสัตว์ประหลาด เฟร่าวิ่งซะหอบแฮ่ก ๆ เหงื่อโชกไปทั้งร่าง ส่วนดารัลก็แค่เหงื่อออกเพียงเล็กน้อย
“แล้วนี่วิ่งดูทางเปล่า?” เฟร่าถาม
“มั้ง? ฉันก็ไม่รู้จักอยู่ดีแหละ” ดารัลตอบตามความจริงและกวนประสาท ดูทางก็อย่างมากก็แค่เห็น ได้สัมผัส แต่ไม่รู้จักชื่อสถานที่ เฟร่านับหนึ่งถึงสิบในใจ ระงับอารมณ์ก่อนที่จะเผลอสาปดารัลเข้า
“ดูเหมือนว่าจะคนอาศัยอยู่ด้วย” ดารัลเอ่ยขึ้น เฟร่ามองไปรอบ ๆ มองหาสิ่งที่บ่งบอกว่ามีคนอาศัยอยู่
พวกเขาเห็นพุ่มไม้ขยับส่ายไปมา แล้วมีเด็กชายอายุไม่น่าจะเกินสิบขวบแหวกออกมาจากพุ่มไม้ แต่ว่า.............ใบหน้าเด็กคนนั้นค่อนข้างตกใจแล้วจะถอยหนี
“พี่อยากถามอะไรหน่อย?” ดารัลพูด แต่เด็กคนนั้นหันหลังวิ่งทันที ดารัลโดดเข้าไปยืนขวางทางเด็ก เขาตัวสั่นแล้วเอ่ยขึ้นเสียงสั่น ๆ ด้วยว่า
“อย่าทำอะไรผมเลยครับ.......ผม.......”
“พี่ไม่ทำอะไรเจ้าหรอก” ดารัลย่างเข้าไปหา
โป๊กก!!
“โอ๊ย! ยัยบ้าตีฉันทำไม!” ดารัลหันไปต่อว่าเฟร่า ที่จงใจทุบหัวดารัลด้วยคทาของเขา
“หน้านายนั่นแหละ ทำให้น้องกลัว! ทำหน้าหยั่งกับอยากฆ่าคน” เฟร่าว่า ดารัลขมวดคิ้ว เขาเนี่ยนะ?
“ขอโทษนะน้องชาย พอดีพี่ชายคนนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเป็นใครหรอก” เฟร่าช่วยแก้ต่าง(ใส่ร้าย)ให้ดารัล
“นี่!!” เฟร่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจดารัล
“น้องบอกพี่ได้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน?” เฟร่าเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน เด็กชายรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเมื่อเฟร่าเอ่ยขึ้น เขาถึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
“เดฮาร์ครับ มันเป็นคนละมิติที่พวกพี่ ๆ จากมา รวมทั้งผมด้วย”
“หมายความว่ายังไง?” เฟร่าถาม
“พวกผมถูกปีศาจดูดเข้ามาที่มิตินี้ มันเป็นมิติที่เขาสร้างขึ้น แต่ผมจำชื่อเขาไม่ได้”
“ดิฮาส!!”
“รู้สึกจะชื่อนั้นล่ะครับ ที่นี่ปีศาจจะเป็นใหญ่ มนุษย์จะอยู่ติดดินเหมือนทาส มนุษย์ทุกคนที่ถูกดูดเข้ามาที่นี่ ถ้าหากเจอปีศาจจะถูกจับเป็นทาส พวกผมต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ครับ” เด็กชายบอก
“พวกเธอ?” เฟร่าทวน
“เพื่อน ๆ กับผู้ใหญ่ที่ไม่โดนปีศาจจับไปเป็นทาสครับ ถ้ายังไงพวกพี่ ๆ ไปพักที่บ้านพวกผมก็ได้” เขาเอ่ยชวน
“พี่ขอรบกวนแล้วกัน พี่ชื่อเฟย์ ส่วนคนนู้นดารัล” เฟร่าแนะนำตัว
“ผมชื่อต้าครับ”
////////////////////////////////
“เฟริน!” คาโลไม่เรียกอย่างเดียว เขาคว้าจับแขนขวาเฟรินไว้ทันที ก่อนที่เฟรินจะเดินหนีจากไปอีก
“ปล่อยฉัน!” เฟรินสั่ง พลางพยายามสะบัดให้คาโลปล่อยมือออก แต่คาโลกลับบีบแขนแน่นกว่าเดิม คาโลนึกกลุ้มใจ ทำไมต้องตามง้อเฟรินด้วยเนี่ย?
“เฟริน......ฉันขอโทษ!!!” คาโลบอกเสียงเบาจนเกือบจะเป็นกระซิบ แม้ว่าเสียงจะเบาแต่เฟรินก็ได้ยินจนหยุดชะงักครู่หนึ่ง แล้วในใจเริ่มมีแผนการบางอย่าง
“เมื่อตะกี้พูดว่าอะไร? ได้ยินไม่ค่อยชัดเจนเลย” เฟรินพูด คาโลนิ่งเงียบเพราะไม่อยากจะพูดประโยคเมื่อตะกี้นี้
“สงสัยคงหูฝาดไปจริง ๆ งั้นก็........ขอตัว.....” เฟรินไม่บอกอย่างเดียว เธอหันหลังให้คาโล แม้ว่าแขนจะถูกคาโลจับไว้ก็ตามแต่
“เดี๋ยว! คือว่า.............”
“ฉันขอโทษ” คาโลยอมพูดอีกครั้ง
“เรื่อง?”
“ฉันไม่ค่อยมีเวลาให้กับเธอ แล้วยังจะ..........” คาโลพูดไม่ทันจบ เฟรินพูดแทรกขึ้นมาว่า
“ฉันเข้าใจว่านายต้องทำงาน แต่ว่า............ไม่ใช่เอาแต่ทำงานเพียงอย่างเดียว หัดรู้จักพักผ่อนซะบ้าง นายนะเอาแต่บ้างาน ๆ ๆ แล้วก็งาน จนลูก ๆ บางครั้งเริ่มน้อยใจ แม้แต่ฉันเองก็ยังน้อยใจเลย แล้วยังสั่งห้ามอีก มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? ฮือ? แล้วแต่งงานกับฉันทำไม ทำไมไม่แต่งงานกับงานของนายเสียล่ะ?” เฟรินถือโอกาสสั่งสอนคาโลซะเลย ทุกทีคาโลจะเป็นคนสั่งสอนเฟรินมากกว่า ว่าให้ทำตัวสมกับเป็นกุลสตรี
คำพูดของเฟรินทำให้คาโลนึกได้ ตั้งแต่ที่คาโลขึ้นครองคราชย์เป็นมา แม้ว่าเขาจะสามารถดูแลบ้านเมืองได้ดีก็จริง แต่ว่าไม่ได้ดูแลครอบครัวเท่าทีควร โดยเฉพาะหลังจากที่เฟรินโดนคำสาปแล้วต้องกลายเป็นวิญญาณสิงสถิตยู่ในคทาพิพากษาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
“ช่างมันเถอะ เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ก็แล้วกันไป อย่าไปคิดถึงมันเลย ตอนนี้คิดถึงปัจจุบันกับอนาคตที่ใกล้จะเกินขึ้นดึกว่า” เฟรินกล่าว พอคาโลได้ยินทำให้คาโลนั่นยิ้มมุมปากออก แต่คิ้วขวาเฟรินชักกระตุกอย่างรู้สึกไม่ไว้วางใจกับยิ้มของคาโลนั่นเลย เฟรินเริ่มพยายามจะแกะมือคาโลออกต่อ แต่คาโลดึงเฟรินให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคาโลแทน แล้วรูดแหวนเฟรินออกให้กลายเป็นหญิง ใบหน้าเฟรินแดงซ่าขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีเหตุผล
*“บ้าชะมัด จนป่านนี้ยังจะ.....”* เฟรินคิดแล้วยังรู้สึกใบหน้าร้อนวูบวาบอีกด้วย
“นี่นาย............” เฟรินไม่ทันได้พูดคัดค้านเรื่องบางอย่าง แล้วต้องพูดไม่ได้ เนื่องจากว่าคาโลมอบจุมพิตเสียก่อน..........
“เอ่อ................” เมื่อเวลาผ่านไปได้สักครู่ มีเสียงใครบางคนที่ดันโผล่มาขัดจังหวะพอดี คาโลถึงยอมปล่อยเฟริน แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในใจคาโลนั้นคิดว่า ไม่น่ามาขัดจังหวะเสียเลย แล้วปล่อยให้เฟรินยืนขึ้นสีด้วยความอาย (ทีหยั่งนี้ คาโลดันหน้าหนาแฮะ)
รุ่นลูกที่มีนามว่าทีดัส ทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เห็นบทละครรักอยู่ตรงหน้า แสดงโดยคาโลและเฟริน
“มีอะไร?” คาโลเป็นฝ่ายเอ่ยถามซะเอง เมื่อเห็นว่าทีดัสไม่เอ่ยปากพูดอะไร ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเข้ามาขัดจังหวะแท้ ๆ
“คือว่า........จ้าวเอวิเดสให้มาบอกว่า มีประชุมเรื่องสำคัญโดยด่วนครับ” ทีดัสเริ่มทำหน้าที่ที่ต้องมาบอกคาโลให้รับรู้
“เรื่องอะไรล่ะ?”
“เตรียมรับมือสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้” ทีดัสตอบ
////////////////
“เฮ่ออ!!” เสียงถอนใจเฮือกออกมาอย่างที่คนที่ไม่น่าจะมีได้ เขามองท้องฟ้าอย่างไม่มีจุดหมายก็จริง แต่เขาคิดถึงสิ่งที่อาลูน่าเคยบอกคำทำนายเอาไว้
“ทั้งมนุษย์และพวกเราต่างก็ต้องเจอภัยพิบัติจากสงครามครั้งใหญ่อีกครั้ง แต่หนนี้ไม่ใช่ระหว่างพวกเรากับมนุษย์ หากเป็นพวกเราร่วมมือกับมนุษย์ เพื่อที่จะปราบกองทัพดิฮาส”
“แต่ทำไมเฟร่าต้องไปเกี่ยวอะไรด้วย” เอวิเดสถามเสียงเครียด
“ก็เพราะว่าหลานเฟร่าคือ แหล่งพลังอันมหาศาลรองจาก ของวิเศษทั้งสี่ และท่านพี่” ราชินีจันทรากล่าว
“ถ้าอย่างงั้น ดิฮาสมาหาข้ามันจะได้พลังมากกว่าไม่ใช่เหรอ? มีเหตุผลอะไร?”
“แม้ว่าท่านพี่จะมีพลังอันมหาศาลก็จริง แต่ว่า...........ในตอนนี้ท่านพี่มีฝีมือพอ ๆ กับดิฮาส แล้วเป็นผู้ชายซึ่งไม่สามารถกำเนิดบุตรให้ได้”
“หมายความว่าดิฮาส............”
“อย่างที่ท่านพี่คิด ดิฮาสต้องการทายาท ไม่ซิต้องบอกว่าแบ่งวิญญาณของตนเองให้กลับมาเกิดเป็นทายาทของเขาเสียมากกว่า เขารู้ตัวว่า เขาไม่สามารถอยู่ในร่างที่ไม่ได้เป็นร่างกายเนื้อจริง ๆ นานไม่ได้ ทันทีที่ทายาทของเขากำเนิด เขาก็จะรวมวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกับร่างทายาทซึ่งเป็นร่างใหม่ของเขาทันที ส่วนสงครามที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแต่เป้าเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเป้าเบี่ยงเบนความสนใจนั้นบังเอิญสำเร็จขึ้นมา มันก็ดีแก่เขาเช่นกัน”
+++++++++++++++++++++
ไม่ค่อยโพสต์กันเลยอ๊ะ เดี๋ยวเราจะอัพช้าเพราะงอนด้วย
ความคิดเห็น