ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเล่นต่อฟิคบารามอสกันเถอะ : เมื่อเอวิเดสจะแต่งงานใหม่!!!

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 49


    บทที่  6


    ถีงท่านจ้าวเอวิเดส


    เมื่อท่านจ้าวเอวิเดสได้อ่านจดหมายฉบับนี้  นั่นก็หมายความว่า   ฉัน........ก็ได้ออกจากวังเดมอสไปหลายวันแล้ว 


    ท่านจ้าวเอวิเดส อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า..............ฉันหนีไป


    แต่แท้จริงแล้วนั่น   ฉันมีธุระที่สำคัญ  ฉันต้องเป็นคนไปช่วยสะสาง


    ท่านจ้าวคงพอจะเดาได้กระมั้ง?


    ฉัน..................จะไปตามหาเฟลิโอน่าที่วังคาโนวาล.............


    ท่านจ้าวไม่ต้องเป็นห่วง  


    ที่สำคัญ.......ไม่ต้องตามหาฉันด้วย    ท่านก็อย่าหวังว่าจะเจอฉันได้ง่าย ๆ ถ้าหากคิดตามหาฉัน
      เพราะว่าฉันเองก็ต้องปลอมตัวเช่นกัน 


    ฉันต้องการที่จะให้เฟลิโอน่า กับท่านจ้าวปรับความเข้าใจกัน   


    เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้ว.........


    ฉันคง.............ต้องจากท่านไป..........


    นั่นไม่ได้หมายความว่า........


    ฉันไม่ได้รักท่าน


    แต่...............


    เพราะว่ารักท่าน


    ฉันถึงต้องจากท่าน............รักท่านเหมือนคนรัก   แต่ก็ไม่อยากให้ครอบครัวของท่านแตกแยก


    ฉันถึงตัดสินใจเช่นนี้


    แม้ว่าในอนาคตข้างหน้า....


    ฉัน.........


    คงจะไม่ได้อยู่เคียงข้างท่าน


    ..................แต่................


    ฉันก็ยังรักท่านตลอดไป..........จนกระทั่งวันตาย...............


    ขอบคุณมากที่ขอฉันแต่งงาน  



    รักและคิดถึงตลอดไป


              
    โลร่า



              เมื่อเอวิเดสอ่านจดหมายฉบับนี้จบ  จดหมายนั่นก็สลายเป็นผุยผงไม่เหลือแม้แต่ซาก     ตั้งแต่สองสามวันก่อนเอวิเดสไม่เห็นโลร่าแม้แต่ที่ไหนของวังเดมอสเลย     ต่อมาเอวิเดสก็พบจดหมายฉบับนี้ที่ห้องนอนของโลร่า   ที่อยู่บนโต๊ะ


    เมื่อจดหมายฉบับนั้นสลายไป เอวิเดสนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่นาน..............จากนั้นเขาก็หันหลังออกจากห้องที่ ๆ โลร่าเคยพักอยู่



    ////////////////////////////////////////////



              
    ในขณะเดียวกัน    ที่สวนในวังของคาโนวาล   ช่วงเวลาค่ำคืนแห่งรัตติกาล  ในคืนที่ไม่มีแสงจันทร์ส่อง  คาโลออกมาหาใครบางคน   เขาเดินไปในส่วนที่มีคนผ่านไปมาน้อยที่สุด    คาโลก็ได้พบกับเธอ  หญิงสาว อายุน่าจะพอ ๆ กัน  คาโลไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้  เนื่องจากว่ามันมืดมาก


    "เรียกฉันออกมาต้องการอะไร?"  คาโลถามห้วน ๆ    ตอนที่คาโลนั่งเฝ้าเฟรินที่ยังคงหลับอยู่ในห้อง  ที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแม้แต่น้อย     คาโลได้รับข้อความจากนกพิราบตัวหนึ่ง  ที่บินมาหาคาโล  ข้อความระบุไว้ว่า 


    ถ้าอยากให้เฟรินตื่นขึ้นมาเร็วขึ้น  จงมาหาที่สวนที่อยู่ด้านในสุดของวัง



    "นายอยากรู้วิธีที่ทำให้เฟรินตื่นไม่ใช่หรือ?  ถึงได้มาที่นี่"  เธอกล่าว   คาโลนิ่งเงียบ


    "ข้ามีวิธีหนึ่ง  แต่ว่า.........ขึ้นอยู่กับเจ้า"   เธอบอก


    "หมายความว่ายังไง?"


    "ข้ามียาขวดหนึ่ง"  เธอกล่าว  แล้วชูขวดยาขวดเล็กที่ทานได้แค่หนึ่งคน  ขึ้นมาให้เห็น


    "ยาขวดนี้  สามารถทำให้คนที่ดื่มนั้น   เข้าไปในความฝันของคนรักหรือเพื่อนสนิท"  เธออธิบายคุณสมบัติของยาตัวนี้


    "ซึ่งนั่นก็หมายความว่า..............เจ้าเข้าไปหาเธอในความฝัน  แล้วพาเธอออกมาจากความฝัน  จะทำได้หรือไม่ได้  ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า"


    "อะไรคือการแลกเปลี่ยนกับขวดยา" 


    "เข้าใจง่ายนี้  ว่าต้องมีการแลกเปลี่ยนด้วย"


    "ของทุกอย่างในโลก   ไม่มีคำว่าฟรี"


    "ข้าก็แค่..........ต้องการไปไหนมาไหนกับเจ้านะ   ข้าอยากอยู่เคียงข้างเจ้า"  เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน


    "ถ้าหากนายไปที่ไหนก็แล้วแต่  ข้าก็จะขอตามนายไปด้วย  นี่คือข้อตกลง"  


    "แล้วจะรู้ได้ไงว่ายานี้ใช้ได้จริง  เธอไม่ได้หลอกฉัน"


    "จริงแท้แน่นอน!!    ข้าขอยืนยัน  ถ้าหากว่าไม่ใช่ของแท้   ข้าจะไม่มาหา   

    เมื่อเจ้าทำสำเร็จ     หลังจากวันนั้น ข้าถึงจะมาหาเจ้า"   เมื่อเธอพูดจบ   ขวดยานั่นลอยเข้าไปอยู่ในมือของคาโลทันที!!   ส่วนเธอนั้นก็หายไป   มือคาโลกำขวดยาแน่น  แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในวัง

    ส่วนเธอคนนั้นที่หายไป  ปรากฏตัวยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่ใหญ่ ตรงใกล้ ๆ กับหน้าต่างห้องที่เฟรินนอนอยู่  เธอมองเฟรินที่นอนหลับอยู่ในห้อง   เธอมองดูอยู่พักหนึ่ง  แล้วเธอกระโดดลงไป  แสงไฟส่องให้เห็นใบหน้าของเธอ..............หญิงสาวผมสีแดงเพลิงงง!!!!!!  จากนั้น เธอก็จากไป.............





    ร่างสูงถลาเข้ามาในห้องอีกครั้ง ทำเอาคิลที่นั่งเฝ้าเฟรินแทนมองมาอย่างงๆ
    "คาโล? นายเป็นอะไรน่ะ"

    "คิล ถ้าเสด็จพ่อหรือว่าใครก็ตามทรงถาม นายก็ช่วยตอบให้หน่อยนะว่าฉันจะไปตามเฟริน"

    คิลตาโต สะดุ้งมองหน้าร่างสูงอย่าไม่เข้าใจ  นี่มันห่วงเฟรินจนเป็นบ้าไปแล้วหรอ
    เฟรินก็นอนอยู่ยนเตียงไงล่ะ ยังจะไปตามอะไรอีกล่ะเนี่ย

    ความคิดนักฆ่าพลันชะงักเมื่อคาโลเทของเหลวในขวดแก้วเล็กๆ ลงคอแล้วล้มลงไปที่พื้นต่อหน้าต่อตาเขา
    "คาโล!!!" คิลร้องอย่างตกใจ พลางถลาเข้าพยุง

    "คาโล เฮ้ย คาโล..." คิลทั้งตบทั้งตี ร่างสูงก็ไม่มีทีท่าที่จะลืมตาจนคิลยอมแพ้ต้องพยุงมันไปนอนที่เตียงข้างๆ เฟริน

    เอาล่ะสิตู...มีเพื่อนกะเขา 2 คน เจือกหนีไปเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทรากัน 2 คน
    ใช่เซ่ตูมันฆ่าไม่ใช่เจ้าชายนิ

    คิลคิดอย่าหมันไส้ แต่ก็ต้องจ้องมองใบหน้าไร้ความรู้สึกของเพื่อนรักทั้งคู่ด้วยดวงตาเศร้าหมอง
    "พวกแกอย่าทิ้งฉันไปนะ เฟรินคาโล..."

    หมอกควันสีขาวลอยฟุ้ง คาโลกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชนกับความมืด
    สำนึกอยู่เสมอว่าเขาต้องมาพาหัวใจของตัวเองกลับไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
    "เฟริน..." คาโลร้องขึ้น พยามจับความเคลื่อนไหว

    แต่ก็ไม่มีแม้เสียงลมพัด คาโลกลั้นใจร้องเรียกอีกครั้ง...ผลก็ยังคงเดิม

    "เฟริน...ฉันมารับแล้วกลับไปด้วยกันเถอะ" คาโลเอ่ยเสียงแผ่ว
    พลันแสงสีทองก็สว่างจ้าขึ้นที่มุมๆ หนึ่ง คาโลรีบเดินตามไปทันที


    "ฮะๆๆ" เสียงหัวเราะหวานใสดังเข้ามาในโสตประสาท หัวใจเย็นๆ ชายหนุ่มลิงโลดขึ้นมาทันที

    "เฟริน..." คาโลเอ่ยรู้สึกเบาใจขึ้นเป็นกอง เมื่อรู้ว่าคนที่เขารัก

    ยังมีชีวิต

    ยังมีรอยยิ้ม

    ยังมีเสียงหัวเราะ

    คาโลรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้นจนสุดปลายแสงสว่าง แล้วเจ้าชายก็พบกับเจ้าหญิงที่กำลังตามหา

    เฟรินกำลังเล่นหยอกล้อกับชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่ง
    ซึ่งคาโลค่อนข้างมั่นใจว่าบุคคลทั้งคู่คือจ้าวปีศาจเอวิเดสและราชินีอลิเซียเมื่อครั้งยังยังหนุ่มสาวนั่นเอง

    "เฟริน" คาโลแข็งใจเรียกเจ้าตัวยุ่ง ซึ่งเฟรินก็หันมามองอย่างแปลกใจ

    "คาโล!!! มานี่ได้ไงน่ะ" เฟรินยิ้มจนดวงตาสีน้ำตาลใสเป็นประกาย เพิ่มสเน่ห์แก่ตัวเองเป็นเท่าตัว
    หากเป็นเวลาปกติเขาคงอดไม่ได้ที่จะดึงร่างบางมากอด

    แต่นี่
    "นายต้องกลับไปกับฉัน" คาโลเอ่ยขึ้น

    รอยยิ้มเมื่อครู่จางหายไปทันทีแปลเปลี่ยนเป็นดวงหน้ากราดเกรี้ยว

    "ไม่!!! จะกลับไปทำไม อยู่ที่นี่นายก็เห็น พ่อกับแม่รักฉัน ฉันมีความสุข แต่ถ้าฉันกลับไปใครจะรักฉันล่ะ
    แม่หรอ แม่ฉันน่ะตายไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสได้เจอแม่หรอก ส่วนพ่อหึ...เคยรักฉันบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
    ปากบอกว่ารักแต่การกระทำมันสวนทาง นายเข้าใจมั๊ยคาโล
    เพราะงั้นฉันไม่กลับไปหรอก ขอย้ำว่าที่นี่ฉันมีความสุขดี"

    "แล้วนายร้องไห้ทำไม" คาโลถามขึ้นดวงตาส่อแววหม่นหมองไม่แพ้ร่างบาง
    เฟรินสะดุ้งรีบเอามือปาดน้ำตาลวกๆ แล้วเดินหนี

    "นายมีความสุขแล้วนายจะร้องไห้ทำไม" คาโลถามไม่ลดละ

    'ก็เพราะมันไม่ใช่ความสุขทั้งหมดของฉัน ถ้าฉันเลือกครอบครัวฉันก็จะเสียนาย ถ้าเลือกนายฉันจะเสียครอบครัว ฉัน...เลือกครอบครัว มากกว่าความรักของตัวเอง' เฟรินกรีดร้องในใจ

    "ถ้านายมีความสุขจริงฉันก็ดีใจ แต่นายทำให้ฉันและทุกคนที่โลกนู้นเป็นทุกข์" คาโลกล่าวลอยๆ
    เฟรินหัวเราะเบาๆ ในคอก่อนจะตอบเสียงสั่น

    "ใครล่ะ ใครต้องการฉัน  เฟริน หัวขโมยกระจอกๆ นายอย่าลืมสิ เจ้าชายคาโลฉันไม่ใช่ธิดาแห่งความมืดอีกต่อไปแล้วนะ ไม่ใช่เจ้าหญิงสองดินแดน ไม่ใช่คนที่ดีเลิศเลอ ฉันหมดสิ้นทุกๆ อย่าง แต่ฉันไม่แคร์ที่ฉันแคร์ก็แค่ความรู้สึกของนาย"

    "นายโกหก" คาโลเอ่ยเสียงกระด้าง ทำเอาเฟรินหันมาจ้องอย่างไม่เข้าใจ

    "ฉันไม่ได้โกหกฉันระ"

    "หยุดพูดซะเฟริน ฉันไม่อยากได้ยินคำพูดนั้นออกจากปากหัวขโมยขี้แพ้" คาโลกล่าวเสียงเย็น
    หัวใจขโมยสาวชาวาบ...นี่มันอะไรกัน

    "นะ...นายก็รักฉันที่เป็นเจ้าหญิงงั้นหรอ หึๆ นั่นสินะ เข้าใจแล้วล่ะ นายกลับไปเถอะ" ปากน้อยขยับพูดพลางหันหลัง

    หันหลังให้กับทุกอย่าง

    ไม่เคยคิดว่าต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องรางช้ำๆ ซ้ำซ้อนมากมายขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ

    หัวใจ...มันก็แค่ก้อนเนื้อ มีความรู้สึก มีขีดจำกัด มันคงต้องสูญสลายไปซักวัน

    และวันสูญสลายของหัวใจเธอ คงเป็นวันนี้กระมัง

    วันที่ได้ยินคำที่ทำร้ายหัวใจขนาดนี้

    วงแขนแข็งแรงโอบกระชับเอวบางให้เข้ามาใกล้ คาโลใช้มืออีกข้างดึงให้ร่างบางหันมาเผชิญหน้า
    ก่อนจะโน้มลงจูบไล่น้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด

    "นายไม่ใช่คนอ่อนแอนี่เฟริน คนที่อยู่ตรงหน้าฉันอ่อนแอเกินไปสำหรับตำแหน่งราชินีของคาโนวาล และอ่อนแอเกินไปสำหรับคนที่ฉันรัก"

    "ฉันก็แค่หัวขโมย"

    "ใช่หัวขโมยนิสัยเสีย ขโมยทุกอย่าแม้แต่หัวใจเจ้าชายอย่างฉัน"

    "ฉันกลับไปได้หรอ ยังมีคนที่ต้องการฉันอยู่อีกหรอ" เฟรินพึมพำอย่างไม่มั่นใจ

    "กลับไปได้สิ ทุกคนรอการกลับมาของนาย ทุกคนต้องการนาย" คาโลเตือนสติ
    ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ

    "ฉันจะกลับไป แม้บางคนจะไม่อยากให้ฉันกลับไปก็ตาม"

    "ฉันดีใจที่นายคิดอย่านั้น เรารีบกลับกันเถอะ" คาโลเอ่ยขึ้นพลางดึงแขนคนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกัน

    "แต่..." ร่างบางฝืนร่างเอาไว้ไม่ขยับ คาโลหันมามองงงๆ

    "นายไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่ข้างนาย ตลอดไป..."







     

    +++++++++++++++++++++++++++


    โดย  Pika0be ,ลิตเติลมิคุจัง



    อา........................เราแต่งต่อเองก็ได้ฟะ   ไม่แน่ใจนะว่าจะต่อติดแบบสนิทอ๊ะนะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×