ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเล่นต่อฟิคบารามอสกันเถอะ : เมื่อเอวิเดสจะแต่งงานใหม่!!!

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 49


    บทที่ 4


    ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆ
    เปิดขึ้นอีกครั้งอย่างอ่อนล้า...
    นี่หัวขโมยสาวปากดีกำลังอยู่บนเกวียนหรอ...ไม่สิ มันกว้าง เบาะก็นิ่ม

    ยังแถมมีกล่นหอมอ่อนๆ อีกแน่ะ ถ้าไม่รู้สึกว่ามันเคลื่อนที่ได้
    เขาคงคิดว่าที่ๆ เขาอยู่คงเป็นห้องของเจ้าหญิงในวังรวยๆ แน่ๆ เลย

    เฟรินชันกายขึ้นช้าๆ  รวบรวมสติ แต่อาการปวดหัวยังคงแทรกแซงอยู่ทุกอณู
    '
    เรามาที่นี่ได้ยังไง'

    'นี่เราอยู่ที่ไหน'

    'เรา...เราเป็นใคร' เฟรินพยามยามที่จะนึกคำตอบข้อสุดท้ายให้ได้

    แต่
    ทำไมล่ะ...
    นึกเท่าไหร่ก็ไม่ออก เราเป็นใครกันนะ...

    "เฟริน..." ร่างสูงของเจ้าชายหนุ่มแห่งคาโนวาลร้องเรียกคนรักอย่างตกใจ
    เมื่อคนรักของเขา นั่งก้มหน้ากุมขมับและทำท่าเหมือนเจ็บปวดกับอะไรบางอย่างเสียเต็มประดา ไหล่บางไหวสั่นอย่างน่ากลัว

    เมื่อมีความรู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาร่างบางก็ตวัดตามองอย่างตกใจ
    "
    ใครน่ะ เข้ามาทำไม!!!" ดวงหน้าหวานเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยว

    "เฟรินนี่ฉันเอง คาโล" เจ้าชายน้ำแข็งเอ่ยเบาๆ พลางหรี่ตามองคนตัวเล็ก

    "คาโลไหน ฉันไม่รู้จักนาย ออกไปนะ ไปให้พ้น"
    เมื่อมั่นใจว่าไม่รู้จัก ขโมยสาวก็ตวาดไล่เสียงดัง

    ทำเอาคาโลอึ้ง เมื่อถูกคนตัวเล็กไล่ด้วยอารมณ์รุนแรง
    '
    มันอาจจะเครียดร่างสูงคิดแล้วเดินเลี่ยงออกมา

    "เฟรินมันเป็นไงมั่ง แบบว่าฉันได้ยินเสียง..." ว่าแล้วคิลก็บุ้ยใบ้ไปทางประตู

    "ฟื้นแล้ว แต่นายอย่างพึ่งเข้าไปเลย เฟรินยังต้องฟักผ่อน" กล่าวจบคาโลก็จากไป
    นักฆ่าหนุ่มยักไหล่ แอบย่องเข้าไปในห้องที่เฟรินพักผ่อนอยู่
    ก็คนมันเป็นห่วง ได้แค่ดูมันหลับก็ยังดี...

    แต่สิ่งที่คิลเห็นกลับไม่ใช่อย่างที่คิด
    สาวน้อยที่น่าจะนอนอยู่กลับปีนป่ายขอบหน้าต่างเตรียมพร้อมจะกระโดดทุกเมื่อ
    "
    เฮ้ย เฟริน!!!" คิลร้องอย่างตกใจ พลางถลาเข้ามาดึงเจ้าตัวยุ่งเข้ามาข้างใน

    "นายทำบ้าอะไรเฟริน เดี๋ยวก็ตกลงไปคอหักตายหรอก" นักฆ่าด่าขโมยอย่างเป็นห่วง

    "นายเป็นใครอีกเนี่ย เมื่อกี้ก็มีผู้ชายผมสีเงินๆ เข้ามาหา โอ๊ย ฉันไม่รู้จักพวกนายซะหน่อย แล้วนายเข้ามาขวางฉันทำไมกัน อยากมีเรื่องเรอะ" หัวขโมยสาวร่ายยาว แถมประโยคหลังยังไม่วายหาเรื่องชาวบ้านตามนิสัย

    "นายจะบ้าหรอ ฉันคิลไง ทำไมเราจะไม่รู้จักกัน นายเป็นเพื่อนฉันกะ X คาโลนี่" คิลแย้งงงๆ

    "คิลไหน คาลงคาโลอาร๊าย ฉันไม่รู้จักฉันน่ะรู้จักแต่พ่อมาดัส ลินะแล้วก็...อืมเพื่อนอีกไม่กี่คนเอง นายเนี่ยบ้าเปล่า จู่ๆ ก็มาขี้ตู่ ว่าแต่ X รถบ้าๆ เนี่ยมันจะพาฉันไปไหนเนี่ย" เฟรินถามอย่างหงุดหงิด

    "คาโนวาลไง นายนี่ท่าจะเพี้ยน" นักฆ่าที่เริ่มงงขึ้นทุกทีตอบ

    "คาโนวาล? ไปทำไมคาโนวาล"

    "อ้าว ก็แกกะพ่อปีศาจทะเลาะ..."

    พูดยังไม่จบนักฆ่าหนุ่มก็โดนเท้างามๆ ยันเข้าเต็มรัก
    "
    วะ  หัวตั้ง แกบังอาจเรียกพ่อมาดัสของฉันว่าปีศาจเลยเรอะ วอนแล้ว X นี่"
    นักฆ่าที่ลงไปวัดพื้นกุมแก้มป้อย นี่ตูโดนมันต่อยได้ไงฟะ งงวุ๊ย!!!

    "ตกลงพวกแกจะลักพาตัวเรียกค่าไถ่ฉันใช่มั๊ย ถ้าจะรอพ่อฉันมาไถ่ตัวก็โน่นชาติหน้า แต่เดี๋ยวพวกแกก็ไม่ได้เจอฉันแล้วล่ะ เพราะฉันน่ะหนีเก่ง" พูดจบก็กอดอกทำเหมือนเก่ง จนคิลหัวเราะขำ
    จับตัวเรียกค่าไถ่งั้นหรอ หึๆ นักฆ่ากับเจ้าชายร่วมมือจับตัวหัวขโมยเรียกค่าไถ่เนี่ยนะ ฮะๆๆ มันคิดได้ไงเนี่ย

    "เลิกเล่นเป็นความจำเสื่อมซะทีเฟริน" นักฆ่าหนุ่มปรามกลั้วหัวเราะ
    ให้ตายสิ มุกกระบือมันนี่ ฮาจริงๆ 

    "แกอยากโดนแบบเมื่อกี้อีกใช่มะ ถอยไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว"
    ก๊าก~ ~มันขู่จะทำร้ายนักฆ่าอย่างเขาหรือนี่

    "หึๆ แล้วนะนายจะไปไหน" ในที่สุด คิลก็ยอมเล่นด้วย(ทั้งๆ ที่ X ตัวยุ่งมันไม่ได้แกล้งทำซะหน่อย)

    "ถามได้กลับบารามอสอ่ะดิ ป่านเนี้ยลินะรอแย่แล้ว"

    "ลินะไหน" คิลถามงงๆ นี่มันไปรู้จักกับคนชื่อลินะอะไรนั่นตอนไหนฟะ

    "นายไม่รู้จักหรอก เธอน่ารัก งดงามเหมือนนางฟ้า แต่โหดจิ๊บ" ประโยคหลังเฟริน
    ลดเสียงเหลือเพียงกระซิบราวกับกลัวเจ้าของชื่อจะมาได้ยิน

    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆ นายแต่งเรื่องได้เนียนมากๆ เลยเฟริน" คิลหัวเราะร่วน
    นึกทึ่งในความสามารถเพื่อน ทั้งๆ ที่เมื่อสามวันที่แล้วมันยังร้องไห้กับการแต่งงานใหม่ของเดวิเดสอยู่เลย...ไม่นักว่ายังจะมีอารมณ์ขันขนาดนี้
    มือบางๆ ลอยมาหวดที่กระบาลนักฆ่าอย่างไม่ปราณีทำเอาคิลน้ำตาเล็ดโวยวายลั่น

    "ใครบ้าแต่งเรื่องอะไรกัน แล้วนี่แกไปบอก X คนขับรถนี่บอกให้มันหยุดซะที ฉันจะลง" ร่างบางประกาศกร้าวกอดอกอีกครั้ง

    แต่...

    เฮ้ย...
    อะไรนิ่มๆ หยุ่นๆO-o

    เฮ้ย...
    ทำไมแขนมันเล็กๆ เนียนๆo-O

    เฮ้ย...
    ทำไมเอวมันคอดเหมือนผู้หญิงชอบกลO_O

    สุดท้ายมันคลำเป้าตัวเอง

    "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกน้องหนูฉัน เฟรินน้อยหายไปหนายยยยยยยยยยย"
    เอ่อ ดูเหมือนมันจะสติแตก ทำเอาคิลขำกลิ้ง( X นี่ก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย><)

    "ฮ่าๆ ก็แกเป็นผู้ คิก..ผู้หญิงนี่หว่า แกจะมีเฟรินน้อยได้งายก๊ากกกกกกก"
    ผลัวะ!!!

    เฟรินปล่อยทั้งหมัดและบาทาใส่นักฆ่าไม่ยั้ง
    "
    อ๊าก เอาเฟรินน้อยฉันคืนมาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอาวคืนม๊า~ ~ ~ ~ ~"

    "อ่อก ฉานม่ายด้ายอาวป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย"



    X ตัวยุ่งโวยวายทั้งลงมอลงไม้ชนิดไม่ยั้งจนเพื่อนซี้แทบหมดสภาพ จนเจ้าชายมาดมากต้องเข้ามาห้ามทัพก่อนที่จะมีคนตาย

    "
    เฟรินนายจะทำตัวให้เงียบๆ ก่อนได้ไหมฉันไม่รู้ว่านายแกล้งหรือเป็นอะไรไปแต่ช่วยสงบใจก่อนได้ไหม" คาโลกล่าวด้วยสีหน้าเรียบอันเป็นปกติของเจ้าชายมาดมาก

    "
    โอยนึกว่าจะตายซะแล้วผู้หญิงอะไรหมัดหนักแรงยังกะช้าง" นักฆ่าขี้อายบ่นเสียงขรมร้องโอด

    เฟรินสำรวงจตัวเองอีกรอบอย่างคนที่ไม่ยอมรับความจริง "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกะชั้นพวกนายทำอะไรกับร่างชั้น แบบนี้ลินะเห็นคงหาว่าฉันเป็นพวกแอบจิตพอดี" คนที่ไม่ยอมรับความจริงก็ยังคงพล่ามไปเรื่อยทำให้ 2 ชายหนุ่มต้องกังวลว่าเกิดอะรกับเจ้าหัวขโมยตัวแสบ

    "
    นายเป็นอะไรไปเฟริน มีอะไรก็พูดกับฉันสิ อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงมากไปกว่านี้เลย" คาโลกล่าวอย่างเสียงเศร้าๆ แต่ยังคงอ่อนโยน

    "
    ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใครทำไมชั้นต้องบอกนายด้วย นายตอบคำถามฉันมาว่าฉันเป็นแบบนี้ได้ยังไง" เฟรินกล่าวอย่างหัวเสียว่าทำไม 2 คนนี้ถึงได้มายุ่งกะเธอแล้วทำไมร่างกายถึงเป็นอย่างนี้

    "
    คาโล ฉันว่ามาคุยกันข้างนอกแปปสิแนมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย อ้ออย่าได้คิดหนีไปไหรหล่ะชั้นจะให้คาโลร่ายมนต์ล็อกประตูไว้อย่าได้แม้แต่จะคิดหล่ะ" คิลที่นานาทีปีหนจะจริงจังกับตัวเองเริ่มพูดอย่างใจเย็น

    "
    คาโลนายว่านี่เป็นผลจากที่เฟรินมันพยายามปิดกั้นความทรงจำรึเปล่า" คิลพูดขึ้นหลังจากออกมาข้างนอกรถได้ซักพัก

    "
    ฉันก็ยังไม่แน่ใจแต่มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นไปได้ เฟรินเสียใจขนาดนั้นอาจจะพยายามปิดกั้นหรือไม่ก็หนีจากความรู้สึกนั้นจนความทรงจำอจย้อนไหปตอนที่ยังเป็นหัวขโมย" คาโลเริ่มพูดอย่างครุ่นคิด วิตกว่าคนรักจะลืมเขาไปแล้วหรือนี่

    "
    นายอย่าเพิ่งไปคิดมากน่าอาจเป็นซักระยะคงเป็นไม่นาน ถ้ายังไงถึงคาโนวาลเมื่อไรค่อยไปปรึกษาพ่อนายอีกที่ว่าจะทำยังไงต่อไป" คิลก็วิตกไม่แพ้กันแต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุจากอะไรเพราะเฟรินก็เป็นเพื่อนเขาและคาโลก็เป็นเพื่อนเขาทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าชายน้ำแข็งรู้สึกยังไง

    ในขณะที่สองชายหนุ่มกำลังปรึกษากันอยู่ เจ้าตัวยุ่งก็ยังไม่ยอมอยู่เฉยๆ ตามวิสัยขโมยพยายามจะแงะประตูออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล "นี่ถ้าลินะมาเห็นฉันเป็นแบบนี้จะทำไงนี่ เฮ้อ สงสัยต้องทิ้งฉันไปแน่เลย โอ้ยมันเกิดอะไรกะชั้นกันแน่ว่ะ" เฟรินบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะนั่งอย่างหมดแรง ก่อนทีชายหนุ่มทั้งสองจะเข้ามา

    "
    เอาหล่ะฉันจะบอกอีกทีว่านายชื่อเฟริน และชั้น 2 คนก็เป็นเพื่อนนาย ชั้นชือ คิล ฟีลมัส ส่วนอีกคนก็ชื่อคาโล วาเนบบลีและก็ป็นคู้หมั้นนายด้วย" คิลพูดขึ้นหวังว่าให้หัวขโมยฟังแล้วจะยอมเชื่อ

    "
    อะไรน่ะ ! นายโกหกผู้ชายอย่างชั้นนี่นะจะมีคู่หมั้นเป็นผู้ชายนายอย่ามาโกหกดีกว่า จะแต่งเรื่องก็ให้มันแนบเนีบยนกว่านี้หน่อย ว่าแต่จะปล่อยชั้นไปได้รึเปล่า" เฟรินกล่าวอย่างไม่ยอมเชื่อใจทั้ง 2 คน แต่ก็ลดความโกรธเกลี้ยวลงมาก

    "
    ฉันไม่ได้โกหก นี่คือความจริงที่นายต้องรับที่นายเป็นแบบนี้เพราะนายกำลังพยายามหนีจากความเจ็บปวดที่นายเจอพยายามหนีจากที่นายไม่ยอมรับว่าพ่อปีศาจของนายจะแต่งงานใหม่" คิลยังคงพยายามหว่านล้อมให้เจ้าตัวยุ่งยอมรับเรื่องที่เล่า

    "
    เฟริน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะยังอยู่ข้างนายแต่ตอนนี้ขอให้ฟังคิลก่อนว่านี่คือความจริงที่นายต้องยอมรับ" คาโลพยายามช่วยกล่าวให้เฟรินฟังหวังว่าเจ้าตัวจะยอมฟัง ด้วยคำพูดที่แฝงความห่วงฝยอย่างที่เคยให้เสมอกับเฟริน

    "
    ฉันจะพยายามเชื่อก็แล้วกัน ว่าแต่พวกนายเป็นเพื่อนฉันจริงน่ะ" เฟรินเริ่มที่จะยอมฟังที่คิลพูดแต่ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็รู้สึกถึงความห่วงใยที่คาโลส่งมาให้เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ก็นึกไม่ออก

    เกวียนแล่นไปได้ซักพักก็แวะจอดพักที่กลางทางก่อนถึงชายแดนคาโนวาลได้ไม่ไกลเพื่อที่จะหยุดพักรับประทานอาหารกัน

    ทางด้านเจ้าปีศาจเอวิเดสยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมพูดคุยกับใครพระองค์เฝ้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์กันแน่


    บรรยากาศภายในท้องพระโรงของวังเดมอสเต็มไปด้วยความเงียบเหงาไม่มีแม้แต่เสนาบดีหรือนางกำนัลมาให้เห็นเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ในกาลก่อนตอนนี้กลับจมอยู่ในห้วงทุกข์

    "เรากำลังทำอะไรอยู่นี่ ไม่เหลืออะไรเลยเป็นถึงเจ้าปีศาจผู้ยิ่งยงแต่กลับไม่สามารถคว้าสิ่งที่มีอยู่ไว้ได้" เจ้าปีศาจเอวิเดสนั่งรำพึงอยู่บนบัลลังค์ที่เย็นเฉียบเเพยงผู้เดียวโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครแอบมองพระองค์อยู่

    "เราทำถูกหรือเปล่านี่ที่มาทำให้ครอบครัวต้องแตกร้าวแบบนี้ พี่ชาร์ลีท่านทำถูกหรือเปล่า" โลร่ารำพึงอย่างแผ่วเบาดวงตาผลุบลงอย่างคนกำลังไตร่ตรอง

    ชายแดนคาโนวาล

    "เฟรินแกจะทำตัวอยู่นิ่งๆ เป็นกะเขาบ้างไหมนี่ลุกลี้ลุกลนอยู่ได้ พวกเราไม่ได้เอาแกไปขายซะหน่อยทำเป็นตื่นตูมไปได้"

    "ถึงจะพูดแบบนั้นตามทีแต่ชั้นก็ยังไม่ค่อยไว้ใจพวกนายอยู่ดี แล้วยิ่ง................." พูดไปเฟรินก็หน้าแดงแบบไม่ทราบสาเหตุพร้อมกับทำหน้าเหยเกเป็นที่ขัดกัน คิลจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออกกับการทำหน้าประหลาดของเพื่อนซี้ที่ดันมาความจำเสื่อมซะนี่

    "นี่ก็ใกล้จะถึงคาโนวาลแล้วอีกไม่ไกลหรอกยังรีบเดินทางหน่อยก็ดีพอค่ำจะยิ่งเดินทางลำบาก" คาโลกล่าวขึ้นมาเพื่อที่จะเร่งการเดินทางและจะได้หาหนทางแก้ไขอาการของเฟรินก่อนเดินขึ้นเกวียนไป

    "ขึ้นเกวียนได้แล้วเฟริน" คิลหันมาเรียกเพื่อนซี้ที่ยังคงนั่งกันขนมปังอย่าเอาเป็นเอาตาย "นี่มันตายอดตายอยากมาจากไหนว่ะนี่ เมื่อกี๊ยังคิดจะหนีรับไม่ทันจริงๆ " คิลรำพึงกับตัวเองอย่างไม่เชื่อว่านี่หรือคนที่เคยทุกข์แทบเป็นแทบตาย

    เกวียนแล่นจากที่พักเพื่อมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองคาโนวาล ประตูเมืองแห่งคาโนวาลอันใหญ่โตมีรูปสลักนักรบอยูสองข้างประตูดูสง่างามและน่ากลัวไปในคาเดียวบนยอดกำแพงเมืองก็มีทหารคอยคุ้มครองฝั่งกำแพงอย่างเข้มแข้งชนิดว่ามดซักตัวก็ไม่อาจเข้ามาได้

    "ถวายบังคมฝ่าบาท หม่อมฉันได้รับจดหมายด่วนของพระองค์แล้วเชิญเสด็จเข้าวังเถอะกระหม่อม" เนาบดีของคาโนวาล อลามัส ธีน๊อต บิดาของ เรนอน มารอรับเสด็จเจ้าชายคนสำคัญของคาโนวาล

    "ขอบใจท่านมาก รีบไปกันเถอะย่าชักช้าเลย" เจ้าชายคนสำคัญกล่าวอย่างรวบรัดเพื่อจะเร่งไปเข้าเฝ้าคิงแห่งคาโนวาล

    "พะยะค่ะฝ่าบาท" เสนาบดี อลามัส รับคำสั่งก่อนนำไปสู่วังหลวง

    "โหเมืองของนายนี่สุดยอด สงสัยในวังคงจะรวยแบบนี้ถ้าจิ๊กไปซักอย่างสองอย่างคงขนหน้าแข้งคาโนวาลคงไม่ร่วง จิงป๊ะ" คนที่ไม่ยอมทิ้งสัญชาตณาณขโมยพูดแบบไม่เกรงใจเจ้าบ้านที่หน้าเรียบขึ้นทุกที 'นี่ถ้าไม่ความจำเสื่อมกะมีเรื่องหนักใจอยู่ละก็โดนแน่ เฟรินเอ๋ย' คิลมองหน้าเพื่อนอย่างปลงอนิจจัง

    เมื่อเคลื่อนตัวมาถึงหน้าประตูวังคณะเดินทางได้มุ่งตรงไปยังห้องโถงกลางเพื่อพบคิงแห่งคาโนวาล

    คิงแห่งคาโนวาลประทับอยู่บนบรรลังค์รอรับการมาของทั้ง 3 คน "หม่อมฉันนำเจ้าชายคาโลและสหายมาเข้าเฝ้าแล้วพะยะค่ะ" เสนาบดีอลามัสทูลถวายแก่เจ้าเหนือหัวของเขา

    "ขอบใจมาก อลามัส ไม่มีอะไรแล้วเจ้าออกไปก่อนข้ามีเรื่องคุยกับลูกของข้า" คิงบาโร เอ่ยออกคำสั่งให้เสนาบดีคู่พระทัยให้ออกไปก่อนเป็นเชิงว่าเราต้องการคุยเป็นการส่วนตัว

    "จริงหรือที่ เอวิเดสจะแต่งงานใหม่" คิงบาโรกล่าวกับลูกชาย

    "พะยะค่ะ เป็นความจริง" เจ้าชายคาโลกล่าวตอบแก่ผู้เป็นบิดา

    "เอวิเดส นี่เหลือสิ่งที่เจ้าตอบรับความรักที่อลิเซียมีให้เจ้า" คิงบาโรกล่าวอย่างสกดกั้นอารมณ์ไม่ให้มีมากไปกว่านี้

    "ลำบากพวกเจ้าจริงๆ" พลันเหลือบพระเนตรไปทางคิล และ ไปหยุดที่ เฟริน พระเนตรก็ผลุบลงต่ำอย่างเศร้าพระทัย

    "คิล ฟีลมัส เป็นความจริงหรือที่ เฟลิโอน่า ความจำเสื่อม " คิงบาโรตรัสถามนักฆ่า แห่งซาเรส

    "เป็นความจริงกระหม่อม" คิลตอบแก่คิงบาโร

    นี่หรือเป็นเคราะห์กรรมของเจ้า เฟลิโอน่า คิงบาโรได้แต่รำพึงในใจ

    "ยังพวกเจ้าก็ไปพักก่อนละกัน ส่วคาโลเจ้าอยู่คุยกับข้าก่อน" คิงบาโรกล่าวเสร็จก็เรียกนางกำนัลมาพาพวกคิลกะเฟรินไปทางห้องพักที่จัดไว้ให้

    "เจ้าคิดจะทำยังต่อไป คาโล" คิงบาโรตรัสกับผู้เป็นลูกชาย

    "หม่อมอยากให้เฟรินได้พักก่อนไปซักระยะเผื่อบางทีความจำอาจจะกลับมาก็ได้ แต่บางที่แบบนี้อจจะดีกว่าก็ได้" คาโลกล่าวตอบกับผู้เป็นบิดาด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ

    "เจ้าอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือคาโล" คิงบาโรตรัสขึ้นแม้รู้ว่าลูกชายของพระองค์อยากให้เฟรินกลับมาเป็นคนเดิมมากซักเพียงใดแต่พระองค์ก็คิดแบบเดียวกับผู้เป็นลูกชายว่าเป็นแบบนี้อาจจะเป็นผลดีกับคู่หมั้นของลูกชายพระองค์

    ทางด้านสองหน่อก็เริ่มสงครามปาหมอนโดยไม่รู้กับสภาวะที่อึมครึมในท้องพระโรงของสองคิงและเจ้าชายแห่งคาโนวาล

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@






    ***************************************************************


    โดย
      ลิตเติลมิคุจัง   ,  wakure   










    ******************************************************

    ลินะ เซมาทรีย์ เดอะ ทีฟ ออฟ บารามอส
    เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักๆ อายุพอๆ กับเฟรินและหลงรักเฟรินอีกด้วย
    แม่คุณขี้หวง ขี้หึง ขี้เหนียว ขี้สงสัย ขี้งอน ขี้โมโห (ทำไมขี้เยอะจังหว่า=_=)
    ผมสีม่วงยาวประบ่า ตาสีเขียว  ที่สำคัญแม่คุณสวย!!!
    เฟรินรักลินะแบบพี่น้อง

    *แก้ไขผมกับสีตางับ พอดีดันซ้ำกับโรซี่


    ++++++++++++++++++++

    ปล.   พอดีอ่านแล้วคิดว่า เอามาลงอีกบทหนึ่งจะดีกว่า  เพราะว่าอารมณ์มันคนละเรื่องกันเลย   ขอบคุณนะฮับที่มาช่วยต่อฟิค  เข้ามาต่อฟิคกันเยอะ นะฮับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×