คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 7
บทที่ 7
อลิเซีย..ข้าผิดมากใช่ไหมที่ทำแบบนี้แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆอลิเซีย..ข้ารักเจ้ารักลูก..ใจข้าถูกตราผนึกไว้ที่เจ้าแล้ว..
พรุ่งนี้แล้วสินะคือวันที่เจ้ามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก...ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินข้าขอโทษที่ข้าดูแลลูกไม่ดี...เจ้ารู้ไหมลูกเหมือนเจ้ามากเลยทั้งดื้อทั้งรั้น..แต่ที่เหมือนเราสองคนคือไม่ยอมฟังใคร
"โอย..ยืนทำเท่ห์เป็นประเอกมิวสิคอยู่ได้แก่แล้วนะเอวิเดส"
เสียงที่ดังมากจากทางด้านหลังทำให้ท่านจ้าวต้องเหลียวไปมอง
มีชายร่างกำยำสูงใหญ่พอๆกับตนเองหน้าตาคมคายยืนอยู่
..ลูซิเฟอร์..
"เจ้าเองเหรอมาทำไม"
พญาซาตานอยากจะหาอะไรขว้างนักนี่เหรอการต้อนรับ
ทักทายเพื่อนฝูง
"นั่นปากเจ้าเหรอเอวิเดสถูกทิ้งจนเป็นหมาหงอยแล้วยังทำปากดีอีก"
ท่านจ้าวไม่ตรัสต่อความเนื่องใด
..ใช่ถูกทิ้งๆจริงๆ..
"ข้าถามจริงๆเถอะเอวิเดส..เจ้านี่ติดใจหญิงสาวชาวมนุษย์มากนักรึไงถึงคิดจะแต่งงานกับเด็กคราวลูกเนี่ยะตอนแต่งกับอลิเซียข้าก็ตกใจจะแย่แล้วเพราะเจ้าประกาศว่าเจ้ามันเป็นพวกพ่อพวงมาลัยหงความโสดแต่นี่อะไรกันนี่จะแต่งครั้งที่สองจนลูกหอบข้าวหอบของหนีเลย.."
ท่านจ้าวได้ฟังก็นิ่ง..ใช่พระองค์ไม่เคยคิดจะมีรักเพราะไม่รู้จักว่ารักคืออะไร..ไม่รู้จักคำว่าหัวใจว่าเป็นยังไงเพราะมองแล้วมันก็ไม่ต่างจากก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง
จนมาได้หญิงสาวที่ดื้อรั้นคนหนึ่งสอนให้ก็เป็นเหมือนศรรักปักอกทันที..ตามตื้อจนนางรำคาญเพราะจีบสาวก็ไม่เป็นพูดหวานก็ไม่ได้เพราะไม่เคยจนเหล่าขุนนางสงสารเลยสงเคราะห์ไซื้อตำราจีบสาวมาให้อ่านแทนการอ่านฎีกา
กว่าจะรู้ว่าสาวตบแปลว่าสาวรักก็โดนซ้อมจนน่วมทั้งตัวเพราะตำรามันหนาเลยอ่านข้ามหน้า
"ข้ารักอลิเซียคนเดียวไม่เคยรักใครอีกแม้ปัจจุบันก็ไม่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่มาแทนที่นางได้"
ลูซิเฟอร์ได้ฟังก็นิ่วหน้าแล้วส่ายหัว
"แล้วจะแต่งงานใหม่ทำไมหรือว่าเหงารึไง..ก็ได้ข่าวว่าอีกไม่นานเฟลิโอน่าก็จะเรียนจบเจ้าก็ให้แต่งงานก็มีหลานให้เลี้ยงหรือว่ารอไม่ไหว..แต่ก็สมน้ำหน้าเจ้านั่นแหละถ้ายกลูน่าให้ข้าซะก็แล้วป่านนี้เจ้าก็มีหลานข้าก็มีลูกมีเมีย"
ท่านจ้าวได้ฟังก็ส่ายหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ
"เหงาน่ะข้าไม่เหงาหรอกแต่ X ที่จะต้องแต่งงานก็เพราะตอนนั้นโลร่าพูดเองเอเองเสร็จสรรพข้าก็อืมเออไปกับนางแต่ก็ไม่ได้ฟังความอะไรครบถ้วนจนมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นรับปากจะแต่งงานกับนางแล้วแต่ข้าจะปฏิเสธก็จะกลาเป็นฉีกหน้านาง
ข้าก็เลยให้เฟลิโอน่ตัดสินไง..ข้ารู้ว่าเฟลิโอน่าไม่มีวันยอมแต่นางก็ดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมฟังข้าเข้าใกล้นางก็ให้เข้าใกล้ส่วนพวกขุนนางนั่นก็รักเฟลิโอน่าจนลืมที่จะเชื่อใจข้าโบ้ยความผิดให้ข้าหมดเรื่องมันถึงได้ยุ่งแบบนี้ไง..
ส่วนเรื่องที่เจ้าจะให้ข้ายกลูน่าให้เจ้าน่ะข้าน่ะไม่มีปัญหาแต่เจ้าลองไปถามนางสิว่าตอนนี้นางรักเจ้าแทน X เด็กอวดดีคนนั้นรึยัง"
ลูซิเฟอร์ได้ฟังก็ส่ายหน้าน้อยๆกับเรื่องวุ่นของเพื่อนและเรื่องหัวใจตัวเอง
..เขารักดวงจันทร์ดวงน้อยของเขามานานเป็นร้อยปีตามอายุของนางเขาหลงรักน้องสาวตัวน้อยของเพื่อนตั้งแต่นางเกิดเหตุเพราะเขาไม่มีน้องแต่ไปๆมาๆหัวใจเขาก็มอบให้นางจนหมดใจ..รักจนไม่อาจหาหญิงใดมาแทนที่จันทราเทวีได้เลย...
แต่เมื่อยามครั้งนางไปเจอ X มนุษย์สามหาวนั่นถูกมันฉกฉวยอย่างจาบจ้วงนางกับรักมันหมดใจไม่เหลือที่ให้เขาอีกเลย
"แปลกนะเอวิเดสมนุษย์มีอะไรดีทำไมเจ้าถึงรักอลิเซียทำไมลูน่าถึงรัก X หมอนั่นทั้งๆที่พวกมนุษย์ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะสู้พวกเราได้"
ท่านจ้าวอมยิ้ม
"เค้ามีใจ..ไงลูซิเฟอร์พวกเค้ามีหัวใจมีความรักอย่างไม่ต้องแสวงหาเหมือนพวกเราเจ้ากับข้าเราเสาะหาความรักมานานเท่าไหร่กว่าจะเข้าใจความหมายมัน
เจ้ากับลูน่าก็อายุห่างกันตั้งเท่าไหร่ข้ากับอลิเซียก็เช่นกันแต่ดูคาโลกับเฟลิโอน่าสิพวกเคาอายุเท่าไหร่กันก็รักกันแล้ว..ว่าแต่เจ้ามาที่นี่มาหาข้าวันเจ้ามีธุระอะไร"
ลูซิเฟอร์กระตุกยิ้มวาบ
"หึๆข้าจะมาทำอะไรนอกจากจะมาเอาซองงานแต่งเจ้าไงแล้วก็ขอเพิ่มอีกสองซองสำหรับอลิเซียกับคิงวิลเลี่ยม"
ท่านจ้าวเบิกตาโพลง...
..หมายความว่าไง..อลิเซีย..
"ลูซิเฟอร์เจ้าพูดมาให้หมดอลิเซียตายแล้ว..เจ้าพูดเหมือนกับนางยังอยู่"ท่านจ้าวพูดพร้อมกระชากคอเพื่อนมาเขย่า
"เฮ้ยๆแค๊กๆ เบาๆโว้ยปล่อยข้าก่อนสิไอคนแก่ X เฒ่าหัวงู"ลูซิเฟอร์ร้องโวยวายท่านจ้าวจึงยอมปล่อย
พญาซาตานลูบคอป้อยๆพร้อมนึกเคืองรู้งี้ไม่บอกซะก็ดี
"ก็ใช่นางตายแล้วแต่ไม่รู้มีไอแก่ริอาจมีเมียเด็กบอกให้นางคอยเพื่อจะได้ไปอยู่ด้วยกันแล้วเจ้าจะให้นางไปเกิดรึไงส่วนคิงวิลเลี่ยมก็ไม่ได้รีบไปไหนเค้าก็อยู่เป็นเพื่อนเพราะสามสิงห์ยังไม่ครบทีมอีกอย่างที่นครแห่งความตายมีห้องว่างเยอะแยะข้าไม่ได้เป็นคนแล้งน้ำใจกับเมียเพื่อนฝูงนี่เลยให้นางพักอยู่ฟรี"
ท่นจ้าวได้ฟังก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี..
..ไอเพื่อนเวร..ทำไมไม่บอกตอนพระองค์ตายไปแล้วล่ะ..ปล่อยให้พระองค์หลงคิดว่านางไปเกิดแล้วอยู่ได้..ป่านนี้นางเป็นยังไงบ้างหนอ..จะโกรธพระองค์มากไหม
"ทำไมเจ้าพึ่งบอกข้า..ตอนนางตายเจ้าก็บอกให้ข้าทำใจบอกว่านางไปสบายแล้วคนดีอย่างนางต้องไปเกิดเป็นภพภูมิดีๆแน่"
..ซวยซะงั้น..
"ก็เจ้าไม่ถามนี่..ใครใช้ให้เจ้าตื่นตูม..เจ้าน่ะมีเพื่อนเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครหลังความตายเพื่ออะไร..ส่วนไอตอนนั้นข้าก็ไปจำๆจากงานศพพวกมนุษย์อีกทีเห็นเขาปลอบแล้วมันดูซึ้งใจดีเลยจำๆเขามา"
ท่านจ้าวด่าไม่ออกเลย...
ไอ เพื่อนบ้า X เราก็นึกว่าซึ้งเสียใจด้วยที่แท้จำเขามา แต่ก็ดีใจทีสุดรู้ว่าราชินีของพระองค์ยังอยู่
"นางสบายดีรึปล่าวมีใครมาเกาะแกะบ้างไหม"
..นั่นดูคนเรา..ขี้หึงไม่เคยเปลี่ยนเลย..จะบอกดีไหมว่าแยะเลยจากตอนแรกที่ให้ไปอยู่บ้านเดี่ยวกับคิงวิลเลี่ยมสองคนก็ต้องเปลี่ยน..คิงวิลเลี่ยมน่ะไว้ใจได้แต่เอามาไว้ใกล้ตัวคงปลอดภัยกว่า..แล้วถ้าบอกความจริงไปนี่นครของพระองค์คงเหลือแต่ซาก
"ไม่มีข้าดูแลดี..ว่าแต่ไหนล่ะซองข้าจะเอาไปให้นางจะได้ฝากตังค์ช่วย"
..ไอบ้า..ใครจะไปแต่งเล่าเมียเค้ายังอยู่เป็นตัวเป็นตนถึงจะโปร่งแสงแต่ก็ยังกอดยังหอมได้วะ..อิๆ
"เจ้าจะบ้ารึไงลูซิเฟอร์ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็บุญเท่าไหร่แล้วที่มาบอกข้าเอาป่านนี้"
ลูซิเฟอร์เกาหัวแกรกๆไม่ใช่ความผิดเขาสักหน่อยมาบอกนี่ก็บุญโขแล้วยังจะมาว่าอีก
..เอาก็ลูน่าไม่ให้บอกนี่..
"ก็หวังดี..เขาบอกว่าผัวเมียกันยิ่งห่างกันก็ยิ่งรักยิ่งทะเลาะกันลูกก็ยิ่งดก"
ท่านจ้าวอยากจะถีบเพื่อนรักสักโครมแต่เผอิญมีธุระต้องทำด่วน
"นี่อย่ามาทะลึ่งลูซิเฟอร์ไปกลับๆเดี๋ยวข้าไปส่ง"
..แน่ะทำมาเป็นใจดี..จะไปหาเมียก็บอกมาสิ..
"ข้ายังไม่อยากลับข้าพึ่งมาข้าเหนื่อยอยากพักสักสองสามวันก่อน"
...เดี๋ยวก็ได้พักยาวหยอดน้ำข้าวต้มหรอก...
"ไม่ต้องพูดมากเดี๋ยวข้าไปส่งเจ้าจะหลับไปตลอดทางข้าก็ไม่ว่า"
..อลิเซีย..ข้าคิดถึงเจ้าจัง..ถึงว่าไม่เคยมาหาไม่เคยมาเข้าฝันที่แท้อยู่กับ X ลูซิเฟอร์..เจ้าจะทุบจะตีข้าก็ไม่ว่าเลยทูนหัว..รอข้านะข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้..
//////////////////////////////////
"คิล เฟรินฟื้นแล้ว" เสียงตะโกนร้องจากเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตผู้ที่นั่งเฝ้าเฟรินมาตลอด เรียกเอาคนถูกเรียกรีบละจากการดูคาโลที่นอนอยู่ แล้ววิ่งมาดูเพื่อนรัก
"โร คิล นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย แล้วคาโลล่ะ" เฟรินลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ พลางมองไปรอบห้องเพื่อมองหาคนที่คิดถึงที่สุด
"เฮ้ย เฟรินจำได้แล้ว" คิลตะโกนลั่นอย่างดีใจ
เฟรินมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แล้วก็ปัดความไม่เข้าใจทิ้งไป เมื่อหันไปเจอคาโล เจ้าตัวก็เริ่มออกอาการ X เหมือนเดิม
"คาโลมันไปนอนทำซากอะไรอยู่ตรงนั้นเนี่ย"
"คาโลมันเข้าไปช่วยนายในความฝันไง มันก็สลบไปงี้แหละ นายควรจะไปดูคาโลสักหน่อยนะ" คิลพูดพลางพยักพเยิดไปทางคาโลที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่มีท่าทีจะตื่น
"ทำไมฉันต้องดูล่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคาโลสักหน่อย นายก็ดูได้หนิคิล เออ... แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย หือม์ หรูชะมัด นี่ถ้าฉันเอาไปขายมันจะได้ซักเท่าไหร่กันนะ" เฟรินกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
" ที่นี่คาโนวาลบ้านคาโลไง แล้วนายก็เป็นแฟนกับคาโลนะ นายมาที่นี่เพราะนายหนีท่านจ้าวเอวิเดสที่จะแต่งงานกับแม่เลี้ยงใหม่ แล้วนายก็ไม่สบาย คาโลมันก็พานายมารักษาที่นี่ไง" คิลพูดเพื่อเตือนความจำเพื่อนที่หลับไปนาน
แต่คนฟังกลับทำหน้างงหนักกว่าเดิม หัวเราะแก้เก้อขึ้นมา พลางพูดไปตรงๆหวังว่าคนตรงหน้าจะแก้ความงงได้
"อะไรนะ ฉันเป็นแฟนคาโล อีตาดิไอซ์ปริ้นเนี่ยนะ โอ้ย เมาแล้วคิล แล้วทำไมฉันต้องหนีเอวิเดสด้วยล่ะ เขาจะแต่งงานจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้วเนี่ย" คราวนี้เป็นคิลที่ทำหน้างงบ้าง ก่อนที่ใครจะพูดอะไร โรที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดแทรกขึ้นมา
"เฟรินนายรู้มั้ยว่าตอนนี้นายเป็นผู้หญิง" เฟรินก้มลงมองตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับ
"อือ เพราะยาบ้าๆของเจ้ากวางกับส่วนผสมพิลึกของคาโลกับคิลไง" เมื่อได้ยินดังนั้นโรก็ถามต่อ
"แล้วนายจำตอนแข่งหมากกระดานเกียรติยศได้มั้ย" เฟรินทำหน้าทบทวนก่อนจะตอบออกไป
" ได้ดิ ก็คราวนั้นเราแพ้เพราะคิลกับเรนอนแย่งป้ายกัน" แล้วโรก็ยังถามต่อไปอีก
"จากนั้นล่ะ เป็นยังไง นายเล่าให้ฟังให้หมดเลยนะ" เฟรินมุ่นหัวคิ้วสักพักก็เล่าออกมา
" ฉันก็จะไปหาพ่อ แต่ยังไม่ได้ไป แล้ว X มงกุฎสับปะรังเคนั่นก็อาละวาด ฉันก็ขึ้นไปห้องสมบัติ อืม... แล้ว... แล้วฉันก็ฟัน X ปีศาจนั่น แล้ว...." เฟรินยังพูดไม่ทันจบ คิลก็ขัดขึ้นมาก่อนอย่างหงุดหงิด
"นี่มันไม่ใช่เวลามาเล่นเกมคิวทเวนตี้ยี่สิบคำถามนะ" โรหันไปมองหน้าคิลแป๊ปนึงเป็นทำนองให้หุบปาก ก่อนจะหันมาทางเฟรินต่อ
"แล้วอะไรต่อ"
"แล้วฉันก็มาโผล่อยู่นี่ได้ไงก็ไม่รู้"
หลังจากฟังคำตอบโรก็เรียกคิลออกมาพูดด้วย
"เฟรินมันจำหลังจากที่มันไปเดมอสเพื่อคืนร่างไม่ได้เลย จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นลูกของเอวิเดสกับอลิเซีย ฉันว่าเพราะความจำบางส่วนอาจจะยังกลับมาไม่หมด"
คิลทำหน้าเซ็งเมื่อได้ฟังข้อสันนิษฐานจากโร
"ความจำเสื่อมอีกแล้ว แล้วนี่คาโลมันจะว่าไงเนี่ยถ้ารู้ว่าแฟนมันจำไม่ได้อย่างนี้ เฮ้อ ขนาดเฟรินตื่นแล้ว คาโลก็ยังไม่ตื่นเลย" พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงดังโหยหวน เป็นเสียงกระซิบคล้ายเรียกชื่อคาโล ทำเอาคนไม่โดนเรียกขนลุกไปด้วย เสียงกระซิบอันโหยหวนราวกับมาจากดินแดนอเวจีดังอยู่ทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า
เปลือกตาขยับเปิดอย่างหนักอึ้ง ก่อนจะปิดลงไปอีกครั้งเมื่อแสงตะวันยามเช้าเข้าตา แล้วนัยน์ตาสีฟ้าก็ลืมขึ้นอีกรอบหลังจากปิดไปหลายชั่วโมง นัยน์ตาของเจ้าตัวกวาดมองไปรอบห้องเพื่อมองหาคนที่ตนเฝ้าคอย เมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาในห้องก็โผเข้าไปกอดอย่างคิดถึง
"เฟรินนายฟื้นแล้ว" หน้าคนถูกกอดขึ้นสีเรื่อเหมือนผลราสป์เบอร์รี่สุก
"เอ่อ.. คาโล นายไม่ต้องกอดก็ได้นะ" คาโลมุ่นหัวคิ้ว
"นายเป็นอะไรไป" โรกับคิลที่เดินตามมาข้างหลัง ก็บอกคาโลให้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสาว
"เฟรินมันจำหลังจากที่ไปเดมอสไม่ได้เลย จำไม่ได้ว่าเป็นแฟนกับนายด้วยคาโล" คิลตบบ่าเบาๆเพื่อให้กำลังใจเพื่อนที่บัดนี้ทำท่าเหมือนจะสลบไปอีกครั้ง
"เฟรี่ มากินข้าวเช้าแล้วนะ" เสียงตะโกนที่จากลูคัสผู้ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงไปซะแล้ว ดังมาจากนอกห้องเรียกเอาคนชอบกินหูผึ่งขึ้นมาทันใด
"ข้าวๆๆๆๆๆๆๆ" เจ้าตัวตะโกนอย่างยินดี พลางกระโดดออกไปนอกห้อง อย่างกลัวว่าข้าวมันจะอันตรธานหายไป ถ้าไม่รีบไปกิน
"คาโลไปกินข้าวกันเหอะ สลบไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว" คิลเอ่ยปากชวนเมื่อเห็นเพื่อนยังนั่งเงียบ
"เดี๋ยวฉันตามไป" แล้วเจ้าตัวก็เดินออกไปนอกวังท่ามกลางสายตางงงวยของคิลกับโรยิ่งนัก
ที่มุมหนึ่งของสวนในพระราชวังคาโนวาล ชายหนุ่มผมสีเงินยืนคุยอยู่กับหญิงสาวผมสีแดงเพลิง
"เฟลิโอน่าฟื้นแล้วเจ้าก็ต้องทำตามสัญญา"
"ได้" ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเล เพราะหญิงข้างหน้าตรงนี้เป็นคนช่วยชีวิตคนที่เขารักหมดหัวใจ
แล้วหญิงสาวตรงหน้าก็หายไป
//////////////////////////////
"อลิเซีย อลิเซีย" เจ้าเอวิเดสเรียกหาภรรยาสุดที่รัก ทันทีที่มาถึงดินแดนแห่งความตายของลูซิเฟอร์
(ดูมันลากเรามายังไม่ทันจะได้พักเลยบอกว่าจะมาส่งแต่การกระทำคนละเรื่องกันเลย)
เฟี้ยว....เพล้ง จานใบหนึ่งถูกคว้างมาที่เจ้าเอวิเดส แต่โชคดีที่หลบได้ทัน
"ใครกันบังอาจลอบปลงพระชนม์เจ้าเอวิเดสแห่งเดมอส" เจ้าเอวิเดสพูดด้วยความโกรธ
"หม่อมฉันเองเพคะ" เจ้าเอวิเดสอึ้งไปเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า ผู้หญิงที่อยู่ในดวงใจเขาตลอดมา ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ
"อลิเซีย"
"ใช่หม่อมฉันเอง"
"ไม่ได้เจอกันนานนะ เอวิเดส" คิงวิลเลียมทักทาย
"ได้ยินว่าท่านจะแต่งงานใหม่"
คิงวิลเลี่ยมพูดแค่นั้นเจ้าเอวิเดสก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมราชินีของตนจึงได้เขวี้ยงจานมา
"อลิเซีย เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ" เจ้าเอวิเดสรีบแก้ตัว
"เข้าใจผิดหรอเพคะ หม่อมฉันไม่ได้เข้าใจผิดหรอกเพคะ" เจ้าเอวิเดสได้ยินดังนั้นก็ยิ้มดีใจ
"อลิเซียเจ้าเข้าใจใช่ไหม"
"เข้าใจเพคะ แต่ถ้าท่านไม่รักหม่อมฉันแล้วก็น่าจะรักลูกบ้าง ทำไมถึงให้ลูกหนีไปแบบนั้น หรือเพราะท่านไม่ได้รักลูกเลย" ราชินีอลิเซียพูด้วยน้ำตา คิงวิลเลี่ยมและลูซิเฟอร์เห็นว่าควรปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเองจึงได้ปลีกตัวออกมา
เจ้าเอวิเดสอึ้ง(เป็นครั้งที่ 2 ) ทันที่ที่ได้ยินคำพูดจากราชินีของตน และยิ่งเมื่อได้เห็นน้ำตานั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
"ข้าขอโทษอลิเซีย ข้าไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนี้ เรื่องเฟลิโอน่า...เจ้าก็รู้นี่ว่าข้ารักลูกมาแค่ไหน หากเลือกได้เจ้าคิดหรือว่าข้าอยากให้เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้" เอวิเดสพึมพำตอบเสียงแผ่ว
ร่างบางมองตามสามีด้วยหัวใจที่ปวดร้าว
หากไม่เพราะโลร่า ลูกเธอก็ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องมีแผลเป็นฝังใจ
แผลฉกรรจ์นั้นไม่ใช่แค่เฟลิโอน่าเท่านั้นที่มี หากแต่ใจดวงนี้ก็มีเช่นกัน
"ข้าเพียงแค่อยากรู้ว่าท่าน...ยังรักข้าอยู่ เหมือนที่ข้ารักท่านหรือเปล่า"
อลิเซียกระซิบ จ้าวปีศาจเงยหน้ามองภรรยาสาวของเขาด้วยแววตาวาวโรจน์
"ข้ายังรักเจ้า ข้าให้สัตย์สาบานต่อเจ้าอลิเซีย"
ดวงตาหวานฉ่ำไปด้วยน้ำตา เอวิเดสเอื้อมมือไปปาดให้ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด
"หากข้าไม่สามารถเชื่อคำที่ท่านพูดออกมาได้อย่างสนิทใจ เอวิเดส..."
"ทำไมล่ะ ยอดดวงใจของข้า"
"เพราะข้างกายท่านไม่ใช่ข้า แต่เป็นนาง...นางที่ท่านลั่นวาจา..."อลิเซียกลืนคำพูดที่เหลือก่อนจะกลั้นใจพูดจนจบประโยค"นางท่านที่ลั่นวาจาว่าจะเข้าพิธีวิวาห์ด้วย"
"แต่ข้ารักเจ้า ที่ข้ายอมตกลงวิวาห์กับนางหาใช่ด้วยความรักไม่ นางเดียว...เพียงนางเดียวเท่านั้นที่ข้าวิวาห์ด้วยความรัก...นางนั้นคือเจ้า" เอวิเดสเอ่ยพลางโน้มตัวลงจุมพิตเพื่อย้ำวาจาที่เขาได้เอื้อนเอ่ยไปเมื่อครู่
ความอบอุ่นอิ่มเอมแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจอลิเซีย เธอรู้แล้ว...ว่าคนที่เธอรัก รักเธอมากแค่ไหน...
"เอวิเดสข้ารู้แล้ว แต่บางคนที่สำคัญสำหรับท่านและข้ายังไม่รู้"
"เฟลิโอน่า..." ร่างสูงพึมพำ
"ใช่...ท่านควรไปบอกลูกอย่างที่ท่านบอกข้าเมื่อครู่ หากท่านยังต้องการความเชื่อมั่นกลับคืนมา"
"แต่อลิเซีย ข้าจะบอกลูกอย่างไร นางจำข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่านางจะจำได้แต่นางก็คงไม่ยอมพบหน้าข้าแน่" เจ้าเอวิเดสพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
"เรื่องนั้นท่านต้องคิดเอาเอง เอวิเดส"
"ในเมื่อเรื่องทั้งหมดท่านเป็นคนก่อขึ้นมาก ท่านก็ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง" ราชินีอลิเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น พร้อมกับเอื้อมมือไปบีบมือของเจ้าเอวิเดสเพื่อให้กำลังใจ
"ข้าจะรอฟังข่าวดีของท่านที่นี่ เอวิเดส"
+++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++
โดย typs , Pink_Violet , ลิตเติลมิคุจัง , พี่นางฟ้า
ครบตามสัญญาแล้วฮับ ท่าน ลิตเติลมิคุจังมาต่อเรื่องเร็วมากเลยล่ะ ต่อไป ท่าน typs กับลิตเติลมิคุจังแต่งต่อตามสบายเลยฮับ แต่ในส่วนตัวเราเองคงอยู่ในช่วงเวลาสอบ ก็ฝากแต่งกันไปก่อนแล้วกัน
ไว้สอบเสร็จแล้วจะมาแต่งต่อฟิคต่อ แต่ถ้าหากมีท่านนักอ่านแต่งต่อฟิคอยู่เรื่อย ๆ ก็คงแวะมาอัพเฉย ๆ
ปล. รบกวนหน่อย ถ้าหากนักแต่งต่อฟิคคนไหน ดำเนินเรื่องกลับไปทางด้านเฟรินแล้ว ช่วยใช้ตัวละครที่ชื่อชาร์โร มาป่วนที่วังคาโนวาลหน่อย (ใช้สามารถพิเศษของเจ้าตัว) สร้างค่ายกล ต้องผ่านสามด่านฮับ ขอบคุณฮับ
ปล2. จากความคิดเห็น ท่าน Pink_Violet
เอิ้กๆ ถ้าอ่านแล้วงงตรงไหนก็บอกได้นะ เพราะเราอ่านบางทียังงงๆตัวเองอยู่เลย ว่าพิมพ์อะไรไปอะนะ อยากให้คนที่แต่งต่อ แต่งประมาณว่าพอโรซี่(ใช่ปะ ไม่รู้อะ X คนผมแดงนั่นแหละชื่อไรไม่รู้) เข้ามาแล้วก็จะมาทำให้ความรักของคาโลกับเฟรินแตกแยกหนักกว่าเดิม ประมาณนั้น แต่ถ้ามีความคิดแตกต่างออกไปยังไงก็แล้วแต่นะคะ
---เข้าใจถูกแล้วล่ะ ท่าน Pink Violet ว่าหญิงผมแดงนั่นคือโรซี่
เราก็มีความเห็นแบบเดียวกัน (ประมาณอยากจะให้เฟรินกับคาโลเจออุปสรรคเยอะ ๆ ลำบากมากได้หยิ่งดี) (^ ^)
ความคิดเห็น