ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเล่นต่อฟิคบารามอสกันเถอะ : เมื่อเอวิเดสจะแต่งงานใหม่!!!

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 49


    บทที่  7


    อลิเซีย..ข้าผิดมากใช่ไหมที่ทำแบบนี้แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆอลิเซีย..ข้ารักเจ้ารักลูก..ใจข้าถูกตราผนึกไว้ที่เจ้าแล้ว..


    พรุ่งนี้แล้วสินะคือวันที่เจ้ามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก...ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินข้าขอโทษที่ข้าดูแลลูกไม่ดี...เจ้ารู้ไหมลูกเหมือนเจ้ามากเลยทั้งดื้อทั้งรั้น..แต่ที่เหมือนเราสองคนคือไม่ยอมฟังใคร


    "โอย..ยืนทำเท่ห์เป็นประเอกมิวสิคอยู่ได้แก่แล้วนะเอวิเดส"

    เสียงที่ดังมากจากทางด้านหลังทำให้ท่านจ้าวต้องเหลียวไปมอง


    มีชายร่างกำยำสูงใหญ่พอๆกับตนเองหน้าตาคมคายยืนอยู่


    ..ลูซิเฟอร์..


    "เจ้าเองเหรอมาทำไม"


    พญาซาตานอยากจะหาอะไรขว้างนักนี่เหรอการต้อนรับ
    ทักทายเพื่อนฝูง


    "นั่นปากเจ้าเหรอเอวิเดสถูกทิ้งจนเป็นหมาหงอยแล้วยังทำปากดีอีก"


    ท่านจ้าวไม่ตรัสต่อความเนื่องใด


    ..ใช่ถูกทิ้งๆจริงๆ..


    "ข้าถามจริงๆเถอะเอวิเดส..เจ้านี่ติดใจหญิงสาวชาวมนุษย์มากนักรึไงถึงคิดจะแต่งงานกับเด็กคราวลูกเนี่ยะตอนแต่งกับอลิเซียข้าก็ตกใจจะแย่แล้วเพราะเจ้าประกาศว่าเจ้ามันเป็นพวกพ่อพวงมาลัยหงความโสดแต่นี่อะไรกันนี่จะแต่งครั้งที่สองจนลูกหอบข้าวหอบของหนีเลย.."


    ท่านจ้าวได้ฟังก็นิ่ง..ใช่พระองค์ไม่เคยคิดจะมีรักเพราะไม่รู้จักว่ารักคืออะไร..ไม่รู้จักคำว่าหัวใจว่าเป็นยังไงเพราะมองแล้วมันก็ไม่ต่างจากก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง

    จนมาได้หญิงสาวที่ดื้อรั้นคนหนึ่งสอนให้ก็เป็นเหมือนศรรักปักอกทันที..ตามตื้อจนนางรำคาญเพราะจีบสาวก็ไม่เป็นพูดหวานก็ไม่ได้เพราะไม่เคยจนเหล่าขุนนางสงสารเลยสงเคราะห์ไซื้อตำราจีบสาวมาให้อ่านแทนการอ่านฎีกา

    กว่าจะรู้ว่าสาวตบแปลว่าสาวรักก็โดนซ้อมจนน่วมทั้งตัวเพราะตำรามันหนาเลยอ่านข้ามหน้า


    "ข้ารักอลิเซียคนเดียวไม่เคยรักใครอีกแม้ปัจจุบันก็ไม่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่มาแทนที่นางได้"


    ลูซิเฟอร์ได้ฟังก็นิ่วหน้าแล้วส่ายหัว


    "แล้วจะแต่งงานใหม่ทำไมหรือว่าเหงารึไง..ก็ได้ข่าวว่าอีกไม่นานเฟลิโอน่าก็จะเรียนจบเจ้าก็ให้แต่งงานก็มีหลานให้เลี้ยงหรือว่ารอไม่ไหว..แต่ก็สมน้ำหน้าเจ้านั่นแหละถ้ายกลูน่าให้ข้าซะก็แล้วป่านนี้เจ้าก็มีหลานข้าก็มีลูกมีเมีย"


    ท่านจ้าวได้ฟังก็ส่ายหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ


    "เหงาน่ะข้าไม่เหงาหรอกแต่ X ที่จะต้องแต่งงานก็เพราะตอนนั้นโลร่าพูดเองเอเองเสร็จสรรพข้าก็อืมเออไปกับนางแต่ก็ไม่ได้ฟังความอะไรครบถ้วนจนมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นรับปากจะแต่งงานกับนางแล้วแต่ข้าจะปฏิเสธก็จะกลาเป็นฉีกหน้านาง

    ข้าก็เลยให้เฟลิโอน่ตัดสินไง..ข้ารู้ว่าเฟลิโอน่าไม่มีวันยอมแต่นางก็ดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมฟังข้าเข้าใกล้นางก็ให้เข้าใกล้ส่วนพวกขุนนางนั่นก็รักเฟลิโอน่าจนลืมที่จะเชื่อใจข้าโบ้ยความผิดให้ข้าหมดเรื่องมันถึงได้ยุ่งแบบนี้ไง..

    ส่วนเรื่องที่เจ้าจะให้ข้ายกลูน่าให้เจ้าน่ะข้าน่ะไม่มีปัญหาแต่เจ้าลองไปถามนางสิว่าตอนนี้นางรักเจ้าแทน
     X เด็กอวดดีคนนั้นรึยัง"


    ลูซิเฟอร์ได้ฟังก็ส่ายหน้าน้อยๆกับเรื่องวุ่นของเพื่อนและเรื่องหัวใจตัวเอง


    ..เขารักดวงจันทร์ดวงน้อยของเขามานานเป็นร้อยปีตามอายุของนางเขาหลงรักน้องสาวตัวน้อยของเพื่อนตั้งแต่นางเกิดเหตุเพราะเขาไม่มีน้องแต่ไปๆมาๆหัวใจเขาก็มอบให้นางจนหมดใจ..รักจนไม่อาจหาหญิงใดมาแทนที่จันทราเทวีได้เลย...

    แต่เมื่อยามครั้งนางไปเจอ
     X มนุษย์สามหาวนั่นถูกมันฉกฉวยอย่างจาบจ้วงนางกับรักมันหมดใจไม่เหลือที่ให้เขาอีกเลย


    "แปลกนะเอวิเดสมนุษย์มีอะไรดีทำไมเจ้าถึงรักอลิเซียทำไมลูน่าถึงรัก X หมอนั่นทั้งๆที่พวกมนุษย์ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะสู้พวกเราได้"


    ท่านจ้าวอมยิ้ม


    "เค้ามีใจ..ไงลูซิเฟอร์พวกเค้ามีหัวใจมีความรักอย่างไม่ต้องแสวงหาเหมือนพวกเราเจ้ากับข้าเราเสาะหาความรักมานานเท่าไหร่กว่าจะเข้าใจความหมายมัน

    เจ้ากับลูน่าก็อายุห่างกันตั้งเท่าไหร่ข้ากับอลิเซียก็เช่นกันแต่ดูคาโลกับเฟลิโอน่าสิพวกเคาอายุเท่าไหร่กันก็รักกันแล้ว..ว่าแต่เจ้ามาที่นี่มาหาข้าวันเจ้ามีธุระอะไร
    "


    ลูซิเฟอร์กระตุกยิ้มวาบ


    "หึๆข้าจะมาทำอะไรนอกจากจะมาเอาซองงานแต่งเจ้าไงแล้วก็ขอเพิ่มอีกสองซองสำหรับอลิเซียกับคิงวิลเลี่ยม"


    ท่านจ้าวเบิกตาโพลง...


    ..หมายความว่าไง..อลิเซีย..

    "ลูซิเฟอร์เจ้าพูดมาให้หมดอลิเซียตายแล้ว..เจ้าพูดเหมือนกับนางยังอยู่"ท่านจ้าวพูดพร้อมกระชากคอเพื่อนมาเขย่า


    "เฮ้ยๆแค๊กๆ เบาๆโว้ยปล่อยข้าก่อนสิไอคนแก่ X เฒ่าหัวงู"ลูซิเฟอร์ร้องโวยวายท่านจ้าวจึงยอมปล่อย


    พญาซาตานลูบคอป้อยๆพร้อมนึกเคืองรู้งี้ไม่บอกซะก็ดี


    "ก็ใช่นางตายแล้วแต่ไม่รู้มีไอแก่ริอาจมีเมียเด็กบอกให้นางคอยเพื่อจะได้ไปอยู่ด้วยกันแล้วเจ้าจะให้นางไปเกิดรึไงส่วนคิงวิลเลี่ยมก็ไม่ได้รีบไปไหนเค้าก็อยู่เป็นเพื่อนเพราะสามสิงห์ยังไม่ครบทีมอีกอย่างที่นครแห่งความตายมีห้องว่างเยอะแยะข้าไม่ได้เป็นคนแล้งน้ำใจกับเมียเพื่อนฝูงนี่เลยให้นางพักอยู่ฟรี"


    ท่นจ้าวได้ฟังก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี..


    ..ไอเพื่อนเวร..ทำไมไม่บอกตอนพระองค์ตายไปแล้วล่ะ..ปล่อยให้พระองค์หลงคิดว่านางไปเกิดแล้วอยู่ได้..ป่านนี้นางเป็นยังไงบ้างหนอ..จะโกรธพระองค์มากไหม


    "ทำไมเจ้าพึ่งบอกข้า..ตอนนางตายเจ้าก็บอกให้ข้าทำใจบอกว่านางไปสบายแล้วคนดีอย่างนางต้องไปเกิดเป็นภพภูมิดีๆแน่"


    ..ซวยซะงั้น..


    "ก็เจ้าไม่ถามนี่..ใครใช้ให้เจ้าตื่นตูม..เจ้าน่ะมีเพื่อนเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครหลังความตายเพื่ออะไร..ส่วนไอตอนนั้นข้าก็ไปจำๆจากงานศพพวกมนุษย์อีกทีเห็นเขาปลอบแล้วมันดูซึ้งใจดีเลยจำๆเขามา"

    ท่านจ้าวด่าไม่ออกเลย...

    ไอ เพื่อนบ้า
     X เราก็นึกว่าซึ้งเสียใจด้วยที่แท้จำเขามา แต่ก็ดีใจทีสุดรู้ว่าราชินีของพระองค์ยังอยู่


    "นางสบายดีรึปล่าวมีใครมาเกาะแกะบ้างไหม"


    ..นั่นดูคนเรา..ขี้หึงไม่เคยเปลี่ยนเลย..จะบอกดีไหมว่าแยะเลยจากตอนแรกที่ให้ไปอยู่บ้านเดี่ยวกับคิงวิลเลี่ยมสองคนก็ต้องเปลี่ยน..คิงวิลเลี่ยมน่ะไว้ใจได้แต่เอามาไว้ใกล้ตัวคงปลอดภัยกว่า..แล้วถ้าบอกความจริงไปนี่นครของพระองค์คงเหลือแต่ซาก


    "ไม่มีข้าดูแลดี..ว่าแต่ไหนล่ะซองข้าจะเอาไปให้นางจะได้ฝากตังค์ช่วย"


    ..ไอบ้า..ใครจะไปแต่งเล่าเมียเค้ายังอยู่เป็นตัวเป็นตนถึงจะโปร่งแสงแต่ก็ยังกอดยังหอมได้วะ..อิๆ


    "เจ้าจะบ้ารึไงลูซิเฟอร์ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็บุญเท่าไหร่แล้วที่มาบอกข้าเอาป่านนี้"


    ลูซิเฟอร์เกาหัวแกรกๆไม่ใช่ความผิดเขาสักหน่อยมาบอกนี่ก็บุญโขแล้วยังจะมาว่าอีก


    ..เอาก็ลูน่าไม่ให้บอกนี่..


    "ก็หวังดี..เขาบอกว่าผัวเมียกันยิ่งห่างกันก็ยิ่งรักยิ่งทะเลาะกันลูกก็ยิ่งดก"


    ท่านจ้าวอยากจะถีบเพื่อนรักสักโครมแต่เผอิญมีธุระต้องทำด่วน


    "นี่อย่ามาทะลึ่งลูซิเฟอร์ไปกลับๆเดี๋ยวข้าไปส่ง"


    ..แน่ะทำมาเป็นใจดี..จะไปหาเมียก็บอกมาสิ..


    "ข้ายังไม่อยากลับข้าพึ่งมาข้าเหนื่อยอยากพักสักสองสามวันก่อน"


    ...เดี๋ยวก็ได้พักยาวหยอดน้ำข้าวต้มหรอก...


    "ไม่ต้องพูดมากเดี๋ยวข้าไปส่งเจ้าจะหลับไปตลอดทางข้าก็ไม่ว่า"


    ..อลิเซีย..ข้าคิดถึงเจ้าจัง..ถึงว่าไม่เคยมาหาไม่เคยมาเข้าฝันที่แท้อยู่กับ
     X ลูซิเฟอร์..เจ้าจะทุบจะตีข้าก็ไม่ว่าเลยทูนหัว..รอข้านะข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้..



    //////////////////////////////////


    "คิล เฟรินฟื้นแล้ว" เสียงตะโกนร้องจากเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตผู้ที่นั่งเฝ้าเฟรินมาตลอด เรียกเอาคนถูกเรียกรีบละจากการดูคาโลที่นอนอยู่ แล้ววิ่งมาดูเพื่อนรัก

     
    "โร คิล นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย แล้วคาโลล่ะ" เฟรินลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ พลางมองไปรอบห้องเพื่อมองหาคนที่คิดถึงที่สุด  

    "เฮ้ย  เฟรินจำได้แล้ว"  คิลตะโกนลั่นอย่างดีใจ


            
    เฟรินมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แล้วก็ปัดความไม่เข้าใจทิ้งไป เมื่อหันไปเจอคาโล  เจ้าตัวก็เริ่มออกอาการ X เหมือนเดิม  


    "คาโลมันไปนอนทำซากอะไรอยู่ตรงนั้นเนี่ย"


    "
    คาโลมันเข้าไปช่วยนายในความฝันไง มันก็สลบไปงี้แหละ นายควรจะไปดูคาโลสักหน่อยนะ" คิลพูดพลางพยักพเยิดไปทางคาโลที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่มีท่าทีจะตื่น


     
    "ทำไมฉันต้องดูล่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคาโลสักหน่อย นายก็ดูได้หนิคิล เออ... แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย หือม์  หรูชะมัด นี่ถ้าฉันเอาไปขายมันจะได้ซักเท่าไหร่กันนะ" เฟรินกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง


    "
    ที่นี่คาโนวาลบ้านคาโลไง แล้วนายก็เป็นแฟนกับคาโลนะ นายมาที่นี่เพราะนายหนีท่านจ้าวเอวิเดสที่จะแต่งงานกับแม่เลี้ยงใหม่ แล้วนายก็ไม่สบาย คาโลมันก็พานายมารักษาที่นี่ไง" คิลพูดเพื่อเตือนความจำเพื่อนที่หลับไปนาน


          
    แต่คนฟังกลับทำหน้างงหนักกว่าเดิม หัวเราะแก้เก้อขึ้นมา พลางพูดไปตรงๆหวังว่าคนตรงหน้าจะแก้ความงงได้
     


    "
    อะไรนะ ฉันเป็นแฟนคาโล อีตาดิไอซ์ปริ้นเนี่ยนะ  โอ้ย เมาแล้วคิล แล้วทำไมฉันต้องหนีเอวิเดสด้วยล่ะ  เขาจะแต่งงานจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้วเนี่ย"  คราวนี้เป็นคิลที่ทำหน้างงบ้าง  ก่อนที่ใครจะพูดอะไร  โรที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดแทรกขึ้นมา


     
    "เฟรินนายรู้มั้ยว่าตอนนี้นายเป็นผู้หญิง" เฟรินก้มลงมองตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับ


     
    "อือ เพราะยาบ้าๆของเจ้ากวางกับส่วนผสมพิลึกของคาโลกับคิลไง" เมื่อได้ยินดังนั้นโรก็ถามต่อ


     
    "แล้วนายจำตอนแข่งหมากกระดานเกียรติยศได้มั้ย"  เฟรินทำหน้าทบทวนก่อนจะตอบออกไป 


    "
    ได้ดิ  ก็คราวนั้นเราแพ้เพราะคิลกับเรนอนแย่งป้ายกัน"  แล้วโรก็ยังถามต่อไปอีก


    "
    จากนั้นล่ะ เป็นยังไง นายเล่าให้ฟังให้หมดเลยนะ" เฟรินมุ่นหัวคิ้วสักพักก็เล่าออกมา


     
    " ฉันก็จะไปหาพ่อ แต่ยังไม่ได้ไป  แล้ว X มงกุฎสับปะรังเคนั่นก็อาละวาด  ฉันก็ขึ้นไปห้องสมบัติ อืม... แล้ว...  แล้วฉันก็ฟัน X ปีศาจนั่น  แล้ว...." เฟรินยังพูดไม่ทันจบ  คิลก็ขัดขึ้นมาก่อนอย่างหงุดหงิด


    "
    นี่มันไม่ใช่เวลามาเล่นเกมคิวทเวนตี้ยี่สิบคำถามนะ" โรหันไปมองหน้าคิลแป๊ปนึงเป็นทำนองให้หุบปาก ก่อนจะหันมาทางเฟรินต่อ


    "
    แล้วอะไรต่อ" 


    "
    แล้วฉันก็มาโผล่อยู่นี่ได้ไงก็ไม่รู้"


               
    หลังจากฟังคำตอบโรก็เรียกคิลออกมาพูดด้วย

     "เฟรินมันจำหลังจากที่มันไปเดมอสเพื่อคืนร่างไม่ได้เลย  จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นลูกของเอวิเดสกับอลิเซีย  ฉันว่าเพราะความจำบางส่วนอาจจะยังกลับมาไม่หมด"


            
    คิลทำหน้าเซ็งเมื่อได้ฟังข้อสันนิษฐานจากโร 

    "ความจำเสื่อมอีกแล้ว แล้วนี่คาโลมันจะว่าไงเนี่ยถ้ารู้ว่าแฟนมันจำไม่ได้อย่างนี้  เฮ้อ ขนาดเฟรินตื่นแล้ว คาโลก็ยังไม่ตื่นเลย" พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงดังโหยหวน เป็นเสียงกระซิบคล้ายเรียกชื่อคาโล  ทำเอาคนไม่โดนเรียกขนลุกไปด้วย   เสียงกระซิบอันโหยหวนราวกับมาจากดินแดนอเวจีดังอยู่ทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า



               
    เปลือกตาขยับเปิดอย่างหนักอึ้ง  ก่อนจะปิดลงไปอีกครั้งเมื่อแสงตะวันยามเช้าเข้าตา  แล้วนัยน์ตาสีฟ้าก็ลืมขึ้นอีกรอบหลังจากปิดไปหลายชั่วโมง  นัยน์ตาของเจ้าตัวกวาดมองไปรอบห้องเพื่อมองหาคนที่ตนเฝ้าคอย  เมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาในห้องก็โผเข้าไปกอดอย่างคิดถึง


     
    "เฟรินนายฟื้นแล้ว"  หน้าคนถูกกอดขึ้นสีเรื่อเหมือนผลราสป์เบอร์รี่สุก 


    "
    เอ่อ.. คาโล  นายไม่ต้องกอดก็ได้นะ" คาโลมุ่นหัวคิ้ว


    "
    นายเป็นอะไรไป"  โรกับคิลที่เดินตามมาข้างหลัง ก็บอกคาโลให้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสาว


    "
    เฟรินมันจำหลังจากที่ไปเดมอสไม่ได้เลย  จำไม่ได้ว่าเป็นแฟนกับนายด้วยคาโล" คิลตบบ่าเบาๆเพื่อให้กำลังใจเพื่อนที่บัดนี้ทำท่าเหมือนจะสลบไปอีกครั้ง

               

    "เฟรี่  มากินข้าวเช้าแล้วนะ" เสียงตะโกนที่จากลูคัสผู้ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงไปซะแล้ว ดังมาจากนอกห้องเรียกเอาคนชอบกินหูผึ่งขึ้นมาทันใด 


    "
    ข้าวๆๆๆๆๆๆๆ" เจ้าตัวตะโกนอย่างยินดี พลางกระโดดออกไปนอกห้อง อย่างกลัวว่าข้าวมันจะอันตรธานหายไป ถ้าไม่รีบไปกิน


    "
    คาโลไปกินข้าวกันเหอะ  สลบไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว" คิลเอ่ยปากชวนเมื่อเห็นเพื่อนยังนั่งเงียบ  


    "
    เดี๋ยวฉันตามไป"  แล้วเจ้าตัวก็เดินออกไปนอกวังท่ามกลางสายตางงงวยของคิลกับโรยิ่งนัก

        ที่มุมหนึ่งของสวนในพระราชวังคาโนวาล ชายหนุ่มผมสีเงินยืนคุยอยู่กับหญิงสาวผมสีแดงเพลิง


    "
    เฟลิโอน่าฟื้นแล้วเจ้าก็ต้องทำตามสัญญา"

       

    "ได้"  ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเล เพราะหญิงข้างหน้าตรงนี้เป็นคนช่วยชีวิตคนที่เขารักหมดหัวใจ

                 แล้วหญิงสาวตรงหน้าก็หายไป


    //////////////////////////////

    "อลิเซีย อลิเซีย" เจ้าเอวิเดสเรียกหาภรรยาสุดที่รัก ทันทีที่มาถึงดินแดนแห่งความตายของลูซิเฟอร์

    (ดูมันลากเรามายังไม่ทันจะได้พักเลยบอกว่าจะมาส่งแต่การกระทำคนละเรื่องกันเลย)

    เฟี้ยว....เพล้ง  จานใบหนึ่งถูกคว้างมาที่เจ้าเอวิเดส แต่โชคดีที่หลบได้ทัน

    "ใครกันบังอาจลอบปลงพระชนม์เจ้าเอวิเดสแห่งเดมอส" เจ้าเอวิเดสพูดด้วยความโกรธ

    "หม่อมฉันเองเพคะ" เจ้าเอวิเดสอึ้งไปเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า ผู้หญิงที่อยู่ในดวงใจเขาตลอดมา ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ

    "อลิเซีย"

    "ใช่หม่อมฉันเอง"

    "ไม่ได้เจอกันนานนะ เอวิเดส" คิงวิลเลียมทักทาย

    "ได้ยินว่าท่านจะแต่งงานใหม่"

    คิงวิลเลี่ยมพูดแค่นั้นเจ้าเอวิเดสก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมราชินีของตนจึงได้เขวี้ยงจานมา

    "อลิเซีย เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ" เจ้าเอวิเดสรีบแก้ตัว

    "เข้าใจผิดหรอเพคะ หม่อมฉันไม่ได้เข้าใจผิดหรอกเพคะ" เจ้าเอวิเดสได้ยินดังนั้นก็ยิ้มดีใจ

    "อลิเซียเจ้าเข้าใจใช่ไหม"

    "เข้าใจเพคะ แต่ถ้าท่านไม่รักหม่อมฉันแล้วก็น่าจะรักลูกบ้าง ทำไมถึงให้ลูกหนีไปแบบนั้น หรือเพราะท่านไม่ได้รักลูกเลย" ราชินีอลิเซียพูด้วยน้ำตา คิงวิลเลี่ยมและลูซิเฟอร์เห็นว่าควรปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเองจึงได้ปลีกตัวออกมา

    เจ้าเอวิเดสอึ้ง(เป็นครั้งที่ 2 ) ทันที่ที่ได้ยินคำพูดจากราชินีของตน และยิ่งเมื่อได้เห็นน้ำตานั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก

    "ข้าขอโทษอลิเซีย ข้าไม่เคยคิดว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนี้ เรื่องเฟลิโอน่า...เจ้าก็รู้นี่ว่าข้ารักลูกมาแค่ไหน หากเลือกได้เจ้าคิดหรือว่าข้าอยากให้เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้" เอวิเดสพึมพำตอบเสียงแผ่ว

    ร่างบางมองตามสามีด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

    หากไม่เพราะโลร่า ลูกเธอก็ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องมีแผลเป็นฝังใจ

    แผลฉกรรจ์นั้นไม่ใช่แค่เฟลิโอน่าเท่านั้นที่มี หากแต่ใจดวงนี้ก็มีเช่นกัน

    "ข้าเพียงแค่อยากรู้ว่าท่าน...ยังรักข้าอยู่ เหมือนที่ข้ารักท่านหรือเปล่า"
    อลิเซียกระซิบ จ้าวปีศาจเงยหน้ามองภรรยาสาวของเขาด้วยแววตาวาวโรจน์

    "ข้ายังรักเจ้า ข้าให้สัตย์สาบานต่อเจ้าอลิเซีย"
    ดวงตาหวานฉ่ำไปด้วยน้ำตา เอวิเดสเอื้อมมือไปปาดให้ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด

    "หากข้าไม่สามารถเชื่อคำที่ท่านพูดออกมาได้อย่างสนิทใจ เอวิเดส..."

    "ทำไมล่ะ ยอดดวงใจของข้า"

    "เพราะข้างกายท่านไม่ใช่ข้า แต่เป็นนาง...นางที่ท่านลั่นวาจา..."อลิเซียกลืนคำพูดที่เหลือก่อนจะกลั้นใจพูดจนจบประโยค"นางท่านที่ลั่นวาจาว่าจะเข้าพิธีวิวาห์ด้วย"

    "แต่ข้ารักเจ้า ที่ข้ายอมตกลงวิวาห์กับนางหาใช่ด้วยความรักไม่ นางเดียว...เพียงนางเดียวเท่านั้นที่ข้าวิวาห์ด้วยความรัก...นางนั้นคือเจ้า" เอวิเดสเอ่ยพลางโน้มตัวลงจุมพิตเพื่อย้ำวาจาที่เขาได้เอื้อนเอ่ยไปเมื่อครู่
    ความอบอุ่นอิ่มเอมแล่นริ้วเข้ามาในหัวใจอลิเซีย เธอรู้แล้ว...ว่าคนที่เธอรัก รักเธอมากแค่ไหน...

    "เอวิเดสข้ารู้แล้ว แต่บางคนที่สำคัญสำหรับท่านและข้ายังไม่รู้"

    "เฟลิโอน่า..." ร่างสูงพึมพำ

    "ใช่...ท่านควรไปบอกลูกอย่างที่ท่านบอกข้าเมื่อครู่ หากท่านยังต้องการความเชื่อมั่นกลับคืนมา"

    "แต่อลิเซีย ข้าจะบอกลูกอย่างไร นางจำข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่านางจะจำได้แต่นางก็คงไม่ยอมพบหน้าข้าแน่" เจ้าเอวิเดสพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง

     

     

    "เรื่องนั้นท่านต้องคิดเอาเอง เอวิเดส"

    "ในเมื่อเรื่องทั้งหมดท่านเป็นคนก่อขึ้นมาก ท่านก็ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง" ราชินีอลิเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น พร้อมกับเอื้อมมือไปบีบมือของเจ้าเอวิเดสเพื่อให้กำลังใจ

    "ข้าจะรอฟังข่าวดีของท่านที่นี่ เอวิเดส"

     

    +++++++++++++++++++++++






    +++++++++++++++++++++++

    โดย typs , Pink_Violet
      , ลิตเติลมิคุจัง , พี่นางฟ้า


    ครบตามสัญญาแล้วฮับ  ท่าน ลิตเติลมิคุจังมาต่อเรื่องเร็วมากเลยล่ะ   ต่อไป ท่าน typs กับลิตเติลมิคุจังแต่งต่อตามสบายเลยฮับ  แต่ในส่วนตัวเราเองคงอยู่ในช่วงเวลาสอบ   ก็ฝากแต่งกันไปก่อนแล้วกัน   

    ไว้สอบเสร็จแล้วจะมาแต่งต่อฟิคต่อ  แต่ถ้าหากมีท่านนักอ่านแต่งต่อฟิคอยู่เรื่อย ๆ  ก็คงแวะมาอัพเฉย ๆ  

    ปล.   รบกวนหน่อย  ถ้าหากนักแต่งต่อฟิคคนไหน  ดำเนินเรื่องกลับไปทางด้านเฟรินแล้ว  ช่วยใช้ตัวละครที่ชื่อชาร์โร  มาป่วนที่วังคาโนวาลหน่อย  (ใช้สามารถพิเศษของเจ้าตัว)  สร้างค่ายกล   ต้องผ่านสามด่านฮับ  ขอบคุณฮับ


    ปล2. จากความคิดเห็น  ท่าน  Pink_Violet
     

                  เอิ้กๆ ถ้าอ่านแล้วงงตรงไหนก็บอกได้นะ  เพราะเราอ่านบางทียังงงๆตัวเองอยู่เลย ว่าพิมพ์อะไรไปอะนะ   อยากให้คนที่แต่งต่อ แต่งประมาณว่าพอโรซี่(ใช่ปะ ไม่รู้อะ  X คนผมแดงนั่นแหละชื่อไรไม่รู้) เข้ามาแล้วก็จะมาทำให้ความรักของคาโลกับเฟรินแตกแยกหนักกว่าเดิม ประมาณนั้น แต่ถ้ามีความคิดแตกต่างออกไปยังไงก็แล้วแต่นะคะ

    ---เข้าใจถูกแล้วล่ะ ท่าน Pink Violet ว่าหญิงผมแดงนั่นคือโรซี่
    เราก็มีความเห็นแบบเดียวกัน  (ประมาณอยากจะให้เฟรินกับคาโลเจออุปสรรคเยอะ  ๆ  ลำบากมากได้หยิ่งดี)  (^ ^)            

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×