ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ShortFic MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #2 : แลกทั้งใจแค่ได้รักเธอ #1 100%

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 58













    ' ว่ากันว่ารัก ทำให้คนเสียน้ำตา หากว่ารับเอารักเข้ามา ใจอาจสลาย '


    เสียงหัวเราะลอยมาจากในห้องครัวพร้อมด้วยกลิ่นหอมที่เชิญชวนให้มาร์คต้องเดินตรงเข้าไปทันทีที่กลับมาถึงบ้าน และสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าก็คือสิ่งที่เค้าเห็นอยู่เป็นประจำทุกๆวัน

    " ทำอะไรอยู่ครับแม่ ? " เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างสดใสพร้อมทั้งกอดผู้เป็นแม่เต็มวงแขน แต่ก็ยังไม่วายผละแขนข้างนึงไปจิ้มเอวป้าซอนมีให้ได้จั๊กจี๋เล่น 
    " ทำอาหารให้ลูกรักของแม่ไงล่ะจ้ะ กลับมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำนะลูก เดี๋ยวคุณพ่อก็มาแล้วจะได้ทานข้าวพร้อมกันนะจ้ะ " มาร์คยิ้มรับก่อนจะอยู่ก่อกวนแม่และป้าซอนมีอยู่ครู่หนึ่งก็เดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะก้าวขึ้นบันได มาร์คหันกลับไปมองรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้มาร์คอดยิ้มตามเสียไม่ได้ แค่นี้ก็พอแล้วเค้าไม่ต้องการมีคนรัก ความเจ็บปวดมันน่ากลัวเหลือเกินและมาร์คไม่กล้าพอที่จะรับมัน

    ประตูห้องถูกเปิดออก มาร์คโยนกระเป๋าไว้ที่โต๊ะข้างเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแอพต่างๆ ก่อนจะวางลงและครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของอิมแจบอมที่ยังตามติดเค้ามาทั้งวัน เค้าควรจะลองรักใครบ้างงั้นหรอ?  แล้วคนๆนั้นคือใครหล่ะ ? มาร์คสะบัดหัวสองสามทีก่อนจะลุกไปอาบน้ำเมื่อได้ยินเสียงรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามายังตัวบ้าน


    " พรุ่งนี้ไปไหนรึเปล่ามาร์ค " ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามในขณะที่ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูก

    " ไม่นะครับ ผมว่าจะไปสนามแข่งวันอาทิตย์ แต่พรุ่งนี้ไม่ได้ไปไหน พ่อมีอะไรรึเปล่า " 

    " เมื่อวานมีลูกค้ามาที่บริษัทให้เราขายร้านเบเกอรี่ร้านนึงพร้อมกับให้ออกแบบตกแต่งใหม่ไปด้วยเลย " ร้านเบเกอรี่งั้นหรอ ไม่แปลกหรอกที่จะขาย สมัยนี้ร้านเบเกอรี่เปิดใหม่มากมาย บางรายอยู่ได้ 3 เดือน ก็ขายซะแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ที่จะทำให้ร้านมีจุดขายดึงดูดผู้คน ไม่ใช่แค่รูปแบบของร้าน รสชาติก็จะต้องดีมากพอควรถึงจะทำให้มีลูกค้าประจำได้ ปัจจัยมากมายเหล่านี้จึงทำให้น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จในการเปิดร้านเบเกอรี่ได้

    " เจ้าของร้านหน่ะเป็นแค่เด็กอายุ20ปีเองแม่ติดหนี้แล้วหนีไป แต่ดันเอาโฉนดร้านไปจำนองไว้หน่ะสิ เจ้าของใหม่เค้าเลยจะขายน่าสงสารนะเห็นว่าเด็กคนนั้นร้องไห้อ้อนวอนไม่หยุด เค้าว่าสร้างร้านนี้มากับมือ รักยิ่งกว่าชีวิต ร้านเค้กของเค้าหน่ะลูกค้าเยอะซะด้วยนะ เค้าว่าขนมเค้กอร่อยน่าดูเชียวล้ะ พรุ่งนี้เราลองไปดูๆร้านซะหน่อยล้ะกัน จะได้คุยกับเจ้าของร้านใหม่ไปเลยว่าเค้าอยากได้แบบไหน " มาร์คคิดตามสิ่งที่พ่อพูดมาก็ยิ่งสงสารเจ้าของร้าน แต่จะทำยังไงได้ชีวิตมันก็แบบนี้แหละนะ ทั้งสามคนทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งดูทีวีพูดคุยเรื่องต่างๆนานาๆกันได้สักพักมาร์คก็ขอตัวขึ้นนอน ร่างสูงเล่นเกมส์ได้สักครูก็ลุกปิดไฟและเตรียมเข้านอนแต่ในหัวยังคงจินตนาการถึงร้านเบอเกอรี่ที่พรุ่งนี้ตนจะต้องไปดู ก่อนจะหลับไปในที่สุด

    แสงแดดยามเช้ารอดผ่านผ้าม่านมากระทบตา ร่างสูงค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะเอามือกดที่ดวงตาเบาๆ ไม่นานนักมาร์คก็ลุกขึ้นจากที่นอนและเดินไปอาบน้ำเพราะในวันนี้เค้ามีหน้าที่ที่ต้องไปทำ มาร์คในชุดเสื้อกล้ามสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีน้ำเงินกับกางเกงยีนต์เข้ารูปเดินลงมายังโต๊ะกินข้าว หยิบขนมปังกินเพียงสองสามแผ่นและดื่มน้ำส้มอีกหนึ่งแก้วก็รีบคว้ากุญแจรถออกไปทันที 


    หลังจากขับรถมาได้สักพักหนึ่งมาร์คก็หยุดรถบริเวณหัวมุมถนน หันไปมองก็เจอร้านเบอเกอรี่เป้าหมาย ร้านหาไม่ยาก ทำดีขายนี้ไม่แปลกใจที่รีบขาย เค้าจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะเดินไปสำรวจภายในร้าน เสียงกระดิ่งดังขึ้นในยามที่มาร์คเปิดประตูเข้าไป บรรยากาศในร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่แสดงให้เห็นถึงความน่ารักในแบบฉบับของญี่ปุ่น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นไม่ดูอึดอัด เฟอนิเจอร์ที่ใช้เป็นไม้ตัดกับผนังสีขาวได้อย่างลงตัว ถือว่าตกแต่งร้านได้ดีในระดับนึง ตู้วางเค้กขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่ามีเค้กหลากหลายและในวันนึงต้องขายเค้กได้มากพอสมควร 

    " คุณมาร์คใช่มั้ยครับ ผมเป็นเจ้าของร้านนี้หน่ะครับ " มาร์คละสายตาจากการสำรวจร้านหันมาตามต้นเสียงก่อนจะโค้งตัวให้อย่างเคารพ 

    " ใช่ครับ ไม่ทราบว่าเจ้าของใหม่เค้า .... "

    " ไม่ได้นะครับ! ซื้อร้านนี้ไม่ได้นะครับ! ฮึกก อย่าซื้อไปเลยนะครับ ฮึกก ฮืออ ผมขอร้อง .. ง " ยังไม่ทันที่มาร์คจะพูดจบประโยค เสียงเล็กก็ตะโกนสวนขึ้นมาในทันที มาร์คยืนมองร่างเล็กที่ยืนหอบอยู่ข้างตัวเค้า มือทั้งสองข้างดึงแขนเค้าไว้ ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตากลมบวมฉ่ำแสดงให้รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก มาร์คลอบมองใบหน้าหวานนั้น ก่อนจะคิดอยู่ในใจคนเดียวเงียบๆว่านี่คงเป็นเด็กเจ้าของร้านที่คุณพ่อเค้าเล่าให้ฟัง ยังเด็กอยู่จริงๆด้วย 

    " นี่เจ้าหนู! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าแม่แกติดหนี้เอาโฉนดมาจำนองไว้ ฉันมีสิทธิ์ยึดได้ เข้าใจมั้ย! เลิกมาวุ่นวายสักที !! " ชายวัยกลางคนดึงเด็กคนนั้นอย่างแรงจนถลาล้มไปกับพื้น ตุ๊กตาเซรามิกตกแตกเสียงดังจนมาร์คสะดุ้ง มาร์คเบิกตาขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นแขนสีขาวเรียบเนียนนั้นมีเลือดออกเป็นทาง อาจจะเพราะแรงเหวี่ยงเมื่อครู่ทำให้แขนของร่างเล็กที่ถูกบาดด้วยตุ๊กตาเซรามิคที่ตกแตกอยู่นั้นมีแผลลึกเข้าไปอีก 

    " ผมว่า ... "

    " ร้านนี้ผมสร้างมากับมือ ฮึกกก ผม..มม รักการทำเค้ก รักร้านนี้ ฮือออ ทุกพื้นที่ในร้านนี้เต็มไปด้วยความ..ม ฮึกกก ทรงจำของผม ร้านนี้คืออ..ออ ฮึกก ชีวิตผม ฮือออ ถ้าจะเอาร้านนี้ไปเอาชีวิตผมไปดีกว่า ! ฮืออออ " คำพูดของเด็กคนนี้ทำให้มาร์คนิ่งไปสนิท แต่ยิ่งไปกว่านั้น.. แววตาของเด็กคนนี้ต่างหากที่ทำให้มาร์คแทบหยุดหายใจ แววตาของที่แทบจะบอกเค้าได้ทั้งหมดว่าร้านนี้เป็นทั้งชีวิตของเค้าจริงๆ มาร์คไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าคิดอะไรอยู่ถึงได้เอื้อนเอ่ยประโยคนี้ออกมา เมื่อรู้ตัวอีกทีเค้าก็พูดมันออกไปเสียแล้ว

    " พอเถอะครับ ผมจะซื้อร้านนี้เอง ให้ราคามากกว่าเจ้าของร้านคนใหม่อีกเท่าตัว " หลังจบประโยคทั้งสามคนนิ่งไปด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน เมื่อตั้งสติได้เจ้าของร่างรีบวิ่งออกไปทันทีเพื่อนำสัญญาซื้อขายมาให้มาร์คเซ็น จำนวนเงินไม่ใช่น้อยเค้าไม่รู้ว่ามาร์คจะเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ เวลานี้ช้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว มาร์คถอนหายใจมองชายวัยกลางคนวิ่งออกไปแต่กลับต้องตกใจอีกมากกว่าเมื่อเด็กน้อยที่ล้มลงอยู่ที่พื้นร้องไห้ลั่นราวกับจะขาดใจ น้ำตาที่ไหลอยู่ในตอนแรกแทบจะเทียบไม่ได้กับในตอนนี้ เด็กหนอเด็กไปเอาน้ำตามากขนาดนั้นมาจากไหนกันนะ 

    " นี่หยุดร้อง ... "

    " ไม่! ฮึกกก คุณใจร้ายย คุณจะซื้อร้านผมไป ฮืออออ คุณ..ณ ฮืออออ ฮึกก ใจร้ายย ! " เด็กน้อยยังคงร้องไห้ตะโกนโวยวายเสียงดัง หัวใจของมาร์คกระตุกวาบ ร่างสูงเองก็ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายก่อน หรือจะเริ่มปลอบก่อนดี

    " ฟังนะ ฉันซื้อร้านเพื่อให้นายขายเค้กต่อไปไง ไม่ดีหรอ? " 

    ทันทีที่จบประโยคเด็กน้อยรีบเงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจ ก่อนจะพบว่าร่างสูงย่อตัวลงมาอยู่ตรงพร้อมใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่สิ่งเดียวที่อยู่ในสมองของเค้าตอนนี้คือประโยคเมื่อครู่จากร่างสูงตรงหน้าต่างหาก

    " คุ..คุณ .. คุณพูดจริงหรอ? ฮึกก..โกหกผมรึเปล่า " ร่างสูงส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆให้กับเด็กน้อย เจ้าของร้านวิ่งเข้ามาพร้อมโฉนดและสัญญาซื้อขาย มาร์คหันมาทำสัญญาอย่างรอบคอบ ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ว่าจะไม่มีการเอาเปรียบกันได้ในภายหลัง แววตาของเด็กน้อยยังคงจับจ้องร่างสูงไม่วางตา เค้าไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะไว้ใจได้มากน้อยเพียงใดแต่อะไรบางอย่างกำลังบอกเค้าว่าให้เชื่อ ให้เชื่อใจคนๆนี้  เมื่อเสร็จสิ้นการทำสัญญาภายในร้านเหลือเพียงเค้าและเด็กน้อยสองคน ต่างคนต่างหันหน้าไปอีกทางราวกับต้องใช้ความคิด

    " นี่เด็กน้อย .. ชื่ออะไร? "

    " ผมชื่อแบมแบม แต่ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะ ผมอายุ 20 ปีแล้ว " มาร์คมองแบมแบมที่ทำท่าขู่ฟ่อๆแล้วอดขำไม่ได้ เด็กคนนี้หน่ะหรอเจ้าของร้านเค้กร้านนี้ ใช่จริงๆหรอ ยังดูเป็นเด็กไม่รู้จักโตอยู่เลย 

    " พี่ชื่อมาร์ค มาร์คต้วน เรียกพี่มาร์คก็ได้ พี่อายุ24แล้ว ... " แบมแบมพยักหน้ารับ ก่อนจะเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรจะพูดอะไรออกไปดี 

    " นี่ เจ็บแผลมากมั้ย มีเลือดไหลด้วยนี่ .. ไปทำแผลกัน บ้านอยู่ที่ไหน ? " ร่างเล็กมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้ฟังคำถามนี้ ตั้งแต่แม่หนีไปแบมแบมก็เหมือนสูญสิ้นทุกสิ่งแม่ขายทุกอย่างจนหมด แบมแบมต้องย้ายมานอนที่ร้าน ตั้งใจว่าเก็บเงินอีกสักเดือนคงพอเช่าหอได้แต่พอรู้ว่าจะไม่มีร้านด้วยก็ถึงกับล้มทั้งยืน แค่คิดน้ำตามันก็พาลจะไหลออกมาอีก

    " ผม... ไม่มีบ้านแล้วครับ " แบมแบมหันมองไปทางอื่น พยายามเก็บน้ำตาที่จะไหลออกมาอีกครั้งให้ย้อนกลับ มาร์คส่ายหน้าเบาๆ จะต้องกลัวที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาทำไมกันอีก ในเมื่อก่อนหน้านี้ก็ร้องไห้จนแทบไม่มีส่วนไหนบนหน้าไม่เปื้อนคราบน้ำตา ร่างสูงลูบหัวคนตัวเล็กก่อนจะจับที่มือและออกแรงดึงเบาๆให้อีกคนลุกเดินตามมา มาร์คเปิดประตูรถก่อนจะส่งสัญญาณให้แบมแบมเข้าไปนั่ง จากนั้นจึงเดินมาเข้าที่ฝั่งคนขับและออกรถในทันที แบมแบมมองใบหน้าของมาร์คด้วยความงุนงง แต่ก็ยังคิดหาประโยคที่จะถามโดยไม่ให้ร่างสูงรู้สึกไม่ดี ที่ตัวแบมแบมเองไม่ไว้ใจเค้าไม่ได้ ร่างสูงที่เห็นจึงหันมายิ้มให้พร้อมกับเอ่ยประโยคที่ทำให้แบมแบมคลายความสงสัย

    " ไปทำแผลที่บ้านพี่นะ แล้วต่อจากนี้ก็อยู่ที่นั่นกับพี่ ได้มั้ยครับ ? "

    " ครับ "

    มาร์คลอบมองใบหน้าของอีกคนที่มองออกไปนอกหน้าต่าง เค้าไม่รู้ว่าแบมแบมผ่านอะไรมาบ้าง ดวงตาของเด็กคนนี้ถึงดูหม่นหมองขนาดนี้ เค้าเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ อาจจะเป็นความสงสาร หรือความพ่ายแพ้ต่อดวงตาคู่นั้น แต่เคยได้ยินมั้ย ความสงสารจะเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก มันไม่จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทุกอย่างจะไม่แปรเปลี่ยนเป็นความรัก หัวใจของเค้าจะต้องไม่สลายเพราะความรัก .





     Talk : ลงตอน1แล้วค่าาาา ขอบอกก่อนตอนนี้คือจัดหน้าไม่เป็นค่ะ 5555 ขอยอมรับเลยย
             เดี๋ยวจะรีึกฝนและแก้ให้เพื่อนให้อ่านกันได้ง่ายขึ้นนะคะะะ

               ในตอนนี้เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจคือเพลง แลกทั้งใจแค่ได้รักเธอของ ดิว the star ค่ะ 
              ลองไปกันดูนะคะะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่แต่ง ต้องรบกวนทุกคนมาติชมให้คำแนะนำ
              ด้วยนะคะะะ ❤️❤️ สุดท้ายยย ฟิคเค้ามีแทกด้วยนะะะ มาพูดคุยบอกเล่าความรู้สึกในแต่
              ละตอนกันนะคะ #แลกทั้งใจมาร์คแบม น้าา เค้ารออ่านน้าา สุดท้ายย แหมเปิดมาซะหวาน
               ละต่อไปจะหวานมั้ยน้าา ทิ้งระเบิดด หนี 55555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×