ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❤HONEY - shinee fic _______ {yaoi}*

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 4 : DO NOT CHALLENGE ME ! - 100 % updated }

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 55



    CHAPTER 4



    DO NOT CHALLENGE ME!


     




        “อย่านะ! นายเมา อื้ออ” ริมฝีปากโดนประกบปิดอย่างร้อนแรง ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากนุ่ม รสแอลกอฮอล์ที่แทรกซึมเข้ามาพร้อมกับการจูบรุนแรงทำให้ร่างบางแทบสำลัก มือเล็กที่โดนบีบบังคับเริ่มไร้แรงดิ้น ริมฝีปากรู้สึกร้อนแสบแต่อีกฝ่ายก็ยังดูดดื่มไร้ความห่วงใยแต่อย่างใด

     

                “ปล่อย ฮึก” น้ำตาใสๆเริ่มไหลอาบแก้มอย่างอั้นไม่อยู่เมื่อจงฮยอนเริ่มใช้เข่าแทรกดันเข้ามายังช่องกลางลำตัวจนสัมผัสที่เป้ากางเกง ทันทีที่มือใหญ่ปล่อยข้อมือทั้งสองข้างออกเพื่อเริ่มถอดเสื้อตนเอง คีย์ก็ใช้จังหวะนั้นรีบใช้มือให้เป็นประโยชน์ มือเล็กกำแน่นก่อนชกเสยคางคนลวนลามสุดกำลัง

     

                “โอ๊ย!!!” จงฮยอนร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด ตัวตกลงไปอยู่ข้างล่างเบาะ คีย์รีบชันตัวตนเองขึ้นแล้วพุ่งไปที่ประตูรถ แต่ก็ต้องเสียหลักล้มเมื่อโดนจงฮยอนคว้าขาเรียวเอาไว้

     

                “ปล่อยนะไอ้บ้ากาม!” คีย์สะบัดเท้าเต็มที่ จนหลุดออกมาได้ ก่อนเตะผ่าหมากจงฮยอนอย่างแรง

     

                “อ้าก!!!” จงฮยอนกุมเป้าพร้อมแสดงสีหน้าเจ็บปวด คีย์เปิดประตูรถแล้ววิ่งอย่างเร็วที่สุดกลับบ้านทันที โดยไม่หันกลับมามองข้างหลัง ปล่อยให้คนติดเหล้านอนกุมน้องชายด้วยใบหน้าเขียวอื๋ออยู่อย่างนั้น

     

                มันทำให้เขาสร่างเมาเลยทีเดียว

     

     

     


    ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

     

     

     



                “คุณหนูคะ รถมารอรับแล้วค่ะ” เสียงแม่บ้านดังขึ้นพร้อมกับเคาะประตูเรียกหน้าห้องคุณชายคนเดียวของบ้านซึ่งวันนี้ออกมาช้าเป็นพิเศษ แทมินยืนหมุนตัวซ้ำไปซ้ำมาอยู่หน้ากระจก มือหยิบหวีขึ้นมาหวีแล้วหวีอีก เขาหยิบโคโรญจน์สองยี่ห้อขึ้นมาดูอย่างลังเลว่าจะใช้กลิ่นไหนดี แต่เมื่อนึกได้ถึงความผิดปกติของตัวเองแทมินก็วางทั้งสองขวดลงบนโต๊ะหน้ากระจกเหมือนเช่นเคย เขาไม่เคยวุ่นวายหรือลังเลกับการแต่งตัวห่วงความดูดีของตัวเอง ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้เป็นเอามากขนาดนี้

     

                ใบหน้าหวานเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองขึ้นมาสะพาย ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับเสื้อโค้ทตัวใหญ่ของใครคนนึงที่เขาหยิบกลับมาบ้านเป็นครั้งที่สองแล้ว พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานแล้วก็ต้องอมยิ้มอย่างไร้สาเหตุ หรือนี่จะเป็นเหตุผลที่ทำให้คนตัวเล็กอยากดูดีกว่าทุกครั้งขึ้นมานะ

     

                ออดพักกลางวันดังขึ้นพร้อมกับนักเรียนเกรดสิบห้องเอที่เดินออกจากห้องอย่างเป็นระเบียบ แทมินรีบกระโจนวิ่งออกจากห้องก่อนที่พี่รหัสจะมารับไปทานข้าวเที่ยงอีก ที่หมายของเขาก็คือสนามหญ้าใต้ต้นไม้ต้นใหญ่หลังโรงเรียน ขาเล็กเดินก้าวเข้าไปใกล้ผู้ชายตัวสูงที่กำลังนอนหลับนิ่ง เขาเดินผ่านไปยังกระเป๋าของมินโฮแล้วเปิดกระเป๋าตั้งใจทำเสียงกุกกักๆดังหวังให้อีกคนตื่น แต่มินโฮก็ไม่ขยับเลย แทมินส่งเสียงจิ๊เบาๆอย่างไม่พอใจ ก่อนเดินเข้าไปหามินโฮแล้วนั่งยองจ้องหน้า

     

                เขาไม่เคยจ้องหน้ามินโฮใกล้แบบนี้ไม่ก่อนเพิ่งรู้ว่ามันให้ความรู้สึกแปลกๆแบบนี้ ผิวสีแทนอ่อนๆเหมือนนักกีฬาออกสนาม ขนตางอนยาว ปลายจมูกโด่งสวยได้รูปรับโครงหน้า แต่คนตัวเล็กก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าขณะที่ตัวเองกำลังจ้องอยู่นั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็ได้ลืมตาขึ้นมามอง

     

                “นายอีกแล้วเหรอ”

     

                “เอ่อ” อ้ำอึ้ง ค่อยๆถอยตัวออกห่างร่างสูง

     

                “แทมินแค่เอาเสื้อมาคืน” คนตัวเล็กชี้ไปที่กระเป๋าของมินโฮ ซึ่งเขาเพิ่งเอาโค้ทเข้าไปยัดตามปกติ

     

                “แล้วเอาเสื้อมาคืน เกี่ยวอะไรกับการมาทำให้ฉันตื่น” ถามเสียงเย็น

     

                “แทมไม่ได้ทำให้ตื่นซักหน่อย พี่มินโฮตื่นเองนะ” ทำหน้ามุ่ย

     

                “หมดธุระแล้วก็ไปซะสิ จะนอน” มินโฮพูดก่อนพลิกตัวหันไปอีกทาง

     

                “แล้วพี่มินโฮไม่ขึ้นเรียนเหรอ”

     

                “ไม่”

     

                “จะนอนอยู่นี่ทั้งวันเลยเหรอ”

     

                “ใช่”

     

                “แล้วไม่เบื่อบ้างเหรอไง”

     

                “กำลังจะเบื่อเพราะนายนี่แหละ” มินโฮชันตัวขึ้นเหลือบสายตาคมจ้องมองร่างเล็กที่ยังคงทำสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ความอยากนอนเมื่อครู่หมดลงภายในชั่วพริบตา

     

                “ทำไมเป็นเพราะแทมล่ะ” ยังคงถามต่อ

     

                “รำคาญ”

     

             

     

                คำตอบเสียงนิ่งรับกับใบหน้าแสดงอาการไม่พอใจนั่นทำเอาแทมินรู้สึกชา มินโฮลุกขึ้นก่อนเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาพาดบ่าแล้วเดินออกไปจากสถานที่แสนโปรดอย่างไม่สนใจคนข้างหลังแม้แต่น้อย แทมินหยิบก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆปาตามหลังอีกคน ในหัวคิดสับสนว่าทำไมถึงดันไปมีความรู้สึกดีๆให้คนผีเข้าผีออกแบบนี้ เดี๋ยวก็ดีด้วยเดี๋ยวก็มาร้ายใส่ ตกลงเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ !

     

     

     


    ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

     

     




                “มึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะไอ้เชี่ยจง” นั่นคือคำแรกที่สหายทักทันทีที่คิมจงเดินเข้ามาในห้องเรียนในตอนบ่ายพร้อมกับรอยหมัดที่ปลายคาง นี่ขนาดเขาจงใจใส่ผ้าพันคอผืนใหญ่ๆปิดแล้วเชียวนะเนี่ย

     

                “กูชื่อคิม จงฮยอน! จะมีใครบังอาจได้โดนตัวกูล่ะ กูหกล้มเว้ยไอ้ห่า” จงทิ้งตัวลงลงนั่งกับเก้าอี้ ยกขาขึ้นพาดโต๊ะเรียนเสร็จศัพท์อย่างไม่อายอาจารย์ที่กำลังยืนสอนปาวๆหน้าชั้นเรียน

     

                “กูก็นึกว่ามึงจะไปปล้ำใครแล้วโดนเขาซัดกลับมาซะอีก” บาโรปล่อยเสียงหัวเราะดังยาว จงฮยอนรูสึกจี๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อคำสันนิษฐานของเพื่อนรักดันตรงกับความเป็นจริงซะขนาดนี้

     

                “ปากมากนักมึง” จงฮยอนบ่นอุบอิบ หยิบมวนบุหรี่ในกางเกงขึ้นมาจุดสูบกลางห้องเรียนหลังจากที่ครูที่สอนได้เดินออกไปจากห้องแล้ว กลิ่นควันโขมงภายในห้องแอร์เย็นเฉียบทำให้ใครหลายๆคนที่ไม่คุ้นเคยกับกลิ่นต้องรีบปิดจมูก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงหรือแม้แต่หันมามองแสดงความไม่พอใจเลยแม้แต่คนเดียว

     

                แน่ล่ะลองมีปัญหากับคิมจงฮยอนสิ ไม่จบเรื่องง่ายๆแน่

     

                “หืมแปลกนะ อากาศดีๆแบบนี้ทำไมเจ้าชายมินโฮของเราไม่ไปนอนที่วังล่ะ” จงฮยอนเหลือบหันไปมองโต๊ะข้างๆ ซึ่งร่างสูงกำลังกดเล่นพีเอสพีอยู่อย่างไม่ใส่ใจ

     

                “ดูมันนอยด์ๆ อย่าไปกวนมันเลย มาคุยเรื่องธุรกิจของพี่กับผมก่อนดีกว่ามั้ยครับ” อิไลเลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงหน้าจงฮยอนซึ่งเลิกคิ้วมองกลับแทนคำตอบ

     

                “พี่จงไม่สนใจของพนันของผมแล้วใช่มั้ยครับ ทำไมดูมันไม่คืบหน้าไปไหนเลยล่ะ หรือว่ายอมแพ้ให้ประธานสุดหล่อของเราแล้ว” ยิ้มกวน

     

                “โอ๊ยของง่ายๆแบบนี้ไม่ต้องรีบก็ได้ ยังไงกูก็ได้แดกเหล้ามึงฟรีเหมือนเดิม”

     

                “แหมไอ้ผมก็แค่ตื่นเต้นอยากเสียเงินค่าเหล้าเร็วๆ พี่ก็ช่วยสนองผมหน่อยไม่ได้เหรอครับ”

     

                “ขอมากูก็จัดให้” จงฮยอนยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง มินโฮที่ไม่ได้เต็มใจอยากลุกตามออกมาก็โดนแอลโจดึงบังคับตามออกมาจนได้ในที่สุด ห้าหนุ่มโฉดแห่งเจนเทิลเดินผ่านฝูงคนหมายจะตรงไปยังอาหารเรียนของเด็กเอ็นคลาส แต่จงฮยอนก็ต้องหยุดฝีเท้าก้าวเดินเมื่อได้เจอกับเด็กผู้ชายใบหน้าหวานที่เดินออกมาพอดีกับเขาขณะที่อยู่หน้าห้องเอ

     

                คิม คีย์บอม

     

              “อ๊ะ อ้าวเมียนี่นา” บาโรเดินผ่านจงฮยอนมาโอบไหล่คีย์ทันทีเหมือนเช่นเดิมที่ทำ

     

                “ไอ้บ้านี่!” คีย์ผลักตัวคนฉวยโอกาสออกไปเต็มแรง ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตากับคิมจง สายตาแอบเหลือบมองไปยังมินโฮที่ยืนอยู่ข้างหลัง สายตาอบอุ่นเหมือนเช่นเคยเลยนะ

     

                “พวกมึงไปกันก่อนกูมีธุระ” จงฮยอนคว้าข้อมือคีย์ก่อนจับดึงตรงไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจเสียงโวยวายของกลุ่มเพื่อนที่กำลังงงกันเลยซักนิด

     

                “เฮ้ย! นาย ปล่อยนะเว้ยยย” คีย์ลากเสียงยาว แหกปากโวยวายเต็มที่ พยายามแกะมือหนาออกจากข้อมือตัวเองแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ จงพาคีย์เดินมาจนถึงห้องน้ำชาย ส่งสายตาโหดเป็นเครื่องหมายบอกให้คนอื่นออกไปให้หมดซึ่งทุกคนที่อยู่ในห้องน้ำก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากแน่ใจว่าห้องน้ำตอนนี้ปลอดคนแล้ว ร่างหนาก็ผลักคนตัวบางเข้าชิดผนัง ล๊อกคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยเพียงแขนแกร่งเพียงข้างเดียว

     

                “ไอ้คนโรคจิต” คีย์พูดด้วยน้ำเสียงไร้ความเกรงกลัวแต่อย่างใด

     

                “หึกล้ามาก ที่มาทำร้ายฉัน แถมยังมาด่าอีก” ยกยิ้มมุมปาก

     

                “ฉันกล้ามากกว่านี้อีกด้วยซ้ำ ตอนนั้นแค่เห็นว่าเป็นลูกค้าเลยยังเกรงใจอยู่บ้าง”

     

                “ปากดีจังนะ

     

                “นี่แค่เบาๆอยากลอง อื้ออ” ริมฝีปากบางโดนประกบปิดทันทีที่กำลังจะเถียงต่อ คีย์เม้มริมฝีปากแน่นต่อต้านการรุกล้ำ แต่ความเก่งกาจของจงฮยอนก็ยังสามารถเอาชนะได้ ฟันคมขบกลีบปากบางให้เผยอออกเล็กน้อยโดยอัตโนมัติเมื่อได้รับความเจ็บปวด ลิ้นร้อนเข้ารุกภายในโพรงปากนุ่ม มือหนาข้างหนึ่งบีบกรามเล็กเอาไว้ไม่ให้ปิดปากหนีรสสัมผัส มืออีกข้างปลดกระดุมเสื้อนักเรียนตัวบางออกอย่างชำนาญ ก่อนกระชากสะบัดมันทิ้งลงพื้น สร้างความตื่นตนกให้คนไร้ทางสู้อย่างมาก จงฮยอนถอดเข็มขัดตัวเองออก ก่อนให้มันรวบมัดข้อมือเล็กก่อนขึงเอาไว้กับตะปูที่ตอกติดกับกำแพงเหนือหัว แล้วถอนริมฝีปากออกมาช้าๆมองผลงานตัวเองที่ทำให้ริมฝีปากบางบวมเจ่อสีแดงช้ำอย่างภูมิใจ

     

                “คราวนี้หนีไปไหนไม่ได้แล้วนะ”

     

                “นายต้องการอะไรจงฮยอน” คีย์พูด พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้เอาไว้ไม่ให้ไหล

     

                “ต้องการอะไรน่ะเหรอ

     

               

     

                สั่งสอนให้รู้ว่าอย่ามาลองดีกับคิม จงฮยอน

     

                พูดเสียงหนักแน่นทิ้งท้าย ก่อนเริ่มถอดชุดนักเรียนอีกคนถอดจนหมดเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่า


                 ใบหน้าหวานหลับตาลงแน่นเก็บกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา อยากจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็รู้ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาช่วยเขาได้ เมื่อจงฮยอนลงกลอนประตูแน่นหนา แล้วใครล่ะจะกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของคิมจงฮยอน

     

                “สาบานได้ว่าหลุดออกไปเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่านาย” แม้รู้ว่าพูดไปยังไงก็ไม่มีทางเอาชนะ แต่คีย์ก็ยังอยากกล่าววาจาแสดงความเกลียดชังออกไปให้มากที่สุด จงฮยอนเชยคางอีกคนขึ้นก่อนโน้มหน้าลงกัดขบริมฝีปากล่างอีกคน ก่อนเริ่มละเลงบทรักอันดิบเถื่อนกับร่างสวยที่ไร้ทางสู้

     

     




    ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~







    “หึบอกแล้วไง ว่าไม่มีแรงมาฆ่าหรอก” จงฮยอนหัวเราะเสียงเย้ยหยัน ประคองคนหมดแรงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมาแต่งกายให้หลังจากระบายความใคร่ด้วยการข่มขืนร่างบางที่กำลังนั่งทรุดบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ โดยไร้แรงที่จะขัดขืนโดยสิ้นเชิง คีย์ก้มลงมองสภาพของตัวเองอย่างสมเพช เสื้อผ้าหลุดลุ่ยที่คนใจหยาบแต่งให้อย่างลวกๆนั้นยับยู่ยี่ไร้สิ้นดี ดวงตากลมโตแดงกล่ำช้อนขึ้นมองอีกคนด้วยความโกรธแค้น

     

                “มองแบบนี้อยากโดนอีกรอบเหรอไง” จงฮยอนบีบคางคนท้าทาย จนคีย์ต้องสะบัดหน้าตัวเองออก กลีบปากบางกัดขบกดกลั้นอารมณ์เอาไว้จนเลือดซิบ จงฮยอนโน้มหน้าก้มลงมาหอมแก้มใส

     

                “ต่อไปนี้นายเป็นของเล่นของฉัน รู้เอาไว้ด้วย คิมคีย์บอม” ทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนเดินเปิดประตูออกไปจากห้องน้ำนักเรียนชาย ซึ่งมีคนยืนมุงดูอยู่บ้างเป็นกลุ่มๆ ซึ่งทันทีที่จงฮยอนเดินออกไป และคนที่อยู่แถวนั้นมองเข้ามาเห็นสภาพคีย์ก็เกิดเสียงฮือฮาแห่งการนินทาเกิดขึ้น คีย์รู้สึกเจ็บใจมากเหมือนมีคนเอามีดมาแทงเขาซักร้อยแผล คาดเดาเหตุการณ์ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นอย่างท้อแท้

     

                ก็คิมจงฮยอนดันติดใจร่างกายของร่างเล็กเข้าแล้วนี่

     

                … คงยาก ถ้าจะปล่อยของเล่นสวยชิ้นนี้ไปง่ายๆ

     

     


    ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

     

     

     

                ขาเล็กวิ่งอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นและได้รับข้อความที่ส่งมาจากเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายเดือน ราวกับนี่คือฝันที่เป็นจริงของลีแทมินเลยก็ได้ เขาเฝ้าภาวนาก่อนนอนหามินวูทุกคืน และในที่สุดมินวูก็กลับมาหาเขาแล้ว ความไม่พอใจในการกระทำของมินโฮหายวับไปในชั่วพริบตา ตอนนี้ในหัวของแทมินคิดแต่เรื่องของมินวูเท่านั้น

               

                ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณฟุตบาศก์หน้าโรงเรียนซึ่งรถยนต์ของที่บ้านน่าจะมารอรับได้แล้ว แต่เมื่อไม่เห็นจึงหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดเรียกหาคนขับรถแต่ก็ดันไม่มีคนรับสายซะนี่ คนตัวเล็กส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างไม่พอใจ ตอนนี้เขานัดมินวูให้ไปเจอกันที่ร้านไอศกรีมร้านโปรดที่ไปทานด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งมินวูน่าจะล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

     

                “ทะแทมิน” เสียงอึกอักสะกิดเรียกร่างบางจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็ผมกับรุ่นพี่เกรดสิบเอ็ดท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวคนเดิม ชเว ซึงฮยอน

     

                “พี่ซึงฮยอน” คนตัวเล็กเอ่ยทักชายหนุ่มภายใต้แว่นหนาเตอะ ซึงฮยอนก้มหน้ารับน้อยๆไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตา ก่อนยื่นห่อถุงใสที่มองเข้าไปข้างในเห็นคุกกี้รูปสัตว์ต่างๆมากมาย

     

                “นี่อะไรเหรอฮะ ?”

     

                “เอ่อคือ กะจะให้ตอนเที่ยง แต่ผมหาแทมินไม่เจอ” ซึงฮยอนตอบเสียงเบาหวิว ก็แน่ล่ะตอนเที่ยงแทมินหลบหนีกลุ่มคนไปอยู่ที่ลับหลังโรงเรียนนี่

     

                ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่สนามหญ้าสีเขียวขจี

     

                ที่ที่มีเจ้าชายใจร้ายคนนั้น

     

                “อ๋อขอบคุณฮะ แทมินชอบกินคุกกี้นะ” มือเล็กเอื้อมหยิบเอาถุงคุกกี้นั้นมาถือไว้พร้อมกับยิ้มร่า จนคนเห็นต้องรีบก้มหน้าต่ำลงเก็บสีจัดที่ผุดขึ้น แต่แทมินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษมากมาย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไม่คนเอาของขวัญมาให้เขา แต่เป็นครั้งแรกที่ได้รับของขวัญเป็นของหวานแบบนี้ ก็ที่นี่มันโรงเรียนชายล้วน ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่นิยมทำขนมกันซักหน่อย

     

                “แล้วนี่จะจะกลับบ้านแล้วเหรอครับ”

     

                “อื้อ แต่ยังไม่มีคนมารับแทมินเลย อ้ะ” เสียงริงโทนที่ดังขึ้นทำให้บทสนทนาขัดลง แทมินหยิบรับเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดรับก่อนเดินออกห่างรุ่นพี่ใจดีออกไปเล็กน้อย ซึงฮยอนมองสีหน้าฮึดฮัดของแทมินทันทีที่วางสายอย่างแปลกใจ

     

                “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”

     

                “อื้อ! ก็คนขับรถเพิ่งโทรมาบอกว่ารถติดมากเลย คงมารับช้าหน่อยน่ะฮะ” พองลมเต็มแก้ม

     

                “อ๋อ

     

                “แต่แทมินนัดเพื่อนเอาไว้แล้วนี่นา ป่านนี้ก็คงรอนานแล้วด้วย”

     

                “งะงั้นเหรอครับ เอ่อถ้าไม่รังเกียจให้ผมไปส่งมั้ย”

     

                “เห? พี่ซึงฮยอนเอารถมาเหรอฮะ”

     

                “ครับ รถคันเก่าๆของที่บ้านน่ะ ไม่รู้แทมินพอจะนั่งได้รึเปล่า” ซึงฮยอนชี้ไปที่รถทรงคลาสสิคที่จอดอยู่ข้างฟุตบาศก์ มันคือรถเต่าคันสีเหลืองซีด ช่างเป็นรถที่เหมาะกับเจ้าของซะเหลือเกิน

     

                “อื้อ! ไปได้สิ แทมยังไม่เคยนั่งรถแบบนี้เลย ตื่นเต้นจัง~” คนน่ารักพูดกระตือรือร้น ก่อนเดินเข้าปสำรวจรถที่ไม่ค่อยได้พบเจออย่างสนอกสนใจ ซึงฮยอนกระตุกยิ้มเบาๆก่อนตามมาที่รถแล้วดำเนินหน้าที่เป็นโชเฟอร์ตามคำชวน

     

     

     

    ~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

     

     

     

                “ตกลงวันนี้จินกิไม่มาเหรอวะ” ชายหนุ่มหน้าหวานเอ่ยถามเพื่อนซี้ซึ่งกำลังนั่งหมุนเก้าอี้หน้าเคาท์เตอร์ไปมาอย่างสนุกพร้อมกับคาบช้อนลาเต้เอาไว้ในปากด้วย โจ ยองมิน ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆสหายก่อนเลียนแบบหมุนเก้าอี้ตาม แต่ก็โดนมือใหญ่ของคนที่หมุนก่อนจับให้หยุดไว้พร้อมกับตัวเอง นัยน์ตาคมจับจ้องไปที่โต๊ะกลมกระจกมุมร้านซึ่งมีเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักกำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกกระจก

     

                “อะไรของมึง” ยองมินมองเพื่อนอย่างแปลกใจ ก่อนดึงช้อนสแตนเลสเนื้อดีออกจากปากอีกคน

     

                “คนนั้นอ่ามึง ~” คิม ดงฮยอนทำเสียงกระเส่า

     

                “เดี๋ยว มึงช่วยตอบคำถามกูก่อนได้มั้ยวะครับ ว่าตกลงวันนี้คุณชายจินกิจะมาหาพวกเราแล้วไปบ้านกูพร้อมกันรึเปล่า มึงก็รู้นี่ว่าวันนี้กูลืมเอาโทรศัพท์มา”

     

                “มึงเข้าไปขอเบอร์เลยดีมั้ยวะ”

     

                “ไอ้นี่ไหนวะคนไหน ถ้ากูไม่สนใจมึงก็จะไม่ยอมจบง่ายๆใช่ป่ะ”

     

                “คนนั้นไงมึง ริมหน้าต่างน่ารักที่สุด มีคนเดียว” ดงฮยอนชี้ไปที่เป้าหมายของตัวเองด้วยท่าทีตื่นเต้น ยองมินหันไปมองตามก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ เมื่อสเป๊กเพื่อนชายเขาไม่เปลี่ยนเลย

     

                “คนก่อนมึงเพิ่งบอกเลิกเขาไปเพราะมึงเจอคนที่เหมือนสเป๊กมากกว่า ตอนนี้มึงก็มีใหม่แล้วยังมาเล็งเด็กคนนี้อีก ตายไประวังได้ปีนต้นงิ้วนะเฮ้ย”

     

                “ใครมันจะไปรักเดียวใจเดียวเหมือนมึงล่ะ เป็นเพื่อนกันมาสามปี มึงยังไม่ยอมบอกกูเลยว่ามึงแอบชอบใคร มีแต่บอกว่ามีแล้วๆ มีแล้วก็เข้าไปจีบสิวะ โสดมาทั้งชีวิต ตายไปไม่คุ้มนะกูขอเตือน ทำอะไรรีบทำ” คำพูดที่ฟังดูสนุกสนานของดงฮยอนมันไม่ได้ทำให้คนหน้าสวยยิ้มหรือสนุกไปตามได้เลย ยองมินก้มใบหน้าตึงเครียดลงเมื่อโดนคำถามจี้ใจดำเข้าอีกแล้ว เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่ลงมือทำอะไรซักอย่างตอนนี้ ทุกอย่างมันอาจจะไม่หวนคืนมาอีก เขาอาจไม่มีโอกาสได้พูดความในใจออกไปก็ได้

     

                เข้าใจแต่ทำไม่ได้

     

              “มึงไม่เป็นกูมึงไม่ระอ้าว หายไปไหนวะ -*-” ยองมินขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อคนที่เคยนั่งอยู่เก้าอี้ตรงหน้าเขาหายไปแล้วภายในชั่วพริบตาเดียว แต่ก็คลายความสงสัยได้เมื่อหันไปมองที่โต๊ะริมหน้าต่างที่เด็กหนุ่มหน้าหวานวัยละอ่อนนั่งอยู่นั้น มีเพื่อนชายของเขานั่งอยู่ด้วยแล้ว -_-;

     

                “อาที่นั่งตรงนี้ว่างมั้ยครับ” ดงฮยอนเอ่ยถามคนน่ารักฝั่งตรงข้าม ทั้งๆที่เขานั่งลงบนโซฟาไปแล้ว

     

                “เห” ใบหน้าหวานเปล่งเสียงอย่างแปลกใจเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาแบบนี้

     

                “สวัสดีครับ ผมชื่อคิม ดงฮยอน ผมเห็นนั่งคนเดียวเหงาๆเลยมานั่งเป็นเพื่อน เป็นบริการเซอร์วิสลูกค้าน่ะครับร้านนี้เป็นร้านเพื่อนผมเอง ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ” ผู้เชี่ยวชาญรัวคำพูดตีสนิทอย่างเร็วจนร่างบางฟังแทบไม่ทัน ในใจคิดว่าเดี๋ยวนี้เขามีบริการเซอร์วิสแปลกๆแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ

     

                “โน มินวูผมชื่อ โน มินวู” มินวูบอกชื่อตัวเองตามคำถามอย่างใสซื่อ นี่ตั้งแต่เขากลับมาก็โดนคนแปลกหน้าเข้าจู่โจมแบบนี้เป็นรายที่สองแล้วนะ

     

                “ชื่อเราเข้ากันดีจังเลยนะครับ ฮ่าๆๆๆ” ดงฮยอนหัวเราะ เอ่อมันเข้ากันตรงไหนเหรอ ?

     

                “อาเรียนอยู่ที่เจนเทิลเหรอฮะ” มินวูเปลี่ยนเรื่องถามเมื่อเห็นเครื่องแบบนักเรียนที่แตกต่างจากเด็กนักเรียนทั่วไป ดงฮยอนยืดอกอย่างภูมิใจแล้วพยักหน้ารัว

     

                “ใช่ครับ แล้วมินวูเรียนที่ไหนเหรอ”

     

                “ผมเพิ่งย้ายมาจากอเมริกาน่ะ จริงๆอยากเข้าเจนเทิลนะเพราะผมมีเพื่อนสนิทที่นั่น แต่เขาไม่รับแล้วนี่สิ ผมเลยได้ไปเรียนที่แคชอล์ไฮต์แทน” มินวูแสดงสีหน้าผิดหวัง ใช่เจนเทิลเป็นโรงเรียนที่เข้ายากจริงๆ ถึงจะมีระบบเส้นสายอยู่บ้าง แต่ต่อให้ใหญ่โตหรือมีเงินมากแค่ไหนท่านประธานลีซูมานก็ไม่รับคนเข้ากลางคันเด็ดขาด แต่สำหรับโรงเรียนแคชอล์ไฮต์นี่ก็เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีศักยภาพด้านการศึกษาเป็นอันดับที่สองของประเทศเลยก็ว่าได้ ดงฮยอนพยักหน้า อย่างน้อยก็รับรู้แล้วว่าเด็กใหม่(?)ของตัวเองก็มีเส้นและกระเป๋าหนักไม่เบาเหมือนกัน เพราะแคชอล์ไฮต์ก็ใช่ว่าจะเข้ากลางคันง่ายๆ

     

                “เกรดไหนล่ะนาย”

     

                “เกรดสิบฮะ”

     

                “อ๋องั้นก็น้องพี่ปีนึง”

     

                “อื้อ งั้นมินวูเรียกพี่ดงฮยอนนะ”

     

                “แล้วน้องมินวูรู้รึเปล่าว่าพี่ดงฮยอนน่ะเรียนเก่งมากเลยนะครับ เป็นเด็กห้องเอของเจนเทิลเลย มินวูเพิ่งย้ายมาก็คงจะยังไม่รู้หลักสูตรไฮท์สคูลของที่นี่ซักเท่าไหร่ บ้านพี่ก็อยู่ใกล้ๆแคชอล์ไฮต์นะ ไว้ถ้าว่างๆเรามานัดติวกันก็ได้ครับ เอาเบอร์นายมาสิ”

     

                “เอ่อ” มินวูอึ้งนิ่งกับการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ ดงฮยอนนายนี่เหลือเกินจริงๆ

     

                “นี่ก็เป็นเซอร์วิสของที่นี่เหมือนกันครับไม่ต้องตกใจ ฮ่าๆๆๆ” แล้วก็รัวหัวเราะกลบเกลื่อนอีกครั้ง

     

                “อ่าถ้างั้นก็ได้ฮะ” มือเล็กหยิบปากกากับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆที่วางตั้งไว้บริการลูกค้าข้างแจกันสีสวยที่ข้างในมีดอกทิวลิปแล้วจดเบอร์ตัวเองยื่นให้อีกคนอย่างว่าง่าย ตอนนี้เขากำลังนึกถึงคนแปลกหน้าอีกคนที่เข้ามาในชีวิตเมื่อวันก่อน ผู้ชายในอุดมคติที่ยังทำให้เขานอนคิดถึงอยู่ทุกวัน

     

                ชเว ซึงฮยอน

     

              “ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรไปท่องจำเบอร์บ่อยๆนะครับ” ดงฮยอนรับเบอร์สวยของอีกคนมาก่อนลุกออกจากที่นั่งเดินกลับไปหายองมินที่เคาท์เตอร์ ไม่วายทำท่าเป็นจุ๊บกระดาษล้อเลียนเพื่อนซี้ที่กำลังส่ายหัวอย่างเอือมระอา

     

                “สเป๊กกูเลยอ่ะ ใช่เลย” ดงฮยอนกระซิบกระซาบกับยองมินด้วยท่าทางดีอกดีใจ

     

                “เออๆ ไม่ถึงเดือนเดี๋ยวกูก็ได้ฟังคำนี้จากปากมึงอีกอยู่ดี”

     

                “โธ่ชมกูหน่อยสิมึงก็ ไม่ใช่ใครก็ได้นะเว้ยที่จะไปขอเบอร์เหยื่อได้เร็วขนาดนี้”

     

                “จบเรื่องของมึง ตอนนี้เราไปหาจินกิกันได้แล้ว มันไปรอกูอยู่บ้านละเถอะ หลังจากที่ตามหาตัวน้องแทมินจนว่อนทั่วโรงเรียนแล้วไม่เจอน่ะ” ยองมินหัวเราะอย่างขบขันก่อนเดินนำคนที่มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ออกไปจากร้าน เป็นจังหวะคลาดกันกับที่รถเต่าคันน่ารักขับมาส่งแทมินที่หน้าร้านเขาพอดิบพอดี

     

                ทันทีที่ซึงฮยอนจอดส่งแทมินหน้าร้านก่อนขับรถจากไป คนตัวเล็กก็รีบวิ่งเข้าไปในร้านทันทีด้วยความตื่นเต้น

     

                คิดถึงนายจริงๆเลยโน มินวู

     





    -TO BE CONTINUED


    สำหรับใครที่อยากได้เอ็นซีรอญ.ปรับบล็อกที่เอาไว้ลงเอ็นซีก่อนนะคะ
    ตอนนี้ขอยังไม่แจกเอ็นซีจงคีย์ด้วยอีเมล์เหมือนที่ผ่านมา เพราะไรท์เตอร์สงสารคีย์ TT'
    ถึงแม้จะเขียนฉากนั้นเสร็จแล้วก็เถอะ ก๊าก -_,-






     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×