ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : วางแผนและติดตาม
ตรู๊ด  ตรู๊ด ตรู๊ด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอน  มือของชายที่มีผิวหนังเหยี่ยวย่นบอกให้รู้ว่าเป็นคนมีอายุเอื้อมมือออกมาควานหาสวิตซ์เปิดไฟที่หัวเตียง  ไฟที่สว่างขึ้นทำให้มองเห็นผู้อยู่ในห้องได้อย่างชัดเจน
ชายผู้นั้นมีอายุราว 40 เศษ  ผมสั้นสีน้ำตาลแก่  ใบหน้าและผิวหนังมีรอยพับตามอายุ  ที่หน้าอกมีขนรกรุงรัง  และที่ข้างๆ เขามีหญิงสาวผมสีทองนอนเปลือยเปล่าและเธอกำลังงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์และแสงไฟที่ส่องเข้าตา
“ เออ ” เขารับโทรศัพท์แล้วพูดกรอกเข้าไป
“ ท่านครับ  พวกไอ้แกรี่ที่เฝ้าสำนักงานหายไปครับ  มีร่องรอยการต่อสู้  แล้วพวกใบสั่งซื้อสินค้าก็หายไปด้วยครับ ” เสียงผู้ชายพูดออกมาจากสาย
“ ว่าไงนะ!  บ้าเอ๊ย!  รู้ไหมว่าเป็นพวกไหน ”
“ ไม่ทราบครับ ... แล้วการส่งสินค้าครั้งหน้าให้เปลี่ยนแปลงไหมครับ ”
“ ... ” เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ ไม่ต้อง  มีแต่ใบสั่งซื้อเท่านั้นใช่ไหมที่หายไป ”
“ ครับ ”
“ งั้น  พรุ่งนี้เช้าโทรไปคอนเฟิร์มกับฝ่ายนั้น  ที่เดิม  เวลาเดิม  แต่เพิ่มจำนวนคนเข้าไปอีก  คุ้มกันตั้งแต่ขนออกไปจนถึงจุดนัดพบเลย ” แล้วเขาก็วางหูไป
“ มีอะไรหรือคะ ” หญิงสาวคนที่นอนฟังอยู่ถาม
“ ไม่เกี่ยวกับแก  ออกไปเลย  เดี๊ยวนี้! ”
เขาใช้กำลังผลักเธอคนนั้นตกเตียง  แล้วตลบผ้าห่มออกจากตัว  เผยให้เห็นร่างกายที่ไม่มีอะไรปกคลุมแม้แต่กางเกงใน  ขณะหญิงสาวที่เป็นคู่หลับนอนเดินไปเก็บเสื้อผ้าของเธอที่กองอยู่กับพื้นปลายเตียงขึ้นมาสวมแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่ขุ่เคือง
เขาเดินไปที่เคาเตอร์แล้วหยิบเหล้าออกมาจากตู้  จากนั้นจึงจัดแจงผสมเหล้าให้ตัวเอง  เขายกแก้วขึ้นจิบ  เขาไม่มีอารมณ์จะนอนต่อไปได้  อารมณ์ของเขาพรุ่งพล่าน
‘ ใคร ... ใครที่กล้ามาลองดีกับข้า ... เดวิด  วูลฟกังคนนี้  ดี! ให้มันรู้กันไป  มันจะต้องไม่ได้ตายดี ’  แววตาของเขาเปล่งประกาย ... แววตาของคนอาฆาตแค้น ... แล้วเขาก็กระดกแก้วดื่มมันจนหมด
ณ บ้านพักตากอากาศ 2 ชั้นริมทะเลที่มีขนาดใหญ่พอให้แขกมาพักอย่างสะดวกสบายได้ซัก 7 คน  มันตั้งอยู่บนภูเขาลูกย่อมๆ ที่สามารถมองลงเห็นน้ำทะเลสีน้ำเงินเขียวที่ส่องประกายระยิบระยับสะท้องกับแสงแดดและชายหาดยาวสีขาว  ซึ่งนี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของตระกูลลองจ์ทั้งบ้านพักตากอากาศหลังนี้และหาดยาว 1 ไมล์นี้ด้วย
ขณะที่ภายนอกบ้าน  แสงแดดไม่ไม่แรงนัก  คลื่นที่ค่อนข้างสงบ  และสายลมที่พัดไม่ค่อยแรงนักแต่ก็สามารถให้ความเย็นได้  ช่างน่าออกไปว่ายน้ำเล่นนัก  แต่ภายในบริเวณบ้านที่มีชายหญิงมากมายหลายคนกำลังคุยกันในเรื่องที่ต่างกันสุดขั้วกับบรรยากาศสบายๆ ด้านนอก
ภายในห้องรับแขกชั้นล่างของบ้านมีคนเต็มไปหมด  ทุกคนทั้งยืนและนั่งอยู่บนทุกอย่างที่พอจะให้พวกเขามองเห็นกระดาษและแผนที่ที่แผ่อยู่บนโต๊ะไม้กลมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนัก  และทุกคนก็มีแก้วเครื่องดื่มประจำตัวทุกคน  ปริมาณของๆ เหลวในแก้วบอกได้ว่าทุกคนนั่งอยู่ในห้องนี้นานแค่ไหนแล้ว  และแน่นอนต้องไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  นี่เป็นกฎของบริษัทที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างปฏิบัติงาน  และร่วมทั้งกึ่งงานกึ่งเรื่องส่วนตัวอย่างเรืองนี้ด้วย
อเล็กซานดร้าและแม็กกี้นั่งขัดสมาธิอบู่บนเบาะรองนั่งแบบญี่ปุ่นบนพื้นติดกับโต๊ะ  เจฟนั่งอยู่บนที่วางขาของเก้าอี้โซฟาแบบตัวยาวด้านหลังเยื้องๆ กับแม็กกี้ไปทางด้านซ้าย  เช่นเดียวกับแครกจ์ที่นั่งบนที่บนที่วางขาเยื้องๆกับอเล็กซานดร้าไปทางด้านขวา  ขณะที่คนคุ้มกันของอเล็กซานดร้าและคนที่ได้รับมอบหมายให้มารับงานนี้ร่วม 20 คน  ที่บางส่วนนั่งยัดเยียดกันอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ 2 ตัวและยืนอยู่รอบๆ
“ ตกลงตามนี้นะ  มีใครจะคัดค้านหรือเสนออะไรเพิ่มเติมไหม ” แครกจ์ถามขึ้นก่อนแล้วจึงเงียบไปครู่หนึ่งเผื่อจะมีใครเสนออะไรอีก  แต่เมื่อไม่มีเสียงจากใคร  เขาจึงทบทวนแผนการทั้งหมดอีกครั้ง
ชาย 2 คนจากหน่วยสืบสวนของบริษัทที่ถูกดึงตัวมาช่วยออกไปตั้งแต่เช้า  พวกเข่าแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายดอกโตๆ สีสันแสบตาและสวมหมวกปีกกว้าง  พร้อมทั้งหิ้วถังสังกะสี  กล่องใส่อุปกรณ์ขนาดกลาง  และเบ็ดคนละคัน  พวกเขาขับรถเช่าที่ดูเก่าๆ ไปที่ท่าน้ำเล็กๆ ที่มีสะพานไม้ยื่นเข้าไปในทะเลในบริเวณโกดังเก็บของ  พวกเขาทำท่าราวกับเป็นพวกที่ชอบตกปลาเป็นชีวิตจิตใจ  พวกเขาเดินไปจนสุดสะพานแล้วนั่งลงคนละด้าน  พวกเขานั่งตกปลากันไปพลางคุยกันไปและลอบมองสิ่งต่างๆ รอบตัว  คนหนึ่งมองรถที่ขับไปมาที่ถนนใหญ่และมองที่ลานจอดรถ  ขณะที่อีกคนหนึ่งมองรอบๆโกดัง  โกดังที่เป็นที่เก็บยาเสพติดที่กำลังจะขนออกในวันนี้
สายจนเกือบเที่ยงแล้วนั่นแหละ 1 ใน 2 ก็ทำท่าว่าจะเลิกและลุกขึ้น  หากคนที่นั่งมองโกดังยังไม่ยอมเลิก  แต่แล้วก็มีรถคอนเทนเนอร์ตอนเดียว 2 คันแล่นเข้ามาในบริเวณและแล่นเข้าไปจอดข้างโกดังที่พวกเขากำลังจับตาดูอยู่  คนที่เฝ้าโกดังเลื่อนประตูโกดังออกและช่วยกันขนกล่องขึ้นรถทีละคันๆ คันที่เต็มก่อนก็ออกไปก่อน  อีกราวครึ่งชั่วโมงอีกคันจึงตามออกไป
ชายคนที่ยังนั่งอยู่เลือนมือข้างหนึ่งออกจากท่าถือคันเบ็ดและยกมือข้างนั้นมาจัดปกเสื้อให้เข้าที่  ที่หูข้างซ้ายของเขามีหูฟังที่หน้าตาเหมือนเครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูตึงอยู่ด้วย  นั่นคือวิทยุติดตามตัวแบบพิเศษซึ่งหากมีใครเข้ามาใกล้ๆ จะไม่ผิดสังเกต  ส่วนไมโครโฟนตัวจิ๊วถูกซ่อนไว้ใต้ปกเสื้ออย่างแนบเนียน  เขารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ที่อยู่ที่ฐานหรือก็คือบ้านพักตากอากาศหลังนั้นและคนที่กำลังประจตำแหน่งที่จะต้องดำเนินการต่อจากพวกเขาให้รู้
เมื่อได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารที่ติดไว้ในรถ  เจ้าหน้าที่สืบสวนอีกคนหนึ่งก็ออกรถที่เขาจอดแอบไว้ข้างทางใกล้ๆ กับบริเวณโกดัง  เมื่อเขาเห็นรถคอนเทนเนอร์คันหนึ่งเลี้ยวออกมาจากปากทางเข้า  เขาจึงขับตามไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว  ที่หูของเขาก็มีวิทยุติดตามตัวแบบเดียวกัน  เขารายงานไปตลอดทางว่างรถขับไปทางไหนเผื่อว่าคนอื่นที่จอดซุ่มอยู่ตามทางจะแน่ใจได้ว่าเป็นรถคันที่ใช่
จากที่พวกเขาได้ข้อมูลมาจากพวกลูกสมุนของเดวิล  วูลฟกังที่แครกจ์จับตัวมาสอบสวนด้วยวิธีต่างๆ นาๆที่เคยเห็นในตามหนังจนยอมสารภาพจนหมด พวกนั้นบอกว่ารถคอนเทอเนอร์จะวิ่งลงใต้หากกันคันละครึ่งชั่วโมงและจะมีการแวะพักเป็นจุดๆ ทั้ง 2 คันจะไม่พักทีเดียวกัน  ก่อนถึงชายแดนจะมีการส่งมอบสินค้ากับเงินหรือทองที่โกดังใกล้กับด่านตรวจคนเข้าเมือง  ผู้ที่มารับของจะถ่ายของเข้ารถเก๋งแล้วขับเข้าประเทศ  ตอนนี้แหละที่พวกเขาจะลุยเข้าไปรวบตัวผู้กระทำการทั่งหมด
“ 20 คนนี่ก็พอแล้ว  ยิ่งมีคนมากยิ่งปิดเป็นความลับได้ยาก ” แครกจ์เถียงกับอเล็กซานดร้าในตอนที่วางแผนงาน  เป็นความจริงที่อเล็กซานดร้าเถียงไม่ออก  แม้ว่าเธอจะเป็นห่วงเรื่องกำลังคน 
“การขับรถตามตลอดคงจะทำไม่ได้  เราจึงต้องมีคนเปลี่ยนเวรในทุกๆ รัฐอย่างน้อยรัฐละ 2 คู่จนกว่าจะถึงที่นัดพบก่อนการบุก  คนที่จะเปลี่ยนเวรนัดกับคนที่ขับตามอยู่ให้ดี  คนที่ขับรถคอนเทนเนอร์จะได้ไม่สงสัย ... ”  แครกจ์อธิบายแผนการ  นี่เป็นงานใหญ่ที่เขาต้องทำให้สำเร็จ และต้องไม่ให้อะไรที่สามารถทำให้เกิดความผิดพลาดต่อแผนและผู้คนที่ร่วมงานกับเขาในครั้งนี้
ดังนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวน 14 คนจังผลัดเปลี่ยนกันขับตามรถคอนเทนเนอร์ทั้ง 2 คันเพื่อไม่ให้มันคลาดสายตาหรือตามได้ถูกคันหากมีการเปลี่ยนรถ  ขณะที่เจฟ แครกจ์ เม็กกี้  อเล็กซานดร้าและผู้ติดตามของเธอ 3 คนเช่าบ้านในบริเวณเขตพื้นที่ๆ จะมมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและรอพรรคพวกที่จะตามมาทีหลัง
1 วันก่อนการปฏิบัติการ ...
ในตอนดึก  อเล็กซานดรากับผู้ติดตามทั้ง 3 คนออกจากงานเลี้ยงของบริษัทในเครือของบริษัทลองจ์ เอ็นเทอร์ไพรส  เธอแต่งชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มแขนกุดยาวแค่หัวเข่า  ที่หน้าอกมีเข็มกลัดรูปผีเสื้อทำจากเพชรติดอยู่  และที่คอมีสายสร้อยมุกพัน 2 ชั้นที่ซื้อมาจากในเมือง  และผู้ติดตามทั้ง 3 ก็ใส่ชุดสูธเต็มยศและเน็คไทสีดำสนิท  พวกเขาตรงกลับบ้านเช่าหลังใหญ่ที่พวกเธอใช้อาศัยและเป็นที่นัดหมายก่อนการบุกโจมตี
บ้านที่หลังใหญ่พอที่ทุกคนจะอยู่กันได้อย่างไม่อึดอัดยัดเยียดนัก  เธอกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ออกจะกังวลอยู่สักหน่อย  เมื่อเธอเห็นคนอื่นๆ นั่งดูทีวีกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวมทั้งแครกจ์ด้วย  เธอจึงเดินไปที่กลุ่มคนเหล่านั้นและเมื่อพวกเขาหันมาที่เธอ  เธอจึงพูดกับพวกเขาว่า
“ เดี๊ยวช่วยไปเรียกทุกคนมารวมกันที่ห้องนี้หน่อยได้ไหมคะ  เราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงแผนบางส่วน  ฉันบังเอิญเห็นคนที่เราคิดไม่ถึงว่าเขาจะมา  ตอนที่ฉันเข้าไปในโรงแรมที่จัดเลี้ยง  ขอฉันไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก่อน ... ภายในครึ่งชั่วโมงนี่แหละ ” เธอปรายตาไปมองนาฬิกาที่ข้างฝา  เมื่อพูดจบเธอก็ทำท่าจะเดินขึ้นไปข้างบน  แต่พอเห็นใบหน้าฉงนของทุกคน  เธอจึงพูดชื่อของคนๆ นั้นออกมา
“ เดวิด  วูลฟกัง ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอน  มือของชายที่มีผิวหนังเหยี่ยวย่นบอกให้รู้ว่าเป็นคนมีอายุเอื้อมมือออกมาควานหาสวิตซ์เปิดไฟที่หัวเตียง  ไฟที่สว่างขึ้นทำให้มองเห็นผู้อยู่ในห้องได้อย่างชัดเจน
ชายผู้นั้นมีอายุราว 40 เศษ  ผมสั้นสีน้ำตาลแก่  ใบหน้าและผิวหนังมีรอยพับตามอายุ  ที่หน้าอกมีขนรกรุงรัง  และที่ข้างๆ เขามีหญิงสาวผมสีทองนอนเปลือยเปล่าและเธอกำลังงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์และแสงไฟที่ส่องเข้าตา
“ เออ ” เขารับโทรศัพท์แล้วพูดกรอกเข้าไป
“ ท่านครับ  พวกไอ้แกรี่ที่เฝ้าสำนักงานหายไปครับ  มีร่องรอยการต่อสู้  แล้วพวกใบสั่งซื้อสินค้าก็หายไปด้วยครับ ” เสียงผู้ชายพูดออกมาจากสาย
“ ว่าไงนะ!  บ้าเอ๊ย!  รู้ไหมว่าเป็นพวกไหน ”
“ ไม่ทราบครับ ... แล้วการส่งสินค้าครั้งหน้าให้เปลี่ยนแปลงไหมครับ ”
“ ... ” เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ ไม่ต้อง  มีแต่ใบสั่งซื้อเท่านั้นใช่ไหมที่หายไป ”
“ ครับ ”
“ งั้น  พรุ่งนี้เช้าโทรไปคอนเฟิร์มกับฝ่ายนั้น  ที่เดิม  เวลาเดิม  แต่เพิ่มจำนวนคนเข้าไปอีก  คุ้มกันตั้งแต่ขนออกไปจนถึงจุดนัดพบเลย ” แล้วเขาก็วางหูไป
“ มีอะไรหรือคะ ” หญิงสาวคนที่นอนฟังอยู่ถาม
“ ไม่เกี่ยวกับแก  ออกไปเลย  เดี๊ยวนี้! ”
เขาใช้กำลังผลักเธอคนนั้นตกเตียง  แล้วตลบผ้าห่มออกจากตัว  เผยให้เห็นร่างกายที่ไม่มีอะไรปกคลุมแม้แต่กางเกงใน  ขณะหญิงสาวที่เป็นคู่หลับนอนเดินไปเก็บเสื้อผ้าของเธอที่กองอยู่กับพื้นปลายเตียงขึ้นมาสวมแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่ขุ่เคือง
เขาเดินไปที่เคาเตอร์แล้วหยิบเหล้าออกมาจากตู้  จากนั้นจึงจัดแจงผสมเหล้าให้ตัวเอง  เขายกแก้วขึ้นจิบ  เขาไม่มีอารมณ์จะนอนต่อไปได้  อารมณ์ของเขาพรุ่งพล่าน
‘ ใคร ... ใครที่กล้ามาลองดีกับข้า ... เดวิด  วูลฟกังคนนี้  ดี! ให้มันรู้กันไป  มันจะต้องไม่ได้ตายดี ’  แววตาของเขาเปล่งประกาย ... แววตาของคนอาฆาตแค้น ... แล้วเขาก็กระดกแก้วดื่มมันจนหมด
ณ บ้านพักตากอากาศ 2 ชั้นริมทะเลที่มีขนาดใหญ่พอให้แขกมาพักอย่างสะดวกสบายได้ซัก 7 คน  มันตั้งอยู่บนภูเขาลูกย่อมๆ ที่สามารถมองลงเห็นน้ำทะเลสีน้ำเงินเขียวที่ส่องประกายระยิบระยับสะท้องกับแสงแดดและชายหาดยาวสีขาว  ซึ่งนี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของตระกูลลองจ์ทั้งบ้านพักตากอากาศหลังนี้และหาดยาว 1 ไมล์นี้ด้วย
ขณะที่ภายนอกบ้าน  แสงแดดไม่ไม่แรงนัก  คลื่นที่ค่อนข้างสงบ  และสายลมที่พัดไม่ค่อยแรงนักแต่ก็สามารถให้ความเย็นได้  ช่างน่าออกไปว่ายน้ำเล่นนัก  แต่ภายในบริเวณบ้านที่มีชายหญิงมากมายหลายคนกำลังคุยกันในเรื่องที่ต่างกันสุดขั้วกับบรรยากาศสบายๆ ด้านนอก
ภายในห้องรับแขกชั้นล่างของบ้านมีคนเต็มไปหมด  ทุกคนทั้งยืนและนั่งอยู่บนทุกอย่างที่พอจะให้พวกเขามองเห็นกระดาษและแผนที่ที่แผ่อยู่บนโต๊ะไม้กลมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนัก  และทุกคนก็มีแก้วเครื่องดื่มประจำตัวทุกคน  ปริมาณของๆ เหลวในแก้วบอกได้ว่าทุกคนนั่งอยู่ในห้องนี้นานแค่ไหนแล้ว  และแน่นอนต้องไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  นี่เป็นกฎของบริษัทที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างปฏิบัติงาน  และร่วมทั้งกึ่งงานกึ่งเรื่องส่วนตัวอย่างเรืองนี้ด้วย
อเล็กซานดร้าและแม็กกี้นั่งขัดสมาธิอบู่บนเบาะรองนั่งแบบญี่ปุ่นบนพื้นติดกับโต๊ะ  เจฟนั่งอยู่บนที่วางขาของเก้าอี้โซฟาแบบตัวยาวด้านหลังเยื้องๆ กับแม็กกี้ไปทางด้านซ้าย  เช่นเดียวกับแครกจ์ที่นั่งบนที่บนที่วางขาเยื้องๆกับอเล็กซานดร้าไปทางด้านขวา  ขณะที่คนคุ้มกันของอเล็กซานดร้าและคนที่ได้รับมอบหมายให้มารับงานนี้ร่วม 20 คน  ที่บางส่วนนั่งยัดเยียดกันอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ 2 ตัวและยืนอยู่รอบๆ
“ ตกลงตามนี้นะ  มีใครจะคัดค้านหรือเสนออะไรเพิ่มเติมไหม ” แครกจ์ถามขึ้นก่อนแล้วจึงเงียบไปครู่หนึ่งเผื่อจะมีใครเสนออะไรอีก  แต่เมื่อไม่มีเสียงจากใคร  เขาจึงทบทวนแผนการทั้งหมดอีกครั้ง
ชาย 2 คนจากหน่วยสืบสวนของบริษัทที่ถูกดึงตัวมาช่วยออกไปตั้งแต่เช้า  พวกเข่าแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายดอกโตๆ สีสันแสบตาและสวมหมวกปีกกว้าง  พร้อมทั้งหิ้วถังสังกะสี  กล่องใส่อุปกรณ์ขนาดกลาง  และเบ็ดคนละคัน  พวกเขาขับรถเช่าที่ดูเก่าๆ ไปที่ท่าน้ำเล็กๆ ที่มีสะพานไม้ยื่นเข้าไปในทะเลในบริเวณโกดังเก็บของ  พวกเขาทำท่าราวกับเป็นพวกที่ชอบตกปลาเป็นชีวิตจิตใจ  พวกเขาเดินไปจนสุดสะพานแล้วนั่งลงคนละด้าน  พวกเขานั่งตกปลากันไปพลางคุยกันไปและลอบมองสิ่งต่างๆ รอบตัว  คนหนึ่งมองรถที่ขับไปมาที่ถนนใหญ่และมองที่ลานจอดรถ  ขณะที่อีกคนหนึ่งมองรอบๆโกดัง  โกดังที่เป็นที่เก็บยาเสพติดที่กำลังจะขนออกในวันนี้
สายจนเกือบเที่ยงแล้วนั่นแหละ 1 ใน 2 ก็ทำท่าว่าจะเลิกและลุกขึ้น  หากคนที่นั่งมองโกดังยังไม่ยอมเลิก  แต่แล้วก็มีรถคอนเทนเนอร์ตอนเดียว 2 คันแล่นเข้ามาในบริเวณและแล่นเข้าไปจอดข้างโกดังที่พวกเขากำลังจับตาดูอยู่  คนที่เฝ้าโกดังเลื่อนประตูโกดังออกและช่วยกันขนกล่องขึ้นรถทีละคันๆ คันที่เต็มก่อนก็ออกไปก่อน  อีกราวครึ่งชั่วโมงอีกคันจึงตามออกไป
ชายคนที่ยังนั่งอยู่เลือนมือข้างหนึ่งออกจากท่าถือคันเบ็ดและยกมือข้างนั้นมาจัดปกเสื้อให้เข้าที่  ที่หูข้างซ้ายของเขามีหูฟังที่หน้าตาเหมือนเครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูตึงอยู่ด้วย  นั่นคือวิทยุติดตามตัวแบบพิเศษซึ่งหากมีใครเข้ามาใกล้ๆ จะไม่ผิดสังเกต  ส่วนไมโครโฟนตัวจิ๊วถูกซ่อนไว้ใต้ปกเสื้ออย่างแนบเนียน  เขารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ที่อยู่ที่ฐานหรือก็คือบ้านพักตากอากาศหลังนั้นและคนที่กำลังประจตำแหน่งที่จะต้องดำเนินการต่อจากพวกเขาให้รู้
เมื่อได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารที่ติดไว้ในรถ  เจ้าหน้าที่สืบสวนอีกคนหนึ่งก็ออกรถที่เขาจอดแอบไว้ข้างทางใกล้ๆ กับบริเวณโกดัง  เมื่อเขาเห็นรถคอนเทนเนอร์คันหนึ่งเลี้ยวออกมาจากปากทางเข้า  เขาจึงขับตามไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว  ที่หูของเขาก็มีวิทยุติดตามตัวแบบเดียวกัน  เขารายงานไปตลอดทางว่างรถขับไปทางไหนเผื่อว่าคนอื่นที่จอดซุ่มอยู่ตามทางจะแน่ใจได้ว่าเป็นรถคันที่ใช่
จากที่พวกเขาได้ข้อมูลมาจากพวกลูกสมุนของเดวิล  วูลฟกังที่แครกจ์จับตัวมาสอบสวนด้วยวิธีต่างๆ นาๆที่เคยเห็นในตามหนังจนยอมสารภาพจนหมด พวกนั้นบอกว่ารถคอนเทอเนอร์จะวิ่งลงใต้หากกันคันละครึ่งชั่วโมงและจะมีการแวะพักเป็นจุดๆ ทั้ง 2 คันจะไม่พักทีเดียวกัน  ก่อนถึงชายแดนจะมีการส่งมอบสินค้ากับเงินหรือทองที่โกดังใกล้กับด่านตรวจคนเข้าเมือง  ผู้ที่มารับของจะถ่ายของเข้ารถเก๋งแล้วขับเข้าประเทศ  ตอนนี้แหละที่พวกเขาจะลุยเข้าไปรวบตัวผู้กระทำการทั่งหมด
“ 20 คนนี่ก็พอแล้ว  ยิ่งมีคนมากยิ่งปิดเป็นความลับได้ยาก ” แครกจ์เถียงกับอเล็กซานดร้าในตอนที่วางแผนงาน  เป็นความจริงที่อเล็กซานดร้าเถียงไม่ออก  แม้ว่าเธอจะเป็นห่วงเรื่องกำลังคน 
“การขับรถตามตลอดคงจะทำไม่ได้  เราจึงต้องมีคนเปลี่ยนเวรในทุกๆ รัฐอย่างน้อยรัฐละ 2 คู่จนกว่าจะถึงที่นัดพบก่อนการบุก  คนที่จะเปลี่ยนเวรนัดกับคนที่ขับตามอยู่ให้ดี  คนที่ขับรถคอนเทนเนอร์จะได้ไม่สงสัย ... ”  แครกจ์อธิบายแผนการ  นี่เป็นงานใหญ่ที่เขาต้องทำให้สำเร็จ และต้องไม่ให้อะไรที่สามารถทำให้เกิดความผิดพลาดต่อแผนและผู้คนที่ร่วมงานกับเขาในครั้งนี้
ดังนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวน 14 คนจังผลัดเปลี่ยนกันขับตามรถคอนเทนเนอร์ทั้ง 2 คันเพื่อไม่ให้มันคลาดสายตาหรือตามได้ถูกคันหากมีการเปลี่ยนรถ  ขณะที่เจฟ แครกจ์ เม็กกี้  อเล็กซานดร้าและผู้ติดตามของเธอ 3 คนเช่าบ้านในบริเวณเขตพื้นที่ๆ จะมมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและรอพรรคพวกที่จะตามมาทีหลัง
1 วันก่อนการปฏิบัติการ ...
ในตอนดึก  อเล็กซานดรากับผู้ติดตามทั้ง 3 คนออกจากงานเลี้ยงของบริษัทในเครือของบริษัทลองจ์ เอ็นเทอร์ไพรส  เธอแต่งชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มแขนกุดยาวแค่หัวเข่า  ที่หน้าอกมีเข็มกลัดรูปผีเสื้อทำจากเพชรติดอยู่  และที่คอมีสายสร้อยมุกพัน 2 ชั้นที่ซื้อมาจากในเมือง  และผู้ติดตามทั้ง 3 ก็ใส่ชุดสูธเต็มยศและเน็คไทสีดำสนิท  พวกเขาตรงกลับบ้านเช่าหลังใหญ่ที่พวกเธอใช้อาศัยและเป็นที่นัดหมายก่อนการบุกโจมตี
บ้านที่หลังใหญ่พอที่ทุกคนจะอยู่กันได้อย่างไม่อึดอัดยัดเยียดนัก  เธอกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ออกจะกังวลอยู่สักหน่อย  เมื่อเธอเห็นคนอื่นๆ นั่งดูทีวีกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวมทั้งแครกจ์ด้วย  เธอจึงเดินไปที่กลุ่มคนเหล่านั้นและเมื่อพวกเขาหันมาที่เธอ  เธอจึงพูดกับพวกเขาว่า
“ เดี๊ยวช่วยไปเรียกทุกคนมารวมกันที่ห้องนี้หน่อยได้ไหมคะ  เราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงแผนบางส่วน  ฉันบังเอิญเห็นคนที่เราคิดไม่ถึงว่าเขาจะมา  ตอนที่ฉันเข้าไปในโรงแรมที่จัดเลี้ยง  ขอฉันไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก่อน ... ภายในครึ่งชั่วโมงนี่แหละ ” เธอปรายตาไปมองนาฬิกาที่ข้างฝา  เมื่อพูดจบเธอก็ทำท่าจะเดินขึ้นไปข้างบน  แต่พอเห็นใบหน้าฉงนของทุกคน  เธอจึงพูดชื่อของคนๆ นั้นออกมา
“ เดวิด  วูลฟกัง ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น