ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สืบหา
“ ครับ  มีอะไรครับ “ เจฟเปิดประตูห้องทำงานของเดฟลินเข้าไป  หลังจากมีโทรศัพท์ภายในเรียกเขาให้ไปหา  แต่เมื่อเขาเข้าไป  เขาก็ไม่ได้พบเดฟลิน  เขาพบเพียง 2 สาวคู่หู  อเล็กซานดร้าและแม็กกี้
“ เราได้ข้อมูลบางอย่างมา  คิดว่าคุณคงสนใจ”  อเล็กซานดร้าเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาและยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้
เจฟรับซองมาและเปิดออก  เขาดึงแผ่นเอกสารออกมาแล้วอ่าน
ข้อความในเอกสารเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเดวิด  วูลฟกัง  พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่  ผู้ที่เขาเคยตามสืบเมื่อเขาเป็นตำรวจ  รูปถ่ายวูลฟกังกับขายคนหนึ่งในร้านอาหาร  ขณะที่เขาอ่านเอกสาร  อเล็กซานดร้าก็อธิบายไปด้วย
“ เราอยากให้คุณสืบหาหลังฐานจากเอกสารพวกนี้ให้มากกว่านี้ระหว่างพ่อค้ายาเสพติดและชายคนนี้  มีแนวโน้มว่าชายคนนี้จะเป็นผู้รับซื้อหรืออาจจะมีการแลกเปลี่ยนสินค้าก็ได้  เราอยากได้สถานที่  วัน  เวลาที่พวกเขาจะแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากัน  เพราะ ฝ่ายรัฐบาลของเรา เคยบุกแหล่งเก็บสินค้าแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย “  อเล็กซานดร้าชอบแซวแครกจ์ว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลของเรา
เมื่อเขาพลิกรูปไปจนถึงใบสุดท้าย  เขาก็พบรูปของคนที่เขาคิดถึงอยู่ไม่กี่วันมานี้  แม้ว่ารูปนี้จะภ่ายติดใบหน้านั้นมเพียงเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม  แต่เขาก็ยังจำได้ ... ลิซ่า  คนรักที่ทิ้งเขาไปตอนที่เขาตกงานนี่เอง
“ ครับ  จะทำครับ “ เขาเก็บเอกสารเข้าซอง
“ดัจัง  เรามีคู่หูให้ทำงานกับคุณด้วยนะ “  เล็กซานดร้ายิ้มและผายมือไปยังแม็กกี้ซึ่งกำลังเดินตรงมาหาเขา  แล้วยื่นมือให้เหมือนจะขอเช็คแฮนด์
“ ฝากตัวด้วยนะ “  แม็กกี้ยิ้ม  “ ฉันไม่เป็นภาระให้คุณหรอกค่ะ “
เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสมือนั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  ขณะแม็กกี้กำลังยืนจ้องนาฬิกาอยู่หน้าสวนสาธารณะ  ตอนนี้ก็ 10 โมงแล้วแต่เจฟยังไม่มาเสียที  ยิ่งเธอเป็นคนไม่มีความอดทนพอที่จะรอใครเท่าไรด้วย  หากแล้วโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ สวัสดีครับ  นี่ผมเจฟนะ “
“ นี่คุณอยู่ที่ไหนเรานัดกันไว้ 9.45 น. ไม่ใช่เหรอ “  เธอพูดด้วยอารมณ์เริ่มฉุนเฉียว
“ ผมขอโทษ  ผมจะไปคนเดียว  ผมอยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว “
“ แต่ ... “ เธอก็ต้องชะงักคำพูดไปเพราะเขาได้วางหูไปเสียก่อน  เมื่อเธอพยายามกดโทรศัพท์กับไป  แต่ก็ไม่มีการตอบรับ
‘ ตาบ้านี่  นัดกันแล้วแท้ๆ ‘  เธอโมโห  เธอจึงกดโทรศัพท์ไปหาอเล็กซานดร้าแล้วบ่นเรื่องนี้กับเธอ
หลังจากที่เขาโทรศัพท์ไปบอกแม๊กกี้แล้ว  เขาก็ขับรถตรงมายังเมืองที่เขาเคยอยู่  พร้อมกับซองเอกสารที่วางอยู่ที่เบาะข้างๆ  เขาขับรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถ  แล้วเดินเข้าไปตามถนนที่มีพวกขอทานและอันธพาลเต็มไปหมด  เขาเดินเข้าไปในร้านแฮมเบอร์เกอร์แบบเปิด 24 ชม.ที่อยู่ด้านซ้ายมือ  เขากลับออกมาพร้อมกับแฮมเบอร์เกอร์อุ่นๆ กับกาแฟในแก้วโฟม  เขานั่งลงหน้าร้านไม่หากจากขอทานที่นั่งอยู่หน้าร้านข้างๆ  เขาลงมือแกะห่อกระดาษที่ห่อออกและยกมันขึ้นประชิดปากและเริ่มกิน
“ บอกมาซิว่าไอ้เดวิดมันเก็บเอกสารกับของไว้ที่ไหน “  เจฟพูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยเสียงเบาๆ
“ขอทานเหลือบตามามองเจฟหน่อยหนึ่งก่อนจะกลับไปมองเหมือนปรกติ  “ ได้ข่าวว่าถูกไล่ออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ “
“ ไม่ใช่เรื่องของแก “
“ จะกลับมาแก้แค้นหรือไง “
“ บอกมา “  เขาคำรามเสียงต่ำ
“ ยังไงฉันมันก็แค่ขอทานคนหนึ่งจะถูกฆ่าไปเมื่อไรก็ไม่รู้ “  ขอทานบ่น  “ แต่ก็บอกข้อมูล  ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน  แล้วเลี้ยวขวา  บล็อคที่ 2  ตรงข้ามร้านบัตเตอร์ไฟล บาร์  มีคนเฝ้า 2 คน  แต่มันชอบไปที่บาร์ฝั่งตรงข้าม “
เจฟดึงซองบุหรี่ออกมจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต  และคีบไฟแช็คกับกระดาษออกมาจากกระเป๋ากางเกง  เขาพับกระดาษหรือก็คือธนบัตรใบละ 100 ดอลล่าร์  1 ใบ  เป็น 3 ทบ  ใส่ไว้ในแก้วกาแฟ  แล้ววางไว้ข้างๆ ตัว  แล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ  เตรียมตัวจะลุกขึ้น  แต่ก็ต้องหยุดเมื่อขอทานบอกเขาอีกเรื่องหนึ่ง
“ มันเก็บยาไว้ในโกดังเก็บของที่ท่าเรือ  ในนามบริษัทกู๊ดทรานสปอร์ตเตชั่นสำหรับการส่งสินค้าครั้งหน้า “
“ ขอบใจ “  แล้วเจฟก็ลุกขึ้นเดินกลับไปทางที่เขามา
ส่วนขอทานคนนั้นก็เขยิบตัวมายังแก้วน้ำที่ถูกทิ้วไว้แล้วดูดหลอดกาแฟเหมือนกับว่ายังมีกาแฟเหลือ  ส่วนมือก็ค่อยๆ หยิบแบงค์ใส่ประเป๋าเสื้อที่สกปรกนั่นแล้วกลับไปนั่งที่เดิม   
เขาเดินทางมาถึงอาคารที่ขอทานคนนั้นบอกไว้ในตอนค่ำ  บาร์ต่างๆ แถวนั้นได้เปิดตัวแล้ว  เขาเดินเข้าไปในตรอกเพื่อหาทางเข้าจากด้านหลัง  เขาเดินอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ขึ้นบันไดหนีไฟไปที่ชั้น 2  เขาแนบตัวติดกับกำแพง  แล้วชะโงกหน้าดูด้านในผ่านหน้าต่างบานเกร็ดที่ฝุ่นจับเขรอะ  เมื่อเห็นว่าด้านในไม่มีผู้คน  เขาจึงหมุนลูกบิดและเปิดประตูอย่างง่ายดาย  เขาย่องไปตามทางเดินแคบๆ ในอาคาร  แล้วแอบที่ประตูแรกด้านซ้ายมือ  ค่อยๆ ผลักประตูที่แง้มอยู่ให้กว้างขึ้นที่ละน้อย  เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเข้าไปค้นเอกสารในห้องทำงานนั้น
เขาเดินตรงไปที่ตู้ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานแล้วเปิดดูทีละลิ้นชัก  แต่ก็ไม่พบอะไรที่ใช่เป็นหลักฐานได้  จนเขาเปิดมาเจอตู้เซฟที่ด้านล่างของตู้  เขาจึงจัดการเจาะเซฟตามที่เคยเรียนมาเมื่อสมัยเป็นตำรวจ  เมื่อเปิดเซฟได  เขาก็หยิบเอกสารมาดูเขาพลิกไปพลิกมาจนมาเจอแผ่นดิสเก็ตที่เขียนว่า  รายการสินค้าและลูกค้า  ก็จึงเก็บแผ่นนี้ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
พลันเขาก็ได้ยินฝีเท้าคนก้าวขึ้นบันไดมา  เสียงนั่นดังมากขึ้นเรื่อยๆและมาหยุดที่หน้าห้องนี้  เขาลุกขึ้น  ก้าวไปที่ประตู  แนบตัวกับกำแพง  ประคองกระบอกปืนไว้ในมือทั้ง 2 ข้าง 
เมื่อลูกบิดประตูหมุนและเปิดเข้ามา  เขาก็กระแทกสันปืนเข้ากับคอด้านหลังของชายที่เพิ่งประตูเข้ามา  ชายคนนั้นทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น  เสียงการล้มดังจนมีคนวิ่งเข้ามาดู  แน่ละคนที่เข้ามาใหม่ก็มีปืนเช่นกัน
ปัง!
เสียงลูกกระสุนที่ดีดตัวออกจากลำกล้องดังลั่น  แล้วมันก็ถูกเข้าที่ไหล่ขวาของเจฟและทะลุออกไป  และเลือดกระจายเต็มเสื้อเขา
“ โอ๊ะโอ่  นึกว่าขโมยที่ไหน  ที่แท้ก็ไอ้หมาตำรวจตัวนี้นี่เอง “  ชายคนนั้นเล็งปืนไปทางเจฟ  “ โยนปืนของกมทางนี้  ช้าๆ อย่าเล่นตุกติก  ไม่งั้นข้าอาจจะเผลอลั่นไกผืนที่ถูกสมองแกก็ได้ “
เจฟตั้งเซฟแล้วโยนปืนเรี่ยพื้นไปทางอีกฝ่าย
“ ดีมากๆ  เอามือวางบนหัว  แล้วไปยืนตรงมุมนั้น “  ชายคนนั้นเอาเท้าเขี่ยปืนไปไว้นอกห้อง
“ เอ็ด  มีอะไรกันน่ะ  ชั้นเข้าไปได้หรือยัง  เสียงผู้หญิงดังมาจากนอกห้อง “  เขาคุ้นกับเสียงนี้มากจนเขาภาวนาให้ไม่ใช่  แต่เมื่อเธอก้าวเข้ามาในห้อง  เขาก็ต้องอึ้งไป
“ ลิซ่า “  เขาคราง  “ ทำไมถึงอยู่ที่นี่ “
“ อ้าว  เจฟ “  ลิซ่าซึ่งอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวเดินไปหอมแก้มเจฟ  เธอทักเขาเหมือนเจอกันตามปรกติ
“ ยังไม่ได้บอกเขาไปอีกเหรอ “  เธอหันมาถามเอ็ดที่กำลังถือปืนคุมเชิงอยู่ 
“ ยัง  เอ็ดยิ้มที่มุมปาก  ข้าคิดว่ามันคงยังไม่รู้ว่าเธอเป็นเมียข้ามาก่อนไปคบกับมัน  เธอถูกส่งไปเป็นสายลับให้กับแก๊งเรา  แล้วเราก็โชคดีมากที่เราเลือกแกเป็นเหยื่อ  เราถึงได้รู้ทุกเรื่องของตำรวจ “
“ แล้วพอคุณถูกไล่ออก  คุณก็หมดประโยชน์กับเราแล้ว  ชั้นก็เลยเลิกกับคุณ ... ก็เท่านั้นเอง  ไม่นึกเลยว่าชั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของหนุ่มๆ จนตามมาถึงนี่  ใช่ไหมจ๊ะ  ที่รัก “  ลิซ่าเบียดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเอ็ด
“ พอรู้เรื่องทั้งหมดก็คงสบายใจแล้วใช่ไหม  งั้นก็ตายซะที่นี่เถอะ “  เอ็ดเหนี่ยวไกปืน  แล้วเสียงร้องอย่างเจ็บปวดก็ดังลั่น 
“ เราได้ข้อมูลบางอย่างมา  คิดว่าคุณคงสนใจ”  อเล็กซานดร้าเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาและยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้
เจฟรับซองมาและเปิดออก  เขาดึงแผ่นเอกสารออกมาแล้วอ่าน
ข้อความในเอกสารเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเดวิด  วูลฟกัง  พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่  ผู้ที่เขาเคยตามสืบเมื่อเขาเป็นตำรวจ  รูปถ่ายวูลฟกังกับขายคนหนึ่งในร้านอาหาร  ขณะที่เขาอ่านเอกสาร  อเล็กซานดร้าก็อธิบายไปด้วย
“ เราอยากให้คุณสืบหาหลังฐานจากเอกสารพวกนี้ให้มากกว่านี้ระหว่างพ่อค้ายาเสพติดและชายคนนี้  มีแนวโน้มว่าชายคนนี้จะเป็นผู้รับซื้อหรืออาจจะมีการแลกเปลี่ยนสินค้าก็ได้  เราอยากได้สถานที่  วัน  เวลาที่พวกเขาจะแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากัน  เพราะ ฝ่ายรัฐบาลของเรา เคยบุกแหล่งเก็บสินค้าแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย “  อเล็กซานดร้าชอบแซวแครกจ์ว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลของเรา
เมื่อเขาพลิกรูปไปจนถึงใบสุดท้าย  เขาก็พบรูปของคนที่เขาคิดถึงอยู่ไม่กี่วันมานี้  แม้ว่ารูปนี้จะภ่ายติดใบหน้านั้นมเพียงเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม  แต่เขาก็ยังจำได้ ... ลิซ่า  คนรักที่ทิ้งเขาไปตอนที่เขาตกงานนี่เอง
“ ครับ  จะทำครับ “ เขาเก็บเอกสารเข้าซอง
“ดัจัง  เรามีคู่หูให้ทำงานกับคุณด้วยนะ “  เล็กซานดร้ายิ้มและผายมือไปยังแม็กกี้ซึ่งกำลังเดินตรงมาหาเขา  แล้วยื่นมือให้เหมือนจะขอเช็คแฮนด์
“ ฝากตัวด้วยนะ “  แม็กกี้ยิ้ม  “ ฉันไม่เป็นภาระให้คุณหรอกค่ะ “
เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสมือนั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  ขณะแม็กกี้กำลังยืนจ้องนาฬิกาอยู่หน้าสวนสาธารณะ  ตอนนี้ก็ 10 โมงแล้วแต่เจฟยังไม่มาเสียที  ยิ่งเธอเป็นคนไม่มีความอดทนพอที่จะรอใครเท่าไรด้วย  หากแล้วโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ สวัสดีครับ  นี่ผมเจฟนะ “
“ นี่คุณอยู่ที่ไหนเรานัดกันไว้ 9.45 น. ไม่ใช่เหรอ “  เธอพูดด้วยอารมณ์เริ่มฉุนเฉียว
“ ผมขอโทษ  ผมจะไปคนเดียว  ผมอยากจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว “
“ แต่ ... “ เธอก็ต้องชะงักคำพูดไปเพราะเขาได้วางหูไปเสียก่อน  เมื่อเธอพยายามกดโทรศัพท์กับไป  แต่ก็ไม่มีการตอบรับ
‘ ตาบ้านี่  นัดกันแล้วแท้ๆ ‘  เธอโมโห  เธอจึงกดโทรศัพท์ไปหาอเล็กซานดร้าแล้วบ่นเรื่องนี้กับเธอ
หลังจากที่เขาโทรศัพท์ไปบอกแม๊กกี้แล้ว  เขาก็ขับรถตรงมายังเมืองที่เขาเคยอยู่  พร้อมกับซองเอกสารที่วางอยู่ที่เบาะข้างๆ  เขาขับรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถ  แล้วเดินเข้าไปตามถนนที่มีพวกขอทานและอันธพาลเต็มไปหมด  เขาเดินเข้าไปในร้านแฮมเบอร์เกอร์แบบเปิด 24 ชม.ที่อยู่ด้านซ้ายมือ  เขากลับออกมาพร้อมกับแฮมเบอร์เกอร์อุ่นๆ กับกาแฟในแก้วโฟม  เขานั่งลงหน้าร้านไม่หากจากขอทานที่นั่งอยู่หน้าร้านข้างๆ  เขาลงมือแกะห่อกระดาษที่ห่อออกและยกมันขึ้นประชิดปากและเริ่มกิน
“ บอกมาซิว่าไอ้เดวิดมันเก็บเอกสารกับของไว้ที่ไหน “  เจฟพูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยเสียงเบาๆ
“ขอทานเหลือบตามามองเจฟหน่อยหนึ่งก่อนจะกลับไปมองเหมือนปรกติ  “ ได้ข่าวว่าถูกไล่ออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ “
“ ไม่ใช่เรื่องของแก “
“ จะกลับมาแก้แค้นหรือไง “
“ บอกมา “  เขาคำรามเสียงต่ำ
“ ยังไงฉันมันก็แค่ขอทานคนหนึ่งจะถูกฆ่าไปเมื่อไรก็ไม่รู้ “  ขอทานบ่น  “ แต่ก็บอกข้อมูล  ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน  แล้วเลี้ยวขวา  บล็อคที่ 2  ตรงข้ามร้านบัตเตอร์ไฟล บาร์  มีคนเฝ้า 2 คน  แต่มันชอบไปที่บาร์ฝั่งตรงข้าม “
เจฟดึงซองบุหรี่ออกมจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต  และคีบไฟแช็คกับกระดาษออกมาจากกระเป๋ากางเกง  เขาพับกระดาษหรือก็คือธนบัตรใบละ 100 ดอลล่าร์  1 ใบ  เป็น 3 ทบ  ใส่ไว้ในแก้วกาแฟ  แล้ววางไว้ข้างๆ ตัว  แล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ  เตรียมตัวจะลุกขึ้น  แต่ก็ต้องหยุดเมื่อขอทานบอกเขาอีกเรื่องหนึ่ง
“ มันเก็บยาไว้ในโกดังเก็บของที่ท่าเรือ  ในนามบริษัทกู๊ดทรานสปอร์ตเตชั่นสำหรับการส่งสินค้าครั้งหน้า “
“ ขอบใจ “  แล้วเจฟก็ลุกขึ้นเดินกลับไปทางที่เขามา
ส่วนขอทานคนนั้นก็เขยิบตัวมายังแก้วน้ำที่ถูกทิ้วไว้แล้วดูดหลอดกาแฟเหมือนกับว่ายังมีกาแฟเหลือ  ส่วนมือก็ค่อยๆ หยิบแบงค์ใส่ประเป๋าเสื้อที่สกปรกนั่นแล้วกลับไปนั่งที่เดิม   
เขาเดินทางมาถึงอาคารที่ขอทานคนนั้นบอกไว้ในตอนค่ำ  บาร์ต่างๆ แถวนั้นได้เปิดตัวแล้ว  เขาเดินเข้าไปในตรอกเพื่อหาทางเข้าจากด้านหลัง  เขาเดินอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ขึ้นบันไดหนีไฟไปที่ชั้น 2  เขาแนบตัวติดกับกำแพง  แล้วชะโงกหน้าดูด้านในผ่านหน้าต่างบานเกร็ดที่ฝุ่นจับเขรอะ  เมื่อเห็นว่าด้านในไม่มีผู้คน  เขาจึงหมุนลูกบิดและเปิดประตูอย่างง่ายดาย  เขาย่องไปตามทางเดินแคบๆ ในอาคาร  แล้วแอบที่ประตูแรกด้านซ้ายมือ  ค่อยๆ ผลักประตูที่แง้มอยู่ให้กว้างขึ้นที่ละน้อย  เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเข้าไปค้นเอกสารในห้องทำงานนั้น
เขาเดินตรงไปที่ตู้ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานแล้วเปิดดูทีละลิ้นชัก  แต่ก็ไม่พบอะไรที่ใช่เป็นหลักฐานได้  จนเขาเปิดมาเจอตู้เซฟที่ด้านล่างของตู้  เขาจึงจัดการเจาะเซฟตามที่เคยเรียนมาเมื่อสมัยเป็นตำรวจ  เมื่อเปิดเซฟได  เขาก็หยิบเอกสารมาดูเขาพลิกไปพลิกมาจนมาเจอแผ่นดิสเก็ตที่เขียนว่า  รายการสินค้าและลูกค้า  ก็จึงเก็บแผ่นนี้ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
พลันเขาก็ได้ยินฝีเท้าคนก้าวขึ้นบันไดมา  เสียงนั่นดังมากขึ้นเรื่อยๆและมาหยุดที่หน้าห้องนี้  เขาลุกขึ้น  ก้าวไปที่ประตู  แนบตัวกับกำแพง  ประคองกระบอกปืนไว้ในมือทั้ง 2 ข้าง 
เมื่อลูกบิดประตูหมุนและเปิดเข้ามา  เขาก็กระแทกสันปืนเข้ากับคอด้านหลังของชายที่เพิ่งประตูเข้ามา  ชายคนนั้นทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น  เสียงการล้มดังจนมีคนวิ่งเข้ามาดู  แน่ละคนที่เข้ามาใหม่ก็มีปืนเช่นกัน
ปัง!
เสียงลูกกระสุนที่ดีดตัวออกจากลำกล้องดังลั่น  แล้วมันก็ถูกเข้าที่ไหล่ขวาของเจฟและทะลุออกไป  และเลือดกระจายเต็มเสื้อเขา
“ โอ๊ะโอ่  นึกว่าขโมยที่ไหน  ที่แท้ก็ไอ้หมาตำรวจตัวนี้นี่เอง “  ชายคนนั้นเล็งปืนไปทางเจฟ  “ โยนปืนของกมทางนี้  ช้าๆ อย่าเล่นตุกติก  ไม่งั้นข้าอาจจะเผลอลั่นไกผืนที่ถูกสมองแกก็ได้ “
เจฟตั้งเซฟแล้วโยนปืนเรี่ยพื้นไปทางอีกฝ่าย
“ ดีมากๆ  เอามือวางบนหัว  แล้วไปยืนตรงมุมนั้น “  ชายคนนั้นเอาเท้าเขี่ยปืนไปไว้นอกห้อง
“ เอ็ด  มีอะไรกันน่ะ  ชั้นเข้าไปได้หรือยัง  เสียงผู้หญิงดังมาจากนอกห้อง “  เขาคุ้นกับเสียงนี้มากจนเขาภาวนาให้ไม่ใช่  แต่เมื่อเธอก้าวเข้ามาในห้อง  เขาก็ต้องอึ้งไป
“ ลิซ่า “  เขาคราง  “ ทำไมถึงอยู่ที่นี่ “
“ อ้าว  เจฟ “  ลิซ่าซึ่งอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวเดินไปหอมแก้มเจฟ  เธอทักเขาเหมือนเจอกันตามปรกติ
“ ยังไม่ได้บอกเขาไปอีกเหรอ “  เธอหันมาถามเอ็ดที่กำลังถือปืนคุมเชิงอยู่ 
“ ยัง  เอ็ดยิ้มที่มุมปาก  ข้าคิดว่ามันคงยังไม่รู้ว่าเธอเป็นเมียข้ามาก่อนไปคบกับมัน  เธอถูกส่งไปเป็นสายลับให้กับแก๊งเรา  แล้วเราก็โชคดีมากที่เราเลือกแกเป็นเหยื่อ  เราถึงได้รู้ทุกเรื่องของตำรวจ “
“ แล้วพอคุณถูกไล่ออก  คุณก็หมดประโยชน์กับเราแล้ว  ชั้นก็เลยเลิกกับคุณ ... ก็เท่านั้นเอง  ไม่นึกเลยว่าชั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของหนุ่มๆ จนตามมาถึงนี่  ใช่ไหมจ๊ะ  ที่รัก “  ลิซ่าเบียดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเอ็ด
“ พอรู้เรื่องทั้งหมดก็คงสบายใจแล้วใช่ไหม  งั้นก็ตายซะที่นี่เถอะ “  เอ็ดเหนี่ยวไกปืน  แล้วเสียงร้องอย่างเจ็บปวดก็ดังลั่น 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น