ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก - อันตราย

    ลำดับตอนที่ #4 : เจรจา

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 48


    อเล็กซานดร้ากำลังยืนอยู่ริมระเบียงและเหม่อมองออกไปข้างนอก  ขณะที่ด้านหลังของเธอมีแต่เสียงอึกทึกไปด้วยเสียงดนตรีและเสียงพูดคุย  เธออยู่ในชุดราตรีสีดำระบิยระยับไปด้วยเลื่อม  ยาวถึงข้อเท้าที่เปลือยแขนและหลัง  วันนี้ก็เป็นวันที่น่าเบื่ออีกวันหนึ่งของเธอ



    เมื่อเธอได้ยินเสียงใครก้าวเข้ามาทางด้านหลัง  เธอจึงหันกลับไป



    “ สาวน้อยมาหลับอยู่ที่นี่เอง ”  เดฟลิน พี่ชายจองเธอก้าวเข้ามาพร้อมกับยัดเยียดแก้วไวน์ใส่มือเธอ  เขารู้ดีว่าน้องสาวไม่ชอบการออกงานเลี้ยงที่เป็นทางการพอๆกับเขาเลยที่เดียว



    “ แล้วสาวๆของพี่ไปไหนกันหมดละ ”  เธอมองเลยไปด้านหลังของพี่ชาย



    “ เขาก็มีคนอื่นให้เกาะเหมือนกันนะ ”  เดฟลินยิ้ม  ซึ่งนั่นทำให้อเล็กซานดร้ายิ้มตาม



    พี่ชายของเธอน่ะมีคุณสมบัติที่เหมาะกับเป็นเพลบอยอย่างแท้จริง  ทั้งฐานะทางการเงิน  มารยาททางสังคม  ใบหน้าที่หล่อเหลา  ร่างกายที่กล้ามเนื้ออย่างนักกีฬา  ความสามารถในการเอาใจสาวๆและสลัดพวกเธอให้หลุดเมื่อรู้สึกว่าความสำพันธ์นั้นเกินขอบเขต  และไม่เคยคบใครจริงจัง



    ‘ จะมีผู้หญิงคนไหนจับพี่ได้อยู่หมัดบ้างนะ ’  เธอเคยคิด



    “ เข้าไปข้างในกันเถอะเดี๋ยวสาวๆจะตามหากันจ้าละหวั่น ”  เธอชวน



    เมื่อก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นไร้อารมณ์อย่างที่พวกนักข่าวเรียกเธอว่า  ‘ เจ้าหญิงน้ำแข็ง ’











    อเล็กซานดร้ากำลังจิบไวน์อย่างเบื่อๆ อยู่ท่ามกลางการพูดคุยที่เธอไม่ค่อยได้สนใจฟังเท่าใดนัก  พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้าและดูเหมือนเขาจะเห็นเธอเช่นกัน  เธอชั่งใจอยู่นิดหนึ่งจึงตัดสินใจขอตัวออกมาจากวงสนทนา  เธอเดินไปหาพี่ชายมีสาวๆยืนล้อมรอบอยู่  เธอเดินนำพี่ชายไปยังอีกด้านหนึ่งของห้องที่ๆ เขาคนนั้นกำลังยืนอยู่  ซึ่งเขาคนนั้นก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นเธอเดินตรงมา



    “ สวัสดี  รู้สึกเราจะเจอกันบ่อยจัง ”  อเล็กซานดร้าทักแครกจ์ซึ่งวันนี้เขาสวมชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ผูกหูกระต่าย  กางเกงสีดำ  และรองเท้าหนังสีดำมันปลาบ



    “ ฉันอยากจะแนะนำคุณให้รู้จักกับพี่ชายของฉัน ”  เธอผายมือไปยังพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ  “ นี่เดฟลิน  ลองจ์พี่ชายของฉัน  และนี่คือ แครกจ์  คนที่ฉันเคยเล่าให้พี่ฟัง ”



    ถึงแม้ทั้งสองจะสัมผัสมือกันอย่างเป็นมิตร  แต่แครกจ์พูดขึ้นมาว่า



    “ พวกคุณกำลังรบกวนการทำงานของผม ”

    “ โอ  ฉันอาจจะรบกวนคุณบ้าง  แต่เราอาจจะทำให้เรื่องนี้จบเร็วขึ้นได้นะ  ว่าแต่คุณกำลังเฝ้าอะไรอยู่ละ ”



    แครกจ์เหลือบมองอเล็กซานดร้าแล้วพูดต่อ



    “ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพลเรือน ”



    “ เราก็แค่อยากจะช่วย ”



    “ คุณอยากจะได้อะไรหลังจากจบเรื่องนี้ ”  แครกจ์กล่าวหลังจากสบตากับเดฟลิน



    แครกจ์รู้ดีว่าพลเรือนที่มีทรัพย์สินจำนวนมากนั้นสามารถทำอะไรๆได้ดีกว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลกินเงินเดือนอย่างเขามากนัก   โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับครอบครัวและเพื่อนสนิทของจอร์จ  ลองจ์  ผู้ขึ้นชื่อว่าชื่นชอบความเป็นธรรมและเกลียดความไม่ตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง  และเชื่อว่าทุกคนควรต่อสู้กับสิ่งใดๆก็ตามที่ไม่ถูกจ้อง



    “ ก็อาจเป็นอะไรบางอย่างตอบแทนกลับมาเมื่อเราร้องขอ ”  เดฟลินยิ้มอย่างเข้าเล่ห์นิดหนึ่ง  และอเล็กซานดร้าก็สนับสนุนพี่ชายของเธอด้วยคำว่าใช่











    “ เจฟ  ท่าทางคุณดูไม่ดีมา 2 – 3 วันแล้วนะ  เป็นอะไรหรือเปล่า ”  แม็กกี้ที่กำลังหอบเอกสารปึกใหญ่ทักเจฟเมื่อเธอกำลังจะเดินสวนไป



    “ ไม่มีอะไรหรอกครับ ”  เขาตอบและพยายามที่จะเลี่ยงออกไป  ทั้งๆ ที่เขาอยากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดทุกครั้งที่เขาพบเธอ  แต่เขาก็พยายามหักห้ามใจเพราะเขายังมีเรื่องในใจที่ต้องจัดการอีกหลายเรื่อง



    “ แน่ใจนะ  อืม...ฉันไม่แน่ใจว่าจะบอกคุณดีไหม  ท่าทางคุณดูไม่ดีเลย ”



    “ มีอะไรให้ผมช่วยหรือครับ ”



    “ ซานดี้  อเล็กซานดร้าน่ะจ๊ะ  ถามถึงคุณ  คงมีอะไรให้คุณช่วยทำมั๊งจ๊ะ ”



    “ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนครับ ”  เจฟถาม  เพราะทั้งจอร์จ  เรเวน  เดฟลิน  และอเล็กซานดร้าเป็นพวกชอบเดินไปหาลูกน้องถึงโต๊ะทำงานมากกว่าที่จะเรียกไปคุยที่ห้อง



    “ อยู่ที่แผนกรักษาความปลอดภัยนะจ๊ะ ”  แม็กกี้หัวเราะคิกคัก  “ กำลังเถียงกับพ่ออยู่  เดี๋ยวเดินไปด้วยกันซะจ๊ะ  ฉันจะต้องเอาเอกสารไปด้วยพอดี ”











    เสียงของคนกำลังถกเถียงกันดังออกมาจากในห้อง  ซึ่งหน้าประตูมีตัวอักษรทำจากสติ๊กเกอร์สีน้ำเงินเข้ม  เขียนว่า  ” ผ่ายรักษาความปลอดภัย ”



    แม๊กกี้ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือ  ค่อยๆ ย่องอย่างเงียบๆ ไปยืนข้างๆ ผนังด้านหนึ่ง  โดยมีเจฟที่เกดินตามมาข้างหลัง  ในห้องนั้นมีคนอยู่มากมาย  ทั้งเดฟลิน  อเล็กซานดร้า  ลูคัส  เจ้าหน้าที่หน่อยรักษาความปลอดภัยและหน่วยสืบสวนของบริษัทอีก 3 – 4 คน  ทุกคนยืนรายล้อมชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ที่โต๊ะของขา  นั่นคือ  แซ็ค  สตีล  พ่อของแม็กกี้  ที่พยายามใช้เสียงและขนาดร่างกายข่มบังคับให้อเล็กซานดร้าและเดฟลินเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการที่จะไปช่วยสายลับรัฐบาลรับกุมผู้มีอิทธิพล



    “ คุณไม่รู้หรือไงว่ามันอันตรายขนาดไหน ”  แซ็คพูดเสียงดัง



    “ เรารู้และเราอยากทำ  พวกคุณก็เคยทำมันมาก่อนไม่ใช่เหรอ ”  เดฟลินพูดอย่างใจเย็น



    เขาอ้างถีงเหตุการณ์เก่าๆ สมัยก่อนที่พ่อและเพื่อนๆถูกบังคับให้เป็นสายลับรัฐบาลเพราะเหตุการณ์พาไป  ต้องช่วยทั้งเรื่องการสืบสวนและการจับกุมคนร้ายหลายครั้ง  แถมแต่ละคดีพวกเขายังพบรักกับสวยและต่อมาเป็นภรรยาของเขาเอง



    “ ใช่  แต่นั้นพวกเราได้รับการฝึกฝนการต่อสู้มา ”   แซ็คให้เหตุผลที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร



    “ นั่นอาห็ฝึกให้เราเองเหมือนกัน  แถมยังจ้างครูฝึกของหน่อยสวาทต์มาสวนพวกเราด้วยไม่ใช่เหรอ  หรืออาลืมไปแล้ว ”  อเล็กซานดร้าเตือนความจำเขา  แซ็คก็อึ้งไปเล็กน้อย  แต่ก็ยังพยายามหาเหตุผลมาอ้าง



    “ พวกเธอแค่ 2 คนจะไปสู้อะไรกับพวกนั้นได้  พวกมันฆ่าได้แม้กระทั้งเด็กเล็กๆ ”  



    “ หน่วยสืบสวนกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของเราประสิทธิภาพสูงไม่ใช่เหรอคะ  เราไม่คิดว่าเมื่อเราตัดสินใจไปแล้ว  อาๆ 2 คนจะปล่อยเราไปตามลำพังหรอกนะคะ ”



    แซ็คถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า  “ ตกลงตัดสินใจกันแล้วใช่ไหม ”  



    เดฟลินและอเล็กซานดร้ายิ้มออกมา



    ลูคัสที่นั่งฟังเหตุการณ์โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย  ก็พูดขึ้น่า



    “ เอาล่ะ  ตกลงกันได้แล้วใช่ไหม  งั้นขอสั่งงานหน่อยนะ  เดนนิส ”  เขาเรียกเจ้าหน้าที่ในหน่อยเขา  “ ไปสืบหาตัวเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ แล้วไปหาคนมาเพิ่มด้วยไปเดี๊ยวนี้เลย  เจฟ ขึ้นตรงกับอเล็กซานดร้านะ  อเล็กซานดร้าดึงข้อมูลทั้งหมดมาจากสายลับรัฐบาลคนนั้น ”



    พอลูคัสสั่งงานเสร็จ  แซ็คก็หันมาต่อว่าเขาว่าทำไมไม่ช่วยกันห้ามปรามเดฟลินกับอเล็กซานดร้าบ้างเลย



    “ ในเมื่อเขาตัดสินใจกันไปแล้วก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก  พวกนี้เขาสมเป็นพ่อลูกกันออก ”  ลูคัสพูดพลางหัวเราะ



    แซ็คก็ต้องถนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×