ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก - อันตราย

    ลำดับตอนที่ #10 : ได้ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 48


    จุดที่เจฟคุมอยู่ตรงข้ามกับแครกจ์ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะเดินอ้อมโกดังผ่านพุ่มไม้  กอหญ้า

    และพื้นดินที่ขรุขระโดยไม่ให้ใครเห็น  กว่าที่พวกเขาจะเข้ามาถึงส่วนในและพร้อมที่จะจู่โจมก็

    ต้องใช้เวลานานกว่าที่กะกันไว้



    “ พร้อมหรือยัง ” แครกจ์วิทยุเข้ามาตอนที่หมอกเริ่มจาง



    “ ยัง ” เจฟนำคนของเขาบุกผ่านต้นไม้หนามที่โตแน่นขนัดรกจัดเต็มบริเวณจนแทบจะไม่มีที่

    ว่างให้เดิน



    “ อะไรวะ  นี่มันตั้งนานแล้วนะ ”



    “ เออ ลองมาบุกทางนี้บ้างซิวะ  โอ๊ย! ” เจฟเริ่มสบถเพราะกิ่งไม้ที่เขาผลักออกเด้งกลับมาตี

    หน้าเขาและการสบถของเขาก็ไม่หยุดแม้ผ่านไปหลายนาที



    “ เฮ้ย!!  เราต้องการความเงียบนะโวย ”



    “ เป็นเพราะนายวิทยุเข้ามานั่นแหละ  โวย!!  ถ้าถึงจะวิทยุไปบอกเอง ”

    เจฟสบถด้วยความหงุดหงิด



    “ ... ” หลังจากที่แครกจ์อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง  เสียงจากในวิทยุก็เงียบไป



    นาน ... ราว 10 นาทีต่อมา  เจฟวิทยุเข้าไปหาแครกจ์ด้วยน้ำเสียงปนหอบเล็กๆ



    “ พร้อมแล้ว ” เจฟและคนอื่นๆ เข้าประจำที่หลังตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกใช้เป็นเกราะกำบังกระ

    สุน  ทุกคนมีปืนพร้อมอยู่ในมือ  ทันทีที่สิ้นเสียงการประกาศตัวของแครกจ์  พวกเขาก็เริ่ม

    ยิงใส่คนของเดวิล  วูลฟกัง



    เวลาราวครึ่งชั่วโมงดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับพวกเขา  ถึงแม้ว่าจะมีการต่อสู่

    กันอย่างหนักแต่การบุกครั้งนี้ดูจะง่ายดายเสียเหลือเกิน  แน่นอนละ ... เป็นเพราะการวาง

    แผนที่ดีกับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของบุคลากรของบริษัท  และ ... ท่าทีของฝ่ายนายพล

    แองกัสที่ไม่สนใจกับสถานการณ์อันยุ่งเหยิงนี้











    นายทหาร 2 คนรีบปิดกระเป๋าเอกสารที่ใส่เงินและกระเป๋าเดินทางที่ใส่เฮโรอีนรีบหิ้วขึ้นไป

    เก็บที่ท้ายรถ  ขณะที่ตัวนายทำแค่ยิงตุ้มกันให้ลูกน้องขนของได้สะดวก  แล้วทั้ง 3 คน จึง

    ขึ้นรถขับหนีไป



    “ เฮ้ย!! พวกนั้นนี้ไปแล้วนะ ” เจฟวิทยุหาแครกจ์ทันทีที่เห็นรถแล่นออกไป



    “ เออ ปล่อยไป ” น้ำเสียงของแครกจ์ไม่ใส่ใจกับเรื่องสำคัญ



    “ ปล่อยไป!?!? ” เจฟเสียงหลง “ หลักฐานทั้งนั้นเลยนะ ”



    “ เดี๊ยวมันก็กลับไปมา ” แล้วสัญญาณการติดต่อก็ขาดไป  ทิ้งให้เจฟที่ทำอะไรไม่ได้ต้องกลับ

    มาสู่สถานการณ์การยิงปลดอาวุธอย่างไม่พอใจ











    ราว 5 - 6 นาทีต่อมา



    เสียงปืนที่ดังสนั่นมาตลอดก็หยุดลง  คนของเดวิดทั้งหมดถูกปลดอาวุธ  บางส่วนถูกมัด  

    บางส่วนถูกทำให้สลบ  ส่วนตัวเดวิดถูกบังคับให้นั่งในท่าคุกเข่าทั้ง 2 ข้างและยกมือวางไว้

    บนศีรษะโดยมียืนคุมเชิงโดยคนในกลุ่มของแครกจ์คนหนึ่งถือปืนอยู่ในมือและเล็งที่เดวิด  ขณะ

    ที่แครกจ์ดึงมือของเดวิดลงมาไขว้ไว้ข้างหลังแล้วใส่กุญแจมือ ... นี่เป็นภาพที่เจฟเห็น

    ตอนที่เดินออกมาจากที่กำบัง



    “ ทำไมนายถึงปล่อยให้พวกนั้นหนีไป ” เจฟโมโหมากกว่าคนที่รับผิดชอบคดีนี้โดยตรงเสียอีก



    “ ก็ฉันบอกไปแล้ว ” แครกจ์ตอบแบบไม่ใส่ใจ “ อ๊ะ นั่นไง  มาแล้ว ”



    จากหางตาของแครกจ์เห็นถึงการเคลื่อนที่เข้ารถบีเอ็มดับเบิลยูสีน้ำเงินเข้มติดฟิล์มดำสนิทที่

    เมื่อ 5-6 นาทีที่แล้วเพิ่งขับหลบฉากการยิงต่อสู้ออกไป  ขณะที่คนอื่นๆ ทยอยกันเข้ามาใน

    บริเวณ  เมื่อเห็นรถแล่นเข้ามาจอด  พวกเขาทุกคนพร้อมที่จะยิงถ้าเกิดอะไรไม่ชอบมาพากล



    เมื่อรถดับเครื่อง  คนที่อยู่ในรถก็ออกมาและปิดประตู  ผู้ที่ออกมาจากด้านที่นั่งคนขับคือนาย

    พลแองกัส  ขณะที่ลูกน้อง 2 คนออกมาจากด้านเบาะหลังทั้งซ้ายและขวา



    “ เฮ้ๆ เรามาดีนะ ” หนึ่งในลูกน้องของนายพลแองกัสบอกขณะที่ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ  เมื่อจับ

    รังสีได้ถึงบรรยากาศที่อึมครึมที่แผ่ออกมาเกือบจะทุกคนยกเว้นจากแครกจ์  นายพลแองกัส

    และลูกน้องอีกคนก็ยกมือตาม



    “ ของล่ะ ” แครกจ์ไม่สนใจท่าทีของฝ่ายตัวเองเดินตรงไปที่คนพูด



    “ อยู่ท้ายรถ ” นายทหารผู้นั้นเดินนำแครกจ์ไปที่ท้ายรถ  ขณะที่นายพลแครกจ์เปิดประตูรถ

    และก้มตัวลงกดปุ่มข้างประตูรถ  เปิดล็อคให้กระโปรงท้ายเปิดออก  แล้วเจ้าตัวและนาย

    ทหารที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เดินมาพูดคุยกับแครกจ์  ขณะที่ช่วยแครกจ์เปิดและตรวจสอบของใน

    กระเป๋า



    “ อย่าทำบรรยากาศให้อึดอัดอย่างนี้ซิ ”  แครกจ์หันกลับมาพูดกับพวกตัวเอง “ 3 คนนี้ก็เป็น

    ฝ่ายเราเหมือนกัน ”



    “ หา!?!? ” ทุกคนตะโกนออกพร้อมกันด้วยความตกใจเพราะตาดไม่ถึง  โดยเฉพาะเดวิด



    “ อ้าว ... ฉันไม่ได้บอกหรือ ” แครกจ์พูดเหมือนบอกกับตัวเอง  แล้วจึงแนะนำทีละคน  “ นี่

    แองกัส  เบน  และเกเร็ต  พวกเขาเป็นสายลับที่ร่วมปฏิบัติภารกิจนี้ ”



    จากความตกใจของทุกคนเปลี่ยนเป็นความโมโหอันเกิดจากความเครียดที่เปล่าประโยชน์

    อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติภารกิจที่ต้องระมัดระวังทั้งฝ่ายชองเดวิดและแองกัส  ทุก

    คนอยากจะเข้าไปรุมอัดแครกจ์ที่ไม่บอกก่อน  แต่การทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รัฐบาลเป็น

    ความผิดที่ร้ายแรง  พวกเขาจึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าสบถและก่นด่าบรรพบุรุษแครกจ์เสีย

    ยับด้วยภาษาที่มีสีสันสุดๆ



    “ เออ ... ขอโทษคะ  ฉันขอกลับก่อนนะ  แม็กกี้ถูกยิง ”  เสียงของอเล็กซานดร้าถามอย่าง

    สุภาพดังมาจากขึ้นที่ด้านหลังกลุ่มคนที่ออกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่  เธอเดินมาจากไหน  ตั้งแต่

    เมื่อไรไม่มีใครเห็น  แต่เธอคงมานานพอที่จะรู้ว่าคนที่ใส่ชุดทหารเป็นใคร  เพราะดูเธอไม่ได้

    สนใจพวกเขาเลย



    “ หา!! แม็กกี้เป็นอะไรนะ ” เจฟตกใจมากและเดินอย่างรวดเร็วตรงไปที่แม็กกี้ที่อเล็กซานดร้า

    กำลังช่วยพยุงตัวอยู่  เขาเห็นผ้าพันที่ต้นแขนของแม็กกี้มีสีแดงเข้มไปด้วยเลือด  ดวงตาของ

    เขาวาวโรจน์  ใบหน้าของเขาเครียดขมึงตึง  และเสียงของเขาบ่งบอกถึงความโกรธจัด



    “ ใคร!! ใครเป็นคนทำ ”



    “ คนของเดวิด  มอยกระรอกอยู่ตรงนู้นแล้ว ” อเล็กซานดร้าชี้มั่วๆ ไปในกองคนที่ถูกมัด



    “ เจฟ  ฉันไม่เป็นอะไรหรอก  ไม่เจ็บเลย ” แม็กกี้พยายามทรงตัวให้มั่นคงแล้วดึงแขนออก

    จากการเกาะกุมของอเล็กซานดร้าแล้วยื่นไปจับแขนข้างหนึ่งของเจฟ  เธอมองเข้าไปในตา

    ของเขาและพูดอย่างร่าเริงและอ่อนหวาน  เธอหวังว่าเขาจะไม่ไปทำฆ่าใคร  นาน ... นาน

    ราวกับใช้เวลาของชั่วชีวิต ... ท่าทีของเขาถึงอ่อนลง  เขาดึงตัวเธอเข้าไปกอด  



    “ คุณทำผมกลัวแทบตาย ” เขาพูดเบาๆ ที่ข้างหูเธอ “ อย่าทำอะไรอย่างนี้อีกนะ ”



    “ ช่วยเลิกหวานกันสักครู่ได้ไหม  แม็กกี้ต้องไปหาหมอนะ ” อเล็กซานดร้าเอ่ยขึ้นมาเพราะ 2

    คนนี้เริ่มทำท่าจะเข้าสู่โลกของตัวเองไปเสียแล้ว



    “ จะไปด้วยกันก็รีบมา ”



    ในเวลาเดียวกับที่อเล็กซานดร้าพูด  แม็กกี้ดูเหมือนจะล้มลง  นั่นทำให้เจฟช้อนร่างของเธอ

    และอุ้มไว้ในอ้อมแขน  แล้วรีบเดินนำทุกคนตรงไปที่ๆ ซ่อนรถตู้  โดยที่คนที่มาช่วยในภารกิจ

    นี้เดินตามไป  จะเหลือก็แต่ผู้คุ้มกัน 3 คนที่ยังยืนรออเล็กซานดร้าอยู่



    อเล็กซานดร้ามองตามเจฟที่เดินนำอย่างเร่งรีบแล้วหันกลับมาเหลือบตามองสายลับ 3 คน

    อย่างพิจารณาอย่างรวดเร็ว  แล้วจึงหันมาพูดกับแครกจ์



    “ เสร็จแล้ว  โทรหาฉันด้วย ” แล้วเธอจึงหมุนตัวเดินตามไปที่รถที่ติดเครื่องรออยู่  พร้อมกับ

    ผู้คุ้มกันทั้ง 3











    แม็กกี้ได้รับการรักษาทันทีที่ไปถึงบ้านพักที่เช่าไว้  โดยแพทย์ประจำตระกูลที่อเล็กซานดร้า

    ขอให้มาด้วย  แพทย์ฉีดยาและสั่งให้เธอพักผ่อน 1 คืน  และยังให้เลือดที่เสียไปโดยขอจาก

    คนอื่นๆ ที่มีเลือดกลุ่มเดียวกัน



    เธอนอนห่มผ้าครึ่งตัวอยู่บนเตียงในห้องโดยที่มีอเล็กซานดร้านั่งอยู่ที่เตียงที่อยู่ทางซ้ายของ

    เตียงเธอ  ขณะที่เจฟนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายที่วางอยู่ทางด้านขวาและนายแพทย์ที่เคยยืนอยู่

    ปลายเตียงกำลังเดินออกไป  ปล่อยให้คนไข้ได้พักผ่อน



    “ ขอผมนอนที่นี่ได้ไหมครับ ”  เมื่อประตูปิดลงสนิท  เจฟก็พูดกับอเล็กซานดร้าด้วยความเป็น

    ห่วงแม็กกี้ราวกับว่าเธอจะหายตัวไปไหนหหากเขาไม่ได้เฝ้าเธอไว้  ซึ่งนั่นทำให้ดวงตาของ

    อเล็กซานดร้าเป็นประกายด้วยความขบขัน



    “ ไปนานที่ห้องคุณเถอะ  ชั้นไม่เป็นอะไรหรอกคะ ” เธอยิ้มให้เขา  “ อีกอย่างถ้าคุณมานอนห้อง

    นี้แล้วจะให้แซนดี้ไปนอนที่ห้องคุณหรือคะ ”



    เธอเตือนอ้อมๆ เพราะเขานอนห้องเดียวกันกับผู้คุ้มกันคนหนึ่งของอเล็กซานดร้า  ยังไงๆ ก็ไม่

    เหมาะแน่ๆ  



    แน่นอนละว่าเขารับรู้ถึงการเตือนนั้น  ก็ท่าทางของเขาอึกอักๆ  กับสิ่งที่เขาพูดออกอย่างไม่

    ได้คิดอะไร  นี่ท่าทางเขาจะติดนิสัยใจร้อนมาจากแม็กกี้หรือเปล่านะ  เขาสงสัยตัวเอง  แต่

    จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาเป็นห่วงเธอเสียยิ่งกว่าอะไร



    “ ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๊ยวฉันไปนอนที่อื่นก็ได้ ” อเล็กซานดร้าช่วยตัดสินใจแทนคู่รัก



    “ แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนล่ะ ”  แม็กกี้ถามเธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองทำให้เพื่อนเดือดร้อน



    “ ที่ไหนชั้นก็นอนได้  ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นก็ได้ ” อเล็กซานดร้ายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ  แต่เมื่อ

    เธอเห็นดวงตาที่เพื่อนส่งออกมาแล้ว  เธอก็บอกใหม่



    “ งั้นเดี๊ยวไปขอให้เดนนิสย้ายห้องไปในห้องเจฟก็ได้ ”  อเล็กซานดร้าหมายถึงเดนนิสคนที่

    อยู่แผนกสืบสวนและนอนห้องเดียวกับแครกจ์  เธอคิดว่าแครกจ์คงจะไม่กลับมาที่นี่แล้ว  

    เพราะเขาต้องนำตัวคนร้ายกลับไป



    “ เดี๊ยวชั้นกลับมาใหม่ ”  อเล็กซานดร้าลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องทิ้งให้หนุ่มสาวอยู่

    กันตามลำพังเพื่อที่จะออกไปพูดกับเดนนิส



    เพิ่งครู่เดียวอเล็กซานดร้าก็เดินกลับเข้ามา  เธอชำเลืองมองคู่รักคู่นี้แล้วก็ยิ้มให้แล้วบอกว่า



    “ เดนนิสบอกว่าจะย้ายห้องให้จ๊ะ  เดี๊ยวคุณไปเก็บของที่ห้องเท่าที่จำเป็นสำหรับค้าง 1 คืน

    ด้วย  ฉันก็ต้องเก็บเหมือนกัน ” เสียงของเธอเน้นเสียงที่คำว่าของที่จำเป็นไม่ใช่ขนมาหมด



    เธอเดินไปหยิบพวกข้าวขงกระจุกกระจิกใส่ในกระเป๋าเครื่องสำอาง  หยิบเสื้อผ้าจากใน

    กระเป๋าเดินทาง  หยิบไดร์เป่าผมจากลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า  หยิบผ้าเช็ดตัวจากที่ตากแดดไว้ข้าง

    นอก  เตรียมตัวย้ายห้อง  เธอชะงักเล็กน้อยแล้วหันกลับมาพูดกับเจฟ



    “ ให้คนไข้ของเราได้พักผ่อนจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าถูกรบกวนทั้งคืน ” อเล็กซานดร้าหลิ่วตาให้เจฟ

    ซึ่งทำให้แม็กกี้หน้าแดงขึ้นมาทันที  ขณะที่เจฟได้แต่หัวเราะเก้อๆ  



    แล้วเธอจึงเดินออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  แต่เธอจะไปห้ามอะไรเขาได้ละ  



    ‘ ปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจเถอะ ... อย่าไปรบกวนเวลาที่ไม่ค่อยจะมีด้วยกันสักเท่าไรของ

    พวกเขาดีกว่า ’  แล้วเธอก็เดินอย่างสบายใจไปที่ห้องใหม่



    ( ใช่ ... ปล่อยพวกเขาไปบ้างเถอะ  อย่าได้รู้ทุกอย่างเลย  พวกเขาคงไม่อยากให้คุณได้ดูพวก

    เขาในเวลาที่เป็นส่วนตัวมากอย่างนี้หรอกนะ - ผู้แต่ง ^^ )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×