ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจฟ
‘ที่นี่ที่ไหน’
เจฟตื่นขึ้นมาด้วยความมีนงงและอาการเมาค้าง เขาผุดลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ เขากำลังอยู่ในห้องห้เงสี่เหลี่ยมไม่กว้างและไม่แคบนัก มีโต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์ ตู้เสื้อผ้า เตียงเดียว 2 เตียง และห้องน้ำ
“อรุณสวัสดิ์” เสียงทักดังเบาๆเรียบๆของหญิงสาวดังมาจากด้านซ้าย เขาหันควับไปทันที
เจ้าของเสียงคือหญิงสาวผมดำยาวประบา เธอสวมกางเกงและแจ๊คเก็ตหนังสีดำแขน 3 ส่วน ซึ่งมีเสื้อยืดสีแดงแสบตาอยู่ภายใน
“จำฉันได้ไหม” เธอยื่นแผงยากับน้ำแก้วหนึ่งให้เขา “ยาแก้เมาค้างจ๊ะ”
มือข้างหนึ่งของเขายื่นมารับของ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยังคลำศีรษะอยู่ หลังจากที่เขากินยาแล้วดื่มน้ำตาม
“อเล็กซานคร้า ลองจ์... ทำไม...” เขาขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง เยื่อจากเม่อคืนคุณหลับอยู่ในบาร์ ฉันเลยต้องให้บาร์เทนเดอร์ลากคุณออกมา แล้วให้ผู้จัดการโรงแรมแบกคุณขึ้นมาที่ห้อง” เมื่อเห็นเขาดึงผ้าห่มออก แล้วพบว่าตัวเองเหลือแต่กางเกงใน เธอจึงพูดต่อไปว่า
“เพราะว่าเสื้อผ้าคุณมีแต่กลิ่นเหล้า ฉันก้อเลยถอดทิ้งไปแล้ว เมื่อเช้าฉันไปซื้อเสื้อผ้ามาให้แล้ว” เธอบุ้ยใบ้ไปที่กองเสื้อผ้าบนเตียงอีกหลังหนึ่ง “หวังว่าคงใส่ได้”
“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ แต่...ไปอาบน้ำให้สมองปลอดโปร่งก่อนดีไหม”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วตวัดผ้าห่มออกจากตัว ลุกขึ้น เดินไปหยิบเสื้อผ้าเขาห้องน้ำไป ส่วนเธอนั่งรออยู่อย่างใจเย็น
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเจฟก็ออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับกางเกงกางเกงขายาวสีเทา
“พอดีไหมคะ” เธอถามราวกับตัวเองเป็นพนักงานขายเสื้อผ้า
“ก็ดี แต่กางเกงคับไปหน่อย มีอะไรก็พูดมาซิ”
“มันอาจจะดูใจร้ายไปหน่อย ทั้งๆที่คุณเพิ่งถูกไล่ออกจากการเป็นตำรวจ เพราะคุณไปทำให้ผู้มีอิทธิพลไม่พอใจ แล้วถูกแฟนทิ้ง แต่ว่า...คุณอยากมาทำงานกับเราไหม”
“ฮัลโหล แม่หรือคะ หนูกำลังจะกลับพร้อมเขาแล้วนะคะ” เธอคุยโทรศัพท์ขณะที่จ่ายเงินค่าโรงแรม
“พ่อล่ะคะ...ค่ะ...ค่ะ...แล้วเจอกันที่บริษัทนะคะ บาย...” เธอวางหูโทรศัพท์เมื่อเดินมาถึงรถ เธอขับออกไปโดยที่มีเจฟนั่งอยู่ข้างๆ เธอพาเขาไปทานอาหารกลางวันก่อนจะพาเขาไปส่งที่หอพักตำรวจ
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ อเล็กซานดร้าและเจฟเดินออกมาจากร้าน แล้วทั้งเขาและเธอก็ต้องชะงักไป
“ขึ้นไปรอบนรถก่อน” อเล็กซานดร้าบอกเบาๆ สายตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เขา เพื่อเขาพยายามจะต่อต้านคำสั่ง เขาข้องตาเธออยู่ครู่หนึ่งก็ต้องจำใจขึ้นไปนั่งบนรถ
เธอหมุนตัวไปทางเสาคอนกรีตเล็กๆต้นหนึ่งที่อยู่ในเงามืดไม่ห่างนัก
“ไม่คิดจะออกมาคุยกันซักหน่อยหรือ ฉันคิดว่าคุณคงตามเรามานานแล้วใช่ไหมล่ะ” เธอไม่แปลกใจเลยเมื่อมีชายก้าวออกมาจากหลังเสามืดๆสู่แสงสว่าง เสียง สีหน้า และดวงตาของเธอเรียบสงบ
“สวัสดี มิสลองจ์ ผมไม่ได้มาร้ายหรอกฮะ”
เขาเป็นชายร่างสูงและหุ่นดี ใบหน้าของเขาใช่จะหล่อ แต่มีอะไรบางอย่างที่อาจทำให้สาวๆหลายคนหลงใหล ท่าทางที่เขายืนก็ดูสบายๆ แต่รอบๆตัวเขาให้ความรู้สึกที่อันตราย
“สวัสดี คุณไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยหรือ” มือขวาของเธอยกขึ้นไปวางบนกระเป๋าที่สะพานอยู่บนไหล่ข้างซ้าย
“ผมชื่อแครกจ์ฮะ ผมทำงานให้รัฐบาล”
“...สายลับรัฐบาลล่ะซิ มาเรื่องเขาเหรอ” เธอกระตุกหัวแม่มือเข้าไปในรถ “ขอโทษทีนะเผอิญเขาเซ็นสัญญาทำงานกับเราไปแล้ว คุณน่าจะมาให้เร็วกว่านี้ถ้าอยากได้ตัวเขา”
อาคารสูง 50 ชั้นกลางกรุงเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ลองจ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ของจอร์จ ลองจ์ นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่วัย 50 ปี ผู้ซึ่งชื่นชอบความยุติธรรม และอเล็กซานดร้าเป็นลูกคนเล็กของเขา
ที่ชั้น 48 เป็นที่ทำงานของหน่วยสืบสวนและหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทที่มีประสิทธิภาพและเป็นแหล่งรวมคนเก่งๆมากมาย
อเล็กซานดร้าผลักประตูห้องของหน่วยสืบสวนเข้ามาและทักทายบุรุษที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน
“ไฮ น้าลูค หนูเอาเอกสารมาส่งค่ะนี่ค่ะหนังสือเซ็นสัญญาว่าจ้าง”
ลูคัส เคนดริก หรือที่คนสนิทๆเรียกเขาว่า ลูค เป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนของบริษัท เขาเป็นเพื่อนกับบิดาเธอมานานแล้ว เขาแต่งงานกับคีล คุณหนูจากตระกูลผู้ดีเก่า และมีลูกสาวรุ่นราวคราวเดียวและเป็นเพื่อนกับเธอ เธอยื่นซองเอกสารให้ลูคัสและรอจนกระทั่งเขาเอาเอกสารใส่ซองหลังจากที่อ่านจบ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ งั้น...หนูไปล่ะ” เธอเดินกลับไปที่ประตู “อ้อ แล้วข้างบนมีใครอยู่บ้างคะ”
“ก็อยู่ทั้งจอร์จ เรเวน แล้วก็เดฟนั่นแหละ”
“แม่คะ พ่อกับพี่ล่ะคะ” อเล็กซานดร้าเดินเข้าไปดอกแม่ผู้มีผมสีดำและดวงตาสีม่วงเช่นเดียวกับเธอ
เรเวน เป็นภรรยาของจอร์จและเป็นแม่ของเดฟลินและอเล็กซานคร้า ก่อนที่เธอจะแต่งงาน เธอเคบเป็นสายลับภาพสนามในหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลมาก่อน เธอพบกับจอร์จจากอุบัติเหตุเล็กๆระหว่างปฏิบัติงาน และนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆมากมาย
“พ่อกับเดฟอยู่ในห้องประชุมกับพวกคณะกรรมการจ๊ะ” อเล็กซานดร้าและเรเวนเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ด้านข้าง “แล้วเป็นยังไงบ้างจ๊ะ คนที่ลูกได้ตัวมา...ชื่ออะไรนะ”
“เจฟค่ะแม่ ท่าทางก็ใช้ได้ จากที่เคยเห็นเขาตอนที่รัฐบาลส่งตัวมาช่วยคุ้มกันหนู ก็มีฝีมือใช้ได้เลยล่ะค่ะ เหลือแต่ให้แม็กกี้มาดู”
แม็กกี้ สตีลเป็นลูกสาวคนโตของแซ็ค หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทกับเท็ดดี้ ซึ่งลูกสาวทุกคนในตระกูลของเท็ดดี้เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ โดยที่เท็ดดี้สามารถสื่สารกับสัตว์และลูกๆของเธอก็เช่นกัน
แม็กกี้มีความสามารถในการมองคนที่เพิ่งรู้จักว่าเป็นคนอย่างไร ส่วนรีเบคก้าน้องสาวของเธอนั้นมีความสามารถเรื่องฝันบอกเหตุ
“คราวก่อนที่เขามาคุ้มกันหนูน่ะ แม็กกี้ไปเที่ยวเลยไม่มีโอกาสได้เจอกัน”
เหตุที่รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุ้มครองเธอก็เพราะตอนนี้มีจดหมายขู่มาถึงจอร์จว่าจำทำร้ายคนในครอบครัว ถ้าเขาไม่ทำตามความต้องการของพวกมัน
ทั้งๆที่ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมเทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่าที่คุ้มครองประธานาธิบดีสหรัฐ แต่รัฐบาลก็ยังส่งตำรวจมาช่วย โดยหวังผลประโยชน์จากจอร์จในภายภาคหน้า
“อ้อ แม่คะ วันนี้หนูเจอคนที่หน้าจะเป็นสมาชิกของบริษัทเราได้อีกคนนึงแล้วค่ะ แต่ว่าท่าทางจะชวนยาก”
“เจอที่ไหนล่ะจ๊ะ”
“หลังจากที่เจฟเซ็นสัญญากับเราแล้วน่ะค่ะ เขาตามเรามา...สายลับรัฐบาลน่ะค่ะ”
เจฟตื่นขึ้นมาด้วยความมีนงงและอาการเมาค้าง เขาผุดลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ เขากำลังอยู่ในห้องห้เงสี่เหลี่ยมไม่กว้างและไม่แคบนัก มีโต๊ะเครื่องแป้ง โทรทัศน์ ตู้เสื้อผ้า เตียงเดียว 2 เตียง และห้องน้ำ
“อรุณสวัสดิ์” เสียงทักดังเบาๆเรียบๆของหญิงสาวดังมาจากด้านซ้าย เขาหันควับไปทันที
เจ้าของเสียงคือหญิงสาวผมดำยาวประบา เธอสวมกางเกงและแจ๊คเก็ตหนังสีดำแขน 3 ส่วน ซึ่งมีเสื้อยืดสีแดงแสบตาอยู่ภายใน
“จำฉันได้ไหม” เธอยื่นแผงยากับน้ำแก้วหนึ่งให้เขา “ยาแก้เมาค้างจ๊ะ”
มือข้างหนึ่งของเขายื่นมารับของ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยังคลำศีรษะอยู่ หลังจากที่เขากินยาแล้วดื่มน้ำตาม
“อเล็กซานคร้า ลองจ์... ทำไม...” เขาขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง เยื่อจากเม่อคืนคุณหลับอยู่ในบาร์ ฉันเลยต้องให้บาร์เทนเดอร์ลากคุณออกมา แล้วให้ผู้จัดการโรงแรมแบกคุณขึ้นมาที่ห้อง” เมื่อเห็นเขาดึงผ้าห่มออก แล้วพบว่าตัวเองเหลือแต่กางเกงใน เธอจึงพูดต่อไปว่า
“เพราะว่าเสื้อผ้าคุณมีแต่กลิ่นเหล้า ฉันก้อเลยถอดทิ้งไปแล้ว เมื่อเช้าฉันไปซื้อเสื้อผ้ามาให้แล้ว” เธอบุ้ยใบ้ไปที่กองเสื้อผ้าบนเตียงอีกหลังหนึ่ง “หวังว่าคงใส่ได้”
“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ แต่...ไปอาบน้ำให้สมองปลอดโปร่งก่อนดีไหม”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วตวัดผ้าห่มออกจากตัว ลุกขึ้น เดินไปหยิบเสื้อผ้าเขาห้องน้ำไป ส่วนเธอนั่งรออยู่อย่างใจเย็น
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเจฟก็ออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับกางเกงกางเกงขายาวสีเทา
“พอดีไหมคะ” เธอถามราวกับตัวเองเป็นพนักงานขายเสื้อผ้า
“ก็ดี แต่กางเกงคับไปหน่อย มีอะไรก็พูดมาซิ”
“มันอาจจะดูใจร้ายไปหน่อย ทั้งๆที่คุณเพิ่งถูกไล่ออกจากการเป็นตำรวจ เพราะคุณไปทำให้ผู้มีอิทธิพลไม่พอใจ แล้วถูกแฟนทิ้ง แต่ว่า...คุณอยากมาทำงานกับเราไหม”
“ฮัลโหล แม่หรือคะ หนูกำลังจะกลับพร้อมเขาแล้วนะคะ” เธอคุยโทรศัพท์ขณะที่จ่ายเงินค่าโรงแรม
“พ่อล่ะคะ...ค่ะ...ค่ะ...แล้วเจอกันที่บริษัทนะคะ บาย...” เธอวางหูโทรศัพท์เมื่อเดินมาถึงรถ เธอขับออกไปโดยที่มีเจฟนั่งอยู่ข้างๆ เธอพาเขาไปทานอาหารกลางวันก่อนจะพาเขาไปส่งที่หอพักตำรวจ
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ อเล็กซานดร้าและเจฟเดินออกมาจากร้าน แล้วทั้งเขาและเธอก็ต้องชะงักไป
“ขึ้นไปรอบนรถก่อน” อเล็กซานดร้าบอกเบาๆ สายตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เขา เพื่อเขาพยายามจะต่อต้านคำสั่ง เขาข้องตาเธออยู่ครู่หนึ่งก็ต้องจำใจขึ้นไปนั่งบนรถ
เธอหมุนตัวไปทางเสาคอนกรีตเล็กๆต้นหนึ่งที่อยู่ในเงามืดไม่ห่างนัก
“ไม่คิดจะออกมาคุยกันซักหน่อยหรือ ฉันคิดว่าคุณคงตามเรามานานแล้วใช่ไหมล่ะ” เธอไม่แปลกใจเลยเมื่อมีชายก้าวออกมาจากหลังเสามืดๆสู่แสงสว่าง เสียง สีหน้า และดวงตาของเธอเรียบสงบ
“สวัสดี มิสลองจ์ ผมไม่ได้มาร้ายหรอกฮะ”
เขาเป็นชายร่างสูงและหุ่นดี ใบหน้าของเขาใช่จะหล่อ แต่มีอะไรบางอย่างที่อาจทำให้สาวๆหลายคนหลงใหล ท่าทางที่เขายืนก็ดูสบายๆ แต่รอบๆตัวเขาให้ความรู้สึกที่อันตราย
“สวัสดี คุณไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยหรือ” มือขวาของเธอยกขึ้นไปวางบนกระเป๋าที่สะพานอยู่บนไหล่ข้างซ้าย
“ผมชื่อแครกจ์ฮะ ผมทำงานให้รัฐบาล”
“...สายลับรัฐบาลล่ะซิ มาเรื่องเขาเหรอ” เธอกระตุกหัวแม่มือเข้าไปในรถ “ขอโทษทีนะเผอิญเขาเซ็นสัญญาทำงานกับเราไปแล้ว คุณน่าจะมาให้เร็วกว่านี้ถ้าอยากได้ตัวเขา”
อาคารสูง 50 ชั้นกลางกรุงเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ลองจ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ของจอร์จ ลองจ์ นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่วัย 50 ปี ผู้ซึ่งชื่นชอบความยุติธรรม และอเล็กซานดร้าเป็นลูกคนเล็กของเขา
ที่ชั้น 48 เป็นที่ทำงานของหน่วยสืบสวนและหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทที่มีประสิทธิภาพและเป็นแหล่งรวมคนเก่งๆมากมาย
อเล็กซานดร้าผลักประตูห้องของหน่วยสืบสวนเข้ามาและทักทายบุรุษที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน
“ไฮ น้าลูค หนูเอาเอกสารมาส่งค่ะนี่ค่ะหนังสือเซ็นสัญญาว่าจ้าง”
ลูคัส เคนดริก หรือที่คนสนิทๆเรียกเขาว่า ลูค เป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนของบริษัท เขาเป็นเพื่อนกับบิดาเธอมานานแล้ว เขาแต่งงานกับคีล คุณหนูจากตระกูลผู้ดีเก่า และมีลูกสาวรุ่นราวคราวเดียวและเป็นเพื่อนกับเธอ เธอยื่นซองเอกสารให้ลูคัสและรอจนกระทั่งเขาเอาเอกสารใส่ซองหลังจากที่อ่านจบ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ งั้น...หนูไปล่ะ” เธอเดินกลับไปที่ประตู “อ้อ แล้วข้างบนมีใครอยู่บ้างคะ”
“ก็อยู่ทั้งจอร์จ เรเวน แล้วก็เดฟนั่นแหละ”
“แม่คะ พ่อกับพี่ล่ะคะ” อเล็กซานดร้าเดินเข้าไปดอกแม่ผู้มีผมสีดำและดวงตาสีม่วงเช่นเดียวกับเธอ
เรเวน เป็นภรรยาของจอร์จและเป็นแม่ของเดฟลินและอเล็กซานคร้า ก่อนที่เธอจะแต่งงาน เธอเคบเป็นสายลับภาพสนามในหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลมาก่อน เธอพบกับจอร์จจากอุบัติเหตุเล็กๆระหว่างปฏิบัติงาน และนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆมากมาย
“พ่อกับเดฟอยู่ในห้องประชุมกับพวกคณะกรรมการจ๊ะ” อเล็กซานดร้าและเรเวนเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ด้านข้าง “แล้วเป็นยังไงบ้างจ๊ะ คนที่ลูกได้ตัวมา...ชื่ออะไรนะ”
“เจฟค่ะแม่ ท่าทางก็ใช้ได้ จากที่เคยเห็นเขาตอนที่รัฐบาลส่งตัวมาช่วยคุ้มกันหนู ก็มีฝีมือใช้ได้เลยล่ะค่ะ เหลือแต่ให้แม็กกี้มาดู”
แม็กกี้ สตีลเป็นลูกสาวคนโตของแซ็ค หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทกับเท็ดดี้ ซึ่งลูกสาวทุกคนในตระกูลของเท็ดดี้เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ โดยที่เท็ดดี้สามารถสื่สารกับสัตว์และลูกๆของเธอก็เช่นกัน
แม็กกี้มีความสามารถในการมองคนที่เพิ่งรู้จักว่าเป็นคนอย่างไร ส่วนรีเบคก้าน้องสาวของเธอนั้นมีความสามารถเรื่องฝันบอกเหตุ
“คราวก่อนที่เขามาคุ้มกันหนูน่ะ แม็กกี้ไปเที่ยวเลยไม่มีโอกาสได้เจอกัน”
เหตุที่รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุ้มครองเธอก็เพราะตอนนี้มีจดหมายขู่มาถึงจอร์จว่าจำทำร้ายคนในครอบครัว ถ้าเขาไม่ทำตามความต้องการของพวกมัน
ทั้งๆที่ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมเทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่าที่คุ้มครองประธานาธิบดีสหรัฐ แต่รัฐบาลก็ยังส่งตำรวจมาช่วย โดยหวังผลประโยชน์จากจอร์จในภายภาคหน้า
“อ้อ แม่คะ วันนี้หนูเจอคนที่หน้าจะเป็นสมาชิกของบริษัทเราได้อีกคนนึงแล้วค่ะ แต่ว่าท่าทางจะชวนยาก”
“เจอที่ไหนล่ะจ๊ะ”
“หลังจากที่เจฟเซ็นสัญญากับเราแล้วน่ะค่ะ เขาตามเรามา...สายลับรัฐบาลน่ะค่ะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น