คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2
มันก็แค่...จุดเริ่มต้น
ม.5 ห้อง 11 คืออีกหนึ่งในห้องเรียนที่ถูกแยกออกมาไว้ที่ตึกผู้บริหาร(ตึกนี้จะมีแค่ ม.1-6 ที่เป็นห้อง11 เท่านั้นหน่ะครับ)...อาจจะเรียกได้เป็นที่รวมกลุ่มชนชั้นสูง(?)ที่ไม่มีใคร อยากจะมายุ่ง เพราะนอกจากจะเป็นตึกที่อธิการทำงานอยู่แล้วมันยังเป็นตึกที่รวมบรรดาลูก ท่านหลานเธอ ลูกนายพลใหญ่ๆ หรือไม่ก็ลูกของนักการเมืองชื่อดังมากมายที่พากันมาซุ่มหัวเรียนที่นี้
....รวมทั้งลูกของอธิการเองก็ด้วย...
และนั้นแหละคือปัญหาที่ผมกำลังจะมาเผชิญ ตึกบริหารของโรงเรียนไม่ต่างอะไรกับป่าช้า...แม่งเงียบมากครับ ทั้งๆที่ตึกอื่นๆยังคึกคักอยู่ ถึงจะเลิกเรียนแล้วก็จริง...แต่ทำไมถึงไม่มีใครโผล่หัวออกมาจากตึกสักคนเลยฟ่ะ!
ผมยืนแก่วอยู่หน้าตึกที่มีต้นชงโคกับสวนน้ำพุเล็กๆตั้งอยู่ ลาดไปทางประตูเข้าตึกที่ทำมาจากไม้สักเห็นแล้วโครตตตตจะรู้สึกถึงความแตก ต่าง...เรื่องของเรื่องคือโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ใจ กลางกรุงเทพฯ ค่าเทอมก็ขูดเลือดขูดเนื้อป๊าผมใช่เล่น แต่ทำไมตึกเรียนอื่นๆไม่เห็นจะหรูหราแบบนี้มั้งว่ะ?
ขนาดแคนทีนมันยังใช่รวมกับคนอื่นไม่ได้เลยคิดดู!! (มีห้องอาหารเป็นของตัวเองในตึก...แม่งงงเว่อร์โครตต)
ผมโยนจาคอบตัวเองลงบนม้านั่งหินอ่อนแถวๆหน้าสวนย่อมพาลนึกถึงพวกไอ้ปัน ไอ้เทค ไอ้พิช ที่เสร่อขอตัวกลับก่อนทิ้งให้ผมมาตายเดี่ยวด้วยเหตุผลควายๆว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกู...อืม...พวกแม่งรักผมกันมากครับ
ชีทคณิตในมือถูกควักออกมาแบบลวกๆจากในกระเป๋า ผมมองมันไปมาด้วยความงงกับสูตรกราฟฯที่อ.ลันดาแกเพิ่งสอนเมื่อคาบที่แล้ว... ให้ตายเถอะ ไม่น่าพลาดเลยกูสงสัยคืนนี้ได้นั่งทวนบทเรียนเกินเที่ยงคืนแหง่ๆ...คิดไป แล้วก็เซ็ง ขนาดตัวผมเองยังเกือบจะเอาชีวิตเรื่องเรียนไม่รอดอยู่แล้วแท้ๆ ดีหน่อยที่พยายามเค้นความขยัน
ขยันอ่าน ขยันเรียนพิเศษ แล้วก็ขยันทบทวนทั้งๆหัวผมออกจะทื่อเสียด้วยซ้ำ...ไอ้ตำแหน่งท็อปประจำสาย มันก็ได้มาด้วยความฟลุ๊ก แถมสายศิลป์-ญี่ปุ่น(หรือไอ้สายยุ่นนั้นแหละครับ)ก็มีกันอยู่แค่สองห้อง ห้องละสามสิบกว่าคน
เหอะ...แค่คะแนนมากกว่าคนหกสิบกว่าคนแค่นั้น ทำไมถึงกล้าให้ผมไปสอนพิเศษคนอื่นว่ะ!
ไม่รู้ว่าอธิการแกเอาอะไรคิดแต่ที่รู้ๆคือผมค่อนข้างเครียดมากพอตัว หนึ่งคือปฏิเสธก็ไม่ได้...แหง่หละ ขนาดตัวอธิการเองยังไม่มาแจ้งเรื่องด้วยตัวเองเลย ส่งมาแค่ใบเอกสารให้เซนเซ(อาจารย์ประจำชั้นผม)มาบอกผมอีกที สองคือไอ้คนที่ให้สอนเสรือกกกกเป็นลูกชายอธิการอีก
โฮ....ฆ่ากูเลยเถอะครับ!
ติ้ด!
เสียงเตือนบีบีเอ็มดังขึ้นพร้อมแรงสั่นที่ต้นขา เล่นเอาผมสะดุงตัวโหยงหลุดออกจากความคิด(เครียดๆ)ชั่วขณะ ก่อนจะสาละวนควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเอง...เครื่องแม่งก็ใหญ่ กระเป๋าก็เสือกเล็กอีก...กูหละโครตเซ็ง
Nana : march > happyday 16:16
o ไอ้เม กลับบ้านไงว่ะวันนี้?
แสงสว่างจากหน้าจอสตอมทูในมือผมปรากฏขึ้นพร้อมๆกับข้อความ คำถามแสนสุภาพจากพี่สาวฝาแฝดที่ไม่มีความเหมือนกับผมสักกะพีค...เหอะๆ ถึงมันจะสวยหยาดเยิ้มปานฟ้ามาดิน แต่นิสัยแม่งอย่างแมนอะครับ!! ถ้าไถหัวให้เกรียนแล้วตัดหน้าอก(แบนๆ)ของยัยป้านี้ทิ้ง รับลองว่าย้ายมาเรียนโรงเรียนเดียวกับผมได้สบายๆ
April (Busy!) 16:16
o แท็กซี่มั่ง
o ทำไม?
Nana : march > happyday 16:16
o อ้าวววว ป๊าไม่ได้มารับหรอ?
April (Busy!) 16:17
o ไม่ ป๊ากับม๊าไปงานแต่งเพื่อนที่พัทยา
o เมื่อเช้าตอนป๊ามาส่ง ป๊าก็บอกอยู่บนรถ
Nana : march > happyday 16:17
o ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย!!
o แล้วกูจะกลับไงเนี้ยยยยยยยยย!?
อืม...กรุณาอย่าตกใจกับสัพนามแทนตัวที่โครตจะกันเองของมัน
April (Busy!) 16:18
o สงสัยเจ้นั่งหลับคาชามโจ๊กอยู่เบาะหลังมั้ง
ผมพิมพ์ตอบตามความจริงของนิสัยเจ้ตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับส่งสัญลักษณ์ olo มาให้เสียดื้อๆ...ถึงจะอยากถามกลับว่า 'เจ้มีหรอ' แต่ผมก็เลือกที่จะข้ามๆมันไปด้วยความเป็นน้องชายที่ดี(ทั้งๆที่มันเป็นพี่ผมแค่ไม่กี่นาทีแท้ๆ)
Nana : march > happyday 16:19
o ห่า!! มึงแม่งมั่ว
o เด๋วกูไปหาที่หน้าโรงเรียนแล้วรอกลับพร้อมกันนะ ไม่อยากขึ้นแท็กซี่คนเดียว กลัว!
ประโยคสุดท้ายที่คุณพี่มีนาพิมพ์มาเล่นเอาผมแทบจะสำรอก อยากจะถามเสียเหลือเกินว่าบนโลกใบยังมีคนที่น่ากลัวกว่าเจ้อีกหรอ!! แต่เพื่อไม่ให้ยัยป้านี้บ่นมากดังนั้นผมจึงเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดเพ้อๆของพี่ตัวเองอีกรอบ ก่อนตัดสินใจจะพิมพ์คำว่า 'อือ' กลับไปหามันเป็นอันว่าตกลง...
ผมยัดๆเจ้าสตอมทูใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมหลังหมดธุระ(ความจริงไอ้ปันก็บีบีมาถามว่าผมตายหรือยัง?...แต่มันช่างเป็นถามที่เชี่ยมากเกินกว่าผมอยากจะตอบ...สาดเอ้ย) เท่าที่คำนวนเวลาดูแล้วตอนนี้สี่โมงเกือบๆครึ่ง กว่ายัยป้าจะมาถึงก็คงราวๆห้าโมงนิดๆ...แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เจ้ผมหน่ะสิ
มันอยู่ที่ไอ้ณติ!! ไอ้ลูกชายของอธิการที่ผมเคยเจออยู่สองสามหนตลอดเทอมนี้(แถมเจอแบบเดินผ่านเฉยๆด้วย)
ไอ้ควายเอ้ยยย ลำบากกูให้มาสอนมาไม่พอยังลำบากให้กูต้องถ่อมาแนะนำตัวอีก(ตามคำแนะนำจากเซน เซ) ถ้าภายในห้านาทีนี้มึงยังไม่โผล่หัวมากูจะออกไปนั่งรอเจ้กูที่หน้าโรงเรียน แล้วนะเว้ยยยยยยยยย!!
ผมนั่งเหยียดแขนเหยียดขาเกาหัวแกรกๆด้วยความเซ็งปนเบื่อ เสียทั้งเวลาเสียทั้งสุขภาพจิตแถมยังเมื่อยอีกสาด นั่งนานๆก็เหนื่อยได้เหมือนกันนะครับ! เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เริ่มกวาดตามองบริเวณรอบๆเพื่อหาอะไรทำฆ่าเวลาบวกกับแก้เมื่อย จนกระทั้งไปสะดุดกับบ่อปลาเล็กๆที่อยู่ตรงข้างๆสวนน้ำพุขนาดย่อม
บิงโก!
ผมถลาเข้าไปชะโงกหน้ามองสภาพแวดล้อมในบ่อแทบจะในทันทีเมื่อ คิดได้...ถ้าจำไม่ผิดเมื่อตอนม.สามผมกับไอ้เทค ไอ้ปัน ไอ้พิชก็เคยมานั่งแกว่งตรีนเล่นอยู่แถวนี้ด้วยความซนก่อนจะถูกยามไล่ให้กลับ ตึก เพราะไอ้เชี่ยปันเสรือกเอาตรีนลงไปให้ปลาคาร์พในบ่อดูดเล่น เป็นสปาปลา
จะว่าไปปลาคาร์พแม่งก็เยอะจริงๆแฮะ มีอยู่ราวๆ...หนึ่ง...สอง...สาม...โห้...เป็นสิบอะครับ อ้วนๆทั้งนั้น นี่ถ้าเฮียเปาลูกพี่ลูกน้องผมมาเห็นคงจะกรี๊ดแตกแน่เพราะรายนั้นอะบ้าปลา คาร์พเป็นที่หนึ่ง ที่บ้านแทบจะเปิดฟาร์มเลี้ยงได้เลยทีเดียว
ผมปัดๆเศษหญ้าบนโขดหินเล็กๆข้างขอบบ่อก่อนจะย่อยตูดลงไป นั่ง เหล่มองคนรอบข้างเล็กน้อยว่าจะมีใครเห็นไหม...และเมื่อมองไม่เจอใครผมก็ ตัดสินใจถอดรองเท้าหนังกับถุงเท้าทิ้งโยนไว้ข้างๆบ่อ แล้วเอาตรีนน้อยๆจุมลงไป
จ๋อม...
เย็นตีนนนนน สบายโครตตตตตตตต น้ำเย็นสาดดดด
"...อืม มมมม..." ผมเผลอครางออกมานิดๆอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมีตัวลื่นๆของปลาอ้วนว่ายผ่านฝ่า เท้าไป แถมบางตัวยังเอาปากมาจุ๊บนิ้วเท้าผมเล่นด้วยความแปลกใจว่าไอ้ที่แช่ๆลงไปคือ อะไร...คิก...จั๊กกะจี้หว่ะ!!
"..."
"ฮ่าๆๆ ดูดตรีนกูเพรื่อออออออ ก๊ากกกกกก"
"..."
"อะ....ฮาๆๆ...จั๊กะจี้สาดด"
"..."
"...อะ..."
"..."
"..."
"..."
"..."
"รู้ไหมว่าปลาคาร์พตัวละเท่าไหร่?"
"อืมมมม" ใครถามกูหว่ะ...แต่แม่งโครตสบายอะเย็นๆนิ่มๆลื่นๆ "แล้วแต่พันธุ์ สี ขนาด และก็เพศอะ...เฮียเปาเคยบอกไว้"
"หรอ...แล้วรู้ไหมว่าในบ่อนี้อธิการซื้อมาตัวเท่าไหร่?"
ถามมากจังหว่ะ!? "อ้วนๆแบบนี้สีสวยๆแบบนี้คงจะหลายหมื่น...อะ...จั๊กะจี้หว่ะ ฮ่าๆ" ชักจะเคลิ้มๆแล้วแฮะ
"รู้ดีจังเนอะ" แหง่หละ ก็กูมันเก่งขอบคุณที่ชม "สบายมากปะ?"
"อืมมมโครตๆ" ผมตอบปัดๆแบบขอไปที ก่อนรับรู้ถึงสัมผัสอุ่นๆบนบ่า...อะไรอีกหว่ะ?...จะจับบ่ากูเพรื่อออ
แหน่ะ...แถมยังกดอีกตั้งหาก...สาด...หนัก!!
ผมหันหน้าเตรียมจะด่าไอ้ขี้เสือกที่มารบกวนเวลาแห่งความสุข แต่กลับต้องชะงักคอนิ่งกลางคันเสียชิบเมื่อไอ้คนที่นั่งกดบ่าผมอยู่เสรือกก กชะโงกหน้ามามองหน้าผมเหมือนกัน ทำให้ตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มๆของมันจ้องกันตรงๆกับตาของผมในระยะประชิดไม่ ถึงสองเซนติเมตร
"สวัสดี...เมษาหรือป่าว?" ริมฝีปากแดงๆที่แทบจะชนกับปากผมขยับถามจนกลิ่นมิ้นท์ลอยมาประทะจมูก ส่วนผมเองก็ได้แต่นั้งตาค้างทำปากพะงาบๆๆด้วยความตกใจ
เพราะผู้ชายตรงหน้า นี้มัน........!!
to be continue.
ความคิดเห็น