คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter two 'start'
Chapter Two ‘Start’
หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นมาอย่างละเหี่ยใจแล้วฉันก็รีบกลับบ้านโดยไม่ได้ทักทายคนในบ้านเหมือนปกติทำให้บรรดาเหล่าพี่ชายต่างพากันตกใจประมาณว่าน้องสาวสุดที่รักเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ปาน=__= ขนาดพี่คนโตมาซาโอมิที่เป็นแพทย์ถึงขนาดบินถ่อมาจากฮอกไกโดเพื่อดูอาการของฉันทันที แม้ว่าฉันจะบอกว่าฉันสบายดีทุกประการพวกเขาก็ไม่เชื่อ เชอะ ทำให้ฉันต้องมานั่งนอนหาวในห้องนอนโดยไม่ได้ขยับตัวตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วเนี่ย!!
“ฮิคาริจัง~ สบายดีขึ้นไหม~”น้ำเสียงร่าเริงชวนถีบของพี่ชายผมสีขาวนาม สึบากิ เดินมาพร้อมยกมือทักทายอย่างอารมณ์ดีโคตร ที่น้องสาวจอมพยศดันมานอนปวกเปียกเพราะโดนเข้าใจผิดว่าไม่สบาย อาย อาย~
“ถ้าหนูไม่สบายคงจะมานั่งเขียนเนื้อหาการเรียนการสอนหรอกนะ”ฉันตอบไปอย่างเยือกเย็นพลางใช้สายตาอำมหิตจ้องไปยังดวงตาขี้เล่นที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ ณ ขณะนี้
“โธ่ ฮิคาริจังคนเราต้องมีป่วย นอน หายดีเป็นของธรรมดานะ”
“ฉันคนแรกที่จะทำให้พี่รู้จัก เกิด แก่ เจ็บ ตายคนแรกเลย- -“โฮกก อยากฆ่าพี่ชายคนนี้ด้วยมือตอนนี้เลยให้ตายสิ
“โหดเหี้ยมใจร้ายที่สุดเลยเนโกะจัง”และแล้วใบหน้าบู้ดบึ้งก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เจ็บปวดจากการมีวัตถุมากระแทกหัวอย่างรุนแรง(?)
“นายเลิกแกล้งฮิคาริซักทีจะได้ไหม”
“อาสึซะ!!บอกแล้วไงเลิกทำร้ายฉันซักที!!”เหอะ สมอยากแกล้งฉันก่อนแบร่ๆ
“นายอายุมากกว่าฮิคาริตั้งสองปีหัดเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะ”แฝดพี่อาซึสะดันกรอบแว่นเข้าใบหน้าเหมือนปลงกับแฝดตัวเองที่ดันเกิดมานิสัยต่างกันลิบลับ
“ฉันแค่มาให้กำลังใจต่างหากเนอะ ฮิคาริ”
“เอ..เหมือนเขาจะมากวนเวลาฉันนอนมากกว่าน่ะคะพี่อาซึสะ” ฉันตีหน้าซื่อแล้วโยนความผิดให้กับพี่ชายสุดที่รัก(ลักไปฆ่าหมกส้วม)พร้อมแกล้งทำเป็นนอนป่วยอย่างน่าสงสารจับใจ
“นายกวนฮิคาริมามากพอแล้วไปทำหน้าที่พากย์การตูนที่นายยังพากย์ไม่เสร็จเถอะน่า- -“
“โฮ่ย ก็ได้ๆ “ แหมทีแบบนี้ละยอมง่ายนะยะ ทีฉันไล่เหมือนกับกาวติดหนึบ= =
หลังจากแฝดพี่ทั้งสองคนออกไปแล้วฉันก็เริ่มเขียนแผนการสอนของพรุ่งนี้ต่อ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีแพลนว่าจะเอาเรื่องอะไรไปสอนเด็กๆดี เพราะปัญหาที่พี่เลี้ยงฉัน หรือครูดีโน่บอกมาก็คือเด็กห้องหลังๆจะไม่ค่อยเก่งเรื่องคำศัพท์ซักเท่าไหร่ดังนั้นการหาเรื่องจำพวกนวนิยายอย่างทไวไลท์หรือแฮรี่พอตเตอร์(แค่ยกตัวอย่างน่ะ ฉันคงไม่เอามาสอนหรอกเด็กก็ไม่ได้เรียนกันพอดี) ก็คงจะไม่อ่านกันเพราะศัพท์ยากเกินไป เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่จะเรียนพร้อมกับพัฒนาศักยภาพของตัวเด็กเองฉันต้องทำให้ได้!
“ฮิคาริจัง ลงไปทานข้าวไหวไหม?”
“ไหวอยู่แล้วล่ะคะ พี่คานาเมะ”จะว่าไปฉันแทบจะไม่ได้พักเพราะพวกพี่ชายนี่แหละเปิดประตูห้องฉันบ่อยเกินจนแทบเป็นเซเว่น24ชม.ไปซะแล้ว
“งั้นลงมากินด้วยล่ะ อุเคียวคุง~ทำหม้อสุกี้สเปเชี่ยลในโอกาสที่อยู่กันครบเลยนะ”เอ ...นั่นสิวันนี้เป็นวันที่พวกเราอยู่ครบนี่นา แหม.. ก็น้องสาวอย่างฉันป่วย..ไม่สิ ทุกคนเข้าใจว่าฉันป่วยเลยลางานกันมาเพื่อดูอาการฉันที่สบายดีอย่างแรง มันก็เป็นผลดีคือสมาชิกอาซาฮินะอยู่ครบถ้วน ผลเสียฉันต้องมานอนเป็นคนป่วยเกือบทั้งวัน
“ว้าว สุกี้ยากี้~!!”กรี๊ดดดดด น่ากินจังเลยแฮะ พี่อุเคียวเนี่ยเหมือนแม่คนที่สองจริงๆเลยแฮะ ทำอาหารหารก็ออกมาเลิศเลอเพอร์เฟค อย่างฉันทำได้แค่ข้าวห่อไข่บ้านๆเท่านั้นแหละน่า- -‘
“ทานเยอะๆนะน้องสาวจะได้มีแรงไปสอนพรุ่งนี้”
“ค่า พี่อุเคียวJ”
“ระวังเรื่องสุขภาพนะฮิคาริพี่ตกใจมากนึกว่าป่วยหนักแต่ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นอะไร”
“พี่มาซาโอมิไปได้ยินใครพูดว่าฉันป่วยหนักหรอคะ?=___=” นั่นสิ ใครกันพูดว่าฉันป่วยหนักแม่จะทุ่มทิ้ง
“คะ คือว่า ผมเองฮะ.___. ก็ผมเห็นพี่สาวนอนอยู่ในห้องนอนเลยคิดว่าไม่สบาย” ฉึก!!! พี่สาวขอโทษนะน้องชายที่รักกกกTT
“ไม่เป็นหรอกจ้ะวาตารุ พี่สบายดีมากแล้วล่ะ” คือว่าเมื่อกี้ขอถอนคำพูดแล้วกันนะ;A;
“ฮับ...” โธ่ ทำไมฉันเลวอย่างนี้เนี่ยยยยย กล้าทุ่มน้องชายที่น่ารักได้ยังกันtt
“เอาเถอะๆสบายดีแล้วก็กินข้าวกันเถอะน่า”
“นายไม่คิดจะห่วงฉันเลยหรอไงฟูโตะ?-*-“
“ทำไมต้องห่วงมีอะไรให้ห่วงหรอ? ก็สบายดีนี่?”กรี๊ดดด ไอ้เด็กบ้า เด็กเลว เด็กเวรตะไล
“ฟูโตะ!! นายหัดเคารพพี่สาวนายมั่งนะ”
“ผมไม่คิดเคารพพี่สาวแล้วก็นายหรอกนะยูสุเกะ”
“อ้ากกก ฉันห่างกับนายตั้งกี่ปีบังอาจ!!!!!!”
ปัง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“........../................”
“ถ้ายังไม่มีใครกินอีกฉันจะเอาสุกี้ไปทิ้ง!!!”ค่า.....พี่อุเคียวU_Uดุอีกแล้ว
จากนั้นพวกเราก็ไม่คุยกันอีกเลยเพราะพี่อุเคียวสั่งให้รีบกินข้าวแล้วรีบไปนอนซักที = = เวลาดุก็น่ากลัวหยั่งกับฟ้าผ่าแต่ใจดีก็เหมือนพ่อพระมาจุติ บ้านฉันนี่ชักจะแปลกประหลาดเข้าไปทุกทีแล้วนะ อย่าว่าแต่พี่น้องฉันเลยฉันเองก็แอบซึมซับมาพอตัวเหมือนกัน เศร้าT^T
แอด.....
“จี้จัง.....วันนี้....มีเรื่องอยากระบายหรอ?”
“เห พี่หลุยส์ไหนว่าไม่ว่างไงคะ?” ฉันตอบไปพลางทำหน้าประหลาดใจ ใช่เมื่อกี้ฉันขอให้พี่หลุยส์ช่วยอยู่ฟังคำระบายของฉันแต่เค้ากลับบอกว่าไม่ว่างฉันเลยมานั่งเขียนรายงานการสอนต่อ
“ก็...จี้จังไม่สบายใจ...ฉันเลยไม่สบายใจไปด้วย”กรี๊ดดด น่ารักโฮกกกก พี่ชายใครเนี่ยหุหุ-.,-
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ชายที่แสนดีของฮิคาริ~”ฉันกระโดดกอดอย่างลืมตัวฮ้า~ พี่หลุยส์ไม่ว่าเรื่องไหนต้องเห็นฉันเป็นที่หนึ่งไปหมดเลยคิคิ(ยกเว้นไอ้ที่เหลือเวลาที่ฉันลำบากดันไม่ว่างกัน ชิ)
“เล่ามาสิ....เรื่องวันนี้....”ร่างโปร่งลากเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งตรงข้ามกับฉันที่นั่งปลายเตียง ฉันจึงเริ่มพูดประเด็นสนทนาทันที
“พี่หลุยส์รู้ใช่ไหมคะว่าสิบปีก่อนฮิคาริเคยมีคนที่ชอบมากๆ”
“อืม...ใช่....คุณครูคนนั้น...”ฉลาดจริงเลยพี่ชายฉัน
“แล้ววันนี้ฮิคาริไปสมัครงานน่ะคะ เขาเป็นพี่เลี้ยงของฮิคาริอ่า!!!TT”โฮ ซวยดับเบิ้ลมากเลยค่า
“.........ทำไม?.....แล้วหมอนั่น.?”
“เขาบอกฮิคาริน่ะคะว่าจะไม่ปล่อยฮิคาริไปอีก”ฮ่วย ปล่อยดิฉันไปเถอะถือว่าแผ่เมตตา- -
“.......”
“แล้วพรุ่งนี้เขาจะเริ่มรุกจีบฮิคาริแน่ๆเลยพี่หลุยส์T^T”ฉันต้องเมคอัพให้ดูน่ากลัวใช่ไหมเขาถึงจะไม่ตามมาแง้ๆ
“......เรื่องที่ผ่านมามันเป็นอดีตอย่าไปสนใจเลย...”
“แต่ว่า..!!”
“...ทำตัวตามปกตินั่นแหละ...ถ้าเราหมดใจเขาจะยอมแพ้ไปเอง..นะ..จี้จัง”
“ฮิคาริกลัว...กลัวว่าเขาจะไม่ยอมน่ะสิคะ”ฉันควรทำยังไงต่อปายยยยย~
“มานี่มา...จี้จัง”แขนแกร่งอ้าออกให้ฉันเข้าไปซบพักพิงราวกับรู้ว่าฉันต้องการที่พึ่งขนาดไหน พรุ่งนี้จะต้องรับมือกับอะไรบ้างฉันก็ยังไม่รู้เลย...แต่ไม่อยากคิดอีกแล้ว
“.....”
“คนเรา....ถ้าจะเจอสุข..มันต้องมีทุกข์ตามมาเป็นของคู่กัน....ไม่ต้องกังวลเรื่องในวันนี้หรอกนะ ...จี้จัง..”
“ค่ะ..”
“วันนี้ฉันจะนอนเป็นเพื่อนก็แล้วกันนะ”ตาสีม่วงอ่อนนั้นมองลงมายังฉันด้วยความอ่อนโยน พี่หลุยส์อ่อนโยนแบบนี้เสมอไม่ว่าฉันจะดื้อด้านกับคนในครอบครัวแค่ไหนก็ตาม ฉันถึงได้ติดพี่ชายคนนี้อย่างแน่นหนาและอีกนานกว่าพี่หลุยส์จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนหากยังมีฉันอยู่=__=;(ฟังดูฉันแย่จัง)
“ค่า~ ฉันรักพี่ชายนะคะ”
“อืม..ฉันเองก็รักน้องสาวที่น่ารักแบบจี้จังเหมือนกันนะ...”
เอาวะ...เตรียมตัวรับศึกหนักที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ได้เลย อาซาฮินะ ฮิคาริ !!! สู้ตาย!!!
อยากหลับตาอยู่อย่างน้าน~ทำอยู่อย่างน้านนนนน~T___Tโอย ฉันอยากหลับไปชั่วชีวิตเหมือนในเพลงจังเลยฮืออ ขาเจ้ากรรมทำไมเดินเร็วเช่นนี้ย้า!!!TOTจากที่ว่าจะเข้ามาตรวจแสกนลายนิ้วสาย มาซะคนแรกของโรงเรียน อ้ะๆไม่นับเพราะมีภารโรงมาคนแรกเซ่-*- อย่างงค่ะเพราะตอนนี้ฉันได้มาอยู่หน้าประตูโรงเรียนแล้วค่า~ เงียบเหงาและวังเวงเพราะเดี๊ยนดันตื่นมาแต่เช้าเองค่ะ-_-;โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองจ้า~
“เอ่อ..ไม่ทราบว่ามาทำอะไรตั้งแต่เช้าตรู่หรอครับ?”ยามหน้าประตูโรงเรียนเดินมาถามฉันที่ยังยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเสมือนเทพีของโรงเรียนนั้น
“คือว่า..ฉันตื่นเช้าไปหน่อยน่ะคะเลยว่าจะเข้ามาแสกนลายนิ้ว= =;”ฉันยิ้มแห้งๆส่งไปให้ แหงซะมีใครเค้าบ้ามาโรงเรียนตอนหกโมงเช้าบ้างละ?
“อ่อ..เป็นคุณครูหรอครับ-__-;ผมนึกว่าเป็นนักเรียนของโรงเรียนเราซะอีก”กรี๊ด-.,- หน้าฉันเด็กขนาดนั้นเลยหรา~
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันหลังฉันจะมาไม่เช้ามากแล้วกันค่ะพอดีเพิ่งมาทำงานวันแรกJ”
“ครับงั้นเชิญเข้าไปได้เลยครับ”
จะว่าไปโรงเรียนนี้ก็ไฮโซใช่ย่อยนะ ตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงเรียนก็เห็นร้านกาแฟสตาร์บั๊คโชว์อย่างสง่างามเลยไม่เท่านั้นตึกเรียนของที่นี่ดูเหมือนจะแบ่งเป็นโซนเด็กประถมกับมัธยมด้วยแต่เค้าว่ากว่าจะเดินไปหาแต่ละตึกต้องใช้รถกอล์ฟขับไปแหน่ะ(บ๊ะ หมั่นไส้พวกคนรวย)แถมโรงอาหารก็แบ่งเป็นร้านอาหารดูดีมียี่ห้อลับแลคล้ายห้างสรรพสินค้ามาตั้งตระหง่านยังไม่พอแค่นั้นหลังกินข้าวเสร็จก็มาจิบชากาแฟในสวนดอกไม้ที่จัดเป็นสไตล์ยุโรปพลางมีเพลงของบีโธเฟ่นบรรเลงคลอเพิ่มอถรรรสให้กับชีวิตอีกต่างหาก โฮกกก ไอ้พวกคนรวยเอ๊ย มีเงินเยอะล้นฟ้าล่ะสิท่าถึงได้สร้างโรงเรียนไฮโซเปรียบดุจดั่งได้อยู่บนสวรรค์วิมานอะไรทำนองนั้น ชิ
ฉันสาวเท้าเดินไปยังตึกมัธยมที่อยู่ลึกเข้าไปจากตึกของประถมซึ่งแน่นอนว่าเลานั้นไม่มีรถกอล์ฟใช้เทคโนโลยีขามนุษย์เพียงอย่างเดียวดังนั้นการที่ฉันไปถึงตึกของมัธยมได้ก็กินเวลาไปเกือบ40นาทีอย่างต่ำและทำให้ขาอันเรียวงามของฉันพลางจะกล้ามขึ้นถ้าต้องเดินทุกวัน-_______- โชคดีที่ลิฟต์มันเปิดให้ใช้บริการตอนหกโมงครึ่งไม่งั้นฉันคงได้เป็นลมก่อนขึ้นไปชั้น4แหงๆ
‘ห้องอาจาร์ยฝ่ายภาษา’
=___=ความรู้สึกช่างแตกต่างกันกับตอนนี้เสียจริง ครั้งแรกฉันตื่นเต้นโคตรกับการได้เริ่มทำงาน ..แต่ตอนนี้แทบอยากจะยื่นใบลาออกดื้อๆ เอาเถอะน่า ยังไงรับงานมาทั้งทีฉันคงจะปฎิเสธไม่ได้หรอกU_Uค่าจ้างก็ใช่ย่อยนะ เฮ้อออ
แอดดด......
โอ้...=__=เงียบกริบนี่ฉันมาถึงคนแรกเลยหรอเนี่ย แหม.....ยังไงก็ไปที่โต๊ะทำงานดีกว่า ของที่เอามาก็ไม่ได้เยอะอะไรมากนักแค่หนังสือที่ประกอบการสอนกับของให้กำลังใจ อย่างแรกรูปพี่พวกพี่ชายทำให้หายคิดถึงครอบครัว(มั้ง) สองตุ๊กตาแกะเพราะฉันจับฉลากได้มาให้เป็นมาสคอตประจำโต๊ะทำงานไปแล้วกัน สามที่ขาดไม่ได้เลยซีดีเพลงของโมสาร์ทไว้ฟังตอนคาบว่างๆ
“เอาล่ะ จัดเสร็จแล้วสิน้า”ฉันพูดกับตัวเองพลางมองยังโต๊ะอีกฝั่งทั้งๆที่ไม่อยากจะมองเท่าไหร่ให้เสียสายตาแต่อยู่ๆทำไมฉันถึงมองไปได้นะ
ฉันน่ะ...คิดถึงดวงตาของเธอมากนะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดTOTแล้วฉันจะไปนึกประโยคชวนสะพรึงหลอกหลอนทำไมล่ะเนี่ยยยยยย เกือบลืมไปเลยว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องรับมืออยู่นี่นา โฮฮฮฮฮฮฮ ภาวนาขอให้หมอนั่นไม่มาทีเถ้ออออออสาธุการชน
แอด.......
“อ้าวมาแต่เช้าเลยนะ^^” กรี๊ดดด พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาTOT
“เอ่อค่ะ- -;”
“ไง..วันแรกท่าจะตื่นเต้นเลยนา ฮิคาริจัง~”
“คะ .ค่ะ...”ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆซักคำให้ลึกซึ้ง..(ซึ้งเต็มอกเลยโว้ยยยยย)
“หืม?...หน้าซีดๆนะเป็นอะไรมากไหม”
“มะไม่ค่ะ!!รุ่นพี่ดีโน่ ฉันสบายดีทุกประการค่ะ วันแรกฉันคงจะตื่นเต้นมากกว่า”
“อืม~ แต่ว่าหน้าแบบนั้นน่ะ”
หมับ... =[]=!!!กรี๊ดดดด อย่าจับหน้าหนูวววววววTOT(ประดั่งเหมือนจะโดนข่มขืน)
“ปล่อยหน้าฉันเดี๋ยวนี้นะคะรุ่นพี่-*-“แม้ว่ามือหยาบนั้นจะประคองใบหน้าของฉันให้สบตากับอีกฝ่ายโดนตรงฉันก็พยายามพูดให้เขาปล่อยไป ถึงรู้แก่ใจว่าโอกาศน้อยก็เถอะโฮฮฮฮฮ
“ไม่ปล่อยหรอก^^~ หน้าแบบนี้น่ารักจะตายไปว่าไหม?”
ตึก ตัก ตึก ตัก หยุด หยุดเลยไอ้หัวใจบ้าทำงานผิดปกติหรอไง=/////=!!! ฉันไม่เข้าใจเลยว่าแค่มองตาที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยแต่มันทำให้ใจมันเต้นเหมือนจะเป็นภูเขาไฟระเบิด
“ปะ ปล่อยนะคะ!!!! ถ้ายังจับแบบนี้ฉันจะ....”
ผลัก!!!
“อั่ก...!”
โครม!!
‘ ‘ <<<<หน้าของฉัน
>#<; <<< หน้าของคนที่ล้มลงไป
“เป็นอะไรมากไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามรุ่นพี่สุดหล่อ(อ้วก)ด้วยความห่วงใยประดุจดั่งนางฟ้าหรือนางไม้
“เธอ....”
“เอ๋? รุ่นพี่ไม่รู้หรอคะว่าฉันเรียนเทควันโดจบสายดำมาน่ะคะ^^~”โฮะๆ จำไว้บ้างก็ดีนะยะ-^-
“=[]=!!!!!!!!!!!”
“แหม ฉันกะจะเก็บไว้เป็นความลับน่ะคะ เดี๋ยวเสียภาพพจน์ รุ่นพี่ดีโน่เป็นคนแรกที่ฉันใช้ท่าจับพลิกคว่ำเลยนะคะภูมิใจจัง...”
“พอแล้วๆ-__-; ฉันไม่ทำอะไรแล้วก็ได้โหดชะมัด”ร่างสูงกว่าฉันลุกขึ้นมาสะบัดตัวพลางเอามือมาขยับกรอบแว่นให้เข้าที่เข้าทางกับโครงหน้าเรียวที่ได้รูปของเจ้าตัวก่อนเขยิบห่างจากฉันไปประมาณ50เซนติเมตรได้
“ค่ะ... อีกอย่างฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะไว้เจอกันในคาบแรกค่ะรุ่นพี่~”ฉันยิ้มราวกับมิสยูนิเวอส์ปีล่าสุดก่อนจะเดินไปเตรียมสอนคาบแรกทันที
หึหึ..ก็บอกแล้วไงว่าศึกครั้งนี้ แม่ทัพอย่างฉันชนะขาด....
“เพราะแบบนี้ต่อไป คุณครูอาซาฮินะ ฮิคาริจะมาเป็นอาจาร์ยสอนภาษาอังกฤษนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ฮือฮา.....
“คุณครูดีโน่คะ!!เรามีคุณครูอยู่แล้วทั้งคนทำไมต้องเพิ่มมาอีกคนด้วยละคะ!!” แหม...ยัยนักเรียนพวกนี้หนิ รวย สวยเสียเปล่า สมองนิ่มกันจัง..-___-
“นั่นสิคะ แบบนี้จะไม่กระทบกับเวลาเรียนของพวกเราหรือคะ?”หนอยยัยนักเรียนพวกนี้ เดี๋ยวแม่ตบ
“ใจเย็นๆก่อนนะทุกคนพวกเธอไม่ได้อ่านประกาศที่ว่าจะต้องเพิ่มคาบเรียนวิชาอังกฤษอีกตัวเลยสินะ_ _ไม่งั้นอาจาร์ยฮิคาริก็คงไม่ต้องมาสอนหรอก”รุ่นพี่ดีโน่พยายามเกลี้ยกล่อมทุกคนด้วยการปล่อยออร่าความหล่อวิ้งๆบลิ้งคๆ(พอเหอะ)แทงหัวใจเหล่านักเรียนหญิงในห้องกันถ้วนหน้า
❤__❤ <<< สายตาของเหล่านักเรียนหญิง ประมาณว่าครูขาทำไมหล่อลากเยี่ยงนี้คะ(ฉันไม่ละคนนึง)
-*- <<< สายตาของเหล่านักเรียนชาย คงคิดว่าผู้ชายเหมือนกันมันต่างกันตรงไหนฟะ(ทำใจเหอะหน้าตาไม่ได้หล่อเยี่ยงเค้านะลูกนะ)
“เอาเป็นว่าให้อาจาร์ยฮิคาริมาแนะนำตัวเองดีกว่านะ”และแล้วฉันก็เดินขึ้นไปยังหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีมั่นใจในความสวย(ใช่ ใครห้ามเถียง)ของตัวเองพร้อมกับแนะนำตัวเองทันที
“สวัสดีค่ะ ฉันอาซาฮินะ ฮิคาริจะมาเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ฝากเนื้อฝากด้วยด้วยนะคะ”แล้วก็โค้งด้วยแล้วด้วยสง่างามตามที่คุณครูควรจะเป็น
พรึ่บ!!
“อาจาร์ยคร้าบบบบบ”
“คะ? มีอะไรจะถามหรอจ้ะ?”
“คือว่าอาจาร์ยมีแฟนยังคร้าบบบบบ” แหม่-*- เด็กพวกนี้มันแก่แดดจังเว้ยเฮ้ย
“อาจาร์ยเป็นแฟนกับคานทองจ้ะ”
เงียบกริบกันทั้งห้อง.... ฉันพูดผิดตรงไหนหรอ?
“อาจาร์ยคะแล้วทำไมอาจาร์ยต้องมาสอนเพิ่มด้วยละคะ คุณครูดีโน่เค้าก็สอนอยู่แล้ว”
“ก็ไปถามอาจาร์ยใหญ่สิจ้ะนักเรียน” ฉันก็ไม่ได้อยากมาสอนมากนักหรอกชิ
“ฉันว่าคุณครูคนใหม่ต้องมาจับคุณครูดีโน่แน่ๆเลย”นักเรียนหญิงคนแรก
“ใช่ๆ คิดว่าตัวเองสวยแล้วครูเค้าจะหลงรักหรอไงเพ้อฝันชะมัด”นักเรียนหญิงคนที่สอง
“เนอะ พวกผู้ชายก็กิ้วก๊าวกันไปเถอะ หน้าสวยแบบนั้นนะแต่ในใจคงจะ...”
ฟิ้ววววววว ปั่กกกก!!!!
“=[]=/=[]=/=[]=!!!!” หน้าของนักเรียนทั้งสามคนที่นินทาฉันอยู่
“แหม ครูลืมบอกไปน่ะจ้ะว่าครูจบเทควันโดสายดำมา”
=[]=!!!!! <<< หน้าของเด็กในห้องทั้งหมด
-___-; <<<หน้าของคนที่เพิ่งโดนฉันทุ่มไปเมื่อเช้า
“ยังไงก็ เปิดไปหน้าที่สองนะจ๊ะ เราจะมาเริ่มบทเรียนแรกกันเลยกว่า...”ฉันคงทำคะแนนได้ติดลบชัวร์ป้าบ=__=;โทษฐานทำให้นักเรียนขวัญผวายามเจอกันครั้งแรก
ฉันเปิดหนังสืออ่านไปตามที่ได้จดเนื้อหาการสอนมาเล็กๆน้อยๆพลางอธิบายความรู้ที่ไม่มีในหนังสือให้เด็กๆฟังแม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะเกร็งแต่ว่าพอเจอฉันที่จริงจังกับการสอนพลางสอดแทรกความรู้ตลกผ่อนคลายสมองก็ทำให้พวกเขาเรียนรู้ไปอย่างว่องไว อืม. ..แต่อุปสรรคในการสอนน่ะหรอ..
ก็อีตาพี่เลี้ยงคุณครูหน้าใหม่นั่นน่ะเสะ!!! จ้องฉันอยู่ได้ในมือแทบไม่เห็นจะจดประเมินฉันอะไรเล้ยยย=__=แถมยังขยิบตาผ่านกรอบเลนส์แว่นมาให้ฉันแทบไม่เป็นอันสอนอีกต่างหาก! โอยยยถ้าได้จังหวะฉันก็จะแยกเขี้ยวขู่ใส่แต่นั่นไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหวั่นเกรงเลยมีแต่ยิ้มแล้วหัวเราะไปทุกครั้ง....
“เอาล่ะ การบ้านวันนี้ลองเตรียมตัวพูดเกี่ยวกับวรรณกรรมที่ชอบมาหนึ่งเรื่องนะครูจะเริ่มให้คะแนนพรุ่งนี้เป็นต้นไป”
“แสตนอัพ พรีส!!”ฉันเกือบลืมไปเลยว่านักเรียนต้องทำความเคารพเป็นภาษาอังกฤษนี่หว่า-__-;
“วันนี้สอนได้ดีนะ แม้ว่าความประทับใจครั้งแรกจะติดลบจนไม่น่าเชื่อก็ตาม”
“ไม่ต้องตอกให้ช้ำใจหรอกค่ะรุ่นพี่ ฉันรู้ตัวว่าสอนเก่ง”แน่ละฉันน่ะเก่งที่สุดในบรรดาพวกหัวกะทินะ=3=
“ไอคิวสูงแต่อีคิวท่าจะต่ำน่ะนะ..”
“ว่าไงนะคะรุ่นพี่!!!”กรี๊ดดดด หาว่าฉันจิตไม่ปกติหรอไงอีตาบ้า เอ๊ย!!
“ฉันไม่ได้พูดชื่อเธอออกมานี่นาร้อนตัวหรอรุ่นน้อง?^^”
“ฮึ่ย....”ฉันสะบัดหน้าไปอีกข้างพลางหัวเสียกับคำพูดของรุ่นพี่ที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต
“ว่าแต่นะ... เธอได้บัตรเข้าทำงานรึยัง?”
“ยังค่ะ.. ก็รุ่นพี่บอกว่าจะเอามาให้”ฉันตอบแบบขอไปทีก่อนจะรีบสาวเท้าเดินให้เร็วที่สุดเพื่อไปจากตรงนั้น ฉันไม่ควรจะเจอเขาบ่อยนัก ถ้าเลี่ยงก็คงเลี่ยงไปให้เร็วๆจะดีเสียกว่ามานั่งมองดวงตาคนนั้นแล้วมันเจ็บปวดที่หัวใจโดยไม่มีสาเหตุมากกว่า....
“เดี๋ยวสิ ฮิคาริ”
“....” เดินไปโดยแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ยัยเด็กดื้อเอ้ย”
ฉันยังไม่ทันได้อ้าปากเตรียมตัวด่าอีกฝ่ายที่คว้าข้อมือฉันไว้แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นก็กลายเป็นว่าฉันไปซบอกอกคนโดยไม่ได้ตั้งใจแน่นอนว่าฉันขยับตัวไม่ได้เพราะคนตัวสูงกอดฉันซะแน่น แต่ทำไมนะทำไม หัวใจมันเต้นเร็วขึ้นเหมือนจะออกมาจากอกให้ได้
“เธอน่ะ ยิ่งโตยิ่งดื้อด้านไม่มีผิดเลยจริงๆให้ตายสิ”
“ฉันผิดมากหรอคะที่โตมาแล้วไม่ได้ดั่งใจ-*-“ฉันเงยหน้าขึ้นไปเถียงตอบกลับ เรื่องอะไรจะให้โดนด่าฝ่ายเดียวเล่า!!!
“เปล่าฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซักหน่อย- -;”
“งั้นปล่อยเถอะค่ะ ต่อให้เข้าหาฉันกี่ครั้งฉันก็จะขอตอบเหมือนเดิมว่าเราจบกันแล้ว”ฉันดันตัวอีกคนออกแล้วหันหลังเดินกลับ
“ก็ได้..ถ้าต้องการแบบนั้น...”
“...”
“บัตรทำงานของเธอฉันก็จะไม่ให้ดังนั้นเธอก็จะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ซึ่งเท่ากับว่าเธอเตรียมลาออกได้เลย”
“ห้ะ=[]=!!!ว่าไงนะคะรุ่นพี่”กรี๊ดดดด ฟ้าผ่าเปรี้ยงฉากซีนดราม่าหายหมดกัน!
“ก็เธอต้องการจะเลิก ฉันก็จะพยายามเลิกด้วยวิธีของฉันโดยการให้เธอออกไปจากโรงเรียนนี้ง่ายกว่าไหมล่ะ”ไอ้ ไอ้.. ไอ้เลววววววววววววววววววววววววววววว(เอคโค่ล้านรอบ)
“งี่เง่าคะ!!!!-*- ฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างรุ่นพี่หรอกคะ คนอื่นทำให้ฉันได้ถมเถไป!!”อย่าคิดว่าจะมาเล่นให้ฉันจนมุมฉันเองก็มีวิธีการเหมือนกันแหละน่า
“หืม? บัตรน่ะหรอ? ถ้าจะบอกว่ามันอยู่นี่ละ?”รุ่นพี่ดีโน่พูดจบทันใดนั้นสายตาอันหลักแหลมของฉันก็มองไปยังมือขวาของอีกคนทันที
“นะนั่น!!!”กรี๊ดดดดดด บัตรทำงานของช้านนนนนนนนTOT เลวที่สุด!!!
“หืม? ไหนว่าใครนะจะพึ่งคนอื่นแทนฉัน?”กรอด...รอยยิ้มที่ฉันเคยหลงใหลเมื่อสิบปีก่อนตอนนี้แทบอยากจะไปสตั๊นหน้าให้ฟันร่วงซักตั้ง!
“เอามานะคะ!!! ฉันต้องการจะมีชีวิตอยู่เงียบๆไม่ต้องการความรักจากรุ่นพี่หรอกคะ!”ฉันตะคอกกลับไปด้วยความโมโหพลางจ้องตาเขม็งให้ตายสิท่าทางศึกนี้จะหนักซะแล้ว
“เฮ้อ งั้นฉันทำแบบนี้แล้วกัน”ว่าจบมือหยาบที่ถือบัตรก็ยื่นไปตรงหน้าต่างของระเบียงชั้น4ทันที
“=_=; หยะ หยุดนะคะรุ่นพี่”
“เมื่อกี้เธอบอกว่าจะพึ่งคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันนี่นา บางทีก็ทิ้งไปก็ได้”
“เอามาเถอะคะรุ่นพี่ ฉันต้องทำงานนะคะ!”
“หอมแก้มฉันก่อนสิ”
“ห้ะ?” ฮื๊อออ ฉันหูฝาดไปใช้ม้อยยย
“หอมแก้มฉันแล้วฉันจะให้บัตรนี่”ไม่พอแถมยังชี้ไปที่แก้มตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มร่าอีก= =
“ไม่ค่ะ ไม่เด็ดขาด!!”แน่นอนว่าฉันปฎิเสธเสียงแข็งถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าอาจจะไม่ได้บัตรมาอย่างง่ายๆ
“เฮ้อ ...ทำไมพูดยากแบบนี้นะ”อีกฝ่ายเกาหัวแกรกๆก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้ว...
จุ๊บ.....
o____o
O__o
O_______O!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ระ..ระ ..รุ่น....”
“แก้มนิ่มดีนี่นา~ เอาเถอะถึงจะผิดแผนไปหน่อย”
“นี่วางแผนไว้ตั้งแต่แรกหรอคะ!!!”กรี๊ดดดดด เสียรู้ซะแล้วไงฉันTOT
“หืม? ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะยอมฉันหรอไงฮิคาริJ? ฉันเองก็รู้นิสัยของเธอดีนะ”ดวงตาสีเฮเซลนัทมองมาทางฉันอย่างผู้มีชัยในศึกยกแรก
“ฮึ่ย....เอาบัตรฉันมาได้แล้วค่ะ!!!”ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหน้ามันร้อนผ่าวๆไม่เข้าใจว่าทำไมแค่ริมฝีปากอีกคนที่ประทับมายังที่แก้มของฉันมันจะทำให้หัวใจพองโตได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ฉันมั่นใจแล้วแท้ๆว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
“อ่ะๆ เอาไปสิ~ไหนๆฉันก็ชนะเห็นใสๆ”รอยยิ้มยียวนปรากฏขึ้นมาตรงหน้าทำให้ฉันคว้ามาแล้วรีบวิ่งหนีไปทันที
ตึกๆๆๆ
เอี๊ยดดดดดดดดดด
“ก่อนจาก!!!ฉันมีเรื่องต้องชี้แจงแถลงไขเสียก่อน-*-“ฉันเพิ่งนึกได้ก่อนจะเบรครองเทท้าแล้วหันไปประจัญหน้าเยี่ยงอย่างหนังซามูไรย้อนยุค ชวิ้ง!!(พอเหอะเอ๊ง)
“-___-;นี่วันหลังไม่ต้องเบรคจนเสียงรองเท้าดังเอี๊ยดขนาดนั้นก็ได้นะ”
“พรุ่งนี้ฉันขอประกาศศึกกับดีโน่ คาบัคโรเน่!! ฉันจะไม่ยอมแพ้อีกเป็นครั้งที่สอง-*-อย่าคิดว่าฉันจะยอมง่ายๆเหมือนวันนี้ล่ะคะ!!!”และฉันก็หันกลับไปวิ่งลงทางหนีไฟเพื่อไม่ต้องรอลงลิฟต์กับรุ่นพี่ตัวดีอีก
ให้ตายเหอะ ให้ต๊ายยยย!!!!
-_____-ฉันคนนี้น่ะไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอกเฟ้ย!!! จำเอาไว้เลยรุ่นพี่ที่รัก!!!!
END
HIKARI
‘พรุ่งนี้ฉันขอประกาศศึกกับดีโน่ คาบัคโรเน่!! ฉันจะไม่ยอมแพ้อีกเป็นครั้งที่สอง!’
Talk with writer 17/11/12
โฮกกกก เอาอีกแล้วว่าจะแต่งซัก10แผ่นหน้าเวิดไปๆมาๆก็14แผ่นซะงั้นแน่ะ
พาร์คนี้คนแต่งมุขตันค่ะให้นางเอกเกรียนไม่ออก(แต่ว่าแค่นี้ชีก็เกรียนมากพอแล้วล่ะคะ)
พระเอกเองก็กวนบาทานิดๆต่อไปก็คงหนักกว่าเดิม(มองหน้าตาเคลิ้ม)อีกอย่าง
ไรเตอร์เพิ่งส่องรูปปฏิทินKHR 2013มาเองนะ ดาเมชเฮียโน่ใส่แว่นคู่กับนุ้งฮิแบบ
แอร๊ยยยยย D18ฟินในโลกหล้า(อย่าไปสนใจเลยค่ะไรเตอร์มันบ้า)ว่าเฮียใส่แว่นใน
มังงะหล่อโคตรแล้วพอมาเจอแบบภาพในอนิเมชั่นโอ้ฆ่าไรเตอร์ทางอ้อมชัดๆOTL
ตัวละครหน้าใหม่ที่ทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาอีกสองคนกำลังจะได้ฤกษ์เปิดเผยตัวตนแล้วค่า
(จุดพลุ) ไว้เจอกันพาร์ทหน้าค่า~(โบกมือดุจดั่งนางสาวไทย)
ความคิดเห็น