คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : between us - 4
Between us
ระหว่างเรา
ความรักของคนสองคน.. อาจทำให้ใครอีกหลายคนเสียน้ำตา...
หลังจากที่สารภาพกับซองมินไปในวันนั้น คยูฮยอนก็ยังคงทำตัวเหมือนปกติไม่ได้แสดงอะไรให้คนอื่นๆได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเอง เขายังคงหยอกล้อกับฮยอกแจแรงๆ ไม่ได้มีท่าทีผิดแปลกไป จะมีก็แต่ฮยอกแจที่ทำให้เขารู้สึกว่าแปลกไป ร่างบางดูซึมลงถึงจะยิ้มจะหัวเราะแต่ดูก็รู้ว่าร่างบางกำลังฝืน พอถามก็เอาแต่บอกว่าไม่เป็นไร
‘มึงเป็นไรหรือเปล่าไอเอ๋อ กูเห็นมึงเหม่อมารอบที่ห้าของวันแล้วนะ’ เป็นอีจุนที่ซักถาม ไม่ใช่แค่คยูฮยอนคนเดียวสินะที่สังเกตได้
‘กูก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมารอบที่ห้าของวันแล้วเหมือนกัน พวกมึงจะถามซ้ำๆกันทำห่าไรเนี่ย’ ฮยอกแจหลุดออกมาจากความคิดตัวเองหันมาตอบเพื่อนๆที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่
‘ก็มึงเอาแต่เงียบ หัวเราะก็เหมือนคนโดนบังคับอ่ะ มีอะไรเครียดก็ระบายออกมาสิวะ’ ทงเฮถามอย่างเป็นห่วง คนอื่นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับร่างโปร่ง
‘......กูไม่เป็นอะไรหรอก อย่าคิดมากเลย’ ยิ้มบางเป็นเครื่องยืนยันก่อนจะแยกย้ายขึ้นห้องเรียนของตนเองหลังหมดเวลาพักกลางวัน
จะมีก็แต่ซองมินที่รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้เป็นอะไร หลังจากได้ฟังฮยอกแจเล่าประกอบกับที่จุนซูมาระบายกับเขา ซองมินพอจะรู้ว่าฮยอกแจกำลังรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้...
จุนซูไม่ได้พูดคุยกับฮยอกแจมาสามวันแล้ว สามวันที่ฮยอกแจมอบรอยยิ้มไปให้แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงการทำเป็นมองไม่เห็น ไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของเขา นอกจากจุนซูแล้วฮยอกแจยังรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทของจุนซูคือกลุ่มเพื่อนในห้องที่เขาต้องทำงานกลุ่มด้วย รอยยิ้มของทั้งคีย์ แจจุง และแทมินมันเปลี่ยนไปจนรู้สึกได้ ไม่ได้เย็นชาใส่แต่ก็ไม่ได้เหมือนเดิม...
ต้องทนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?.. ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไปอีกนานแค่ไหน?..
‘เป็นอะไรหรือเปล่าฮยอกแจ เราเห็นฮยอกแจเงียบๆมาหลายวันแล้วนะ’ คีย์ถามหลังจากที่ฮยอกแจเดินเข้ามานั่งที่ตัวเองยังโต๊ะประจำของตัวเอง
‘อ่า... ไม่หนิ’
‘มีอะไรปรึกษาเราได้นะ’ รอยยิ้มใจดีที่คีย์มีให้เขาเสมอเวลาเจอปัญหา มันทำให้ฮยอกแจคลายความอึดอัดลงไปได้บ้าง
‘ไม่มีก็ไม่มี’ ตัดปัญหาเมื่อเห็นว่าฮยอกแจคงไม่ยอมพูดอะไรออกมา
‘คีย์... คือเราอยากลองถามอะไรหน่อยอ่ะ แค่ลองถามนะไม่ใช่ปัญหาของเรา’ พูดออกตัวเพราะกลัวคีย์จะรู้ความจริงที่เขารู้ว่าคยูฮยอนคิดยังไงด้วย
‘อืม ว่ามาสิ’
‘เอ่อ... ถ้าคีย์ไปชอบคนคนเดียวกับเพื่อน.. คีย์จะทำยังไงหรอ?....’
‘...เราก็จะเสียสละให้เพื่อนเรา ถ้าเรามีความสุขในขณะที่เพื่อนเรากำลังร้องไห้.. เราทำไม่ได้หรอก’ ตอบคำถามทั้งที่ก้มหน้าก้มตาวาดรูป
‘... แล้วคีย์ไม่เสียใจหรอ?..... แล้วถ้าคนคนนั้นเขาชอบคีย์ล่ะ?’
‘เราเสียใจ...ก็ยังดีกว่าเสียเพื่อนไปไม่ใช่หรอ?’
คำตอบของคีย์มันยิ่งทำให้ฮยอกแจกดดันมากขึ้น เขาไม่รู้จะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและจุนซูกลับมาเหมือนเดิม กลับมาเล่น กลับมาหัวเราะได้อย่างสนิทใจอีกครั้ง
‘
นั่นสิเนอะ’ ฝืนยิ้มก่อนจะจมไปในความคิดตัวเองอีกครั้ง
‘เห้ยพวกมึง กูว่าเรามาเล่นบัดดี้กันดีป่ะวะ? กูเห็นคนอื่นๆเขาเล่นกันอ่ะกลุ่มเราน่าจะเล่นบ้างนะ’ ซองมินเสนอขึ้นมาระหว่างทางเดินไปรถไฟใต้ดิน
‘ยังไม่ปีใหม่เลยนะไออ้วน ไม่รีบไปหน่อยหรือไงมึง’ คยูฮยอนแย้งพลางผลักหัวผู้เสนอ
‘กูว่าก็น่าสนนะ เอาดิๆมาจับฉลากกันเลยดีกว่า’ กลายเป็นทงเฮที่เห็นด้วยกับความคิดของซองมิน
เศษกระดาษที่ติดอยู่ในกระเป๋านักเรียนของอีจุนถึงดึงออกมาทำเป็นฉลากสำหรับการจับบัดดี้ ฮยอกแจหัวเราะเบาๆจากใจเป็นครั้งแรกในรอบสามวันกับความใจร้อนของเพื่อนในกลุ่ม รอมาจับพรุ่งนี้ก็ยังได้แต่พวกมันคงจะตื่นเต้นอยากรู้ว่าจะต้องดูแลใครเป็นพิเศษในเวลาสามสัปดาห์ต่อจากนี้
‘ห้ามบอกใครเลยนะว่าจับได้ใคร’ กีกวังเอ่ยกำชับหลังจากทุกคนเลือกเศษกระดาษที่ม้วนอยู่ในมือเขาไปแล้ว
‘เออใช่ ไม่งั้นเดี๋ยวหมดสนุก อ้อ! เริ่มพรุ่งนี้เลยนะ พวกมึงต้องดูแล ซื้อขนมให้บัดดี้ตัวเองด้วยนะเว้ย หาวิธีฉลาดๆอย่าให้จับได้ละ’ อีจุนเสริม
‘บอกตัวเองเถอะมึงอ่ะ’
‘กูว่ามึงเงียบๆแบบสองสามวันมานี้ก็ดีนะฮยอกแจ พูดทีกูอยากจะเอาเท้าไปประทับบนหน้ามึงจริงๆ’ อีจุนผลักหัวร่างบางแรงๆ สร้างเสียงหัวเราะจากเพื่อนคนอื่นได้เป็นอย่างดีก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง
♬ ~날 사랑에 눈뜨게 했고
이런 감정이 있다는 걸
나도 이럴 수 있다는 걸~♬
เสียงโทรศัพท์มือถือตรงหัวเตียงเร่งให้ร่างบางรีบออกมาจากห้องน้ำ
‘’ซองมิน’’
‘ว่าไง?’ รับสายพลางเช็ดผมที่เปียกไปด้วย
‘มึงจับได้ใครวะ?’
ฮยอกแจหัวเราะกับตัวเอง เขาเดาไว้แล้วว่าซองมินต้องโทรมาถามถึงบัดดี้ของเขา ซองมินกับฮยอกแจไม่เคยมีความลับต่อกัน เรื่องบางเรื่องที่คนภายในกลุ่มไม่เคยรู้แต่สองคนนี้รู้กันเป็นอย่างดี
‘มึงบอกมาก่อนสิ’
‘ได้อีจุนอ่ะดิ แม่งเห็นแก่กินด้วยถ้ากูไม่ซื้อขนมให้มันนะ รับรองว่าถ้ามันรู้ว่ากูเป็นบัดดี้เมื่อไหร่แม่งไล่เตะกูแน่ๆ’ ระบายออกมาอย่างหัวเสีย
‘ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า โชคดีจังมึง’
‘โชคดีก็บ้าละ! ตกลงมึงได้ใครวะ?’
‘คยูฮยอน’
‘ว้าวววววว~ คิดหรือยังว่าจะซื้ออะไรให้มันน่ะ คิคิคิคิ’ น้ำเสียงล้อเลียนของเพื่อนร่างอวบทำเอาฮยอกแจรู้สึกเขินไม่น้อย
เขาเองก็ตกใจเหมือนกันตอนที่แกะกระดาษออกแล้วเป็นชื่อของคยูฮยอน...
‘ยังเลยว่ะ เดี๋ยวค่อยเนียนถามมันดู’
‘อืม... ว่าแต่มึงหายเครียดเรื่องจุนซูหรือยัง?’ จากเสียงหยอกล้อ เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงห่วงใยเมื่อพูดถึงเรื่องที่ทำให้เพื่อนเขาซึมมาหลายวัน
ซองมินก็ช่วยอธิบายกับจุนซูบ้าง แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดแค่อยากขอเวลาทำใจสักพักแล้วทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม เขาคงทำได้แค่ภาวนาให้จุนซูทำใจได้เร็วๆก่อนที่ฮยอกแจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปซะก่อน
‘เฮ้อ.... กูก็คงทำได้แค่รอเวลาเท่านั้นแหละ’
ฮยอกแจทำได้แค่นี้จริงๆ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขารู้เรื่องที่คยูฮยอนคิดยังไงกับเขา ถ้าให้เดินไปขอโทษจุนซูก็คงสร้างความสงสัยเป็นอย่างมาก
‘ไปนอนเถอะมึง อย่าคิดมากล่ะไอคยูมันก็เริ่มสงสัยแล้วว่ามึงเป็นอะไร ถามกูทุกเย็นเลยสงสัยจะรักมึงมาก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’ แล้วซองมินก็วางสายไป
ฮยอกแจยิ้มออกมาเล็กน้อย ความรู้สึกดีที่รับรู้ว่ามีคยูฮยอนคอยเป็นห่วงมันตีกับความรู้สึกผิดที่มีต่อจุนซูจนเขาปวดหัวไปหมด
ช่วงพักกลางวันเป็นเวลาที่ฮยอกแจชอบมากที่สุด เขาจะได้หลุดจากสถานที่อึดอัดในห้องเรียนมาเจอเพื่อนๆในกลุ่ม ถึงแม้ว่าในห้องเขาจะมีทงเฮอยู่ด้วยแต่ร่างโปร่งก็มักจะแอบหลับ และเขากับทงเฮก็นั่งกันคนละฝั่งด้วย ร่างบางของฮยอกแจกับซองมินนั่งรอเพื่อนอีกสี่คนที่โต๊ะประจำในโรงอาหาร
พลั่ก!
‘บัดดี้มึงฝากมาให้อ่ะฮยอกแจ’ หลังจากตบหัวทักทายเพื่อนตัวบางแล้วก็ยื่นชอคโกแลตให้
ฮยอกแจไล่สายตามองอีจุน กีกวัง ทงเฮและคยูฮยอนว่าใครที่น่าสงสัยจะเป็นบัดดี้เขา แต่ก็ไม่เห็นพิรุธจากใครสักคน
ชอคโกแลตยี่ห้อ Mars ..ยี่ห้อโปรดของฮยอกแจ...
‘เชด....... ยี่ห้อนี้มึงชอบหนิไอเอ๋อ แถมยังแพงซะด้วย บัดดี้มึงโคตรลงทุนอ่ะ’ ซองมินมองตาวาว
‘แม่งลงทุนสัดอ่ะ บัดดี้กูยังไม่เห็นให้อะไรเลย อย่าให้รู้ว่าเป็นใครนะมึง...’ อีจุนขู่เสียงเรียบ ซองมินได้แต่แอบหัวเราะในใจ
‘ฝากบอกบัดดี้กูด้วยว่าทำอย่างนี้ให้ได้ทุกวันนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’ หัวเราะอย่างมีความสุขก่อนจะเก็บชอคโกแลตที่ได้มาใส่ไปในกระเป๋ากางเกง
ถ้ากินตอนนี้.. ซองมินแย่งกินแน่ๆ!
สองอาทิตย์แล้ว... สองอาทิตย์ที่ฮยอกแจได้ชอคโกแลตยี่ห้อโปรดทุกวันจากบัดดี้ที่ฝากทงเฮเอามาให้เขาจนร่างบางเริ่มสงสัยว่าบัดดี้เขาคือทงเฮหรือเปล่า
แต่ทำอย่างนี้มันก็เดาง่ายไปหน่อยมั้ย?... ปกติบัดดี้ไม่เอาของมาให้เองอย่างนี้หรอกมั้ง...
‘มึงรู้มั้ยว่ามึงน่าอิจฉาที่สุดในกลุ่มเลยนะฮยอกแจ’ ซองมินขยี้หัวร่างบางอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเดินออกไปซื้อข้าวกลางวัน
‘นั่นดิ ได้กินของโปรดทุกวันหน้าตาแจ่มใสเลยนะมึง ทีอาทิตย์ก่อนทำหน้าเหมือนหมาท้องผูก’ คยูฮยอนที่นั่งตรงข้ามเอ่ยแซว
....แต่ก็ดีใจที่เห็นเพื่อนสนิทคนนี้หัวเราะ และยิ้มได้อีกครั้ง ขอบคุณบัดดี้มันเหมือนกันนะ
‘เงียบแล้วออกไปซื้อข้าวได้แล้วมึง ฝากสั่งของกูด้วยเอาแบบเดิม’ ร่างบางชี้หน้าสั่ง
‘น้อยๆหน่อยครับ กูฝากทงเฮสั่งไปแล้วเว้ย’
‘ไรว้า....’ ยู่หน้าอย่างไม่พอใจ
ชอบกูจริงหรือเปล่าวะเนี่ย!? ไม่เห็นจะเทคแคร์กูเลย
ก่นด่าในใจก่อนจะหันมามองทงเฮที่พึ่งนั่งลงข้างคยูฮยอนหลังจากซื้อข้าวเสร็จ
‘ทงเฮอ่า....’
‘เรียกแบบนี้มึงต้องการอะไร?’ เพราะเป็นเพื่อนกันมานานถึงรู้ว่าถ้าฮยอกแจเรียกแบบนี้เมื่อไรต้องมีเรื่องให้ช่วยเมื่อนั้น
‘ฝากสั่งข้าวหน่อยสิ กู...’
‘ขี้เกียจเดิน..’ ต่อประโยคที่เพื่อนตัวดีพูดค้างไว้ ฮยอกแจยิ้มกว้างที่เพื่อนรู้ทัน
‘เออๆ รออยู่เนี่ยแหละ’ ขยี้ผมร่างบางจนยุ่งก่อนจะเดินออกไปยังร้านข้าวที่พวกซองมินยืนอยู่
‘อ้าว.. สั่งไปแล้วหนิมึง’ ร่างอวบแปลกใจที่เห็นทงเฮเดินมาต่อแถวที่ร้านอีกครั้ง
‘ไอเอ๋อฝากสั่งน่ะ มันขี้เกียจเดิน’ ร่างอวบพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
ซองมินเหลือบมองทงเฮทางหางตา...
ทงเฮไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ... แต่ก็ไม่เคยสละเวลากินข้าวเพื่อมายืนต่อแถวซื้อข้าวให้ใคร
ทงเฮไม่ชอบให้ใครใช้.. แต่ตอนนี้กำลังมายืนรอสั่งข้าวให้เพื่อนอย่างอีฮยอกแจ
ทงเฮไม่ชอบกินข้าวที่เย็นแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อซื้อข้าวเสร็จเมื่อไรทงเฮก็ไม่เคยลุกออกจากโต๊ะจนกว่าจะกินข้าวเสร็จ
ดูเหมือนฮยอกแจจะเป็นข้อยกเว้นทุกอย่างของมึงนะ ทงเฮ....
__________________________________
หลายคนบอกว่าฮยอกแจดูซื่อจนโง่ (‘ ‘)
ไรท์เตอร์ไม่เถียงค่ะ.. ฮยอกแจเรื่องนี้ซื่อบื้อจริงๆ *หัวเราะ*
ตอนหน้าหลายคนอาจจะเปลี่ยนความคิดมาสงสารฮยอกแจก็ได้น้า~
เจอกันตอนหน้าค่ะ! *v*
nu eng
ความคิดเห็น