ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    between us.. ระหว่างเรา kyuhyuk ft.donghae, sungmin

    ลำดับตอนที่ #2 : between us - 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 54


    Between us  ระหว่างเรา

     

     

    การแอบรักไม่ใช่เรื่องเสียหาย... แต่ถ้าคนที่คุณแอบรักคือเพื่อนสนิท

    ...คุณกล้าบอกเขาไหมว่าคุณ...แอบรักเขา...

     

     

     

     

                เก่งเหมือนกันนี่ มาได้ไม่หลงด้วย เสียงซองมินเอ่ยทัก หลังจากที่ยืนรอคนที่กลัวหลงทางจนขึ้นสมอง จริงๆแล้วฮยอกแจโทรหาคยูฮยอนทุกห้านาทีเลยก็ว่าได้..ก็คนมันกลัวหลงนี่

                อีฮยอกแจซะอย่าง!’ ยักคิ้วโชว์พาวก่อนจะเดินไปกระโดดกอดคอทงเฮที่เดินนำอยู่ด้านหน้า โดยมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่

                เล่นอะไรเป็นเด็กๆกลางห้างนี่ไม่ได้อายคนอื่นเลยนะมึง ร่างโปร่งผลักหัวเพื่อนสนิทอย่างหมั่นไส้

                ก็คยูฮยอนมันดุกูอ่ะ แค่โทรถามทางมานิดหน่อยก็บ่นกูซะ ฮยอกแจทำปากยู่อย่างที่เจ้าตัวชอบทำเวลาถูกเพื่อนในกลุ่มขัดใจ และนั่นก็ทำให้ทงเฮรู้ว่าที่ฮยอกแจเดินเลี่ยงคยูฮยอนมากระโดดกอดคอเขาก็คงเพราะเคืองที่ถูกดุนั่นเอง ทงเฮส่ายหน้ากับความเป็นเด็กของร่างบางที่เดินอยู่ข้างเขา

     

     

                คนถูกเคืองอย่างคยูฮยอนก็รู้ดีกับพฤติกรรมของฮยอกแจ แต่มันก็สมควรให้บ่นมั้ยล่ะเล่นโทรหาเขาตั้งแต่รอรถ

                กูต้องนั่งสายไรนะ?  คำถามนี้เขาได้ยินมาไม่ต่ำกว่าห้ารอบ

                อีกกี่ป้ายกูจะถึงวะ นั่งตูดบานละเนี่ย  บ่นใส่เขาตลอดทาง พอจะวางก็หาว่าทิ้งให้เพื่อนเผชิญกับเส้นทางที่ไม่รู้จัก แต่พอถามว่าอยู่ตรงไหนแล้วจะได้กะระยะทางถูก เพื่อนจอมเอ๋อก็ตอบได้แค่

                กูไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไรอ่ะ อยู่บนถนนสี่เลนข้างๆมีปั้มน้ำมัน แล้วในเกาหลีถนนสี่เลนที่มีปั้มน้ำมันข้างทางมีที่เดียวซะที่ไหนละ

                เฮ้อ....   ได้แต่ถอนหายใจกับความบื้อของร่างบาง แต่ก็ต้องยอมคุยไปบ่นไปจนเจ้าตัวมาถึงที่หมายได้โดยสวัสดิภาพนั่นแหละถึงจะวางได้

     

     

     

                ขี้งอนเป็นเด็กไปได้ มึงก็รู้ว่ามันก็บ่นไปงั้นแหละหน่า  ทงเฮว่าพลางเอามือไปขยี้หัวฮยอกแจ

                ไม่ต้องแก้ต่างให้มันเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าติวหนังสือนะกูนั่งแท๊กซี่กลับบ้านไปแล้ว เดินไปบ่นไปจนมาถึงร้านกาแฟที่ตกลงกันไว้ว่าจะมาอาศัยนั่งติวกันที่นี่ เพราะบรรยากาศที่สงบและรสชาติโกโก้แสนอร่อยที่ซองมินสปอยให้เขาฟัง

               

     

                พลั่ก!

     

                โอ้ย เจ็บนะเว่ย! ตบหัวกูทำไมเนี่ยไอคยูฮยอน  ฮยอกแจหันไปถามร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างเอาเรื่อง คนจะเดินมานั่งอยู่ดีๆก็โดนตบหัวเกือบทิ่มซะงั้น

                หมั่นไส้ ทำมาเป็นงอนไม่คุยกับกู โดนแค่นี้ยังน้อยไป  ชี้แจงเหตุผลก่อนจะเลือกนั่งข้างคนที่พึ่งทำร้ายร่างกายไปเมื่อกี้

     

     

                นี่กูไม่มีสิทธิงอนมึงเลยหรือไงวะหะ!  

     

                ได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจถ้าพูดออกไปคงโดนตบรอบที่สอง ซองมินเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขาตามด้วยดงเฮที่นั่งตรงข้ามคยูฮยอน ส่วนกีกวังกับอีจุนก็แยกกันนั่งหัวโต๊ะทั้งสองฝั่งก่อนจะเริ่มติวกันอย่างจริงจัง

     

     

                .

                .

     

    สี่ชั่วโมงผ่านไป

     

                เฮ้อ.... เหนื่อยชิบเลย นี่ขนาดนั่งเฉยๆฟังไอคยูพูดนะเนี่ย เล่นบอลยังไม่เหนื่อยเท่านี้เลย  อีจุนบ่นพร้อมเอาหน้าฟุบกับโต๊ะ

                นั่นดิ เค้กสองชิ้นไม่ได้ช่วยให้กูรู้สึกดีขึ้นมาเลย ซองมินว่าก่อนจะตักเค้กชิ้นที่สามเข้าปาก

                กินขนาดนี้แล้วมึงก็มาบ่นว่าอ้วน สมควรอยู่หรอกไอป้อมเอ้ย ทงเฮที่นั่งข้างๆด่าพร้อมเอาปากกาในมือเขกหัวซองมิน

                มึงก็สูงไม่ได้ต่างจากกูมากเลยนะครับคุณทงเฮ  หันมาว่าแต่มือก็ยังตักเค้กกิน เรียกเสียงหัวเราะได้จากทั้งกลุ่มกับสายตาคาดโทษจากทงเฮ

                กูว่าพอแค่นี้แหละ กูอยากกลับบ้านละติวไปก็ไม่เข้าหัวกูหรอก ฮยอกแจสะบัดหัวไล่อาการมึนไปสองสามที ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจริงจังกับการติวสอบขนาดนี้ แต่เพราะชีวิตที่โตขึ้นการเรียนที่ยากขึ้นตามไปด้วยเป็นตัวบังคับให้เขาต้องขยันมากกว่าเดิม โชคดีที่เพื่อนกลุ่มนี้ของเขาไม่ใช่เด็กเกเรวันๆเอาแต่โดดเรียน ถึงแม้จะไม่เรียบร้อยจนถูกใจอาจารย์แต่พวกเขาก็ไม่เคยนอกลู่นอกทาง

                อือ งั้นกลับกันเลยละกัน คยูฮยอนกล่าวสรุป

     

     

     

                เด็กหนุ่มหกคนที่กำลังยืนรอรถเมล์อยู่หน้าห้าง ถึงแม้แต่ละคนจะมีพื้นฐานะที่ไม่ได้แย่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยล่ะ แต่พวกเขาก็ยังชอบที่จะโดยสารรถสาธารณะแทนการนั่งรถยนต์คันหรูและนี่ก็คงเป็นความบังเอิญที่พวกเขาชอบเหมือนกัน

                เดี๋ยวป๊ากูจะมารับว่ะ วันนี้ต้องไปซื้อของขวัญให้แม่อ่ะกลับด้วยกันปะคยูฮยอน  ซองมินหันมาถามเพื่อนร่างสูงเพราะบ้านคยูฮยอนอยู่แถวบ้านเขาถึงก่อนแค่ไม่กี่ซอย

                ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูกลับอีกทางต้องพาไอเอ๋อนี่กลับไปรถไฟใต้ดินน่ะ ตวัดสายตามาทางฮยอกแจที่ยืนอยู่ข้างตัว

                จริงๆเดี๋ยวกูไปส่งก็ได้นะ มึงจะได้ไม่เสียเวลาแถมเปลืองค่ารถน่ะ ทงเฮเอ่ยขึ้นมา

                แต่บ้านมึงมันคนละทิศกับทางที่ฮยอกแจมันจะกลับเลยนะไอทงเฮ  กีกวังถามด้วยความงง

                เอ่อ.. ก็ไม่อยากให้ไอคยูฮยอนมันเปลืองเงินค่ารถไปมาไง อธิบายพลางเอามือเกาหัว ท่าทางของทงเฮเพื่อนสนิทอย่างซองมินรู้ดีว่าเจ้าตัวกำลังเขิน แต่เขินอะไรนั้นเขาก็ได้แต่คิดในใจ...

                ไม่เป็นไรหรอก ทางนั้นกูก็กลับได้ พวกมึงสามคนน่ะกลับได้แล้วฝนจะตกละ คยูฮยอนสรุปพลางตบบ่าอีจุน

                อือๆ งั้นพวกกูกลับก่อนละกัน หลงทางก็โทรมานะฮยอกแจ ทงเฮแกล้งแหย่

                หลงก็แย่ละ มึงรีบกลับไปเลยไป โบกมือไล่ไอเพื่อนตัวแสบที่พูดเหมือนแช่งเขา

     

     

                อีจุน กีกวัง และทงเฮแยกเดินออกมาขึ้นรถเมล์ที่จอดพอดี สามคนนี้บ้านอยู่ละแวกเดียวกันเลยไปกลับด้วยกันประจำไม่ว่าจะไปไหน เหลือก็แต่ซองมินที่มองส่งเพื่อนสามคน

     

                ป๊ากูมาละ ไปก่อนนะมึงมีไรก็โทรมา ยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาพร้อมวิ่งไปขึ้นรถคันหรูที่จอดรอ

     

                มึงพากูกลับถูกแน่นะไอคยู หันมาถามร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างตัว

                เออหน่า เชื่อกูดิวะ ว่าพลางเดินนำร่างบางขึ้นรถเมล์สายที่เจ้าตัวรอ

     

     

                เพราะบ้านคยูฮยอนถึงก่อนป้ายที่ฮยอกแจต้องลงร่างสูงเลยลงไปก่อน แต่ก็ย้ำร่างบางอยู่หลายครั้งว่าต้องลงป้ายไหน ต้องสังเกตอะไร ฟ้าที่มืดและเส้นทางที่ไม่คุ้นเลยทำให้ฮยอกแจแอบกังวลอยู่เหมือนกัน และยิ่งกังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อถึงป้ายนึงแล้วผู้โดยสารที่มากับเขาเดินลงไปกันหมด เหลือก็แต่เขาคนเดียวกับลุงคนขับนั่นแหละ ฮยอกแจสะดุ้งเมื่อลุงคนขับกลับรถ

               

     

                เหวแล้วไง!  

     

                ร่างบางได้แต่คิดในใจก่อนจะนัดสินใจถามลุงคนขับเสียงหวาดๆ

     

                ลุงครับ สถานนีรถไฟใต้ดินไปทางนี้หรอครับ ลุงคนขับหันมามองด้วยสายตาแปลกใจ

                รถสายนี้ไม่ผ่านหรอกนะ แต่ถ้าจะไปก็ลงฝั่งนี้แล้วข้ามถนนไปขึ้นรถฝั่งนู้นเอา ลุงคนขับจอดรถหลังจากบอกสายรถที่ฮยอกแจต้องนั่งต่อไป ฟ้าที่มืดเหมือนฝนจะตกกับเส้นทางที่เขาไม่รู้ว่าอยู่มุมใดของเกาหลีแล้วจะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย รถไฟใต้ดินเป็นที่พึ่งเดียวของเขานะ..

     

     

                ไอคยูฮยอน! ไหนบอกว่าถึงชัวร์ไงวะ

     

                หลังจากเดินข้ามถนนมาและยืนรอรถสายที่ลุงแกบอกมายี่สิบนาทีก็ยังไม่มี แท็กซี่สักคันก็ไม่ผ่าน โทรศัพท์ก็ดันแบตหมด ร้านค้าอะไรก็ไม่มี สาบานเถอะว่านี่คือกรุงโซลเมืองหลวงของประเทศเขาน่ะ ร่างบางเริ่มยืนไม่ติดมองซ้ายขวาก็เห็นสิ่งที่พอจะช่วยชีวิตเขาได้

     

                ตู้โทรศัพท์

     

              โชคยังดีที่มีเศษเหรียญติดตัวอยู่บ้างฮยอกแจเลยตัดสินใจโทรหาคนที่น่าจะช่วยเขาได้บ้าง

    ยอโบเซโย เสียงเข้มที่รับโทรศัพท์ทำให้ร่างบางใจชื้นขึ้นมาบ้าง

                คยูฮยอนกูเองนะ ฮยอกแจ ฮยอกแจรู้ว่าคยูฮยอนคงประหลาดใจแน่เพราะมันเป็นเบอร์สาธารณะ

                เป็นไรมึง แล้วทำไมใช้เบอร์สาธารณะโทรมา

                มึง กูกลับไม่ถูกอะ แบตโทรศัพท์ก็หมด ลุงคนขับเขาบอกว่ารถสายนั้นไม่ผ่าน ถนนแถวนี้ก็ไม่มีแท็กซี่เลยกูจะทำไงดีอะมึง ถามอย่างรนราน

     

     

                คยูฮยอนกุมขมับฟังจากเสียงก็รู้ว่าฮยอกแจคงกลัวอยู่แน่ๆ ไอนี่มันกลัวความมืดอย่างกับอะไรดีแถมสัญญากับแม่ไว้ว่าจะไม่กลับดึกคงกลัวโดนแม่ว่า

     

                มึงอยู่ตรงไหน?

                ถ้ากูรู้แล้วจะเรียกว่าหลงหรอ!’ ตอบเสียงห้วน รู้สึกเริ่มกลัวกับความมืดที่เริ่มปกคลุม

                แล้วแถวนั้นมีอะไรที่สังเกตได้บ้าง ปั้มน้ำมันหรือร้านค้าอะไรก็ได้ ถามอย่างใจเย็นเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี

                เอ่อ... มันมีธนาคารอ่ะมึง ตรงข้ามมีโบสถ์แต่กูมองไม่เห็นชื่ออ่ะต้นไม้มันบัง พยายามสงบสติก่อนอธิบายสิ่งรอบตัวที่พอสังเกตได้

     

     

                คยูฮยอนพยายามใช้ความคิดว่าฮยอกแจอยู่ส่วนไหนของกรุงโซล ไอสิ่งที่ได้ฟังมามันอาจจะแถวๆนี้

                กูโดนแม่ดุแน่เลยมึง นี่หกโมงกว่าแล้วอ่ะแล้วมันก็มืดด้วยทำไงดีวะ ฮยอกแจพูดเสียงสั่น วันนี้นัดกับแม่ว่าจะไปซื้อของด้วยกันนี่ก็จะถึงเวลานัดแล้ว แต่เขายังอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เลย

                ไอเชี่ยมึงร้องไห้ป่ะเนี่ย? ใจเย็นๆเดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่ออกไปหา รออยู่ตรงนั้นก่อนนะ  ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ฮยอกแจก็ไม่ใช่คนเข้มแข็งมากมาย กลัวผี กลัวความมืด กลัวแม่ดุ กลัวพ่อว่ามันกลัวไปหมดนั่นแหละ

                แล้วมึงรู้หรอกูอยู่ที่ไหน ถึงจะดีใจที่รู้ว่าเพื่อนรักจะมาหา จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวแต่ก็แอบเกรงใจไม่ได้ ให้นั่งแท็กซี่หาทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนก็เปลืองตังค์นะ

                ยืนรอกูอยู่ตรงนั้นแหละมึง ห้ามขยับไปไหนเลยนะฝนจะตกแล้ว ถ้าฝนตกอาศัยตู้โทรศัพท์หลบฝนไปก่อนแล้วกัน พูดจบก็จะวางสายไป แต่ติดที่เสียงเพื่อนสนิทในสายที่ร้องออกมาก่อน

                คยูมาแล้วๆๆๆๆๆ รถมาแล้วมึง! รถคันสีเหลืองที่มึงบอก มารับกูแล้ว!! เย้! แค่นี้ก่อนนะ เสียงสัญญาณตัดไป อย่างน้อยก็โล่งใจที่ฮยอกแจหาทางกลับบ้านได้แล้ว

               

     

     

                เปลี่ยนอารมณ์โคตรจะเร็ว เดี๋ยวก็โวยวาย เดี๋ยวก็จะร้องไห้ ทำเอาเขาปรับอารมณ์ตามไม่ทัน แต่เพราะนิสัยแบบนี้ของฮยอกแจนี่แหละที่ทำให้เขายิ้มคนเดียวบ่อยๆเมื่อคิดถึงภาพคนๆนั้นยิ้มให้ หรือตอนแยกเขี้ยวใส่เวลาโดนแกล้ง หรือโวยวายเวลาเถียงคนอื่นไม่ทัน เขารู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไรเพียงแต่เลือกที่จะไม่พูด และเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดไม่แสดงออกให้อีกฝ่ายได้อึดอัด เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วในความคิดของเขา...

     

     

     

    .

    .

     

                ด้านฮยอกแจหลังจากวิ่งขึ้นรถเมล์และได้รับคำยืนยันจากคนขับว่าถึงรถไฟใต้ดินแน่นอน ก็ทำให้ยิ้มออก อย่างน้อยแม่ก็คงไม่ว่าอะไรมากที่กลับช้าไปนิด รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากเมื่อคิดถึงคนที่เขาพึ่งโวยวายใส่ในโทรศัพท์ก่อนขึ้นรถ ความรู้สึกเมื่อถูกคนหนึ่งเป็นห่วงมันดีอย่างนี้นี่เอง น้ำเสียงที่เจือความห่วงใยที่เขาสัมผัสได้มันทำให้เขาใจเต้นระรัว

                อ่า เป็นบ้าอะไรวะเนี่ยฮยอกแจ! นั่นเพื่อนนะเว่ยเพื่อน!

              เป็นเพื่อนแล้วยังไง? การแอบชอบเพื่อนมีอยู่ถมไป

              ไม่ได้นะ ยังไงก็ไม่ได้! คยูฮยอนไม่ได้คิดอย่างเขาสักหน่อย...

              สองความคิดที่ตีกันอยู่ในหัวฮยอกแจสะบัดศรีษะสองสามทีพลางนั่งเหม่อมองไปข้างทาง หวังว่ามันจะลบความว้าวุ่นในหัวเขาไปได้

     

    .

    .

     

     

                เฮ้อ........

     

     

    ____________________

    ไม่รู้ว่าจะงงกันมั้ย (‘ ‘)

    ติชมทิ้งไว้ได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน

    อ้อ! กลับไปอ่านอินโทรสักเล็กน้อยไรท์เตอร์ไปแก้ไขมาค่ะ * *

    ขออภัย ณ ที่นี้.... ( bye )



                nu eng

    M U S I C CAFE : LUN LA
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×