ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : กลางป่ากลางเขา
เฮ้อออออ เมื่อคืนผมทำอะไรลงไปเนี่ย ไปตอบแบบนั้น โชฮา คงจะคิดไปว่าผมตกลงปลงใจแล้วแน่เลย ม่ายยยยยย
"รัก" เหรอ ผมไม่รู้หรอกครับว่ารักเป็นยังไง แฟนเป็นจริงเป็นจังก็ยังไม่เคยมีกับเค้า มีแต่คุย ๆ กันน่ะครับ เพราะพอเรียนเสร็จผมก็ต้องมาซ้อมเทควันโด้ ตลอด เวลาจะไปกับสาวน่ะไม่มีหรอก
ละนี่ ดันเป็นผู้ชายอีก ละผมจะมองหน้าคนอื่นยังไงเนี้ย โชฮาเอง ก็เป็นผู้ชายมีภรรยาละด้วย แต่ แล้วคำพูดเมื่อคืนคืออะไร
"อ๊ากกกกก สับสน ๆๆ ๆ"
"อิงนาหรี" เสียแผ่ว ๆ มาจากข้างหลังครับ
"เย้ยยย ไอ่บ้า ตกใจหมด" ชิน ครับ โผล่มา ไม่ให้ซุ่มให้เสียง คนกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ
"บัณฑิตข้างนอก กับขุนางฝ่ายโซรน ยอมถอย แล้วนะขอรับ"
"เหรอ อื้มม ก็ดีแล้วหล่ะ คงเลิกเข้าใจผิดซะที"
"เข้าใจผิดอะไรเหรอ ขอรับ"
"เอ่อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร " แต่ชิน เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกผมน่ะครับ
"ตอนนี้นาหรี ไม่ใช่แนซีธรรมดานะขอรับ แต่เป็นคนของโชฮาที่เหล่าบริวารจะต้องให้ความเคารพนะขอรับ"
"วันนี้ช่วงบ่าย โชฮา จะทรงล่าสัตว์ตามราชธรรมเนียมน่ะขอรับ นาหรีจะตามเสด็จไหมขอรับ"
"พี่ไปได้ด้วยเหรอ ............. เอ่อ ไม่ดีกว่า" ผมยังไม่อยากเจอโชฮา ตอนนี้น่ะครับ รู้สึกปั้นหน้าไม่ถูก
"เจ้าจะไม่ไปกับข้าจริง ๆ เหรอ" เสียงที่สอง แผ่ว ๆ มาจากข้างหลัง
"เย้ยยยยย ท่านลีซุน" อะไรกันวันนี้ ทำไมมีแต่คนมาเงียบ ๆ ละขบวนตามเสด็จหายไปไหนหมดกันหมด
"อ่อ พวกที่เหลือ ยังนึกว่าข้าเข้าเฝ้าชูซังโชนาอยู่หน่ะ ข้าเลยแอบแวบมาหาเจ้าก่อน"
"แล้วเจ้าจะไม่ไปกับข้าจริง ๆ เหรอ อุตสาห์ให้ชินมาชวน"
"ข้าน้อย รู้สึกไม่สบายน่ะขอรับ" ผมก็แถไปตามเรื่อง
"ไม่สบาย ? เพราะข้าหรือเปล่า" โชฮาโน้มหน้าผากมาแตะกับหน้าผากผมครับ ผมก็ไม่รู้จะทำไงครับ ยืนนิ่ง ๆ ให้ทำไป ส่วนชิน ก็หลบหน้าหนีครับ แต่ดูท่าชินจะทำตามธรรมเนียมมากกว่าครับ
"ตอนนั้น พีกุง กับอ๊กจองก็เป็นเหมือนกับเจ้านี่แหล่ะ" เอ่อ ... แล้วไปเกี่ยวอะไรกับโชฮาเล้าาาาา
"ไปด้วยกันเถอะ อิง มีแต่ซังกุงและฮังอา อยากจะตามข้าไปทั้งนั้น สาว ๆ พวกนั้นไม่ค่อยได้ออกจากวังหรอก ถ้าเจ้ายังเขินข้าอยู่ ก็คิดซะว่า ไปในฐานะแนซีอารักขา ก็ได้หนิ นะ"
"เอ่ออ ขอรับ" ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงครับ
ช่วงบ่ายเราก็ออกมาถึงตรงป่าครับ ค่อนข้างไกลตัวเมืองเหมือนกัน ผมค่อนข้างตื่นเต้นหน่ะครับ เพราะไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ตอนแรกโชฮา ยืนยันจะให้ผมขี่ม้าตัวเดียวกันครับ แต่พวกองค์รักษ์บอกว่าผิดราชธรรมเนียม เข้าทางผมเลยครับ ได้หัดบังคับม้าไปในตัว
"นาหรี ต้องค่อย ๆ เอาเท้ากระทุ้งท้องของม้านะนะขอรับ" พี่องค์รักษ์ที่เจอกันบ่อย ๆ หน่ะครับ ได้ร่วมทางกันจนได้
"เอ่อ จริง ๆ เราเจอกันตั้งบ่อย พี่รู้แต่ชื่อข้า จริง ๆ แล้วพี่ชื่ออะไรเหรอขอรับ" ผมชวนคุยไป พลางพยายามบังคับม้าไปครับ
"ข้าน้อยชื่อ ควอนแจฮิน ขอรับ เป็นองค์รักษ์หลวงของชูซังโชนาขอรับ เรามักจะเจอกันตอนที่ข้าน้อยต้องเตรียมรับเสด็จโชนา เพื่อออกนอกวังน่ะครับ บังเอิญจริง ๆ"
"อ่อ เป็นอย่างนั้น งั้นข้าขอเรียกท่านว่า พี่แจฮิน ได้ไหมขอรับ" มิน่าหล่ะครับ ถึงได้แต่งตัวเหมือนกับองค์รักษ์ของโชฮา เลยครับ
"ไม่ได้หรอกขอรับ อิงนาหรี ต้องเรียก ว่าควอนยองกัม ขอรับ" ชินแทรกขึ้นมาครับ อ่อ คงเป็นธรรมเนียมสินะ
"ข้าน้อยรู้สึกดีใจนะขอรับ ที่นาหรี ให้ความสนิทสนมกับข้าน้อยขนาดนี้ แหะ ๆ ....... แต่นาหรี เป็นคนของโชฮา จะเรียกใครต่อใครว่าพี่ไม่ได้หรอกขอรับ เพราะท่านมีฐานะสูงกว่า เหล่าบริวาร" เอ่ออออ ..... เรื่องนี้อีกแล้ววว ผมเริ่มรู้สึกเอียนครับ
"ควอนยองกัมเป็นลูกหลานยังบัน สายทหารน่ะขอรับ ถึงได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งที่อายุยังน้อย" ชิน กระซิบบอกผมครับ ถึงว่า อายุไม่น่าจะเกิน 20 น่ะครับ แต่ได้เป็นถึงยองกัมแล้ว
อยู่ดี ๆ โชฮาก็บังคับม้าถอยจากหน้าขบวนมาอยู่ข้างผมครับ ทำให้ทั้งขบวนต้องร่นถอยไปข้างหลังผมจนหมด ผมบังคับม้าไม่เก่ง เลยไปไม่ทันชาวบ้านเลย
"ข้ามาหาเจ้านั่นแหล่ะ ไม่ต้องตามพวกนั้นไปหรอก" ทำไมต้องปล่อยรังสีอำมหิตด้วยอ่ะ > <
"เจ้าเหงา เหรอ"
"ไม่หนิ พะยะค่ะ โชฮา" อยู่ต่อหน้าคนพวกนั้นผมต้องกลับมาเรียกชื่อโชฮาอย่างเป็นทางการครับ
"อืม ไม่มีอะไรหรอก" อะไรของเค้าเนี่ยยยย อยู่ ๆ ก็เหมือนจะเคืองอะไรผม แล้วก็ไม่พูดอะไร
"เจ้าขึ้นมานั่งบนม้าตัวเดียวกับข้าละกัน"
"แต่ มันผิดราชธรรมเนียมไม่ใช่เหรอพะยะค่ะโชฮา" แล้วจริง ๆ พวกผมสองคนก็ตัวใหญ่กันด้วยครับ ม้ามันจะไม่หนักเหรอ ซักพักเชวยองกัม แนซีของโชฮา ก็บังคับม้าเข้ามาครับ
"กราบทูลโชฮา จะทรงทำผิดราชธรรมเนียม เพราะความหึงหวงไม่ได้นะ พะยะค่ะ เหล่าบริวารจะไม่ยำเกรง โปรดใคร่ครวญพะยะค่ะโชฮา" หึง ... หึงใคร ..... ผมเหรอ .... ทำไมอ่ะ
"งั้นให้ ควอนยองกัม กลับไปได้ไหมหล่ะ"
"จะต้องทรงหนักแน่นดังขุนเขา และมีจิตใจกว้างขวางดังมหาสมุทร นะพะยะค่ะโชฮา อีกอย่าง
ควอนยองกัม ตามเสด็จมาด้วยพระราชบัญชาของชูซังโชนา ถ้าทำแบบนี้จะทำให้เหล่าบริวารคิดว่าทรงยังเยาว์นักนะพะยะค่ะ โชฮา"
"ชิ" นั่น อะไรก๊านนนนนนนน หีงผมกับ ควอนยังกัมเหรอ อะไรเนี้ยยยย ผมไม่ได้ชอบผู้ชายน้าาา
"ห้ามเจ้าสนทนากับองค์รักษ์พวกนั้นนะอิง"
"ทำไมหล่ะพะยะค่ะ ไม่มีอะไรซักหน่อย " ผมเริ่มรู้สึกว่า โชฮา เข้าใจผิดออกทะเลไปแล้วครับ
"หรือเจ้าชอบควอนยองกัมเหรอ" เฮ้อออ ไรเนี้่ย
"ไม่คุยก็ไม่คุยพะยะค่ะ" ผมตัดความรำคาญครับ อะไรนักหนา คงโกรธผมนะครับ ควบม้าห่างออกจากผมไปแล้ว พวกที่เหลือ ต้องควบตามแทบไม่ทัน
พอถึงที่พัก หน้าตาก็คล้าย ๆ กระโจม แคมป์ไฟ อะไรทำนองนั้นน่ะครับ แต่เป็นกระโจม ที่ใหญ่มากเลย แต่ของผมนี่สิครับ ทำไมหน้าตาแปลก ๆ คือหลายดอกไม้จะเยอะไปไหน ผมยืนสตั้น อยู่หน้ากระโจมครับ
"เอ่อออ ชิน พี่ต้องนอนในกระโจมสีหวานแหวว นี่จริง ๆ น่ะเหรอ" ลายมันดูสาวแตกมากครับ
"เอ่ออ ข้าน้อยจะไปถามให้นะครับ " ซักพักชินก็พาแนซีอีกคนมาด้วยครับ ผมเคยเจอคนนี้แล้วครับ
"อิงนาหรี พวกข้าน้อยไม่ทราบว่าจะจัดกระโจมของท่าน โดยอิงกับธรรมเนียมใดหน่ะขอรับ เพราะปกติแนซี ชั้นนาหรีจะเป็นกระโจมสีเรียบและมีขนาดตามที่ท่านเห็น ตรงนั่นโน้นนะครับ " นาหรี คนนี้พลางชี้ไปยัง อีกฝั่งหนึ่งของแคมป์นะครับ
"แต่ท่านเป็นคนของโชฮา และโชฮา ก็บัญชาให้ท่านพักติดกับกระโจมของโชฮาน่ะขอรับ " ใช่ครับ ข้าง ๆ กระโจมของผมเป็นกระโจมขนาดใหญ่เท่าบ้านหลังหนึ่งนะครับ และก็มีหลายมังกรสัญลักษณ์ของราชา ติดไว้ด้วย
"พวกข้าน้อยเลยจำต้องนำ กระโจมที่เทียบได้กับ ชั้นของพระสนม ตำแหน่ง "วอน" มาให้ท่านเพื่อให้คู่ควรกับเกียติยศของท่านน่ะขอรับ อย่างกระโจมนี่ พระสนมโซวอน ก็เคยใช้ตามเสด็จชูซังโชนามาก่อนน่ะขอรับ"
เอ่ออ พระสนม เหรอ บรึ๋ย ตำแหน่งไรเนี่ย ไม่นะ ๆ ๆ ๆ เอ่อออ แต่ดูสีหน้าลำบากใจของ แนซี คนนี้แล้ว เออ ผมก็ไม่อยากเรื่องมากครับ นอนคืนเดียว ไม่เป็นไรหรอก
"อืมมม ขอบใจท่านมากนาหรี" แล้วผมก็เก็บข้าวเก็บของเข้าไปไว้ในกระโจมครับ
ราชสำนักนี่แปลกนะครับ จะต้องเริ่มล่าสัตว์กันตอนหัวค่ำ อาจจะดูสนุกดีหรืออะไรแบบนั้นมั้งครับ แล้วจะเห็นสัตว์ได้ยังไง
ซักพักผมก็แต่งตัวด้วยชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ครับ จริง ๆ ผมพยายามจะไม่ใส่ชุดขาวที่เป็นสัญลักษณ์ในการถวายตัวครับ มันดูจั๊กจี๋ยังไงไม่รู้ แต่ดูชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้นี่สิครับ มีตัวหนังสือจีนเต็มไปหมดเลย ผมเดาว่าชุดผมจะต้องไม่เหมือนชาวบ้านแน่ ๆ ครับ
"ชอบชุดที่ข้าเตรียมไว้ให้ไหมหล่ะ" โชฮา เปิดกระโจมเข้ามาครับ
"ทำไมถึงมีลวดลายเยอะ แบบนี้หล่ะพะยะค่ะ"
"เพราะเจ้ามีตำแหน่งเป็นแนซี อาภรณ์ของเจ้าจึงถูกปกปิดไว้ แม้ว่าชุดเหล่านั้นจะเป็นการป้ายสีจากฝ่ายโซรนก็ตาม แต่ใจของข้าที่ให้เจ้ามันไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความหมายบนอาภรณ์เหล่านั้นหรอกนะ" เอิ่มมม พูดอะไร ไม่รู้ หน้าผมร้อนไปหมดละ
"ธรรมเนียมในวัง ทำให้ข้าไม่สามารถทำให้เจ้าเป็นคนของข้าในทางสัญลักษณ์ได้แบบคนเป็นอึนซึงซังกุง แต่ออกมานอกวังข้าสามารถบอกกับใครต่อใครได้ว่าเจ้าเป็นคนของข้าได้ ด้วยอาภรณ์เหล่านี้แหล่ะ" แล้วโชฮา ก็จูบหน้าผากผมครับ
"ฮิ ฮิ" พวกผมหัวเราะพร้อมกันเลยครับ เพราะว่าพวกผมสูงเท่ากัน โชฮา เลยต้องเขย่งเท้า เพื่อให้หน้าผากของผมตรงกับปากน่ะครับ
"ไว้เรานั่งคุยกันดีกว่าเน๊อะ 555555+"
ซักพักพอโชฮาไปเตรียมตัว ผมก็ออกมาข้างนอกครับ แต่ท่าทีของคนที่มาด้วยกลับเปลี่ยนไปครับ ไม่ว่าจะเป็นนาหรี หรือยองกัม ทั้งหลายพอเห็นผม กลับโค้งให้น่ะครับ คงจะเพราะชุดที่ใส่อยู่แน่ ๆ เลยครับ
"เอ่อออ ชิน ช่วยสอนพี่ ยิงธนู กับใช้ดาบหน่อยดิ" แหม ไหน ๆ ก็จะออกไปล่าสัตว์แล้วน่ะครับ ต้องมีฝีมือนิดนึง โชคดี ผมเรียนรู้เรื่องแบบนี้ได้เร็วครับ คงเพราะเล่นกีฬานั่นแหล่ะครับ ซักพัก ควอนยองกัม ก็เดินเข้ามาสมทบ พร้อมโค้งให้ผม
"ควอนยองกัม ช่วยสอนข้ายิงธนูได้ไหมขอรับ"
"เอ่อออ มันจะไม่งามขอรับนาหรี"
"ไม่งาม ......... ทำไมหล่ะ"
"เอ่ออ เอ่ออ" ควอนยองกัมดูอึกอักครับ
"คงเพราะชุดที่ข้าใส่อยู่ทำท่านลำบากใจสินะ" ผมถามตามตรงครับ
"เอ่อ ขออภัยนาหรี ชุดของท่านเป็นสัญลักษณ์ของเชื้อพระวงศ์ที่แต่งงานแล้ว ตัวอักษรพวกนั้นจะอยู่บนอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์ที่เป็นสตรีเท่านั้น ข้าน้อยจึงต้องรักษาระยะห่างกับท่าน" อะไร กันเนี้ย นอกจากกระโจมลายแต๋วแตกนั่น ผมต้องมาใส่ชุดที่มีตัวหนังสือลายคิตตี้เหรอ โชฮาาาาาาาาาาาา
"เอ่อออ แต่จริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้ล่าอะไรหรอกขอรับ"
"เอ๋ แล้วเรามาทำอะไรกัน"
"ในอดีต พระราชาแทโจ ปฐมกษัตริย์ ทรงโปรดการล่าสัตว์เพราะทรงเป็นนักรบเต็มตัวนะขอรับ แต่พระราชา องค์ถัด ๆ มาจะทรงมีลักษณะเหมือนบัณฑิตมากว่า ธรรมเนียมนี้จึงเปลี่ยนมาเป็นเวลากลางคืน เพราะให้ไม่ยิงโดนสัตว์เลยนะขอรับ"
"อ่ออออออ" สรุปวันนี้เราก็มาคล้ายๆ พักตากอากาศนั่นเองครับ
พอหัวค่ำ โชฮา ก็ทรงทำพิธีครับ คงคล้าย ๆ เปิดงาน โดยการทรงยิงธนูเข้าไปคล้าย ๆ กับว่าได้ทำการล่าสัตว์ไปแล้วนะครับ วันนี้โชฮาดูแปลกตาไปครับ ปกติ ผมจะเห็นโชฮา ใส่ที่คาดหัวเป็นแบบตาข่าย ๆ ที่มีหมุดรัดเป็นมังกรสีแดงหน่ะครับ แต่วันนี้เป็นผ้าคาดลายมังกรแทน เข้ากับชุดที่ใส่อยู่น่ะครับ
ซักพักทั้งขบวนก็เคลื่อนตัวเข้าไปในป่าครับ
"นาหรีขอรับ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เสร็จพิธีการแล้ว นาหรีอยากไปล่าสัตว์จริง ๆ ไหมขอรับ " ชินชวนผมครับ แหม ใครจะพลาด เกิดมาเคยไปที่ไหนหล่ะต้องลองซักครั้ง แต่ผมคงแค่วิ่งไล่นะครับ คงไม่ยิงจริง ๆ หรอก สงสารมัน
"ป่ะ" แล้วผมกับชิน ก็เดินออกจากขบวนครับ พร้อมคบไฟอันนึง สนุกดีนะครับ เอาเข้าจริง ๆ เหมือนมาส่องสัตว์มากกว่า มีกระต่าย กระรอก อะไรเทือกนั้นเยอะมาก ผมกับชินก็เน้นฮา ครับ วิ่งไล่ตัวนู่นนี่ไปตามเรื่อง สนุกดีครับ
พอเริ่มเหนื่อยแล้ว ผมกับชิน ก็เดินกลับที่พักครับ
"ชิน ไม่มีความรักบ้างเหรอ" ผมชวนชินคุยครับ ตามประสาคนยังสับสนอยู่ แฮ่
"ข้าน้อยแต่งงานแล้วขอรับ" ชินตอบเสียงเรียบ ๆ
"ห๊าาาาาาาา แต่งงานแล้ว" เอ่ออ จะเร็วไปไหนเนี่ย
"ในบ้านเมืองของนาหรี เขาแต่งกันตอนอายุประมาณไหนเหรอขอรับ"
"อื้มมม ไม่รู้สิ ก็ 30 มั้ง ประมาณนั้น"
"สามสิบบบบบ ทำไมเป็นเช่นนั้นละขอรับ" คราวนี้เป้นชินทำหน้าเหวอครับ โชซอน เค้าคงแต่งงานกันเร็วมากเลยเน๊อะ
"โชฮา เองก็ทรงสมรส ตั้งแต่ 8 ชันษา แล้วนะขอรับ" แปด ขวบ เอิ่มมมมม ยังไงเนี่ย
"อ่ออ แหะ ๆ ไม่ต้องแปลกใจขนาดน้ันหรอกขอรับนาหรี เพราะทรงแยกตำหนักกันอยู่กับ พีกุงมามะอยู่แล้ว ไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นหรอกขอรับ เริ่มทรงคาดหวังกับการตั้งครรภ์ก็ตอน 12 น่ะขอรับ" เอิ่มม 12 ก็ดูเร็วไปอยู่ดีนะ
"นาหรี ถามข้าน้อยเรื่องความรักเพราะโชฮาใช่ไหมขอรับ"
"อื้มม" ผมรับไปตามความจริงครับ
"นาหรี จะเจ็บปวดนะขอรับ ถ้าไม่รับความจริงของหัวใจตัวเอง" เจ็บปวดเหรอ ...... แล้วจริง ๆ ผมรู้สึกยังไงกันนะ
พอถึงที่พัก โชฮา ก็มาถึงก่อนหน้าผมละครับ แต่หน้าตาดูซึม ๆ ยังไงไม่รู้
"อ่อ เจ้ามาถึงแล้วเหรอ ข้ามีที่ที่นึง อยากพาเจ้าไปหน่ะ" หน้าดูยิ้มครับ แต่เหมือนฝืน ๆ ยังไงไม่รู้
ซักพักเราก็เดินมาถึง ตรงที่หน้าตาเหมือนน้ำตกครับ มีเชวยองกัมกับองค์รักษ์หลวง เดินตามอยู่ห่าง ๆ ครับ
"เจ๋งง่ะ " ผมอุทานออกมาเลยครับ มีหิ่งห้อยเต็มน้ำตกไปหมดเลย
แต่ ... โชฮา นี่สิครับ เหมือนจะอยากพาผมมาดูอะไรสวย ๆ แต่หน้าตาหมองมากเลยครับ
"เป็นอะไรหรือเปล่าท่านลีซุน"
"เอ่อออ ....."
"คงเป็นเรื่องที่บอกข้าน้อยไม่ได้สินะ"
"ไม่หรอก...... คือ......... เมื่อหัวค่ำ จางซังกุง ส่งสารมาตัดพ้อข้าหน่ะ แต่คือ ข้าเองก็อยู่กับเจ้า มันทำให้ข้ารู้สึกผิดกับเจ้าน่ะ เจ้าผิดหวังในตัวข้าไหม"
ผมรู้สึกแปล๊บที่อกครับ แต่ผมมันคนปากไม่ตรงกับใจอยุ่แล้ว "ไม่หนิ ขอรับ จางซังกุงเป็นคนที่ท่านลีซุนรัก ไม่เห็นแปลกที่ท่านจะใส่ใจคนที่ท่านรักหนิขอรับ"
"แต่กับเจ้าก็ไม่แพ้กันเลยนะ อิง" โชฮา มองหน้าผมครับ หึ จะพูดทำไม
ผมพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ออกมาครับ ปกติผมไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายอยู่แล้ว
"ข้าเอง เพียงแต่รู้สึกเจ็บปวด เมื่อคิดว่าท่านมีคนรักอยู่แล้ว"
"สิ่งที่ปิดกั้นข้ากับท่านไม่ใช่เพราะเราสองคนเป็นผู้ชาย แต่ข้าไม่อาจแน่ใจได้ว่า ท่านรักข้าอย่างแท้จริงหรือไม่" ผมพูดความในใจทั้งหมดออกไปทั้งหมด มาถึงขั้นนี้ผมเลิกหลอกตัวเองแล้วครับ
"บ้านเมืองของเรา หล่อหลอมเราสองคนมาอย่างแตกต่างกัน ข้าไม่อาจขอให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าได้ตลอดไป แต่ตอนนี้ข้าข้อร้องจากใจคนคนหนึ่ง เจ้าจะทำให้ช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันนี้ มีแต่ความสุข ให้เราสองคนเดินเคียงกันไปได้หรือไม่"
โชฮา ดึงผมเข้าไปกอด ผมเองกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน เราสองคนได้แต่ร้องไห้อยู่แบบนั้นท่ามกลางหิ่งห้อยที่แวดล้อมพวกเราในคืนมืดมิดนี้
"รัก" เหรอ ผมไม่รู้หรอกครับว่ารักเป็นยังไง แฟนเป็นจริงเป็นจังก็ยังไม่เคยมีกับเค้า มีแต่คุย ๆ กันน่ะครับ เพราะพอเรียนเสร็จผมก็ต้องมาซ้อมเทควันโด้ ตลอด เวลาจะไปกับสาวน่ะไม่มีหรอก
ละนี่ ดันเป็นผู้ชายอีก ละผมจะมองหน้าคนอื่นยังไงเนี้ย โชฮาเอง ก็เป็นผู้ชายมีภรรยาละด้วย แต่ แล้วคำพูดเมื่อคืนคืออะไร
"อ๊ากกกกก สับสน ๆๆ ๆ"
"อิงนาหรี" เสียแผ่ว ๆ มาจากข้างหลังครับ
"เย้ยยย ไอ่บ้า ตกใจหมด" ชิน ครับ โผล่มา ไม่ให้ซุ่มให้เสียง คนกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ
"บัณฑิตข้างนอก กับขุนางฝ่ายโซรน ยอมถอย แล้วนะขอรับ"
"เหรอ อื้มม ก็ดีแล้วหล่ะ คงเลิกเข้าใจผิดซะที"
"เข้าใจผิดอะไรเหรอ ขอรับ"
"เอ่อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร " แต่ชิน เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกผมน่ะครับ
"ตอนนี้นาหรี ไม่ใช่แนซีธรรมดานะขอรับ แต่เป็นคนของโชฮาที่เหล่าบริวารจะต้องให้ความเคารพนะขอรับ"
"วันนี้ช่วงบ่าย โชฮา จะทรงล่าสัตว์ตามราชธรรมเนียมน่ะขอรับ นาหรีจะตามเสด็จไหมขอรับ"
"พี่ไปได้ด้วยเหรอ ............. เอ่อ ไม่ดีกว่า" ผมยังไม่อยากเจอโชฮา ตอนนี้น่ะครับ รู้สึกปั้นหน้าไม่ถูก
"เจ้าจะไม่ไปกับข้าจริง ๆ เหรอ" เสียงที่สอง แผ่ว ๆ มาจากข้างหลัง
"เย้ยยยยย ท่านลีซุน" อะไรกันวันนี้ ทำไมมีแต่คนมาเงียบ ๆ ละขบวนตามเสด็จหายไปไหนหมดกันหมด
"อ่อ พวกที่เหลือ ยังนึกว่าข้าเข้าเฝ้าชูซังโชนาอยู่หน่ะ ข้าเลยแอบแวบมาหาเจ้าก่อน"
"แล้วเจ้าจะไม่ไปกับข้าจริง ๆ เหรอ อุตสาห์ให้ชินมาชวน"
"ข้าน้อย รู้สึกไม่สบายน่ะขอรับ" ผมก็แถไปตามเรื่อง
"ไม่สบาย ? เพราะข้าหรือเปล่า" โชฮาโน้มหน้าผากมาแตะกับหน้าผากผมครับ ผมก็ไม่รู้จะทำไงครับ ยืนนิ่ง ๆ ให้ทำไป ส่วนชิน ก็หลบหน้าหนีครับ แต่ดูท่าชินจะทำตามธรรมเนียมมากกว่าครับ
"ตอนนั้น พีกุง กับอ๊กจองก็เป็นเหมือนกับเจ้านี่แหล่ะ" เอ่อ ... แล้วไปเกี่ยวอะไรกับโชฮาเล้าาาาา
"ไปด้วยกันเถอะ อิง มีแต่ซังกุงและฮังอา อยากจะตามข้าไปทั้งนั้น สาว ๆ พวกนั้นไม่ค่อยได้ออกจากวังหรอก ถ้าเจ้ายังเขินข้าอยู่ ก็คิดซะว่า ไปในฐานะแนซีอารักขา ก็ได้หนิ นะ"
"เอ่ออ ขอรับ" ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงครับ
ช่วงบ่ายเราก็ออกมาถึงตรงป่าครับ ค่อนข้างไกลตัวเมืองเหมือนกัน ผมค่อนข้างตื่นเต้นหน่ะครับ เพราะไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ตอนแรกโชฮา ยืนยันจะให้ผมขี่ม้าตัวเดียวกันครับ แต่พวกองค์รักษ์บอกว่าผิดราชธรรมเนียม เข้าทางผมเลยครับ ได้หัดบังคับม้าไปในตัว
"นาหรี ต้องค่อย ๆ เอาเท้ากระทุ้งท้องของม้านะนะขอรับ" พี่องค์รักษ์ที่เจอกันบ่อย ๆ หน่ะครับ ได้ร่วมทางกันจนได้
"เอ่อ จริง ๆ เราเจอกันตั้งบ่อย พี่รู้แต่ชื่อข้า จริง ๆ แล้วพี่ชื่ออะไรเหรอขอรับ" ผมชวนคุยไป พลางพยายามบังคับม้าไปครับ
"ข้าน้อยชื่อ ควอนแจฮิน ขอรับ เป็นองค์รักษ์หลวงของชูซังโชนาขอรับ เรามักจะเจอกันตอนที่ข้าน้อยต้องเตรียมรับเสด็จโชนา เพื่อออกนอกวังน่ะครับ บังเอิญจริง ๆ"
"อ่อ เป็นอย่างนั้น งั้นข้าขอเรียกท่านว่า พี่แจฮิน ได้ไหมขอรับ" มิน่าหล่ะครับ ถึงได้แต่งตัวเหมือนกับองค์รักษ์ของโชฮา เลยครับ
"ไม่ได้หรอกขอรับ อิงนาหรี ต้องเรียก ว่าควอนยองกัม ขอรับ" ชินแทรกขึ้นมาครับ อ่อ คงเป็นธรรมเนียมสินะ
"ข้าน้อยรู้สึกดีใจนะขอรับ ที่นาหรี ให้ความสนิทสนมกับข้าน้อยขนาดนี้ แหะ ๆ ....... แต่นาหรี เป็นคนของโชฮา จะเรียกใครต่อใครว่าพี่ไม่ได้หรอกขอรับ เพราะท่านมีฐานะสูงกว่า เหล่าบริวาร" เอ่ออออ ..... เรื่องนี้อีกแล้ววว ผมเริ่มรู้สึกเอียนครับ
"ควอนยองกัมเป็นลูกหลานยังบัน สายทหารน่ะขอรับ ถึงได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งที่อายุยังน้อย" ชิน กระซิบบอกผมครับ ถึงว่า อายุไม่น่าจะเกิน 20 น่ะครับ แต่ได้เป็นถึงยองกัมแล้ว
อยู่ดี ๆ โชฮาก็บังคับม้าถอยจากหน้าขบวนมาอยู่ข้างผมครับ ทำให้ทั้งขบวนต้องร่นถอยไปข้างหลังผมจนหมด ผมบังคับม้าไม่เก่ง เลยไปไม่ทันชาวบ้านเลย
"ข้ามาหาเจ้านั่นแหล่ะ ไม่ต้องตามพวกนั้นไปหรอก" ทำไมต้องปล่อยรังสีอำมหิตด้วยอ่ะ > <
"เจ้าเหงา เหรอ"
"ไม่หนิ พะยะค่ะ โชฮา" อยู่ต่อหน้าคนพวกนั้นผมต้องกลับมาเรียกชื่อโชฮาอย่างเป็นทางการครับ
"อืม ไม่มีอะไรหรอก" อะไรของเค้าเนี่ยยยย อยู่ ๆ ก็เหมือนจะเคืองอะไรผม แล้วก็ไม่พูดอะไร
"เจ้าขึ้นมานั่งบนม้าตัวเดียวกับข้าละกัน"
"แต่ มันผิดราชธรรมเนียมไม่ใช่เหรอพะยะค่ะโชฮา" แล้วจริง ๆ พวกผมสองคนก็ตัวใหญ่กันด้วยครับ ม้ามันจะไม่หนักเหรอ ซักพักเชวยองกัม แนซีของโชฮา ก็บังคับม้าเข้ามาครับ
"กราบทูลโชฮา จะทรงทำผิดราชธรรมเนียม เพราะความหึงหวงไม่ได้นะ พะยะค่ะ เหล่าบริวารจะไม่ยำเกรง โปรดใคร่ครวญพะยะค่ะโชฮา" หึง ... หึงใคร ..... ผมเหรอ .... ทำไมอ่ะ
"งั้นให้ ควอนยองกัม กลับไปได้ไหมหล่ะ"
"จะต้องทรงหนักแน่นดังขุนเขา และมีจิตใจกว้างขวางดังมหาสมุทร นะพะยะค่ะโชฮา อีกอย่าง
ควอนยองกัม ตามเสด็จมาด้วยพระราชบัญชาของชูซังโชนา ถ้าทำแบบนี้จะทำให้เหล่าบริวารคิดว่าทรงยังเยาว์นักนะพะยะค่ะ โชฮา"
"ชิ" นั่น อะไรก๊านนนนนนนน หีงผมกับ ควอนยังกัมเหรอ อะไรเนี้ยยยย ผมไม่ได้ชอบผู้ชายน้าาา
"ห้ามเจ้าสนทนากับองค์รักษ์พวกนั้นนะอิง"
"ทำไมหล่ะพะยะค่ะ ไม่มีอะไรซักหน่อย " ผมเริ่มรู้สึกว่า โชฮา เข้าใจผิดออกทะเลไปแล้วครับ
"หรือเจ้าชอบควอนยองกัมเหรอ" เฮ้อออ ไรเนี้่ย
"ไม่คุยก็ไม่คุยพะยะค่ะ" ผมตัดความรำคาญครับ อะไรนักหนา คงโกรธผมนะครับ ควบม้าห่างออกจากผมไปแล้ว พวกที่เหลือ ต้องควบตามแทบไม่ทัน
พอถึงที่พัก หน้าตาก็คล้าย ๆ กระโจม แคมป์ไฟ อะไรทำนองนั้นน่ะครับ แต่เป็นกระโจม ที่ใหญ่มากเลย แต่ของผมนี่สิครับ ทำไมหน้าตาแปลก ๆ คือหลายดอกไม้จะเยอะไปไหน ผมยืนสตั้น อยู่หน้ากระโจมครับ
"เอ่อออ ชิน พี่ต้องนอนในกระโจมสีหวานแหวว นี่จริง ๆ น่ะเหรอ" ลายมันดูสาวแตกมากครับ
"เอ่ออ ข้าน้อยจะไปถามให้นะครับ " ซักพักชินก็พาแนซีอีกคนมาด้วยครับ ผมเคยเจอคนนี้แล้วครับ
"อิงนาหรี พวกข้าน้อยไม่ทราบว่าจะจัดกระโจมของท่าน โดยอิงกับธรรมเนียมใดหน่ะขอรับ เพราะปกติแนซี ชั้นนาหรีจะเป็นกระโจมสีเรียบและมีขนาดตามที่ท่านเห็น ตรงนั่นโน้นนะครับ " นาหรี คนนี้พลางชี้ไปยัง อีกฝั่งหนึ่งของแคมป์นะครับ
"แต่ท่านเป็นคนของโชฮา และโชฮา ก็บัญชาให้ท่านพักติดกับกระโจมของโชฮาน่ะขอรับ " ใช่ครับ ข้าง ๆ กระโจมของผมเป็นกระโจมขนาดใหญ่เท่าบ้านหลังหนึ่งนะครับ และก็มีหลายมังกรสัญลักษณ์ของราชา ติดไว้ด้วย
"พวกข้าน้อยเลยจำต้องนำ กระโจมที่เทียบได้กับ ชั้นของพระสนม ตำแหน่ง "วอน" มาให้ท่านเพื่อให้คู่ควรกับเกียติยศของท่านน่ะขอรับ อย่างกระโจมนี่ พระสนมโซวอน ก็เคยใช้ตามเสด็จชูซังโชนามาก่อนน่ะขอรับ"
เอ่ออ พระสนม เหรอ บรึ๋ย ตำแหน่งไรเนี่ย ไม่นะ ๆ ๆ ๆ เอ่อออ แต่ดูสีหน้าลำบากใจของ แนซี คนนี้แล้ว เออ ผมก็ไม่อยากเรื่องมากครับ นอนคืนเดียว ไม่เป็นไรหรอก
"อืมมม ขอบใจท่านมากนาหรี" แล้วผมก็เก็บข้าวเก็บของเข้าไปไว้ในกระโจมครับ
ราชสำนักนี่แปลกนะครับ จะต้องเริ่มล่าสัตว์กันตอนหัวค่ำ อาจจะดูสนุกดีหรืออะไรแบบนั้นมั้งครับ แล้วจะเห็นสัตว์ได้ยังไง
ซักพักผมก็แต่งตัวด้วยชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ครับ จริง ๆ ผมพยายามจะไม่ใส่ชุดขาวที่เป็นสัญลักษณ์ในการถวายตัวครับ มันดูจั๊กจี๋ยังไงไม่รู้ แต่ดูชุดที่เค้าเตรียมไว้ให้นี่สิครับ มีตัวหนังสือจีนเต็มไปหมดเลย ผมเดาว่าชุดผมจะต้องไม่เหมือนชาวบ้านแน่ ๆ ครับ
"ชอบชุดที่ข้าเตรียมไว้ให้ไหมหล่ะ" โชฮา เปิดกระโจมเข้ามาครับ
"ทำไมถึงมีลวดลายเยอะ แบบนี้หล่ะพะยะค่ะ"
"เพราะเจ้ามีตำแหน่งเป็นแนซี อาภรณ์ของเจ้าจึงถูกปกปิดไว้ แม้ว่าชุดเหล่านั้นจะเป็นการป้ายสีจากฝ่ายโซรนก็ตาม แต่ใจของข้าที่ให้เจ้ามันไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความหมายบนอาภรณ์เหล่านั้นหรอกนะ" เอิ่มมม พูดอะไร ไม่รู้ หน้าผมร้อนไปหมดละ
"ธรรมเนียมในวัง ทำให้ข้าไม่สามารถทำให้เจ้าเป็นคนของข้าในทางสัญลักษณ์ได้แบบคนเป็นอึนซึงซังกุง แต่ออกมานอกวังข้าสามารถบอกกับใครต่อใครได้ว่าเจ้าเป็นคนของข้าได้ ด้วยอาภรณ์เหล่านี้แหล่ะ" แล้วโชฮา ก็จูบหน้าผากผมครับ
"ฮิ ฮิ" พวกผมหัวเราะพร้อมกันเลยครับ เพราะว่าพวกผมสูงเท่ากัน โชฮา เลยต้องเขย่งเท้า เพื่อให้หน้าผากของผมตรงกับปากน่ะครับ
"ไว้เรานั่งคุยกันดีกว่าเน๊อะ 555555+"
ซักพักพอโชฮาไปเตรียมตัว ผมก็ออกมาข้างนอกครับ แต่ท่าทีของคนที่มาด้วยกลับเปลี่ยนไปครับ ไม่ว่าจะเป็นนาหรี หรือยองกัม ทั้งหลายพอเห็นผม กลับโค้งให้น่ะครับ คงจะเพราะชุดที่ใส่อยู่แน่ ๆ เลยครับ
"เอ่อออ ชิน ช่วยสอนพี่ ยิงธนู กับใช้ดาบหน่อยดิ" แหม ไหน ๆ ก็จะออกไปล่าสัตว์แล้วน่ะครับ ต้องมีฝีมือนิดนึง โชคดี ผมเรียนรู้เรื่องแบบนี้ได้เร็วครับ คงเพราะเล่นกีฬานั่นแหล่ะครับ ซักพัก ควอนยองกัม ก็เดินเข้ามาสมทบ พร้อมโค้งให้ผม
"ควอนยองกัม ช่วยสอนข้ายิงธนูได้ไหมขอรับ"
"เอ่อออ มันจะไม่งามขอรับนาหรี"
"ไม่งาม ......... ทำไมหล่ะ"
"เอ่ออ เอ่ออ" ควอนยองกัมดูอึกอักครับ
"คงเพราะชุดที่ข้าใส่อยู่ทำท่านลำบากใจสินะ" ผมถามตามตรงครับ
"เอ่อ ขออภัยนาหรี ชุดของท่านเป็นสัญลักษณ์ของเชื้อพระวงศ์ที่แต่งงานแล้ว ตัวอักษรพวกนั้นจะอยู่บนอาภรณ์ของเชื้อพระวงศ์ที่เป็นสตรีเท่านั้น ข้าน้อยจึงต้องรักษาระยะห่างกับท่าน" อะไร กันเนี้ย นอกจากกระโจมลายแต๋วแตกนั่น ผมต้องมาใส่ชุดที่มีตัวหนังสือลายคิตตี้เหรอ โชฮาาาาาาาาาาาา
"เอ่อออ แต่จริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้ล่าอะไรหรอกขอรับ"
"เอ๋ แล้วเรามาทำอะไรกัน"
"ในอดีต พระราชาแทโจ ปฐมกษัตริย์ ทรงโปรดการล่าสัตว์เพราะทรงเป็นนักรบเต็มตัวนะขอรับ แต่พระราชา องค์ถัด ๆ มาจะทรงมีลักษณะเหมือนบัณฑิตมากว่า ธรรมเนียมนี้จึงเปลี่ยนมาเป็นเวลากลางคืน เพราะให้ไม่ยิงโดนสัตว์เลยนะขอรับ"
"อ่ออออออ" สรุปวันนี้เราก็มาคล้ายๆ พักตากอากาศนั่นเองครับ
พอหัวค่ำ โชฮา ก็ทรงทำพิธีครับ คงคล้าย ๆ เปิดงาน โดยการทรงยิงธนูเข้าไปคล้าย ๆ กับว่าได้ทำการล่าสัตว์ไปแล้วนะครับ วันนี้โชฮาดูแปลกตาไปครับ ปกติ ผมจะเห็นโชฮา ใส่ที่คาดหัวเป็นแบบตาข่าย ๆ ที่มีหมุดรัดเป็นมังกรสีแดงหน่ะครับ แต่วันนี้เป็นผ้าคาดลายมังกรแทน เข้ากับชุดที่ใส่อยู่น่ะครับ
ซักพักทั้งขบวนก็เคลื่อนตัวเข้าไปในป่าครับ
"นาหรีขอรับ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เสร็จพิธีการแล้ว นาหรีอยากไปล่าสัตว์จริง ๆ ไหมขอรับ " ชินชวนผมครับ แหม ใครจะพลาด เกิดมาเคยไปที่ไหนหล่ะต้องลองซักครั้ง แต่ผมคงแค่วิ่งไล่นะครับ คงไม่ยิงจริง ๆ หรอก สงสารมัน
"ป่ะ" แล้วผมกับชิน ก็เดินออกจากขบวนครับ พร้อมคบไฟอันนึง สนุกดีนะครับ เอาเข้าจริง ๆ เหมือนมาส่องสัตว์มากกว่า มีกระต่าย กระรอก อะไรเทือกนั้นเยอะมาก ผมกับชินก็เน้นฮา ครับ วิ่งไล่ตัวนู่นนี่ไปตามเรื่อง สนุกดีครับ
พอเริ่มเหนื่อยแล้ว ผมกับชิน ก็เดินกลับที่พักครับ
"ชิน ไม่มีความรักบ้างเหรอ" ผมชวนชินคุยครับ ตามประสาคนยังสับสนอยู่ แฮ่
"ข้าน้อยแต่งงานแล้วขอรับ" ชินตอบเสียงเรียบ ๆ
"ห๊าาาาาาาา แต่งงานแล้ว" เอ่ออ จะเร็วไปไหนเนี่ย
"ในบ้านเมืองของนาหรี เขาแต่งกันตอนอายุประมาณไหนเหรอขอรับ"
"อื้มมม ไม่รู้สิ ก็ 30 มั้ง ประมาณนั้น"
"สามสิบบบบบ ทำไมเป็นเช่นนั้นละขอรับ" คราวนี้เป้นชินทำหน้าเหวอครับ โชซอน เค้าคงแต่งงานกันเร็วมากเลยเน๊อะ
"โชฮา เองก็ทรงสมรส ตั้งแต่ 8 ชันษา แล้วนะขอรับ" แปด ขวบ เอิ่มมมมม ยังไงเนี่ย
"อ่ออ แหะ ๆ ไม่ต้องแปลกใจขนาดน้ันหรอกขอรับนาหรี เพราะทรงแยกตำหนักกันอยู่กับ พีกุงมามะอยู่แล้ว ไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นหรอกขอรับ เริ่มทรงคาดหวังกับการตั้งครรภ์ก็ตอน 12 น่ะขอรับ" เอิ่มม 12 ก็ดูเร็วไปอยู่ดีนะ
"นาหรี ถามข้าน้อยเรื่องความรักเพราะโชฮาใช่ไหมขอรับ"
"อื้มม" ผมรับไปตามความจริงครับ
"นาหรี จะเจ็บปวดนะขอรับ ถ้าไม่รับความจริงของหัวใจตัวเอง" เจ็บปวดเหรอ ...... แล้วจริง ๆ ผมรู้สึกยังไงกันนะ
พอถึงที่พัก โชฮา ก็มาถึงก่อนหน้าผมละครับ แต่หน้าตาดูซึม ๆ ยังไงไม่รู้
"อ่อ เจ้ามาถึงแล้วเหรอ ข้ามีที่ที่นึง อยากพาเจ้าไปหน่ะ" หน้าดูยิ้มครับ แต่เหมือนฝืน ๆ ยังไงไม่รู้
ซักพักเราก็เดินมาถึง ตรงที่หน้าตาเหมือนน้ำตกครับ มีเชวยองกัมกับองค์รักษ์หลวง เดินตามอยู่ห่าง ๆ ครับ
"เจ๋งง่ะ " ผมอุทานออกมาเลยครับ มีหิ่งห้อยเต็มน้ำตกไปหมดเลย
แต่ ... โชฮา นี่สิครับ เหมือนจะอยากพาผมมาดูอะไรสวย ๆ แต่หน้าตาหมองมากเลยครับ
"เป็นอะไรหรือเปล่าท่านลีซุน"
"เอ่อออ ....."
"คงเป็นเรื่องที่บอกข้าน้อยไม่ได้สินะ"
"ไม่หรอก...... คือ......... เมื่อหัวค่ำ จางซังกุง ส่งสารมาตัดพ้อข้าหน่ะ แต่คือ ข้าเองก็อยู่กับเจ้า มันทำให้ข้ารู้สึกผิดกับเจ้าน่ะ เจ้าผิดหวังในตัวข้าไหม"
ผมรู้สึกแปล๊บที่อกครับ แต่ผมมันคนปากไม่ตรงกับใจอยุ่แล้ว "ไม่หนิ ขอรับ จางซังกุงเป็นคนที่ท่านลีซุนรัก ไม่เห็นแปลกที่ท่านจะใส่ใจคนที่ท่านรักหนิขอรับ"
"แต่กับเจ้าก็ไม่แพ้กันเลยนะ อิง" โชฮา มองหน้าผมครับ หึ จะพูดทำไม
ผมพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ออกมาครับ ปกติผมไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายอยู่แล้ว
"ข้าเอง เพียงแต่รู้สึกเจ็บปวด เมื่อคิดว่าท่านมีคนรักอยู่แล้ว"
"สิ่งที่ปิดกั้นข้ากับท่านไม่ใช่เพราะเราสองคนเป็นผู้ชาย แต่ข้าไม่อาจแน่ใจได้ว่า ท่านรักข้าอย่างแท้จริงหรือไม่" ผมพูดความในใจทั้งหมดออกไปทั้งหมด มาถึงขั้นนี้ผมเลิกหลอกตัวเองแล้วครับ
"บ้านเมืองของเรา หล่อหลอมเราสองคนมาอย่างแตกต่างกัน ข้าไม่อาจขอให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าได้ตลอดไป แต่ตอนนี้ข้าข้อร้องจากใจคนคนหนึ่ง เจ้าจะทำให้ช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันนี้ มีแต่ความสุข ให้เราสองคนเดินเคียงกันไปได้หรือไม่"
โชฮา ดึงผมเข้าไปกอด ผมเองกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน เราสองคนได้แต่ร้องไห้อยู่แบบนั้นท่ามกลางหิ่งห้อยที่แวดล้อมพวกเราในคืนมืดมิดนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น