คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพื่อน
พอผมกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก็เดินถามทางมาเรื่อย ๆ หน่ะครับเพราะผมไม่เคยไป ทงตงกุง เลย
“เออ พี่ครับ ตำหนักทงตงกุงไปทางไหนครับ”
“เอ๋ นาหรี ท่านนี่นา” พี่ทหารที่ผมเคยเจอที่หน้าวัง ตอนมาถึงที่นี่วันแรกน่ะครับ
“พี่สบายดีไหมครับ ไม่เจอกันตั้งหลายวัน” ผมรู้สึกดีใจครับ ว่าอย่างน้อยก็เริ่มมีคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ที่นี่บ้างแล้ว
“ข้าน้อยสบายดีนาหรี ละนี่ท่านจะไปไหนงั้นเหรอ”
“ข้าต้องไปเข้าเฝ้าเซจาโชฮา ที่ทงตงกุงน่ะ พี่พอจะรู้ทางไหมครับ”
“เดินไปข้างหน้าอีกแป๊บเดียวก็ถึงแล้วหล่ะขอรับ แหม่ ท่านได้ดิบได้ดีอย่าลืมข้าน้อยก็แล้วกัน 5555+”
เอิ่มมมมมม T T มะใช่แบบนั้นนะ “แฮะ ๆ ขอบคุณมากครับพี่ ข้าไปก่อนหล่ะ”
ซักพักผมก็มาหยุดอยู่หน้าทางเข้าตำหนักครับ “คือข้ามาเข้าเฝ้า โชฮา น่ะครับ”
“ท่าน คงเป็นอิงนาหรี ซินะ เชิญข้างในเลย” พี่ที่เป็นทหารยามเปิดทางให้ผมเดินเข้าไปน่ะครับ พี่พวกนี้แต่งตัวตลกดีครับ ใส่หมวกนักมายากลสีแดงละก็มีขนนกยาว ๆ สองข้างบนหมวกด้วย 5555+
เดินเข้าไปซักพักที่หน้าตำหนัก ผมก็เจอกับ เชวยองกัม “ท่านมาแล้วเหรอ เข้าไปข้างในสิ โชฮา รอท่านอยู่แล้ว”
ทางข้างในตำหนักซับซ้อนมากเลยนะครับ หน้าตาเหมือนมีกล่องซ้อน ๆ กันอยู่หลาย ๆ ใบ ถ้าไม่มีคนเดินนำแบบนี้ผมคงหลงแน่ครับ “เอ่อ ยองกัม ขอรับ เรื่องเมื่อคืน นี่ โชฮา จะเป็นไรไหมครับ”
“ท่านปล่อยให้เป็นเรื่องของราชสำนักเถอะ สิ่งที่เกิดขึ้นฝ่ายโซรน คงได้วางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว” เชวยองกัม กล่าวเสียงเรียบ ๆ
“แต่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะขอรับ”
“เข้าใจผิดเหรอ ........... หึ หึ ท่านคิดว่า โชฮา ตกหลุมพรางพวกนั้นอย่างนั้นเหรอ ท่านดูโชฮาผิดไปแล้วหล่ะ”
“อิงนาหรี ขอเข้าเฝ้า พะยะค่ะโชฮา” ผมมาถึงที่ประทับของโชฮา จนได้ครับ มีพี่ฮังอาที่เคยเห็นตามเสด็จโชฮา บ่อย ๆ มายืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“เข้ามา”
ผมเดินเข้าไปละก็โค้งตามทำเนียมครับ ผมเรียนรู้ว่า ที่นี่เหมือนบ้านเราครับ คือจะยืนค้ำหัวคนที่สูงศักดิ์กว่าเราไม่ได้ ผมจึงนั่งลงบนฟูกที่วางอยู่หน้าโต๊ะของโชฮา น่ะครับ
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยกับการประลองหรือไม่”
“ไม่หรอก กระหม่อมเล่นออกกำลังกายบ่อย พะยะค่ะโชฮา”
“อยู่กันสองคนข้าให้เจ้าเรียกข้าว่ายังไง”
เอ๋ ... ผมนึกว่าโชฮาจำไม่ได้แล้วนะครับ นึกว่าที่พูดวันนั้นเพราะเมา
“เอ่อ ... ขอรับ ท่านลีซุน”
“แล้วเรื่องนั้น คือ ...................”
“เรื่องที่เจ้าอยู่ในสถานะคนของข้าน่ะเหรอ ทำไมหล่ะ เจ้าไม่ชอบเหรอ”
“คือ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะขอรับ และข้าเองก็เป็นผู้ชายเหมือน ๆ กับท่านลีซุนนะขอรับ” เอ๊ะ ทำไมผมถึงได้เห็นว่า แว้บหนึ่ง โชฮา ทำหน้าเหมือนโกรธ แต่ก็แป๊บเดียวเท่านั้นแหล่ะครับ ก็กลับมาทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนเดิม
“เจ้าคิดว่า ข้าเป็นเพื่อนของเจ้าหรือเปล่า อิง”
“เครื่องว่างเพคะโชฮา” เฮ้อออ โชคดีจริง ๆ ครับ ป้าซังกุงห้องเครื่อง ยกเครื่องว่างมาให้โชฮา พอดี ไม่งั้นผมคงโดนคั้นจนเละ
“เรามากินไป คุยกันไปดีกว่า” พอป้าซังกุงอยู่ด้วยเท่านั้นแหล่ะ ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เชอะ สร้างภาพจริง ๆ 555+
เป็นข้าวต้มถั่วแดงนะครับ อยู่ในชามสีขาว ๆ แต่งหน้า ซะจนไม่กล้ากินเลยครับ เสียดายความน่ารักของลวดลายพวกนั้น
“ข้า ลืมนึกถึงความรู้สึกของเจ้าไปน่ะ อิง คิดแค่ว่า อยากจะลดอำนาจของฝ่ายโซรน ที่สนับสนุนจางซังกุงลง เท่านั้นเอง”
“ลดอำนาจของ จางซังกุง เหรอขอรับ”
“พวกนั้นคิดว่า สามารถทำให้ข้าตกหลุมพรางพวกเค้าได้ แต่เป็นพวกเค้าต่างหากที่ตกหลุมพรางข้า ลำพังถ้าจะหวังอาศัยการสมรสจากลูกสาวของยังบัน ฝ่ายโนรน เพื่อนคานอำนาจจากฝ่ายโซรนก็เป็นไปได้ยาก เพราะข้าเป็นเพียงรัชทายาท และพีกุงก็ยังสาวยังแส้ ดังนั้นเจ้าจะสามารถช่วยข้าในเรื่องนี้ได้ไหม อิง เจ้าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราเถอะ”
เอาหล่ะสิ นี่ผมจะต้องตกกระไดพลอยโจร เป็นคู่ Y โชซอนจริง ๆ เหรอเนี้ย ม่ายยยยยยยยยยยยยยย
เกิดผมกลับบ้านได้ ละที่เกาหลีดันค้นพบบันทึกประวัติศาสตร์ถึงเรื่องนี้หล่ะ โอวววววววววววววว
“อิง” โชฮา ขยับสำรับเครื่องว่างออกแล้วมาคร่อมบนตัวผมไว้ และส่งสายตาเว้าวอนครับ อะไรเนี่ยย
“ชุงจอนมาม่า เสด็จแล้วววว” เสียงซังกุงข้างนอกตะโกนครับ ระฆังช่วยชีวิตจริง ๆ
ชุงจอนมาม่า สาวเท้าเข้ามาครับ ผมรีบลุกออกมายืนข้าง ๆ พร้อมโค้ง เตรียมออกไป
“อิงนาหรี เจ้าอยู่ที่นี่แหล่ะ ข้าอยากจะคุยกับเจ้าซะหน่อย” เวรละ แม่ของโชฮา จะคุยอะไรกับผมเนี่ย
“เซจา เจ้ากำลังเสวยเครื่องว่างกับอิงนาหรีเหรอ”
“พะยะค่ะ อมม่ามามา”
“ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามาจาก เซจา แล้วหล่ะ อิงนาหรี ข้าขอเรียกเจ้าว่าอิง แบบลูกชายของข้าได้ไหม”
“ดะ .. ได้สิ พะยะค่ะ ชุงจอนมาม่า”
“ในดินแดนของเจ้า ท่านพ่อและท่านแม่ของเจ้าคงเลี้ยงดูเจ้ามาคล้าย ๆ กับ บุตรชายของยังบัน สินะ เจ้าถึงได้มีรูปร่างและบุคลิกเช่นนี้ พวกฮังอาสาว ๆ น่ะ พูดถึงเจ้ากันทั้งนั้น 5555+ ใช่ไหมหล่ะ เบคซังกุง” ชุงจอนมาม่า หันหน้าไปขอความเห็นจากคุณยายซังกุงที่ตามมาด้วย
“เพคะ มามะ หม่อมได้ยินเรื่อง ทูร่งรูปงาม ตั้งแต่วันแรกที่นาหรี เข้าวังเลยเพคะมามะ” แหม ชมซะผมเขิลลล นะเนี่ย อิ อิ
“ข้าต้องขอบใจเจ้านะ ที่ยอมเป็นเพื่อนกับลูกชายของข้า” ชุงจอนมาม่า มองผมด้วยสายตาเอ็นดูครับ
“อ่ะ เอ่ออ พะยะค่ะ มาม่า” ผมไปไม่เป็นเลยครับ
“และ เซจา เจ้าก็หมั่นไปหาพีกุงบ้างหล่ะ พาอิงไปกับเจ้าด้วย จะได้เป็นเพื่อนคุยกัน ข้าคงต้องไปแล้วหล่ะ ไม่อยากขัดจังหวะความสุขของคนวัยหนุ่มกัน ข้าว่าจะไปเยี่ยม วังแทบีมาม่า ซักหน่อย ” นั่นมาเร็ว เคลมเร็วอีกคนละครับ
“พะยะค่ะ อมม่ามามา” ทุกคนลุกขึ้นส่งเสด็จครับ แต่เดินไปได้แค่ สอง สาม ก้าว ชุงจอนมาม่า ก็หันหลังกลับมาครับ
“อ่อ อิง ในดินแดนของเจ้า แม่ของเพื่อน เจ้าเรียกนางว่าอะไรหล่ะ”
“เรียกว่า แม่ เช่นกัน พะยะค่ะ ชุงจอนมาม่า”
“งั้น เจ้าก็เรียกข้า ว่า อมม่ามามา เหมือนกับ เซจา เถอะนะ”
“พะยะค่ะ อมม่ามามา”
ทีนี้ก็เหลือแต่ผมกับ โชฮา อยู่ในห้อง สองคนละ ครับ
“รีบกิน เครื่องว่างเถอะครับ ท่านลีซุน” ผมรีบกลบเคลื่อนโดยการยก ข้าวต้มถั่งแดงขึ้นซด ครับ
“แล้วเรื่องนั้นเจ้าว่ายังไงหล่ะ”
“อ่ะ เอ่ออออ ขอรับ” แหม ก็แม่เค้ามาทำดีกับเราซะขนาดนี้ละ จะไม่ช่วยก็กะไร และผมก็ไม่รู้จะอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ดีมากกก งั้นวันนี้ เราไปกินข้าวเย็นกันที่ตำหนัก พีกุงดีกว่า”
“ให้ ข้า ไปด้วยจะไม่เป็นไรหรือขอรับ”
“ไม่เป็นไรหรอก พีกุง นางคงพอใจที่จะมีคนมาช่วยลดอำนาจของ จางซังกุงลงหน่ะ ข้าจะได้บอกตำหนักโน้นให้เตรียมอาหารสำหรับเจ้าด้วย”
“ขอรับ ท่านลีซุน”
พอซักประมาณ ทุ่ม ผมก็มาถึงตำหนักของ พีกุงมามะ ครับ พีกุงมามะรอรับเสด็จโชฮา อยู่หน้าตำหนักเลยครับ ดูท่าคงเป็นธรรมเนียมของที่นี่
“ไม่ได้เสด็จมาเสียนานนะเพคะ โชฮา”
“ช่วงนี้ ข้าช่วยราชกิจของ ชูซังโชนา เจ้าก็รู้ นี่ข้าพาอิงมาด้วยนะ” พีกุงมามะยิ้มให้ผมด้วยหน้าตาโอบอ้อม ครับ คนอะไรสวยจริง ๆ
“เสด็จข้างในก่อนสิเพคะ เชิญท่านด้วยอิงนาหรี ข้าได้สั่งให้ห้องเครื่องเตรียมอาหารไว้แล้ว”
“ฉลองกันแบบนี้ ไม่เรียกหม่อมฉันเลยนะเพคะ” จางซังกุงเดินเข้ามาพร้อมกับโค้งให้โชฮา และพีกุงมามะครับ โผล่มาจากไหนเนี่ยยย
แต่ไม่มีใครพูดอะไรกันเลยครับ มีแต่พีกุงมามะกับจางซังกุงปล่อยรังสีอำมหิต ใส่กันครับ ส่วนโชฮา ก็ทำหน้าลำบากใจมากครับ 555+
“อ๊กจอง เจ้าก็มากินด้วยกันสิ ข้ากับอิง กำลังเข้าไปพอดีเลย” โชฮา ดูเหมือนจะพยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหน่ะครับ
“อิงเหรอ เพคะ โชฮาทรงสนิทกับนาหรี ขนาดนี้เชียวนะเพคะ” จางซังกุงพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มครับ แต่นัยของคำพูดที่อยู่ข้างในนี่สิ
“พระเมตตาจากโชฮา ไม่ได้มีไว้สำหรับเจ้าคนเดียวหรอกนะ จางซังกุง” นี่อีกคนครับ พีกุงมามะแสนสวยของผมกำลังแปลงร่างเป็นนางยักษ์อีกคนแล้ววววว
ซักพัก ทั้งหมดก็เคลื่อนขบวนมาอยู่ตรง ข้างในตำหนักครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีสระปลาคาฟ อยู่กลางตำหนักของ พีกุงมาม่าได้ สวยมากเลยครับ สำรับอาหารถูกจัดไว้ริมสระพอดีครับ แล้วก็จุดโคมไฟ และก็เทียนสว่างไสวไปทั่วเลยครับ
“ท่านแปลกใจเหรอ นาหรี ที่มีสระแบบนี้อยู่ในพระตำหนักหน่ะ” จางซังกุงเหมือนจะชวนผมคุยครับ
“อ่ะ เอ่อ ขอรับ สวยมากเลยขอรับ”
“ก็มินซังกุง พ่อตาของโชฮา เป็นยังบัน ทีมีความมั่งคั่งซะขนาดนั้น ถ้าตำหนักนี้เป็นของข้า ก็ไม่รู้ว่าข้าจะทำให้สวยได้เท่านี้หรือเปล่า ฮิ ฮิ” เอิ่มมมม เป็นตำหนักของจางซังกุงอย่างนั้นเหรอ ผมเริ่มรู้สึกว่าจางซังกุง เป็นผู้หญิงที่ร้ายมากเลยครับ ทำไมถึงได้พูดจาแบบนี้ในขณะที่เจ้าของตำหนักเค้านั่งอยู่ตรงหน้าของตัวเองอย่างนั้น
“สถานที่เอง ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ คนในชนชั้นที่สมควรอยู่ได้อยู่อาศัย จริงไหมหล่ะ จางซังกุง” นั่น !!! เจ้าบ้านก็ไม่แพ้กันครับ โอววว อะไรเนี้ยย
“ข้าว่าเรามาชิม ปลา นี่ดีกว่า” โชฮา เอาตะเกียบคีบ ปลาให้ ทุกคนครับ จากนั้นเราก็คุยไป กินไปครับ ซักพักก็มีวงดนตรีหลวงเล่นให้ฟังด้วยครับ ผมก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ ถนัดพวก บรูโน่ มาร์หรือ มาร์รูน ไฟว์ฟ อะไรแบบนั้นมากกว่า
ผ่านไปซักพัก โชฮา กับผมก็ขอตัวกลับครับ ทุกคนก็มายืนส่งเสด็จเหมือนกับตอนที่เข้ามานั่นแหล่ะครับ แต่พอเดินออกมาได้ซักพัก
“โชฮา เพคะ พอจะมีเวลาสนทนากับหม่อมฉันซักครูได้ไหมเพคะ” จางซังกุงครับ
“เอ่ออ งั้นข้าน้อยขอตัวกลับที่พักก่อนนะ พะยะค่ะโชฮา” คนเป็นแฟนเค้าจะคุยกันครับ ผมไม่อยากเป็นก้างขวางคอ
“เจ้าอย่าเพิ่งไปเลย รอข้าอยู่นี่ก่อนเถอะ เจ้ามีอะไรหล่ะ อ๊กจอง” แล้วโชฮา กับจางซังกุง ก็แยกตัวออกไปคุยกันครับ แต่พอกลับมานี่สิ
“ไปเถอะ” โชฮา เดินนำขบวนกลับทงตงกุงครับ แต่กลับมาหน้าเครียดมากครับ ไม่รู้คุยอะไรกัน
“วันนี้เจ้าก็ค้างที่นี่เถอะ เชวยองกัม บอกฮังอาให้จัดเครื่องบรรทมของข้าสำหรับ 2 คนนะ”
“ไม่ได้นะพะยะค่ะ โชฮา แม้แต่ พีกุงมามะ ยังมาบรรทมที่นี่ไม่ได้เลย มันผิดราชธรรมเนียม นะพะยะค่ะ โชฮา”
“แล้ว ท่านจะให้ข้าไปค้างยังที่พักของแนซีอย่างนั้นเหรอ ยองกัม ราชธรรมเนียมที่ไม่สอดคล้องต่อความจริงแบบเนี้ย ในยุคของข้าจะต้องถูกปรับปรุงแก้ไข”
ซักพักผมก็กลับมาที่ห้องของโชฮา ครับ แต่โชฮา กลับเปิดประตูที่อยู่ข้าง ๆ แล้วไปนั่งห้อยขาอยู่ตรงชานตำหนักนะครับ ผมก็เลยเดินไปนั่งอยู่ข้าง ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าขอรับ ท่านลีซุน” โชฮา ก็เอียงหัวมาวางบนไหล่ผมครับ
“อ๊งจอง มาถามกับข้าว่า ข้ายังรักนางอยู่หรือไม่” ว่าแล้วววว ผู้ชาย จะเครียดได้ขนาดนี้ก็เรื่องสาว ทั้งนั้นแหล่ะครับ
“แล้วท่านยังรักนางอยู่ไหม”
“รักสิ รักมากด้วย ข้าอยากให้ข้าเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง กับให้นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีเซจาโชฮา ไม่มียังบัน”
“ข้าขออยู่แบบนี้ซักพักนะอิง” ผมได้แต่โอบโชฮาไว้ครับ ไม่รู้จะปลอบยังไงจริง ๆ
บรรยากาศคืนนี้ก็เงียบเหงาจริง ๆ ครับ ผมได้แต่มองพระจันทร์เสี้ยว ที่รายล้อมไปด้วยดวงดาว ไปจนสุดลูกหูลูกตา
ความคิดเห็น