ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายของราชา (Y เน๊อะ)

    ลำดับตอนที่ #4 : วิถีมหาดเล็ก (2)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 56


    "ป๊อง แป๊ง ป๊อง แป๊ง "

    หือ เสียงไรเนี้ย น่าฬิกาข้อมือผมเพิ่มจะบอกเวลา ตี 4 
    ในวังนี่ตื่นเช้ากันขนาดนี้เลยเหรอ กว่าผมจะนอนหลับ ก็ปาเข้าไป เที่ยงคืนละครับ มัวแต่คิดนี่ นู่น นั่น

    กว่าผมจะทำธุระเสร็จ อาบน้ำ ล้างหน้า แต่งตัวออกมาก็เกือบตี 5 ละครับ (หนาวมั๊กมว๊ากกกกก)

    เอ๊ะ อะไร หือ "ว๊ากกกกก" ผมกรีดร้องใส่เงามืดอันนั้น 

    "ข้าเอง ๆ อิงนาหรี" 

    คุณพระ ผมอยากตบกระโหลก ใส่เจ้านี่จริง ๆ มันจะมายืนมืด ๆ รับอรุณตรงนี้ทำไม

    "แชแนซี มีอะไรเหรอ ทำไมไม่ให้สุ่มให้เสียง ผมเกือบช็อคตาย" เอ๊ะ หรือมันจะมาหาเรื่องผมอีก

    "หือ ช็อค คืออะไร .......... แต่ช่างเถอะ คิมแทกัม ให้หาแหน่ะ ข้าเลยมารอเจ้าอยู่หน้าห้องนี่แหล่ะ" 
    เอิ่มมม ผมคงต้องระวังตัวเวลาพูดให้มากขึ้น 

    ซักพักผมก็ถูกพา มาที่ห้องทำงานของ คิมแทกัม ที่เมื่อวานผมเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง

    "สวัสดีครับ คิมแทกัม" ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตามที่ม๊า สอนมาอย่างดี

    นั่นไงครับ ทำหน้างงอีกแล้ว

    "อืมม ดูท่าทางคงจะเป็นวิธีทักทายตามแบบสถานที่ที่เจ้าจากมาซินะ" 

    "ที่โชซอน เราจะโค้งเพื่อคำนับกันหน่ะ เจ้าก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปก็แล้วกัน"

    "ขอรับ แทกัมมานยิม"

    "ที่ข้าเรียกเจ้ามาแต่เช้า เพราะเดี๋ยวข้าต้องเข้าเฝ้าชูซังโชนา หน่ะ เลยอยากจะจัดการเรื่องของเจ้าให้เสร็จไป"

    "ในตอนแรก ที่เซจาโชฮา ฝากเจ้าเข้ามา ข้าก็ไม่ทันได้คิดว่า จะต้องเกิดแรงต้านจากแนซี ที่อยู่มาก่อน แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่แนซี จริง ๆ ก็ตาม เพราะตำแหน่ง แนซี นั้นแต่งตั้งโดยพระบัญชาของชูซังโชนา โดยผู้ที่จะได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้ง จะต้องสอบทั้ง ข้อเขียนและการปฏิบัติ ยังไงหล่ะ พวกนั้นถึงได้ไม่ยอมรับเจ้า"

    "แล้วผมต้องทำยังไงขอรับ" 

    "เดี๋ยวปาร์คยองกัม จะเป็นธุระให้กับเจ้าเอง"

    "ขอบคุณครับ แทกัมมานยิม" ผมพูดพร้อมโค้งคำนับ แหม ผมนิหัวไวนะครับ อิ อิ

    เฮ้อออ นิผมต้องมาสอบอะไรแบบนี้จริง ๆ เหรอ ผมมองว่ามันเสียเวลาหน่ะครับ แทนที่ผมจะหาวิธีกลับบ้าน กลับต้องมานั่งทำอะไรที่เสียเวลาแบบนี้ ป่านนี้ไม่รู้ ที่บ้านจะห่วงขนาดไหนแล้ว ทริปทัวร์ที่ผมมาด้วย ก็คงวุ่นหน้าดู ลูกทัวร์หายไปแบบนี้ คงเต้นกันทั้งกงศุลไทยในเกาหลีแล้วหล่ะครับ ผมอยากให้ที่บ้านสบายใจมากกว่าหน่ะครับ ว่าผมไม่ได้เป็นอะไรไป หรือลำบากอะไร เฮ้ออออออออออออออ

    ซักสาย ๆ หลังกินข้าวเช้าเสร็จ ปาร์คยองกัม ก็เรียกผมไปหาครับ

    "นี่คือตำราขงจื้อ ที่เจ้าต้องอ่านเพื่อเตรียมตัวสอบ" OMG ร้อยกว่าเล่ม !!!!!!!! เอาไปชั่งกิโลขายหรือง๊ายยยยยยยยยยยยย

    "คือผมต้องอ่านหมดนี่เลยหรือขอรับ ยองกัมมานยิม" 

    "ไม่หรอก เจ้าก็อ่านเท่าที่เจ้าอ่านได้ มันไม่มีผ่านไม่ผ่านหรอก มีแค่ว่าเจ้าจะได้คะแนนถึงระดับไหน แล้วจะได้จัดงานที่เหมาะกับเจ้าให้ได้หน่ะ ซึ่งสำหรับตัวเจ้าก็สอบให้เสร็จไปเท่านั้นแหล่ะ เพราะเซจาโชฮา ได้มอบหมายให้เจ้าเป็นผู้แปลเอกสารภาษาอังกฤษอยู่แล้วหน่ะ"

    "ส่วนปฏิบัติละขอรับ"

    "สอบการป้องกันตัวหน่ะ พวกเราแนซี ต้องถวายอารักขาเบื้องต้นได้ด้วย ในกรณีที่องครักษ์หลวง คลาดจากชูซังโชนา หรือเซจาโชฮา หน่ะ แล้วเจ้าพอจะมีวิชาการป้องกันตัวไหมหล่ะ ดูท่าทางเจ้าคงเติบโตมาในชนชั้นขุนนาง ถ้าไม่ไหวก็บอกไม่ไหวได้นะ ไม่ต้องฝืนใจหรอก จะเจ็บตัวเอาเปล่า ๆ"

    หึ หึ อันนี้ คงจะพอเชิดหน้าชูตาผมได้บ้างนะครับ อิ อิ

    "ขอบคุณขอรับ ยองกัมมานยิม"

    "ส่วนวันนี้ก็ให้เจ้าเข้าไปช่วยงานในกรม เลยก็แล้วกัน หนังสือพวกนี้ว่าง ๆ ก็ค่อย ๆ อ่านไปก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะให้คนพาเจ้าไป"

    ห้องทำงานของฝ่ายบรรณาสาร ในกรมมหาดเล็ก มีลักษณะค่อนข้างเหมือนห้องสมุดครับ ละก็มี แนซีอาวุโสอยู่คนหนึ่ง กับแนซีวัยทำงาน อีกเกือบ สิบคน ขมักเขม้น ช่วยกันแปลเอกสารอยู่

    "อา เจ้ามาถึงแล้วเหรอ อิงนารี ยินดีต้อนรับ ข้าคือ ซูยองกัม ผู้ดูแลฝ่ายบรรณาสาร ของกรมมหาดเล็ก" เสร็จแล้ว พวกมหาดเล็กที่เหลือก็แนะนำตัวกันไป โชคดีนะครับดูเหมือนทุกคนจะพยายามปล่อยมุขตลอดเวลาทำให้ บรรยากาศไม่เครียด

    ซักแป๊บนึงเท่านั้นแหล่ะคัรบ ซูยองกัม ก็เอา เอกสารมาให้ผม วางเต็มโต๊ะ เลยทีเดียว พร้อมฉีกยิ้ม

    "ข้าดีใจเหลือเกินที่เจ้ามาช่วยงานกรมของเรา ตัวข้าเองก็ได้แต่ ภาษาฝรั่งเศษ หน่ะ ไม่ค่อยสัดทัดภาษาอังกฤษ เท่าไหร่ ส่วนคนที่เหลือก็ถนัดภาษาอื่นต่าง ๆ กันไป"

    "คือ ..... ผมต้องแปลหมดนี่เลยเหรอขอรับ"

    "ฮ่า ๆ ๆ เจ้าค่อย ๆ ทำไปก็ได้ ไม่รีบหรอก เอกสารทั้งหมดเป็นของ เซจาโชฮา หน่ะ เพราะของชูซังโชนา มีกรมราชเลขาทำอยู่แล้ว เวลาโชฮาร่างจดหมาย พวกเราก็ต้องแปลเป็นทุก ๆ ภาษาเลยหน่ะ เพื่อส่งไปยังประเทศเหล่านั้น"

    "ได้ยินว่าเจ้า ถูก แชแนซี ค่อนขอด เหรอ อย่าไปถือสาเลยนะ มันเป็นเพราะพวกเราที่นี่ทุกคน คือผู้ที่สอบหลักการขงจื๊อ ได้อันดับต้น ๆ ของกรมมหาดเล็กหน่ะ ส่วนพวกที่เหลือจะต้องไปทำงานอย่างอื่นในวัง พวก ปัด กวาด เช็ด ถูก หรือคอยรับใช้เซจาโชฮา หรือชูซังโชนาหน่ะ ส่วนเจ้าเพิ่งมา แต่ได้มาอยู่ตรงนี้ ก็เห็นใจเจ้านั่นหน่อยเถอะ"

    "อ่อ ขอรับ ยองกัมมานยิม"

    ผมก็เริ่มอ่านเอกสารพวกนั้นครับ น่าแปลกที่ผมสามารถอ่านตัวอักษรอันกึล พวกนี้ได้ นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมคิดไม่ตก แม้ว่าผมจะข้ามเวลามาได้จริง ๆ แต่ความสามารถพวกนี้มาจากไหนกัน แล้วถ้าผมกลับบ้านได้แล้ว ผมจะยัง อ่านและพูดภาษาเกาหลี ได้อีกหรือเปล่า

     
    ผมก็อ่านไปแปลไป ดีนะครับ มีขนมอร่อย ๆ ให้กินตลอดเวลาเลย มี แนซีเด็ก ๆ คอยเอามาเติมให้ตลอดเลยครับ

    "เสียดายเน๊อะ น่าจะมีกาแฟกิน" ผมก็บ่นไปตามเรื่องน่ะครับ ผมติดกาแฟมาก เคยโดนโค้ชบ่นหลายทีละ ว่าอายุเท่านี้ไม่น่ากินกาแฟ มากขนาดนี้

    "ไปเอามาให้ นาหรี สิ มีในห้องเครื่องนั่นแหล่ะ" แนซี อีกคนตะโกนบอกครับ

    "เอ่ออ  มีกาแฟ ด้วยเหรอขอรับ นาหรี" ผมแปลกใจมาก โชซอนมี บาริสต้า ด้วยย โอววววววว

    "เป็นของขวัญจากต่างประเทศ ถวายให้แก่ชูซังโชนาหน่ะ พวกเรา เป็นผู้รับใช้ไกล้ชิด ก็พลอยได้กินไปด้วย" เออ ดีแฮะ

    ซักพักกาแฟ หอมกรุ่นก็มาวางอยู่ตรงหน้าผม ภาชนะที่ใช้ก็เป็นกระเบื้องเคลือบลายเกาหลี ๆ นะครับ อยู่ในวังนี่ก็ดีนะครับ อะไรที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในยุคสมัยนี้ก็ได้กิน

    ผมทำงานไปซักพัก เซชาโชฮา นี่งานเยอะจริง ๆ นะครับ ภาษาที่ใช้ก็ดูเป็นทางการมาก ๆ ด้วย ผมก็นึกคำไม่ค่อยออก เสียดายนะครับ น่าจะมีดิกชันนารี

    ทำงานไปเพลิน ๆ ก็เที่ยงพอดีครับ พอกินข้าวเสร็จ ปาร์คยองกัมก็เดินเข้ามา

    "เจ้าอยากจะทดสอบปฏิบัติเลยไหมหล่ะ เพราะไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสืออะไร หนิ ข้าจะได้รายงานต่อ คิมแทกัมด้วยว่าเรื่องของเจ้าไปถึงไหนละ"

    "เอ่ออ ได้ขอรับ" ผมพร้อมเสมออยู่แล้วครับ

    พอถึงสนามประลอง เค้าก็ให้ผมเปลี่ยนชุดครับ เป็นชุดแบบที่มีผ้าคาดหัว และก็เสื้อนอกที่คลุมอยู่ก็สั้นลง คงจะเป็นชุดต่อสู้ของที่นี่นะครับ คนที่ผมต้องประลองด้วยก็เคยเห็นหน้ามาแล้วครับ เป็นแนซี ที่นั่งกินข้าวอยู่ตอนที่ผมมาถึงวันแรกนะครับ

    "เอ่ออ ฝากตัวด้วยนะขอรับ นาหรี"

    "อืม"  เอิ่มม คนอะไร กระด้างชะมัด 

    "เริ่มมมมมมมม"

    เอิ่มมมม เอาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยชิลเท่าไหร่นะครับ นาหรี คนนี้ฝีมือไม่เบาทีเดียว ผมใช้เวลาอยู่นานถึงจะล้มคน ๆ นี้ลงได้ เกือบตาย

    "เจ้าทำได้ดีมาก" ปาร์คยองกัม เอ่ยชมผม แต่สีหน้านี่สิครับ ทำไมถึงได้ดูเคลือบแคลงนัก

    "รอทดสอบระดับต่อไปในวันพรุ่งนี้เถอะ เจ้าไปทำงานต่อได้"

    "ขอบคุณขอรับ ยองกัมมานยิม"


    พอผมเดินออกมาครับ ก็เห็น แนซี ที่เป็นคู่ต่อสู้ของผม กระซิบกระซาบกับ ปาร์คยองกัม มันอะไรกันนะ

    --------------- ในอีกด้านหนึ่งของปาร์คยองกัม ----------------------

    "น่าแปลกจริง ๆ นะขอรับ ยองกัมมานยิม ดูท่าทางบอบบางเหมือนบัณฑิต แต่ทำไมถึงได้มีวิชาการต่อสู้ที่ร้ายกาจขนาดนี้" 

    "ก็เพราะ คิมแทกัม เห็นที่เจ้านั่น สู้กับ แชแนซี เมื่อวานยังไงหล่ะ ถึงได้สั่งการให้ข้าทดสอบเจ้าเด็กนี่ ให้แน่ใจ เจ้าก็อย่าไปบอกใครหล่ะ ไม่แน่ว่าเด็กนั่นอาจจะเป็นสายลับที่อังกฤษส่งเข้ามาในวังก็ได้ เราต้องสืบให้แน่ชัดก่อน"

    "ขอรับ ยองกัมมานยิม"

    -------------- กลับมาที่ อิง ----------------------------------------

    ผมกลับมานั่งทำงานได้ซักพัก 

    "อิงนารี คือท่านใดกัน" มีป้าซังกุงใส่ชุดสีเขียวเข้ม เดินมาถามถึงผม

    "เอ่อ กระผมขอรับ"

    "พีกุงมามะ (พระวรราชชายาขององค์รัชทายาท) มีรับสั่งให้เฝ้าหน่ะ"

    "มีเรื่องอะไรเหรอครับ ป้า" 

    "หือ ป้างั้นเหรอ" เอิ่มมม ผมคงพูดอะไรผิดไปนะครับ หน้าป้าเค้าเขียวตัดกับสีชุดละครับ เหอะ ๆ

    "เอิ่มม อิงนาหรี เพิ่งมาจากต่างเมือง ไม่รู้ธรรมเนียมในวังหน่ะ" ซูยองกัมรีบแทรกตัวเข้ามาช่วยชีวิตผม แต่แนซีที่เหลือนี่ซิครับ หัวเราะกันคิก ๆ คัก ๆ 

    "เจ้าต้องเรียกนางว่า มามะนิม (นายหญิง)" ซูยองกัม กระซิบข้างหูผม

    "เอ่อ มีอะไรหรือขอรับ มามะนิม" 

    "ไปถึงท่านก็จะรู้เองนั่นแหล่ะ" เอิ่มมมม เจ๊แก คงอารมณ์เสียไปเรียบร้อยแล้วครับ

    ผมก็ได้แต่เดินตามไปนะครับ ป้านี่ เค้ามาพร้อมกับผู้หญิงอีก ขบวนใหญ่ทุกคนใส่ชุดฮันบกที่ม่วง ๆ แดง ๆ นะครับ ทำทรงผมเหมือนกันเปี๊ยบ ยกเว้นก็แต่ป้าซังกุง ที่ครอบวิกผมขนาดใหญ่ ไม่หนักหรือไงนะ

    "นี่ นาหรี ท่านเป็น แนซีนะ ถึงข้าจะอายุมากกว่าท่าน แต่ท่านจะมาเดินตามหลัง ฮังอา (นางกำนัล) แบบข้าไม่ได้ ข้าจะถูกลงโทษหน่ะ" พี่สาวคนที่เดินอยู่หลังสุด หันมา แหว ใส่ผม

    "อ่อ ขอรับ" 

    "ห้ามท่านพูดกับข้าอย่างสุภาพด้วย" พี่สาวแก๊งนี้ดุนะครับ น่าเขียวตามสีชุดของป้าซังกุงไปเรียบร้อยแล้ว

    "นาหรี เพิ่งเข้ามาอยู่ในวังหน่ะ ยังไม่รู้ธรรมเนียม" ป้าซังกุงบอก ฮังอา ครับ แต่ หน้าตาและน้ำเสียงนิ ช่างประชดประชันเหลือเกิน

    --------------------- ด้านของ ฮังอา ที่เกินตาม แชซังกุงอยู่ --------------------

    "ข้าได้ยินข่าวลือมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะน่ารักขนาดนี้หน่ะ"

    "เจ้าก็เบา ๆ สิ อิงนาหรี อยู่ข้างหลังเรานี่เองนะ"

    "ก็มันจริงนินา สูงมาก ๆ เลย บุคลิก ก็ดี แถมยังสุภาพมาก ๆ อีกด้วย ข้าได้ข่าวว่าเขายังมีความเป็นชายครบถ้วนด้วยนะ แต่ถูกส่งมากรมหมาดเล็กเพราะ เซจาโชฮา ฝากมาหน่ะ ว๊าย ฮิ ฮิ" 

    "ฮึ่ม พวกเจ้า อยากถูกลงโทษหรือไง" แชซังกุงขัดขึ้น

    "ขออภัยเจ้าค่ะ มามะนิม" ฮังฮาสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน

    ---------------- กลับมาที่อิง ----------------------

    พอไปถึงที่ที่หน้าตาเหมือนสวน อะไรซักอย่างต้นไม่เยอะดีครับ คงจะเป็นอุทยานแล้ว ผมก็เจอ คนที่คงจะเป็น พินกุงมามะ นะครับ 

    เอ่ออออ สวยจัง น่ารัก อ่ะครับ คนอะไร อะ พิมพ์นิยม มากกกกกกกกกกก

    พินกุงมามะ ทรงชุดทังอีสีเขียว ปักด้วยลวดลายมังกร กระโปรงสีชมพูที่ออกจะพองกว่าคนอื่นหน่อยนะครับ ละก็ใส่มวยผมที่เต็มไปด้วยปิ่นประดับ

    "อิง แนซีมาแล้ว มามะ" ป้าซังกุงคนนั้นกล่าวรายงาน

    "ขอบใจนะ แชซังกุง" 

    "ข้าเรียกเจ้ามาเฝ้า เพราะมีเรื่องไว้วานนะ และขอให้เจ้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ"

    "ข้าจะขอให้เจ้าเขียนจดหมายแสดงความขอบคุณไปยัง คราวปรินส์เซส แห่งอังกฤษหน่ะ (ชายาขององค์รัชทายาท แห่งอังกฤษ) ที่ส่งชามาให้กับข้าน่ะ" พินกุงมามะ พูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงราบเรียบ ช่างเหมือนพระสวามีเลยนะครับ เวลาพูดจะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา เสียดายหน้าตาจริง ๆ

    "เอ่อ กระหม่อมมีเรื่องจะทูลถาม ว่าทำไมต้องเก็บเป็นความลับ มามะ" ผมก็พาซื่อครับ ก็เขียนจดหมายขอบคุณ ไม่เห็นจะมีตรงไหนไม่ดี

    แว๊บนึงที่ พินกุง ทำหน้าตาแปลกใจแล้วก็รีบกับมาทำหน้าตาปกติ

    "ข้าได้ยินว่าเจ้า มาจากต่างเมือง คงไม่รู้ราชธรรมเนียมซินะ" พอตรัสเสร็จก็หันพระพักษ์ไปยังแชซังกุง ป้านี่คงเบื่อผมเต็มทนแล้วหล่ะครับ 

    "เอ่อ นาหรี เป็นข้ารับใช้ของชูซังโชนา กับเซจาโชฮาเท่านั้น ไม่สามารถสนองดำริของฝ่ายในได้ ดังนั้น พินกุงมามะ จึงได้ขอให้ท่านเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ลำพังพวกเรานางในก็ไม่มีใครสันทัดภาษาอังกฤษกัน ขอให้ท่านช่วยเป็นธุระด้วยเถอะนะเจ้าคะ" ป้านี่ อยู่ต่อหน้า พินกุงมามะ พูดอ่อนน้อมขึ้นมาเลยนะ หึ หึ

    "เอ่อ ไม่ต้องห่วงมามะ กระหม่อมจะดำเนินการให้มามะ" คนสวยมาขอร้อง ผมต้องรีบทำให้อยู่แล้วละครับ

    "ขอบใจท่านมาก" พินกุงมามะแสยะยิ้ม ผมต้องใช้คำว่าแสยะ จริง ๆ นะครับ หน้าตาแทบไม่แสดงความรู้สึกเลย

    "เซจาโชฮา เสร็จแล้ว" เสียงแนซีซักคนนี่แหล่ะครับ

    "เจ้ามาถึงนานแล้วหรือยัง พินกุง" เสียงโชฮาครับ มาพร้อมกับคนเป็นขบวน เอ่อ จะไปในทีนึงต้องแห่ กันขนาดนี้เลยเหรอ

    "เพคะ โชฮา" พินกุงมามะตรัสพร้อมกับโค้งตัวลงคำนับ

    "เอ๊ะ นี่ อิงนาหรี เจ้ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้"

    "เอ่อ .... โชฮา" ผมไปไม่เป็นเลยครับ ก็เพิ่งรับปาก พินกุงมามะไป ว่าจะเก็บเป็นความลับ

    "เจ้าเป็นอย่างไรบ้างหล่ะ เรื่องที่เจ้าพยายามจะกลับบ้าน ข้ากำลังให้คนเสาะหาวิธีการอยู่นะ ว่าจะกลับประเทศของเจ้าได้อย่างไรบ้าง ไม่ต้องกังวลไปหรอก" โชคดีจริง ๆ ที่โชฮา เปลี่ยนเรื่อง แต่ เอิ่มมมมมมมม ถ้าผมกลับตอนนี้จริง  ๆ จะเป็นยุคสมัยไหนนะ จะถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์ หรือยัง

    "ขอบพระทัยพะยะค่ะ โชฮา" เอ๊ะ นั่นมัน ชิน นี่นา ตามหลัง แนซียองกัมอยู่นะครับ ผมเริ่มจำตำแหน่งของแต่ละคนได้จากสีของชุดที่ใส่อยู่หน่ะครับ เหมือนว่า ถ้ายิ่งเข้มมากตำแหน่งก็จะสูงมาก

    แต่ชินก้มหน้าตลอดเลยครับ ทำหน้าตาเหมือนเจ้านายของเค้าเปี๊ยบเลยครับ คือไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา

    "เจ้าคงจะเจอ แจแนซีแล้วสินะ"

    "อะ เอ่อ พะยะค่ะ โชฮา"

    "วันนี้ให้แจแนซี ไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน เจ้าเพิ่งมาคงยังไม่ค่อยคุ้นที่ทางเท่าไหร่"

    "ขอบพระทัยพะยะค่ะ โชฮา" นิผมคงพูดได้แต่ประโยคประมานนี้นะครับ ผมเขินครับ คนเดินตามเสด็จ รวมทั้งทั้งสวนนี่ ปาเข้าไป สามสิบ กว่าคน 

    ซักพักผมกับชินก็แยกตัวออกมา นะครับ เฮ้อออ ค่อยรู้สึกโล่งหน่อย

    "ป่ะชิน ไปกินขนมกันที่ห้องทำงานพี่ดีกว่า" ผมถือวิสาสะ คิดว่านั่นเป็นห้องทำงานตัวเองไปเลยครับ 555+

    "ขอรับ นาหรี" ชินยิ่มตาหยี เลยครับ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×