ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายของราชา (Y เน๊อะ)

    ลำดับตอนที่ #2 : รู้ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 56


    "ทำไมคุณถึงพูดภาษาอังกฤษได้หล่ะ" พอเริ่มจิบน้ำชากัน นักแสดงฝรั่งก็รัวคำถามใส่ผม

    "เอิ่มมม ก็เรียนที่โรงเรียนน่ะ" ผมก็ตอบไปตามความจริง

    "ในโชซอน มีโรงเรียนที่สอนภาษาอังกฤษด้วยเหรอ" 

    "ผมไม่ได้เรียนที่นี่ ผมเรียนที่เมืองไทย"

    "เมืองไทยคือที่ไหนกัน" นักแสดงฝรั่งคนนั้น ถามฝรั่งอีกคน

    "มันไกลจากที่นี่มากไหม"

    "ก็ไกลนะ" ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็นั่งเครื่องมาผมก็หลับตลอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากี่ชั่วโมง แต่ ... นิมันไม่รู้จักเมืองไทย กันจริง ๆ เหรอเนี่ย

    "เอา เป็นว่า วันนี้คุณพักที่นี่ไปก่อนละกัน เดี๋ยวพวกผมจะเรียนถามท่านทูตให้ว่า จะช่วยคุณได้ยังไงบ้าง"

    "หา นอนที่นี่ !!! ..... เอิ่มม ยังไงดีอ่ะ " คือผมก็อยากกลับไปพักที่โรงแรมอ่ะครับ แต่ก็ไม่รู้จะบอกพวกนั้นยังไงดี

    ............. เออ นอน ก็นอนวะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ดีที่พาสปอร์ตกับวีซ่า ยังติดตัวอยู่ไม่หายไปไหน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก

    พอเข้ามาห้องนอนที่พวกนักแสดงนั้นเตรียมไว้ให้ ก็เจ๋งดีนะครับ หน้าตาเหมือน นอนในห้องนอนโบราณ ประตูห้องจะออกเล็ก ๆ หน่อย ที่มีฟูกหนา ๆ ปูไว้กับพื้น มีเชิงเทียน กับตู้นิด ๆ หน่อย ๆ หน้าตาเหมือนในหนังเปี๊ยบ คืนนี้ก็แบบนี้ไปก่อนละกัน สงสัยพรุ่งนี้อาจจะต้องไปหาตำรวจ หรือไม่ก็สถานทูตไทย อะไรทำนองนั้น ผมก็พยายามข่มตานอน ไม่แน่เมื่อกี้นอนหลับในรถทัวร์ละโผล่มาแถวนี้ หลับอีกรอบ อาจจะกลับไปรถทัวร์ก็ได้ 555+




    เอาเข้าจริง เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับเลย รู้สึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิต พอพระอาทิตย์ขึ้นผมก็ลุกออกมาจากห้องเลย 

    "ทูร่ง ตื่นแล้วเหรอ เจ้าคะ" คุณป้าคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่หน้าห้องที่ผมพัก น่ากลัวมากป้าเค้ามารออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

    "แทกัมมานยิม ให้มาตามทูร่งไปกินอาหารเช้าด้วยกันเจ้าค่ะ" แทกัมมานยิม? อ๋อ คงเป็นทูต ที่พวกนั้นพูดถึงอ่านะ

    "ครับป้า ขอบคุณครับ" ผมก็เดินไปตามทางที่เจอพวกนักแสดงพวกนั้นครั้งแรก

    "คุณมาถึงแล้วเหรอ เชิญนั่งก่อนสิ ทานข้าวเช้าด้วยกัน" คุณตาฝรั่งคนนี้ สินะ ท่านทูต

    "เอ่ออ ครับ" ผมก็นั่งลงแบบเก้ ๆ กัง ๆ ทำไมนักแสดงพวกนี้ถึงได้แต่งตัวเข้าฉากเช้าขนาดนี้นะ กว่าจะโชว์ ก็ตั้งเกือบ 10 โมงละ

    "ลูกน้องของผม บอกว่าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ น่ามหัศจรรย์จริง ๆ เราไม่เคยเห็นเด็กขนาดคุณ พูดภาษาของเราได้เลย คุณเติบโตในดินแดนของเราอย่างนั้นเหรอ" คุณตาฝรั่งนี้ รัวไม่หยุด เลย

    "เอิ่มมมมม คือก็เรียนที่โรงเรียนน่ะครับ ละนิแต่งตัวกันไปแสดงกันเช้าขนาดนี้เลยหรือครับ" ผมก็ชวนคุยไปตามมารยาท

    "แสดง? แสดงอะไรเหรอ"

    "ก็แสดงละครโบราณอะไรแบบนี้ไงครับ" 

    คุณตาฝรั่งคนนั้น มองผม และหรี่ตาลง ทำหน้าตาเหมือนกำลังใช้ความคิด 

    "ผมว่า คุณคงเข้าใจผิดอะไรซักอย่างแล้วหล่ะ และคุณก็คงจะหลงทางจริง ๆ อย่างที่พวกนั้นว่า" คุณตาฝรั่งคนนั้นสรุป

     T  T ไม่จริงใช่ไหม บอกสิว่ากำลังจะไปแสดงง่ะ ถึงแม้จริง ๆ ผมจะพยายามหลอกตัวเองมาตลอดทั้งคืน แต่รูปการณ์ทุกอย่างมันทำไมชวนให้คิดว่า ผมกำลัง เจาะเวลาหาจิ๋นซี อะไรแบบนั้นง่ะ ไม่เอา ไม่อาววววววววววววววววววว




    "ทานข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมต้องไปเข้าเฝ้าพระราชาของประเทศนี้แล้ว" 

    ผมก็กินแบบกล้ำกลืนฝืนทนครับ ความท้อแท้เริ่มครอบงำ มีความรู้สึกเหมือนก้อนอะไรซักอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อย่าร้องนะ อย่าร้อง อายเค้า

    ผมกับคุณตาคนนั้นก็นั่งกินไปเงียบ ๆ ครับ เหมือนเค้ากำลังจะพยายามใช้ความคิดอะไรซักอย่าง อาหารก็ตามสไตล์นะครับ พวกไข่ดาว เบคอน อะไรตามเรื่อง

    "เอา แบบนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณไปที่พระราชวังพร้อมผม ผมจะลองคุยให้เผื่อว่าคนที่นั่นจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง" 

    "ขอบคุณค้าบบบบบบบบบ" คุณตาคนนี้ใจดีจริง ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมมีที่พึ่ง

    ละผมก็ออกเดินทางพร้อมขบวนแห่ ของคุณตาคนนั้นไปยังพระราชวัง
    คุณตานั่งอยู่บนเกี้ยว ที่มีคนแบกเยอะมาก พร้อมด้วยฝรั่งมังค่าอีกเป็นกุรุสเดินตามคุณตา ผมสังเกตว่าคนพวกนี้จะแต่งตัวสไตล์ยุโรปโบราณน่ะครับ ผมบางคนก็จะดัด บางคนก็จะใส่วิก และเสื้อผ้าแต่ละคนก็จะกรุยกรายมาก ลักษณะเป็นเหมือนเสื้อกั๊กแข็ง ๆ ที่ใส่ทับลงไปในเสื้อเชิ็ตแบบพริ้ว ๆ อีกที แต่ขานี่สิครับตลกมาก หน้าตาเหมือนถุงน่องนักบัลเลต์อะไรแบบนั้น 5555+


    พอกำลังเดินเข้าประตูวัง เอ๊ะ พี่ทหารคนเมื่อวานนิ
    "ทูร่ง ท่านเจอกับแทกัม บิดาท่านแล้วใช่หรือไม่"

    "เอ่อออ คือเค้าไม่ใช่พ่อผมครับพี่"

    "เป็นเช่นหรือ ถ้ามีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ก็บอกได้เลยนะขอรับ" โห สุภาพไปไหน ผมชักจะเกรงใจละนะเนี่ย

    "ขอบคุณมากครับพี่" ผมก็ยิ้ม แหะ ๆ แก้เขินไปตามเรื่อง


    พอเข้าไปในพระราชวัง เค้าก็ให้ผมไปรออยู่ในห้องอะไรซักอย่าง มีคุณป้าชังกุงเอาขนมเกาหลี กับน้ำชามาให้กินเล่นด้วย ซักพักก็มีคนเข้ามาหาผม

    " เซจาโชฮา เสด็จแล้วววววว" แล้วเด็กคนที่ผมเจอเมื่อวานก็เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผม

    "เอ่อ ทูร่ง ลุกยืนทำความเคารพโซฮา สิคะ" คุณป้าซังกุงคนนั้นบอก

    "ไม่ต้องก็ได้ เด็กคนนี้คงยังไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมในวังน่ะ" หน้าตาเด็ก แต่เสียงดุมาก 

    "เพคะ โชฮา" แล้วคุณป้าคนนั้นก็ออกจากห้องไป 

    "ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจากแทกัม ราชทูตอังกฤษแล้ว แทกัมได้ขอร้องชูซังโชนา ให้ช่วยเหลือเจ้า ชูซังโชนาจึงได้มีพระราชบัญชาให้ข้ามาคุยกับเจ้านี่หล่ะ  "

    "เออ เราก็คงหลงทางอ่ะ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน" ผมก็บอกไปตามตรง ดูท่าทางเด็กคนนี้ก็คงอายุไล่ ๆ กับผมนี่แหล่ะ น่าจะคุยกันง่าย

    "แล้วเจ้าจะกลับบ้านของเจ้าได้ด้วยวิธีไหนหล่ะ เรือ หรือม้า ข้าจะได้ให้จัดเตรียมให้"

    "อ๋อ เครื่องบินอ่ะ" พาซื่อมาก ทั้ง ๆ ที่ผมเริ่มรู้ตัวแล้วหล่ะครับ ว่ามันคงไม่มีเครื่องบินให้ขึ้นหรอก

    "มันคือพาหนะลักษณะใดหรือ ?" 

    "ท่าทางเจ้าคงจะหลงทางจริง ๆ ถ้ายังกลับบ้านไม่ได้เจ้าคิดจะทำยังไงต่อหล่ะ"

    "เอ่ออ ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ" เฮ้อออออออ สิ้นหวังเจงงงงงงง

    เด็กคนนี้ดูทำหน้านิ่ง เหมือนกำลังใช้ความคิด อยู่พักใหญ่ ขอบอกนะครับ พักใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก
    จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด

    "เอ่อ นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่ออิงนะ อิงคพัฒน์ หน่ะ พวกเราน่าจะอายุพอ ๆ กันมั้ง เรา 16 อ่ะ"

    "ชื่อเจ้าดูไม่เหมือนคนโชซอนเลยนะ ข้าชื่อลีซุน แต่คนในโชซอนเรียกข้าตามชื่อตำแหน่งว่า เซจาโชฮา"

    "เซจา ? ตำแหน่งรัชทายาท น่ะเหรอ"  ผมเริ่มรื้อฟื้นความจำหนังเกาหลีโบราณของผม ดีที่ที่บ้านผมเค้าชอบเปิดช่อง 3 ดูหนังเกาหลีโบราณตอนกินข้าวนะเนี่ย

    "ฮึ่มม เจ้าจะเรียกชื่อตำแหน่งข้าแบบนั้นไม่ได้ ต้องเรียกว่า โชฮา คนที่จะเรียกข้าว่าเซจาได้ต้องเป็นผู้ที่มีศักดินามากกว่าข้า"

    นี่ผมกำลังนั่งคุยอยู่กับรัชทยาทเกาหลีเหรอเนี่ยยยยยยยย !!

    "สำหรับเรื่องของเจ้า ข้ามาคิด ๆ ดูแล้ว ระหว่างที่เจ้ากำลังหาทางกลับบ้าน เนี่ย เจ้ามาช่วยงานข้าไปพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน เห็นแทกัม บอกว่าเจ้าสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้หนิ คงจะพอร่างจดหมายเป็นภาษาอังกฤษให้กับข้าได้"

    "เอ่ออออ พะยะค่ะ"  ผมตกปากรับคำไป เพราะผมก็ไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณตาแทกัมอีก อยู่ในนี้ก็ดูดีเหมือนกัน มีขนมให้กินด้วย

    "แชซังกุง" ป้าซังกุงคนเดิมเข้ามา

    "เพคะ โชฮา" 

    "ท่านช่วยพาเด็กคนนี้ไปหา คิมแทกัม เจ้ากรมมหาดเล็กที ฝากจดหมายจากข้าไปด้วยหล่ะ" ว่าแล้วโซฮา ก็ลุกขึ้น ไปหน้าตาเฉย ปุบปับจะไปงี้เลยเหรอ ว้าาาาาาาา


    ซักพักผมก็เดินมาหยุดตรงหน้า กรมมหาดเล็กในวัง คงเป็นพวกขันทีในวังสินะ ซักพักก็มีคนพาผมเข้าไปหาคุณตาคนนึง ผมเดาว่านี่คงจะเป็นคิมแทกัม เพราะคุณตาเค้าใส่ชุดสีม่วง ๆ ไม่เหมือนคนอื่นในกรมที่เป็นชุดสีเขียว 

    "เซจาโชฮา ได้บอกกับข้าเรื่องของเจ้าแล้วหล่ะ ในวังมีกฏว่า ผู้ที่จะอยู่ในวังหลังเพลาเที่ยงคืนได้ ต้องเป็นชูซังโชนา หรือเซจาโชฮา เท่านั้น จะมีก็แต่มหาดเล้กที่เป็นชาย แต่อยู่ในวังได้ แต่สำหรับเจ้าเซจาโชฮา ให้ถือเป็นกรณียกเว้น เพราะเจ้าก็จะมาอยู่ไม่นานนัก เจ้าก็พักกับพวกมหาดเล็กไปก็แล้วกัน" 

    "ปาร์คยองกัม ช่วยพาเด้กคนนี้ไปที่พักที ละก็สอนงานเอกสารต่างประเทศด้วยหล่ะ เห็นว่ามีความรู้ภาษาอังกฤษดี คงจะมาช่วยเราได้เยอะทีเดียว"
    คุณลุงท่าทางเป็นมิตรก็พาผมไปที่พัก

    "เจ้าก็พักที่ห้องนี้ก็แล้วกัน เป็นห้องของข้าเอง แต่ข้าก็ไม่ได้มานอนหรอก เพราะข้านอนที่บ้านส่วนตัวของข้าหน่ะ พวกมหาดเล็กชั้นผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ ห้องในกรมถึงเหลือมากมาย ส่วนเรื่องงานก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปนะ เจ้าพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน" ปาร์คยองกัม ก็ขอตัวออกไป

    ผมล้มตัวนั่งลงกับพื้น น้ำตาที่พยายามข่มมาตลอด 2 วันนี้ ไหลอาบแก้มออกมา เคยดูในหนังน่าจะเป็นเรื่องสนุกถ้าเราย้อนเวลาได้ แต่นี่กลับไม่ใช่เลย ผมเริ่มคิดถึงป๊า กับม๊า คิดถึง เจ๊ คิดถึงเพื่อน ๆ คิดว่าไม่น่าดื้อมาเที่ยวเกาหลีเลย ไม่งั้นคงจะไม่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับบ้านได้ยังไง 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×