ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รู้ตัว
"ทำไมคุณถึงพูดภาษาอังกฤษได้หล่ะ" พอเริ่มจิบน้ำชากัน นักแสดงฝรั่งก็รัวคำถามใส่ผม
"เอิ่มมม ก็เรียนที่โรงเรียนน่ะ" ผมก็ตอบไปตามความจริง
"ในโชซอน มีโรงเรียนที่สอนภาษาอังกฤษด้วยเหรอ"
"ผมไม่ได้เรียนที่นี่ ผมเรียนที่เมืองไทย"
"เมืองไทยคือที่ไหนกัน" นักแสดงฝรั่งคนนั้น ถามฝรั่งอีกคน
"มันไกลจากที่นี่มากไหม"
"ก็ไกลนะ" ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็นั่งเครื่องมาผมก็หลับตลอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากี่ชั่วโมง แต่ ... นิมันไม่รู้จักเมืองไทย กันจริง ๆ เหรอเนี่ย
"เอา เป็นว่า วันนี้คุณพักที่นี่ไปก่อนละกัน เดี๋ยวพวกผมจะเรียนถามท่านทูตให้ว่า จะช่วยคุณได้ยังไงบ้าง"
"หา นอนที่นี่ !!! ..... เอิ่มม ยังไงดีอ่ะ " คือผมก็อยากกลับไปพักที่โรงแรมอ่ะครับ แต่ก็ไม่รู้จะบอกพวกนั้นยังไงดี
............. เออ นอน ก็นอนวะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ดีที่พาสปอร์ตกับวีซ่า ยังติดตัวอยู่ไม่หายไปไหน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
พอเข้ามาห้องนอนที่พวกนักแสดงนั้นเตรียมไว้ให้ ก็เจ๋งดีนะครับ หน้าตาเหมือน นอนในห้องนอนโบราณ ประตูห้องจะออกเล็ก ๆ หน่อย ที่มีฟูกหนา ๆ ปูไว้กับพื้น มีเชิงเทียน กับตู้นิด ๆ หน่อย ๆ หน้าตาเหมือนในหนังเปี๊ยบ คืนนี้ก็แบบนี้ไปก่อนละกัน สงสัยพรุ่งนี้อาจจะต้องไปหาตำรวจ หรือไม่ก็สถานทูตไทย อะไรทำนองนั้น ผมก็พยายามข่มตานอน ไม่แน่เมื่อกี้นอนหลับในรถทัวร์ละโผล่มาแถวนี้ หลับอีกรอบ อาจจะกลับไปรถทัวร์ก็ได้ 555+
เอาเข้าจริง เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับเลย รู้สึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิต พอพระอาทิตย์ขึ้นผมก็ลุกออกมาจากห้องเลย
"ทูร่ง ตื่นแล้วเหรอ เจ้าคะ" คุณป้าคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่หน้าห้องที่ผมพัก น่ากลัวมากป้าเค้ามารออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
"แทกัมมานยิม ให้มาตามทูร่งไปกินอาหารเช้าด้วยกันเจ้าค่ะ" แทกัมมานยิม? อ๋อ คงเป็นทูต ที่พวกนั้นพูดถึงอ่านะ
"ครับป้า ขอบคุณครับ" ผมก็เดินไปตามทางที่เจอพวกนักแสดงพวกนั้นครั้งแรก
"คุณมาถึงแล้วเหรอ เชิญนั่งก่อนสิ ทานข้าวเช้าด้วยกัน" คุณตาฝรั่งคนนี้ สินะ ท่านทูต
"เอ่ออ ครับ" ผมก็นั่งลงแบบเก้ ๆ กัง ๆ ทำไมนักแสดงพวกนี้ถึงได้แต่งตัวเข้าฉากเช้าขนาดนี้นะ กว่าจะโชว์ ก็ตั้งเกือบ 10 โมงละ
"ลูกน้องของผม บอกว่าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ น่ามหัศจรรย์จริง ๆ เราไม่เคยเห็นเด็กขนาดคุณ พูดภาษาของเราได้เลย คุณเติบโตในดินแดนของเราอย่างนั้นเหรอ" คุณตาฝรั่งนี้ รัวไม่หยุด เลย
"เอิ่มมมมม คือก็เรียนที่โรงเรียนน่ะครับ ละนิแต่งตัวกันไปแสดงกันเช้าขนาดนี้เลยหรือครับ" ผมก็ชวนคุยไปตามมารยาท
"แสดง? แสดงอะไรเหรอ"
"ก็แสดงละครโบราณอะไรแบบนี้ไงครับ"
คุณตาฝรั่งคนนั้น มองผม และหรี่ตาลง ทำหน้าตาเหมือนกำลังใช้ความคิด
"ผมว่า คุณคงเข้าใจผิดอะไรซักอย่างแล้วหล่ะ และคุณก็คงจะหลงทางจริง ๆ อย่างที่พวกนั้นว่า" คุณตาฝรั่งคนนั้นสรุป
T T ไม่จริงใช่ไหม บอกสิว่ากำลังจะไปแสดงง่ะ ถึงแม้จริง ๆ ผมจะพยายามหลอกตัวเองมาตลอดทั้งคืน แต่รูปการณ์ทุกอย่างมันทำไมชวนให้คิดว่า ผมกำลัง เจาะเวลาหาจิ๋นซี อะไรแบบนั้นง่ะ ไม่เอา ไม่อาววววววววววววววววววว
"ทานข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมต้องไปเข้าเฝ้าพระราชาของประเทศนี้แล้ว"
ผมก็กินแบบกล้ำกลืนฝืนทนครับ ความท้อแท้เริ่มครอบงำ มีความรู้สึกเหมือนก้อนอะไรซักอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อย่าร้องนะ อย่าร้อง อายเค้า
ผมกับคุณตาคนนั้นก็นั่งกินไปเงียบ ๆ ครับ เหมือนเค้ากำลังจะพยายามใช้ความคิดอะไรซักอย่าง อาหารก็ตามสไตล์นะครับ พวกไข่ดาว เบคอน อะไรตามเรื่อง
"เอา แบบนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณไปที่พระราชวังพร้อมผม ผมจะลองคุยให้เผื่อว่าคนที่นั่นจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง"
"ขอบคุณค้าบบบบบบบบบ" คุณตาคนนี้ใจดีจริง ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมมีที่พึ่ง
ละผมก็ออกเดินทางพร้อมขบวนแห่ ของคุณตาคนนั้นไปยังพระราชวัง
คุณตานั่งอยู่บนเกี้ยว ที่มีคนแบกเยอะมาก พร้อมด้วยฝรั่งมังค่าอีกเป็นกุรุสเดินตามคุณตา ผมสังเกตว่าคนพวกนี้จะแต่งตัวสไตล์ยุโรปโบราณน่ะครับ ผมบางคนก็จะดัด บางคนก็จะใส่วิก และเสื้อผ้าแต่ละคนก็จะกรุยกรายมาก ลักษณะเป็นเหมือนเสื้อกั๊กแข็ง ๆ ที่ใส่ทับลงไปในเสื้อเชิ็ตแบบพริ้ว ๆ อีกที แต่ขานี่สิครับตลกมาก หน้าตาเหมือนถุงน่องนักบัลเลต์อะไรแบบนั้น 5555+
พอกำลังเดินเข้าประตูวัง เอ๊ะ พี่ทหารคนเมื่อวานนิ
"ทูร่ง ท่านเจอกับแทกัม บิดาท่านแล้วใช่หรือไม่"
"เอ่อออ คือเค้าไม่ใช่พ่อผมครับพี่"
"เป็นเช่นหรือ ถ้ามีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ก็บอกได้เลยนะขอรับ" โห สุภาพไปไหน ผมชักจะเกรงใจละนะเนี่ย
"ขอบคุณมากครับพี่" ผมก็ยิ้ม แหะ ๆ แก้เขินไปตามเรื่อง
พอเข้าไปในพระราชวัง เค้าก็ให้ผมไปรออยู่ในห้องอะไรซักอย่าง มีคุณป้าชังกุงเอาขนมเกาหลี กับน้ำชามาให้กินเล่นด้วย ซักพักก็มีคนเข้ามาหาผม
" เซจาโชฮา เสด็จแล้วววววว" แล้วเด็กคนที่ผมเจอเมื่อวานก็เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผม
"เอ่อ ทูร่ง ลุกยืนทำความเคารพโซฮา สิคะ" คุณป้าซังกุงคนนั้นบอก
"ไม่ต้องก็ได้ เด็กคนนี้คงยังไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมในวังน่ะ" หน้าตาเด็ก แต่เสียงดุมาก
"เพคะ โชฮา" แล้วคุณป้าคนนั้นก็ออกจากห้องไป
"ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจากแทกัม ราชทูตอังกฤษแล้ว แทกัมได้ขอร้องชูซังโชนา ให้ช่วยเหลือเจ้า ชูซังโชนาจึงได้มีพระราชบัญชาให้ข้ามาคุยกับเจ้านี่หล่ะ "
"เออ เราก็คงหลงทางอ่ะ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน" ผมก็บอกไปตามตรง ดูท่าทางเด็กคนนี้ก็คงอายุไล่ ๆ กับผมนี่แหล่ะ น่าจะคุยกันง่าย
"แล้วเจ้าจะกลับบ้านของเจ้าได้ด้วยวิธีไหนหล่ะ เรือ หรือม้า ข้าจะได้ให้จัดเตรียมให้"
"อ๋อ เครื่องบินอ่ะ" พาซื่อมาก ทั้ง ๆ ที่ผมเริ่มรู้ตัวแล้วหล่ะครับ ว่ามันคงไม่มีเครื่องบินให้ขึ้นหรอก
"มันคือพาหนะลักษณะใดหรือ ?"
"ท่าทางเจ้าคงจะหลงทางจริง ๆ ถ้ายังกลับบ้านไม่ได้เจ้าคิดจะทำยังไงต่อหล่ะ"
"เอ่ออ ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ" เฮ้อออออออ สิ้นหวังเจงงงงงงง
เด็กคนนี้ดูทำหน้านิ่ง เหมือนกำลังใช้ความคิด อยู่พักใหญ่ ขอบอกนะครับ พักใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก
จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด
"เอ่อ นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่ออิงนะ อิงคพัฒน์ หน่ะ พวกเราน่าจะอายุพอ ๆ กันมั้ง เรา 16 อ่ะ"
"ชื่อเจ้าดูไม่เหมือนคนโชซอนเลยนะ ข้าชื่อลีซุน แต่คนในโชซอนเรียกข้าตามชื่อตำแหน่งว่า เซจาโชฮา"
"เซจา ? ตำแหน่งรัชทายาท น่ะเหรอ" ผมเริ่มรื้อฟื้นความจำหนังเกาหลีโบราณของผม ดีที่ที่บ้านผมเค้าชอบเปิดช่อง 3 ดูหนังเกาหลีโบราณตอนกินข้าวนะเนี่ย
"ฮึ่มม เจ้าจะเรียกชื่อตำแหน่งข้าแบบนั้นไม่ได้ ต้องเรียกว่า โชฮา คนที่จะเรียกข้าว่าเซจาได้ต้องเป็นผู้ที่มีศักดินามากกว่าข้า"
นี่ผมกำลังนั่งคุยอยู่กับรัชทยาทเกาหลีเหรอเนี่ยยยยยยยย !!
"สำหรับเรื่องของเจ้า ข้ามาคิด ๆ ดูแล้ว ระหว่างที่เจ้ากำลังหาทางกลับบ้าน เนี่ย เจ้ามาช่วยงานข้าไปพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน เห็นแทกัม บอกว่าเจ้าสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้หนิ คงจะพอร่างจดหมายเป็นภาษาอังกฤษให้กับข้าได้"
"เอ่ออออ พะยะค่ะ" ผมตกปากรับคำไป เพราะผมก็ไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณตาแทกัมอีก อยู่ในนี้ก็ดูดีเหมือนกัน มีขนมให้กินด้วย
"แชซังกุง" ป้าซังกุงคนเดิมเข้ามา
"เพคะ โชฮา"
"ท่านช่วยพาเด็กคนนี้ไปหา คิมแทกัม เจ้ากรมมหาดเล็กที ฝากจดหมายจากข้าไปด้วยหล่ะ" ว่าแล้วโซฮา ก็ลุกขึ้น ไปหน้าตาเฉย ปุบปับจะไปงี้เลยเหรอ ว้าาาาาาาา
ซักพักผมก็เดินมาหยุดตรงหน้า กรมมหาดเล็กในวัง คงเป็นพวกขันทีในวังสินะ ซักพักก็มีคนพาผมเข้าไปหาคุณตาคนนึง ผมเดาว่านี่คงจะเป็นคิมแทกัม เพราะคุณตาเค้าใส่ชุดสีม่วง ๆ ไม่เหมือนคนอื่นในกรมที่เป็นชุดสีเขียว
"เซจาโชฮา ได้บอกกับข้าเรื่องของเจ้าแล้วหล่ะ ในวังมีกฏว่า ผู้ที่จะอยู่ในวังหลังเพลาเที่ยงคืนได้ ต้องเป็นชูซังโชนา หรือเซจาโชฮา เท่านั้น จะมีก็แต่มหาดเล้กที่เป็นชาย แต่อยู่ในวังได้ แต่สำหรับเจ้าเซจาโชฮา ให้ถือเป็นกรณียกเว้น เพราะเจ้าก็จะมาอยู่ไม่นานนัก เจ้าก็พักกับพวกมหาดเล็กไปก็แล้วกัน"
"ปาร์คยองกัม ช่วยพาเด้กคนนี้ไปที่พักที ละก็สอนงานเอกสารต่างประเทศด้วยหล่ะ เห็นว่ามีความรู้ภาษาอังกฤษดี คงจะมาช่วยเราได้เยอะทีเดียว"
คุณลุงท่าทางเป็นมิตรก็พาผมไปที่พัก
"เจ้าก็พักที่ห้องนี้ก็แล้วกัน เป็นห้องของข้าเอง แต่ข้าก็ไม่ได้มานอนหรอก เพราะข้านอนที่บ้านส่วนตัวของข้าหน่ะ พวกมหาดเล็กชั้นผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ ห้องในกรมถึงเหลือมากมาย ส่วนเรื่องงานก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปนะ เจ้าพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน" ปาร์คยองกัม ก็ขอตัวออกไป
ผมล้มตัวนั่งลงกับพื้น น้ำตาที่พยายามข่มมาตลอด 2 วันนี้ ไหลอาบแก้มออกมา เคยดูในหนังน่าจะเป็นเรื่องสนุกถ้าเราย้อนเวลาได้ แต่นี่กลับไม่ใช่เลย ผมเริ่มคิดถึงป๊า กับม๊า คิดถึง เจ๊ คิดถึงเพื่อน ๆ คิดว่าไม่น่าดื้อมาเที่ยวเกาหลีเลย ไม่งั้นคงจะไม่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับบ้านได้ยังไง
"เอิ่มมม ก็เรียนที่โรงเรียนน่ะ" ผมก็ตอบไปตามความจริง
"ในโชซอน มีโรงเรียนที่สอนภาษาอังกฤษด้วยเหรอ"
"ผมไม่ได้เรียนที่นี่ ผมเรียนที่เมืองไทย"
"เมืองไทยคือที่ไหนกัน" นักแสดงฝรั่งคนนั้น ถามฝรั่งอีกคน
"มันไกลจากที่นี่มากไหม"
"ก็ไกลนะ" ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็นั่งเครื่องมาผมก็หลับตลอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากี่ชั่วโมง แต่ ... นิมันไม่รู้จักเมืองไทย กันจริง ๆ เหรอเนี่ย
"เอา เป็นว่า วันนี้คุณพักที่นี่ไปก่อนละกัน เดี๋ยวพวกผมจะเรียนถามท่านทูตให้ว่า จะช่วยคุณได้ยังไงบ้าง"
"หา นอนที่นี่ !!! ..... เอิ่มม ยังไงดีอ่ะ " คือผมก็อยากกลับไปพักที่โรงแรมอ่ะครับ แต่ก็ไม่รู้จะบอกพวกนั้นยังไงดี
............. เออ นอน ก็นอนวะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ดีที่พาสปอร์ตกับวีซ่า ยังติดตัวอยู่ไม่หายไปไหน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
พอเข้ามาห้องนอนที่พวกนักแสดงนั้นเตรียมไว้ให้ ก็เจ๋งดีนะครับ หน้าตาเหมือน นอนในห้องนอนโบราณ ประตูห้องจะออกเล็ก ๆ หน่อย ที่มีฟูกหนา ๆ ปูไว้กับพื้น มีเชิงเทียน กับตู้นิด ๆ หน่อย ๆ หน้าตาเหมือนในหนังเปี๊ยบ คืนนี้ก็แบบนี้ไปก่อนละกัน สงสัยพรุ่งนี้อาจจะต้องไปหาตำรวจ หรือไม่ก็สถานทูตไทย อะไรทำนองนั้น ผมก็พยายามข่มตานอน ไม่แน่เมื่อกี้นอนหลับในรถทัวร์ละโผล่มาแถวนี้ หลับอีกรอบ อาจจะกลับไปรถทัวร์ก็ได้ 555+
เอาเข้าจริง เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับเลย รู้สึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิต พอพระอาทิตย์ขึ้นผมก็ลุกออกมาจากห้องเลย
"ทูร่ง ตื่นแล้วเหรอ เจ้าคะ" คุณป้าคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่หน้าห้องที่ผมพัก น่ากลัวมากป้าเค้ามารออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
"แทกัมมานยิม ให้มาตามทูร่งไปกินอาหารเช้าด้วยกันเจ้าค่ะ" แทกัมมานยิม? อ๋อ คงเป็นทูต ที่พวกนั้นพูดถึงอ่านะ
"ครับป้า ขอบคุณครับ" ผมก็เดินไปตามทางที่เจอพวกนักแสดงพวกนั้นครั้งแรก
"คุณมาถึงแล้วเหรอ เชิญนั่งก่อนสิ ทานข้าวเช้าด้วยกัน" คุณตาฝรั่งคนนี้ สินะ ท่านทูต
"เอ่ออ ครับ" ผมก็นั่งลงแบบเก้ ๆ กัง ๆ ทำไมนักแสดงพวกนี้ถึงได้แต่งตัวเข้าฉากเช้าขนาดนี้นะ กว่าจะโชว์ ก็ตั้งเกือบ 10 โมงละ
"ลูกน้องของผม บอกว่าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ น่ามหัศจรรย์จริง ๆ เราไม่เคยเห็นเด็กขนาดคุณ พูดภาษาของเราได้เลย คุณเติบโตในดินแดนของเราอย่างนั้นเหรอ" คุณตาฝรั่งนี้ รัวไม่หยุด เลย
"เอิ่มมมมม คือก็เรียนที่โรงเรียนน่ะครับ ละนิแต่งตัวกันไปแสดงกันเช้าขนาดนี้เลยหรือครับ" ผมก็ชวนคุยไปตามมารยาท
"แสดง? แสดงอะไรเหรอ"
"ก็แสดงละครโบราณอะไรแบบนี้ไงครับ"
คุณตาฝรั่งคนนั้น มองผม และหรี่ตาลง ทำหน้าตาเหมือนกำลังใช้ความคิด
"ผมว่า คุณคงเข้าใจผิดอะไรซักอย่างแล้วหล่ะ และคุณก็คงจะหลงทางจริง ๆ อย่างที่พวกนั้นว่า" คุณตาฝรั่งคนนั้นสรุป
T T ไม่จริงใช่ไหม บอกสิว่ากำลังจะไปแสดงง่ะ ถึงแม้จริง ๆ ผมจะพยายามหลอกตัวเองมาตลอดทั้งคืน แต่รูปการณ์ทุกอย่างมันทำไมชวนให้คิดว่า ผมกำลัง เจาะเวลาหาจิ๋นซี อะไรแบบนั้นง่ะ ไม่เอา ไม่อาววววววววววววววววววว
"ทานข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมต้องไปเข้าเฝ้าพระราชาของประเทศนี้แล้ว"
ผมก็กินแบบกล้ำกลืนฝืนทนครับ ความท้อแท้เริ่มครอบงำ มีความรู้สึกเหมือนก้อนอะไรซักอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อย่าร้องนะ อย่าร้อง อายเค้า
ผมกับคุณตาคนนั้นก็นั่งกินไปเงียบ ๆ ครับ เหมือนเค้ากำลังจะพยายามใช้ความคิดอะไรซักอย่าง อาหารก็ตามสไตล์นะครับ พวกไข่ดาว เบคอน อะไรตามเรื่อง
"เอา แบบนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณไปที่พระราชวังพร้อมผม ผมจะลองคุยให้เผื่อว่าคนที่นั่นจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง"
"ขอบคุณค้าบบบบบบบบบ" คุณตาคนนี้ใจดีจริง ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมมีที่พึ่ง
ละผมก็ออกเดินทางพร้อมขบวนแห่ ของคุณตาคนนั้นไปยังพระราชวัง
คุณตานั่งอยู่บนเกี้ยว ที่มีคนแบกเยอะมาก พร้อมด้วยฝรั่งมังค่าอีกเป็นกุรุสเดินตามคุณตา ผมสังเกตว่าคนพวกนี้จะแต่งตัวสไตล์ยุโรปโบราณน่ะครับ ผมบางคนก็จะดัด บางคนก็จะใส่วิก และเสื้อผ้าแต่ละคนก็จะกรุยกรายมาก ลักษณะเป็นเหมือนเสื้อกั๊กแข็ง ๆ ที่ใส่ทับลงไปในเสื้อเชิ็ตแบบพริ้ว ๆ อีกที แต่ขานี่สิครับตลกมาก หน้าตาเหมือนถุงน่องนักบัลเลต์อะไรแบบนั้น 5555+
พอกำลังเดินเข้าประตูวัง เอ๊ะ พี่ทหารคนเมื่อวานนิ
"ทูร่ง ท่านเจอกับแทกัม บิดาท่านแล้วใช่หรือไม่"
"เอ่อออ คือเค้าไม่ใช่พ่อผมครับพี่"
"เป็นเช่นหรือ ถ้ามีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ก็บอกได้เลยนะขอรับ" โห สุภาพไปไหน ผมชักจะเกรงใจละนะเนี่ย
"ขอบคุณมากครับพี่" ผมก็ยิ้ม แหะ ๆ แก้เขินไปตามเรื่อง
พอเข้าไปในพระราชวัง เค้าก็ให้ผมไปรออยู่ในห้องอะไรซักอย่าง มีคุณป้าชังกุงเอาขนมเกาหลี กับน้ำชามาให้กินเล่นด้วย ซักพักก็มีคนเข้ามาหาผม
" เซจาโชฮา เสด็จแล้วววววว" แล้วเด็กคนที่ผมเจอเมื่อวานก็เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผม
"เอ่อ ทูร่ง ลุกยืนทำความเคารพโซฮา สิคะ" คุณป้าซังกุงคนนั้นบอก
"ไม่ต้องก็ได้ เด็กคนนี้คงยังไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมในวังน่ะ" หน้าตาเด็ก แต่เสียงดุมาก
"เพคะ โชฮา" แล้วคุณป้าคนนั้นก็ออกจากห้องไป
"ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจากแทกัม ราชทูตอังกฤษแล้ว แทกัมได้ขอร้องชูซังโชนา ให้ช่วยเหลือเจ้า ชูซังโชนาจึงได้มีพระราชบัญชาให้ข้ามาคุยกับเจ้านี่หล่ะ "
"เออ เราก็คงหลงทางอ่ะ ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน" ผมก็บอกไปตามตรง ดูท่าทางเด็กคนนี้ก็คงอายุไล่ ๆ กับผมนี่แหล่ะ น่าจะคุยกันง่าย
"แล้วเจ้าจะกลับบ้านของเจ้าได้ด้วยวิธีไหนหล่ะ เรือ หรือม้า ข้าจะได้ให้จัดเตรียมให้"
"อ๋อ เครื่องบินอ่ะ" พาซื่อมาก ทั้ง ๆ ที่ผมเริ่มรู้ตัวแล้วหล่ะครับ ว่ามันคงไม่มีเครื่องบินให้ขึ้นหรอก
"มันคือพาหนะลักษณะใดหรือ ?"
"ท่าทางเจ้าคงจะหลงทางจริง ๆ ถ้ายังกลับบ้านไม่ได้เจ้าคิดจะทำยังไงต่อหล่ะ"
"เอ่ออ ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ" เฮ้อออออออ สิ้นหวังเจงงงงงงง
เด็กคนนี้ดูทำหน้านิ่ง เหมือนกำลังใช้ความคิด อยู่พักใหญ่ ขอบอกนะครับ พักใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก
จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด
"เอ่อ นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่ออิงนะ อิงคพัฒน์ หน่ะ พวกเราน่าจะอายุพอ ๆ กันมั้ง เรา 16 อ่ะ"
"ชื่อเจ้าดูไม่เหมือนคนโชซอนเลยนะ ข้าชื่อลีซุน แต่คนในโชซอนเรียกข้าตามชื่อตำแหน่งว่า เซจาโชฮา"
"เซจา ? ตำแหน่งรัชทายาท น่ะเหรอ" ผมเริ่มรื้อฟื้นความจำหนังเกาหลีโบราณของผม ดีที่ที่บ้านผมเค้าชอบเปิดช่อง 3 ดูหนังเกาหลีโบราณตอนกินข้าวนะเนี่ย
"ฮึ่มม เจ้าจะเรียกชื่อตำแหน่งข้าแบบนั้นไม่ได้ ต้องเรียกว่า โชฮา คนที่จะเรียกข้าว่าเซจาได้ต้องเป็นผู้ที่มีศักดินามากกว่าข้า"
นี่ผมกำลังนั่งคุยอยู่กับรัชทยาทเกาหลีเหรอเนี่ยยยยยยยย !!
"สำหรับเรื่องของเจ้า ข้ามาคิด ๆ ดูแล้ว ระหว่างที่เจ้ากำลังหาทางกลับบ้าน เนี่ย เจ้ามาช่วยงานข้าไปพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน เห็นแทกัม บอกว่าเจ้าสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้หนิ คงจะพอร่างจดหมายเป็นภาษาอังกฤษให้กับข้าได้"
"เอ่ออออ พะยะค่ะ" ผมตกปากรับคำไป เพราะผมก็ไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณตาแทกัมอีก อยู่ในนี้ก็ดูดีเหมือนกัน มีขนมให้กินด้วย
"แชซังกุง" ป้าซังกุงคนเดิมเข้ามา
"เพคะ โชฮา"
"ท่านช่วยพาเด็กคนนี้ไปหา คิมแทกัม เจ้ากรมมหาดเล็กที ฝากจดหมายจากข้าไปด้วยหล่ะ" ว่าแล้วโซฮา ก็ลุกขึ้น ไปหน้าตาเฉย ปุบปับจะไปงี้เลยเหรอ ว้าาาาาาาา
ซักพักผมก็เดินมาหยุดตรงหน้า กรมมหาดเล็กในวัง คงเป็นพวกขันทีในวังสินะ ซักพักก็มีคนพาผมเข้าไปหาคุณตาคนนึง ผมเดาว่านี่คงจะเป็นคิมแทกัม เพราะคุณตาเค้าใส่ชุดสีม่วง ๆ ไม่เหมือนคนอื่นในกรมที่เป็นชุดสีเขียว
"เซจาโชฮา ได้บอกกับข้าเรื่องของเจ้าแล้วหล่ะ ในวังมีกฏว่า ผู้ที่จะอยู่ในวังหลังเพลาเที่ยงคืนได้ ต้องเป็นชูซังโชนา หรือเซจาโชฮา เท่านั้น จะมีก็แต่มหาดเล้กที่เป็นชาย แต่อยู่ในวังได้ แต่สำหรับเจ้าเซจาโชฮา ให้ถือเป็นกรณียกเว้น เพราะเจ้าก็จะมาอยู่ไม่นานนัก เจ้าก็พักกับพวกมหาดเล็กไปก็แล้วกัน"
"ปาร์คยองกัม ช่วยพาเด้กคนนี้ไปที่พักที ละก็สอนงานเอกสารต่างประเทศด้วยหล่ะ เห็นว่ามีความรู้ภาษาอังกฤษดี คงจะมาช่วยเราได้เยอะทีเดียว"
คุณลุงท่าทางเป็นมิตรก็พาผมไปที่พัก
"เจ้าก็พักที่ห้องนี้ก็แล้วกัน เป็นห้องของข้าเอง แต่ข้าก็ไม่ได้มานอนหรอก เพราะข้านอนที่บ้านส่วนตัวของข้าหน่ะ พวกมหาดเล็กชั้นผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ ห้องในกรมถึงเหลือมากมาย ส่วนเรื่องงานก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปนะ เจ้าพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน" ปาร์คยองกัม ก็ขอตัวออกไป
ผมล้มตัวนั่งลงกับพื้น น้ำตาที่พยายามข่มมาตลอด 2 วันนี้ ไหลอาบแก้มออกมา เคยดูในหนังน่าจะเป็นเรื่องสนุกถ้าเราย้อนเวลาได้ แต่นี่กลับไม่ใช่เลย ผมเริ่มคิดถึงป๊า กับม๊า คิดถึง เจ๊ คิดถึงเพื่อน ๆ คิดว่าไม่น่าดื้อมาเที่ยวเกาหลีเลย ไม่งั้นคงจะไม่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับบ้านได้ยังไง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น